WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 2270
War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 2270
ตอนที่ 2,270 : เจอโจทย์!!
“ปะ…เป็นไปได้อย่างไร!?”
“อะ…อาวุโสเฉินตง ยอดฝีมือเซียนสวรรค์ 7เปลี่ยน…เพียงพริบตา กลับถูกมันฆ่าอย่างไร้หนทางต่อต้าน?”
“ก่อนลงมืออาวุโสเฉินตงกล่าวไว้ว่าจะฆ่าเจ้าหนุ่มชุดม่วงในกระบวนท่าเดียว…ทว่าผลลัพธ์กลับเป็นอาวุโสเฉินตกถูกเจ้าหนุ่มนั่นใช้ออกด้วยกระบวนท่าพิสดารหนึ่ง กับกระบี่อีกเล่มหนึ่งสังหาร…”
“นั่นมันทักษะอันใดกันแน่…เจ้าหนุ่มชุดม่วงมันจะร้ายกาจเกินไปแล้ว!!”
“เหอๆ…ฆ่ายอดเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยนได้ง่ายดายราวตัดหญ้าฆ่าไก่ ชายหนุ่มชุดม่วงผู้นี้ ยังมิใช่ยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยนกระทั่งเหนือกว่านั้นอีกหรือ?”
……
เหล่าศิษย์วังเซียนสัญจรในหน่วยลาดตระเวนทั้งหลาย ยามนี้พอมองต้วนหลิงเทียนอีกครั้ง ในแววตาคงเหลือแต่ความหวาดกลัวสุดขีด
มีบางคนถึงขั้นเอื้อมมือไปบิดเหนือต้นขาดูว่าเจ็บปวดหรือไม่ ราวกับกำลังจะตรวจสอบว่าเรื่องราวเบื้องหน้าเป็นความจริงหรือฝันไป…
“เจ้าหนุ่มนั่น…ร้ายกาจถึงขั้นนี้เชียวหรือ?”
ผู้นำหน่วยลาดตระเวนของวังเซียนสัญจรวัยกลางคนนาม ติงเจี้ยนหง ตอนแรกก็คิดว่าชายหนุ่มชุดม่วงเบื้องหน้าต้องตายแน่แท้ กระทั่งยังคิดว่าคงถูกเฉินตงเข่นฆ่าจนไม่เหลือแม้แต่ขี้เถ้า…
อนิจจาความเป็นจริงตรงหน้ากลับทำให้มันเสมือนต้องถูกอัสนียามแล้ง!
เป็นการเข่นฆ่าอยู่ฝ่ายเดียว ยังเข่นฆ่าจนไม่เหลือแม้แต่ซากจริงๆ!!
เพียงแต่ผู้ที่ตกตายหาใช่ชายหนุ่มในชุดสีม่วงไม่!กลับเป็นเฉินตง อาวุโสวังเซียนสัญจรพลังฝึกปรือขอบเขตเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยนที่ริเริ่มลงมือจู่โจมเข้าใส่ชายหนุ่มชุดม่วงก่อน!!
ติงเจี้ยนหงไม่เคยคิดเคยฝันเลย
ว่าชายหนุ่มชุดม่วงเบื้องหน้าจะทรงพลังร้ายกาจถึงขั้นนี้
“มันมิใช่เซียนสวรรค์ 5 เปลี่ยนหรือเซียนสวรรค์ 6เปลี่ยนอันใด…หากแต่เป็นยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยน!!”
จังหวะนี้ติงเจี้ยนหงย่อมตระหนักถึงเรื่องราวได้กระจ่าง
และไม่ใช่แค่ติงเจี้ยนหงที่ตระหนักได้ถึงเรื่องดังกล่าว
เหล่าศิษย์ในหน่วยลาดตระเวนที่เหลือไม่เว้นชายชราผู้นำหน่วยลาดตระเวนก็ตระหนักได้เช่นเดียวกัน
“ใต้เท้าได้โปรดเมตตาละเว้นข้าด้วย! ขอใต้เท้าได้โปรดเมตตาละเว้นข้าด้วย!!”
