WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 2197
War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 2197
ตอนที่ 2,197 : ความร้ายกาจของจ้าวลัทธิบูชาไฟ
เสียงของอาวุโสสูงสุดลัทธิอารามทมิฬ หล่างเชียนจิน นั้นเยียบเย็นเหลือเกิน ทำให้ทุกคนรู้สึกเสมือนฤดูหนาวได้มาเยือนแล้วอย่างไรอย่างนั้น
“ก่อนหน้านี้ต่อหน้าอาวุโสหล่างข้าทำได้แค่เพียงใช้เวทย์พลังเหลือหลบหนี…ทว่าตอนนี้ให้ข้าได้รับทราบสักครา ว่าระหว่างข้ากับอาวุโสหล่างที่แท้ต่างกันเท่าใด”
เผชิญหน้ากับหล่างเชียนจินที่เผยโทสะให้เห็นชัด ถังซวนเพียงกล่าววาจาออกมาอย่างไม่รีบไม่ร้อน
ในวาจาเผยให้เห็นเรื่องหนึ่งชัดเจน…
มันไม่กลัวที่จะสู้กับหล่างเชียนจิน!
ในกาลก่อนยามพลังฝึกปรือของถังซวนอยู่ในขอบเขตเซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยน เมื่อเผชิญหน้ากับ หล่างเชียนจิน อาวุโสสูงสุดของลัทธิอารามทมิฬ มันก็ทำได้แค่หลบหนีเท่านั้น…เพราะมันไม่ใช่คู่มือของหล่างเชียนจินเลย!
อาศัยเวทย์พลังเสริมท่าร่างของ ‘ท่านผู้นั้น’ ที่เป็นดั่งตัวตนอันทรงพลังปานเทพเจ้ามอบให้ แม้มันจะมีพลังฝึกปรือเพียงเซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยน แต่หากมันต้องการก็สามารถหลบหนีได้แม้จะอยู่ภายใต้เงื้อมมือของเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยน!
ไม่กี่ปีที่ผ่านมาถังซวนยังอาศัยเวทย์พลังนี้ รอดพ้นเงื้อมมือเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนทั้ง 2 คนมาได้หลายครั้ง แถมยังใช้ข่มขู่อีกฝ่าย จนไม่กล้าทำลายลัทธิบูชาไฟ!
หาไม่แล้วลัทธิบูชาไฟที่ไม่มีเซียนสววรรค์ 9 เปลี่ยนคอยปกปักษ์ ไม่พ้นต้องถูกลัทธิอารามทมิฬกับลัทธิชะตาฟ้าร่วมมือกันทำลายทั้งหั่นแบ่งผลประโยชน์กันไปนานแล้ว…
“นี่…”
ความดุร้ายก้าวร้าวของถังซวนไม่เพียงแต่ทำให้ อาวุโสสูงสุดของลัทธิอารามทมิฬและมหาธรรมราชาทั้ง 2 ตกใจเท่านั้น ยังทำให้ผู้พิทักษ์ทั้ง 5 ของลัทธบูชาไฟรวมถึงต้วนหลิงเทียนสับสนเช่นกัน
ไม่มีใครคิดฝันจริงๆว่า จ้าวลัทธิบูชาไฟจะไม่พูดพร่ำทำเพลง พริบตาก็คิดสู้แตกหักกับอาวุโสสูงสุดของลัทธิอารามทมิฬทันที!?
ไม่ต่อรองอะไรหน่อยหรือ?
แต่คงไม่มีใครคิดฝัน…
ที่ถังซวนดุร้ายตัดสินใจอย่างเด็ดขาดแบบนี้ เพราะมันนึกถึง ท่านผู้นั้น ที่แข็งแกร่งราววกับเทพเจ้าที่มันได้พบหลายสิบปีก่อน…
ก่อนที่จะยืนยันได้แน่ชัดว่าต้วนหลิงเทียนไม่ใช่บุรุษที่ทำลายความบริสุทธิ์ของธิดาเทพจริงๆ มันไม่กล้าปล่อยให้ต้วนหลิงเทียนเกิดเรื่องใดๆทั้งสิ้น!
อีกทั้งหากสุดท้ายยืนยันว่าต้วนหลิงเทียนเป็นตัวการจริงๆ แล้วต้วนหลิงเทียนตกตายด้วยน้ำมือผู้อื่น…ยามท่านผู้นั้นที่เข้มแข็งปานเทพเจ้าหวนกลับมาสู่โลกใบนี้ และคิดฆ่าต้วนหลิงเทียนด้วยมือตัวเองขึ้นมาก็ย่ำแย่แล้ว!!
