WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 2393
War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 2393
ตอนที่ 2,393 : สำนักเทียนซือ
“กล่องใบนี้…”
หลังรับกล่องสีดำมาจากผู้เฒ่าพยากรณ์ ต้วนหลิงเทียนก็สัมผัสได้ว่าตัวกล่องมีน้ำหนักไม่น้อย ไม่ทราบว่าถูกหลอมสร้างขึ้นมาจากวัสดุอันใดกันแน่
ลองใช้แรงงัดแงะเปิดกล่องไปสักพักก็ไม่อาจเปิดได้ และถึงแม้เขาจะลองส่งกล่องไปให้เฉินอี้หรูเปิดดู ทว่ากระทั่งเฉินอี้หรูใช้พลังทั้งหมดของขอบเขตเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ ก็ทำอะไรไม่ได้!
อย่าว่าแต่จะเปิดออก ขยับสักกึกก็ไม่มี
“นายท่าน ข้าเปิดไม่ออก…”
สุดท้ายเฉินอี้หรูก็ได้แต่ส่งกล่องคืนให้ต้วนหลิงเทียนด้วยสีหน้าสลด
และเมื่อกล่องดังกล่าวกลับสู่มือต้วนหลิงเทียน รอยแตกเล็กๆยังความว่างเปล่าเบื้องหน้าของมันก็เริ่มปิดตัวลง
เป็นเพราะเมื่อครู่มันลองออกแรงสุดตัว ด้วยพลังที่เร่งเร้าขึ้นมาทั้งหมดย่อมทำให้ความว่างปริแตก
“ปฐมเวทย์กลืนกิน!”
หลังต้วนหลิงเทียนได้รับกล่องมาอีกครั้ง คราวนี้เขาก็ใช้เวทย์พลังสนับสนุนออกมาทันที พริบตากลิ่นอายพลังวิญญาณฟ้าดินในอาณารัศมีกว้างใหญ่ก็ถูกสูบกลืนเพิ่มพูนพลังให้เขาถึงขีดสุดเท่าที่มันจะทำได้ ต้วนหลิงเทียนยังใช้ออกด้วยเคล็ดกระบี่อยู่ที่ใจ!
ฟั่ฟ!
แว่วเสียงของสายลมดังขึ้นแผ่วเบา เป็นต้วนหลิงเทียนใช้ฝ่ามืออันฉาบไว้ด้วยพลังกระบี่น่ากลัวฟันออก หมายเปิดกล่อง
เปรียะ! เปรียะ! เปรียะ!
…
ทันทีที่ฝ่ามือกระบี่ฟาดออกไป ก็บังเกิดเป็นรอยแยกมิติลากไปเป็นทาง อีกทั้งรอยแยกนี้ยังใหญ่โตนัก สมควรใช้เวลาคืนสภาพราวๆ 1 เค่อ
ต้วนหลิงเทียนก็คิดไว้แล้วว่าในเมื่อเฉินอี้หรูใช้พลังทั้งหมดของเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์แต่ไม่อาจทำอะไรกล่องใบนี้ได้เลย เช่นนั้นอาศัยพลังระดับเซียนอมตะเสเพล 5 ทัณฑ์ของเขาก็ยังไม่น่าจะเปิดกล่องได้
อย่างไรก็ตาม กลับปรากฏเรื่องที่ทำให้เขาประหลาดใจขึ้นมา
ทันทีที่พลังกระบี่อันฉาบคลุมฝ่ามือของเขาอยู่สัมผัสกับผิวกล่อง พลังคมกล้าที่ว่าก็ราวกับจะละลายลงอย่างพิสดาร!
เรียกว่าพลังกระบี่ที่แผ่พุ่งออกมาปานกระบี่คมที่ฝ่ามือเขา พวกมันคล้ายกลายเป็นน้ำอ่อนยวบไหลพันไปทั่วกล่องดำ
แกร่ก!
