WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 2257
War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 2257
ตอนที่ 2,257 : ปะทะ 3 นักรบผู้ยิ่งใหญ่!
ปีศาจสุกรนามฉงเจี้ยนั้น หลังจากเห็นโจทย์เก่าถูกต้วนหลิงเทียนฆ่าตาย มันก็เผยสีหน้ายินดีมีสุขไม่น้อย ด้วยคิดว่าหลังจากนี้ชีวิตของมันคงได้สุขสบาย ไร้คืนวันอันน่ารำคาญจากการรังควาญของทั้ง 2 เป็นแน่แท้…
อนิจจามันไม่เคยคิด กระทั่งหลับยังไม่อาจฝันถึง
มันกลับถูกเข่นฆ่าตายตก ก่อนที่จะได้พบพานคืนวันอันดี!
กระทั่งยังตกตายด้วยน้ำมือของเผ่าปีศาจสุกรเหมือนกัน!
ในขณะที่ 1 ใน 3 ปีศาจสุกรเบื้องหน้าลงมือหมายสังหารฉงเจี้ยนั้น แน่นอนว่าต้วนหลิงเทียนมีเวลามากพอจะหยุดอีกฝ่าย
หากแต่เขาไม่ได้ทำแบบนั้น
เพียงเพราะถึงแม้ 3 นักรบผู้ยิ่งใหญ่จะปล่อยฉงเจี้ยไป เขาก็ไม่คิดละเว้นมันแต่แรก!
มันกล้ายืมมีดฆ่าคน อาศัยเขาให้สังหารศัตรูเก่าทั้ง 2! ถึงแม้มันจะว่าง่ายพาเขามาหา 3 นักรบผู้ยิ่งใหญ่จริง แต่วันนี้มันก็ไม่อาจรอดพ้นความตายไปได้!!
เผ่าปีศาจพวกนี้ไม่ทราบเข่นฆ่าสังหารมนุษย์อย่างเขาไปแล้วเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ เขาไหนเลยจะคิดปราณีมัน!
“ไอ้หนูปีศาจมนุษย์เช่นเจ้า กล้าดีอย่างไรถึงได้ล่วงล้ำเข้ามาในอาณาเขตปีศาจสุกรเรา! ดูเหมือนว่าเจ้าจะเบื่อชีวิตมากนักสินะ!?”
1 ใน 3 ปีศาจสุกรที่พึ่งฆ่าฉงเจี้ยไป มองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาเอาเรื่อง กล่าวออกเสียงเหี้ยม!
“เบื่อชีวิต?”
ต้วนหลิงเทียนอดหัวเราะออกมาไม่ได้หลังได้ยินคำของปีศาจสุกรเบื้องหน้า
ต่อมาก็ไม่ทันรอให้อีกฝ่ายตอบสนองสิ่งใด สองตาต้วนหลิงเทียนก็ฉายแววเยียบเย็น รอยยิ้มเย้ยหยันยกแสยะที่มุมปาก “ที่ข้าถ่อมาถึงที่เผ่าปีศาจสุกรนี่ เพราะคิดหาตัวพวกเจ้าทั้ง 3 เป็นพิเศษ…ตอนนี้พวกเจ้าทั้ง 3 ตัวก็ลงนรกตามสหายปีศาจสุกรนั่นไปเถอะ!”
แทบจะพร้อมกันกับที่ต้วนหลิงเทียนกล่าวจบคำ
วู้ม! วู้ม! วู้ม!
……
ในความว่างเปล่าบังเกิดวังวนพลังหนึ่งอุบัติขึ้นจากอากาศเบาบาง เปล่งพลังดูดรั้งอันน่าพรั่นพรึงปานจะกลืนได้ทั้งสวรรค์และโลก!
ยามเมื่อวังวนพลังดูดรั้งรอบกายต้วนหลิงเทียนสำแดงอานุภาพ พลังวิญญาณฟ้าดินโดยรอบก็ถูกกลืนกินจนสาบสูญไปจนหมดสิ้นในพริบตา!
