WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 2307
War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 2307
ตอนที่ 2,307 : ความกดดัน!
“เซียนอมตะข้ามภพ!!”
“ใจกระบี่เหิน!!”
เผชิญหน้ากับอัสนีทัณฑ์สวรรค์สายที่ 71 ของหายนะสู่สวรรค์ เป็นธรรมดาว่าต้วนหลิงเทียนไม่กล้าประมาท! ยังไม่กล้าออมรั้งยั้งมืออะไร ใช้ออกด้วยพลังทั้งหมดเท่าที่จะใช้ได้เพื่อต้านทานมันทันที!!
นอกเหนือจากเวทย์พลังจู่โจมขั้นสูงสายกระบี่แล้ว เขายังใช้ออกด้วยเคล็ดพลัง ‘กระบี่อยู่ที่ใจ’ขอบเขตที่ 3 ของยอดใจกระบี่เต็มกำลัง!
ซัว! วูบ! วูบ! วูบ!
……
ทันใดนั้นท่ามกลางสายตาของทุกคน ร่างต้วนหลิงเทียนพลันพร่ามัวไปดั่งเงาเลือน ก่อนจะปรากฏร่างแยกอวตารผุดโผล่แยกตัวออกมา
ในมือของร่างต้วนหลิงเทียนแต่ละร่างถือไว้ด้วยกระบี่พันอาคมเซียน แน่นอนว่าทุกเล่มล้วนละม้ายคล้ายเหมือนกันไม่ผิดเพี้ยน
ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ!
……
ทันใดนั้นเสียงกระบี่หอนกรีดอากาศพลันแว่วดังขึ้น กระบี่พันอาคมเซียนของร่างแยกอวตารต้วนหลิงเทียน ต่างเหินทะยานขึ้นฟ้าไปด้วยเคล็ดกระบี่อยู่ที่ใจเรียงตัวเป็นแถวตอนลึก! สภาวะกระบี่แต่ละเล่มที่ร้อยเรียงกันช่างแหลมคมปานทะลวงได้ทุกสิ่ง!!
“ปราการเต่าทมิฬ!!”
ต้องเผชิญหน้ากับอัสนีทัณฑ์สวรรค์สายที่ 71 ต้วนหลิงเทียนจำต้องใช้เวทย์พลังป้องกันที่ไม่ได้ใช้มาพักหนึ่ง เวทย์พลังป้องกันนี้ยังเป็นเวทย์พลังป้องกันอันดับ 1 ของลัทธิบูชาไฟอีกด้วย!
ปราการเต่าทมิฬ!!
พริบตาอาณาบริเวณรอบกายต้วนหลิงเทียน ก็ปรากฏเงาร่างเต่าทมิฬตัวเขื่องผุดจากความว่างเปล่า คลุมครอบตัวเขาเอาไว้อย่างมิดชิด! ระยะคลุมครอบที่ปรากฏขึ้น ยังครอบคลุมกระบี่ที่กำลังเหินทะยานขึ้นไปด้วยความเร็วสูงล้ำ!!
เห็นฉากดังกล่าววผู้ชมโดยรอบก็ไม่ได้แปลกใจอะไร เพราะพวกมันเคยเห็นต้วนหลิงเทียนใช้ออกด้วยเวทย์พลังเหล่านี้มาแล้ว หากทว่าทุกสิ่งล้วนถูกอัสนีทัณฑ์สวรรค์ทำลายได้ง่ายดาย
และครั้งนี้ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
ปง! ปง! ปง!
……
เสียงระเบิดดังสนั่นลั่นขึ้น เป็นเงาร่างเต่าทมิฬตัวเขื่องจากปราการเต่าทมิฬที่ต้วนหลิงเทียนใช้ออก ถูกทำลายลงด้วยพลังอำนาจของอัสนีสายที่ 71!เรียกว่าปราการเต่าทมิฬเพียงลดทอนพลังอำนาจของสายฟ้าไปได้แค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น!!
อัสนีทัณฑ์สวรรค์ที่เหลือพลังอยู่อีกมาก ยังคงฟาดผ่าลงมาด้วยสภาววะดุร้ายเกรี้ยวกราดปานมีอำนาจแห่งทวยเทพหนุนเสริม! จี้เข้าใส่กระบี่ที่เหินทะยานเรียงแถวมาอย่างไร้ครั่นคร้าม!!
ปง! ปง! ปง! ปง! ปง!
