WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 2191
War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 2191
ตอนที่ 2,191 : เริ่มเคลื่อนไหว
อันที่จริงแล้วตอนนี้ไม่ใช่แค่ต้วนหลิงเทียนเท่านั้น ที่รู้สึกเสมือนเรื่องราวมันเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วจนเหมือนฝัน กระทั่งเหล่าอาวุโสแทบทุกคนในที่นี้ก็รู้สึกไม่ต่างกัน!
คนมากมายโค้งคารวะทักทายต้วนหลิงเทียนในฐานะ ‘ผู้พิทักษ์’ ด้วยความเคารพ หลายคนที่เคยรู้จักกับต้วนหลิงเทียนก็รู้สึกเสมือนต้วนหลิงเทียนได้ห่างออกไปแสนไกลเกินกว่าที่พวกมันจะเอื้อมถึงได้อีกต่อไป…
ไม่กี่ปีที่ผ่านมาต้วนหลิงเทียนยังเป็นเพียงศิษย์ที่แท้จริงของลัทธิบูชาไฟเท่านั้น ให้โดดเด่นมากแค่ไหนก็ยังเป็นเพียงแค่ศิษย์…
แต่ใครจะไปคิด…
หลังจากผ่านไปไม่กี่ปี ศิษย์ที่แท้จริงคนนั้นกลับกลายเป็นตัวตนที่ทรงพลังถึงระดับนี้! ยังเป็นถึงผู้พิทักษ์ลัทธิบูชาไฟ!!
และในลัทธิบูชาไฟ ฐานะผู้พิทักษ์ก็คือ ตัวตนอันดับ 2 รองจากจ้าวลัทธิเท่านั้น!
กล่าวได้อีกอย่างว่า อยู่ใต้หนึ่งแต่อยู่เหนือนับหมื่น!
“อาวุโสกัวฉงที่ข้าเคยรับปากท่านไว้วันนั้น ยังคงมีผลอยู่…หากท่านมีสิ่งใดให้ข้าช่วยเหลือ วันหน้าท่านเพียงแค่กล่าวออกมาเท่านั้น…”
สายตาต้วนหลิงเทียนมองไปยังอาวุโสคุมกฏประจำแท่นบูชาเต่าทมิฬ กัวฉิง ค่อยส่งเสียงผ่านพลังถึงอีกฝ่ายในเวลาที่เหมาะสม หากมีโอกาสเขาย่อมทดแทนบุญคุณอีกฝ่ายแน่นอน!
ในตอนนั้นเขาได้ขอให้กัวฉงช่วยนำหยกบันทึกเสียงไปมอบให้จูลู่ฉี กระทั่ยงยังขอให้ลอบพาจูลู่ฉีออกจากลัทธิบูชาไฟไปส่งข่าวให้เขาครอบครัวเขาอย่างปลอดภัย ถือได้ว่าเขาติดหนี้บุญคุณกัวฉงในเรื่องนี้
“ขอบคุณท่านมากผู้พิทักษ์หลิงเทียน”
ได้ยินเสียงผ่านพลังของต้วนหลิงเทียน กัวฉงก็รู้สึกยินดีนัก! เร่งตอบรับกลับมาเร็วไวน้ำเสียงยังตื่นเต้นไม่น้อย!!
เพราะสุดท้ายแล้ว ต้วนหลิงเทียนในตอนนี้ก็ไม่ใช่ต้วนหลิงเทียนในอดีตอีกต่อไป
ตอนนี้ในลัทธิบูชาไฟ ต้วนหลิงเทียนเป็นคนที่อยู่ใต้หนึ่งแต่อยู่เหนือนับหมื่น!
