WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 2286
War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 2286
ตอนที่ 2,286 : วิหก ผู้พิทักษ์!
ณ เคหะสถานหลังใหญ่ของชนชั้นรองจ้าววังหลังหนึ่ง…
‘นายท่าน…เป็นมนุษย์งั้นหรือ กระทั่งยังเป็นถึงนายน้อยตำหนักเมฆาครามขุมพลังหลักในภูมิภาคเบื้องล่างของพวกมนุษย์อีกด้วย?’
ในคฤหาสน์ส่วนตัวของรองจ้าววังเซียนสัญจรคนใหม่อย่างต้วนหลิงเทียน หลังเมื่อข่าวเรื่องราวแพร่ออกมาทั่ววังเซียนสัญจร เผิงไหล ที่ได้สาบานตัวจะติดตามต้วนหลิงเทียนก็ตกตะลึงอึ้งค้างไปเป็นธรรมดา!
นั่นเพราะถึงแม้มันจะสาบานว่าจะติดตามรับใช้ต้วนหลิงเทียนไปแล้ว
แต่มันยังไม่ได้รู้เลยว่าต้วนหลิงเทียนเป็นคนของเผ่าพันธุ์มนุษย์ นับประสาอะไรกับเรื่องที่เป็นถึงนายน้อยของตำหนักเมฆาคราม!
“ไม่คิดเลย…ไม่คิดไม่ฝันเลยจริงๆ…”
หลังยืนยันเรื่องราวได้แล้ว สีหน้าเผิงไหลก็ได้แต่เผยรอยยิ้มขื่นขม
เป็นธรรมดาว่ามันรู้ตัวดี ว่ามันนั้นไร้ซึ่งหนทางเลือกใดๆ
เพราะตอนนี้มันมีคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้าเป็นตัวฉุดรั้งดั่งพันธนาการ จึงทำได้แค่ต้องซื่อสัตย์และภักดีกับต้วนหลิงเทียนต่อไป! หาไม่แล้วก็ตาย!!
“นายท่าน!!”
ดังนั้นทันทีที่ข่าวลือเรื่องนี้แพร่ออกมา เผิงไหล ก็เร่งแจ้นไปหาต้วนหลิงเทียนทันที หมายปลุกต้วนหลิงเทียนที่ปิดด่านบ่มเพาะอยู่ให้รีบหลบหนีไปจากวังเซียนสัญจรแห่งนี้
ถึงแม้พลังฝีมือของนายท่านมันอย่างต้วนหลิงเทียนจะร้ายกาจมาก แต่ก็ไม่ได้เหนือล้ำไปกว่าจ้าววังเซียนสัญจร!
ในความคิดของเผิงไหล…จ้าววังเซียนสัญจรออกจากการปิดด่านเมื่อไหร่ ได้ตกตายกันหมดสิ้นแน่!!
และเพราะอำนาจของคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้า ทำให้เผิงไหลจำต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของต้วนหลิงเทียนด้วย
ไม่นานเผิงไหลก็ไปปลุกเค่อเอ๋อกับต้วนซือหลิงสองแม่ลูกให้ตื่นจากการบ่มเพาะทั้งเล่าเรื่องราวให้ฟัง หลังจากกนั้นก็เร่งไปปลุกก่านหรูเยี่ยน…หากแต่มันกลับไม่อาจปลุกต้วนหลิงเทียน นายท่านของมันที่มันอยากปลุกให้ตื่นมากที่สุดตอนนี้ได้!
“เกิดอะไรขึ้น?!”
ก่านหรูเยี่ยนมองเผิงไหลตาดุปานแม่เสือ กล่าวถามออกด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ
อยู่ดีๆ ถูกผู้คนปลุกจากการบ่มเพาะพลังเช่นนี้ ไหนเลยจะให้นางทำหน้าตาแช่มชื่นยินดีอยู่ได้!
