WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 2361
War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 2361
ตอนที่ 2,361 : ลูกพี่ลูกน้องของเค่อเอ่อเมื่อชาติที่แล้ว?
เมื่อลั่นวาจาสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้าไปแล้ว หากแต่ถังซวนยังอยู่ดีไม่ถูกอัสนีฟ้าฟาดผ่าพิฆาต ย่อมบ่งบอกให้ทุกคนรู้ชัดเจน…
ทุกถ้อยคำวาจาก่อนหน้าที่พูดออกมา ไม่มีโป้ปดแม้ครึ่งคำ!
ทันใดนั้นไม่เพียงใจของเหล่าคนของลัทธิบูชาไฟจะสะท้านสั่นไหว กระทั่งต้วนหลิงเทียนและคนข้างกายอื่นๆ ยังอดไม่ได้ที่จะใจสั่นขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียง…
อาศัยการลงมือส่งๆ ฉีกเปิดความว่างยาวนับพันหมี่?
ตัวตนที่มีพลังสามารถถึงขั้นนั้น ย่อมไม่ต่างอะไรจากเทพเจ้าในสายตาพวกเขาเลย!
“ชายผู้นั้น ที่แท้มันเป็นใคร?”
ต้วนหลิงเทียนมองจ้องถังซวนตาเขม็งกล่าวถามออกมาเสียงหนัก
“ข้าเองก็มิรู้แน่ชัดว่าชายผู้นั้นที่แท้เป็นผู้ใด…”
ถังซวนส่ายหัวไปมาด้วยรอยยิ้มเหยเก “แต่ที่ข้ามั่นใจก็คือ…มันมิใช่คนในระนาบโลกียะของพวกเราแน่นอน และน่าจะมาจากระนาบเทวโลกอันยิ่งใหญ่ทั้งหลาย!”
“อีกทั้งมันยังเป็นผู้ที่ถ่ายทอดเวทย์พลังท่าร่างให้ข้า…”
ถังซวนกล่าวต่อ
โอ!
ทันทีที่ถังซวนกกล่าวถึงเรื่องนี้ออกมา ก็ไม่น่าแปลกใจเลยที่จะบังเกิดความโกลาหลขึ้นในหมู่ศิษย์รอบๆ
“เวทย์พลังท่าร่างของท่านจ้าวลัทธิ…ที่แท้กลับได้รับถ่ายทอดมาจากชายผู้สามารถฉีกเปิดความว่างนับพันหมี่ได้ในการสะบัดมือ…ตัวตนที่สมควรมาจากระนาบเทวโลก?”
“ไม่น่าแปลกใจ ไม่น่าแปลกใจ…ไม่น่าแปลกใจเลยว่าไฉนยามที่ท่านจ้าวลัทธิมีพลังฝึกปรือขอบเขตเซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยนหากแต่กลับทำให้เหล่าเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนทั้งหลายอับจนหนทางในการจัดการ! ที่แท้เวทย์พลังเสริมท่าร่างของท่านกลับมาจากแดนสวรรค์!!”
“แบบนี้ก็อธิบายได้ง่ายนัก…เวทย์พลังเสริมท่าร่างของท่านจ้าวลัทธิมาจากระนาบเทวโลกนี่เอง ย่อมเป็นธรรมดาที่มันจะมีพลังอำนาจสูงล้ำถึงขั้นบดขยี้เวทย์พลังใดๆในระนาบโลกียะ!”
“ข้าหลงคิดว่าเวทย์พลังเลิศล้ำนั่นเป็นมรดกตกทอดของลัทธิบูชาไฟเราเสียอีก…แต่ดูเหมือนข้าจะหวังมากเกินไป”
…
เหล่าศิษย์ทั้งอาวุโศของลัทธิบูชาไฟโดยรอบสนทนนากันเสียงดังระงม บอกให้รู้ว่าตอนนี้พวกมันเข้าใจเรื่องราวทุกอย่างแล้ว…
สำหรับเวทย์พลังเสริมท่าร่างของถังซวน พวกมันได้ยินคำร่ำลือมานานยังโด่งดังประหนึ่งฟ้าร้องในหู! เพราะเวทย์พลังเสริมท่าร่างของถังซวนได้รับการยอมรับว่าเอกอุในแดนดินถิ่นเทพยุทธ์เซียนเต๋า!
