WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 2185
ตอนที่ 2185 : ไม่เห็นหัวเหลิ่งอิง!
“อวดดี!!”
แทบจะพร้อมกันกับที่เสียงตะโกนด้วยโทสะดังขึ้น ในสายตาต้วนหลิงเทียนพลันมีร่างหนึ่งปรากฏขึ้นกลางอากาศ
ตั้งแต่ที่เสียงดังขึ้น ต้วนหลิงเทียนก็รับทราบได้แต่แรกว่าผู้มาเป็นชายชรา…
ครู่ต่อมาชายชราคนดังกล่าวก็เหินร่างมาหยุดเผชิญหน้ากับเขา ยังมองมาด้วยสายตาดุร้ายเอาเรื่อง
เป็นชายชราแลดูมอซอคนหนึ่ง เรียกว่าเสื้อผ้ายับยู่ยี่ทั้งเก่าราวกับไม่ได้เปลี่ยนมานานแทบไม่ต่างอะไรจากขอทาน!
อย่างไรก็ตามชายชราที่ดูไม่ต่างอะไรจากขอทานเฒ่าในสายตาเขานั้น กลับทาให้คนอื่นๆถึงกับตกตะลึงทันทีที่ปรากฏตัว!
“คารวะใต้เท้าจ้าวหอ!!”
เสียงทักทายด้วยความเคารพไม่กี่เสียงดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียง ยังดังชัดถนัดหูต้วนหลิงเทียน ทาให้เขาสามารถยืนยันตัวตนผู้มาใหม่ที่สารรูปคล้ายขอทานเฒ่าผู้นี้ได้ทันที!
จ้าวหอคุมกฏ เหลิ่งอิง!
“ขอแสดงความยินดีกับใต้เท้าจ้าวหอด้วย ที่ท่านประสบความสาเร็จในการทะลวงถึงขอบเขตเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยน เปลี่ยนท้าทายสวรรค์ และจักดารงอยู่คู่ฟ้าดินตลอดไป!!”
รองจ้าวหอคุมกฏเจียงฉิน เป็นผู้นากล่าวแสดงความยินดีกับเหลิ่งอิง
ขณะกล่าวแสดงความยินดี น้าเสียงของมันก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้นยินดีอย่างหาที่สุดไม่ได้!
เพราะในที่สุดหอคุมกฏของพวกมันก็ปรากฏตัวตนขอบเขตเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยนเสียที!!
“ขอแสดงความยินดีด้วยใต้เท้าจ้าวหอ”
ต่งหยวนจิ้น ที่เป็นรองจ้าวหอคุมกฏเช่นกัน รวมถึงรองจ้าวหอคุมกฏอีกคนที่ชมดูเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบ ก็กล่าวคาแสดงความยินดีออกมาตามๆกัน
หากเจียงฉินสามารถตระหนักถึงความก้าวหน้าของเหลิ่งอิงได้ เช่นนั้นรองจ้าวหอคุมกฏคนอื่นๆก็สามารถตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวได้เช่นกัน
เช่นนั้นรองจ้าวหอทั้งหลายจึงเร่งแสดงความยินดีกับเหลิ่งอิงอย่างออกหน้าออกตา ที่อีกฝ่ายสามารถทะลวงถึงเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยนได้สมปรารถนา!!
ทันใดนั้นคนทั้งหมดที่เหลือที่ลอยร่างค้างฟ้าก็ตะลึงไปด้วยความตกใจ ทั้งยินดี
ใต้เท้าจ้าวหอของพวกมัน…บังเกิดความก้าวหน้าแล้ว! ทะลวงถึงเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยนได้สาเร็จ…เป็นตัวตนที่มีอายุขัยตราบชั่วฟ้าดินสลายอีกคน!?
“ใต้เท้าจ้าวหอ…ทะลวงผ่านหรือ!”
“ในเมื่อรองจ้าวหอทั้งหมดเร่งแสดงความยินดีขนาดนี้ สมควรไม่ใช่เรื่องแปลกปลอม!!”
“ใต้เท้าจ้าวหอบังเกิดความก้าวหน้าเช่นนี้ หมายความว่าลัทธิบูชาไฟของพวกเรา มียอดฝีมือที่พลังฝึกปรืออยู่ในขอบเขตเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยนทั้งเหนือกว่านั้นเป็น 5 คนแล้วสิ! ที่สาคัญคือในที่สุดหอคุมกฏของพวกเราก็มีเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยนเสียที!!”