มันย่อมตระหนักได้ทันที…
ว่าคำสัญญานี้ของต้วนหลิงเทียน จากอะไรที่มันไม่เคยใส่ใจ…ได้แปรเปลี่ยนเป็นอะไรที่ประเมินค่าไม่ได้ไปเสียแล้ว…
หลังจากที่อาวุโสทั้งหลายของลัทธิบูชาไฟแสดงความเคารพและร่วมแสดงความยินดีกับต้วนหลิงเทียนเสร็จ ต่อมาพวกมันก็หันไปแสดงความยินดีกับเหลิ่งอิง…
และจากลำดับรวมถึงทีท่าของทุกคนนั้นเผยให้เห็นเรื่องราวประการหนึ่งชัดเจน…
ในสายตาของพวกมัน ‘สถานะ’ ของต้วนหลิงเทียนนั้นสูงกว่าเหลิ่งอิงอย่างที่ไม่ต้องสงสัยเลย!
เหตุผลก็เป็นเพราะ พวกมันได้รับทราบจากข่าวลือเมื่อ 3 วันก่อนว่า…ต้วนหลิงเทียนสามารถเอาชนะเหลิ่งอิงได้ใน 3 กระบี่! ทำให้พวกมันรู้ว่าพลังฝีมือต้วนหลิงเทียนสูงส่กว่าเหลิ่งอิงมาก!!
ในเมื่อนี่คือโลกที่ผู้เข้มแข็งได้รับการนับหน้าถือตา ก็เข้าใจได้ไม่ยากว่าไฉนพวกมันกระทำเช่นนี้
อย่างน้อยเหลิ่งอิงก็ไม่ได้ไม่พอใจอะไรกับทีท่าดังกล่าวของทุกคน
ในเรื่องนี้ตัวมันยังกล่าวได้ว่าไม่เพียงเข้าใจ แต่ยังรู้ดีกว่าใครด้วยซ้ำ!
“ศิษย์พี่หลิวอวิ๋น ศิษย์พี่หลิวมู่…ไม่เจอกันนานแล้ว พวกท่านสบายดีนะ”
เมื่อถึงคราวเหล่าศิษย์ทั้งหลายร่วมแสดงความเคารพและแสดงความยินดี สายตาต้วนหลิงเทียนก็เบนไปตกยังร่าง 2 ร่างท่ามกลางบรรดาเหล่าศิษย์มากมาย ค่อยส่งเสียงผ่านพลังไปทักทั้งคู่
หลิวอวิ๋น หลิวมู่!
ทั้ง 2 คนถือได้ว่าเป็น ‘สหาย’ ที่ต้วนหลิงเทียนมีน้อยคนนักในลัทธิบูชาไฟ
เมื่อหลิวอวิ๋นกับหลิวมู่ได้ยินเสียงของต้วนหลิงเทียน พวกมันก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้น กระทั่งตื่นเต้นมากถึงขั้นพูดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะเลยทีเดียว! ต่างมองสบตาต้วนหลิงเทียนด้วยสีหน้าปิติยินดีถึงที่สุด!!
ศิษย์น้องหลิงเทียนในวันวาน…ยังไม่ลืมพวกมัน!
