WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 2179
War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 2179
ตอนที่ 2,179 : อัจฉริยะท้าทายสวรรค์อันดับ 1 ของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า?
เป็นธรรมดาที่จะมีแค่ผู้ฝึกตนอิสระไร้สังกัดเท่านั้นที่ยอมรับว่า เผยซื่อไห่ คืออัจฉริยะท้าทายสวรรค์อันดับ 1 ในดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า!
ส่วนขุมพลังทั้งหลายในแดนดินไม่เว้น 3 ลัทธินั้น ไม่มีใครยอมรับว่าเผยซื่อไห่คืออัจฉริยะท้าทายสวรรค์อันดับ 1 ในดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าเลย!นั่นเพราะไม่มีผู้ใดสามารถยืนยันได้ว่าเผยซื่อไห่ยังอายุไมถึงร้อยปีดั่งข่าวลือจริง!!
ทว่าต้วนหลิงเทียนนั้นต่างกัน!
อายุของต้วนหลิงเทียนเป็นอะไรที่คนทั้งแดนดินล่วงรู้!
นั่นเพราะเรื่องที่ต้วนหลิงเทียนมาจากภูมิภาคเบื้องล่าง รวมไปถึงวีรกรรมต่างๆที่ต้วนหลิงเทียนสร้างไว้ในภูมิภาคเบื้องล่าง ต่างถูกคนขุดคุ้ยขึ้นมาจนหมดตั้งนานแล้ว…
เรียกว่าตั้งแต่ที่ทุกคนทราบเรื่องการปรากฏของตราผนึกมารที่ภูมิภาคเบื้องล่าง และผู้ถือครองเป็นเพียงรุ่นเยาว์ที่พลังฝึกปรือต่ำต้อยไม่ถึงขอบเขตเซียนคนหนึ่ง ทั้งหมดก็ส่งคนไปสืบค้นข้อมูลอย่างละเอียดทั้งสิ้น ด้วยคิดช่วงชิงตราผนึกมารมาให้ได้
ในขณะเดียวกันทั้งหมดก็ย่อมสืบพบ ความเป็นมาของต้วนหลิงเทียนที่เป็นเจ้าของตราผนึกมารเช่นกัน หนึ่งในนั้นรวมไปถึงอายุของต้วนหลิงเทียนด้วย!
อีกทั้งการสืบค้นข้อมูลของพวกมันยังขุดคุ้ยจนย้อนไปถึงช่วงที่ต้วนหลิงเทียนยังอยู่ในทวีปมนุษย์ โยงไปถึงดินแดนในการปกครองของ 10 ราชวงศ์ ที่อยู่ในซอกหลืบอันห่างไกลของทวีปมนุษย์ ยังลงลึกถึงจักรวรรดิศิลาทมิฬ อาณาจักรพนาคราม กระทั่งไปจบลงที่อาณาจักรนภาล่อง อันเป็นอาณาจักรที่ถือว่าเป็นระดับต่ำต้อยที่สุดในแดนดิน…
และต้วนหลิงเทียนก็ถือกำเนิดในอาณาจักรเล็กๆที่ว่า…
เช่นนั้นอายุของต้วนหลิงเทียนจึงได้รับการยืนยันอย่างแน่ชัด ข้อมูลยังมีความน่าเชื่อถือและถูกต้องอย่างมาก
“อายุน้อยกว่า 50 ปี…ต้วนหลิงเทียน ยังมีอายุไม่ถึง 50 ปี!”
ตอนที่อ่านประวัติของต้วนหลิงเทียนที่ฝ่ายข้อมูลของลัทธิสรุปมาวันก่อน กระทั่งเป็นตัวจ้าวลัทธิบูชาไฟอย่างถังซวนเอง ก็อดไม่ได้ที่จะสะท้านสะเทือนใจครั้งใหญ่!
อายุยังไม่ถึง 50 ปีที ทว่าพลังความแข็งแกร่งกลับเทียบได้กับเซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยนแล้ว!?
อย่าได้กล่าวถึงเรื่องเผยซื่อไห่ยังมีอายุไม่ถึงร้อยปีอีกเลย ให้ 10 เผยซื่อไห่มายืนอยู่ต่อหน้าต้วนหลิงเทียนก็ยังไม่นับเป็นอะไร!
เผยซื่อไห่ ผู้ฝึกตนที่มีอายุน้อยกว่า 100 ปี เป็นยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยน?
