WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 2345
War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 2345
ตอนที่ 2,345 : ดาบสยบโลกา!
เวิง! เวิง! เวิง!
…
เมื่อดาบเล่มเขื่องถูกเฉินอี้หรูชี้ชูขึ้นฟ้า ตัวดาบก็แพ่พุ่งรังสีพลังออกไปยืดยาวกว่าร้อยหมี่ และยามรังสีพลังนี้ปรากฏมันก็เสียดสะท้านอากาศอย่างแรงจนเกิดเสียงพลังดังเวิงๆแสบหู!
เสียงพลังเสียดอากาศยังดังระรัวปานพวงประทัด!
เปรียะ!
เปรียะ!
…
และในขณะที่ทำนองเสียดหูดังรัวปานพวงประทัดสะท้านออกมา พลันบังเกิดเสียงปริแตกราวกับมีบางสิ่งฉีกขาด!
เป็นรอบๆรังสีพลังที่ตัวดาบแผ่พุ่งออก ความว่างเปล่าคล้ายถูกพลังคมกล้ากรีดเฉือนจนแยกเปิด!มองไปบัดนี้ประหนึ่งมีอสรพิษสีดำปรากฏขึ้นเรียงรายห้อมล้อมรังสีดาบของมัน!!
สีดำที่ปราฏกลางความว่างราวอสรพิษนับพันนั่นพาลให้ผู้ที่ชมดูบังเกิดความหวาดกลัวขนลุกไม่น้อย!
หากทว่ารอยแตกดังกล่าวก็เพียงคงอยู่ประเดี๋ยวประด๋าวก่อนที่จะหายไป ทว่าเมื่อไอพลังคมกล้าที่แผ่ออกมาจากรังสีดาบแผ่พุ่งไปที่ใด ก็จะบังเกิดรอยแยกขึ้นอีกครั้ง!
ฉาดดังกล่าวยิ่งสะท้านสะเทือนขวัญของผู้ชมยิ่งนัก!
เพราะสุดท้ายแล้ว ก็ต้องมีพลังความแข็งแกร่งสูงถึงระดับหนึ่งเท่านั้น ถึงจะสามารถฉีกเปิดความว่างเปล่าแบบนี้ได้ และยิ่งแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งทิ้งรอยแยกอากาศไว้นานมากขึ้น!
ทว่าสามารถฉีกเปิดความว่างเปล่าในพื้นที่ปกติแบบนี้ กระทั่งตัวตนอย่างครึ่งก้าวเซียนอมตะยังไม่สามารถกระทำได้!
บางทีครึ่งก้าวเซียนอมตะที่สัมผัสถึงตำแหน่งระนาบเทียม มีพลังอำนาจสูงพอจะฉีกเปิดรอยแยกมิติเพื่อเข้าสู่ระนาบเทียมนั่นได้…แต่นั่นก็คือรอยแยกมิติที่เชื่อมระว่างระนาบปกติกับระนาบเทียมเท่านั้น!
และในพื้นที่ๆระนาบปกติทับซ้อนกับระนาบเทียม ก็สามารถฉีกเปิดความว่างเปล่าสร้างรอยแยกได้ทางเดียว เนื่องเพราะกฏธรรมชาติของระนาบเทียมนั้น สามารถมีทางเข้าออกได้แค่ทางเดียว!
“ถึงจะเป็นตัวตนครึ่งก้าวเซียนอมตะ หากพื้นที่บริเวณนี้มิได้ทับซ้อนกับระนาบเทียมที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ…ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะฉีกเปิดความว่างเปล่าได้มากมายแบบนั้น!”
เมื่อเห็นว่าแค่รัศมีพลังคมกล้าจากรังสีดาบอันน่ากลัวของเฉินอี้หรู ก็สามารถทำให้ความว่างเปล่าปริแตกก่อเกิดเป็นรอยแยกมิติเล็กๆมากมาย ทุกผู้คนรู้สึกเสมือนหนังศีรษะด้านชาขึ้นมาทันที!
เพราะนี่เป็นอะไรที่อยู่เหนือสามัญสำนึกของพวกมันไปอย่างสิ้นเชิง!
เพราะสุดท้ายแล้วกระทั่งตัวตนครึ่งก้าวเซียนอมตะ อันเป็นตัวตนที่ทรงพลังสูงสุดในความเข้าใจของพวกมัน ก็ไม่อาจสร้างรอยแยกมิติยิบย่อยมากมายแบบนี้ได้!
“มันไม่ได้โกหก…มันเป็นเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์อะไรนั่นที่มีพลังเหนือล้ำกว่าครึ่งก้าวเซียนอมตะมากจริงๆ?”