ด้วยพลังอันน่าพรั่นพรึงของท่านผู้นั้น อย่าว่าแต่มันจะตายอนาถอย่างที่ไม่ต้องสงสัยเลย…กระทั่งลัทธิบูชาไฟของมันไม่พ้นต้องมอดไหม้เป็นธุลีดิน!
ด้วยเหตุนี้ทีท่าของถังซวนจึงดุร้ายแข็งกร้าวนัก! ไม่กลัวที่จะเผชิญหน้ากับหล่างเชียนจินที่คิดฆ่าต้วนหลิงเทียนแม้แต่น้อย ยังกล้าสู้กับหล่างเชียนจินอย่างไม่ลังเล!
ตอนที่มันยังไม่ทะลวงด่านพลังและยังรั้งอยู่ในขอบเขตเซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยน มันก็ไม่กลัวหล่างเชียนจิน
นับประสาอะไรกับตอนนี้!
กระทั่งตั้งแต่ทะลวงถึงเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนมา ลึกลงไปในใจมันยังอยากจะสู้ตัดสินกับหล่างเชียนจินให้รู้แล้วรู้รอดด้วยซ้ำ!
เพราะในอดีต ไม่ว่าจะกี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่มันต้องเผชิญหน้ากับหล่างเชียนจิน มันก็ทำได้แค่วิ่งหนี! ทำให้มันบังเกิดความคับแค้นใจมาโดยตลอด!!
ตอนนี้เมื่อพลังฝีมือมันสูงพอแล้ว มันย่อมอยากวัดกับหล่างเชียนจินให้รู้เรื่อง!
แต่แน่นอนว่าถ้าไม่ใช่เพราะหวาดกลัวท่านผู้นั้นที่ทรงพลังราวเทพเจ้า แม้มันจะอยากวัดกับหล่างเชียนจินเพียงใด แต่ก็คงไม่ดุร้ายก้าวร้าวถึงขั้นที่พร้อมระเบิดการต่อสู้ทันทีเช่นนี้…
เรียกว่าสาเหตุที่ทำให้มันตัดสินใจสู้ทันทีก็เพราะกลัว ท่านผู้นั้น จากก้นบึ้งของใจ!
“ต้วนหลิงเทียนผู้นี้…คงมิใช่ลูกชู้ของจ้าวลัทธิบูชาไฟหรอกนะ?”
ในขณะที่หล่างเชียนจินตกตะลึงกับความดุร้ายก้าวร้าวของถังซวน คนลัทธิอารามทมิฬที่เหลืออดไม่ได้ที่จะคิดไปทำนองนี้
หากไม่ใช่เพราะต้วนหลิงเทียนเป็นบุตรนอกสมรสของถังซวน ไฉนอีกฝ่ายคล้ายกลายเป็นหน้ามืดตามัวตัดสินใจโดยไม่คิดขนาดนี้ได้?
ยอดศาสตราเซียนอย่างตราผนึกมารแม้มีค่ามหาศาล แต่คุณค่าก็คงไม่มากพอถึงขั้นทำให้ถังซวนลงมืออย่างไม่ยั้งคิดใช่หรือไม่?
ไม่ใช่แค่คนของลัทธิอารามทมิฬไม่กี่คนที่บุกมา กระทั่งคนของลัทธิบูชาไฟอีก 4 คนนอกจากต้วนหลิงเทียนยังคิดไปทำนองเดียวกัน
แต่แน่นอนว่าพวกมันมั่นใจได้
ต้วนหลิงเทียนผู้นี้ไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดอะไรกับจ้าวลัทธิของพวกมันทั้งสิ้น!
‘จ้าวลัทธิบูชาไฟผู้นี้จะปกป้องข้าออกหน้าออกตาเกินไปรึเปล่า…ยิ่งไปกว่านั้นท่าทางยังใส่ใจข้าผิดปกติ…’
ตอนนี้กระทั่งตัวต้วนหลิงเทียนเองยังอดไม่ได้ที่จะงุนงง
นี่เขามีคุณค่าขนาดไหนกัน ถึงขั้นทำให้ถังซวนไม่พูดพร่ำทำเพลงก็คิดปะทะกับยอดฝีมืออันดับ 2 ในรายนามยอดเซียนได้ทันที?