ขออภัยด้วย…
ต้วนหลิงเทียนของลัทธิบูชาไฟเรา อายุไม่ถึง 50 ปี ก็บรรลุความแข็งแกร่งขอบเขตเซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยนเช่นกัน!
อายุไม่ถึง 100 ปีกับ อายุไม่ถึง 50 ปีนั้น เป็นอะไรที่ต่างกันคนละโลก…
“จ้าวลัทธิกล่าวชมข้าเกินไปแล้ว”
ได้ยินวาจาชมเชยนี้ของจ้าวลัทธิบูชาไฟ ว่าเขาเป็นอัจฉริยะท้าทายสวรรค์อันดับ 1 ของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า ต้วนหลิงเทียนที่แม้จะฝ่าลมฝนชื่อเสียงเกียรติยศอะไรมาไม่น้อย ก็รู้สึกเก้อเขินอยู่บ้าง
อัจฉริยะท้าทายสวรรค์อันดับ 1 ของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า?
นี่ไม่ใช่อะไรที่ใครก็จะสามารถเป็นได้!
มีเพียงตัวตนที่โดดเด่นที่สุดในดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าเท่านั้น ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมจะรับตำแหน่งนี้
ด้วยเหตุนี้แม้ต้วนหลิงเทียนจะผ่านอะไรมามาก ทั้งยังสามารถสงบใจได้ในทุกสถานการณ์ แต่พอได้ยินวาจากล่าวชมนี้ของจ้าวลัทธิบูชาไฟ ก็ยังยากที่เขาจะยังเฉยอยู่ได้
“มันมิใช่แค่กล่าวชมเกินไป…หากแต่ทั้งหมดล้วนเป็นเรื่องจริง”
ถังซวนยิ้มจนตาหยี จังหวะนี้ยิ่งมองต้วนหลิงเทียนมากเท่าไหร่มันก็ยิ่งรู้สึกพึงพอใจมากเท่านั้น
“เอาล่ะท่านจ้าวลัทธิ…หากไม่มีเรื่องอื่นใดแล้ว ข้าต้องขอตัวก่อน”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวตัดบทถังซวน ทั้งกล่าววาจาปลีกตัวอย่างมีมารยาท เมื่อถังซวนพยักหน้ารับแล้วเขาจึงเหินร่างลงมาจากฟ้าสูง มุ่งหน้าไปยังเกาะศักดิ์สิทธิ์ด้านล่าง
เขายังไม่ลืม ‘จุดประสงค์’ ในการย้อนกลับมาลัทธิบูชาไฟ…
ช่วยเค่อเอ๋อแม่ลูก!
ทว่าตอนนี้ต้วนหลิงเทียนไม่ได้รู้เลย ว่าเค่อเอ๋อกับลูกสาวของเขานั้นไม่ได้ถูกขังอยู่ในหอคุมกฏอีกต่อไป ทว่าอยู่ในเคหาสน์บนเกาะเหนือฟ้าสูงสุด อันเป็นเกาะส่วนตัวของถังซวน!
นั่นย่อมหมายความว่าพวกนางอยู่ภายใต้ความควบคุมของถังซวนโดยตรง!
การที่ต้วนหลิงเทียนไม่รู้เรื่องนี้ก็ไม่นับว่าแปลกอะไร
ปัจจุบันยังมีน้อยคนนักในลัทธิบูชาไฟที่รู้เรื่องนี้
นอกจากตัวถังซวนเองแล้ว ก็มีจ้าวหอคุมกฏ กับรองจ้าวหอคุมกฏแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้
‘น่าเสียดายนักที่ธิดาเทพถูกใครบางคนในภูมิภาคเบื้องล่างทำให้แปดเปื้อนมลทิน…หาก ‘ท่านผู้นั้น’ ปรากฏตัว ไม่พ้นคงต้องมีโทสะเพราะเรื่องนี้แน่ และคงยากที่จะไม่เอาโทสะมาลงที่ข้า…เพราะหากข้าดูไม่ผิด ชาติที่แล้วของธิดาเทพน่ากลัวว่าจะเป็นมากกว่าลูกพี่ลูกน้องของ ‘ท่านผู้นั้น’…’
หลังจากที่ต้วนหลิงเทียนจากไป ถังซวนก็พึมพำกล่าวในใจอย่างหวั่นหวาด สายตายังฉายออกชัดถึงความกลัว…
และมันหวาดกลัว ‘ท่านผู้นั้น’ ที่มันนึกถึงจับใจจริงๆ
‘หากไม่เกิดเรื่องพรรค์นี้ขึ้น ข้าอาจลองแนะนำต้วนหลิงเทียนคนนี้ให้ท่านผู้นั้นรู้จัก…ทว่าตอนนี้ข้ายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะรักษาชีวิตตัวเองไว้ได้หรือไม่ ไหนเลยยังจะสามารถแนะนำต้วนหลิงเทียนให้ท่านผู้นั้นรู้จักอะไรได้?’