“ถึงแม้ข้าจะยังไม่รู้ว่าเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์คืออะไร…แต่เท่าที่ข้ารู้มาก็คือ เมื่อผู้ใดบรรลุถึงครึ่งก้าวเซียนอมตะแล้ว อีกมินานจักถูกพลังอำนาจของสวรรค์ชักนำให้ขึ้นไปสู่ระนาบเทวโลก และกลายเป็นตัวตนที่ทรงพลังเหนือกว่าครึ่งก้าวเซียนอมตะ…เซียนอมตะที่แท้จริง!”
“เซียนอมตะที่แท้จริง? หรือเจ้าจะบอกว่าเจ้านี่มันเป็นเซียนอมตะที่แท้จริงแล้ว?”
“แล้วยังจะมีความเป็นไปได้อื่นใดอีก…ยังจะมีตัวตนใดในโลกสามารถฉีกเปิดความว่างเปล่าได้ตามอำเภอใจเช่นนี้?”
……
พอได้เห็นว่ารังสีดาบที่แผ่พุ่งออกมาจากดาบพลังเล่มเขื่องของเฉินอี้หรูสามารถฉีกเปิดความว่างเปล่าได้อย่างง่ายดาย ผู้ชมทั้งหลายก็ตกตะลึงพรึงเพริดความรู้สึกอื้ออึงยากอธิบาย
และในขณะที่พวกมันกำลังตกตะลึงอึ้งทึ่ง สายตาที่พวกมันใช้มองเฉินอี้หรูก็เริ่มแปรเปลี่ยนจากความแคลงใจสงสัยกลายเป็นความนับถือเลื่อมไส!
เพราะในสายตาของพวกมัน
ชายชราในชุดหรูหราเบื้องหน้า สมควรเป็นตัวตนขอบเขตเซียนอมตะที่แท้จริงแน่นอนแล้ว!
ถึงแม้พวกมันเองก็ไม่อาจหาเหตุผลมารองรับได้ ว่าไฉนในระนาบโลกียะอย่างดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าถึงมีตัวตนเช่นนี้ดำรงอยูได้…
แต่สิ่งนี้ก็ไม่กระทบต่อความนับถือเลื่อมไสในตัวผู้เข้มแข็งที่มีพลังอานุภาพฉีกเปิดความว่างเปล่าเบื้องหน้าได้อย่างง่ายดาย!
“ต้วนหลิงเทียน รับดาบข้า!!”
พร้อมเสียงคำรามอันเกรี้ยวกราดปานสัตว์ร้าย ร่างเฉินอี้หรูอยู่ๆก็บังเกิดความเปลี่ยนแปลงอัศจรรย์ ตัวมันค่อยๆขยายใหญ่ขึ้น!!
ชั่วพริบตาร่างมันก็กลับกลายเป็นยักษ์ตัวเขื่องสูงกว่าร้อยหมี่!!
และดาบพลังเล่มเขื่องในมือของมันก็ขยายขนาดจนทาบทับกับรังสีดาบที่แผ่พุ่งออกไปตอนแรก กลับกลายเป็นดาบพลังเล่มมหึมายาวร้อยหมี่!!
ร่างมหึมาดั่งมหายักษา พร้อมดาบมหหึมายาวร้อยหมี่!
หนุนเสริมสภาวะเฉินอี้หรูที่คอนดาบชี้ฟ้าด้วยสองมือทรงพลังปานทวยเทพ! พลังอำนาจประหนึ่งจะแผ่ออกมาปิดฟ้าบังตะวัน น่าเกรงขามสุดที่จะกล่าว!!
“ดาบสยบโลกา!!”
ร่างเฉินอี้หรูที่สูงใหญ่ประหนึ่งยักษ์คำรามออกมาปานเทพเจ้าพิโรธ เสียงของมันยังดังสะท้านประหนึ่งฟ้าผ่าเคี่ยวกรำแก้วหูผู้คนจนแทบปริแตก!!
ทันใดนั้น
“อ๊าคคค!!”
“โอ๊ยยย!!”
…
ผู้ที่พลังฝึกปรืออ่อนด้อยถึงกับแก้วหูทะลุ โลหิตไหลย้อยออกจากช่องหูอย่างน่าสยดสยอง! บ้างที่สาหัสก็ปรากฏโลหิตไหลออกจากทวารทั้ง 7!
เพียงเสียงคำรามของเฉินอี้หรูก็มีอานุภาพน่ากลัวนัก!
และนั่นยังเป็นแค่จุดเริ่มต้น!
