WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 2446 ใครกล้าขวางข้า!
ตอนที่ 2,446 : ใครกล้าขวางข้า?!
“ไอ้หนู เจ้าอย่าถือดีให้มันมากนัก!”
เหล่าเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์คนอื่นก็มองไปยังต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาเยียบเย็น
ทั้งหมดรู้สึกว่าชายหนุ่มเบื้องหน้าถือดีเกินไป!
“เหอะ! เจ้าคิดว่าเพียงมีพลังเทียบได้กับเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์แล้วจะมาทำตัวหยิ่งผยองสามหาวต่อหน้าพวกเราได้หรือไร? เจ้ารู้หรือไม่ว่าในบรรดาพวกเรามิได้มีเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์แค่คนเดียว!”
เซียนอมตะเสเพลอีกคนพลันสบถกล่าวออกมาเสียงเย็น แววตาที่ใช้มองต้วนหลิงเทียนยังดุร้ายเอาเรื่องนัก!
ถึงแม้เซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์ที่เหลือจะไม่ได้พูดอะไร แต่สายตาที่ใช้มองต้วนหลิงเทียนก็ฉายแววอำมหิตไม่คิดปราณี!
“ต้วนหลิงเทียนผู้นี้หยิ่งผยองเกินไป!”
“มันหลงลำพองด้วยคิดว่าตัวเองมีพลังทัดเทียมเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์เข้าหน่อย ก็สามารถคลี่คลายเรื่องราววันนี้และรอดตัวไปได้แล้วงั้นรึ?ช่างไร้เดียงสานัก!”
“ถึงเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์คนเดียวจะฆ่ามันไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็ถ่วงรั้งพัวพันมันที่มียอดสมบัติสวรรค์ได้แน่…ถึงตอนนั้นหากเซียนอมตะเสเพล 7ทัณฑ์คนที่ 2 คนที่ 3 หรือมากกว่านั้นลงมือเล่า?”
“นั่นสิ ข้าว่า…ต้วนหลิงเทียนผู้นี้กำลังจะโดนดีแล้วล่ะ!”
… …
เหล่าเซียนอมตะเสเพล 6 ทัณฑ์มองจ้องต้วนหลิงเทียนด้วยสีหน้าหวาดกลัวไม่หาย หากแต่ก็อดกระซิบกระซาบคุยกันไม่ได้
และในวาจาของพวกมัน ไม่มีใครคิดว่าต้วนหลิงเทียนจะจากไปแต่โดยดีได้สักคน
เพราะสุดท้ายแล้วเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์ทั้งหลายที่อยู่ที่นี่ ก็ไม่ใช่มังสวิรัติ!
เหล่าเซียนอมตะเสเพล 6 ทัณฑ์ทั้งหลายนั้นรู้ตัวดีว่าโอกาสได้ครองยอดสมบัติสวรรค์ของพวกมันริบหรี่เต็มที คงยากจะมีส่วนกับยอดสมบัติสวรรค์ในมือพวกต้วนหลิงเทียนทั้ง 3 …
แต่เซียนอมตะเสเพล 6 ทัณฑ์เหล่านี้ก็อดฝันไปไม่ได้…
ว่าบางทีหลังจากพวกต้วนหลิงเทียนทั้ง 3 ถูกฆ่าชิงของไปแล้ว เหล่าเซียนอมตะสเพเพล 7 ทัณฑ์จะสู้กันเองเพื่อช่วงชิงยอดสมบัติสวรรค์!
สุดท้ายต่างฝ่ายต่างต้องบาดเจ็บไม่ก็ถึงขั้นล้มตายเป็นแน่!
เมื่อเวลานั้นมาถึง พวกมันย่อมมีโอกาสฉกฉวย!
ด้วยเพราะยังเหลือความหวังในเรื่องนี้อยู่ ทั้งหมดจึงอยู่รอให้ต้วนหลิงเทียนกับพวกออกมาตั้งแต่แรก
หาไม่แล้วพวกมันคงไม่เสียเวลามานั่งเฝ้า!
“อ้อ ไม่ได้มีเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์แค่คนเดียว…แล้วไง?”
ต้วนหลิงเทียนหัวเราะออกมาเมื่อได้ยินวาจาเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์ผู้นี้ จากนั้นค่อยกล่าวออกมาตรงๆ “ข้ายังคงจะบอกพวกเจ้าคำเดิม…พวกเจ้าไม่มีคุณสมบัติมากพอให้พวกข้าต้องถอยหนี!”
หลังจากกล่าวจบคำ ต้วนหลิงเทียนก็หันไปมองชักชวนหานเฉวี่ยไน่กับจางยี่ “เฉวี่ยไน่ จางยี่ ไปกันเถอะ”
“ข้าอยากจะเห็นนัก…ว่าใครมันจะกล้าขวางข้า!”
