WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 2423มังกรขาวแปดกรงเล็บ!มังกรมารแปดกรงเล็บ!
War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 2423
ตอนที่ 2,423 : มังกรขาวแปดกรงเล็บ! มังกรมารแปดกรงเล็บ!
‘กระบี่พวกนี้…แต่ละเล่มมีพลังเทียบได้กับการลงมือเต็มกำลังของเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยนชนชั้นยอดฝีมือ…’
เมื่อเห็นกระบี่มหึมาแหวกอากาศเข่นฆ่าสังหารเข้ามาเร็วรี่ ต้วนหลิงเทียนเองก็ตระหนักได้ถึงพลังอำนาจที่แฝงเร้นอยู่ชัดเจน ว่ากระบี่ที่คล้ายทำจากดินโคลนทั้งหลายเหล่านี้ กลับทรงพลังไม่ต่างอะไรจากการลงมือเต็มกำลังของยอดฝีมือเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยนเลย…
แน่นอนว่ากระบี่มหึมาที่มีพลังระดับนั้น ไม่ได้นับเป็นอะไรสำหรับเขา
เขาเลยไม่ได้แยแสอะไร
ทว่าเขาไม่แยแส แต่ไม่ใช่ว่าห่านเฉวี่ยไน่ จางยี่และหลิ่วเสวียจะไม่แยแสด้วยได้! สีหน้าสตรีทั้ง 2 ยังเริ่มซีดลงอย่างเห็นได้ชัด!!
ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะอยู่ในขอบเขตเซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยน…
กระทั่งยังเป็นชนชั้นยอดฝีมือของขอบเขตเซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยน หากแต่ต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีเต็มกำลังของยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยนที่โถมถันเข้ามามืดฟ้ามัวดินแบบนี้ ทั้งคู่ก็อดรู้สึกกดดันเสมือนมีภูเขากดทับไม่ได้!
ด้านจากยี่แม้หน้ายังไม่ถึงกับเปลี่ยนสี แต่ก็ฉายความจริงจังขึ้นมาไม่น้อย
“กระบี่ มา!”
“อัสนี มา!”
ทันใดนั้นมันก็ไม่รอช้า เริ่มควบแน่นพลังเซียนต้นกำเนิดอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังชักนำสายฟ้าให้ผ่าลงมาผสานพลังกับกระบี่ ก่อนที่จะตวัดกระบี่ดังกล่าวฟันฟาดออกไปรอบทิศ หมายทำลายกระบี่มหึมาที่จี้เข้ามาโดยรอบ!
ปงง!!
ปงง!!
ปงง!!
……
หลังจางยี่ตวัดกระบี่สายฟ้าทำลายกระบี่มหึมาไปหลายร้อยเล่ม กระบี่มหึมาที่เหลือคล้ายมีความคิดและรู้ว่าเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ดีแน่ พวกมันจึงล่าถอยออกไป ก่อนที่จะเริ่มแบ่งออกเป็น 9 ชุด จากนั้นกระบี่แต่ละชุดก็เริ่มพุ่งกระแทกเข้าใส่กันจนส่งเสียงสนั่นปานฟ้าแตก!
ทันใดนั้นคลื่นอากาศทั้งคลื่นกระแทกก็กวาดซัดออกมาอย่างรุนแรง ต้วนหลิงเทียนและพวกทั้ง 4 ก็ถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่นดิน
เมื่อฝุ่นดินค่อยๆจางหายไป ต้วนหลิงเทียนกับพวกก็ได้เห็นว่า
กระบี่มหึมาที่หลงเหลืออีกหลายพันเล่มก่อนหน้า พอมันแบ่งออกเป็น 9 ชุดแล้ว พวกมันก็เริ่มผสานหลอมรวมกัน กลายเป็นกระบี่ที่ใหญ่โตมหึมายิ่งกว่าเดิม 9 เล่ม!
เรียกว่ากระบี่แต่ละเล่มนั้นใหญ่โตถึงขั้นจำต้องใช้ผู้ใหญ่มากกว่า 12 คนโอบถึงจะรอบ!
ครืนนน!
ครืนนน!