……
อัสนีฟ้าป่นทำลายกระบี่พันอาคมเซียนจากร่างแยกอวตารเล่มแล้วเล่มเล่า บังเกิดคลื่นพลังสะท้อนกระแทกกระทั้นออกไปเป็นวงกว้างกลางหาวหลายระลอกติดต่อ!
คลื่นกระแทกดังกล่าว ยังก่อให้เกิดมรสุมลมแรงดั่งมหาพายุกวาดสะท้านออกไปทั่วทิศทาง!
ณ จุดปะทะยังปรากฏหมอกควันราวดอกเห็ดเล็กๆเบ่งบานขึ้นกลางหาว!
เมื่อหมอกควันราวดอกเห็ดนี้เบ่งบานขึ้น คลื่นพลังสะท้อนยิบย่อยก็สาดซัดออกไปทั่ว!
สัมผัสได้ถึงการระเบิดกลางฟ้า และคลื่นพลังสะท้อนอันมหาศาลกำจายออก เหล่าผู้ชมทั้งหลายก็เตรียมตัวรับมือกันอย่างแข็งขัน!
ด้วยมีบทเรียนจากกตอนแรกที่ต้วนหลิงเทียนใช้วิธีนี้เอาชนะอัสนีลงทัณฑ์ จึงไม่มีผู้ใดพลาดพลังปล่อยให้คลื่นกระแทกอันร้ายกาจเหล่านี้ซัดจนตัวปลิวบาดเจ็บสืบไป! เหล่าเซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยนทั้งหลายยังลงมือช่วยคุ้มกันคนของตัวเองอย่างดี!!
“เป็นไปได้อย่างไรกัน?”
“ต้วนหลิงเทียนนั่นมันไม่คิดแปลงร่างเป็นนักรบมังกร 9 กรงเล็บอีกงั้นเหรอ! มันมั่นใจถึงเพียงนั้นเชียว!?”
“หรือมันคิดรนหาที่ตาย?”
……
ในชั่วพริบตา หลายคนอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมาดังระงม สองตาทั้งหลายจับจ้องไปยังร่างชุดม่วงไม่วาง
ตอนนี้เองอัสนีทัณฑ์สวรรค์สีม่วงเส้นเขื่อง หลังทานรับกระบี่พันอาคมเซียนจำแลงที่เรียงตัวเป็นแถวตอนจากร่างแยกอวตารทั้งหลายของเซียนอมตะข้ามภพเข้าไปก็อ่อนโทรมลงไม่น้อย หากแต่อัสนีฟ้ายังคงหลงเหลือพลังไม่ใช่ชั่ว ฟาดผ่าลงมาอย่างไม่ลดละ หมายประหัตประหารต้วนหลิงเทียนให้ตายตกให้จงได้!!
“มาได้ดี!”
เผชิญกับอัสนีทัณฑ์สวรรค์สายที่ 71 ที่ยังคงมีพลังหลงเหลืออยู่ไม่น้อย ต้วนหลิงเทียนคำรามออกเสียงต่ำ!
ครู่ต่อมา
“ปีกอีกาทองคำ!”
ภายใต้ทุกสายตา ต้วนหลิงเทียน ไม่ได้ถอยหนีอะไร หากแต่เลือกจะจี้กระบี่พันอาคมเซียนเล่มจริงทะยานร่างออกไปด้วยเวทย์พลังปีกอีกาทองคำ พุ่งสวนเข้าใส่อัสนีฟ้าอย่างห้าวหาญ!!
สภาวะคนกลับกลายเป็นเกรี้ยวกราดดุร้ายปานกระบี่คม! หนึ่งคนหนึ่งกระบี่ทะยานเข้าใส่อัสนีสวรรค์อันน่ากลัวอย่างไร้ครั่นคร้าม!!
ปง! ปง! ปง! ปง! ปง!
……
เสียงอัสนีทัณฑ์สวรรค์ปะทะกับต้นหลิงเทียน ก่อเกิดเป็นเสียงระเบิดดังสนั่นลั่นติดกันหลายคำรบ! และอัสนีฟ้ายามนี้ก็ได้แตกตัวเป็นเส้นเล็กเส้นน้อยพร่างฟ้า! จนร่างต้วนหลิงเทียนเองก็จมหายไปในมวลห่าอัสนียิบย่อย จากที่ใครจะแลเห็นได้สืบไป!!
“ตายแล้วหรือ?”
“เจ้าต้วนหลิงเทียนนั่นมันหาที่ตายจริงหรือนี่?”