“เอาไว้เดี๋ยวเสร็จเรื่องนี้แล้ว พวกเราค่อยไปดื่มด้วยกัน…ท่านเตรียมสุราไว้ได้เลย”
ต้วนหลิงเทียนส่งเสียงผ่านพลังกล่าวสืบต่อ และนั่นทำให้หลิวอวิ๋นกับหลิวมู่ยินดีถึงที่สุด เร่งพยักหน้างึกๆราวลูกเจี๊ยบจิกข้าวเปลือก
ตอนนี้ในเมื่อเรื่องราวของพ่อลูกสกุลต่งถูกเขาสะสางเรียบร้อย กอปรด้วยสถานะของเขาในลัทธิบูชาไฟตอนนี้ เขาก็ไม่จำเป็นต้องกังวลว่าจะมีใครปองร้ายตระกูลหลิวเพราะคิดเล่นงานเขาอีกต่อไป
เช่นนั้นเขาก็ไม่ต้องเล่นละครแสดงว่าแตกหักอะไรกับสหายอีก
ถึงแม้ว่าจ้าวลัทธิบูช่าไฟจะถือว่าเป็นภัยซ่อนเร้น กระทั่งวันหนึ่งเขาอาจมีปัญหากับจ้าวลัทธิบูชาไฟเพราะเรื่องเค่อเอ๋อแม่ลูกก็ตาม แต่คนอย่างจ้าวลัทธิบูชาไฟย่อมไม่ไปข้องแวะกับสกุลหลิวเพราะเขาแน่นอน
อย่างไรสกุลหลิวก็เป็นศิษย์ของลัทธิบูชาไฟมานาน
และวันนี้ข่าวเรื่องราวที่ลัทธิบูชาไฟปรากฏผู้พิทักษ์อันร้ายกาจเพิ่มขึ้นทีเดียว 2 คนก็แพร่กระจายออกไปดั่งมหาพายุ ไม่นานก็กระจายไปทั่วภูมิภาคตะวันตกกทั้งหมด
“ต้วนหลิงเทียน ผู้พิทักษ์ลัทธิบูชาไฟ!?”
“ช้าก่อน…มิใช่ว่าหากจะเป็นผู้พิทักษ์ของลัทธิบูชาไฟอย่างน้อยๆพลังฝึกปรือต้องอยู่ในขอบเขตเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยนหรือไร…หาไม่แล้วย่อมไม่มีทางเป็นผู้พิทักษ์อะไรได้เลยนี่?”
“เรื่องพลังไม่มีปัญหาแน่ !ข้ายังได้ยินมาว่าต้วนหลิงเทียนถึงกับสยบผู้พิทักษ์คนใหม่เหมือนกันอย่างเหลิ่งอิงใน 3 กระบี่!”
“จริงรึ! สวรรค์ช่วย! เพียงเวลาแค่ไม่กี่ปีไฉนต้วนหลิงเทียนเติบโตร้ายกาจได้ถึงขั้นนี้เล่า!?”
“ข้าเกรงว่าข่าวลือจากนครแห่งบาปที่พวกเรามองว่าเป็นเรื่องเหลวไหลก่อนหน้า มารดามันสมควรเป็นเรื่องจริงแล้ว! 9 ใน 10 ส่วน ต้วนหลิงเทียนต้องฆ่าจ้าวราชสีห์ขนทองนั่นได้ใน 3 กระบี่แน่นอน!!”
… …
ทั่วทั้งภูมิภาคตะวันตก ตอนนี้ไปไหนก็ได้ยินแต่เรื่องของต้วนหลิงเทียน
แน่นอนว่ายังมีเรื่องอื่นๆด้วย
ตัวอย่างเช่น…
จ้าวลัทธิบูชาไฟ ถังซวน ได้ออกแถลงการณ์เป็นการส่วนตัวเรื่องเชื้อเชิญต้วนหลิงเทียนกลับลัทธิบูชาไฟตั้งแต่แรก ได้กลายเป็นความเคลื่อนไหวที่ชาญฉลาดนัก! เพราะเสมือนมันได้รับผู้พิทักษ์ฝีมือดีเพิ่มอีกคน! ร่ำลือกันว่าพลังฝีมือของต้วนหลิงเทียนไม่ได้ด้อยไปกว่าผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาผู้พิทักษ์อย่างสื่อเฟิงอีกด้วย!!
“ครั้งนี้นับว่าจ้าวลัทธิบูชาไฟเดินหมากได้หมดจดยิ่ง…ในช่วงที่ข่าวลือเรื่องต้วนหลิงเทียนฆ่าจ้าวราชสีห์ขนทองแพร่ออกมา ขณะที่ผู้อื่นแคลงใจบ้าง มองว่าเหลวไหลดั่งผายลมบ้าง…มันกลับเลือกที่จะออกแถลงการณ์เชิญต้วนหลิงเทียนกลับลัทธิ! นับว่าเฉลียวฉลาดทั้งมองการณ์ไกลนัก!!”