……
ทันใดนั้นเองกระบี่มหึมาทั้ง 9 ก็เริ่มสั่นไหว ก่อนปรากฏเสียงพลังคำรามออกมาสะท้านความว่างเปล่า ฟังแล้วคล้ายยักษ์กระทืบเท้าพาลให้ขุนเขาสั่นไหว
“กระบี่ทั้ง 9 นี่มัน…”
หน้าจางยี่เปลี่ยนสีไปทันที
เพราะมันตระหนักได้ชัดเจน
พลังที่แผ่ออกมาจากกระบี่มหึมาทั้ง 9 นั้น ไม่ได้อ่อนด้อยไปกว่าการลงมือเต็มกำลังของมันสักเท่าไหร่เลย!
“น่าสนใจนี่…”
ในขณะที่สีหน้าจางยี่ หานเฉวี่ยไน่ และหลิ่วเสวียซีดลง ต้วนหลิงเทียนพลันคลี่ยิ้มออกมา
เขาไม่คิดไม่ฝันเลยว่าลำพังแค่ด่านแรกของสถานสมบัติระดับสวรรค์ที่เหลือทิ้งไว้โดยเซียนกระบี่บงกชฟ้าหลี่ไป๋จะยากขนาดนี้…
กระบี่มหึมาทั้ง 9 เล่มนั่น…แต่ละเล่มมันเปล่งพลังอำนาจที่เทียบได้กับเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนออกมา!
แถมพลังจากกระบี่ที่ว่ายังไม่ใช่แค่เซียนสวรรรค์ 9 เปลี่ยนธรรมดาๆยังเหนือกว่าค่าเฉลี่ย!
แต่แน่นอนว่าพลังของกระบี่มหึมายังคงอ่อนด้อยกว่าจางยี่ แต่ก็แค่เล็กน้อย
หากมีกระบี่มหึมาเช่นนี้สัก 2-3 เล่มจางยี่ยังคงพอรับมือได้ไหว
แต่ถ้าโดนกระบี่มหึมามากกว่า 4 เล่มลงมือพร้อมกัน มันไม่มีความมั่นใจเลยว่าจะรับได้ไหว
“ต้วนหลิงเทียน…ข้าไม่คิดเลยว่าแค่ด่านแรกก็ต้องลำบากให้เจ้าลงมือแล้ว…”
จางยี่หันไปมองต้วนหลิงเทียนพลางยิ้มเหยเก
ก่อนหน้านี้ในสถานสมบัติระดับมนุษย์ทั้งหลาย หากมันกับหลิ่วเสวียจัดการได้ ก็จะเร่งลงมือจัดการด้วยตัวเอง ไม่จำเป็นต้องถึงมือต้วนหลิงเทียน
เพียงแค่มันไม่คิดไม่ฝันจริงๆว่าในสมบัติสถานระดับสวรรค์จะมีบดทดสอบยากเย็นขนาดนี้! แค่ระดับแรกอย่าว่าแต่หลิ่วเสวีย กระทั่งมันยังไม่มีปัญญาจะต้านทาน!!
“เรื่องเล็กน้อย”
ได้ยินคำของจางยี่ต้วนหลิงเทียนเพียงยิ้มพลางส่ายหัวไปมาเบาๆ
และแทบจะพร้อมกันกับที่ต้วนหลิงเทียนส่ายหน้าด้วยรอยยิ้ม
ซู่มม!! ซู่มม!! ซู่มม!!
……
กระบี่มหึมาทั้ง 9 ที่ปานกระบี่ของมหายักษ์ แม้จะใหญ่โตแลดูมีน้ำหนักมหาศาล แต่เมื่อพุ่งทะยานออกมา มิคาดความเร็วกลับเหนือกว่ากระบี่หลายพันเล่มก่อนหน้าหลายขุม! ให้บอกว่าเร็วกว่าสิบเท่าก็ไม่เกินเลย!!