ตอนนี้พวกมันก็ได้รู้ความจริงเสียที…
ที่แท้เวทย์พลังเสริมท่าร่างที่จ้าวลัทธิของพวกมันเชี่ยวชาญ กลับมีต้นกำเนิดมาจากแดนสวรรค์!ระนาบเทวโลกในตำนานที่พวกมันฝันใฝ่อยากจะไปให้ถึง…!!
“ชายผู้นั้น…มีส่วนเกี่ยวข้องกับภรรยาข้า?”
ต้วนหลิงเทียนมองถังซวนถังกล่าวจี้ถามออกมาเสียงเข้ม เขาเชื่อว่าถังซวนคงไม่พูดถึงคนผู้นี้ขึ้นมาหากไม่มีเหตุผล
“มิผิด”
ถังซวนพยักหน้ารับ ค่อยพูดต่อ “ชายที่ทรงพลังดุจทวยเทพผู้นั้น…ได้กล่าวออกมาว่าธิดาเทพที่กำลังจะกลับมาเกิดใหม่ในลัทธิบูชาไฟของข้าเป็นลูกพี่ลูกน้องของมันเมื่อชาติที่แล้ว…”
‘ลูกพี่ลูกน้อง?’
ต้วนหลิงเทียนโค้งคิ้วขึ้นอย่างไม่รู้ตัว ก่อนที่จะหันมองไปยังเค่อเอ๋อ และพบว่าเค่อเอ๋อเองก็ชักสีหน้างุนงงว่างเปล่า บอกให้รู้ว่านางเองก็ไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนเลย
อย่างไรก็ตามพอได้รู้ว่าชายผู้แข็งแกร่งดุจทวยเทพนั้นเป็นลูกพี่ลูกน้องของเค่อเอ๋อเมื่อชาติที่แล้ว ปมคิ้วต้วนหลิงเทียนก็ค่อยๆคลี่คลายลง
เพราะสำหรับคนทั่วไป เรื่องชาติที่แล้วเสมือนมายาลวงใจ…
แต่สำหรับเขา มันคือประสบการณ์ที่เขาประสบพบเจอด้วยตัวเอง!
เรียกว่าไม่เพียงแต่เขาจะประสบกับตัวเอง เขายังได้พบผู้ที่มีเคล็ดวิชาฝืนฟ้า ‘กลับชาติ 3 วัฏฏะ’ อย่างจักรพรรดิกลับชาติมาเกิดตั้งแต่ช่วงแรกๆที่เขาจับพลัดจับผลูมามีชีวิตในโลกนี้อีกครั้งด้วยซ้ำ!
ด้วยเคล็ดวิชาบ่มเพาะ กลับชาติ 3 วัฏฏะ หลังจักรพรรดิกลับชาติมาเกิด ได้กลับมาเกิดใหม่เป็นรอบที่ 3 พลังของเคล็ดวิชาจะบรรลุถึงจุดสมบูรณ์แบบ! และความแข็งแกร่งของมันย่อมสามารถไขว่คว้าได้ถึงสวรรค์!!
อนิจจาจักรพรรดิกลับชาติมาเกิดเสมือนโจรปล้นผิดบ้าน ที่ดันเลือกร่างเขาเป็นภาชนะในการหวนกลับมาเกิด…
ด้วยเพราะจิตวิญญาณของเขาไม่ได้เป็นคนที่มีพื้นเพเดิมในระนาบโลกียะแห่งนี้ ทำให้เขาถูกปกป้องไว้ด้วยกฏเกณฑ์ของฟ้าดิน ซึ่งไม่อนุญาตให้เขาถูกผู้ใดเข้าแทรกแทรงทำลายวิญญาณครองร่าง!สุดท้ายวิญญาณของจักรพรรดิกลับชาติมาเกิด ก็จำต้องถูกกฏแห่งระนาบโลกียะป่นทำลายสลายไปอย่างไร้หนทางต่อต้าน…
และเรื่องราวในวันนั้นก็เป็นดั่งจุดเริ่มต้นให้เขาเดินบนหนทางสายใหม่ ใช้ชีวิตอยู่ต่อไปในโลกใบนี้…
เช่นนั้นเขาจึงเชื่อในเรื่องการกลับชาติมาเกิด!