“ข้าไม่รู้จริงๆว่าในหัวมันคิดอะไร ขนาดนี้แล้วยังไม่แปลงร่างเป็นนักรบมังกร 9 กรงเล็บอีก…หรือมันประเมินตัวเองสูงไปและคิดว่าไม่ต้องแปลงร่าง?”
……
เหล่าศิษย์ที่จับตาดูเรื่องราวกล่าวพลางส่ายหัวไปมา
อย่างไรก็ตามเหล่าอาวุโสและตัวตนระดับสูงของ 3วัง 6 ตำหนักหาได้คิดเช่นพวกมันไม่ แต่ละคนมองจ้องเรื่องราวเหนือฟ้าตาเขม็ง สีหน้ายังเคร่งขรึมนัก
ด้วยเพราะสำนึกเทวะที่แผ่ออกไปทำให้พวกมันรับทราบดี…ถึงพลังชีวิตขุมหนึ่งท่ามกลางห่าอัสนียิบย่อยที่แตกตัวออกมาจากอัสนีเส้นเขื่อง…!
ต้วนหลิงเทียนยังไม่ตาย!!
“พี่เทียน!”
“ท่านพ่อ!!”
สีหน้าเค่อเอ๋อ กับต้วนซือหลิงเปลี่ยนไปทันที แลดูผวาเสียขวัญทั้งหวาดกลัวนัก!
“นายหญิง คุณหนูอย่าได้ร้อนใจ…นายท่านยังปลอดภัยดีอยู่ขอรับ”
จนเมื่อวาจาของเผิงไหลดังขึ้น พวกนางจึงค่อยระบายลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก
ก่านหรูเยี่ยนเองก็ลอบระบายลมหายใจออกมาอย่างโล่งอกเช่นกัน นางเองก็กังวลไม่น้อย หากแต่นางไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับต้วนหลิงเทียน นางจึงเก็บอาการไว้ไม่เผยออกมาให้เห็น
อันที่จริงนางคิดมากไปเอง
ถึงแม้ว่านางจะไม่เก็บอาการอะไร ตอนนี้ก็ไม่มีใครมัวมาสนใจทีท่าของนาง
หลังจากนั้นไม่นาน ภายใต้สายตาจับจ้องของทุกคน อัสนีทัณฑ์สวรรค์สายที่ 71 ที่แตกตัวเป็นเส้นสายอัสนียิบย่อยมากมายก็ค่อยๆดับสลาย หายไปในความว่างเปล่า
“นั่นมัน…”
และเมื่อหมอกควันจากแรงระเบิดจางหาย ร่างต้วนหลิงเทียนก็ปรากฏให้ทุกคนแลเห็นชัดถนัดตา!
ถึงแม้สภาพต้วนหลิงเทียนตอนนี้จะแลดูสะบักสะบอมไม่น้อย ด้วยเสื้อผ้าขาดวิ่นไปเป็นหย่อมๆ ผิวหนังปริแตกปรากฏโลหิตผุดซึม สภาพแลดูมอมแมมแฝงอิดโรยอยู่บ้าง
แต่เขากลับทานทนพลังอำนาจของอัสนีสวรรค์สายที่ 71 เอาไว้ได้!!
ยังทานรับด้วยร่างมนุษย์ตรงๆ!!
“มัน…มันเป็นมนุษย์แน่เหรอ?”
ท่ามกลางเหล่าผู้ชมที่เงียบงันไปพักใหญ่ ไม่นานก็มีปีศาจตนหนึ่งกล่าวออกมาด้วยความเหลือเชื่อ
และคำถามของปีศาจตนนั้นก็เป็นคำถามเดียวกันกับคำถามที่อยู่ในใจพวกมันทั้งหมด
แม้พลังอัสนีจะลดทอนลงไปไม่น้อย แต่ก็ไม่มีใครในที่นี้ที่คิดว่าสามารถรับพลังทำลายล้างของอัสนีทัณฑ์สวรรค์นั่นได้ด้วยร่างเนื้อแบบนั้น!
กระทั่งคนของวังวิญญาณอสุราที่เชี่ยวชาญการขัดเกลาร่างกายเป็นพิเศษยังไม่อาจกระทำได้!!
หากทว่าต้วนหลิงเทียน นายน้อยตำหนักเมฆาคราม…ทั้งๆที่เป็นแค่มนุษย์คนหนึ่ง กลับทานรับพลังอัสนีน่ากลัวนั่นเอาไว้โดยบาดเจ็บแค่เพียงเล็กน้อย!
เรื่องพรรค์นี้ใช่อะไรที่มนุษย์จะทำได้ด้วยหรือ?
“นายท่าน…ไฉนร่างกายถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้กัน!?”
