WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 2328
War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 2328
ตอนที่ 2,328 : กาย กระบี่ รวมหนึ่ง!
ซู่มมม!!
บอลพลังทำลายล้างที่มีเปลวเพลิงสีเทาลุกโชนนั้น พุ่งยิงเข้ามาด้วยสภาวะปานอุกกาบาตที่ถล่มลงมาจากนอกโลก! กลิ่นอายพลังอันน่าพรั่นพรึงเข่นฆ่าสังหารเข้ามายังต้วนหลิงเทียนอย่างน่ากลัว!!
ทุกที่ทางที่บอลพลังทำลายล้างอันลุกโชนไปด้วยเพลิงสีเทานี้พุ่งผ่าน ความว่างเปล่ากลับกลายเป็นบิดเบือน ราวกับพวกมันพร้อมจะพังทลายลงได้ทุกเวลา!
‘การโจมตีนี้ของมัน ถึงขั้นสลายร่างผสานกับพลัง!มันหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับพลังอย่างแท้จริง…และนั่นก็ทำให้พลังทำลายของกระบวนท่านี้เพิ่มพูนขึ้นไปอีกขอบเขต…’
ในขณะเดียวกันกับที่บอลพลังทำลายล้างอันมีเพลิงเทาลุกโชนพุ่งมาปานอุกกาบาต ชั่วเวลาพริบตาดุจฟ้าแลบนี้ ในใจต้วนหลิงเทียนพลันจุดประกายความคิดหนึ่งขึ้นมา
‘วิธีแบบนี้ดูเหมือนจะมีจุดร่วมกับขอบเขตที่ 4 ของยอดใจกระบี่…กระบี่ใจกระจ่าง!’
ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนได้ค้นพบว่า
เขาสัมผัสได้ถึงโอกาสที่จะยกระดับขอบเขตยอดใจกระบี่อีกครั้ง กระทั่งความรู้สึกว่าจะสามารถเปิดประตูนั้นไปได้ยังรุนแรงกว่าครั้งก่อนหน้าหลายสิบเท่า!
ต้วนหลิงเทียนไม่รอช้าเร่งคว้าโอกาสที่ว่าไว้ทันที สำนึกสติของเขาจมจ่อมสู่ห้วงภวังค์หนึ่ง
ขณะเดียวกันบอลพลังทำลายล้างเพลิงเทาที่พุ่งเข้ามาปานอุกกาบาตถล่มโลกนั่น ก็เจียนบรรลุถึงตัวต้วนหลิงเทียนมากขึ้นทุกขณะ!
เรื่องนี้ทำให้ใจต้วนหลิงเทียนสะท้านไปคราหนึ่ง ด้วยสัมผัสได้ถึงอันตราย!
และเมื่อสัมผัสได้ถึงอันตรายที่กำลังจะบรรลุถึง ยิ่งทำให้ในใจต้วนหลิงเทียนบังเกิดความรู้สึกกดดันอย่างหนัก เรียกว่าเสมือนแล่นเรือลำน้อยลอยคออยู่ท่ามกลางมหาสมุทรคุ้มคลั่ง ไม่รู้ชะตาว่าจะถูกคลื่นกลืนกินเมื่อใด
แต่ในชั่วพริบตาก่อนที่ต้วนหลิงเทียนจะถูกพลังอำนาจมหาศาลจากบอลพลังทำลายล้างที่ลุกโชนไปด้วยเพลิงเทาครอบงำทำลาย…
‘แบบนี้นี่เอง!’
ในห้วงเวลาคับขันสุ่มเสี่ยง ต้วนหลิงเทียนที่เลือกจะไขว่คว้า ‘โอกาส’ ทำความเข้าใจขอบเขตที่ 4 ของยอดใจกระบี่อย่างกระบี่ใจกระจ่าง เมื่อจับโอกาสนั้นได้รวมถึงได้รับแรงกดดันอันหนักหน่วงจากกระบวนท่าที่รุนแรงมากพอจะเข่นฆ่าชีวิตเขา ทำให้จิตที่ถูกบีบคั้นเร่งเร้าประสิทธิภาพถึงขีดสุด…!