เสียงกล่าวต้วนหลิงเทียนดังจบคำ คนก็ไม่รอช้าเหินร่างไปยังทิศทางที่เข็มทิศชี้อย่างไม่รีบไม่ร้อน
แต่ต้นจนจบไม่ได้แยแสเหล่าเซียนอมตะเสเพลแม้แต่น้อย
หานเฉวี่ยไน่กับจางยี่ก็อึ้งค้างไปกับวาจาของต้วนหลิงเทียนแล้วจริงๆ
ทั้งคู่คิดว่าต้วนหลิงเทียนช่างดุร้ายเอาแต่ใจนัก!
“หืม?”
หลังเหินร่างไปได้ไม่ทันไร ต้วนหลิงเทียนก็พบว่าจางยี่กับหานเฉวี่ยไน่ไม่ได้ติดตามเขามา จึงหันกลับไปมองดูด้วยความสงสัย ก็เลยพบทั้งคู่ลอยร่างแน่นิ่งอยู่ตรงนั้นปานรูปปั้น 2 รูป
“พวกเจ้ามัวงงอะไรอยู่ ไปกันเถอะ…”
ทันใดนั้นต้วนหลิงเทียนที่หันกลับมามอง ก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวเตือนเบาๆ
“อะ..อื๊อ”
“ได้ๆ!”
พอหานเฉวี่ยไน่กับจางยี่ได้ยินเสียงต้วนหลิงเทียนอีกครั้ง สติทั้งคู่ก็กลับมาอยู่กับร่องกับรอย เร่งเหินร่างตามหลังต้วนหลิงเทียนไปทันที
เป็นธรรมดาหัวใจทั้งคู่ยังคงสะท้านกับเรื่องราวไม่หาย…
พวกมันเองก็อยากรู้นัก
ว่าชายหนุ่มชุดม่วงตรงหน้าที่แท้ไม่กลัวเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์ทั้งหลายจริงๆ หรือกำลังเสแสร้งทำเป็นลึกลับ
กระทั่งหานเฉวี่ยไน่ที่เชื่อมั่นในตัวต้วนหลิงเทียนมาโดยตลอด ตอนนี้ยังอดหวั่นใจไม่ได้
เพราะนางไม่รู้ว่าต้วนหลิงเทียนมีพลังสูงถึงขั้นฆ่าเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์ได้จริงไหม
“เสียสติ! เสียสติไปแล้ว!”
“ต้วนหลิงเทียนผู้นี้เสียสติไปแล้วจริงๆ! มันกล้าเมินเฉยทำเป็นไม่เห็นหัวเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์ไม่ว่า ยังกล้ากล่าววาจาท้าทายออกกมาเช่นนั้นอีก!”
“นี่มันถือดีในพลังฝีมือของตัว…หรือที่แท้มันไม่กลัวเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์กันแน่?”
“ฮึ! ข้าว่ามันแค่กำลังวางมาดทำเป็นยอดฝีมือลึกลับ!”
…
พอได้ยินเสียงของต้วนหลิงเทียนดังขึ้นอีกครั้ง และเตรียมจะจากไปกับพวก เหล่าเซียนอมตะเสเพล 6ทัณฑ์ในที่นี้อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสมือนหนังศีรษะกลายเป็นชาด้าน!
ได้แต่คิดว่าต้วนหลิงเทียนเสียสติไปแล้ว!
“ครึ่งก้าวเซียนอมตะถึงจะครอบครองยอดสมบัติสวรรค์ในมือ รวมถึงมีเวทย์พลังกับวรยุทธ์เซียนอมตะจากระนาบเทวโลก…แต่อย่างไรพลังก็มีขีดจำกัดอยู่ที่เซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์มิใช่หรือไร?”
“แม้ไม่ทราบว่าในระนาบของพวกเจ้าเป็นอย่างไร…แต่ในระนาบของข้า ตลอดประวัติศาสตร์ที่ผ่าน ครึ่งก้าวเซียนอมตะที่ร้ายกาจที่สุดก็ทำได้แค่เทียบเท่าเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์เท่านั้น…ผู้ที่เหนือกว่านั้นไม่เคยมีมาก่อน!”
“ระนาบข้าก็มี แต่ตลอดประวัติศาสตร์ในระนาบของข้า มีเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่เป็นครึ่งก้าวเซียนอมตะแล้วมีพลังทัดเทียมเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์ แต่จะอย่างไรก็ไม่ได้เหนือกว่า”
“ระนาบของข้าก็เป็นเช่นนั้น”
……
เหล่าเซียนอมตะเสเพล 6 ทัณฑ์อดไม่ได้ที่จะถามไถ่คุยกัน
ฟังจากคำพูดของพวกมัน ก็เผยให้รู้เรื่องหนึ่ง
ในระนาบโลกียะของพวกมัน ล้วนเคยปรากฏครึ่งก้าวเซียนอมตะที่มีพลังทัดเทียมกับเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์เหมือนกัน! แต่ทว่าตัวตนที่เหนือกว่านั้นไม่เคยมีให้เห็นมาก่อนเลย!!