…
ฟังจากวาจากระซิบกระซาบของพวกมันแล้ว ทั้งหมดต่างแสดงความยินดีกับความก้าวหน้าของเหลิ่งอิงจากใจ รู้สึกตื่นเต้นกันนัก!
จังหวะนี้สายตาที่ทุกคนใช้มองไปยังเหลิ่งอิง ยังทวีความเคารพมากขึ้นกว่าเดิม!
ยอดฝีมือที่บรรลุถึงเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยน เปลี่ยนท้าทายสวรรค์ ไม่เพียงแต่จะมีพลังฝีมือสูงขึ้นกว่าเดิม แต่ยังมีอายุขัยไร้สิ้นสุด สามารถดารงอยู่ตราบชั่วฟ้าดินสลาย เรียกว่ากลายเป็นตัวตนที่อยู่เคียงตะวันจันทรา!!
ได้รับการแสดงความยินดีจากใจของทุกคน เหลิ่งอิง ก็พยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มพึงพอใจ
“เจียงฉิน ไฉนสารรูปเจ้าถึงดูไม่ได้เช่นนั้นเล่า?”
ทันใดนั้นเหลิ่งอินพลันพบว่า เจียงฉิน ที่ประสานมือด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยความยินดีนั้น ทั่วร่างกลับเต็มไปด้วยฝุ่นดินแถมยังถลอกปอกเปิด ชุดขาดวิ่นดั่งผ้าขี้ริ้ว แลมีสภาพอนาถายิ่งกว่ามันหลายขุม จึงอดไม่ได้ที่จะกล่าวถามออกมาด้วยหน้านิ่วคิ้วขมวด
และก่อนที่เจียงฉินจะทันได้ตอบคาอะไร ก็เป็นต่งหยวนจิ้น ที่เร่งกล่าวบอกเหลิ่งอิงออกมาก่อน “เรียนใต้เท้าจ้าวหอ ที่รองจ้าวหอเจียงมีสภาพเช่นนี้ เป็นเพราะถูกต้วนหลิงเทียนผู้นั้นทาร้าย! นอกจากนั้นบุตรชายของข้า
ต่งหลิน อาวุโสคนหนึ่งของหอคุมกฏเรา ก็ตกตายด้วยน้ามือของต้วนหลิงเทียนเช่นกัน กระทั่งยังไม่เหลือแม้แต่ซากศพ!!”
วาจาท้ายประโยคของต่งหยวนจิ้นนั้น แฝงเร้นไปด้วยความเคียดแค้นชิงชังอันไร้สิ้นสุด
ลูกตาของมันยามนี้กลมกว้างปานจะถลนออกเบา ยังมีสีแดงฉานปานยักษ์มาร
ต่งหลินเป็นลูกชายคนเดียวของมัน
มันทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างเพื่อต่งหลินเสมอมา แต่ความพยายามทั้งหมดของมันคล้ายหมอกควันบางเบาต้องลมแรงก็ไม่ปาน เพราะต่งหลินถูกฆ่าตายเสียแล้ว…
‘สามารถทาร้ายรองจ้าวหอเจียงได้ถึงขนาดนี้…ดูเหมือนในช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา ต้วนหลิงเทียนผู้นี้สมควรพบพานวาสนาปาฏิหาริย์อันใดมาไม่น้อย หาไม่แล้วคงเป็นไปมิได้เลยที่พลังฝีมือของมันจะกล้าแข็งเหนือรองจ้าวหอเจียงได้ในช่วงเวลาสั้นๆเช่นนี้!’
ได้ยินคาของต่งหยวนจิ้น เหลิ่งอิงอดไม่ได้ที่จะลอบกล่าวในใจ
“เจ้าคือศิษย์ที่แท้จริง ต้วนหลิงเทียนงั้นหรือ?”
เมื่อเหลิ่งอิงหันไปมองจ้องต้วนหลิงเทียน รอยยิ้มพึงพอใจบนใบหน้าก็สลายหายไปไม่มีเหลือ ถูกแทนที่ด้วยความเฉยเมยไร้แยแสปานจะผลักไสผู้คนให้ไกลห่างไปนับพันลี้
“เจ้าคือจ้าวหอคุมกฏ เหลิ่งอิง?”
ต้วนหลิงเทียนที่เผชิญหน้ากับคาถามของเหลิ่งอิง ไม่เพียงแต่จะไม่ตอบคา ยังถามกลับไปด้วยท่าทีเฉยเมย
และแทบจะเป็นเวลาเดียวกันกับที่สีหน้าเหลิ่งอิงเปลี่ยนเป็นมืดมนลงหลังได้ยินคาของต้วนหลิงเทียน
“บังอาจ!!”