ในเวลาเพียงเสี้ยวพริบตา ต้วนหลิงเทียนรู้สึกเสมือนทุกสิ่งอย่างกระจ่างคลี่คลาย หลายอย่างที่เขาคิดไม่ออกกลับกลายเป็นรู้แจ้ง
และสิ่งที่เขาคิดไม่ออกและไม่อาจเข้าใจได้ว่าคืออะไร ก็คืออุปสรรคที่ทำให้เข้าติดค้างอยู่ในขอบเขตที่ 3 ของยอดใจกระบี่โดยที่ไม่อาจบรรลุถึงขอบเขตที่ 4 ได้เสียที
ทว่าบัดนี้อุปสรรคดังกล่าว ได้ถูกทลายจนหายไปไม่มีเหลือ!
พริบตาที่บอลพลังทำลายล้างอันลุกโชนไปด้วยเพลิงเทาห่างร่างต้วนหลิงเทียนเพียงไม่ถึงก้าว ใจที่เต็มไปด้วยแรงกดดันก่อนหน้า กลับผ่อนคลายลงอย่างประหลาด
วินาทีนี้ต้วนหลิงเทียนเสมือนได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองเต้นได้อย่างชัดเจน
ทันใดนั้น
“กระบี่ใจกระจ่าง!!”
เพียงหนึ่งห้วงคิด คนคล้ายกลับกลายเป็นไม่หวั่นหวาดต่อความตายที่ลุมาถึงแม้แต่น้อย!
ในห้วงเวลาสุดท้ายก่อนที่ความตายจะลุถึง กาลเวลาเสมือนหยุดลง!
วู้มมม!!
ทั่วร่างต้วนหลิงเทียนปรากฏแสงสว่างพวยพุ่งขึ้นมาอย่างไร้ซึ่งสัญญาณเตือนใดๆ!
เป็นพลังเซียนอมตะต้นกำเนิดอันยิ่งใหญ่สุดไพศาล แล่นพล่านไปตามชีพจรเซียน 99 สายภายในร่างต้วนหลิงเทียนด้วยความเร็วอันน่ากลัว พริบตาก็ก่อเกิดเป็นรังสีพลังแหลมคมผุดโผล่ออกมาห้อมล้อมไปทั่ว จนร่างต้วนหลิงเทียนเสมือนถูกกลืนหายไปในรังสีพลังดังกล่าว!
และในห้วงเวลานี้ร่างต้วนหลิงเทียนทั้งร่าง คล้ายจะกลับกลายเป็นส่วนหนึ่งของรังสีกระบี่ที่ห้อมล้อมทั้งหลาย!
เส้นผมอันยาวสลวยของต้วนหลิงเทียน ดวงตาของต้วนหลิงเทียน หูของต้วนหลิงเทียน จมูกของต้วนหลิงเทียน ทุกสิ่งอย่างของต้วนหลิงเทียน…
บัดนี้พวกมันเปล่งรังสีกระบี่อันคมกล้าหาใดเปรียบออกมา!
เป็นทั่วร่างต้วนหลิงเทียนกำลังเปล่งรังสีกระบี่อันคมกล้า!
รังสีพลังกระบี่ผุดโผล่ขึ้นจากทุกอณูในร่าง! ครู่ต่อมาพวกมันก็เริ่มเกาะกลุ่มรวมตัวกันฉับไว ประหนึ่งพันหมื่นสายธารหลอมรวมกลับกลายเป็นหนึ่งห้วงสมุทร ให้ความรู้สึกยิ่งใหญ่หาใดเปรียบ!
“นี่…”
พริบตาที่ห้วงเวลาเสมือนหยุดนิ่งไป ประมุขเผ่าปีศาจมนุษย์ หยางเจิ้นซิง และจ้าววังเซียนสัญจรอวี่เหวินฮ่าวเฉิน ราวกับได้แลเห็นบางสิ่งอันน่าพรั่นพรึงยากอธิบาย ลูกตาของมันหดเล็กลงโดยพลัน!