อย่างไรก็ตามหลังได้ยินเผิงไหลเร่งกล่าวอธิบายสถานการณ์ออกมา สีหน้าก่านหรูเยี่ยนก็เปลี่ยนไปใหญ่หลวง ในที่สุดนางก็ตระหนักได้ว่าฐานะของต้วนหลิงเทียนถูกเปิดโปงแล้ว!
ก่อนหน้านี้ ด่านเค่อเอ๋อหลังจากที่ได้ยินคำเผิงไหล หน้างามหมดจดของนางก็เปลี่ยนสีไปไม่ต่างใดจากก่านหรูเยี่ยน
“ฐานะความเป็นมาของพี่เทียน…ถูกเปิดโปงแล้วหรือ?”
เค่อเอ๋ออดไม่ได้ที่จะตื่นตระหนก
นางรู้ดีว่าหากฐานะสามีของนางถูกเปิดโปงขึ้นมานั่นจะหมายความว่าอย่างไร…นั่นหมายความว่าตอนนี้บุรุษของนางได้กลายเป็นศัตรูของวังเซียนสัญจรไปแล้ว! กระทั่งยังเป็นศัตรูร่วมของเผ่าปีศาจมนุษย์!!
ถึงแม้บุรุษของนางจะไม่ใช่ชนชั้นอ่อนด้อย
หากแต่นางย่อมรู้ดีแก่ใจ
ไม่ต้องกล่าวถึงเผ่าปีศาจมนุษย์ทั้งหมด เอาแค่จ้าววังเซียนสัญจรคนเดียว บุรุษของนางก็ไม่อาจเอาชนะได้แล้ว!
‘พี่เทียนบอกข้าว่า…หากไม่ใช้ตราผนึกมาร ย่อมไม่มีทางจัดการจ้าววังเซยีนสัญจรได้เลย กระทั่งต่อให้ใช้ตราผนึกมารแล้วก็ไม่แน่ว่าจะจัดการมันได้ด้วยซ้ำ…’
‘เพราะสุดท้ายแล้วตราผนึกมารที่พี่เทียนมีก็ยังอยู่ในสภาพไม่สมบูรณ์ ไม่อาจใช้พลังที่แท้จริงของมันได้’
เค่อเอ๋อในฐานะผู้หญิงของต้วนหลิงเทียน ต้วนหลิงเทียนย่อมกล่าวเล่าเรื่องราวทุกอย่างให้นางรู้
เพราะเหตุนี้ทำให้เค่อเอ๋อเข้าใจสถานการณ์เรื่องราวทุกอย่างกระจ่างดี จึงยังผลให้นางกังวลใจอย่างหนัก
“แล้วคนอื่นเล่า?”
ก่านหรูเยี่ยนมองเผิงไหล เร่งถามออกมาอย่างร้อนใจ
“นายหญิงกับคุณหนูตื่นแล้ว ข้าเองก็ลองไปพยายามปลุกนายท่านเป็นคนแรก…แต่ตอนนี้ดูเหมือนนายท่านจะตกอยู่ในภวังค์บ่มเพาะอย่างสมบูรณ์…ข้ามิอาจปลุกนายท่านได้”
เผิงไหลได้แต่ฝืนยิ้มเบี้ยวๆออกมา
“บ้าจริง! ไม่ว่ามันจะอยู่ในสภาวะใด ต่อให้ทุบตีมันให้หัวแตกก็ต้องปลุกมันขึ้นมาให้จงได้! ตามข้ามา!!”
หลังก่านหรูเยี่ยนตะคอกคำออกมาด้วยความกังวล นางก็เร่งพุ่งไปยังห้องหับอันเป็นสถานที่บ่มเพาะพลังของต้วนหลิงเทียนทันที หมายปลุกต้วนหลิงเทียนให้ตื่นขึ้นมาให้ได้ต่อให้ต้องทุบตีคนก็ตาม!