“ชายผู้นั้นแม้ปากจะบอกข้าว่าธิดาเทพเป็นลูกพี่ลูกน้อง…หากแต่ยามกล่าวถึงเรื่องราวชาติกำเนิดของธิดาเทพ ข้าแลเห็นความปรารถนาอันล้นปรี่ว่าอยากจะครอบครองธิดาเทพในสายตาของมันชัดเจน…”
ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนกำลังรู้สึกโล่งใจไปเปราะหนึ่ง วาจาที่ถังซวนกล่าวสืบต่อออกมา ก็เหมือนหมัดฮุคชกเข้าเบ้าตาเขาอย่างจัง…
“จากสีหน้าและแววตาของมันข้าเกรงว่ามันจะมิได้เป็นลูกพี่ลูกน้องธรรมดา…หากข้าเดามิผิด นอกจากฐานะลูกพี่ลูกน้องแล้ว มันยังสมควรหลงใหลและไล่ตามธิดาเทพเมื่อชาติที่แล้วอย่างหัวปักหัวปำ”
ครู่ต่อมาขณะเล่า สีหน้าถังซวนก็เผยให้เห็นความยินดีประการหนึ่ง…
ราวกับพอได้รู้ว่าภรรยาของต้วนหลิงเทียนมีผู้หมายปองไว้แล้ว อีกทั้งยังเป็นตัวตนที่น่าพรั่นพรึงสุดหยั่ง มันก็คล้ายจะมีความสุขกับความโชคร้ายของต้วนหลิงเทียน…
“มันหลงใหลทั้งไล่ตามเค่อเอ๋อเมื่อชาติที่แล้ว?”
สีหน้าต้วนหลิงเทียนจมลงทันใด เมื่อได้ยินคำนี้ของถังซวน
ถึงแม้เขาจะกล่าวเองว่าเค่อเอ๋อก็คือเค่อเอ๋อชาติที่แล้วจะเป็นอย่างไรก็ช่างแต่ในปัจจุบันคือภรรยาเขา แต่พอได้ยินว่าชายผู้นั้นเคยหลงใหลในตัวเค่อเอ๋อเมื่อชาติที่แล้ว เขาก็รู้สึกไม่ค่อยจะดีนัก
“มันอุตส่าห์ถ่อมาจากระนาบเทวโลกเพียงเพื่อพูดเรื่องนี้กับเจ้า?”
ต้วนหลิงเทียนหันไปมองถังซววนอีกครั้ง และแววตาก็เยียบเย็นลงอย่างน่ากลัว
“ในเมื่อมันรู้แต่แรกว่าชาติที่แล้วเค่อเอ๋อเป็นคนสำคัญกับมันและกำลังจะกลับชาติมาเกิดที่นี่…แล้วทำไมมันถึงไม่อยู่รอเพื่อพานางไปด้วยแต่แรก? ไฉนถึงทิ้งนางไว้ให้อยู่ในโลกใบนี้เพียงลำพัง?”
เรื่องนี้ต้วนหลิงเทียนไม่อาจเข้าใจได้จริงๆ
หากคนผู้นั้นเป็นลูกพี่ลูกน้องทั้งหลงรักเค่อเอ๋อจริงๆ ก็ไม่น่าจะมีเหตุผลอะไรที่ไม่รอรับตัวเค่อเอ๋อไป…
“ข้าเองก็ถามคำถามนี้กับมันเช่นกัน”
ถังซวนกล่าว “เพียงแต่มันมิได้กล่าวตอบอะไรให้ข้ากระจ่าง เพียงแค่ฝากฝังให้ข้าคอยดูแลธิดาเทพให้ดี…และหลังจากมอบผลประโยชน์มากมายให้ข้ากระทั่งสัญญาว่าจะมอบผลประโยชน์ให้ข้ามากกว่านี้ในภายหลัง มันก็เร่งรุดจากไปทันที เพียงกำชับทิ้งท้ายไว้ว่าให้ข้าดูแลธิดาเทพให้ดีที่สุดและมันจักมารับ!”
“ส่วนเรื่องที่มันเป็นผู้ใด แล้วมาจากระนาบเทวโลกจริงๆหรือไม่ ตัวข้าก็มิอาจรู้ได้…อย่างไรก็ตามทั่วร่างของมันให้ความรู้สึกดั่งหมอกควันเลือนรางทั้งยังสูงส่งจนข้ามิกล้าแม้แต่จะมองตรงๆ…”
ถังซวนกล่าวออกมารวดเดียวจบ
ถึงแม้ว่าวันเวลาจะล่วงเลยผ่านไปเกือบครบร้อยปีแล้ว แต่พอเอ่ยถึงชายที่ร้ายกาจประดุจทวยเทพอีกครั้ง สีหน้าของถังซวนอดไม่ได้ที่จะหวาดกลัวยำเกรง
“แล้วมันบอกเจ้าไว้หรือไม่ ว่ามันจะย้อนกลับมาตอนไหน?”