“ดี! ดี….ดี!!”
หลังคืนสติหล่างเชียนจินก็ระเบิดคำ ดี ออกมา 3 ครั้ง น้ำเสียงยังหนักอึ้งนัก! เห็นชัดว่ามันมีโทสะมากมายเพียงใด!!
ถังซวนไร้ซึ่งความลังเลใดๆเลือกที่จะสู้กับมันอย่างไม่ไว้หน้า แต่ตัวมันก็ไม่ใช่ว่าจะบ้ารบกับถังซวนอย่างไร้หัวคิด!
เพราะถังซวนคนก่อน ยังไม่นับว่าเป็นอะไร….
แต่ตอนนี้ถังซวนกลายเป็นเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนเหมือนมัน! ถึงพลังฝีมืออาจจะยังไม่เท่ามัน แต่ก็ไม่มีทางอ่อนด้อยกว่ามันแน่!!
นอกจากนั้นด้วยอาศัยเวทย์พลังเสริมความเคลื่อนไหวนั่น ถังซวน เปรียบเสมือนอยู่ในตำแหน่งคงกระพันไร้พ่ายตลอดเวลาที่สู้กับมัน!
มันจึงไม่ได้มีเปรียบอะไรถังซวนเลยแม้แต่น้อยหากต้องสู้กันจริงๆ!
ด้วยเหตุนี้มันเลยไม่ค่อยเต็มใจจะสู้กกับถังซวนสักเท่าไหร่ หากไม่จำเป็น!
“ถังซวน!”
สูดลมหายใจเข้าลึกๆคราหนึ่ง หล่างเชียนจินลดทอนโทสะลงเล็กน้อย ค่อยกล่าวกับถังซวนเสียงเข้มว่า “ข้ารู้ดีว่าเจ้าให้ความสำคัญกับยอดศาสตราเซียนที่อยู่ในมือต้วนหลิงเทียนอย่างตราผนึกมาร…และเป็นไปได้ว่าตอนนี้ตราผนึกมารอาจไม่ได้อยู่ในร่างของมันและถูกซ่อนเอาไว้ที่อื่น…”
“อย่างไรก็ตาม…วันนี้หากเจ้าเต็มใจส่งตัวต้วนหลิงเทียนให้ข้า ข้าในนามอาวุโสสูงุสดของลัทธิอารามทมิฬ ยินดีที่จะกล่าวคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์ เพื่อให้คำมั่นกับเจ้า…”
“ว่าต่อไปในภายภาคหน้าหากผู้ใดได้รับตราผนึกมารไป ข้าจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อคว้ามันมาให้ได้ และจักส่งมอบให้เจ้ากับมือ…”
“และหากตราผนึกมารอยู่ในตัวของมันล่ะก็ หลังจากที่ข้าฆ่ามันได้แล้วข้าจะส่งมอบให้เจ้าทันที!!”
ฟังจากสิ่งที่หล่างเชียนจินกล่าวออกมา เห็นได้ชัดว่ามันกำลังคิดว่าสาเหตุที่ถังซวนปกป้องต้วนหลิงเทียนขนาดนี้เพราะยอดศาสตราเซียนอย่างตราผนึกมาร!
ด้วยเหตุนี้มันจึงไม่อาจโลภในตราผนึกมารได้อีก
มันถึงกับยินดีกล่าวคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์วว่าจะมอบตราผนึกมารให้ถังซวน!
ตราบใดที่มันได้ตัวต้วนหลิงเทียน!
เรียกว่าทันทีที่หล่างเชียนจินกล่าวออกมาแบบนี้ ก็เสมือนหาทางลงให้ตัวเองได้
‘แพะเฒ่าของลัทธิอารามทมิฬกำลังหาทางถอย?’