กระบี่มหึมาขนาดนี้ยามเมื่อพุ่งทะลวงแหวกอากาศมาไม่เพียงแต่แลดูน่าครั่นคร้าม หากแต่คลื่นกระแทกที่เกิดจากการแหวกระเบิดอากาศของมันยังน่าหวาดกลัวไม่น้อย
นอกจากต้วนหลิงเทียนกับจางยี่ที่ยังคงนิ่งไม่ไหวติงปานขุนเขาแล้ว หานเฉวี่ยไน่กับหลิ่วเสวียต่างพากันตัวสั่นระริกด้วยความหวาดกลัว เพราะตอนนี้พวกนางสามารถถูกกระบี่มหึมาบดขยี้ได้อย่างง่ายดาย!
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้คงอยู่เพียงไม่นานนัก
วู้มม
เป็นพลังเซียนอมตะต้นกำเนิดขุมหนึ่งแผ่ออกมาจากร่างต้วนหลิงเทียนไปปกคลุมยังร่างหานเฉวี่ยไน่และหลิ่วเสวียเอาไว้ สลายแรงกดดันที่เคี่ยวกรำทั้งคู่ออกไปจนหมดสิ้น
“ไป”
ต้วนหลิงเทียนกระซิบกล่าวเสียงเบา
ทันใดนั้นกระบี่เซียนอมตะที่ไม่ทราบผุดโผล่ขึ้นมาอยู่ในมือตั้งแต่เมื่อไหร่ ก็เหินทะยานออกไปด้วยความเร็วสูงล้ำ เสียงหอนกระบี่เริ่มดังขึ้นไล่หลัง!
เป็นธรรมดาที่ไม่ว่าจะเป็นจางยี่ หานเฉวี่ยไน่ หรือหลิ่วเสวีย ก็เพียงแค่ได้ยินเสียงหอนแผ่วเบาราวเสียงกระซิบของกระบี่เท่านั้น ส่วนกระบี่ที่เป็นตัวการก่อให้เกิดเสียง…มันรวดเร็วเกินไปจนสายตาของทุกคนมองไม่ทัน!
ปง! ปง! ปง! ปง!
……
เสียงระเบิดดังสนั่นปานฟ้าสะท้านพสุธาสะเทือนดังขึ้น
ด้านหานเฉวี่ยไน่ทั้ง 3 รู้สึกเสมือนแก้วหูกำลังจะแตก…เป็นต้วนหลิงเทียนที่ใช้ใจกระบี่เหินทำลายกระบี่มหึมาทั้ง 9 เล่มลงในพริบตาเดียว!
กระบี่เซียนอมตะของต้วนหลิงเทียน ยามอยู่ต่อหน้ากระบี่มหึมานั้น มองแล้วประหนึ่งมดตัวน้อยคิดประจัญหน้ากับมหายักษ์…
ทว่ากลับเป็นกระบี่เซียนอมตะที่แลดูเล็กจ้อยไม่ต่างใดจากมด ทำลายกระบี่ใหญ่ยักษ์ทั้ง 9 จนแหลกเป็นเสี่ยงๆในชั่วพริบตา!
เมื่อกระบี่ทั้ง 9 พังทลาย ต้วนหลิงเทียนกับพวกก็ถือว่าได้ผ่านด่านแรกของเซียนกระบี่บงกชฟ้าหลี่ไป๋แล้ว…
หลังจากที่ทั้ง 4 คนเดินไปยังหนทางใหม่ที่ปรากฏขึ้น ไม่นานสภาพแวดล้อมที่เป็นบึงน้ำอันมืดมิดก็เริ่มหายไป…
ต่อมาก็มีแสงสว่างหนึ่งส่องเข้าตาทุกคนอย่างแรง
พอทั้งหมดปรับสายตาชมดู ก็พบว่าบัดนี้ทุกคนกำลังยืนอยู่ในห้องโถงอันโอ่อ่างดงาม เต็มไปด้วยสมบัติมากมาย ทองคำเพชรพลอยยังกองเท่าภูเขา…
อีกทั้งแสงสว่างในห้องโถงแห่งนี้ ยังมาจากไข่มุกราตรีขนาดมหึมาที่ฝังไว้อยู่เต็มผนังโถง
ไข่มุกราตรีที่ว่า ให้เป็นผู้ใหญ่ 2 คนยังโอบไม่รอบ!