พอเห็นต้วนหลิงเทียนกวาดตาเหลือบแลมา ผู้นำหน่วยลาดตระเวนชราถึงกับร่างสั่นสะท้านไปอย่างแรง มันเร่งคุกกเข่าลงกลางอากาศ ก้มหัวลงไปเผยหลังคอ หมายร้องขอความเมตตาต่อต้วนหลิงเทียน
ได้เห็นพลังความแข็งแกร่งของต้วนหลิงเทียนกับตา ไหนเลยผู้นำหน่วยลาดตระเวนชราของวังเซียนสัญจรจะเหลือความคิดต่อต้าน?
ล้อเล่นหรือไร!?
อาวุโสเฉินตง ยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ 7เปลี่ยน กลับถูกอีกฝ่ายใช้ 2 กระบวนก็ฆ่าได้อย่างไม่ยากเย็น แล้วจะนับประสาอะไรกับเซียนสวรรค์ 3เปลี่ยนเช่นมัน!!
ด้วยเหตุนี้มันจึงทิ้งศักดิ์ศรีทั้งหมดไว้เบื้องหลัง หวังให้เพียงชายหนุ่มชุดม่วงเมตตาละเว้นชีวิตมันเท่านั้น
“หึ!”
อย่างไรก็ตามสิ่งที่หัวหน้าน่วยลาดตระเวนชราได้รับก็คือ การสบถพ่นลมเสียงเย็นของต้วนหลิงเทียน!
ทันทีที่ต้วนหลิงเทียนสบถออกเสียงเย็น หัวหน้าหน่วยชราก็ตัวค้างร่างแข็งไปทันใด ลูกตายังหดหยีลง สีหน้าฉายชัดถึงความสิ้นหวัง!
ปงงง!!
ภายใต้สายตาของทุกคน ไม่เห็นว่าต้วนหลิงเทียนเคลื่อนไหวใดๆทั้งสิ้น ทั้งหมดเพียงรู้สึกเสมือนมีสายลมหอบหนึ่งพัดผ่านเข้าใส่หัวหน้าน่วยลาดตระเวนชรา ก่อนจะปรากฏเสียงระเบิดดังปานฟ้าร้อง…
หลังจากสิ้นเสียงที่ว่า ร่างหัวหน้าหน่วยชราก็อันตรธานหายไปอย่างไร้ร่องรอย ราวกับคนสาบสูญไปในอากาศว่างเปล่า!
ที่หลงเหลือไว้ก็มีเพียงแหวนพื้นที่วงหนึ่ง…
ทันใดนั้นจุดเกิดเหตุกลับกลายเป็นเงียบงันปานคนตาย
ศิษย์ในหน่วยลาดตระเวนที่เหลืออีก 4 คนโดยมีติงเจี้ยนหงเป็นผู้นำ ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง ยังได้แต่ก้มหัวลงไปไม่แม้แต่จะกล้าสบตากับต้วนหลิงเทียน ประหนึ่งรอให้ต้วนหลิงเทียนพิพากษาโทษทัณฑ์
“ว้าว! ท่านพ่อร้ายกาจยิ่ง ทุบตีคนชั่วจนหนีไปหมดเลย!!”
ต้วนซือหลิงที่เห็นเรื่องราวก็ชูมือชูไม้อย่างซุกซนในวงแขนต้วนหลิงเทียน ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
ในสายตาของนางบิดาเพียงทุบตีผู้อื่นจนรีบหายตัวหนีไป ไม่ได้เข่นฆ่าสังหารอะไร
“ทุบตีจนหนีหาย?”
พอวาจานี้ของต้วนซือหลิงดังเข้าหูศิษย์ลาดตระเวนทั้งหลาย ต่างได้แต่เผยยิ้มขื่นขม
ท่านย่าน้อยท่านล้อเล่นหรือ?
ทุกผู้คนล้วนหายไปอย่างไม่เหลือซากเช่นนี้ ไหนเลยยังแค่ถูกทุบตีหนีไปได้?
“หืม?”
ทันใดนั้นคล้ายต้วนหลิงเทียนสัมผัสได้ถึงบางสิ่ง สายตาของเขาหันมองไปยังวังเซียนสัญจรทันที
หลังจากนั้นไม่นาน
ฟู่ว! ฟู่ว!