ต้วนหลิงเทียนอึ้ง
ตอนแรกเขาคิดว่าแพะเฒ่าตัวนี้มีโมโหหนักมากถึงขั้นคิดรบกับถังซวนให้เละกันไปข้างทันที แต่ไม่คิดเลยว่าสุดท้ายมันกลับเลือกหนทางประนีประนอม
อย่างไรก็ตามพอนึกดีๆเข้าก็เข้าใจได้ไม่ยาก
ตัวตนทรงพลังขอบเขตเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยน เมื่อต้องปะทะกันจริงๆ ผลกระทบที่เกิดขึ้นย่อมร้ายแรงมาก…
กอปรทั้งเวทย์พลังเสริมท่าร่างที่ถังซวนเชี่ยวชาญ เห็นว่าได้รับการยอมรับว่าเป็นเวทย์พลังเสริมท่าร่างที่ยอดเยี่ยมที่สุดในแดนดิน แม้ต้องประมือกับหล่างเชียนจินขึ้นมาจริงๆ ก็อยู่ในสภานะที่ไม่มีวันพ่ายแพ้ได้เลย…
จึงเป็นธรรมดาที่หล่างเชียนจินจะหวาดกลัว
ถึงแม้ว่าคนอื่นจะเข้าใจเช่นกันว่าไฉนหล่างเชียนจินเลือกที่จะถอยก้าวหนึ่ง แต่ก็อดไม่ได้ที่จะตกใจกันอยู่ดี
และเมื่อสิ้นเสียงของหล่างเชียนจิน ทั้งหมดก็หันไปมองจ้องถังซวนเป็นสายตาเดียวกัน…
หล่างเชียนจินเลือกถอยให้ก้าวหนึ่งแล้ว…
ถังซวนจะยอมหรือไม่?
ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนเองก็ยังลุ้นอยู่ในใจไม่น้อย ว่าตกลงถังซวนจะเอาอย่างไร ใช่ยอมถอยหรือไม่…
เพราะหากเขาลองมองในมุมถังซวน เขาอาจจะเลือกถอยเช่นกัน
อย่างไรก็ตามทีท่าต่อมาของถังซวนไม่เพียงแต่จะทำให้หล่างเชียนจินและคนอื่นๆตกตะลึง กระทั่งตัวต้วนหลิงเทียนยังอึ้งไปจริงๆ!
“ไม่ว่าต้วนหลิงเทียนจะมียอดศาสตราเซียนอย่างตราผนึกมารหรือไม่มี วันนี้ข้าก็ไม่มีวันส่งมอบคนให้ท่าน!”
ถังซวนกลับยืนกรานดังเดิม!!
วาจานี้แม้จะกล่าวออกด้วยถ้อยคำฟังดูธรรมดา แต่กลับเปี่ยมล้นไปด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดไม่อนุญาตให้ปฏิเสธ!
ฉากเรื่องราวกลายเป็นเงียบงัน กระทั่งทุกคนยังถึงกับลืมหายใจไปครู่หนึ่ง!
“จ้าวลัทธิ…”
ต้วนหลิงเทียนเองก็อดงุนงงกับวาจานี้ของถังซวนไม่ได้ ขณะเดียวกกันก็มองจ้องไปยังถังซวนด้วยสายตาไม่เข้าใจ กระทั่งแววตายังฉายความสับสนไม่น้อย
เพราะสุดท้ายแล้ว ก็เป็นเรื่องยากมากที่จะทำให้ถังซวนมีทีท่าแบบนี้กับเขา
แม้จะเป็นคนไร้หัวใจ เกรงว่ายังอดไม่ได้ที่จะหวั่นไหวไปกับทีท่าของถังซวน นับประสาอะไรกับต้วนหลิงเทียน!
เป็นธรรมดาว่าทั้งหมดเพราะต้วนหลิงเทียนไม่รู้ความคิดในหัวถังซวน หาไม่แล้วเขาคงไม่หวั่นไหวอะไร แต่คงเป็นกังวลถึงที่สุด…!
เพราะสุดท้ายแล้วนี่หมายความว่าถังซวนได้เริ่มสงสัยระแคะระคายขึ้นมาแล้ว ว่าเขาอาจเป็นบุรุษที่ธิดาเทพพบเจอในภูมิภาคด้านล่าง!
“ถังซวน!”
หลังเงียบไปครู่หนึ่ง หล่างเชียนจินที่ฟื้นตัวก่อนใครก็คำรามออกมาเสียงเหี้ยม!
เสียงของมันดั่งฟ้าร้องก็ไม่ปาน ยังมีอานุภาพพลังเกรี้ยวกราดพาลให้เมฆกลางฟ้าเริ่มสะท้านสะเทือน! พากันกระจัดกระจายหายไปทันที!!
เสียงคำรามนี้ยังแฝงเร้นไปด้วยพลังเซียนต้นกำเนิดอันแข็งแกร่ง ทำให้มันแพร่ดังไปถึงลัทธบูชาไฟ! ยังสร้างผลกระทบไม่น้อย!!
และสถานที่แรกที่ต้องพบพานกับผลกระทบดังกล่าวก็คือ แท่นบูชาพยัคฆ์ขาวที่อยู่ใกล้ที่สุด!