ต่งหยวนจิ้นที่ลอยร่างอยู่ไม่ห่าง พลันก้าวออกมาตะคอกคาดุร้าย สองตาถลึงมองต้วนหลิงเทียนอย่างเอาเรื่อง “ต้วนหลิงเทียน! เจ้าคิดว่าอาศัยพลังฝีมือเหนือกว่ารองจ้าวหอเจียงเข้าหน่อย…แล้วเจ้าจักทาตัวยิ่งใหญ่จนมิเห็นหัวผู้ใดได้หรือ!?”
“ต่อหน้าใต้เท้าจ้าวหอคุมกฏเหลิ่งอิง มิใช่อันใดที่ศิษย์ที่แท้จริงเช่นเจ้าจะมาวางท่าโอหัง ประพฤติตัวจองหองไม่เห็นหัวผู้ใดได้!!”
หลังจากที่เหลิ่งอิงปรากฏตัวขึ้นมา ความรู้สึกไม่สบายใจที่เกิดขึ้นเพราะต้วนหลิงเทียนของต่งหยวนจิ้นก็สลายหายไปทันที
เพราะในความคิดของมัน
ด้วยพลังความแข็งแกร่งของเหลิ่งอิง จ้าวหอคุมกฏของมัน ย่อมสามารถบดขยี้ต้วนหลิงเทียนได้อย่างง่ายดาย!
อย่างไรก็ตามแม้ต่งหยวนจิ้นจะคารามออกมาอย่างดุร้ายใส่ต้วนหลิงเทียนอีกครั้ง ทว่าต้วนหลิงเทียนก็ไม่ได้แยแสอะไรมันทั้งสิ้น
ไม่ว่ามันจะตะโกนโวยวายหรือตีโพยตีพายอะไร แต่ต้นจนจบต้วนหลิงเทียนก็ไม่เหลือบแลมันแม้แต่หางตา
“ต้วนหลิงเทียน เจ้ากล้าดีอย่างไร!?”
ได้ยินคาฟ้องของต่งหยวนจิ้น สีหน้าเหลิ่งอิงยิ่งมาก็ยิ่งมืดลงทุกขณะ มันหันไปมองกล่าวกับต้วนหลิงเทียนเสียงเย็น “บุกรุกเขตหวงห้าม ทั้งฆ่าคนในลัทธิ! ตามกฏของลัทธิบูชาไฟเจ้าต้องได้รับโทษตาย! ต้วนหลิงเทียน…วันนี้ใน
เมื่อเจ้ากล้าบุกมาก่อเรื่องอุกอาจถึงเขตหวงห้ามหอคุมกฏ เช่นนั้นเจ้าก็อย่าได้หวังจะรอดชีวิตกลับไปอีกเลย!!”
วาจาที่เหลิ่งอิงกล่าวออกนั้น น้าเสียงของมันเปี่ยมล้นไปด้วยอานาจที่ไม่อนุญาตให้ใครปฏิเสธ
และฟังจากคาพูดของมัน มันคิดจะให้ชะตาของต้วนหลิงเทียนขาดลงที่นี่แน่แล้ว!
“เรียนใต้เท้าจ้าวหอ…”
ตอนนี้เองรองจ้าวหอคุมกฏอีกคนนอกจากเจียงฉินกกับต่งหยวนจิ้น พลันส่งเสียงผ่านพลังไปถึงเหลิ่งอิงด้วยน้าเสียงจริงจัง “ต้วนหลิงเทียนผู้นี้ ท่านจ้าวลัทธิได้ออกแถลงการณ์เป็นการส่วนตัวเมื่อ 3 วันก่อนเพื่อเชื้อเชิญมันกลับมา…หอคุมกฏเรา หากยังมิได้รับอนุญาตจากท่านจ้าวลัทธิ ข้าเกรงว่าคงไม่ใช่เรื่องดีที่จะมอบโทษตายให้มัน”
“หืม? เจ้าว่าอันใด? ท่านจ้าวลัทธิออกแถลงการณ์เมื่อ 3 วันก่อนเป็นการส่วนตัวรึ? เป็นเรื่องราวใด?”