ภายในสายตาของพวกมัน
อยู่ๆร่างต้วนหลิงเทียนก็เปล่งแสงสว่างวาบ ก่อนที่คนทั้งคนจะสลายหายไปเป็นแสง!
อีกทั้งแสงสว่างเจิดจ้านั่นอยู่ๆก็คล้ายจะควบรวมผนึกเป็นกระบี่พลัง ต่อมากระบี่พลังที่ส่องแสงจ้าทั้งหลายก็คล้ายรวมตัวกันด้วยความเร็วอันน่าสะพรึง!
มวลแสงสว่างเจิดจ้าจากกระบี่ทั้งหลาย ควบรวมก่อเกิดเป็นกระบี่สีขาวพิสุทธิ์ยาว 3 ฉื่อ!
วู้ม!!
เผชิญหน้ากับบอลพลังทำลายล้างอันลุกโชนไปด้วยเพลิงสีเทาที่พุ่งมากำลังจะปะทะ…
กระบี่ขาวพิสุทธิ์ 3 ฉื่อแต่เดิมที่ลอยนิ่งท่ามกลางความว่างเปล่าพลันเคลื่อนไหว!
ทั้งหมดเห็นเพียงประกายแสงสีขาวฟันออกไปคราหนึ่ง!
ฟั่ฟฟฟ!!
หลังประกายแสงขาวตวัดวาบฉับไว! เสียงกระบี่เสียดฟ้าพลันดังขึ้นกึกก้องในอากาศ!!
สาเหตุที่ไฉนเสียงกระบี่เสียดฟ้าดังขึ้นทีหลังประกายแสงเคลื่อนไหวนั้นไม่ได้แปลกอะไร ด้วยเพราะความเร็วในการเคลื่อนไหวของประกายแสงดังกล่าว มันรวดเร็วเหนือกว่าเสียง!
เป็นธรรมดาที่จะเห็นประกายแสงสว่างวาบขึ้นมาก่อน ค่อยได้ยินเสียง!
ประกายแสงที่ว่าแน่นอนว่าย่อมเป็นกระบี่ขาวพิสุทธิ์ 3 ฉื่อ! มันตวัดฟันฟาดออกไปด้วยสภาวะราวกับไร้สิ่งใดที่ฟันไม่ขาด!!
กระบี่ที่ฟันกรีดอากาศออกไป ย่อมก่อให้เกิดคลื่นกระบี่สะบั้นฉาบคลุม มันกรีดฉีกความว่างเปล่าได้อย่างน่ากลัว! หากแต่ก็ไม่ได้ถือว่าฉับไวอะไร ราวกับเป็นการตวัดกระบี่ออกไปตามอำเภอใจ
อย่างน้อยๆหยางเจิ้นซิงและอวี่เหวินฮ่าวเฉิน ครึ่งก้าวเซียนอมตะทั้ง 2 ก็สามารถมองเห็นวิถีกระบี่ได้ไม่ยาก…
อีกทั้งหลังกระบี่ตวัดฟันไปแล้ว…
เปรี๊ยะ!
เสียงฉีกขาดหนึ่งดังขึ้น ประหนึ่งมีบางสิ่งถูกฉีกกระชาก
หากมองสังเกตไปให้ดี
จะพบว่าพื้นที่ๆกระบี่สีขาวพิสุทธิ์ลากผ่านนั้น ปรากฏรอยแยกหนึ่งอันน่ากลัว!
เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ!
…
กระบี่ขาวพิสุทธิ์ถึงขั้นฉีกเปิดรอยแยกออกไปเป็นทาง! อีกทั้งรอยแยกที่ว่ายิ่งมาก็ยิ่งน่าหวาดกลัวนัก!!
ยิ่งไปกว่านั้นรอยแตกที่ว่าก็กำลังฟาดฟันเข้าใส่บอลพลังทำลายล้างอันลุกโชนไปด้วยเพลิงสีเทาที่พุ่งมาด้วยสภาวะปานอุกกาบาตถล่มโลก!
ประหนึ่งจะฉีกแยกบอลพลังทำลายล้างให้ขาดกลาง!
