WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 2306
War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 2306
ตอนที่ 2,306 : เผชิญหน้ากับหายนะทัณฑ์สวรรค์สืบต่อ…
“หายนะทัณฑ์สวรรค์ของต้วนหลิงเทียนนั้นมิได้เกิดจากมันพบโอกาสด้วยตัวเอง…เช่นนั้นมันย่อมมิได้เตรียมตัวมาให้พร้อมต้านทานหายนะทัณฑ์สวรรค์ทั้งหมด!”
“เท่าที่ข้าดูอาศัยสภาพมันตอนนี้ ต่อให้แปลงเป็นนักรบมังกร ก็มิน่าจะข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ได้สำเร็จ!”
“จริง! แม้ร่างนักรบมังกร 9 กรงเล็บจะแข็งแกร่ง ทว่าให้แข็งแกร่งอย่างไรก็ต้องมีขีดจำกัด หากมันเป็นผู้ที่พบโอกาสแล้วชักนำหายนะทัณฑ์สวรรค์มาด้วยความสามารถของตัวเอง ข้าเชื่อว่ามันอาจจะข้ามผ่านได้กว่า 8 ส่วน…แต่สำหรับตอนนี้ ข้ามิอาจมองโลกในแง่ดีสำหรับมันได้จริงๆ”
“ข้าก็ไม่ได้มองมันในแง่ดีสักเท่าไหร่”
…
ตอนนี้เรียกว่าแทบไม่มีใครในบรรดา 3 วัง 6 ตำหนักมองต้วนหลิงเทียนในแง่ดีเลย…
เพราะสุดท้ายแล้วในประวัติศาสตร์เผ่าพันธุ์ปีศาจของพวกมัน ผู้ที่ฉวยโอกาสเหมือนต้วนหลิงเทียน ล้วนล้มเหลวในการข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ทั้งสิ้น!
ดังนั้นแล้วแม้ต้วนหลิงเทียนจะแปลงร่างเป็นนักรบมังกร 9 กรงเล็บได้ หากแต่พลังฝีมือก็เพียงเหนือกว่าเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนชนชั้นยอดฝีมือไม่มาก พวกมันไม่คิดว่าต้วนหลิงเทียนจะรอดพ้นหายนะทัณฑ์สวรรค์ไปได้!
“พี่เทียน ..”
ในขณะที่คนของ 3 วัง 6 ตำหนักไม่มีใครดูดีต้วนหลิงเทียน เค่อเอ๋อที่มองจ้องต้วนหลิงเทียนไม่วางตา ก็เผยความเชื่อมั่นอันแรงกล้าปานหน้ามืดตามัว “ข้าเชื่อว่าท่านต้องข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ได้สำเร็จ!”
ตอนนี้เค่อเอ๋อหวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าต้วนหลิงเทียนจะเอาชนะหายนะสู่สวรรค์ได้สำเร็จ!
ไม่ใช่เพื่อตัวนางเอง
แต่เพื่อตัววบุรุษของนาง ลูกสาว และพี่สาวฝาแฝดของนาง
เพราะหากเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับบุรุษของนาง ตัวนางก็ไม่คิดอยู่คนเดียวในโลกใบนี้สืบไป นางจะติดตามบุรุษของนางไปแม้นั่นจะเป็นหนทางสู่ปรโลก ไม่มีทางที่นางจะทิ้งบุรุษของนางให้เดินทางเพียงลำพัง…
“ท่านพ่อ…”
ต้วนซือหลิงเองก็มองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาเปี่ยมกังวล พวงแก้มกระจ่างจิ้มลิ้มน่ารักของนางยังฉายถึงความตึงเครียด ยากคลี่คลายอยู่นาน
ก่านหรูเยี่ยนเองก็มองจ้องต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาซับซ้อน ยากนักที่จะล่วงรู้ได้ว่าในใจของนางคิดอ่านอะไรอยู่
สำหรับเผิงไหลนั้น สองตาที่มองต้วนหลิงเทียนยังคงเปี่ยมล้นไปด้วยความหวัง ‘ข้าหวังว่านายท่านจักสร้างปาฏิหาริย์ และทำลายคำสาปนั่นของเผ่าพันธุ์ปีศาจลงได้…เพราะสุดท้ายแล้วนายท่านก็เป็นถึงนักรบมังกร 9 กรงเล็บ!’