“จ้าวลัทธิบูชาไฟไหนเลยยังเป็นชนชั้นธรรมดา ผู้ที่ทะลวงถึงเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนได้ย่อมเป็นตัวตนที่มองเรื่องราวได้ขาดเช่นนี้! ด้วยมีมันเป็นจ้าวลัทธิ ข้าเชื่อว่าลัทธิบูชาไฟต้องรุ่งโรจน์ไปอีกนับร้อยๆปี กระทั่งอาจรุ่งโรจน์เหนือกว่าอีก 2 ลัทธิก็ไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้”
…
แม้ในภูมิภาคตะวันตกกเรื่องนี้จะเป็นเรื่องน่ายินดีเพียงใด ทว่ายามแพร่ออกไปภูมิภาคอื่น เรื่องราวกลับต่างออกไปแล้ว…
เรียกได้ว่าหลังจากที่เรื่องราวมันแพร่ออกจากภาคตะวันตกไปยังภาคอื่นนั้น…ทำให้ทั้งหมดตื่นตัวขึ้นมา!
ยิ่งภาคกลางกับภาคใต้เรียกว่าเริ่มบังเกิดความเคลื่อนไหวตอบรับสถานการณ์ก่อนใคร
“ต้วนหลิงเทียนมันย้อนกลับไปลัทธิบูชาไฟแล้วรึ?”
“อืม…เห็นว่าถังซวนนั่น ถึงกับออกแถลงการณ์ด้วยตัวเองเพื่อเชิญมันกลับไป!”
“ตอนนี้รายนามยอดเซียนฉบับใหม่ยังไม่แพร่ไปในภูมิภาคตะวันตกด้วยซ้ำ…แต่เจ้าถังซวนนั่น แม้จะยังไม่อาจยืนยันพลังฝีมือต้วนหลิงเทียนได้ มันกลับชิงลงมือเคลื่อนไหวแบบนี้ออกมาก่อน…”
“นี่เจ้าถังซวนนั่นมันจะไม่ฉลาดเป็นกรดไปหน่อยหรือไร”
“ฉลาดเป็นกรด? ข้าว่าพวกเจ้าประเมินมันสูงไปแล้ว ข้าว่ามันไม่ได้สนพลังฝีมือต้วนหลิงเทียนแต่แรก! ที่มันเชิญต้วนหลิงเทียนกลับเพราะหวังผลเลิศล้ำจากตราผนึกมารเท่านั้น!!”
“เรื่องนี้ดูออกง่ายนัก จากการที่มันยอมสัญญาว่าจะกล่าวคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์ในเรื่องนี้ หากมันไม่ต้องการตราผนึกมารแต่แรก ไฉนมันต้องออกมาสาบานว่าจะไม่มีใครในลัทธิทำร้ายต้วนหลิงเทียนเพื่อชิงของด้วย?”
“มันย่อมไม่คิดอยากให้ใครได้ตราผนึกมารไป…เพราะเมื่อเผ่าพันธุ์ปีศาจบุกรุกขึ้นมา ไหนเลยต้วนหลิงเทียนยังจะไม่ให้มันยืมตราผนึกมาร? คราวนี้หากเกิดสงครามมนุษย์ปีศาจจริง ลัทธิบูชาไฟย่อมกลายเป็นความหวังสูงสุดของใต้หล้า เป็นดั่งพลังขั้นสูงของภูมิภาคเบื้องบน!”