เมื่อนึกถึงจุดนี้ถังซวนก็อดไม่ได้ที่จะระบายลมหายใจออกมาอย่างทอดถอน ความหวาดกลัวยังฉายชัดอยู่ในแววตาแต่ต้นจนจบไม่จางหาย
หลังส่ายหัวอย่างอับจนหนทางอีกไม่กี่ครั้ง ถังซวนก็ย้อนกลับไปยังเกาะส่วนตัว
โชคดีที่ไม่มีใครมาเห็นฉากนี้
หาไม่แล้วคงได้ตกใจจนตาย
ผู้ใดกันแน่ที่ทำให้ถังซวนที่พลังฝึกปรือบรรลุถึงเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนถึงกับหวาดกลัวแบบนี้ กระทั่งทำได้แค่ยอมรับชะตากรรมว่าจะถูกตำหนิ…
ก่อนหน้านี้ที่ต้วนหลิงเทียนประมือกับหงอวิ๋น ต้องบอกเลยว่าการปะทะกันของพลังนั้นสร้างผลกระทบไม่น้อย
ต่อให้เป็นก่านหรูเยี่ยน ที่อยู่ในคฤหาสน์ของถังซวนก็ยังได้ยินเสียงระเบิดของพลังจากการลงมือชัดเจน
“เงียบไปแล้ว…”
และตอนนี้นางก็พบว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวสงบลงแล้ว…
“นายน้อยเขา…จักไม่เป็นไรใช่หรือไม่”
ใบหน้างามหมดจดของเค่อเอ๋อที่ยืนข้างๆนางฉายความกังวลออกมาไม่น้อย
เค่อเอ๋อเอก็ได้ยินเสียงดังจากการปะทะกันด้านนอกเช่นกัน นางยังตระหนักได้อย่างคลุมเครือว่าสมควรเกี่ยวข้องกับนายน้อยของนาง ทำให้ใจแทบจะหยุดเต้นไปเพราะความกังวล
“เจ้าไม่ต้องห่วง…”
ก่านหรูเยี่ยนกล่าวปลอบออกมาในเวลาที่เหมาะสม “ท่านจ้าวลัทธิได้ออกแถลงการณ์เป็นการส่วนตัวเพื่อเชิญมันกลับมา เช่นนั้นก็มากพอจะอธิบายความสำคัญของมันแล้ว…จากเรื่องนี้เจ้าเชื่อได้เลยว่าบุรุษของเจ้าต้องปลอดภัยดีแน่!”
แน่นอนว่ามีอีกประโยคที่ก่านหรูเยี่ยนลอบกล่าวในใจ
‘แต่นั่นไม่รวมถึงหากฐานะของมันที่เป็น ‘บุรุษ’ ของเจ้าถูกเปิดเผยนะ…’
เพราะตอนที่จ้าวลัทธิมาถามนางเรื่อง ‘บุรุษ’ ของเค่อเอ๋อนั้น ก่านหรูเยี่ยนสัมผัสได้ถึงโทสะที่แฝงอยู่ในน้ำเสียงของจ้าวลัทธิบูชาไฟชัดเจน
หากให้ถังซวนรู้ว่าต้วนหลิงเทียนคนนี้คือบุรุษของน้องสาวนางล่ะก็ ต่อให้ต้วนหลิงเทียนไม่ตายแต่อย่างน้อยๆต้องถูกจับถลกหนังทั้งเป็นแน่!