ครู่ต่อมาเสียงกลไกหนึ่งพลันดังขึ้นเบาๆ และกล่องสีดำในมือของต้วนหลิงเทียนก็เปิดตัวออกมาทันที
“นี่มัน…”
เห็นฉากดังกล่าวต้วนหลิงเทียนก็ตะลึงไปอยู่บ้าง หากแต่เขาก็ดึงสติกลับมาได้แทบจะทันที เพราะเขาตระหนักได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น…
‘ดูเหมือนลวดลายอาคมที่สลักจารึกไว้ทั่วกล่อง จะตอบสนองกับพลังจากเคล็ดยอดใจกระบี่ที่อาวุโสฟงชิงหยางเหลือทิ้งไว้…’
‘ดูท่าแล้วขอเพียงใช้พลังจากเคล็ดยอดใจกระบี่สัมผัสมันเบาๆก็น่าจะเปิดได้แล้ว ไม่ต้องออกแรงมากมายอะไรแต่แรก…’
ตอนนี้ต่อให้ความรู้สึกต้วนหลิงเทียนจะช้าแค่ไหน แต่เขาก็รู้ได้ทันที
“นายท่าน ฝ่ามือกระบี่เมื่อครู่ของท่าน สมควรมีพลังทัดเทียมเซียนอมตะเสเพล 5 ทัณฑ์เท่านั้นมิใช่หรือ? ไฉนท่านถึงได้เปิดกล่องนี่ได้ง่ายดายนักเล่า?”
เฉินอี้หรูกล่าวถามด้วยความเหลือเชื่อ
คนอื่นรอบๆ ก็มองไปยังต้วนหลิงเทียนทันที ด้วยสงสัยไม่ต่าง
ถึงแม้พลังฝ่ามือกระบี่เมื่อครู่ของต้วนหลิงเทียนจะเหนือกว่าพลังของเฉินอี้หรู…แต่ก็ไม่ถือว่าเหนือกว่าคนละโลก
ทว่าผลที่เกิดขึ้นกลับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
“เป็นเพราะมรดกที่อาวุโสฟงชิงหยางเหลือทิ้งไว้อย่าง ยอดใจกระบี่…ทำให้ข้าที่ได้รับสืบทอดมาเพียงใช้พลังจากหนึ่งในเคล็ดยอดใจกระบี่ก็สามารถคลายอาคมผนึก เปิดกล่องได้ง่ายๆ…”
ขณะกล่าวอธิบายสองตาต้วนหลิงเทียนก็จับจ้องไปยังกล่องสีดำในมือที่เปิดออก
ด้านในกล่อง ปรากฏลูกบอลทรงกลมสีทองเหลืองลูกหนึ่งตั้งอยู่อย่างเงียบงัน
บริเวณผิวลูกบอลทองเหลืองลูกนี้ ยังปรากฏลวดลายสลับซับซ้อนเต็มไปหมด
มองอยู่ครู่หนึ่ง ต้วนหลิงเทียนก็ไม่อาจบอกได้ว่านี่มันเป็นลวดลายหรือเป็นอักขระใดกันแน่…
“นี่น่ะเหรอกุญแจเปิดแดนลับเซียนกระบี่?”
ต้วนหลิงเทียนหยิบบอลทองเหลืองขึ้นมา ก่อนที่จะหมุนซ้ายหมุนขวาชมดูอย่างสนใจ แต่เขาก็ไม่พบอะไรพิเศษนอกจากลวดลายซับซ้อน
สายตาของคนอื่นๆ ก็มองจ้องบอลทองเหลืองไม่วาง
“ลองจ่ายพลังเซียนอมตะต้นกำเนิดลงไปดูแล้วกัน…”
เท่าทันความคิด ต้วนหลิงเทียนก็ควบรวมผนึกพลังเซียนอมตะต้นกำเนิดขุมหนึ่งขึ้นมายังฝ่ามือ ก่อนที่จะถ่ายทอดลงไปในลูกบอลทองเหลืองทันที
และในระหว่างที่กระทำดังกล่าวต้วนหลิงเทียนก็พบว่า
ลูกบอลทองเหลืองลูกนี้ประหนึ่งทารกน้อยพบน้ำนม เร่งดูดซับพลังเซียนอมตะต้นกำเนิดต้วนหลิงเทียนอย่างตะกละตะกลาม จนต้วนหลิงเทียนพบว่าต้องจ่ายพลังเซียนอมตะต้นกำเนิดในร่างออกไปเกือบครึ่งมันถึงจะหยุดลง…
“หืม?”