อย่างไรก็ตามพอนางมาถึงหน้าห้องและลองใช้การเรียก รวมถึงการเคาะประตูดูก่อน ก็ไร้ซึ่งความเคลื่อนไหวใดๆจากในห้อง
โครมมม!!
สุดท้ายด้วยความร้อนใจ ก่านหรูเยี่ยนก็คิดทุบตีผู้คนจริงๆ นางถีบยันประตูจนหลุดไปทั้งบาน กระทั่งเค่อเอ๋อที่เร่งตามมายังไม่อาจห้ามไว้ได้ทัน
“เจ้าบ้า! เจ้ายังมัวมานั่งบ่มเพาะอันใดอยู่ ฐานะเจ้าถูกผู้อื่นเปิดโปงหมดสิ้นแล้ว! เจ้าอยากกตายก็ตายไปคนเดียวอย่าได้คิดลากเค่อเอ๋อกับซือหลิงให้ตายตกไปพร้อมกับเจ้าด้วย!!”
หลังยันประตูพัง ก่านหรูเยี่ยนก็พุ่งเข้าไปในห้องของต้วนหลิงเทียนทันทีปานฟ้าผ่า ยังตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงดุร้าย ทีท่าคล้ายจะพุ่งไปทุบต้วนหลิงเทียนให้ตื่นขึ้นมาให้ได้!
อย่างไรก็ตามก่านหรูเยี่ยนพึ่งพุ่งเข้าไปพร้อมตะโกนได้ไม่ทันไร ก็ปรากฏเสียงระเบิดดังขึ้นจากในห้อง
ปงงง!!
สิ้นเสียงดังสนั่นสะท้านปฐพี ก็ปรากฏร่างก่านหรูเยี่ยนปลิดปลิวละลิ่วออกมาปานว่าวสายป่านขาด กระเด็นกระแทกผนังด้านหลังดังโครม! ปากกระอักโลหิตออกมาคำใหญ่!!
ปง! ปง! ปง! ปง! ปง!
……
และแทบจะเป็นเวลาเดียวกันกับที่ก่านหรูเยี่ยนปลิวกระเด็นออกมา ในห้องต้วนหลิงเทียนก็บังเกิดเสียงระเบิดดังขึ้นไม่หยุด ห้องหับที่ต้วนหลิงเทียนปิดด่านบ่มเพาะอยู่ถึงกับพังทลายลง!!
ครู่ต่อมาธุลีคลีก็ฟุ้งว่อนคละคลุ้งบังทุกสิ่งในห้องจนหมด
“อั๊ค!”
ก่านหรูเยี่ยนกระอักโลหิตออกมาอีกครั้ง สีหน้าของนางซีดเซียวนัก สภาพร่างแลดูบาดเจ็บไม่น้อย
“ท่านป้า!”
ใบหน้าดังหยกเสลาของต้วนซือหลิงเคร่งขึ้นทันทีเมื่อเห็นสภาพก่านหรูเยี่ยน ด้วยความวิตกกังวลจึงอดไม่ได้ที่จะร่ำร้องเรียกหาออกมา
ในสายตาของต้วนซือหลิง ก่านหรูเยี่ยนนั้น มีความสำคัญต่อนางรองจ้าวบิดามารดา
พอเห็นก่านหรูเยี่ยนบาดเจ็บนางย่อมเป็นห่วงเป็นธรรมดา
“พี่หญิงท่านเป็นอะไรมากหรือไม่?”
ขณะเดียวกันเค่อเอ๋อก็เร่งเข้ามาประคองถามก่านหรูเยี่ยนด้วยความเป็นห่วง
ก่อนที่ก่านหรูเยี่ยนจะทันได้ตอบคำ นางก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองเข้าไปภายในห้องหับของต้วนหลิงเทียนที่พังทลายลงมา ใบหน้างามของนางยังเผยความกังวลใจอย่างถึงที่สุด
บุรุษของนางยังอยู่ด้านใน!