เผิงไหลถึงกับอ้าปากค้าง สองตาเบิกโพลงปานลูกวัวแรกเกิด ใบหน้าฉายชัดถึงความประหลาดใจเป็นที่สุด
สำหรับเค่อเอ๋อ ต้วนซือหลิง และก่านหรูเยี่ยน พอเห็นว่าต้วนหลิงเทียนเพียงมีแต่บาดแผลภายนอกเล็กน้อย ต่างอดระบายลมหายใจออกมาอย่างโล่งอกไม่ได้ ไม่ได้มีเวลาไปสนใจเรื่องยิบย่อยเหมือนผู้อื่น
‘ถึงข้าจะยังไม่ได้อยู่ในร่างนักรบมังกร 9 กรงเล็บ แต่ร่างกายของข้าก็แข็งแกร่งเหนือคนทั่วไป…ต่อให้เป็นปีศาจที่เชี่ยวชาญวิชาบ่มเพาะขัดเกลากายา หรือสัตว์เซียนที่ขึ้นชื่อเรื่องพลังป้องกัน ความแข็งแกร่งทางกายภาพของพวกมันอาจจะยังสู้ข้าไม่ได้ด้วยซ้ำ!’
ต้วนหลิงเทียนย่อมมั่นใจในความแข็งแกร่งของร่างกายตัวเอง
ถึงแม้ร่างกายของเขาจะยังไม่บรรลุถึงขั้นคงกระพัน ทั้งไม่ได้แข็งแกร่งอย่างน่ากลัวเหมือนตอนอยู่ในร่างนักรบมังกร 9 กรงเล็บ แต่ก็ยังแข็งแกร่งประหนึ่งผิวทองแดงกระดูกเหล็ก!
แม้จะทานรับพลังทำลายของอัสนีทัณฑ์สวรรค์ที่เหลือเขาไปจังๆ เขาก็บาดเจ็บแค่ผิวเผินเท่านั้น!
“อวี่เหวินฮ่าวเฉิน…”
หลังเอาชนะอัสนีทัณฑ์สวรรค์สายที่ 71 ได้แล้ว ต้วนหลิงเทียนก็อดหันไปมองด้านอวี่เหวินฮ่าวเฉินไม่ได้
จึงพบว่า ตอนนี้ทางอวี่เหวินฮ่าวเฉิน ยังทานรับอัสนีทัณฑ์สวรรค์สายที่ 71 ไม่แล้วเสร็จ!
‘นั่นน่ะเหรอ วิธี ที่ชนชั้นจ้าววังเซียนสัญจรถ่ายทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น เพื่อเอาชนะหายนะทัณฑ์สวรรค์?’
และเมื่อเห็นสถานการณ์ด้านอวี่เหวินฮ่าวเฉินชัดถนัดตา ต้วนหลิงเทียนก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง
เพราะเขาได้เห็นว่า…
ตอนนี้ร่างอวี่เหวินฮ่าวเฉิน ที่ลอยค้างกลางหาวนั้น กลับมีท่าทีปลอดโปร่งถึงที่สุด ไม่ได้เคลื่อนไหวทำอะไร กระทั่งทั่วร่างยังไม่ได้เร่งเร้าพลังเซียนต้นกำเนิดหรือไอมารออกมาแม้แต่น้อย!
ทว่าอวี่เหวินฮ่าวเฉินผู้นี้ กลับป้องกันพลังอำนาจของอัสนีทัณฑ์สวรรค์สายที่ 71 เอาไว้ได้อย่างหมดจด!
ปง! ปง! ปง! ปง!
……
อัสนีทัณฑ์สวรรค์สายที่ 71 ยังคงพยายามระเบิดพลังทำลายหมายพิฆาตร่างอวี่เหวินฮ่าวเฉินให้จงได้ หากทว่ามันก็ทำได้แค่หยุดอยู่ห่างจากร่างอวี่เหวินฮ่าวเฉินในระยะ 10 หมี่ ไม่อาจขยับผ่านไปได้แม้แต่น้อย! ราวกับมีม่านพลังไร้สภาพประการหนึ่งกำบังเอาไว้!!
ป้องกันได้อย่างสมบูรณ์!!
สิ่งที่ทำให้ต้วนหลิงเทียนตกใจมากที่สุดก็คือ
อัสนีทัณฑ์สวรรค์สายที่ 71 นั่น ราวกับถูกอวี่เหวินฮ่าวเฉินป้องกันไว้ได้อย่างง่ายดาย ทำอะไรไม่ได้จนค่อยๆสลายหายไปเอง!!