‘หวังว่ามันจะเอาชนะหายนะทัณฑ์สวรรค์ได้สำเร็จ…’
ไกลจากร่างต้วนหลิงเทียนลงมายังผืนดินเบื้องล่าง ศิษย์ปิดสำนักของอวี่เหวินฮ่าวเฉินจ้าววังเซียนสัญจร หวงเหวินจิ้ง ผู้เป็นถึงโฉมงามอันดับ 1 ของเผ่าปีศาจมนุษย์ ก็มองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาคาดหวัง
จังหวะนี้คล้ายนางลืมเลือนไปเสียสิ้น
ว่าหากต้วนหลิงเทียนเอาชนะหายนะทัณฑ์สวรรค์และบรรลุถึงครึ่งก้าวเซียนอมตะขึ้นมาจริงๆ อาจารย์ของนางอาจหนีไม่พ้นความตาย…
เพราะในสถานการณ์ปัจจุบัน หากต้วนหลิงเทียนล้มเหลวก็แล้วไป แต่หากบรรลุถึงครึ่งก้าวเซียนอมตะขึ้นมาจริงๆ อาจารย์ของนางไม่อาจสู้ได้เลย!
เพราะถึงตอนนั้น ต้วนหลิงเทียนยังใช้ไม้ตายก้นหีบอย่างแปลงเป็นนักรบมังกร 9 กรงเล็บได้
ทว่าตอนนี้อวี่เหวินฮ่าวเฉินก็มีแต่ต้องใช้วิธีข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์นั่น เพื่อข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ให้สำเร็จ และเมื่อบรรลุถึงครึ่งก้าวเซียนอมตะได้แล้ว วิธีที่ว่าก็ไม่อาจใช้กับต้วนหลิงเทียนได้อีกต่อไป
“ข้าอยากจะรู้นัก…ว่าต้วนหลิงเทียนนั่นมันจะทนอัสนีได้อีกกี่สายกันแน่ สองหรือสามก่อนที่มันจะตาย?”
ห่างไปไม่ไกลจากหวงเหวินจิ้ง อวิ๋นฟู่เหย่รองจ้าววังเซียนสัญจรที่ยืนชมดูเรื่องราวบนฟ้าอยู่ ก็มองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาเยียบเย็น มุมปากยังเผยรอยยิ้มเย้ยหยันออก!
ในสายตาของมันต้วนหลิงเทียนต้องตายแน่!
“น่าเสียดายนักที่ต้วนหลิงเทียนไม่ได้ตายตกด้วยน้ำมือของข้า…ช่างเถอะ! ดูมันถูกฟ้าผ่าจนกลายเป็นผุยผง ก็เสมือนฟ้าล้างแค้นให้ลูกศิษย์ข้าทางอ้อมเช่นกัน”
จ้าววังวิญญาณอสุรา ฉีหนานฟง เองก็มองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาเยียบเย็น กล่าวออกด้วยน้ำเสียงอำมหิต
หากแต่เมื่อมันละสายตาจากต้วนหลิงเทียนไปเหลือบมองอวี่เหวินฮ่าวเฉิน ในแววตาของมันก็ฉายชัดถึงความเสียดายประการหนึ่ง
“น่าเสียดายนักที่อวี่เหวินฮ่าวเฉินมันไม่ยอมใช้วิธีอะไรนั่นฆ่าต้วนหลิงเทียนทิ้ง….”
“มิฉะนั้นมันก็มิแน่ว่าจะข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ได้สำเร็จ!”
จุดจบที่ฉีหนานฟงต้องการที่สุดของเรื่องราวครั้งนี้ ก็คือให้ต้วนหลิงเทียนกับอวี่เหวินฮ่าวเฉินกอดคอกันลงนรกไปทั้งคู่! หนึ่งถูกฆ่าหนึ่งล้มเหลวจนตายตก!!
ตอนนี้แม้ในใจของมันจะยินดีที่ต้วนหลิงเทียนกำลังจะตายตกเพราะหายนะทัณฑ์สวรรค์ แต่พอมันรู้ว่าอวี่เหวินฮ่าวเฉินก็กำลังจะข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์กลายเป็นครึ่งก้าวเซียนอมตะ มันไม่อาจมีความสุขได้
ใจมันไม่ยินยอม!