ชั่วพริบตาดุจละอองไฟวาบ พลังเซียนสุริยันต้นกำเนิดของต้วนหลิงเทียนก็พุ่งทะยานขึ้นมาทัดเทียมกับพลังเซียนต้นกำเนิดของตัวตนเซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยน!
กระทั่งระดับพลังยังคงเพิ่มขึ้นไม่หยุด แม้จะเชื่องช้าลงก็ตามที
“โอหัง!”
3 ปีศาจสุกรพลันตะคอกคำออกมาเสียงเย็น
ขณะเดียวกันพวกมันก็ดึงสติกลับมาเตรียมรับมือ
“ปีกอีกาทองคำ!”
ภายใต้สายตามองจ้องของ 3 ปีศาจสุกรที่พึ่งฟื้นสติ ต้วนหลิงเทียนพลันสำแดงเวทย์พลังเสริมเคลื่อนไหวออกมาทันที!
และทันทีที่ปีกเพลิงสีทองดั่งตะวันควบรวมปรากฏ มันก็สะบัดกระพือลงฉับไว!
ทันใดนั้น!
ปง! ปง! ปง! ปง!
……
พร้อมด้วยเสียงอากาศแตกระเบิดสนั่นรัวดั่งกลองศึก ร่างต้วนหลิงเทียนที่ถูกผลักดันด้วยพลังของปีกอีกาทองคำก็ฉากออกไปด้านข้างไกลห่างในพริบตา!
และรอบๆจุดที่เขามาถึงก็เป็นจุดที่ยังมีพลังวิญญาณฟ้าดินบริบูรณ์ ให้เขากลืนกินได้อีก!
“ปฐมเวทย์กลืนกิน!”
ทันใดนั้นต้วนหลิงเทียนก็สูบกลืนพลังวิญญาณฟ้าดินโดยรอบทันที
“บัดซบ! เจ้านั่นมันกำลังใช้เวทย์พลังสนับสนุนกลืนกินพลังวิญญาณฟ้าดินเพื่อเพิ่มพลังเซียนต้นกำเนิดในร่าง!”
ทันใดนั้นไม่ทราบเป็นใคร หากแต่ 1 ใน 3 นักรบผู้ยิ่งใหญ่ของเผ่าปีศาจสุกรได้ตระหนักถึงการกระทำของเขา มันคำรามออกดังลั่นด้วยน้ำเสียงเร่งร้อน!
ทันใดนั้นปีศาจสุกรอีก 2 ตนก็รู้สึกตัว
ในฐานะเซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยน สัมผัสต่อพลังวิญญาณฟ้าดินโดยรอบของพวกมันค่อนข้างไวกว่าคนธรรมดามากนัก จึงค้นพบเรื่องราวของต้วนหลิงเทียนทันที!
อยู่ดีๆพลังวิญญาณฟ้าดินโดยรอบก็สาบสูญ!
ราวกับมีบางสิ่งสูบกลืนจนหายไป!
“ฆ่ามัน!!”
3 นักรบผู้ยิ่งใหญ่ตะโกนออกลั่นฟ้า
กระแสจิตเชื่อมใจของ 3 แฝดสื่อถึงกันในพริบตา สิ้นคำร่างทั้ง 3 ก็โจนทะยานจี้เข้าใส่ต้วนหลิงเทียน!
ซู่ม! ซู่ม! ซู่ม!
ความเร็วของพวกมันนับว่ารวดเร็วฉับไวนัก มองจากที่ไกลๆเสมือนดั่งลำแสง 3 สายพุ่งยิงเข้าใส่ต้วนหลิงเทียน!
หากแต่แม้ความเร็วของทั้ง 3 จะฉับไวไม่ใช่ชั่ว แต่ก็เพียงเทียบได้กับความเร็วในการเคลื่อนที่ของต้วนหลิงเทียนเท่านั้น!
กระทั่งแม้พวกมันจะปะทุพลังใช้ออกด้วยเวทย์พลังเสริมเคลื่อนไหวที่ต่างเชี่ยวชาญกันแล้ว หากแต่ยังไม่อาจมีเปรียบต้วนหลิงเทียนในด้านความเร็ว!