“อื้อ”
อย่างไรก็ตามเค่อเอ๋อไม่รู้เรื่องนี้
เช่นนั้นภายใต้วาจากล่าวปลอบของก่านหรูเยี่ยน นางจึงสบายใจขึ้นไม่น้อย
แน่นอนว่าความปรารถนาที่จะได้พบหน้าบุรุษที่รักอีกครั้งในใจยังคงมากมายเหมือนเดิมไม่แปรเปลี่ยน
ไม่เพียงแต่นางอยากพบหน้าอีกฝ่ายเท่านั้น ยังอยากพาลูกสาวไปอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับอีกฝ่ายด้วย…
นี่คือสิ่งที่นางใฝ่ฝันมาตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่าน
ในขณะเดียวกันกับที่ต้วนหลิงเทียนโรยตัวลงไปยังเกาะสักดิ์สิทธิ์นั้นเอง
ความจริงที่ว่าเขาหวนกลับมายังลัทธิบูชาไฟแล้ว กระทั่งข้ามเขตแท่นบูชาพยัคฆ์ขาวมาโต้งๆจนรวมไปถึงทุบตีสยบจ้าวแท่นบูชาพยัคฆ์ขาว หลูชิ่ง ได้อย่างง่ายดายก็เริ่มแพร่กระจายออกจากแท่นบูชาพยัคฆ์ขาวไปยังแท่นบูชาจตุรลักษณ์ทั้งหมด
ไม่ว่าจะเป็นแท่นบูชานกไฟ เต่าทมิฬ หรือมังกรคราม ข่าวนี้ลุกลามมาไวยิ่งกว่าไฟลามทุ่ง!
“จากไปเพียงไม่กี่ปี…การกลับมาครั้งนี้ของต้วนหลิงเทียน กลับกลายเป็นร้ายกาจจนน่ากลัว กระทั่งจ้าวแท่นบูชาพยัคฆ์ขาวยังถูกทุบตีถ่ายเดียว สิ้นท่าได้ง่ายๆเลยหรือ?”
“เรื่องนี้…สาบานเถอะว่าเป็นความจริง นี่มันจะไม่เหลือเชื่อเกินไปหน่อยหรือไร?”
“ข้าเองก็คิดว่ามันเหลือเชื่อเกินไปเหมือนเจ้า…อย่างไรจ้าวแท่นบูชาพยัคฆ์ขาวก็คืออาวุโสเพลิงทอง เซียนสวรรค์ 5 เปลี่ยนอันร้ายกาจ!”
“สวรรค์ หากเรื่องนี้เป็นความจริง…ในเมื่อต้วนหลิงเทียนกำราบเซียนสวรรค์ 5 เปลี่ยนได้ง่ายดายแบบนี้ ไม่ใช่ว่าพลังของต้วนหลิงเทียนอาจอยู่ในขอบเขตเซียนสวรรค์ 6 เปลี่ยนหรือเหนือกว่านั้นรึไง?”
“ให้ตายเถอะ! ศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียนไปทำอะไรมากันแน่ ไฉนเวลาเพียงไม่กี่ปีกลับแข็งแกร่งขึ้นมากขนาดนี้เล่า!?”
……
แท่นบูชาอื่นๆล้วนแล้วแต่อึกทึกครึกโครมกันไม่น้อย เหล่าศิษย์และอาวุโสทั้งหลายล้วนคุยกันเรื่องการกลับมาอย่างน่ากลัวของต้วนหลิงเทียนไม่หยุด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งแท่นบูชาเต่าทมิฬ ตอนนี้ทั้งลูกศิษย์ทั้งผู้อาวุโสล้วนตื่นตะลึงกันยกใหญ่
“ศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียนจากแท่นบูชาเต่าทมิฬของพวกเรา…เพียงเวลาไม่กี่ปีสามารถเอาชนะอาวุโสเพลิงทองได้แล้ว?”
“ศิษย์พี่หลิงเทียนจงเจริญ!!”
“ศิษย์พี่ต้วนช่างยอดเยี่ยมยิ่ง! พี่ท่านเป็นเทพจุติลงมาหรือไร! ไฉนถึงได้ร้ายกาจเหนือมนุษย์นักเล่า แค่ไม่กี่ปีทุบตีอาวุโสเพลิงทองจนยับเนี่ยนะ สวรรค์!!”