“กระบี่ทลายว่างเปล่า!!”
“เป็นไปมิได้! เจ้าไฉนถึงมีพลังสูงพอจักฉีกเปิดความว่างเปล่าได้!!”
เสียงตื่นตระหนกหนึ่งดังขึ้นให้ต้วนหลิงเทียนได้ยิน ในน้ำเสียงยังแฝงไว้ด้วยความไม่ยินยอม ราวกับไม่ยินยอมที่จะต้องตกตายเพราะต้วนหลิงเทียน!นอกจากนั้นยังเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกเหลือเชื่อ…!!
เป็นเสียงของเลี่ยวหนันเจียง!
แน่นอนว่านอกจากความตื่นตระหนกทั้งเหลือเชื่อในน้ำเสียงแล้ว ในน้ำเสียงของเลี่ยวหนันเจียงยังแฝงไว้ด้วยอารมณ์หนึ่งชัดเจน ความหวาดกลัว!
ราวกับมันกำลังเผชิญหน้าอยู่กับอะไรที่มันหวาดกลัวอย่างมาก
และแทบจะพร้อมกันกับที่เสียงของเลี่ยวหนันเจียงดังจบ
ฉับบ!!
รอยแยกที่อุบัติขึ้นจากคลื่นกระบี่ขาวพิสุทธิ์ที่ตวัดฟาดออก ในที่สุดก็ปะทะเข้ากับบอลพลังทำลายล้างอันลุกโชนไปด้วยเพลิงเทา! สับสะบั้นบอลพลังให้ขาดกลางได้อย่างง่ายดาย!!
ประหนึ่งกระบี่คมกล้าผ่าเนย
เปรียะ! เปรียะ! เปรียะ!
…
ความว่างเปล่าสะท้านสะเทือน คลื่นพลังอันน่าหวาดกลัวกำจายออกไปทั่วสารทิศ!
บอลพลังทำลายล้างอันลุกโชนไปด้วยเพลิงสีเทาบัดนี้ถูกสะบั้นขาดกลาง ทั้งกำลังถูกรอยแยกมืดดำที่เกิดขึ้นกลืนหาย! สุดท้ายก็อันตรธานหายไปไม่มีเหลือ!!
แต่ต้นจนจบไม่มีเสียงกรีดร้องใดๆของเลี่ยวหนันเจียงดังขึ้นอีกเลย
อีกทั้งรอยแยกที่ฉีกเปิดกลางอากาศนั่น มองเข้าไปก็เห็นแต่ความมืดมิดไม่อาจแลเห็นสิ่งใด
ซัวว!!
ขณะเดียวกันกระบี่สีขาวพิสุทธิ์ 3 ฉื่อ ที่ตวัดฟันด้วยความเร็วอันเหนือล้ำอันลอยล่องอยู่ไม่ไกลจากรอยแยกดำมืด ก็เริ่มแตกสลายเป็นละอองพลัง ก่อนที่จะค่อยๆควบรวมสร้างร่างมนุษย์…
ไม่นานก็ปรากฏร่างในชุดสีม่วงที่แลดูปกติดีไม่มีแม้แต่รอยเปื้อนใดๆ ต้วนหลิงเทียน!
‘นี่น่ะเหรอ…กระบี่ใจกระจ่าง!’
เมื่อต้วนหลิงเทียนปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง เขาไม่สนใจผู้ใด กระทั่งไม่แยแสสิ่งใดโดยรอบเพียงยืนสงบนิ่งสีหน้าครุ่นคิด
ตอนนี้เขากำลังหวนนึกถึงความรู้สึกเมื่อครู่
เขาพึ่งเปลี่ยนร่างกายทั้งร่างของเขาให้กลายเป็นกระบี่ได้อย่างสมบูรณ์! อีกทั้งยังควบคุมใช้กระบี่นั่นออกด้วยสภาวะราวเทพกระบี่! และนั่นคือขอบเขตที่ 4 ของยอดใจกระบี่ที่เขาบรรลุถึง กระบี่ใจกระจ่าง!
แปลงเป็นกระบี่!
กาย กระบี่ หลอมรวมสู่หนึ่ง!