พร้อมกับเสียงหวีดหวิวของสายลมอันแผ่วเบาสองเสียง ปรากฏร่างที่วูบมาดั่งภูตผีจากไกลๆ
ความเร็วของหนึ่งในนั้น รวดเร็วกว่าอีกคนมาก
และยังมาถึงจุดเกิดเหตุที่ต้วนหลิงเทียนและคนอื่นๆอยู่ก่อนอีกคน
“ผู้ใดหาญกล้าฆ่าคนวังเซียนสัญจรของข้า!?”
ผู้มาใหม่ พอมาถึงก็กล่าวถามออกมาเสียงเข้มทันที
“อาวุโสหลินหย่วน!”
“อาวุโสหลินหย่วน!”
……
แทบจะพร้อมกันกับที่ร่างคนผู้นี้ปรากฏตัว ติงเจี้ยนหงและศิษย์ลาดตระเวนอีก 4 คนก็เร่งประสานมือโค้งคารววะทักทายมันด้วยความเคารพอย่างถึงที่สุดทันที
ผู้มาเป็นชายชราที่เส้นผมขนคิ้วเป็นสีขาวโพลน ใบหน้าของมันแลดูอ่อนวัยปานทารก มีขนนกกระเรียนประดับไว้ตามชุดคลุม แลดูคล้ายเทพเซียนอมตะ
เหตุผลที่ไฉนศิษย์ลาดตระเวนของวังเซียนสัญจรถึงโค้งคารวะอีกฝ่ายด้วยท่าทีมากเคารพขนาดนี้ นั่นเพราะชายชราเบื้องหน้าของพวกมัน ก็คือยอดฝีมือที่โดดเด่นที่สุดในบรรดาผู้อาวุโสของวังเซียนสัญจร และยังเป็นตัวตนขอบเขตเซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยน!
ฟุ่บ!
หลังอาวุโสวังเซียนสัญจรนามหลินหย่วนมาถึง อีกคนที่เหินตามหลังมาก็ลุถึงจุดเกิดเหตุตามติด
“อาวุโสเผิงไหล”
“อาวุโสเผิงไหล”
……
ศิษย์ลาดตระเวนทั้ง 4 ก็เร่งทักทายผู้ที่ตามมาอย่างไม่กล้ารอช้าเช่นกัน
คนผู้นี้ยังเป็นอาวุโสวังเซียนสัญจรเช่นกัน มันมีนามว่า เผิงไหล เป็นชายวัยกลางคนที่รูปร่างเตี้ย หากแต่ตัวหนาแลดูแข็งแรง
แน่นอนว่าพลังฝึกปรือของมันนั้นอ่อนด้อยกว่าหลินหย่วน เพราะมันเป็นเพียงเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยนเท่านั้น
“ติงเจี้ยนหง เจ้าบดขยี้ป้ายหยกเพราะมีคนฆ่าเฉินอันศิษย์วังเซียนสัญจรของพวกเรางั้นหรือ?”
เผิงไหลหันไปมองติงเจี้ยนหงก่อนใดอื่น กล่าวถามออกมาเสียงเข้ม
ได้ยินดังนั้น ติงเจี้ยนหงก็ได้แต่หันไปมองชายหนุ่มชุดม่วงที่อุ้มเด็กหญิงตัวน้อยไม่ไกล
ทันใดนั้นไม่ว่าจะเป็นเผิงไหลหรือหลินหย่วน ก็หันมองตามไปจนเห็นต้วนหลิงเทียน
“ต้วนหลิงเทียน!!”
ทันใดนั้นลูกตาของหลินหย่วนก็หดหยีลง จากนั้นก็ตะโกนออกมาเสียงกร้าว ฟังแล้วยังคล้ายมีโทสะอัดแน่น!
แววตาของมันยังเริ่มฉายชัดถึงความเคียดแค้นชิงชัง ราวกับจะแผดเผาได้ทุกสิ่ง!
ตอนนี้ท่าทางของหลินหย่วนไม่คล้ายมองคนฆ่าศิษย์วังเซียนสัญจร หากแต่ราวกับกำลังมองศัตรูฆ่าบิดาถล่มมารดาจับน้องสาวไปขายหอนางโลมมากกว่า
“นี่…”
“ที่แท้เป็นเรื่องอะไรกันแน่?”