และตอนนี้เองต้วนหลิงเทียนพลันสัมผัสได้ถึงพลังขุมหนึ่งแผ่พุ่งออกมาจากบอลทองเหลือง! มันผละออกจากมือเขาทันที!!
หลังผละออกจากมือแล้ว บอลทองเหลืองก็ลอยล่องอยู่กลางอากาศตรงหน้าเขา!
และไม่ทราบตั้งแต่ตอนไหนทว่าตอนนี้ลวดลายซับซ้อนที่มีอยู่เต็มผิวบอลทองเหลือง ก็เริ่มเปล่งแสงออกมา
นอกจากนั้นแสงที่เปล่งออกจากลวดลายดังกล่าวยิ่งมาก็ยิ่งสว่างเจิดจ้าขึ้นขึ้นเรื่อยๆ!
“นี่มัน…”
ในขณะที่ทุกสายตาของุทกคนไม่เว้นผู้เฒ่าพยากรณ์ถูกบอลทองเหลืองดึงดูดไปนั้น…
ซู่มม!
ทุกคนรวมถึงต้วนหลิงเทียนพลันพบว่าอยู่ๆเบื้องหน้าก็ปรากฏแสงสว่างจ้าว้าบขึ้น พร้อมด้วยเสียงดังราวกับมีบางสิ่งปะทุระเบิด!
ครู่ต่อมาทุกคนก็สัมผัสได้ถึงพลังมหาศาลหากทว่าอ่อนโยนขุมหนึ่งผลักไสร่าง!
ถึงแม้ร่างของทุกคนจะถูกผลักออก แต่ก็ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บอะไร เพราะพลังผลักดันไร้สภาพเมื่อครู่มันช่างอ่อนโยนนัก ไร้อานุภาพจู่โจมทำร้าย เพียงผลักดันทั้งหมดให้ล่าถอยออกมา
และเมื่อทุกคนหยุดร่างลงได้แล้ว พอสังเกตให้ดีก็พบว่า…
ปรากฏหลุมดำหนึ่งอุบัติขึ้นในความว่างเปล่า ณ จุดที่บอลทองเหลืองเคยลอยอยู่
อีกทั้งรอบๆหลุมดำที่อยู่ๆก็อุบัติขึ้นมาท่ามกลางความว่างเปล่านั้น มองไปดั่งวังวนพลังวังวนหนึ่งที่กำลังหมุนคว้างเร็วรี่! ราวกับวังวนพลังดังกล่าวเป็นตัวทำให้หลุมดำนี้ปรากฏขึ้น…
หลังมองไปพักหนึ่ง ก็ไม่มีวี่แววว่าหลุมดำที่เปิดออกนี้จะปิดตัวลงแต่อย่างใด…
“นี่คือ…ทางเข้าสู่แดนลับเซียนกระบี่งั้นเหรอ?”
มองไปยังหลุมดำอันมืดมิดเบื้องหน้าที่อยู่ๆก็ปรากฏขึ้นมา ต่อให้ทุกคนไม่อาจรู้ได้ว่าความมืดมิดดังกล่าวจะนำพาไปสู่ที่ใด แต่ในใจทั้งหมดก็คิดตรงกัน
ในขณะที่ความสนใจของต้วนหลิงเทียนและทุกคนกำลังถูกหลุมดำเบื้องหน้าดึงดูดไปนั้น
ในระนาบโลกียะอื่นๆ บริเวณจุดที่มีหลุมดำแบบเดียวกันนี้ปรากฏ หากแต่รอบหลุมดำกลับมีม่านพลังปกคลุมเอาไว้นั้น…อยู่ๆม่านพลังที่ปกคลุมดังกล่าวก็เริ่มสลายหายไป ยังหายวับไปอย่างไร้ร่องรอยในชั่วพริบตา!