สองตาต้วนหลิงเทียนทอประกายเรืองขึ้นมาวูบหนึ่งยามกล่าวคำถามนี้ออกมา น้ำเสียงยังเยียบเย็นลงอย่างไม่รู้ตัว
“มันมิได้ระบุวันเวลาที่จะย้อนกลับมาอย่างละเอียด…ตอนที่มันจากไปเพียงกล่าวบอกเอาไว้ว่าอีกร้อยปีจะหวนกลับมา และตอนนี้มันก็จากไปเกือบครบร้อยปีแล้ว…”
ถังซวนกล่าว
“ทั้งหมดมีแค่นี้?”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่หวนกลับมาสงบเหมือนเดิม ทำให้ถังซวนตกใจไม่น้อย “หือ?”
“ข้าถามเจ้าว่า…เรื่องที่เจ้ารู้เกี่ยวกับมันทั้งหมดมีเท่านี้?”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวถามซ้ำ
“ข้ารู้เพียงเท่านี้”
ถังซวนพยักหน้า
“ถ้างั้น…เพื่อเห็นแก่ที่เจ้ายอมให้ความร่วมมือแต่โดยดี ข้าจะให้เจ้าไปสบาย…”
แทบจะพร้อมกันกับที่ถังซวนพยักหน้า ต้วนหลิงเทียนก็เร่งเร้าพลังเซียนอมตะต้นกำเนิดออกมาอีกครั้ง มวลพลังมหาศาลประหนึ่งมังกรพิโรธถูกสะกดเริ่มกู่ร้องกังวาลออกมาจากฝ่ามืออีกรอบ
“เจ้า…”
เมื่อเห็นต้วนหลิงเทียนยกมือขึ้นมาผนึกควบรวมพลัง ทั้งเผยจิตสังหารออกมาอย่างชัดเจน สีหน้าท่าทีถังซวนก็เปลี่ยนไปใหญ่หลวง ด้วยมันไม่คิดไม่ฝันเลยว่าต้วนหลิงเทียนอยู่ๆก็คิดลงมือกับมันแบบนี้โดยที่มันไม่ทันได้ตั้งตัว!
อย่างไรก็ตามมันถังซวนในฐานะจ้าวลัทธิบูชาไฟย่อมไม่ต่างใดจากทหารชาญศึก แม้จะตกอยู่ในห้วงเวลาคับขันไม่ทันตั้งตัว แต่มันก็ปะทุพลังเซียนต้นกำเนิดชั่วชีวิตออกมาโคจรใช้ออกด้วยเวทย์พลังท่าร่าง หมายอาศัยความเร็วเลิศล้ำหลบหนีไปทันที…
“เหอะ!”
อย่างไรก็ตามเสียงแค่นสบถเยียบเย็นหนึ่งพลันดังขึ้น พาลให้สีหน้าท่าทีของถังซวนเปลี่ยนไปมหันต์
และแทบจะเป็นวินาทีเดียวกับที่หน้าถังซวนเปลี่ยนสี มวลพลังอันยิ่งใหญ่สุดไพศาลที่เหนือล้ำยิ่งกว่าพลังที่อัดแน่นในฝ่ามือต้วนหลิงเทียน พลันปะทุโถมมาครอบงำร่างมันราวกับคลื่นสมุทร! ตัวมันเสมือนเรือน้อยลำหนึ่งที่จมหายไปในคลื่นสมุทรดังกล่าวทันที!!
พลังเซียนต้นกำเนิดที่ถังซวนโคจรเร่งเร้าออก ยังไม่ทันได้ขับเคลื่อนเวทย์พลังอันใด ก็ถูกพลังดังกล่าวสะกดจนหดหายกลับเข้าร่าง สุดท้ายพลังทั้งร่างมันก็ไม่ต่างใดจากแอ่งน้ำขังแน่นิ่ง ไม่ว่ามันจะพยายามโคจรขับเคลื่อนเพียงใดก็ไม่กระดิก!
‘บัดซบ! ไฉนข้าถึงลืมมันไปได้!!’
วินาทีนี้ถังซวนพึ่งจะนึกออกว่าข้างกายต้วนหลิงเทียนยังมีเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์อยู่ นั่นทำให้มันบังเกิดความสิ้นหวังจับใจ…
และวินาทีเดียวกันกับที่ความสิ้นหวังกัดกินใจของถังซวนนั้น…
ปงงง!!