เนื่องจากก่อนหน้าเหลิ่งอิงปิดด่านบ่มเพาะพลังอยู่ มันจึงไม่รู้เรื่องราวความเป็นไปใดๆที่เกิดขึ้นในลัทธิบูชาไฟ
อย่างไรก็ตามฟังจากน้าเสียงกล่าวรายงานที่จริงจังเคร่งเครียดของรองจ้าวหอคุมกฏผู้นี้ เหลิ่งอิงก็ตระหนักได้ถึงความสาคัญของเรื่องราว
มันเองก็ตระหนักได้ทันที
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม แต่ต้วนหลิงเทียนไม่อาจตายได้ หากยังไม่ได้รับอนุญาตจากจ้าวลัทธิ!
‘ท่านจ้าวลัทธิแถลงการณ์ออกมาเช่นนั้นไม่พ้นคิดหยิบยืมตราผนึกมารในมือต้วนหลิงเทียนเป็นแน่…หากเผ่าพันธุ์ปีศาจบุกมาภูมิภาคเบื้องบนจริง
ตราผนึกมารที่ต้วนหลิงเทียนมีจักกลายเป็นยอดศาสตราเซียนที่สาคัญอย่างยิ่งยวด หากข้าพลั้งมือฆ่าต้วนหลิงเทียนตกตายไปขึ้นมา…โดยที่ตราผนึกมารยังถูกมันซุกซ่อนไว้ด้านนอก เช่นนี้ย่อมเป็นข้าที่ทาลายแผนการใหญ่ของท่านจ้าวลัทธิแล้ว!!’
คิดถึงจุดนี้ เหลิ่งอิงก็ตัดสินใจได้ทันที
มันสามารถลงโทษต้วนหลิงเทียนได้ แต่มิอาจมอบโทษประหารให้ต้วนหลิงเทียนได้!
“จ้าวหอเหลิ่งอิง หากคิดจัดการข้าก็ต้องดูว่าท่านมีปัญญาสามารถมากพอหรือไม่…”
ได้ยินวาจาของเหลิ่งอิง ต้วนหลิงเทียนเพียงฉีกยิ้มกล่าวตอบ ไม่ได้แลดูโกรธเคืองอะไร
แถมฟังจากคาพูดที่กล่าวออก คล้ายไม่ได้เห็น เหลิ่งอิง จ้าวหอคุมกฏคนนี้อยู่ในสายตาแม้แต่น้อย
พอได้ยินคาตอบกลับมาของต้วนหลิงเทียน เหลิ่งอิงก็ถึงกับต้องอึ้งไปอีกรอบ ด้วยมันไม่คิดไม่ฝันจริงๆว่าต้วนหลิงเทียนจะหาญกล้ากล่าววาจาทานองนี้กับมัน!
ตอนนี้มันเป็นถึง เซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยนเชียวนะ!
เมื่อต้วนหลิงเทียนกล่าวจบคา เขาก็ไม่ได้รอให้เหลิ่งอิงตอบอะไร เพียงหันไปมองต่งหยวนจิ้นด้วยสายตาเฉยชา กล่าวออกด้วยน้าเสียงเยียบเย็น “ต่งหยวนจิ้น ข้าบอกเจ้าไปแล้ว…ว่าข้าจะฆ่าเจ้าต่อหน้าคนที่เจ้าคิดว่ามีปัญญาคุ้มกะลาหัวเจ้าได้! วันนี้ข้าจะให้เจ้าได้รู้…ว่า ‘ความสิ้นหวัง’ ที่แท้มีรสชาติเช่นไร”
เสียงกล่าวของต้วนหลิงเทียนยิ่งมายิ่งเยียบเย็น ท้ายประโยคยังยะเยือกปานจะผุดแทรกขึ้นมาจากหล่มน้าแข็ง!
“ใต้เท้าจ้าวหอ! ท่านเห็นหรือไม่ ต้วนหลิงเทียนผู้นี้หยิ่งผยองลาพองนัก! ตอนแรกมันก็ฆ่าอาวุโสของหอคุมกฏเราทีนึงแล้ว ตอนนี้มันยังคิดจะฆ่าข้าต่อหน้าท่านอีก!!”
ได้ยินวาจาเยียบเย็นของต้วนหลิงเทียน หน้าต่งหยวนจิ้นก็เปลี่ยนสีทันที มันเร่งหันไปฟ้องเหลิ่งอิงเสียงดัง
ขณะเดียวกัน ด้านเหลิ่งอิงที่ได้ยินคาของต้วนหลิงเทียนก็โมโหจนหน้าเขียว ทั่วร่างเริ่มสั่นสะท้านไปอย่างแรง
“จองหอง! จองหองนัก!!”