เพียงหนึ่งกระบี่ตวัดฟัน สะบั้นความว่าง!
ในขณะที่ร่างต้วนหลิงเทียนปรากฏสู่สายตาของผู้ชมทั้งหมดอีกครั้ง
ไม่ไกลจากร่างต้วนหลิงเทียน ยังปรากฏรอยแยกมิติอันน่ากลัวอยู่ห่างไปไม่ถึงก้าว…
และรอยแยกมิตินี้ก็ทำให้ทั้งหมดตกตะลึงพรึงเพริดแล้ว!!
รอยแยกมิติที่บังเกิดขึ้น ทำให้ความว่างเปล่าโดยรอบผันผวนตลอดเวลา ภาพบริเวณใกล้เคียงบิดเบือนยากจะมอง…
และลึกลงไปในรอยแยกมิตินั่น ก็มีแต่ความมืดมิดอันไร้ก้นบึ้ง มองไปคล้ายปากกระหายเลือดของอสูรฟ้าดินที่สามารถกลืนกินได้ทุกสรรพสิ่ง!
เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ!
…
เสียงแตกระเบิดเสียดหูยังดังขึ้นไม่หยุด เป็นรอยแยกมิติกลางอากาศไม่ไกลจากต้วนหลิงเทียนกำลังฟื้นฟูอยู่ทุกขณะ
อย่างไรก็ตามด้วยรอยแยกมิตินี้มันทั้งกว้างทั้งยาวการจะคืนสภาพให้กลับมาสมบูรณ์น่ากลัวว่าต้องใช้เวลาๆราว 1-2 เค่อจนกว่าจะปิดตัวสนิท
ร่างหนึ่งลอยล่องอยู่ข้างรอยแยกมิติ…
ฉากเรื่องราวดังกล่าวราวกับจะสลักลึงลงไปในใจของทุกสายตาที่อยู่ในเหตุการณ์ และพวกมันคงไมมีวันลืมไปตลอดชีวิต!
ในขณะที่เหล่าผู้ชมทั้งหลายยังไม่ฟื้นจากการตื่นตระหนกตกใจนั้น
“ท่านอาจารย์!!”
เสียงร้องเรียกด้วยความโศกเศร้าของประมุขเผ่าปีศาจมนุษย์หยางเจิ้นซิง ดังขึ้นทำลายความเงียบสงัดไปหมดสิ้น ทำให้ทุกสายตาหันไปมองตกที่ร่างของมันทันที
ทั้งหมดพบว่า ไม่ทราบตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่บัดนี้หยางเจิ้นซิงกำลังมองเศษซากไข่มุกที่แตกสลายกองหนึ่งในฝ่ามือ ค่อยเงยหน้าขึ้นไปมองรอยแยกมิติที่ฉีกเปิดขึ้นท่ามกลางความว่างเปล่าข้างๆต้วนหลิงเทียน ด้วยใบหน้าที่ฉายชัดถึงความเจ็บปวด
ราวกับได้สูญเสียสิ่งสำคัญไป…
“นั่นมัน…หรือจะเป็นไข่มุกวิญญาณของอาวุโสเลี่ยวหนันเจียง เซียนอมตะเสเพล 3 ทัณฑ์?”
ไม่ทราบว่าเสียงกระซิบถามของผู้ใดที่ดังขึ้น
หากแต่ไม่แปลกใจเลยที่มันจะทำให้อารมณ์ทุกผู้คนสะท้านขึ้นมา
“อะ…อาวุโสเลี่ยวตายแล้ว?”
“นี่มันจะเป็นไปได้อย่างไร!? นั่นคือเซียนอมตะเสเพล 3 ทัณฑ์ ตัวตนที่ทรงพลังเหนือล้ำยิ่งกว่าครึ่งก้าวเซียนอมตะ! เป็นไปได้อย่างไรที่จะตกตายลงด้วยน้ำมือของครึ่งก้าวเซียนอมตะ!!”
“เรื่องนี้ข้าเองก็ไม่เชื่อ! สมควรมีอันใดผิดพลาด!!”
……