สุดท้ายต้วนหลิงเทียนก็ดั่งมัจฉาท่องคลื่น พลิ้วร่างวูบไปวูบมาหลายตำแหน่ง กลืนกินพลังวิญญาณฟ้าดินอย่างไม่หยุดยั้ง แม้พลังเซียนสุริยันต้นกำเนิดของเขาจะยังไม่บรรลุถึงขอบเขตเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยน แต่ก็ขาดอีกไม่ไกลแล้ว!
“ปฐมเวทย์กลืนกิน!”
หลังกลืนกินพลังวิญญาณฟ้าดินในอีกที่หนึ่งจนหมดสิ้น ต้วนหลิงเทียนก็ฉากร่างไปกลืนกินยังจุดอื่นต่อ!
“ปฐมเวทย์กลืนกิน!”
เปลี่ยนที่!
“ปฐมเวทย์กลืนกิน!”
เปลี่ยนที่!
……
“บัดซบ! ระดับพลังเซียนต้นกำเนิดของมันจะเพิ่มไปถึงไหนกัน!?!”
เมื่อพบว่าพลังเซียนสุริยันต้นกำเนิดในร่างต้วนหลิงเทียนยิ่งมายิ่งมาก ความเร็วก็ย่อมเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน 1 ใน 3 ปีศาจสุกรหน้าเสียไปไม่น้อย ขณะที่คำรามออกมาเสียงดังในน้ำเสียงยังฉายถึงความร้อนใจ!
แน่นอน…
อีก 2 ตนก็หน้าเสียไปไม่ต่าง เมื่อพบว่าระดับพลังในร่างต้วนหลิงเทียนยังคงเพิ่มพูนขึ้นไม่หยุดยั้ง!
และตอนนี้เองปีศาจสุกรแฝด 3 ก็พลันตระหนักถึงความผิดปกติบางสิ่ง!
ทันใดนั้นเอง…
“ในที่สุด!!”
หลังจากฉากร่างย้ายตำแหน่งไปไม่หยุดยั้ง กลืนกินพลังวิญญาณฟ้าดินอย่างตะกละตะกราม พลังเซียนสุริยันต้นกำเนิดในร่างต้วนหลิงเทียน ก็อยู่ในระดับที่ทัดเทียมกับพลังเซียนต้นกำเนิดของตัวตนขอบเขตเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนเป็นที่เรียบร้อย! อารมณ์ยังฮึกเหิมขึ้นมามากโข!!
ตอนนี้พลังเซียนสุริยันต้นกำเนิดในร่างเขา ได้บดขยี้พลังเซียนต้นกำเนิดของ 3 ปีศาจสุกรทุกทาง!
‘ได้ยินคำร่ำลือมานานว่า 3 นักรบผู้ยิ่งใหญ่ของเผ่าปีศาจสุกรยามรวมพลัง พวกกมันเทียบได้กับตัวตนเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยน…วันนี้ให้ข้าดูชมหน่อยเถอะ’
เมื่อพลังเซียนสุริยันต้นกำเนิดในร่างบรรลุถึงขอบเขตเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยน ในใจต้วนหลิงเทียนก็บังเกิดความเชื่อมั่นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ร่างหยุดลงทั้งหันมาเผชิญหน้ากับปีศาจสุกรทั้ง 3 ทันที!
“ปีกอีกาทองคำ!”
ด้วยตอนนี้พลังเซียนสุริยันต้นกำเนิดในร่างต้วนหลิงเทียนเทียบได้กับพลังของเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยน ยามเร่งเร้าใช้ออกด้วยปีกอีกาทองคำอีกครั้ง ความเร็วย่อมเพิ่มขึ้นเป็นธรรมชาติ! กระทั่งบัดนี้ยังเหนือกว่าความเร็วสูงสุดของ 3 ปีศาจสุกรถึง 2 เท่า!
“ระยำ! เซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนจริงๆ!!”
เห็นต้วนหลิงเทียนหันกลับมาโจนทะยานจี้เข้าใส่แบบนี้ สีหน้าปีศาจสุกรทั้ง 3 แปรเปลี่ยนไปทันที!