แคร่ก! แคร่ก! แคร่ก! แคร่ก!
…
แทบจะพร้อมกันกับที่เฉินอี้หรูคำรามออกสนั่น พื้นใต้ฝ่าเท้ามหึมาทั้งสองของมันก็บังเกิดรอยแตกร้าวขยายออกไปดั่งใยแมงมุม อีกทั้งรอยแตกร้าวที่ว่ายังเริ่มแตกตัวจนกลับกลายคล้ายหุบเหวลึกไร้ก้นบึ้ง!
และในขณะที่ผู้ชมทั้งหลายเร่งรุดเหินร่างขึ้นฟ้า เพื่อไม่ให้ตกลงไปในรอยแยกกันจ้าละหวั่นนั้น
ดาบมหึมาที่เฉินอี้หรูคอนถือไว้ด้วยมือทั้ง 2 ข้าง ในที่สุดก็ฟันฟาดลงมา!
ซู่มมม!! เปรียะ! เปรียะ! เปรียะ! เปรียะ!
…
ยามเมื่อดาบฟาดลง ไม่เพียงบังเกิดเสียงดาบแหวกอากาศน่ากลัว ยังบังเกิดเสียงแตกออกของความว่างเปล่าดังสนั่นลั่นไม่หยุด! มองไปประหนึ่งบังเกิดอสรพิษสีดำทะมึนกระพริบวาบไม่หยุดในความว่างเปล่า!
และตอนนี้พลังที่เฉินอี้หรูผนึกควบไว้ในตัวดาบ ก็ปะทุระเบิดออกมาอย่างน่ากลัว ดาบพลังเปล่งอานุภาพออกมาจนหมด!
ครืน! ครืน! ครืน! ครืน! ครืน!
…
เมื่อดาบพลังเล่มเขื่องระเบิดพลังอานุภาพออกมา คลื่นพลังมหาศาลน่าพรั่นพรึงก็กระแทกกระทั้นออกไปทุกสารทิศ บรรยากาศที่เคยสงบเปลี่ยนไปคล้ายดั่งมรสุมสมุทรคลั่ง!
ทันใดนั้น
ปง! ปง! ปง! ปง! ปง!
…
ในบรรดาร่างผู้ชมทั้งหลายที่พึ่งจะเหินลอยขึ้นฟ้าไปนั้น เหล่าผู้ที่อยู่ไม่ไกลจากเฉินอี้หรูมากพอ ร่างคนทั้งคนก็แตกระเบิดเป็นละอองโลหิต! พวกมันไม่อาจตอบสนองสิ่งใดยิ่งไม่อาจต้านทานคลื่นพลังมหาประลัยที่กำจายออกมาได้แม้แต่วินาทีเดียว!!
ชั่วพริบตาความว่างเปล่าเหนือพื้นดินหน้าเหลา ก็ตลบไปด้วยหมอกโลหิตคาวคลุ้ง ราวกับโลกหล้าจะถูกโชลมย้อมไปด้วยสีเลือดแดงฉาน!
ปงงงง!!
โครมมมม!!
…
ขณะเดียวกันกับที่หมอกโลหิตอุบัติขึ้นย้อมฟ้า เหลาอาหารไม่ไกลก็ถูกคลื่นพลังมหาประลัยจากดาบของเฉินอี้หรูซัดกระแทกเช่นกัน มันพังทลายลงราวปราสาททรายกลับกลายเป็นซากปรักหักพังฝุ่นคลุ้ง!
ร่างผู้คนมากมายกระเด็นกระดอนออกมาให้เห็น แต่ละร่างยังชุ่มโชกไปด้วยโลหิตเป็นตายไม่อาจบอก!
ยังไม่ใช่แค่เหลาอาหารแห่งนี้เท่านั้น
กระทั่งอาคารสิ่งปลูกสร้างโดยรอบ ในรัศมีที่คลื่นพลังจากการฟาดฟันอันปะทุออกมาจากตัวดาบเฉินอี้หรูไปถึง ล้วนพังทลายกลับกลายเป็นซากปรักหักพังทั้งสิ้น!
เรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่ที่เฉินอี้หรูสร้างดาบจนฟาดดาบลงมา มันอุบัติขึ้นในเวลาเพียงชั่วอึดใจเท่านั้น ยากที่จะมีใครในละแวกนี้ตอบสนองสิ่งใดได้ทัน!
ซู่มมมม!!
ขณะเดียวกัน เสียงดาบฟาดฟันสะท้านปฐพีพลันดังขึ้น!
