WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 2371
ตอนที่ 2,371 : การปะทะกันระหว่างเซียนอมตะเสเพล 4ทัณฑ์
“ข้าขอประกาศว่า…เจ้า ก่านหรูเยี่ยน นับตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป มิใช่จ้าวลัทธิบูชาไฟของข้าอีกต่อไป!”
คำพูดของหลี่ปิงย่อมทำให้ทุกคนตื่นตระหนกตกใจไม่น้อย!
เพราะฟังจากถ้อยคำแล้ว นี่หมายความว่าอีกฝ่ายทำการปลดก่านหรูเยี่ยนลงจากตำแหน่งลัทธิบูชาไฟ!
“ท่านบรรพบุรุษ!”
ในฐานะที่เป็นอาจารย์ของก่านหรูเยี่ยน สีหน้าชิงหั่วย่อมเปลี่ยนไปหนักกว่าใคร ยังเป็นคนแรกที่ตอบสนองเรื่องราว “มิทราบว่าศิษย์ของข้าไปทำอันใดให้ท่านบรรพบุรุษมิพอใจ ท่านถึงได้คิดปลดนางออกจากตำแหน่งจ้าวลัทธิเช่นนี้?”
“ทำอะไรน่ะรึ?”
ได้ยินคำถามของผู้พิทักษ์ชิงหั่ว สองตาหลี่ปิงหดหยีลงทันใด มุมปากยกขึ้นเผยรอยยิ้มแสยะเย้ยหยัน“คำถามนี้นับว่าถามได้ดี!”
“ก่านหรูเยี่ยน ในฐานะจ้าวลัทธิบูชาไฟกลับกล้าละเมิดคำสั่งบรรพชน…คิดประนีประนอมยอมความกับ 7 ทวาราเที่ยงแท้! เรื่องนี้นับว่ากระทำผิดต่อบรรพชนผู้ล่วงลับไปแล้วของลัทธิบูชาไฟเราอย่างยิ่ง! หากวิญญาณของเหล่าบรรพชนที่ล่วงลับไปเพราะน้ำมือของ 7 ทวาราเที่ยงแท้รู้เข้า ต่อให้ตายก็มิอาจนอนตายตาหลับ!!”
หลี่ปิงกล่าววาจาออกมาอย่างฉะฉาน ยังเปี่ยมไปด้วยความชอบธรรม!
ทว่าคล้ายมันหลงลืมไปแล้ว…
ถึงแม้คนของลัทธิบูชาไฟจะถูกเข่นฆ่าไป แต่นั่นก็เป็นในยุคสมัยที่เซียนกระบี่ฟงชิงหยางดำรงอยู่เท่านั้น!
กล่าวได้ว่าในยุคสมัยนั้นแม้คนของลัทธิบูชาไฟจะถูกคนของ 7 ทวาราเที่ยงแท้เข่นฆ่า หากแต่ในแง่ของจำนวนแล้วเกรงว่าจะเทียบกับจำนวนที่ลัทธิบูชาไฟส่งคนไปตามฆ่าคนของ 7 ทวาราเที่ยงแท้หลังจากนั้นมาตลอดไม่ได้เลย!
และที่สำคัญที่สุดเลยก็คือ…ต้นตอของเรื่องราวความแค้นนับหมื่นปีนี้ เป็นฝ่ายลัทธิบูชาไฟที่ไปยั่วยุท้าทาย 7 ทวาราเที่ยงแท้ก่อน! สุดท้ายพอถูกโต้ตอบก็เลยกลายเป็นความแค้นที่สืบต่อกันมาถึงทุกวันนี้…
เช่นนั้นแม้หลี่ปิงจะทำราวกับกล่าวออกมาอย่างชอบธรรม แต่ในแง่คุณธรรมและความถูกต้องจริงๆ…วาจาของมันนั้นย่อมไม่ต่างใดจากผายลม!