หลังสบถออกมาอย่างฮึดฮัด 2 ครั้ง เหลิ่งอิงก็ถลึงตามองต้วนหลิงเทียนพลางกล่าวว่า “ต้วนหลิงเทียน เห็นแก่ที่ท่านจ้าวลัทธิเชิญเจ้ากลับมาด้วยตัวเอง ข้าจักไม่เอาชีวิตของเจ้า…ทว่าโทษตายละเว้นได้แต่โทษเป็นยังอยู่! วันนี้ด้วยความผิดที่เจ้าก่อเจ้าอย่าได้คิดหวังว่าจะหนีไปที่ใดได้! วันนี้ไม่เพียงแต่ข้าจะตีเจ้าให้ขาหัก ยังจะมัดเจ้าไปลงโทษที่โถงลงทัณฑ์ให้เจ้าได้สานึก!!”
“ปฐมเวทย์กลืนกิน!”
แทบจะเป็นเวลาเดียวกันกับที่เหลิ่งอิงกล่าวประกาศว่าจะลงโทษต้วนหลิงเทียนออกมาอย่างดุร้าย ต้วนหลิงเทียนก็ใช้ออกด้วยเวทย์พลังสนับสนุนอย่างปฐมเวทย์กลืนกิน สูบกลืนพลังวิญญาณฟ้าดินเหนือฟ้าจนสาบสูญไปชั่วขณะหนึ่ง เร่งเร้ายกระดับพลังเซียนสุริยันในกายจนบรรลุถึงจุดสูงสุดเท่าที่จะทาได้!
ฟั่ฟฟฟฟ!!
และแทบจะพร้อมกันกับที่เหลิ่งอิงกล่าวจบคา ‘กระบี่พันอาคมเซียน’ ที่อยู่ในมือพลันพุ่งทะยานออกไปฉับไว! คงเหลือแต่เพียงเสียงหอนของกระบี่ดังขึ้นในอากาศเบาๆ!!
ประกายกระบี่พุ่งวาบตัดฟ้าไปด้วยความเร็วอันน่าพรั่นพรึง ราวกับดาวตกลัดฟ้ายามค่าคืน!
ฉับบบ!!
“หยุด!!”
เสียงกระดูกเลือดเนื้อถูกสะบั้นดังขึ้นแทบจะพร้อมๆกันกับเสียงตะโกนกล่าวห้ามอย่างเกรี้ยวกราด
สองสาเนียงนี้ยามดังเข้าหูผู้คนโดยรอบ ก็ทาให้หัวใจของพวกมันอดไม่ได้ที่จะสั่นไหว
และในขณะที่ทุกคนมองไปตามต้นเสียงตามสัญชาตญาณอย่างไม่รู้ตัว
พวกมันก็พบว่าแขนของต่งหยวนจิ้น ได้ถูกกระบี่พันอาคมเซียนของต้วนหลิงเทียนตัดจนขาดด้วนเสมอไหล่! โลหิตพุ่งกระฉูดออกมาดังปรี๊ดๆ ก่อนจะกลายเป็นบุปผาเบ่งบานกลางหาว ค่อยแตกกระจายเป็นละอองร่วงฟ้า…!!
กระบี่ของต้วนหลิงเทียนนั้นรวดเร็วเกินไป! รวดเร็วเสียจนกระทั่งแขนต่งหยวนจิ้นขาดกระเด็นไปแล้ว แต่เหลิ่งอิงยังไม่ทันได้ตอบสนองเรื่องราวอันใด!!
นับประสาอะไรกับคนที่ชมดูเรื่องราวคนอื่นๆ!
สาหรับต่งหยวนจิ้นนั้น มันตกตะลึงถึงขั้นหลงลืมความเจ็บปวด!
ต่อหน้าจ้าวหอคุมกฏเหลิ่งอิง ตัวตนขอบเขตเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยน ทว่าต้วนหลิงเทียนยังสามารถตัดแขนของมันได้อย่างอุกอาจปานไม่เห็นหัวเหลิ่งอิง?
ยิ่งไปกว่านั้นตั้งแต่ต้นจนจบดูเหมือนกระทั่งเหลิ่งอิงเองก็ยังไม่มีเวลาจะตอบสนองอะไรได้ทัน…
‘ความแข็งแกร่งของต้วนหลิงเทียน…หรือจะไม่ได้ด้อยไปกว่าตัวตนขอบเขตเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยน?’
คิดถึงจุดนี้ ลูกตาของต่งหยวนจิ้นก็หดหยีลง ใบหน้าของมันเริ่มเผยให้เห็นถึงความสิ้นหวังทั้งไม่เต็มใจ!