WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 2260
War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 2260
ตอนที่ 2,260 : ความน่าพรั่นพรึงของหายนะทัณฑ์สวรรค์!
เปรี๊ยง! เปรี๊ยง! เปรี๊ยง!!
…
ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนกำลังสับสนงุนงง เหนือขึ้นไปบนฟ้า…เสียงอัสนีแลบลั่นฟาดผ่าก็ดังขึ้นถี่รัวไม่หยุด!
ในสายตาของต้วนหลิงเทียน บนฟ้าสูงยามนี้เมฆดำทะมึนได้รวมตัวเป็นแพหนากว้างใหญ่ไพศาล พาลให้ผู้คนรู้สึกเสมือนเมฆมืดแผ่มาปกคลุมไปทั่วเมือง…
ราวกับวันแห่งจุดจบกำลังใกล้เข้ามา…
ท่ามกลางเมฆหมอกดำทะมึนนั่น ไม่เพียงแต่อัสนีม่วงยังเพิ่มจำนวนแลบลั่นไม่หยุดยั้ง กระทั่งเส้นสายอัสนีแต่ละเส้นยังเริ่มหนา ให้ความรู้สึกถึงพลังอำนาจที่เหนือชั้นขึ้นเรื่อยๆ
หากจะบอกว่าก่อนหน้ามันแลคล้ายอสรพิษสีม่วงล่ะก็…
เช่นนั้นอัสนีสีม่วงยามนี้ก็ประหนึ่งงูหลามตัวเขื่อง!
งูหลามสีม่วงตัวเขื่องเลื้อยขนดไปมาท่ามกลางเมฆดำทะมึน บางคราวก็พุ่งลงมาเย้ยฟ้าก่อนจะวูบหายเข้ามวลเมฆ ราวกับจะอวดอ้างพลังอำนาจต่อปุถุชนตัวกระจ้อยเบื้องล่าง..
“หายนะทัณฑ์สวรรค์นี่…พลังของมันไม่ใช่เล่นๆแล้ว…”
ถึงแม้ว่าทัณฑ์สวรรค์เบื้องหน้าจะยังไม่ชัดเจนด้วยก่อตัวไม่ถึงขีดสุด หากแต่ต้วนหลิงเทียนก็ประมาณพลังอำนาจทำลายของมันได้คร่าวๆ
ห่างไกลกว่าที่หายนะทัณฑ์สวรรค์หกเก้าที่เขาเคยประสบมาจะเทียบเทียมได้นัก!
หากจะเปรียบเทียบกันจริงๆ หนึ่งเสมือนธุลีดินไร้สำคัญ อีกหนึ่งดั่งผืนฟ้าสุดไพศาล!
ต่างกันราวฟ้ากับดิน!
“หากไม่ใช่ทัณฑ์สวรรค์ก่อเกิดเพราะเรื่องทะลวงถึงเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยน…เช่นนั้นก็เหลือความเป็นไปได้เพียงประการเดียวเท่านั้น…”
ทันใดนั้นในหัวต้วนหลิงเทียนปรากฏแสงความคิดสว่างวาบ
“รากวิญญาณสีดำ!”
ต้วนหลิงเทียนย่อมตระหนักได้ ว่าที่ฟ้าเปลี่ยนไปเป็นวิปริตแปรปรวน เมฆหายนะทัณฑ์สวรรค์ก่อตัวนั้น มันบังเกิดขึ้นหลังจากที่พรสวรรค์รากวิญญาณของเขากลับกลายเป็นรากวิญญาณสีดำ!
บางที่สิ่งนี้อาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญ!
‘รากวิญญาณสีดำ…จะว่าไปมันก็เป็นดั่งพรสวรรค์รากวิญญาณฝืนฟ้า…หรือเพราะการที่ข้ายกระดับพรสวรรค์รากวิญญาณให้กลายเป็นรากวิญญาณสีดำจะทำให้สวรรค์พิโรธ จนชักนำหายนะทัณฑ์สวรรค์ลงมาจริงๆ…’
ยิ่งคิดถึงเรื่องนี้มาเท่าไหร่ ต้วนหลิงเทียนก็ยิ่งมั่นใจมากขึ้นเท่านั้น
ขณะนั้นเองต้วนหลิงเทียนก็สะบัดมือเก็บตราผนึกมารที่ไม่ทราบกลับมาลอยใกล้ๆเขาตอนไหนกลับคืน ค่อยแหงนมองไปยังเมฆดำทะมึนเบื้องบน จับจ้องไปยังเส้นสายอัสนีสีม่วงดังงูหลามตัวเขื่องที่แลบลั่นแปลบปลาบไม่วางตา
‘ไม่รู้…ว่าพลังของหายนะทัณฑ์สวรรค์คราวนี้จะร้ายกาจขนาดไหน?’