ทว่าแม้คนของลัทธิบูชาไฟหลายคนจะตระหนกถึงจุดนี้ดี แต่ก็ไม่มีใครหาญกล้าพูดออกมา
เพราะถ้าพูดออกมาย่อมไม่ต่างใดจากตบหน้า บรรพบุรุษอย่างหลี่ปิงดังฉาด!
“ตอนนี้เจ้ายังคิดอยู่หรือไม่ ว่าลูกศิษย์ของเจ้าไม่ได้ทำอะไรผิด?”
ทันใดนั้นหลี่ปิงก็หันไปมองจี้ถามชิงหั่วด้วยสายตาแหลมคม
ชิงหั่วที่ได้ยินคำอ้าง ก็ไร้คำใดจะกล่าว
“เฮอะ! ดูเหมือนเจ้าเองก็ยังพอรู้ผิดชอบชั่วดีว่าสิ่งที่ศิษย์ของเจ้ากระทำมันผิด…และในเมื่อทั้งหมดเป็นเพราะตัวเจ้ามันไร้สามารถอบรมศิษย์ไม่ได้ดี ก็อย่าได้คิดว่าตัวเจ้าจะรอดพ้นความผิด!”
ขณะกล่าวถึงท้ายประโยค น้ำเสียงหลี่ปิงยังกลายเป็นเยียบเย็นไร้แยแส
วูบ!
ทันใดนั้นสีหน้าชิงหั่วก็เปลี่ยนไปทันที
“วันนี้ข้าจะให้เจ้าไถ่โทษด้วยความตาย!”
กล่าวออกอีกครั้ง เสียงหลี่ปิงประหนึ่งผุดแทรกขึ้นมาจากหล่มน้ำแข็งก็ไม่ปาน พร้อมกันนั้นยังมีมวลพลังอันสุดไพศาลระเบิดกำจายออกมาจากร่างของมันขุมหนึ่ง!
มวลพลังมหาศาลขุมดังกล่าวย่อมเป็นพลังเซียนอมตะต้นกำเนิดอันร้ายกาจ! ยามเมื่อปะทุออกจากร่างหลี่ปิง พวกมันก็เริ่มควบผนึกก่อลักษณ์เป็นมังกร…พุ่งเข่นฆ่าสังหารไปทางชิงหั่วฉับไวอำมหิต!
หากพลังเซียนอมตะต้นกำเนิดลักษณ์มังกรนี้ปะทะร่างชิงหั่ว วันนี้ปีหน้าย่อมเป็นวันครบรอบวันตายของมันแน่!
“ท่านอาจารย์!!”
แทบจะพร้อมกันกับที่หลี่ปิงกล่าวจบคำและสัมผัสได้ถึงรังสีอำมหิต สีหน้าก่านหรูเยี่ยนก็เปลี่ยนไปใหญ่หลวง นางร่ำร้องออกมาเสียงหลงด้วยความโศกเศร้า
หลี่ปิงในฐานะเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ ถึงแม้มันจะลงมือส่งๆอย่างขอไปที แต่ก็ไม่ใช่อะไรที่เซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยนอย่างชิงหั่วจะต้านทานได้เลย!
และไม่เพียงตัวชิงหั่วเท่านั้นที่ไม่ทันได้ตอบสนองเรื่องราว กระทั่งเหล่าอาวุโสทั้งหลายของลัทธิบูชาไฟในที่นี้ก็ไม่มีใครตอบสนองการลงมือดังกล่าวได้ทัน พริบตามวลพลังสังหารลักษณ์มังกรที่ปะทุออกจากร่างหลี่ปิงก็อยู่ห่างจากร่างชิงหั่วไม่ถึง 10 ก้าว!
‘ชีวิตข้า จบสิ้นกันแค่นี้แล้วรึ!’
ในชั่วเวลาพริบตา ชิงหั่วรู้สึกเพียงว่ามีบางสิ่งอันทรงพลังมหาศาลเพ่งเล็งมาที่มัน แต่มันก็ไม่มีแม้แต่เวลาจะเร่งเร้าพลังเซียนต้นกำเนิดคุ้มกันอะไร…กลิ่นอายพลังร้ายกาจปานทำลายโลกก็มาถึงเบื้องหน้ามันเสียแล้ว! มันมีเวลาแค่พอให้ตระหนักว่าตัวเองกำลังจะตายเท่านั้น!!