วาจาดังกล่าวสามารถอธิบายฉีหนานฟงในตอนนี้ได้ชัดเจน
“เจ้าว่าต้วนหลิงเทียนผู้นั้น…มันจะต้านทานอัสนีทัณฑ์สวรรค์ได้อีกกี่สาย?”
ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนกับอวี่เหวินฮ่าวเฉินกำลังรอคอยอัสนีทัณฑ์สวรรค์สายที่ 71 เหล่าผู้ชมของ 2 วัง 6 ตำหนักก็อดไม่ได้ที่จะทายกันถึงเรื่องดังกล่าว
และฟังจากวาจาที่ซวุบซิบกันเสียงระงมปานตลาดสดแล้ว ก็พบว่าส่วนใหญ่คิดว่าอัสนีทัณฑ์อีกไม่กี่สาย ต้วนหลิงเทียนก็ไม่น่าจะรอดแล้ว!
“ข้าเชื่อว่าอัสนีทัณฑ์สวรรค์สายที่ 71 แม้ต้วนหลิงเทียนจะรับไว้ได้แต่ก็ต้องบาดเจ็บไม่น้อย…เช่นนั้นหากไม่ใช่อัสนีทัณฑ์สายที่ 72 หรือ 73 มันต้องแปลงร่างเป็นนักรบมังกร 9 กรงเล็บแน่นอน!”
ไม่นานอาวุโสตำหนักขจีจรัสคนหนึ่งก็กล่าวความคิดของมันออกมา
“แปลงร่างตอนอัสนีสายที่ 72 หรือ 73 งั้นรึ?”
ทว่าไม่นานนักก็มีอาวุโสของวังอัคคีสีชาดที่ไม่เห็นด้วยกล่าวล้มล้างการคาดเดาของอาวุโสตำหนักขจีจรัส “ข้าคิดว่ามันสมควรแปลงร่างเป็นนักรบมังกกร 9 กรงเล็บตั้งแต่อัสนีทัณฑ์สายที่ 71 ที่กำลังจักฟาดลงนี่ล่ะ!”
“อืม ข้าเองก็คิดเช่นนั้น…พวกเจ้าดูสภาพของมันตอนนี้เข้าเถอะ แม้จะยังอยู่ดีหลังรับอัสนีทัณฑ์สายที่ 70 มา แต่มันก็สมควรมาถึงขีดจำกัดแล้ว ท่าทางจะเหนื่อยล้าสิ้นแรงไม่น้อย!”
“ข้าเห็นด้วย”
…
เสียงของอาวุโสวังอัคคีสีชาดนั้น ดูเหมือนจะมีผู้คนเห็นด้วยมากกว่า
เขตคฤหาสน์ส่วนตัวของจ้าววังเซียนสัญจรอวี่เหวินฮ่าวเฉินยามนี้ แพเมฆหายนะสู่สวรรค์ที่มาควบรวมบรรจบกันมันช่างดำทะมึน ประหนึ่งปิดฟ้าบังตะวัน ทำให้พื้นที่แถบนี้มืดลงถนัดตา ตะวันจันทราคล้ายหม่นแสง
นี่เป็นสภาพแวดล้อมที่จะพบเห็นได้ เมื่อมีผู้ฝึกตนจะข้ามผ่านหายนะสู่สวรรค์
และด้วยครานี้กลับมีถึง 2 คนที่ข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์พร้อมๆกัน ทำให้เป็นอะไรที่เรียกร้องความสนใจจากทุกผู้คนได้เป็นอย่างดี
ผู้ชมทั้งหลายที่มา ก็ล้วนเป็นคนของ 2 วัง 6 ตำหนักทั้งสิ้น เรียกว่านอกจากจ้าววังอัคคีสีชาด กับชนชั้นจ้าตำหนักทั้ง 6 ระดับสูงของขุมพลังเผ่าปีศาจมนุษย์ก็มารวมตัวกันอย่างหาได้ยาก!
และตอนนี้ทุกกคนก็เฝ้ารอคอยการฟาดผ่าลงมาของอัสนีทัณฑ์สวรรค์สายที่ 71 อย่างใจจดจ่อ!