“ถังซวน!!”
“ถังซวน!!”
…
เรียกว่าเมื่อเสียงของหล่างเชียนจินดังมาถึงแท่นบูชาพยัคฆ์ขาว มันก็ดังกึกก้องไปทั่วแท่นบูชาพยัคฆ์ขาว! ยังดังเกินกว่าที่ผู้คนจะทนฟัง!!
พลังเซียนต้นกำเนิดที่ผสานควบมาในเสียง กระทั่งอาวุโสขอบเขตเซียนสวรรค์ทั้งหลายยังยากทานทน เช่นนั้นศิษย์ของแท่นบูชาพยัคฆ์ขาวที่พลังฝึกปรืออ่อนด้อยก็ย่ำแย่หนักแล้ว! แต่ละคนปรากฏโลหิตไหลออกทวารทั้ง 7!!
ยิ่งไปกว่านั้นทั้งหมดยังอดสะท้านใจสั่นไปไม่ได้ หลังได้ยินเสียงคำรามดังกล่าว เพราะพวกมันจดจำได้ว่านี่เป็นเสียงใคร…
“นี่มันอะไรกัน!? เจ้าของเสียงนี่มิใช่หล่างเชียนจินอาวุโสสูงุสดของลัทธิอารามทมิฬหรอกหรือ?!”
“ดูเหมือนมันกำลังมีโทสะนัก…อย่าได้บอกข้าเชียวนะ ว่ามันกำลังจะสู้กับท่านจ้าวลัทธิ!?”
“สวรรค์! มันเป็นถึงเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยน อันดับ 2 ในรายนามยอดเซียนเชียวนะ! กับอีแค่เสียงคำรามของมันยังทำร้ายศิษย์ของแท่นบูชาพยัคฆ์ขาวเราขนาดนี้! หากลงมือขึ้นมาจริงๆเล่า!!”
“ย่ำแย่แล้ว! เรื่องนี้เลวร้ายยิ่ง! รีบให้เหล่าศิษย์เตรียมการอพยพเร็วเข้า!!”
…
เมื่ออยู่ๆเกิดเรื่องที่ไม่ทันตั้งตัวแบบนี้ขึ้น แท่นบูชาพยัคฆ์ขาวย่อมตื่นตระหนกกันไม่น้อย!!
สำหรับสถานที่อื่นๆ แม้พวกมันจะไม่ต้องทนทุกข์ทรมานจากผลกระทบเหมือนแท่นบูชาพยัคฆ์ขาว แต่ส่วนใหญ่ก็อดไม่ได้ที่จะหวั่นใจ ทั้งหวาดกลัวเมื่อได้ยินเสียงคำรามด้วยโทสะของหล่างเชียนจิน!
“ศิษย์น้องหลิงเทียน…”
สองพี่น้องสกุลหลิวที่ไม่ทราบมารวมตัวกันตั้งแต่เมื่อใด พอได้ยินเสียงคำรามของหล่างเชียนจิน พวกมันก็ยิ่งเป็นห่วงต้วนหลิงเทียนมากขึ้น
“เยี่ยม! อาวุโสสูงสุดลัทธิอารามทมิฬ เจ้าต้องฆ่าตัวบัดซบต้วนหลิงเทียนนั่นให้ได้!!”
เวินเยี่ยนที่อยู่ในเกาะส่วนตัว ถึงกับลุกขึ้นยืนกำหมัดแน่น กล่าววาจาออกมาด้วยน้ำเสียงดุร้าย
“ต้วนหลิงเทียน…คราวนี้เจ้าได้ฉิบหายแน่!”
ภายในแท่นบูชามังกรคราม ปู้หง ที่อาศัยอยู่ในบ้านพักของหลูเถี่ย ก็เต็มไปด้วยความสุขความยินดี ราวกับได้เห็นฉากต้วนหลิงเทียนถูกคนฆ่าตายแล้ว…
ด้านนอกลัทธิบูชาไฟ
“ต้วนหลิงเทียนผู้นี้ คงมิใช่ลูกนอกสมรสของจ้าวลัทธิบูชาไฟจริงๆหรอกนะ?”
จ้าวลัทธิอารามทมิฬที่ยืนอยู่ด้านหลัง หล่างเชียนจิน อดไม่ได้ที่จะสงสัยในเรื่องนี้ขึ้นมาอีกครั้ง…