ปงงงง!!
ทว่าทันใดนั้นเองอุบัติเสียงระเบิดสนั่นลั่นขึ้น แรงระเบิดยังสะเทือนสะท้านไปทั่วทิศ!
เป็นมวลพลังอีกขุมที่อยู่ๆก็ปะทุออกมาอย่างเกรี้ยวกราดจากด้านหลังก่านหรูเยี่ยนจ้าวลัทธิบูชาไฟคนปัจจุบัน! อีกทั้งยังทรงพลังเหนือกว่ามังกรพลังของหลี่ปิงที่กำลังจะพุ่งไปกลืนร่างชิงหั่วไม่น้อย…มันพุ่งไประเบิดทำลายมังกรพลังของหลี่ปิง ช่วยชีวิตชิงหั่วเอาไว้ได้ทันท่วงที!!
“ผู้ใด!?”
เห็นฉากดังกล่าวสีหน้าหลี่ปิงก็แปรเปลี่ยนไปทันใด มันไม่คิดไม่ฝันเลยว่าจะยังมีใครหาญกล้าสอดมือเข้ามาขัดขวางมัน กระทั่งยังคิดไม่ถึงจริงๆว่าในลัทธิบูชาไฟนี้ยังจะมีใครมีพลังมากพอขัดขวางมันไม่ให้ฆ่าคนได้!
ครู่ต่อมาสายตาหลี่ปิงก็หันไปมองต้นตอที่ขุมพลังเมื่อครู่ปะทุออกทันที
“ขอบคุณผู้อาวุโสเฉินที่เมตตาช่วยชีวิตผู้น้อย!”
ขณะเดียวกันทางด้านชิงหั่วที่รู้ตัวว่าได้เก็บกู้ชีวิตกลับมาได้อย่างหวุดหวิด ก็เร่งหันไปมองทิศทางที่ศิษย์ของตัวลอยอยู่ก่อนใคร ยังกล่าวขอบคุณชายชราที่อยู่ด้านหลังออกมาด้วยสำนึกขอบคุณ!
“เฉินอี้หรู!?!”
ในขณะที่ชิงหั่วหันไปขอบคุณ หลี่ปิงที่มองไปก็จดจำเฉินอี้หรูได้ทันที สีหน้าของมันยังเปลี่ยนเป็นมืดลงทันตา “เจ้า! ไฉนมาอยู่ที่นี่ได้!?”
เฉินอี้หรูหาใช่คนแปลกหน้าสำหรับมันไม่!
เมื่อ 4,000 ปีที่แล้วไม่เพียงจะมีฐานะเป็นผู้พิทักษ์ของลัทธิบูชาไฟ หลี่ปิงยังเป็นถึงอันดับที่ 3 ในรายนามยอดเซียน…ทำให้ตัวมันเองก็มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วสารทิศ…
แต่ทว่าเฉินอี้หรูผู้นี้ เป็นแค่ผู้ฝึกกตนอิสระไร้สังกัดแท้ๆ แต่กลับรั้งอยู่ในรายนามยอดเซียนอันดับ 2!และตัวมันก็ตกอยู่ภายใต้เงาของอีกฝ่ายมาโดยตลอด…!!
“หลี่ปิง เผ่ามังกรใช้ให้เจ้ามาทำธุระเยี่ยงทาสผู้ซื่อสัตย์แต่เจ้ากลับละเลยหน้าที่วิ่งโร่มาลัทธิบูชาไฟ…นี่เจ้าไม่กลัวบ้างหรือ…ว่าเรื่องจะรู้ไปถึงหูผู้มีอำนาจในเผ่ามังกร! อีกทั้งเจ้าถึงกับกล้าใช้ประโยชน์จากโอกาสที่ถูกสั่งมาหาญกล้ามาอวดศักดิ์ดาที่ลัทธิบูชาไฟด้วยฐานะเซียนอมตะเสเพลแบบนี้ ไม่กลัวจะไร้คืนวันอันดีในเผ่ามังกรจริงๆ?”