“อาวุโสหลินหย่วน…รู้จักชายหนุ่มในชุดสีม่วงผู้นี้ด้วยหรือ?”
……
ทันทีที่หลินหย่วนเผยทีท่าอาฆาตแค้นออกมา ไม่ว่าจะเผิงไหลหรือศิษย์วังเซียนสัญจรอีก 4 คนล้วนสับสนด้วยไม่ทราบว่าเป็นเรื่องราวอะไรกันแน่
เพราะหากมองจากท่าทีอาฆาตแค้นของหลินหย่วนแล้ว คล้ายรู้จักชายหนุ่มชุดม่วงคนนี้มานาน และสมควรมีความแค้นกันอย่างถึงที่สุด!
“ต้วนหลิงเทียน?”
ครู่ต่อมาเผิงไหลก็คืนสติ เพราะรู้สึกว่าชื่อนี้คุ้นหูมันนัก
สุดท้ายมันก็คล้ายจะนึกอะไรได้ออก สองตาทอประกายเรืองวูบ “ข้าจำได้ว่า…เหมือนคนที่ฆ่าหลานของผู้อาวุโสหลินหย่วน หลินฉีกัง จักเรียกว่าต้วนหลิงเทียนมิใช่หรือ?”
“หรือว่า…เป็นมัน?”
มองไปยังต้วนหลิงเทียนอีกครั้ง เผิงไหลก็อดไม่ได้ที่จะคาดเดาไปทำนองนี้
“เจ้ารู้จักข้าด้วย?”
ด้านต้วนหลิงเทียนรู้สึกแปลกใจอยู่บ้าง
อาวุโสวังเซียนสัญจรคนนี้พึ่งมาถึงและได้เจอเขาเป็นครั้งแรกแท้ๆ แต่ไม่เพียงจะเรียกชื่อเขาถูก ทว่าทีท่ายังเผยความอาฆาตแค้นกับเขาอย่างถึงที่สุด
แววตานั้นราวกับมีความแค้นเพราะถูกเขาฆ่าบุตรธิดาหรือถล่มมารดามัน!
ต้วนหลิงเทียนมั่นใจอย่างยิ่ง
ว่านี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เจออาวุโสวังเซียนสัญจรคนนี้แน่นอน
“แน่นอนว่าข้าย่อมรู้จักเจ้า!”
หลินหย่วนที่มีโทสะแค้นถึงขีดสุด ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างอำมหิต แววตาฉายชัดถึงจิตฆ่าฟัน “ปีที่แล้วหลานชายของข้าหลินฉีกังตกตายด้วยน้ำมือของเจ้า! ข้าไม่คิดไม่ฝันเลยจริงๆ ว่าหลังจากย่ำจนรองเท้าสึกไม่พบพานกว่า 1 ปี สุดท้ายเจ้าจักส่งตัวเองถึงหน้าประตูข้าเช่นนี้…ดูเหมือนสวรรค์ยังไม่ใจร้ายกับข้า!!”
หลังจากนั้นหลินหย่วนก็เริ่มปลดปล่อยพลังเซียนต้นกำเนิดทั้งไอมารออกมามหาศาลปานเพลิงไฟลุกโชนเร่าๆ เพลิงพลังดังกล่าวยังพวยพุ่งสูงขึ้นไม่หยุดยั้งปานจะแผดเผาไปทั่วแผ่นฟ้า!
“หลินฉีกัง?”
ต้วนหลิงเทียนรู้สึกคุ้นๆหูอยู่บ้าง แต่ยังนึกไม่ออก
ยกเว้นก็แต่เผิงไหลที่รู้เรื่องราวแต่แรก ศิษย์ลาดตระเวนของวังเซียนสัญจรคนอื่นๆได้แต่หยีตาลงด้วยความตกตะลึง สีหน้าเผยให้เห็นความตกใจยกใหญ่
“ต้วนหลิงเทียนผู้นี้…คือคนที่ฆ่าหลานชายของผู้อาวุโสหลินหย่วนงั้นหรือ?”