……
เมื่อได้ทราบข่าวเรื่อง ต้วนหลิงเทียนจัดการหลูชิ่งอย่างไร ตบจนร่วงฟ้าอย่างไร เหล่าศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬทั้งหลายต่างพากันคึกคักอักโข ทั้งบังเกิดความฮึกเหิมลำพองนัก
พวกมันทำราวกับคนที่ทุบตีหลูชิ่งคือพวกมันเองไม่ใช่ต้วนหลิงเทียน
“เพียงผ่านไปไม่กี่ปี…เจ้าหนูนั่นเติบโตขึ้นถึงขนาดนี้เชียวหรือ?”
ภายในแท่นบูชาเต่าทมิฬ ผู้อาวุโสคุมกฏ กัวฉง ที่คุ้นเคยกับต้วนหลิงเทียนดี อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจจนสติหลุดลอยเมื่อได้รับทราบข่าวดังกล่าว จนเมื่อดึงสติกลับมาได้แล้วยังอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
“อย่าได้บอกเชียว…ว่าข่าวจากนครแห่งบาปเรื่องที่ต้วนหลิงเทียนสังหาร เซี่ยคังฉวิน จ้าวราชสีห์ขนทอง 1 ใน 4 มหาธรรมราชาของลัทธิอารามทมิฬนั่นจะเป็นเรื่องจริง?”
และตอนนี้คนในแท่นบูชาจตุรลักษณ์หลายคนก็เริ่มฉุกคิดถึงข่าวลือก่อนหน้าอีกครั้ง
ในตอนนั้นแทบทุกคนล้วนปักใจเชื่อว่านี่เป็นข่าวเหลวไหล ไม่มีมูลความจริงแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ต้วนหลิงเทียนกลับมาลัทธิบูชาไฟวันนี้ อาศัยแค่พลิกฝ่ามืออย่างไร้เรื่องราวก็สยบหลูชิ่ง จ้าวแท่นบูชาพยัคฆ์ขาวได้อย่างง่ายดาย! บอกให้รู้ชัดว่าต้วนหลิงเทียนกลายเป็นตัวตนอันทรงพลังสุดที่พวกมันจะคาดคิดไปแล้ว
“ข้าคิดว่า…ข่าวลือนั่น สมควรเป็นเรื่องจริงไม่ผิดแน่!”
บางคนกล่าวขึ้นมาอย่างมั่นใจ
“แต่ข้ายังคิดว่ามันยังไม่น่าจะใช่เรื่องจริง…ถึงต้วนหลิงเทียนจะเอาชนะจ้าวแท่นบูชาพยัคฆ์ขาวได้ง่ายดาย แต่ทว่าก็บอกให้รู้ชัดว่าพลังความแข็งแกร่งสมควรอยู่ในขอบเขตเซียนสวรรค์ 6เปลี่ยนหรือเหนือกว่าเท่านั้น…”
“แต่พวกเจ้าอย่าได้ลืมไปว่า จ้าวราชสีห์ขนทอง ไม่ใช่แค่เซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยนธรรมดา…แต่มันยังเป็นยอดฝีมืออันดับที่ 18 ในรายนามยอดเซียนอีกด้วย!”
บางคนยกอ้างเรื่องนี้ขึ้นมากล่าว และก็มีคนเห็นด้วยกับมันไม่น้อย
สุดท้ายแล้วก็ยังมีผู้คนอีกมาก ที่ไม่คิดว่าต้วนหลิงเทียนจะร้ายกาจถึงขั้นฆ่าจ้าวราชสีห์ขนทองที่มีชื่อเสียงมานานของลัทธิอารามทมิฬได้ง่ายดายแบบนั้น
ล้วนตัดสินว่าสมควรเป็นข่าวลวง…
ในขณะที่ข่าวของต้วนหลิงเทียนแพร่ไปทั่วแท่นบูชาจตุรลักษณ์ ไม่นานมันก็เริ่มแพร่เข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เนื่องเพราะมีหลายคนนักที่มีสหายอยู่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ และหยกสื่อสารก็ไม่ใช่ของที่มีราคาสูงมากมายอะไร
ณ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์
เมื่อต้วนหลิงเทียนมาถึงเกาะศักดิ์สิทธิ์แล้ว เขาก็มุ่งหน้าไปยังหอคุมกฏทันทีโดยไม่คิดจะแวะเวียนไปที่ไหนก่อน
“เค่อเอ๋อ…เจ้ารอข้านะ”
ขณะที่ร่างเหินเข้าใกล้หอคุมกฏ ต้วนหลิงเทียนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกร้อนใจขึ้นมา และอยากไปให้ถึงไวๆนัก…