…
หากเทียบกับความรู้สึกตื่นเต้นยินดีเพราะพลังฝีมืออันร้ายกาจของต้วนหลิงเทียนในภูมิภาคตะวันตกแล้ว…
ผู้คนในภูมิภาคอื่นที่ยืนยันได้แต่แรกว่าต้วนหลิงเทียนฆ่าเซี่ยคังฉวินจริงจากรายนามยอดเซียนฉบับล่าสุด ไม่ได้แปลกใจเรื่องที่ต้วนหลิงเทียนเผยพลังฝีมือในลัทธิบูชาไฟเลย…
พวกมันประหลาดใจเรื่องความเคลื่อนไหวอันรวดเร็วของถังซวน ที่ออกแถลงการณ์เชิญต้วนหลิงเทียนกลับลัทธิบูชาไฟ ก่อนที่จะทันได้รู้ข้อมูลนี้ต่างหาก!
และไม่นานหลังจากนั้น รายนามยอดเซียนฉบับล่าสุดก็เริ่มแพร่กระจายมาถึงภูมิภาคตะวันตก…
“อดีตยอดฝีมืออันดับที่ 18 ในรายนามยอดเซียน จ้าวราชสีห์ขนทอง เซี่ยคังฉวิน 1 ใน 4 มหาธรรมราชาของลัทธิอารามทมิฬ ถูกต้วนหลิงเทียนฆ่าตายใน 3 กระบี่!”
“อีกทั้งพยานหลายคนในเหตุการณ์ยังกล้ากล่าวคำสาบานว่าจากที่พวกมันเห็น หากต้วนหลิงเทียนคิดฆ่าเซี่ยคังฉวิน คงลำบากแค่กระบี่เดียวเท่านั้น!”
“หลังฆ่าเซี่ยคังฉวินแล้ว ต้วนหลิงเทียนจึงชิงอันดับที่ 18 ในรายนามยอดเซียนมาได้สำเร็จอย่างไร้ข้อกังขา…”
นี่คือเนื้อหารายงานเรื่องราวส่วนหนึ่งของรายนามยอดเซียนฉบับล่าสุด
“มารดาช่วย! จ้าวราชสีห์ขนทองผู้นั้นถูกต้วนหลิงเทียนฆ่าจริงๆด้วย!!”
“นิ…นี่คือรายนามยอดเซียนฉบับใหม่ล่าสุด! ไม่มีทางแปลกปลอมแน่!!”
“หึ! ด้วยพลังฝีมือของต้วนหลิงเทียน อย่าว่าแต่อันดับที่ 18 เลย…ต่อให้เป็นยอดฝีมืออันดับที่ 15 ในรายนามยอดเซียน หากต้วนหลิงเทียนคิดฆ่าก็ง่ายดายนัก!!”
“จริงอย่างที่เจ้าว่า…เพราะข่าวที่ได้จากลัทธิบูชาไฟ ต้วนหลิงเทียนไม่เพียงแต่มีพลังฝีมือร้ายกาจกว่าเหลิ่งอิงเท่านั้น ยังมีพลังฝีมือสูงส่งกว่าผู้พิทักษ์หงอวิ๋นอีกด้วย…และพวกเจ้าต้องทราบว่าผู้พิทักษ์หงอวิ๋นคืออันดับที่ 16!”
…
เมื่อรายนามยอดเซียนฉบับใหม่ล่าสุดแพร่ไปทั่วภูมิภาคตะวันตก สถานการณ์บทสนทนาทำนองเดียวกันนี้ก็ดังขึ้นไปทั่ว
เรียกว่าทั่วภูมิภาคตะวันตกแตกตื่นฮือฮากันใหญ่
“ตัดสินจากความสำเร็จของผู้พิทักษ์หลิงเทียนในตอนนี้…พวกเราสามารถเรียกขาน ผู้พิทักษ์หลิงเทียนว่าเป็น ‘อัจฉริยะท้าทายสวรรค์อันดับ 1 ของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า’ ได้เต็มปาก!!”