สีหน้าท่าทีต้วนหลิงเทียนอดขึงขังทั้งตึงเครียดขึ้นมาไม่ได้เมื่อเผชิญหน้ากับหายนะทัณฑ์สวรรค์ที่กำลังใกล้เข้ามา
เพราะสุดท้ายแล้วสำหรับเขา หายนะทัณฑ์สวรรค์ที่กำลังก่อตัวขึ้นตรงหน้า ก็เป็นอะไรที่เขาไม่รู้จักมันเลย!
สิ่งที่ไม่รู้ย่อมน่ากลัวที่สุด!
หลังเฝ้ารอด้วยความหวาดกลัว ในที่สุดต้วนหลิงเทียนก็เห็นว่าเมฆหายนะได้ก่อตัวแล้วเสร็จ
แน่นอนว่าต้วนหลิงเทียนไม่คิดหลบหนีไปที่ใดให้วุ่นวาย เพราะหากนี่เป็นหายนะทัณฑ์สวรรค์ที่เขาชักนำมาจริง ต่อให้จะทะยานไปสุดหล้าฟ้าเขียว เมฆหายนะเบื้องบนก็จะไล่ตามเขาไป
พยายามหนีให้ตาย ก็หนีไม่พ้น!
เช่นนั้นเขาก็ทำได้แค่เฝ้ารอให้หายนะมันก่อเกิดเท่านั้น!
หลังจากที่ทัณฑ์อัสนีเริ่มก่อตัว จำนวนเมฆดำทะมึนบนฟ้าก็ไม่เพิ่มขึ้นอีกต่อไป หากแต่ยามนี้สายฟ้าที่แลคล้ายงูหลามสีม่วงตัวเขื่องคล้ายจะทวีความเกรี้ยวกราดมากยิ่งขึ้น
เปรี๊ยง! เปรี๊ยง! เปรี๊ยง! เปรี๊ยง!
…
ขณะเดียวกันเสียงอัสนีฟาดผ่ารุนแรงอย่างที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน ก็เริ่มดังถี่ขึ้นเรื่อยๆ
จากนั้นทันทีที่สิ้นเสียงอัสนีฟาดผ่าอันถี่ราวประทัด…
‘มันมาแล้ว!!’
ราว 2 เค่อต่อมาต้วนหลิงเทียนที่ยังคงจับจ้องมองไปบนฟ้าอย่างไม่วางตา ลูกตาเขาก็เริ่มหดหยีลงเมื่อเห็นความเปลี่ยนแปลงบนเมฆทะมึน
แทบจะทันทีที่เขาคิดจบ
หายนะทัณฑ์สวรรค์ที่ก่อตัวมานาน ในที่สุดก็เผยให้เห็นเขี้ยวเล็บเสียที!
เปรี๊ยงงง!!!
เสียงดังสะท้านแดนดินกระทั่งพาลให้ปฐพีสั่นไหว ก็สนั่นก้องลงมาจากนภาลัยเบื้องบนประหนึ่งเสียงคำรามของเทพเจ้าสายฟ้า!
ยามนี้ปฐพีโดยรอบสั่นสะท้านอย่างแรงประหนึ่งบังเกิดแผ่นดินไหว!
ซุ่มมมม!!
นอกจากเสียงดังสนั่นลั่นหล้าแล้ว อัสนีสีม่วงเส้นเขื่องเท่าตัวเด็ก ก็ฟาดผ่าลงมาจากฟากฟ้า เล็งจี้ไปยังร่างต้วนหลิงเทียน!
ทัณฑ์สวรรค์เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ!
“ปฐมเวทย์กลืนกิน!!”
“ปีกอีกาทองคำ!!”
เผชิญกับอัสนีลงทัณฑ์สายแรก ต้วนหลิงเทียนย่อมไม่คิดนั่งรอความตาย เลือกที่จะใช้ออกด้วยเวทย์พลังที่มี!