เป็นดาบมหึมาในมือเฉินอี้หรูร่างยักษ์กำลังฟาดฟันลงไปทางต้วนหลิงเทียนด้วยพลังอำนาจมหาศาลด้วยสภาวะพลังประหนึ่งคลุมฟ้าทลายภูผาสามารถทำลายล้างได้ทุกสิ่ง!
ตอนนี้เรียกว่าเฉินอี้หรูประหนึ่งร่างอวตารของทวยเทพที่จุติลงมายังแดนดินสำแดงพลังล้างโลกก็ไม่ปาน!
และกระบวนดาบนี้ของมันก็เรียกว่า…ดาบสยบโลกา!
หนึ่งดาบนี้สามารถสยบโลกหล้าได้ทั้งใบ!
“พลังอานุภาพแค่นี้…ยังกล้าเรียกว่าดาบสยบโลกาอีกเหรอ?”
อย่างไรก็ตาม แม้เผชิญหน้ากับกระบวนท่าดาบ สยบโลกา ที่ฟันฟาดมาของเฉินอี้หรู ต้วนหลิงเทียนที่กางม่านพลังปกป้องสตรีทั้ง 3 และหอบหิ้วร่างทั้ง 3 เอาไว้ไม่ให้ร่วงตกลงไปในรอยแยกที่กว้างลึกประหนึ่งหุบเหว ก็ไม่ได้มีทีท่าหวาดกลัวพลังอำนาจประหนึ่งทำลายล้างได้ทุกสิ่งแม้แต่น้อย ใบหน้ายังคลี่ยิ้มแสยะดูแคลนออกมาบางๆ
ราววกับดาบสยบโลกกานี้ของเฉินอี้หรูไม่ได้อยู่ในสายตาเขาแม้แต่นิดเดียว!
“มา!”
เมื่อเห็นดาบแฝงอำนาจมหาประลัยของเฉินอี้หรูฟาดลงมาด้วยอานุภาพทลายว่างเปล่า ฉีกเปิดรอยแยกจนใกล้เข้ามาทุกขณะ ต้วนหลิงเทียนก็สบถคำออกมาอย่างเฉยชา
และแทบจะพร้อมกันกับที่ต้วนหลิงเทียนสบถคำดังกล่าว
ซัว! ซัว! ซัว! ซัว! วู้มมม!!
…
รังสีกระบี่สีขาวที่ลอยล่องวนเวียนดั่งมังกรท่องรอบกายต้วนหลิงเทียน ก็เปล่งแสงสว่างวาบขึ้นมาปานตะวัน!
จากนั้นรังสีกระบี่สว่างไสวทั้งหลายก็พุ่งทะยานขึ้นไปถักทอร้อยเรียงเหนือร่างต้วนหลิงเทียนเพื่อสร้างเกราะป้องกันประหนึ่งตาข่ายฟ้า!
และในกระบวนการก่อตาข่ายมหึมาปานเกราะกำบังนี้ ยามเมื่อรังสีพลังส่องแสงสว่างจ้าพุ่งไปควบรวมถักทอสร้างตาข่าย เส้นทางที่รังสีกระบี่แต่ละเล่มพุ่งผ่านก็ปรากฏรอยแตกคงค้างไว้ในความว่างเปล่า มองไปประหนึ่งอสรพิษสีดำ!
รอยแยกท่ามกลางความว่างเปล่าทั้งหลาย เพียงคงอยู่ไม่นานก็คืนสภาพปิดตัว
และเนื่องจากรังสีกระบี่ของต้วนหลิงเทียนมันเปล่งประกายสว่างไสวยิ่งนัก ทำให้เฉินอี้หรูเองก็ไม่ทันแลเห็นรอยแยกที่ก่อเกิดขึ้นก่อนจะปิดตัวลง…
หาไม่แล้วมันต้องมองออกทันที!
ว่ายามรังสีกระบี่ของต้วนหลิงเทียนแต่ละเล่มเปล่งพลังออกมา ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าอานุภาพดาบพลังของมันที่ส่งผลต่อความว่างเปล่าแม้แต่น้อย!
ซู่มม! ซู่มม! ซู่มม! ซู่มม!
…
เสียงดาบฟาดผ่าลงมายังคงดังสนั่นกึกก้องไม่หยุด ร่างมหึมาปานยักษ์สูงร้อยหมี่ของเฉินอี้หรู ฟาดดาบพลังมหึมายาวร้อยหมีแหวกฟ้าผ่าอากาศลงไปอย่างดุร้าย หมายผ่าตาข่ายรังสีกระบี่ของต้วนหลิงเทียนให้แหลก!
“พัง!!”