ต้วนหลิงเทียนสะบัดตบออกมาเบาๆ มวลพลังมหาศาลที่คล้ายดั่งมังกรพิโรธถูกกักขัง ราวกับมันจะทลายโซ่ตรวนพันธนาการได้ก็ไม่ปาน พุ่งทะยานออกมาจากฝ่ามืออย่างเกรี้ยวกราด หมายกลืนร่างถังซวนให้หายไปในหนึ่งคำ!
ถังซวนที่กระทั่งจะโคจรพลังยังทำไม่ได้ แน่นอนว่าย่อมไม่มีทางต้านทานพลังอำนาจอันเกรี้ยวกราดนี้ของต้วนหลิงเทียนได้เลย…
ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว มันก็ถูกพลังของต้วนหลิงเทียนกวาดล้างจนย่อยยับ ไม่เหลือแม้แต่ร่องรอยใดๆให้สืบสาว!
ถังซวน จ้าวลัทธิบูชาไฟ ตัวตนขอบเขตเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนผู้รั้งอยู่ในอันดับที่ 4 ของรายนามยอดเซียน…
ตาย!
ทันใดนั้นทุกผู้คนในจุดเกิดเหตุก็พากันเงียบงันไร้สำเนียง…
พวกมันศิษย์สาวกของลัทธิบูชาไฟ ได้แต่ยืนมองร่างจ้าวลัทธิของตัวตายตกไปต่อหน้าต่อตา อย่างที่ไม่อาจทำอะไรได้เลย…
ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่สายเกินไปที่พวกมันจะสอดมือ ต่อให้มีเวลามากพอให้พวกมันสอดมือ แต่พวกมันก็ไม่กล้าขยับแม้แต่ก้าวเดียว…
ต่อหน้าครึ่งก้าวเซียนอมตะกับเซียนอมตะเสเพล 4ทัณฑ์ ไม่เพียงแต่พวกมันจะไม่มีปัญญาสามารถทำอะไรได้ ยังจะชักนำเภทภัยหายนะมาสู่ตัวจนต้องตายเปล่า…
“ผู้เฒ่าหั่ว! ท่านเห็นแล้วหรือไม่ ข้าฆ่าถังซวนได้แล้ว…ข้าล้างแค้นให้ท่านได้แล้ว!!”
หลังจากกำจัดถังซวนทิ้งไปจนไม่เหลือแม้แต่ซาก ต้วนหลิงเทียนก็เงยหน้ามองฟ้าพร้อมเปล่งเสียงคำรามที่ราวกับจะดังสะท้านไปทั่วเก้าชั้นฟ้า ระบายความคับแค้นที่มีในใจออกมาหมดสิ้น…
มาตอนนี้เหล่าคนของลัทธิบูชาไฟจึงได้ตระหนัก…
ที่ต้วนหลิงเทียนฆ่าถังซวนจ้าวลัทธิของพวกมัน ทำไปเพราะเพื่อล้างแค้น!
“นะ…นั่นเป็นเสียงของผู้พิทักษ์หลิงเทียน!”
“มะ…มันบอกว่าฆ่าถังซวนได้แล้ว ถังซวนนั่น…มิใช่นามของท่านจ้าวลัทธิเราหรือไร?”
“ปะ…เป็นไปมิได้! มัน…มันจะฆ่าท่านจ้าวลัทธิได้อย่างไร?”
……
คนของลัทธิบูชาไฟไม่ว่าระดับสูงหรือต่ำ ตอนนี้อดไม่ได้ที่จะบังเกิดความรู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว
“มะ…มันคงมิใช่ผู้สืบทอดทวาราเที่ยงแท้ลำดับที่ 1ของ 7 ทวาราเที่ยงแท้จริงๆหรอกนะ?”
“หากมันเป็นผู้สืบทอดนามหมอกพิรุณ ผู้นำของ 7 ทวาราเที่ยงแท้จริงๆ…ด้วยความแค้นและความเกลียดชังที่หยั่งรากลึกมานาน ข้าเกรงว่าวันนี้มันคงไม่ปล่อยลัทธิบูชาไฟเราไปง่ายๆแน่!”
“มะ…มันคงไม่เข่นฆ่าพวกเราที่เป็นศิษย์ลัทธิบูชาไฟกระมัง?”
…
เหล่าผู้ที่เห็นถังซวนถูกฆ่าต่อหน้าต่อตา พอดึงสติกลับคืนมาได้ก็พากันมองไปยังร่างต้วนหลิงเทียนทันที สายตาของพวกมันตอนนี้ฉายถึงความตื่นตระหนกขลาดกลัวออกชัด!