เมื่อใช้ปฐมเวทย์กลืนกินดูดกลืนพลังวิญญาณฟ้าดินโดยรอบ เพื่อยกระดับพลังเซียนสุริยันต้นกำเนิดให้เทียบได้กับเซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยน ต้วนหลิงเทียนก็ใช้ออกด้วยปีกอีกาทองคำ หมายหลบเลี่ยงอัสนีที่ฟาดผ่าลงมา!
ถึงแม้อัสนีทัณฑ์สายแรกจะไม่ได้ทำให้เขารู้สึกถึงอันตรายมากมายอะไร แต่หากเขาหลีกเลี่ยงมันได้ ก็เป็นการดีกว่าที่เขาจะหลบมัน!
ในฐานะผู้ที่ผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์หกเก้ามาก่อน ต้วนหลิงเทียนย่อมรู้ดีเป็นธรรมดาว่าอัสนีลงทัณฑ์สายต่อไปจะแข็งแกร่งรุนแรงยิ่งกว่าก่อนหน้า
เช่นนั้นหากเขาสามารถรักษาพลังรวมถึงความแข็งแกร่งของร่างกายไว้ได้ เขาก็ยินดีที่จะกระทำ!เพื่อรับมืออัสนีทัณฑ์สายหลังๆ!!
กล่าวได้ว่าพลังเซียนสุริยันต้นกำเนิดที่ใช้ไปกับเวทย์พลังเสริมท่าร่าง มันน้อยกว่าที่จะนำไปใช้กับการจู่โจมทำลายสายฟ้าโดยตรง!
ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!
…
ต้วนหลิงเทียนที่ใช้ออกด้วยปีกอีกาทองคำ ดั่งวิหกว่องไว พุ่งร่างไปมาหมายหลีกหลบอัสนีลงทัณฑ์ที่ฟาดผ่า!
อย่างไรก็ตามสายฟ้าสวรรค์คล้ายมีดวงตางอกเงยก็ไม่ปาน
ไม่ว่าเขาจะพุ่งร่างวูบไปที่ใด มันก็หักเลี้ยวไล่จี้เข้าใส่เขาไปทุกที่!
ราวกับหากมันไม่อาจฟาดผ่าลงร่างต้วนหลิงเทียนได้มันจะไม่หยุด
“บ้าจริง…ดูเหมือนข้าจะหลบมันไม่ได้สินะ…”
จังหวะนี้ต้วนหลิงเทียนย่อมตระหนักได้ว่าเขาไม่อาจหลบเลี่ยงอัสนีฟ้าได้ ทำให้เขาหยุดร่างลงไม่คิดหลบหนีสืบไป
หลังจากหยุดร่างลง มือต้วนหลิงเทีนนก็ยกขึ้น เร่งเร้าพลังเซียนสุริยันให้ควบแน่นเบื้องหน้า
พริบตามวลพลังก็กลายเป็นกระบี่พลัง 3 ฉื่อ!
“ใจกระบี่เหิน!”
ทันทีที่กระบี่พลัง 3 ฉื่อควบแน่นจนมีสภาพ ต้วนหลิงเทียนก็จี้มือออกไปตามอำเภอใจ กระบี่พลังมีสภาพพลันวูบหายไปในอากกาศว่างเปล่า ยังอันตรธานหายไปอย่างไร้ซึ่งร่องรอย!
ฟั่ฟฟฟฟ!
ทันใดนั้นเสียงหอนของกระบี่แหวกอากาศฉับไวก็ลั่นดังขึ้นในอากาศ พริบตาก็เห็นเป็นประกายแสงสายหนึ่งสว่างวาบจี้เข้าใส่อัสนีสวรรค์อันน่ากลัว!
เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ!
…
ยามเมื่อกระบี่พลังที่ฉับไวจนเป็นดั่งประกายแสงปะทะเข้ากับเส้นสายอัสนีลงทัณฑ์ พวกมันก็ไม่ส่งเสียงระเบิดดังอะไร หากแต่บังเกิดเสียงการปะทะกันของพลังแหลมสูง พาลให้ผู้คนที่ได้ยินอดเจ็บแก้วหูไม่ได้!
ไม่ต้องสงสัยเลย อัสนีลงทัณฑ์นั้นทรงพลังนัก!
ถึงแม้ที่ต้วนหลิงเทียนกำลังเผชิญหน้าอยู่จะเป็นแค่อัสนีลงทัณฑ์สายแรก แต่พลังทำลายของมันก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าการโจมตีสุดตัวของเซียนสวรรค์ 6เปลี่ยนแม้แต่น้อย!