แน่นอนว่าคนของ 3 วัง 6 ตำหนักนั้นอยู่ใต้แพเมฆหายนะ
ทว่าเหนือขึ้นไปบนแพเมฆหายนะ กลับมีอีก 2 ร่างที่ซ่อนตัวจากทุกคนเบื้องล่างได้อย่างมิดชิด
หนึ่งในนั้นคือประมุขเผ่าปีศาจมนุษย์
ส่วนอีกคนนั้นเป็นตัวตนที่น่าตื่นตระหนกอย่างยิ่งเพราะไม่เพียงแต่มันจะเป็นอาจารย์ของประมุขเผ่าปีศาจมนุษย์ แต่ยังเป็นตัวตนที่อยู่เหนือ ครึ่งก้าวเซียนอมตะ!!
ตอนนี้สายตาของทั้ง 2 ก็มองลอดแพเมฆหายนะทะมึนมืดไปยังร่าง 1 ใน 2 คนที่กำลังข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์
คนที่ว่าก็คือชายหนุ่มในชุดสีม่วง
ส่วนอีกคนนั้นพวกมันไม่ได้ให้ความสนใจอะไร
‘นี่มันอะไรกันแน่ ข้ารู้สึกเสมือนมีใครกำลังจับตาดูข้าอยู่ตลอดเวลา…แถมไม่น่าจะมีแค่คนเดียว’
ต้วนหลิงเทียนที่กำลังเฝ้ารอคอยการฟาดผ่าลงมาของอัสนีทัณฑ์สวรรค์สายที่ 71 ด้วยสัญชาติญาณที่ลับคมมาอย่างดีสมัยยังเป็นหน่วยรบพิเศษรวมถึงราชันทหารรับจ้างผู้เชี่ยวชาญสรรพวุธในโลกเก่า ทำให้เขาสัมผัสได้ถึงสายตาของคู่ศิษย์อาจารย์ประมุขเผ่าปีศาจได้รางๆ หากแต่แม้เขาจะลอบมองสำรวจทั้งแผ่สำนึกเทวะออกไปสำรวจเท่าไหร่ เขาก็ไม่อาจพบต้นตอสายตาที่ลอบมองเขาได้เลย…
‘หรือข้าจะคิดไปเองกันแน่…’
สุดท้ายเขาก็ได้แต่คิดไปทำนองนี้ ก่อนที่จะสงบใจโคจรพลังฟื้นฟู เพื่อรอรับการมาถึงของอัสนีทัณฑ์สวรรค์สายที่ 71
‘หายนะทัณฑ์สวรรค์มันรุนแรงทั้งอันตรายสมคำร่ำลือจริงๆ แค่ผ่านไป 70 อัสนีทัณฑ์ ข้าก็แทบจะใช้พลังทั้งหมดแล้ว น่ากลัวข้าคงทนได้อีกไม่กี่สาย ก่อนที่จะต้องแปลงร่างเป็นนักรบมังกร 9 กรงเล็บ’
นึกถึงอัสนีทัณฑ์สวรรค์อันน่ากลัวสายที่ 70 ก่อนหน้า ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะลอบกล่าวในใจอย่างหวั่นๆ
ยังดีที่ผู้ชมโดยรอบไม่อาจล่วงรู้ความคิดดังกล่าวของต้วนหลิงเทียน หาไม่แล้วพวกมันได้ตกใจกันไม่น้อยแน่!
เพราะสุดท้ายแล้วทุกผู้คนก็พากันคิดว่าไม่สายนี้อย่างดีก็อีกแค่ 2-3 สายเท่านั้น ต้วนหลิงเทียนก็จำต้องแปลงร่างเป็นนักรบมังกร 9 กรงเล็บแล้ว
ต้องทราบด้วยว่าอัสนีทัณฑ์สวรรค์หลังจากนี้ยิ่งมาก็ยิ่งทวีความรุนแรงเหนือล้ำกว่าอัสนีสายก่อนหน้า!
‘หมดเวลาพักแล้ว…’
ครู่ต่อมาต้วนหลิงเทียนที่สงบใจอยู่ก็ราวกับจะตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่าง
อัสนีทัณฑ์สวรรค์สายนี้เป็นสายที่ 71 แล้ว ด้วยผ่านมาถึง 70 สาย ทำให้ต้วนหลิงเทียนกะระยะเวลาทิ้งช่วงได้ไม่ยาก
ทำให้ต้วนหลิงเทียนประมาณเวลาที่อัสนีฟ้ากำลังจะฟาดผ่าลงมาได้อย่างแม่นยำนัก
และแทบจะพร้อมกันกับที่ต้วนหลิงเทียนนึกในใจ
ครืนนน!!