“ถูกต้อง! ต่อให้เป็นอัจฉริยะท้าทายสวรรค์อันดับ 1 ที่ผู้ฝึกตนอิสระยกหางอย่างเผยซื่อไห่ ข้าเกรงว่ามันยังไม่กล้าออกมาอวดอ้างอันใดเพื่อโต้แย้งด้วยซ้ำ…เพราะมันด้อยกว่าผู้พิทักษ์หลิงเทียนมาก!”
“ผู้พิทักษ์หลิงเทียน อัจฉริยะท้าทายสวรรค์อันดับ 1 ในดินแดนเทพยุทธืเซียนเต๋า! ช่างน่าภาคภูมิใจยิ่ง!!”
…
หลังเรื่องราวทั้งหมดกระจ่าง ไม่นานก็ไม่ใช่แค่คนในภูมิภาคตะวันตกเท่านั้นที่ยอมรับว่าต้วนหลิงเทียนคืออัจฉริยะท้าทายสวรรค์อันดับ 1 ของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า แต่คนจากภูมิภาคอื่นๆก็ยอมรับเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน!
เพราะสุดท้ายทุกคนก็สามารถยืนยันความเป็นมาของต้วนหลิงเทียนได้เต็มสิบส่วน!
“อายุยังไม่ทันถึง 50 ปีแต่กลับประสบความสำเร็จถึงขนาดนี้…ผู้พิทักษ์หลิงเทียนนับเป็นตัวตนอัจฉริยะที่มิมีผู้ใดเสมอเหมือนจริงๆ!”
“จะว่าไปในประวัติศาสตร์ของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าพวกเรา…ก็เหมือนว่าจะไม่เคยปรากฏตัวตนอันน่าอัศจรรย์เช่นนี้มาก่อนเลยใช่หรือไม่?”
“มิผิด กระทั่งให้ย้อนกลับไปในยุคสมัยของท่านบรรพชนเซียนกระบี่ลือนามผู้นั้น ก็ดูเหมือนจะประสบความสำเร็จด้อยกว่าต้วนหลิงเทียน…”
“ลัทธิบูชาไฟคราวนี้นับว่าพบพานกับสมบัติล้ำค่าเข้าแล้วจริงๆ”
…
วาจาทำนองดังกล่าวดังไปทั่วภูมิภาคเบื้องบน
“เจ้าต้วนหลิงเทียนนั่น มันย้อนกลับไปลัทธิบูชาไฟแล้วแบบนี้…พวกเราลัทธิอารามทมิฬก็ไม่อาจปล่อยวางเรื่องราวที่มันฆ่าเซี่ยคังฉวินไปได้ง่ายๆ!!”
“ใช่! หากลัทธิอารามทมิฬเราไม่เคลื่อนไหวเพื่อตอบสนองใดกับการลงมือครั้งนี้ของมัน ผู้คนทั้งแดนดินจะมองว่าพวกเราลัทธิอารามทมิฬกลัวลัทธิบูชาไฟ!!”
“พวกเราต้องไปเรียกร้องความเป็นธรรมให้จ้าวราชสีห์ขนทอง!!”
…
ลัทธิอารามทมิฬเองก็อยู่ไม่สุขแล้วเช่นกัน!
ถึงแม้พวกมันจะยืนยันได้แต่แรกว่าจ้าวราชสีห์ขนทอง 1 ใน 4 มหาธรรมราชาตกตายด้วยน้ำมือต้วนหลิงเทียนจริง แต่ตอนนั้นพวกมันไม่รู้ว่าต้วนหลิงเทียนอยู่แห่งหนตำบลใด พวกมันจึงไร้หนทางระบายแค้น!
ตอนนี้พอพวกมันได้รู้ว่าต้วนหลิงเทียนคนนั้น ย้อนกลับไปยังลัทธิบูชาไฟ กระทั่งนั่งตำแหน่งผู้พิทักษ์อย่างเป็นทางการ…
เหล่าตัวตนระดับสูงของลัทธิอารามทมิฬก็เริ่มเคลื่อนไหวทันที!!