ทว่าอาศัยพลังอำนาจของเซียนสวรรค์ 6 เปลี่ยน ต่อหน้าต้วนหลิงเทียนตอนนี้ก็ไม่คู่ควรให้กล่าวถึง!
กระบี่พลัง 3 ฉื่อที่ควบแน่นจากพลังเซียนสุริยันต้นกำเนิด ทั้งใช้ออกด้วยเคล็ดกระบี่อยู่ที่ใจ อันเป็นขอบเขตที่ 3 ของยอดใจกระบี่ ก็สามารถทำลายอัสนีลงทัณฑ์สายแรกได้อย่างง่ายดาย พลังอำนาจยังเหนือชั้นกว่ากันอย่างทาบไม่ติด!
กระบี่แสงพุ่งทะลวงแหวกอัสนีลงทัณฑ์สายแรก ทำลายมันลงได้อย่างสิ้นซาก!
อัสนีลงทัณฑ์สายแรก ก็จบลงไปเช่นนั้น…
อย่างไรก็ตาม แม้จะทำลายอัสนีลงทัณฑ์สายแรกไปได้ สีหน้าต้วนหลิงเทียนก็หาได้มีความยินดีฉายอยู่ไม่ กลับจริงจังขรึมเคร่งนัก
“เพียงอัสนีลงทัณฑ์สายแรกกก็มีพลังทัดเทียมกับการลงมือสุดตัวของยอดฝีมือเซียนสวรรค์ 6 เปลี่ยนเข้าไปแล้ว…ถ้างั้นอัสนีลงทัณฑ์สายที่สองไม่ทัดเทียมกับพลังของเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยนเลยหรือไง…”
“ซ้ำนั่นยังแค่สายที่ 2 เท่านั้น…สายฟ้าเส้นหลังๆยังจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ข้าจะรับมันได้ทั้งหมดแน่เหรอ?”
พึมพำถึงจุดนี้ไม่เพียงแต่สีหน้าต้วนหลิงเทียนจะเคร่งขรึมจริงจัง แววตายังฉายชัดถึงความกังวลล้นปรี่
เปรี๊ยง! เปรี๊ยง! เปรี๊ยง! เปรี๊ยง!
…
สูงขึ้นไปบนฟ้า เสียงอัสนียังคงสนั่นลั่นฟ้าดิน สภาวะพลังยิ่งมายิ่งน่าเกรงขาม
เปรี๊ยงงงงงง!!
ทันใดนั้นเสียงอัสนีระเบิดผ่าดังสนั่นลั่นหล้าพลันอุบัติขึ้นอีกครั้ง!
พร้อมกับเสียงที่กังวาลสะท้านใจ อัสนีลงทัณฑ์สายที่ 2 พลันฟาดผ่าลงมาจากฟากฟ้าสู่แดนดิน!
อีกทั้ง อัสนีลงทัณฑ์สายที่ 2 นี้…ยังมีความรุนแรงยิ่กว่าสายแรกมากนัก!
อดีตหนาเท่าเด็กน้อย
อย่างหลังกลับหนาทัดเทียมกับสตรีแรกกรุ่น!
แถมไม่ว่าจะความเร็วหรือความแรงก็เหนือล้ำเกินกว่าสายแรก!
“ใจกระบี่เหิน!!”
ต้วนหลิงเทียนยกมือขึ้นผนึกพลังเซียนสุริยันต้นกำเนิด ควบแน่นก่อเกิดกระบี่พลัง 3 ฉื่ออีกครา จากนั้นก็ลงมือจู่โจมออกเช่นเดิมหมายทำลายอัสนีทัณฑ์ฟ้าสายที่ 2!
อย่างไรก็ตามครานี้ กระบี่พลังเหินบินของเขากับอัสนีฟ้ากลับมีพลังอำนาจทัดเทียมกัน ยากแยะแยะผลลัพธ์ได้!
ครู่ต่อมาแม้กระบี่พลังของเขาจะสิ้นอานุภาพไปแล้ว หากแต่อัสนีทัณฑ์สวรรค์กลับยังหลงเหลือพลังอำนาจ ฟาดผ่าเข่นฆ่าลงมาที่เขาสืบต่อ!!
สภาวะสายฟ้ายังคงไว้ซึ่งความเกรี้ยวกราด ปานจะผ่าทำลายได้ทุกสิ่ง!