อีกทั้งตอนนี้เพียงพวกมันมองจากความเร็วของชายหนุ่มเผ่าปีศาจมนุษย์เบื้องหน้า พวกมันก็ตระหนักได้จากกลิ่นอายพลังบนร่างอีกฝ่าย…
ว่าบัดนี้ปีศาจมนุษย์ตนนี้ ระดับพลังได้แตะถึงขอบเขตเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนแล้ว!
นอกจากนั้นความเร็วยังเทียบได้กับยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยน!
ห่างไกลเกินกว่าที่พวกมันจะเทียบได้!
“กางม่านพลังป้องกันเร็วเข้า! รอให้เวทย์พลังสนับสนุนของมันสิ้นระยะเวลาแสดงผลก่อน ค่อยลงมือฆ่ามัน!”
ขณะเดียวกัน 3 ปีศาจสุกรก็หยุดร่างลงกลางหาวอย่างพร้อมเพรียง
และแทบจะทันทีที่พวกมันหยุดลง
ไอมารทั่วร่างของมันก็เริ่มผสานหลอมรวมเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์ นอกจากนั้นพลังเซียนต้นกำเนิดของพวกมันก็หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันในพริบตา ร่างสุกร 2 หมี่แต่ละตน ปลดปล่อยพลังออกมาพร้อมเพรียง ก่อเกิดเป็นม่านพลังทรงกลมสีดำหนึ่ง!
และหากมองใกล้ๆจะพบว่า…
บริเวณผิวหน้าของม่านพลังทรงกลมสีมืดนี้ มีอัสนีสีแดงเลือดแล่นวาบแปลบปลาบ!
ทุกคราที่อัสนีแล่นวาบแปลบปลาบ ไอมารอันน่าพรั่นพรึงพลันกำจายออกมาในบรรยากาศ!
ในห้วงเวลาสำคัญ 3 แฝดเผ่าปีศาจสุกรไม่คิดปะทะแตกหัก กลับเลือกป้องกันตัวเป็นสิ่งแรก!
และในฐานะพี่น้องฝาแฝด ทั้ง 3 ดั่งจะเชื่อมจิตประสานใจ ใช้ออกด้วยวรยุทธ์เซียนทั้งเวทย์พลังสายป้องกันออกมาเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว พลังป้องกันเรียกว่าเพิ่มพูนเป็นทบเท่าทวี! สามารถต้านรับพลังทำลายของเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนได้อย่างหมดจดในชั่วระยะเวลาหนึ่ง!!
เว้นเสียแต่จะเป็นเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนที่เจียนรับหายนะทัณฑ์สวรรค์…
หาไม่แล้วเป็นไปไม่ได้เลยที่เซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนธรรมดาจะสามารถทลายฝ่าม่านพลังป้องกัน 3 ประสานของพวกมันได้ในเวลาอันสั้น!
ในความคิดของพวกมัน…
ชายหนุ่มเผ่าปีศาจมนุษย์เบื้องหน้าแม้พลังในร่างจะเทียบได้กับเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยน แต่ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นเพราะเวทย์พลังสนับสนุนส่งเสริมทั้งสิ้น!
ขอเพียงเวทย์พลังดังกล่าวของอีกฝ่ายสิ้นสุดระยะเววลาสำแดงเดช พลังย่อมตกฮวบลงไปเหมือนตอนแรก!
ถึงตอนนั้นพวกมันจะลงมือเข่นฆ่าเสียให้ตาย!
“บัดซบ! ข้าไม่อยากจะเชื่อเลยว่าไอ้เจ้าหนูเผ่าปีศาจผู้นี้กลับมีเวทย์พลังผีสางที่ยกระดับพลังให้ถึงขั้นเทียบได้กับเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนได้จริงๆ!”
แม้ปีศาจสุกรแฝด 3 จะมั่นใจในม่านพลังป้องกัน 3 ประสาน หากแต่พวกมันก็อดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจเพราะเรื่องนี้
“เฮอะ! ตราบใดที่พวกเราต้านทานรับคลื่นการโจมตีของมัน จนเวทย์พลังมันสิ้นอานุภาพได้เมื่อไหร่ สารเลวนี่ยังต่างใดจากปลาบนเขียงให้พวกเราแล่สับ?”