ในขณะเดียวกันกับที่พวกต้วนหลิงเทียนทั้ง 4 มทาปรากฏตัวในโถงพระราชวังอันรโหฐาน เปี่ยมไปด้วยทรัพย์สมบัติล้ำค่ามากมาย…
ด้านแดนเนรเทศอันติดกับระนาบเซียน ก็หาความสงบไม่ได้
สถานที่อันเรียกว่าแดนเนรเทศนั้น ก็คือระนาบโลกียะอันเป็นคู่แฝดกับระนาบเซียน!
และตอนนี้ม่านพลังที่ปิดกั้นช่องว่างระหว่างระนาบก็ได้พังลงแล้ว ขอเพียงเป็นผู้ฝึกกตนที่พลังไม่อ่อนด้อย ไม่ว่าใครก็สามารถเดินทางผ่านข้ามทั้ง 2 แดนได้ง่ายดาย
“กรรรร!!”
“กรรรร!!”
……
ทันใดนั้น เสียงมังกรคำราม 2 สำเนียงพลันดังขึ้นสนั่นปฐพี!
ณ สุดขอบทิศใต้ของแดนเนรเทศ ท่ามกลางขุนเขาอันแห้งแล้งไร้ชีวิตอันตลบไปด้วยหมอกสีเลือด บริเวณใจกลางทะเลสาบสีเลือดขนาดมหึมาที่อยู่ท่ามกลางหุบเขาหนึ่ง อยู่ดีๆก็บังเกิดความผันผวน มวลน้ำสีเลือดพวยพุ่งขึ้นสูงปานเสาค้ำฟ้า!
ซ่า!!
เสียงม่านน้ำกระซ่านเซ็นดังขึ้น ปรากฏร่างมหึมาสีขาวหนึ่งพุ่งทะยานขึ้นมาจากใต้น้ำ!
พริบตาต่อมาทะเลสาบสีเลือดก็กลายเป็นปั่นป่วนยากจะหาความสงบ
ซ่า!
ซ่า!
……
น้ำพุที่อยู่ๆก็อุบัติขึ้นในทะเลสาบสีเลือด เมื่อพุ่งขึ้นสูงไปได้ไม่นาน หยาดน้ำแดงฉานก็เริ่มร่วงตกลงมาดั่งพิรุณโลหิต ช่างชวนให้ผู้ที่ได้แลมองอดไม่ได้ที่จะบังเกิดความหวาดผวานัก!
“กรรร!!”
“กรรร!!!”
……
เสียงมังกรคำรามรอบแรกยังไม่ทันจางหายยไปดี ก็มีเสียงมังกรคำรามดังขึ้นอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามมันต่างจากเสียงมังกรคำรามก่อนหน้าอยู่บ้าง เพราะเสียงมังกรครานี้มันหาได้ดังมาจากใต้ทะเลสาบไม่ หากแต่มันดังขึ้นบนน่านฟ้าเหนือทะเลสาบโลหิต!
และหากมองขึ้นไปยังน่านฟ้าเหนือทะเลสาบโลหิตตอนนี้
จะพบร่างมหึมาหนึ่ง ที่มีลำตัวยาวราวๆ 4 ลี้ ถูกปกคลุมไปด้วยเกล็ดมังกรสีขาวทอประกายวับวาว ราวกับเครื่องลายครามสีขาวที่แกะสลักออกมาอย่างวิจิตรบรรจง ชวนให้ผู้คนรู้สึกเลือนรางยากจับต้อง
และหากมองสังเกตให้ดี
อุ้งเล็บแต่ละข้างของมังกรสีขาวตัวนี้ กลับมีถึง 8 กรงเล็บ!
ต้องทราบด้วยว่าตอนนี้ในดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋านั้น หลงเหลือมังกร 8 กรงเล็บเพียงแค่ตัวเดียวเท่านั้น และนั่นคือผู้นำเผ่าพันธุ์มังกรฝ่ายใน…
มันคือมังกรเทพยดาสีทอง 8 กรงเล็บ!
ทว่าตอนนี้มังกรที่ปรากฏขึ้น กลับเป็นมังกรขาว 8 กรงเล็บ!
นอกจากนั้นทั่วร่างของมังกรขาวตัวเขื่อง ยังเต็มไปด้วยไอพลังที่เปล่งกลิ่นอายมารร้ายออกมาข้นคลั่ก อีกทั้งในไอมารยังปรากฏเส้นสายอัสนีสีดำแล่นวาบแปลบปลาบ!