และเมื่อดาบมหึมากำลังจะฟันปะทะตาข่ายรังสีกระบี่ เฉินอี้หรูพลันคำรามออกมาอีกครั้งอย่างเกรี้ยวกราด เสียงมันดังสนั่นประหนึ่งฟ้าร้อง ถึงขั้นกลบเสียงดาบแหววกอากาศไปชั่วขณะหนึ่ง!!
และในที่สุดดาบพลังมหึมายาวร้อยหมี่ของเฉินอี้หรูก็ฟาดฟันถึงตาข่ายป้องกันที่ต้วนหลิงเทียนถักทอขึ้นมาจากรังสีกระบี่!
ปงงงงงง!!!
ดาบพลังมหึมาที่ฟันฟาดลงตาข่ายรังสีกระบี่ ประหนึ่งดาบฟันกระทบผิวน้ำทะเลก็ไม่ปาน ท้องทะเลถึงกับสะเทือนเลือนลั่น! บังเกิดลอนคลื่นแหวกออกไปทั้งสองฝั่งดาบ ภาพราวผิวทะเลกระเพื่อมไม่หยุด!!
หลังจากนั้นไม่ทันไร
ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม!
……
ดาบพลังมหึมายาวกว่าร้อยหมี่พอฟันฟาดจนตาข่ายรังสีกระบี่กระเพื่อมไปครั้งใหญ่ มวลพลังมหาศาลสองขุมก็ระเบิดปะทุออกมาหักหาญชิงชัยกันไม่หยุด! คลื่นกระแทกจากการต้านทานกันของสองขุมพลังเริ่มซัดสะท้านออกไปโดยรอบเป็นวง พาลให้ความว่างเปล่าโดยรอบเริ่มปรากฏรอยแตกอันน่าสะพรึงกลัวเปิดแยก!!
ขณะเดียวกัน ณ จุดที่ขุมพลังมหาศาลทั้งสองกระทบต้านทาน ยังอุบัติเป็นเมฆรูปเห็ดขนาดมหึมา ยามเมื่อดอกเห็ดดังกล่าวเบ่งบาน คลื่นกระแทกอันน่าสะพรึงกลัวยังปะทุไล่หลังออกไปทั่วสารทิศ ราวกับจะไม่หยุดยั้งหากไม่ได้กวาดผ่านทั้งเก้าสวรรค์!
ทันใดนั้น
ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม!
…
บังเกิดเสียงระเบิดดังสนั่นลั่นขึ้นกึกก้อง!
และเสียงเหล่านี้ ก็ดังระเบิดขึ้นมาจากสรรพสิ่งที่อยู่ในรัศมีราวพันหมี่โดยรอบแรงระเบิดอันมีเมฆเห็ดมหึมาเบ่งบานออก!
คลื่นกระแทกที่ระเบิดกำจายออกมาจากเมฆเห็ดดังกล่าวอันมีรัศมีทำลายกว่าพันหมี่นั้น ย่อมสะท้านไปยังพื้นที่หน้าเหลาอาหารในรัศมีพันหมี่โดยรอบ
ยกเว้นก็แต่ผู้ที่มีพลังฝึกปรือขอบเขตเซียนสวรรค์ที่ไหวตัวทันเร่งรุดเหินร่างหลบหนี ทุกชีวิตที่อยู่ในรัศมีคลื่นระเบิดล้วนตกตายหมดสิ้น!!
บัดนี้กระทั่งข้ารับใช้วัยกลางคนทั้งสองของเฉินอี้หรู ที่ถึงแม้จะมีพลังฝึกปรือเซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยนกับ 9เปลี่ยน พวกมันก็ได้แต่กุลีกุจอหนีตายออกไปให้พ้นรัศมีแรงระเบิดที่กินวงกว้างถึงพันหมี่!!
ฟู่มมม! ฟิ้วววว! ซูวววว!
…
เสียงสายลมแรงหอบพัดไปทั่วอาณาบริเวณ และด้วยเสียงของสายลมอันเผยให้เห็นอิสระไม่กระทบสิ่งใด ก็เผยให้รู้ว่าทุกสิ่งโดยรอบบัดนี้เหี้ยนเตียนเพียงใด…
ตอนนี้ไม่ว่าจะเฉินอี้หรูหรือต้วนหลิงเทียน ทั้งคู่ต่างลอยล่องอยู่ในอากาศ
ส่วนผืนดินที่ปริแตกจนบังเกิดหุบเหวลึกก่อนหน้าบัดนี้ได้หายไปหมดสิ้น มันถูกแทนที่ด้วยหลุมขนาดมหึมาลึกหลายร้อยหมี่!!