‘พลังของอัสนีลงทัณฑ์สายที่ 2 เทียบได้กับการลงมือเต็มกำลังของเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยนทั่วๆไป!’
ทันใดนั้นสีหน้าท่าทางของต้วนหลิงเทียนก็ยิ่งจริงจังมากขึ้น
ถึงแม้เขาจะไม่ได้ดูเบาอัสนีสายที่ 2 แต่แรก ทว่าอย่างไรกระบี่ที่เกิดจากพลังเซียนสุริยันต้นกำเนิดนั้น ก็เทียบได้กับการโจมตีของเซียนสวรรค์ 8เปลี่ยน!
กระนั้นมันยังไม่อาจหยุดยั้งอัสนีลงทัณฑ์สายที่ 2!
ถึงแม้ว่ากระบี่พลังนั่น จะไม่ใช่พลังทั้งหมดของเขาก็ตามที…
อย่างไรก็ตามพลังของอัสนีลงทัณฑ์สายที่ 2 ก็ทำให้ต้วนหลิงเทียนต้องตกใจยังตกใจไม่น้อย!
วู้มม!!
ต้วนหลิงเทียนที่เผชิญหน้ากกับอัสนีลงทัณฑ์สายที่ 2ที่ฟาดผ่าลงมาด้วยสภาวะดุร้าย แม้ตกใจแต่ไม่ได้แตกตื่น เพียงยกมือขึ้น พลังเซียนสุริยันต้นกำเนิดจากไหลเชี่ยวผ่านชีพจรเซียน 99 สาย รวมรั้งควบแน่นก่อเกิดเป็นกระบี่พลัง 3 ฉื่ออีกเล่มฉับไว!
ฟั่ฟฟฟ!!
แม้รูปแบบการลงมือจะยังคงเดิม หากแต่กระบี่พลัง 3 ฉื่อครานี้ประหนึ่งได้รับอำนาจหนุนเสริมจากทวยเทพก็ไม่ปาน!
ไม่ว่าจะพลังหรือความเร็วล้วนเหนือชั้นกว่าเดิมหนึ่งขีดขั้น!
รอบนี้ต้วนหลิงเทียนได้ใช้พลังทั้งหมด!
แน่นอนว่าผลลัพธ์ย่อมต่างไปจากเดิม
กระบี่พลังครานี้สามารถทำลายอัสนีลงทัณฑ์สายที่ 2 ลงได้!
หลังจากอัสนีลงทัณฑ์สายที่ 2 ไม่นานอัสนีลงทัณฑ์สายที่ 3 ก็หล่นฟ้าฟาดมาน่าพรั่นพรึง!
และพลังอำนาจทำลายล้างที่ปะทุออกมา ก็เทียบได้กับการลงมือเต็มกำลังของเซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยนทั่วไป!
ต้วนหลิงเทียนเลือกที่จะหยิบกระบี่พันอาคมเซียนออกมา เพื่อทำลายอัสนีลงทัณฑ์สายที่ 3
อัสนีลงทัณฑ์สายที่ 4 ที่ฟาดลง พลังอำนาจทัดเทียมกับเซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยนชนชั้นยอดฝีมือ!
และคราวนี้ก่อนที่จะปะทะกับอัสนีฟ้า ต้วนหลิงเทียนได้เหินบินย้ายที่เพื่อใช้ปฐมเวทย์กลืนกินดูดซับพลังวิญญาณฟ้าดินไม่กี่ที่ เร่งเร้าพลังเพื่อต้านทานอัสนีทัณฑ์สายที่ 4!
เปรี๊ยงงงงง!!
เสียงฟ้าผ่าสนั่นล่นหล้าปรากฏอีกครา เป็นอัสนีทัณฑ์สายที่ 5 แหวกฟ้าลงมาอย่างน่าเกรงขาม!
“อัสนีทัณฑ์สายนี้กลับเทียบได้กับการลงมือเต็มกำลังของเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนทั่วไป! ให้ข้าลงมือเต็มกำลังก็ไม่แน่ว่าจะต้านทานได้ไหว!”
สัมผัสได้ถึงพลังอำนาจทำลายล้างของอัสนีทัณฑ์สวรรค์สายที่ 5 สีหน้าต้วนหลิงเทียนก็มืดดำคล้ำลง
เพราะอัสนีทัณฑ์สายนี้ เขาแทบทานรับมันไม่ไหว!
แล้วอัสนีลงทัณฑ์สายต่อไปเขาจะรับมือมันยังไง?