“ข้าไม่เป็นอะไรมาก”
ก่านหรูเยี่ยนส่ายหัวไปมาค่อยมองเข้าไปในห้องของต้วนหลิงเทียนที่เต็มไปด้วยฝุ่นทั้งซากปรักหักพังด้วยโทสะ เพราะนางคิดว่าเมื่อครู่ไม่พ้นเป็นต้วนหลิงเทียนที่ซัดนางออกมา
“ท่านแม่ ท่านพ่อยังอยู่ข้างใน”
ต้วนซือหลิงที่ตามเค่อเอ๋อมาก็ฟื้นสติทันท่วงที กล่าวออกมาด้วยความกกังวล นิ้วเล็กชี้ไปทางห้องหับของบิดา
“แม่รู้”
เค่อเอ๋อพยักหน้า ยังฉายชัดความกังวลออกมาอย่างปิดไม่มิด
“นี่มันอะไรกัน…”
และในตอนนี้เผิงไหลที่ตามมาถึง หลังมองเข้าไปในห้องไปพักหนึ่งก็อดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา
ในคำอุทานยังเต็มไปด้วยความตกใจ
และแทบจะทันทีที่เผิงไหลกล่าวจบคำ ห้องหับที่เป็นซากปรักหักพังเบื้องหน้า ก็ปรากฏพลังขุมหนึ่งซัดกวาดออกมา จนซากทั้งหลายกระเด็นออกไป เผยให้เป็นบางสิ่งในห้อง…เป็นร่างมหึมาประหนึ่งเนินเขาย่อมๆ!
และร่างมหึมาประหนึ่งเนินเขาย่อมๆนี้ คล้ายมันก่อตัวขึ้นมาจากเปลวเพลิงสีทอง! มันยืนตระหง่านท่ามกลางซากปรักหักพังคล้ายจะปกป้องบางสิ่ง!!
และด้วยร่างมหึมาของมันที่แลคล้ายกำลังปกป้องบางสิ่งนี้ จึงยากที่จะทำให้แลเห็นสถานการณ์เบื้องหลังร่างมหึมาของมันได้
“นี่มันเป็นนกอะไรกันแน่…”
เผิงไหลอดไม่ได้ที่จะตื่นตระหนก แม้มันจะเห็นได้ไม่ยากกว่าวิหกเบื้องหน้าก่อร่างขึ้นมาจากเปลวเพลิงสีทอง หากแต่มันก็ไม่ทราบว่านี่เป็นวิหกชนิดใดกันแน่!
ไม่ใช่แค่มันเท่านั้นที่ไม่รู้
กระทั่งก่านหรูเยี่ยนกับเค่อเอ๋อก็ไม่รู้จัก
“ท่านแม่นี่เป็นนกอะไรหรือ?”
สายตาของต้วนซือหลิงยังถูกวิหกไฟตัวเขื่องดึงดูดไว้ให้มองไปอย่างไม่วางตา อดไม่ได้ที่จะกล่าวถามเค่อเอ๋อออกมาด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“แม่ก็มิรู้เหมือนกัน…”
เค่อเอ๋อส่ายหัววไปมา นี่เป็นครั้งแรกจริงๆที่นางได้เห็นวิหกเพลิงประหลาดเบื้องหน้า
“ท่านป้า…แล้วท่านรู้จักหรือไม่?”
ต้วนซือหลิงหันไปมองถามก่านหรูเยี่ยนอีกคน หากแต่ก่านหรูเยี่ยนก็ได้แต่ส่ายหัวไปมาเพราะไม่รู้
“คงดียิ่งหากท่านพ่ออยู่ที่นี่…ท่านพ่อต้องรู้แน่ๆว่านี่เป็นนกอะไร…”
ต้วนซือหลิงกล่าวพึมพำด้วยน้ำเสียงชื่นชม ราวกับว่าหากบิดาของนางต้วนหลิงเทียนอยู่ที่นี่ ต้องบอกนางได้แน่ เพราะในสายตานางบิดาที่ร้ายกาจที่สุดย่อมรู้ทุกสิ่ง
“อ๊ะจริงสิ! ท่านพ่อยังอยู่ด้านในนี่นา!!”