“ตอนนี้มันเต็มที่ก็แค่มีพลังทัดเทียมกับเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนทั่วไป ย่อมเป็นไปมิได้ที่จะฝ่าม่านพลังป้องกันของพวกเราได้ในเวลาสั้นๆ!”
……
เห็นชัดว่า 3 นักรบผู้ยิ่งใหญ่แห่งเผ่าสุกร มั่นใจในพลังป้องกันของพวกมันนัก
“น่าสนใจดีนี่…”
เมื่อเห็นว่า 3 ปีศาจหัวหมูผนึกกำลังสร้างม่านพลังป้องกัน ต้วนหลิงเทียนที่ห้อตะบึงจี้เข้าใส่พวกมันทั้ง 3 ก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ค่อยหยิบกระบี่พันอาคมเซียนออกมา
“เซียนอมตะข้ามภพ!”
“ใจกระบี่เหิน!”
พริบตาต่อมาต้วนหลิงเทียนพลันปะทุกระบวนท่าจู่โจมที่รุนแรงที่สุดออกมา!
เวทย์พลังจู่โจมขั้นสูงสำแดงพลังอำนาจ! ยังผสานไปด้วยสำนึกพลังกระบี่อันลึกล้ำจากขั้นที่ 3 ของยอดใจกกระบี่!!
ร่างต้วนหลิงเทียนที่โจนทะยานเข้ามากลับกลายเป็นเงาเลือนวูบหนึ่งก็แตกตัวออกเป็นร่างแยกกหลายร่าง
ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ!
……
ร่างแยกแต่ละร่างที่ถือไว้ด้วยกระบี่พันอาคมเซียน พลันใช้ออกด้วยเคล็ดกระบี่อยู่ที่ใจ ควบคุมกระบี่บินให้เหินพุ่งออกไปประหนึ่งมีชีวิต! กระบี่แต่ละเล่มอัดแน่นไว้ด้วยพลังเซียนสุริยันต้นกำเนิดจนเปลงแสงสีทองสว่างจ้า!!
กระบี่พันอาคมเซียนแต่ละเล่มที่บึ่งทะยานออกไปฉับไว ส่งเสียงหอนกรีดอากาศแผ่วเบา มองไปดั่งลำแสงทองพุ่งตัดฟ้า สภาวะประหนึ่งจะทะลวงได้ทุกสิ่งอย่าง!
“กระบี่ไวอะไร!?”
“พลังกล้าแข็งยิ่ง!”
ขณะเดียวกันด้านแฝดปีศาจสุกรทั้ง 3 ก็ตระหนักได้ถึงพลังอำนาจของกระบี่บินแต่ละเล่มที่พุ่งทะยานเข้ามา
ในสายตาของพวกมัน กระบี่บินทั้งหลายสร้างความตื่นตระหนกครั้งใหญ่ให้พวกมันแล้วจริงๆ!
พริบตา กระบี่จากร่างแยกรวมถึงร่างจริงของต้วนหลิงเทียนก็พุ่งปะทะเข้าม่านพลัง 3 ประสานในจุดเดียว! รวมศูนย์พลังจู่โจมหมายทะลวงฝ่าม่านพลังสีมืดในคราเดียว!
เปรี๊ยง! เปรี๊ยง! เปรี๊ยง! เปรี๊ยง!
……
เสียงระเบิดของพลังดังสนั่นประหนึ่งฟ้าถล่ม พื้นใต้เท้าเบื้องล่างยังสะเทือนไปปานแผ่นดินไหว!
แต่ละกระบี่ที่ต้วนหลิงเทียนจู่โจมออก ปะทะเข้าม่านพลังสีมืดอย่างรุนแรง ยังผลให้ม่านพลังของพวกมันกระเพื่อมสั่นไหวไปโย้ไปเย้มา!
มองไปยังคล้ายหยาดพิรุณกระหน่ำลงผิวทะเลสาบอันเงียบสงบอยู่บ้าง!