เฉินอี้หรูไม่สนใจตอบคำถามหลี่ปิง หากแต่เลือกจะกล่าวเย้ยหยันออกมา
ได้ยินคำพูดของเฉินอี้หรู สีหน้าหลี่ปิงก็มืดดำราวตับเป็ด
“เผ่ามังกร? ทาสผู้ซื่อสัตย์?”
เหล่าระดับสูงของลัทธิบูชาไฟรวมถึงผู้พิทักษ์ทั้ง 4พอได้ยินวาจาของเฉินอี้หรูก็งุนงงเป็นไก่ตาแตก
เห็นหลี่ปิงปรากฏตัวในลัทธิบูชาไฟแบบนี้ พวกมันย่อมรู้สึกยินดีที่สุดที่ได้ล่วงรู้ว่าที่แท้ลัทธิบูชาไฟของพวกมันก็มีตัวตนร้ายกาจอย่างเซียนอมตะเสเพลดำรงอยู่…
แต่ในขณะที่พวกมันทั้งประหลาดใจทั้งตื่นเต้นยินดีนั้น…
พวกมันก็อดไม่ได้ที่จะสับสนทั้งไม่เข้าใจเช่นกัน ว่าไฉนในเมื่อลัทธิบูชาไฟของพวกมันมีเซียนอมตะเสเพลอยู่ แต่ตัวตนเช่นนี้ถึงไม่เคยปรากฏตัวออกมาเลย?
ทว่าพอมาได้ฟังวาจาประโยคนี้ของเฉินอี้หรู พวกมันกลับเริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมา…
เผ่ามังกร?
ให้บรรพบุรุษของพวกมันออกมาทำธุระเยี่ยงทาสผู้ซื่อสัตย์?
เผ่ามังกรนั่น…มิใช่ขุมพลังที่อ่อนด้อยกว่าลัทธิบูชาไฟของพวกมันหรือไร?
ก่อนที่พวกมันจะทันได้คิดไตร่ตรองเรื่องราวอะไร ก็เป็นหลี่ปิงที่อยู่ๆก็ตะคอกคำโพล่งออกมาเสียงดัง
“เฉินอี้หรู! ถึงแม้ข้าไม่รู้ว่าเจ้ามาเสนอหน้าทำอะไรที่ลัทธิบูชาไฟของข้า…แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องภายในลัทธิข้าและมิใช่ธุระกงการอะไรของเจ้า อย่าได้สอดมือเสียจักประเสริฐกว่า!!”
หลี่ปิงหันมองไปยังเฉินอี้หรูด้วยสายตาดุร้ายกล่าวคำรามออกมาอย่างชิงชัง
“ให้ข้าเลิกยุ่งกับเรื่องภายในของลัทธิบูชาไฟของเจาก็ย่อมได้…”
เฉินอี้หรูกล่าวออกด้วยน้ำเสียงไม่รีบไม่ร้อน
และเมื่อหลี่ปิงได้ยินววาจาเสียงเนิบนี้ของเฉินอี้หรู ทีท่าดุร้ายของมันก็ผ่อนลงทันที
“ตราบใดที่เจ้าขอขมาก่านหรูเยี่ยนและขอขมาชิงหั่วจนทั้งคู่อภัยให้เจ้า หลังจากนั้นก็ออกจากลัทธิบูชาไฟไปทำงานขี้ข้าของเจ้าต่อเสีย…แล้วข้าจะวางมือจากเรื่องภายในของลัทธิบูชาไฟเจ้า เพราะเดิมทีข้าก็มิได้สนอันใดอยู่แล้ว!”
วาจาของเฉินอี้หรูนับว่าเอาเรื่องจริงๆ! สามารถทำให้หลี่ปิงหัวร้อนขึ้นมาในชั่วพริบตา โทสะยังปะทุออกกมายากระงับ กลิ่นอายพลังทั่วร่างแผ่ซ่านออกมาอย่างน่ากลัว มวลพลังยังสะท้านสะเทือนบรรยากาศรอบกาย ถึงขั้นก่อให้เกิดรอยแตกยิบย่อยปานห่าอสรพิษ!