“แถมระนาบโลกียะของพวกเราก็เป็นมหาระนาบ…ทว่าระนาบเซียนของต้วนหลิงเทียนคนนี้เป็นแค่ระนาบโลกียะขนาดย่อมเท่านั้น”
“นั่นสิ กระทั่งตลอดประวัติศาสตร์ของมหาระนาบโลกียะพวกเรายังไม่เคยมีครึ่งก้าวเซียนอมตะที่เหนือกว่าเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์ แล้วไฉนเด็กน้อยที่มาจากระนาบโลกียะเล็กจ้อยเช่นมันจะเหนือกว่าเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์ได้?”
“หึ! เรื่องพรรค์นั้นเป็นไปไม่ได้หรอก!”
“เสแสร้ง! มันต้องเสแสร้งวางมาดยอดฝีมืออยู่แน่!”
…
เรียกว่าเหล่าเซียนอมตะเสเพล 6 ทัณฑ์สนทนากันไม่ทันไรก็สรุปเรื่องราวได้แล้ว
สำหรับเหล่าเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์นั้น ตั้งแต่ที่ได้ยินวาจาทิ้งท้ายแกมขู่ของต้วนหลิงเทียนเมื่อครู่ พวกมันก็มีโมโหนัก!
เซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์บางคนยังถึงขั้นโมโหจนตัวสั่น!
และประจวบเหมาะกับได้ยินเสียงสนทนาของเหล่าเซียนอมตะเสเพล 6 ทัณฑ์…
กล่าวไปความคิดของพวกมันก็ไม่ต่างกัน
พวกมันล้วนไม่คิดว่าต้วนหลิงเทียนจะมีปัญญาเหนือกว่าเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์!
ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!
…
เสียงแหวกอากาศชุดหนึ่งดังขึ้น เป็นเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์ 6 คน พลันพุ่งร่างออกไปทันทีที่กลับมารู้สึกตัว
และพอปรากกฏตัวขึ้นอีกครั้ง พวกมันก็ไปหยุดขวางพวกต้วนหลิงเทียนทั้ง 3 เอาไว้เรียบร้อย!
กลุ่ม 3 คนที่นำโดยต้วนหลิงเทียนก็จำต้องหยุดลง
วูบ วูบ
หานเฉวี่ยไน่กับจางยี่อดไม่ได้ที่จะหน้าเปลี่ยนสีไปทันที
“6…เซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์กลับมีถึง 6 คน!?”
สำหรับผู้ที่หาญกล้าปรากฏตัวขวางทางแบบนี้ หานเฉวี่ยไน่ย่อมพอเดาได้ว่าทั้งหมดล้วนต้องเป็นตัวตนขอบเขตเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์ไม่ผิดแน่!
อย่างไรก็ตามแม้นางจะรู้ว่าในหมู่ผู้ที่รอปล้นมีเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์อยู่ด้วย แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเยอะขนาดนี้!!
“ 6 เซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์งั้นหรือ…”
จางยี่เอก็อดหวาดกลัวไปไม่ได้ ร่างของมันชะงักไปทันใด ยังรู้สึกหนักอึ้งปานมีตะกั่วลากถ่วง
“ไอ้หนู เจ้าคิดว่าพวกเราจะไม่กล้าขวางเจ้าจริงๆ?”
“คิดว่าอาศัยวาจาไม่กี่คำก็ทำให้พวกเรากลัว?”
“มองจากประวัติศาสตร์ของระนาบโหมหลัว เหยียนหวง คงสิง ทั้งฉีอวิ๋น…ล้วนเคยปรากฏครึ่งก้าวเซียนอมตะที่ร้ายกาจทัดเทียมเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์แค่ไม่กี่คนเท่านั้น และทั้งหมดก็มิมีผู้ใดเหนือกว่านั้นเลย แล้วเจ้าคิดว่าพวกเราจะเชื่อหรือว่าเจ้าร้ายกาจกว่านั้นจนเทียบได้กับเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์จริงๆ?”
…
ตอนนี้ไม่เพียงแต่เซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์คนเดิมที่พูดขึ้น เซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์อีก 2 คนที่ดูเหมือนจะมาด้วยกันก็กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงค่อนแคะ
อีกทั้งเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์ทั้ง 6 ยังมองต้วนหลิงเทียนตาขวาง
ยังดีที่ต้วนหลิงเทียนไม่ใช่ครึ่งก้าวเซียนอมตะธรรมดา
ไม่งั้นต้องเผชิญกับการมองจ้องอย่างดุร้ายของเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์ถึง 6 คน ไม่พ้นต้องหวาดกลัวเสียขวัญจนตาย และต่อให้ไม่ตายก็ก้าวขาไม่ออก
“ไสหัวไป!”