พอนึกถึงเรื่องนี้ต้วนซือหลิงก็เผยความกังวลออกมาอีกครั้ง นางเหินร่างออกไปอย่างร้อนใจ มุ่งเข้าหาวิหกเพลิงสีทองเบื้องหน้า หมายเข้าไปหาบิดาที่อยู่ในห้อง
“ระวัง!!”
เห็นฉากดังกล่าวก่านหรูเยี่ยนถึงกับเร่งตะโกนออกมาหน้าเสีย!
เพราะตอนนี้ก่านหรูเยี่ยนตระหนักได้แล้วว่าที่ลงมือซัดนางหาใช่ต้วนหลิงเทียนไม่ แต่สมควรเป็นวิหกเพลิงที่ควบแน่นจากเพลิงสีทองเบื้องหน้า!!
พอเห็นหลานสาวของนางพุ่งเข้าไปหาแบบนั้น จะไม่ให้นางร้อนใจได้อย่างไรไหว! ร่างกายนางก็บาดเจ็บไม่น้อย ไม่อาจขยับทำสิ่งใดได้ทัน!!
“คุณหนูระวัง!!”
และในขณะที่ก่านหรูเยี่ยนกำลังหน้าเสีย ทั้งเค่อเอ๋อเองก็ไม่ทันตอบสนองเรื่องราว เป็นเผิงไหลที่พุ่งร่างออกไปด้วยความเร็วสูงล้ำหมายหยุดร่างต้วนซือหลิงไม่ให้เข้าใกล้วิหกเพลิงประหลาด!
ทำให้ร่างเผิงไหลเองที่พุ่งไปขวางต้วนซือหลิงก็อยู่ห่างจากวิหกเพลิงแค่ไม่กี่ก้าว
และแทบจะเป็นเวลาเดียวกันกับที่เผิงไหลหยุดร่างต้วนซือหลิงเอาไว้
ปงงง!!
วิหกเพลิงคล้ายรู้ว่ามีบางสิ่งกำลังเข้าใกล้ มันพลันเปล่งพลังอำนาจขุมหนึ่งออกมาก่อเกิดเป็นคลื่นพลังอัดกระแทก! ซัดเข้าแผ่นหลังเผิงไหลอย่างแรง ทำให้เผิงไหลปลิวกระเด็นออกไป!!
ขณะที่ถูกพลังอำนาจซัดกระแทกเข้าหลังจนปลิดปลิว เผิงไหลก็ไม่ลืมเร่งเร้าพลังป้องกันร่างต้วนซือหลิงเอาไว้ หอบหิ้วนางออกไปให้ห่างโดยเร็วที่สุด!
หลังหอบหิ้วต้วนซือหลิงออกกมาห่างจากวิหกกเพลิงแล้ว เผิงไหลก็กระอักโลหิตออกมาคำใหญ่!
พอหันไปมองวิหกเพลิงเบื้องหลัง นอกจากสายตาหวาดกลัวแล้ว ยังตื่นตระหนกเสียขวัญไม่น้อย “นี่มันอันใดกันแน่ นายท่านบ่มเพาะพลังด้วยเคล็ดวิชาอันใดกัน ไฉนจึงสร้างผู้พิทักษ์ประหลาดเช่นนี้ขึ้นมาได้?”
ตอนนี้เผิงไหลย่อมตระหนักเรื่องราวได้กระจ่าง
วิหกเพลิงที่ควบแน่นก่อร่างจากเปลวเพลิงสีทองเบื้องหน้า มันกำลังปกป้องคุ้มครองต้วนหลิงเทียนผู้เป็นเจ้านายของมันอยู่ไม่ผิดแน่!