ทันใดนั้นบรรยากาศที่มืดมัวก็ถูกย้อมให้เป็นสีขาวโพลนเพราะแสงสว่างจ้าที่อุบัติขึ้น และยังทำให้ผู้ที่มีพลังฝึกปรืออ่อนด้อยสองตาพร่ามัวไปอีกครั้ง แน่นอนว่าพวกมันย่อมชินแล้วจึงรีบหดหยีลูกตา บ้างก็ใช้มือป้องกันเป็นระวิง!
ทำอย่างไรได้ ก็แสงสว่างมันเจิดจ้าเสียจนสามารถเปลี่ยนกลางคืนให้เป็นกลางวันได้สบาย! ขืนมองชมตรงๆ ก็ไม่ต้องดูผู้คนรับสายฟ้ากันแล้ว!!
เปรี๊ยงงง!!
และในขณะที่ผู้ฝึกตนอันมีพลังฝึกปรืออ่อนด้อยกำลังหยีตาแทบปิดบ้างใช้มือป้องบังตาเอาไว้จากแสงจ้า เสียงดังสนั่นลั่นปฐพีก็สะท้านเข้าหู ยังดังประหนึ่งฟ้าจะถล่มลงมาก็ไม่ปาน!
เรียกว่าแก้วหูผู้ที่พลังฝึกปรืออ่อนด้อยก็สะเทือนกันไปตามๆกันอีกรอบ
หลายคนที่แม้จะรู้แต่ก็ทำได้แค่เร่งเร้าพลังป้องกันสุดตัว อนิจจาด้วยพลังฝึกปรืออ่อนด้อย หูมันจึงปรากฏโลหิตไหลซึมออกมา…
“เสียงอัสนีทัณฑ์สวรรค์ฟาดผ่า 2 ครั้งติด จะอย่างไรอานุภาพก็ไม่ใช่เล่นจริงๆ…”
ขณะที่เสียงอัสนีฟ้าระเบิดดังลงมาสองคราติด เหล่าอาวุโสของ 3 วัง 6 ตำหนักที่แม้จะไม่ได้รับผลกระทบอะไร แต่ก็ยังอดบ่นออกมาไม่ได้
ครืนนน!!
เปรี๊ยงงง!!
แทบจะเป็นเวลาเดียวกันกับที่อัสนีสายแรกฟาดผ่าลงมา แสงสว่างพลันวาบฟ้าอีกครั้ง ก่อนที่เสียงระเบิดดังจะดังขึ้นตามมาติดๆ เป็นอัสนีทัณฑ์สวรรค์สายที่ 71 ชุดที่ 2!
อัสนีฟ้าพุ่งแหวกอากาศส่งเสียงน่ากลัว จี้เล็งไปทางอวี่เหวินฮ่าวเฉินกับต้วนหลิงเทียน
ตอนแรกที่พากมันฟาดลงอัสนีก็คล้ายจะผ่าไปยังจุดเดียวกัน หากแต่เมื่อร่วงตกฟ้ามาระยะหนึ่ง พวกมันก็แยกตัวกันออกไปฟาดอวี่เหวินฮ่าวเฉินกับต้วนหลิงเทียนตามลำดับ สภาวะยังดุร้ายทรงพลังนัก!
‘มาแล้ว…’
เผชิญหน้ากับอัสนีทัณฑ์สวรรค์สายที่ 71 ต้วนหลิงเทียนที่เฝ้ารออยู่แต่แรก ทั่วร่างพลันปรากฏกเสียงพลังปะทุออกมาน่ากลัว มวลพลังมหาศาลทะลักออกจากชีพจรเซียนทั้ง 99 สายปานน้ำหลาก กู่ก้องสั่นพ้องไปกับฟ้าดิน เปล่งกลิ่นอายพลังอันน่าพรั่นพรึง!
หลังจากได้พักผ่อนเป็นเวลาครึ่งชั่วยาม ต้วนหลิงเทียนก็กลับมาอยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมเรียบร้อย!