เปรียะ! เปรียะ! เปรียะ! เปรียะ!
…
เมื่อรอยแตกท่ามกลางความว่างอันแลคล้ายห่าอสรพิษมืดดำปรากฏขึ้น เหล่าระดับสูงของลัทธิบูชาไฟถึงกับต้องหยุดหายใจ สองตาเบิกโพลงปานลูกวัวแรกเกิด!
“ฉีกทลายว่างเปล่า…ท่านบรรพบุรุษคือเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์!”
“ท่านบรรพบุรุษล้มเหลวในการข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ไปเมื่อ 4,000 กว่าปีที่แล้ว แต่ในเมื่อท่านยังมิตกตายและด้วยเวลาที่ผ่านพ้นไป 4,000กว่าปีแบบนี้ ก็เห็นได้ชัดว่าสมควรกลายเป็นเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ไปแล้ว!”
“ท่านผู้อาวุโสเฉินผู้นั้นก็เป็นเซียนอมตะเสเพล 4ทัณฑ์ด้วยหรือนี่!!”
…
ตอนนี้เหล่าคนของลัทธิบูชาไฟที่กำลังตื่นตะลึงกับเรื่องราว ได้แต่มองสลับไปมาระหว่างเฉินอี้หรูกับหลี่ปิงด้วยสายตาหวั่นเกรง
“เฉินอี้หรู! เจ้ามันรนหาที่ตายเอง!!”
ทันใดนั้นหลี่ปิงก็คำรามออกมาอย่างเกรี้ยวกราด ร่างมันพุ่งทะยานเข้ามาดั่งลูกกระสุนปืนใหญ่ เข่นฆ่าสังหารเข้าใส่เฉินอี้หรูด้วยอำมหิต!
“มาได้ดี!!”
เผชิญหน้ากับหลี่ปิงที่โถมมาด้วยสภาวะดุร้าย เฉินอี้หรูแสยะยิ้มเหี้ยมเกรียมกล่าวคำอย่างถูกใจ ค่อยพุ่งทะยานสวนไปอย่างไร้หวั่นกลัว!
ย้อนกลับไปในสมัยก่อน หลี่ปิงเป็นได้แค่ไก่รองบ่อน แพ้พ่ายมันอยู่ร่ำไป…
วันนี้มันย่อมไม่เห็นหลี่ปิงอยู่ในสายตา!!
ฟุ่บ!
ฟุ่บ!
ไม่ว่าจะเฉินอี้หรูหรือหลี่ปิง ยามเมื่อทั้งคู่กระโจนร่างเข้าใส่กัน ด้วยความเร็วของเซียนอมตะเสเพล 4ทัณฑ์ ร่างทั้งคู่ก็เสมือนอันตรธานหายไปในความว่างเปล่าสำหรับทุกคนในที่นี้ เว้นเสียก็แต่ต้วนหลิงเทียนคนเดียว!
ด้วยพลังฝึกปรือของคนอื่นๆ ไม่มีใครสามารถจับความเคลื่อนไหวของทั้งคู่ได้เลย…
‘เซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ ชายชราผู้นั้น…กลับเป็นถึงเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์?!’
เฟิ่งเทียนหววู่ที่ลอยร่างข้างๆเค่อเอ๋อ ตอนนี้อดไม่ได้ที่จะหันไปมองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาเหลือเชื่อ
นางได้เจอเฉินอี้หรูมาตั้งแต่เดือนก่อน
จึงได้รู้ว่าชายชรานามเฉินอี้หรูคนนี้เป็นดั่งข้ารับใช้ที่คอยติดตามพี่ใหญ่ต้วนของนาง กระทั่งยังเคารพพี่ใหญ่ต้วนของนางอย่างมาก
ทว่านางไม่อาจจินตนาการได้ออกจริงๆ…
ว่าข้ารับใช้ข้างกายพี่ใหญ่ต้วนของนางคนนี้ กลับเป็นถึงตัวตนขอบเขตเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์!