“นี่มัน…”
“อะไร!? แดนลับสวรรค์ต่างเปิดออกแล้ววงั้นเรอะ!?”
“สวรรค์! หลังผ่านไป 30,000 ปี…ในที่สุดแดนลับต่างสวรรค์ก็เปิดออกอีกครั้ง!!”
…
ในบรรดาระนาบโลกียะทั้งหลาย ขุมพลังที่ยึดครองทางเข้าแดนลับต่างสวรรค์เอาไว้เมื่อได้รับรายงานจากผู้ที่มีหน้าที่เฝ้าระวัง ต่างก็อดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นคึกคักกันครั้งใหญ่
และในบรรดาระนาบโลกียะที่ว่า หนึ่งในนั้นก็มีระนาบโลกียะที่ ‘โลก’ ในชาติที่แล้วของต้วนหลิงเทียนตั้งอยู่ด้วย…
ระนาบที่โลกของต้วนหลิงเทียนดำรงอยู่นั้น เป็นระนาบโลกียะขนาดใหญ่ ระนาบแห่งนี้มีจักรวาลนับไม่ถ้วนดำรงอยู่ ดาวเคราะห์ก็มีมากมายสุดที่จะนับได้
กล่าวได้ว่าโลกที่ต้วนหลิงเทียนเคยอาศัยอยู่นั้น เสมือนละอองธุลีในจักรวาล ไม่อาจนับเป็นอะไรได้เลย
อย่างไรก็ตามตลอดหลายปีที่ผ่านมาโลกก็ยังคงเป็นโลกใบเดิมที่มีนามว่า ‘โลกเหยียนหวง’ ถึงแม้มันจะมีขนาดเล็กและไร้สำคัญอะไร แต่อย่างไรก็ตามมันก็คือหนึ่งใน ดาวเคราะห์ต้นกำเนิดที่มีอยู่เพียงไม่กี่ดวงในมหาระนาบโลกียะแห่งนี้
ดาวเคราะห์ต้นกำเนิดที่ว่า หมายถึงดาวเคราะห์ที่มีพลังวิญญาณฟ้าดินให้ดูดซับเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่ง! บ่มเพาะพลัง บำเพ็ญพลังก็ว่า…
ย้อนกลับไปในฐานะดาวเคราะห์ต้นกำเนิด โลกเหยียนหวง ได้ให้กำเนิดผู้ฝึกตนมากมาย ทั้งหมดเป็นตัวตนในตำนานโบราณที่ต้วนหลิงเทียนเคยได้ยินมาเมื่อชาติที่แล้ว อย่างเช่น ราชาวานร ตือโป๊ยก่าย นาจา อะไรทำนองนี้…
ทว่าเมื่อผู้ฝึกตนในโลกเหยียนหวงมีมากขึ้นเรื่อยๆ พลังวิญญาณฟ้าดินก็เริ่มร่อยหรอลงอย่างรวดเร็ว…
สุดท้ายเมื่อพลังวิญญาณฟ้าดินเบาบางจนแทบไม่มีเหลือ เหล่าผู้ฝึกตนทั้งหลายก็พากันอพยพจากไป…
เมื่อผู้ฝึกตนจากไปหมดสิ้นโลกเหยียนหวงก็ค่อยๆกลับกลายเป็น โลก ธรรมดาไม่มีผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่งหลงเหลือ ไร้ผู้ที่มีอายุยืนยาว เมื่อผันผ่านวันเวลานานเข้าต่างก็ล้มตายหายจากกันหมดทิ้งไว้แต่ตำนานดั่งนิทานปรัมปรา…
ส่วนเหล่าผู้ฝึกตนที่อพยพออกจากกโลกเหยียนหวงในอดีตกาล ก็แสวงหาจนพบพานดาวเคราะห์ที่เต็มไปด้วยพลังวิญญาณฟ้าดินจึงเริ่มทำการยึดครอง เรียกว่าหลังออกจากจักรวาลทางช้างเผือก ทั้งหลายก็พบเจอดาวเคราะห์ที่มีพลังวิญญาณฟ้าดินหนาแน่นในจักรวาลอื่นไม่น้อย…
สำนักเทียนซือ…เป็นหนึ่งในขุมพลังของผู้ฝึกตนที่อพยพมาจากโลกเหยียนหวง
และจ้าวสำนักเทียนซือก็คือ ‘จางเทียนซือ’ หรือราชครูสวรรค์ในตำนานโบราณนั่นเอง…
ตอนนี้สำนักเทียนซือที่ว่าก็อาศัยอยู่ในจักรวาลแห่งหนึ่ง สถานที่ตั้งของสำนักเทียนซือก็อยู่ในดาวเคราะห์ที่มีขนาดใหญ่โตกว่าโลกนับร้อยเท่า…
“แดนลับต่างสวรรค์…ในที่สุดก็เปิดออกแล้วหรือ?”