โดยเฉพาะดวงตาของมังกรขาวตัวเขื่อง ยังเป็นสีแดงฉาน ราวกับมันเป็นมารร้ายกระหายเลือด!
หากมีคนของเผ่าพันธุ์มังกรมาอยู่ที่นี่ตอนนี้ล่ะก็ พวกมันคงอดไม่ได้ที่จะตกใจทั้งไร้คำใดจะกล่าวเป็นแน่!
เพียงเพราะในบรรดาสายพันธุ์มังกรทั้งหลาย มังกรขาวนั้น เป็นอะไรที่หาได้ยากยิ่งเสียกว่ามังกรเทพยดาสีทองเสียอีก! พลังความแข็งแกร่งของมันไม่ได้อ่อนด้อยไปกว่ามังกรเทพยดาสีทองเลยด้วยซ้ำ!
กระทั่งยังเหนือล้ำกว่า!!
“กรรรส์!!!”
“กรรรสส์!!!!”
……
หลังจากมังกรขาวโผล่พ้นม่านทะเลสาบสีเลือดขึ้นมาลอยค้างกลางฟ้าได้ไม่ทันไร พลันบังเกิดเสียงคำรามของมังกรอันเกรี้ยวกราดดังขึ้นมาจากใต้ทะเลสาบสีเลือดอีกครั้ง! สุรเสียงยังดุดันทั้งแข็งกร้าวยิ่งกว่าเสียงคำรามออกมังกรขาวเสียอีก!!
ซู่มมมม!!
ทะเลสาบสีเลือดที่พึ่งจะเริ่มหวนคืนสู่ความสงบไม่ทันไร แผ่นน้ำพลันแตกซ่านกระเซ็นอีกรอบ! พร้อมกันนั้นพลันมีเงามหึมาสีมืดหนึ่งพุ่งทะยานขึ้นมาจากใต้ทะเลสาบสีเลือด จนในที่สุดก็ปรากฏตัวขึ้นให้เห็น ณ จุดยอดของน้ำพุสีเลือด!!
น่านฟ้าเหนือทะเลสาบสีเลือดหาได้มีแค่มังกรขาวตัวเดียวอีกต่อไป…
ยังมีมังกรดำ 8 กรงเล็บอีกด้วย!
ถูกแล้ว…
ร่างที่พึ่งทะยานขึ้นมาจากใต้ทะเลสาบสีเลือดก็เป็นมังกรเช่นกัน ยังเป็นมังกรดำที่มีเกล็ดสีดำไร้ประกายปกคลุมเรียงรายเป็นทิวอยู่ทั่วร่าง
นอกจากนี้แต่ละอุ้งเล็บ ยังมีถึง 8 กรงเล็บ!
รอบกายของมังกรดำตัวนี้ก็มีไอมารอันทรงพลังแผ่ซ่านออกมา อีกทั้งยังปรากฏอัสนีสีเลือดแล่นวาบแปลบปลาบ บ่งบอกถึงความทรงพลังอำนาจของมัน!
และหากมีเผ่าพันธุ์มังกรมาอยู่ที่นี่จริงๆล่ะก็ ตอนนี้สีหน้าของพวกมันคงอดไม่ได้ที่จะเปลี่ยนไปเป็นสีซีดด้วยความหวาดกลัวเป็นแน่…
นั่นเพราะร่างมหึมาที่พึ่งปรากฏ เป็นมังกรมาร…ตัวอันตรายในตำนาน!!
หลังจากที่มังกร 2 สีขาวดำปรากฏขึ้นเหนือทะเลสาบสีเลือดได้สักพัก…
“ฮ่าๆๆๆ…เสี่ยวเฮย เสี่ยวไป๋ ในที่สุดพวกเจ้าก็ออกมาได้ซะทีนะ!!”
แสงสีทองหนึ่งแล่นวาบผ่านฟ้ามาเป็นเส้น ปรากฏร่างดรุณีน้อยในชุดสีทองนางหนึ่งขึ้นเหนือทะเลสาบสีเลือด…