และไม่ว่าจะเป็นผู้ใดก็ตาม หากเข้าไปใกล้ต้องถูกมันจู่โจมทันที
“อย่างไรก็ตามวิหกเพลิงตัวนี้ดูเหมือนว่ามันจักมิมีชีวิต…และในร่างของมันคล้ายมีกลิ่นอายพลังของนายท่านผสานอยู่! ยังเป็นกลิ่นอายพลังที่แข็งแกร่งนัก!!”
ในฐานะที่เป็นเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยน สัมผัสพลังของเผิงไหลย่อมไม่ใช่ชั่ว มันย่อมสามารถสัมผัสได้ถึงหลายสิ่งอย่างที่ก่านหรูเยี่ยนไม่อาจทำได้
และขนาดก่านหรูเยี่ยนยังไม่อาจล่วงรู้ สองแม่ลูกอย่างเค่อเอ๋อและต้วนซือหลิงที่พลังฝึกปรืออ่อนด้อยกว่านางก็ย่อมไม่อาจรู้ได้
“นายหญิงขอท่านอย่าได้ห่วงไป วิหกเพลิงตัวนั้นสมควรเกิดจากพลังของนายท่าน อีกทั้งพลังในร่างนายท่านเองก็ยังคงมั่นคงมีเสถียรภาพมิได้มีอันตรายใดๆ…วิหกเพลิงสีทองตัวนี้สมควรเป็นความสามารถบางประการของนายท่านไม่ผิดแน่! มันเพียงแค่ปกป้องนายท่านเอาไว้ ตราบใดที่ท่านไม่เข้าไปใกล้มันก็จักไม่โดนมันทำร้าย…”
เมื่อเห็นความกังวลของทุกคน เผิงไหลเร่งกล่าวออกมาทันทีเพื่อคลายความกังวล
“ต้วนหลิงเทียน!!”
ตอนนี้เองก่านหรูเยี่ยนพยายามส่งเสียงผ่านพลังผ่านร่างวิหกเพลิงเข้าไปหาต้วนหลิงเทียนที่ยังคงปิดด่านบ่มเพาะอยู่
อย่างไรก็ตามเมื่อพลังของนางเข้าใกล้ร่างวิหกเพลิง พลังที่ควบผนึกส่งเสียงก็ถูกพลังอำนาจขุมหนึ่งปิดกั้นเอาไว้! ไม่อาจส่งเสียงไปถึงต้วนหลิงเทียนได้เลย!!
“เปล่าประโยชน์แม่นาง…ข้าเองก็ลองผนึกพลังส่งเสียงไปหานายท่านแล้ว”
เผิงไหลกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มเหยเก
“เจ้าเอาชนะเจ้านกบ้านี่ไม่ได้รึไง?”
ก่านหรูเยี่ยนกล่าวถามออกมาด้วยความกังวล เพราะอย่างไรตอนนี้เวลาก็ไม่คอยท่า
“ไม่มีทางเลยแม่นาง…พลังของเจ้าวิหกเพลิงตัวนี้มิได้อ่อนแอไปกว่ายอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยนแม้แต่น้อย”
เผิงไหลส่ายหัวไปมา
จากพลังของวิหกเพลิงที่พึ่งสำแดงออกมาเมื่อครู่ มันย่อมตระหนักได้ชัดเจน
พลังของวิหกเพลิงตัวนี้ เกินมือของมัน!
“เจ้าบ้านี่มันบ่มเพาะด้วยเคล็ดวิชาผีสางอะไรของมันกัน!”
ตอนนี้ก่านหรูเยี่ยนกังวลใจอย่างหนัก สีหน้านางเองก็อัปลักษณ์ปั้นยากนัก
อย่างไรก็ตามก่านหรูเยี่ยนไม่ได้รู้เลย..
แม้แต่ตัวต้วนหลิงเทียนเอง ก็ไม่ได้ล่วงรู้ถึงการคงอยู่ของวิหกเพลิงสีทองตัวนี้ด้วยซ้ำ!