เมื่อข่าวดังกล่าวถูกส่งกลับไปยังสำนักเทียนซือ ก็เรียกว่าทำให้สำนักเทียนซือสะท้านกันไม่น้อย
“นี่มันก็ผ่านไปเกือบ 20,000 ปีแล้วที่กุญแจเปิดแดนลับต่างสวรรค์ในระนาบโลกียะของพวกเราเปิดใช้งาน…ในที่สุดหลังจากกผ่านไป 20,000 ปี กุญแจในระนาบโลกียะแห่งอื่นก็ถูกเปิดใช้งานกันครบเสียที!!”
“เฮ่อ ไฉนมีเพียงกุญแจแดนลับต่างสวรรค์ถูกใช้ออกจนหมดเท่านั้น ทางเข้าสู่แดนลับต่างสวรรค์จึงจักเปิดออกกันนะ…หากกุญแจเปิดแดนลับมันตกอยู่ในซอกหลืบหรือถูกลืมเล่า จะทำอย่างไร…”
“นั่นน่ะสิ อย่างไรเสียเปิดช้าก็ยังดีกว่ามิเปิด…และด้วยการเปิดออกของแดนลับต่างสวรรค์ครานี้ พลังของสำนักเทียนซือเราต้องเพิ่มพูนขึ้นครั้งใหญ่!”
“น่าเสียดายยิ่งที่แดนลับต่างสวรรค์มิได้มีแต่คนของสำนักเทียนซือเรา…ไม่เพียงแต่คนสำนักเทียนซือเราต้องแข่งขันกับยอดฝีมือในระนาบเราเอง กระทั่งยังต้องปะทะกับยอดฝีมือจากระนาบโลกียะอื่นๆอีก…”
…
หลังได้รับทราบว่าทางเข้าแดนลับต่างสวรรค์เปิดออกแล้ว เหล่าระดับสูงในสำนักเทียนซือไม่เว้นรุ่นเยาว์มากพรสวรรค์ก็รู้สึกคึกคักปานถูกฉีดเลือดไก่
เพราะในมหาระนาบโลกียะที่ใหญ่โตแห่งนี้ที่มีโลกเหยียนหวงดำรงอยู่ ไม่ได้มีแค่สำนักเทียนซือเท่านั้น ยังมีขุมพลังอื่นๆอีกด้วย กระทั่งผู้ฝึกตนอันร้ายกาจทั้งหลายก็สามารถรับทราบข่าวที่ทางเข้าแดนลับต่างสวรรค์เปิดออกได้ไม่ยาก ทำให้พวกมันเร่งรุดพาคนมายังทางเข้าแดนลับต่างสวรรค์ทันที…
ในอดีตแม้พวกมันจะล่วงรู้ที่ตั้งทางเข้าแดนลับต่างสวรรค์ แต่ทว่าทางเข้าแดนลับต่างสวรรค์กลับมีม่านพลังปกคลุมไว้ คิดเข้าไปก็เข้าไปไม่ได้…