ได้ยินคำของเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์ทั้งหลาย สีหน้าต้วนหลิงเทียนก็มืดลงทันใด แววตายิ่งมายิ่งเย็นชาตวาดขับไล่ออกไปอย่างไม่เห็นหัว
อรหันต์ยังมีวันพิโรธ…
เซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์เหล่านี้ตอแยเขาไม่เลิกรา ย่อมทำให้เขามีโมโหขึ้นมาจริงๆแล้ว
“ไสหัวไป?”
“มัน…ไล่ให้ข้าไสหัวไป? ข้าได้ยินถูกหรือไม่?”
“เจ้าได้ยินไม่ผิด….เพราะข้าก็ได้ยินเหมือนเจ้า! มันไล่ให้พวกเราไสหัวไปจริงๆ!!”
……
เหล่าเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์ทั้ง 6 พอถูกตวาดก็หน้าม้านไปทันใด รู้สึกมีโมโหจนพูดไม่ออก
“สารเลวน้อยตายเสีย!!”
และในขณะที่เหล่าเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์ทั้ง 6กำลังมีโมโหเพราะคำพูดของต้วนหลิงเทียน หนึ่งในนั้นก็อดรนทนไม่ไหวตวาดออกมาเสียงแข็ง!
เสียงตวาดฟังแล้วยังเย็นชาจนราวกับผุดแทรกขึ้นมาจากหล่มน้ำแข็ง!
ปง! ปง!
ขณะที่เสียงตะโกนเยียบเย็นที่ว่าดังขึ้น ร่างเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์คนหนึ่ง ก็พุ่งไปดั่งอินทรีย์สยายปีกมือตวัดตบฟาดขวับๆ งองุ้มเป็นกรงเล็บ คล้ายจะใช้กระบวนท่าดุร้ายฉีกร่างผู้คน!
ในเวลาเดียวกันกับที่เซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์ลงมือ
ซัว ซัว ซัว
…
สายตาของเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์อีก 5 คนที่เหลือ ก็มองจ้องไปยังร่างเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์ที่ลงมือจู่โจมเข้าใส่ต้วนหลิงเทียนทันที!
พวกมันจึงได้รู้ว่า
เซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์ที่อดรนทนไม่ไหว ลงมือออกไปด้วยบันดาลโทสะนั้น เป็นคนที่ถูกเรียกหาว่าอาวุโสฉีผู้อาวุโสของเหอร่วนที่เข้าไปตกตายใพระราชวังใต้ดินด้วยน้ำมือจางยี่!
เดิมทีเป็นเพราะอาวุโสฉีผู้นี้ ทุกคนจึงได้รับทราบเรื่องราวจากม่านแสงสะท้อนลักษณ์
ว่าพวกต้วนหลิงเทียนทั้ง 3 ที่มียอดสมบัติสวรรค์ในครอบครองนั้น ยังอยู่ในพระราชวังใต้ดิน!
“ตายเสีย!!”
อาวุโสฉีที่ว่าหลังกระโจนร่างออกไป ทั่วร่างของมันตอนนี้ก็ปรากฏเงาร่างวิหกตัวเขื่องฉาบคลุมไว้เช่นกัน!
และในขณะที่เงาร่างวิหกตัวเขื่องปรากฏขึ้นหมายพุ่งไปฉีกร่างต้วนหลิงเทียนนั้น
มือที่ตวัดไปมาและงองุ้มเป็นกรงเล็บก็แผ่ซ่านกลิ่นอายแหลมคมปานเป็นกรงเล็บของพญาเหยี่ยว!
“หึ!”
สองตาต้วนหลิงเทียนเย็นลงทันใด เมื่อเผชิญหน้ากับการลงมือของอาวุโสฉี
ขณะเดียวกันทั่วทั้งร่างของเขาก็เริ่มปรากฏรังสีกระบี่สีขาวผุดโผล่ขึ้นมาจำนวนมหาศาลปานพุ่งออกมาจากทุกรูขุมขน!
พริบตาร่างต้วนหลิงเทียนก็ถูกรังสีกระบี่นับหมื่นพันห้อมล้อมปกคลุม!
ผู้ที่มีสายตาดีหน่อยจะพบว่า
ในขณะที่ถูกรังสีกระบี่ปกคลุม ร่างต้วนหลิงเทียนที่ส่องแสงสว่างจ้า คนก็แปรเปลี่ยนไปเป็นรังสีกระบี่อย่างน่าอัศจรรย์ หลอมกลืนไปกับรังสีกระบี่นับหมื่นพัน!!