ในฐานะผู้สืบทอดทวาราเที่ยงแท้ลำดับที่ 5 หงส์ฟ้าจรัสแสง เฟิ่งเทียนหวู่ย่อมได้รับทราบเรื่องราวการดำรงอยู่ของเซียนอมตะเสเพลมานานแล้ว อีกทั้งยังรู้ด้วยว่าเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์หมายความว่าอย่างไร…
‘ตอนนี้พี่ใหญ่ต้วนเป็นเพียงครึ่งก้าวเซียนอมตะมิใช่หรือไร…แล้วไฉนถึงทำให้เซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ยินยอมติดตามรับใช้ได้ล่ะ?’
เฟิ่งเทียนหวู่รู้สึกงุนงงกับเรื่องราวไม่น้อย
ลำพังความแข็งแกร่งของเซียนอมตะเสเพล 3 ทัณฑ์ ก็เหนือล้ำสุดที่ครึ่งก้าวเซียนอมตะจะต่อกรได้แล้ว…แต่เซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ยังทรงพลังร้ายกาจยิ่งกว่าเซียนอมตะเสเพล 3 ทัณฑ์เสียอีก…
ปง! ปง! ปง! ปง!ปง!
…
ไม่นานความสนใจของเฟิ่งเทียนหวู่ก็ถูกเสียงระเบิดสนั่นลั่นปฐพีดึงดูดไปหมดสิ้น
ถึงแม้ว่านางจะมองไม่เห็นความเคลื่อนไหวของทั้งคู่…แต่นางย่อมได้ยินเสียงปะทะกันระหว่างเฉินอี้หรูและหลี่ปิงถนัดหู
ซู่ม! ซู่ม! ซู่ม! ซู่ม! ซู่ม!
…
พร้อมกันกับเสียงระเบิดดังสนั่นลั่นปฐพี คลื่นอากาศอันทรงพลังดุร้ายก็เสมือนพิรุณห่าใหญ่ พวกมันพัดกระหน่ำลงมาจากจุดปะทะประหนึ่งมรสุมร้าย! พาลให้เหล่าคนของลัทธิบูชาไฟต้องเร่งล่าถอยกันจ้าละหวั่น กระทั่งเหล่าผู้พิทักษ์เองก็ต้องหนีเตลิด!!
มีเพียงต้วนหลิงเทียนกับพวกเท่านั้นที่ลอยร่างค้างกลาหาวอยู่ที่เดิมไม่ขยับเขยื้อน
เป็นพลังเซียนต้นกำเนิดที่ผสานกับพลังเซียนอมตะต้นกำเนิดแผ่ออกมาทั่วร่าง ขับเคลื่อนเวทย์พลังป้องกันก่อลักษณ์เงาร่างเต่าทมิฬตัวเขื่องคลุมครอบปกป้องทุกคนจากคลื่นกระแทกทั้งสายลมอันรุนแรงเอาไว้ได้หมดจด
และปราการเต่าทมิฬนี้ยังเป็นเวทย์พลังป้องกันอันดับ 1 ของลัทธิบูชาไฟอีกด้วย
ครืน! ครืน! ครืน! ครืน!
…
คลื่นลมแรงทั้งคลื่นกระแทกที่กวาดซัดออกมาด้วยอำนาจประหนึ่งระเบิดขุนเขาแผดเผาธารน้ำ สาดกระทบเงาร่างเต่าทมิฬอย่างดุดันถี่ยิบ พาลให้เงาร่างเต่าทมิฬตัวเขื่องถึงกับโย้เย้กระเพื่อมสั่นไปอยู่บ้าง
อย่างไรก็ตามสุดท้ายมรสุมลมแรงทั้งคลื่นกระแทกก็ล้มเหลวในการฝ่าปราการเต่าทมิฬเข้ามาอย่างสิ้นเชิง…