“ข้าได้ยินมาว่าหลานชายของผู้อาวุโสหลินหย่วนได้ถูก ‘สัตว์ประหลาด’ ที่ร้ายกาจกวว่าแม่นางหวงเหวินจิ้ง ฆ่าตายยามไปสำรวจมรดกสถานของปรมาจารย์จารึกเซียนเมื่อปีก่อน! ไม่คิดเลยว่าสัตว์ประหลาดตนนั้นที่แท้จักเป็นเจ้าหมอนี่ไปได้!!”
“ต้วนหลิงเทียนผู้นี้ใช่สมองมีปัญหาอันใดหรือไม่ มันฆ่าหลานผู้อาวุโสหลินหย่วนไปทั้งคน แต่ยังกล้าคิดเข้าร่วมวังเซียนสัญจรของพวกเราอีกหรือ?”
“หึ! เจ้าอย่าได้ลืมไปว่ามันเองก็เป็นยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยนด้วย!”
“ตอนนี้ปัญหาก็คือ…ในเมื่อมันเป็นคนฆ่าหลินฉีกังหลานชายของผู้อาวุโสหลินหย่วน เช่นนั้นก็สมควรเป็นผู้ที่ลงมือสังหารลูกชายของอาวุโสเหอฉิง เหอซินเจี๋ย รวมถึงหลานของอาวุโสหลู่เวยอย่างซือถูอวี่จี๋ด้วย!!”
“สวรรค์ กลับเพาะสร้างความแค้นบาดหมางกับอาวุวโสขอบเขตเซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยนของวังเซียนสัญจรเราถึง 3 ท่าน แต่ยังกล้ามาวังเซียนสัญจรเราอีกหรือ…มันจะไม่ขวัญกล้าเทียมฟ้าไปหน่อยหรือ?”
……
แม้เสียงกระซิบคุยกันของเหล่าศิษย์ลาดตระเวนของวังเซียนสัญจรจะไม่ได้ดังอะไรมากมาย แต่ก็ดังเข้าหูต้วนหลิงเทียนชัดทุกถ้อยคำ
“อาวุโสเหอฉิง?”
ได้ยินเสียงกระซิบของศิษย์ลาดตระเวน อาวุโสเผิงไหลอดไม่ได้ที่จะลอบส่ายหัวไปมาเบาๆ
อาวุโสเหอฉิงนั้นตกตายไปตั้งแต่เมื่อ 1 ปีก่อนแล้ว
ยามพบว่าไข่มุกวิญญาณของอีกฝ่ายแตกเป็นเสี่ยงๆ ทางวังเซียนสัญจรก็ได้ส่งอาวุโสหลายคนไปตรวจสอบสาเหตุการตาย แต่ทว่าทุกคนกลับไม่พบร่องรอยอะไรเลย
อย่างไรก็ตามอาวุโสเหอฉิงนั้นเป็นยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยน จึงกล่าวได้วว่านับเป็นกระดูกสันหลังของวังเซียนสัญจรคนหนึ่ง เช่นนั้นแม้มันจะตกตายไปแล้ว แต่วังเซียนสัญจรก็ได้แต่ปกปิดการตายของมันเอาไว้
เช่นนั้นเหล่าศิษย์ระดับล่างทั้งหลายจึงไม่มีผู้ใดล่วงรู้ว่าเหอฉิงตกตายไปแล้ว!
“ที่แท้เจ้าก็เป็นปู่ของเจ้านั่นนี่เอง…”
หลังได้ยินคำกระซิบกกระซาบของเหล่าศิษย์ลาดตระเวน ต้วนหลิงเทียนก็ตระหนักได้ถึงใบหน้าหนึ่งในใจ มองไปยังหลินหย่วนอีกครั้ง เขาก็ทราบอัตลักษณ์ของมันทันที
‘อาวุโสหลินหย่วนนี่สมควรเป็นปู่ของหลินฉีกัง…ส่วนอาวุโสเหอฉิงที่พวกมันว่า สมควรเป็นบิดาของเหอเซินเจี๋ยที่ข้าฆ่าตายไปปีก่อน…’
‘แต่ฟังจากวาจาของพวกมันแล้ว คล้ายยังไม่มีใครรู้ว่าเหอฉิงนั่นตกตายไปแล้ว…’
ต้วนหลิงเทียนลอบกล่าวในใจอย่างสงสัย