เป็นอัสนีทัณฑ์สวรรค์ที่มีพลังอำนาจเท่าเทียมกันแท้ๆ แต่สภาพหลังข้ามผ่านระหว่างต้วนหลิงเทียนกับอวี่เหวินฮ่าวเฉินกลับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง!
ชุดคลุมต้วนหลิงเทียนขาดรุ่งริ่ง ตามตัวยังมีเลือดผุดซึมผิวไหม้ แลดูสะบักสะบอมมอมแมม
หากแต่ด้านอวี่เหวินฮ่าวเฉินนั้น อัสนีทัณฑ์อันร้ายกาจ…กลับไม่อาจแตะสัมผัสถูกได้แม้แต่ชายเสื้อ!
‘พลังไร้สภาพนั่น…ช่างร้ายกาจนัก! ไม่เพียงแต่ป้องกันอัสนีทัณฑ์สวรรค์ได้หมดจด คล้ายมันสั่นพ้องกับพลังของเส้นสายอัสนี สุดท้ายก็สลายพลังของอัสนีทิ้งไปเรื่อยๆจนหมด…’
ในขณะที่ชมมองกลวิธีเอาชนะอัสนีทัณฑ์สวรรค์สายที่ 71 ของอวี่เหวินฮ่าวเฉิน สำนึกเทวะของต้วนหลิงเทียนก็ไม่ได้อยู่เฉย เร่งแผ่ไปตรวจสอบเรื่องราวแต่แรก ทำให้เขาสังเกตเห็นกระบวนการทำลายพลังของอัสนีทัณฑ์สวรรค์ได้ชัดเจน
พลังอะไรก็ตามที่อวี่เหวินใช้ออก ไม่ใช่พลังของมันเอง!
พลังนั่นเป็นดั่ง ‘พลังภายนอก’ ที่เพาะสร้างมาเพื่อเอาชนะหายนะทัณฑ์สวรรค์โดยเฉพาะ! อีกทั้งต้วนหลิงเทียนยังบอกได้ทันที ว่าแม้จะทำลายอัสนีทัณฑ์สวรรค์สายที่ 71 ไปแล้ว พลังภายนอกที่ว่านั้นยังถูกใช้ไปไม่ถึงเศษเสี้ยวด้วยซ้ำ!!
‘ไม่น่าแปลกใจเลยว่าไฉนในประวัติศาสตร์ของวังเซียนสัญจร จึงไม่มีจ้าววังคนไหนล้มเหลวในการข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์…ด้วยวิธีแบบนี้เป็นไปไม่ได้เลยที่พวกมันจะล้มเหลว!’
ต้วนหลิงเทียนตกตะลึงนัก
ขณะเดียวกัน ตัวเขาก็เริ่มรู้สึกกดดันอย่างหนัก
ลำพังแค่อัสนีทัณฑ์สวรรค์สายที่ 71 ก็รุนแรงถึงขนาดนี้แล้ว
ทว่าหลังจากนี้ยังมีอัสนีอีกถึง 10 สาย!!
‘ถึงร่างกายข้าจะแข็งแกร่ง…แต่ถ้าไม่ได้แปลงร่างเป็นนักรบมังกร 9 กรงเล็บ เกรงว่าอย่างดีที่สุดก็คงทนรับได้อีก 2-3 สาย ส่วนอัสนีทัณฑ์สวรรค์หลังจากนั้นจำต้องใช้ร่างนักรบมังกร 9 กรงเล็บรับสถานเดียว!’
‘แต่จากระดับพลังของอัสนีที่เพิ่มพูนขึ้นระดับนี้ ต่อให้ข้าใช้ร่างนักรบมังกร 9 กรงเล็บต้านทาน…แต่ข้าจะทนรับอัสนีทัณฑ์สวรรค์ได้จนครบทั้ง 81 สายจริงๆหรือ?’
เรื่องนี้ต้วนหลิงเทียนไม่มีความมั่นใจเลย
“ช่างแข็งแกร่งยิ่ง!!”
“ช่างร้ายกาจนัก! นี่น่ะเหรอวิธีข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ ที่จ้าววังเซียนสัญจรสืบทอดต่อกันมา?”
….
ขณะเดียวกันเหล่าผู้ที่มาชมดูเรื่องราว ต่างพากันประหลาดใจทั้งแตกตื่นกับ ‘วิธี’ เอาชนะอัสนีทัณฑ์สวรรค์ของอวี่เหวินฮ่าวเฉินนัก!
