WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 2449 ใกล้พบกัน
ตอนที่ 2,449 : ใกล้พบกัน
ภายในแดนลับต่างสวรรค์ ผู้ที่ได้ยินข่าวลือเรื่องครึ่งก้าวเซียนอมตะสังหารเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์ ถึงแม้จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตามแต่…
หากทว่านามของครึ่งก้าวเซียนอมตะคนนั้นก็เริ่มโด่งดังไปทั่ว
แม้แดนลับต่างสวรรค์จะกว้างใหญ่ไพศาลเพียงใด แต่วาจาปากต่อปากนั้นพริบตาจากสิบก็เป็นร้อยจากร้อยก็เป็นพัน แถมยังคงเพิ่มต่อไปเรื่อยๆอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด…
“พี่ใหญ่ต้วน…ถึงกับฆ่าได้กระทั่งเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์…”
ในหุบเขาแห่งอันเงียบบสงบหนึ่ง ร่างสตรีในชุดแดงเพลิงที่ลอยเหนือหุบเขาเผยอริมฝีปากบางกล่าวออกด้วยความทึ่ง สองตาดั่งสารทฤดูยังฉายถึงความประหลาดใจให้เห็นชัด
ชุดแดงเพลิงยามต้องลมยังโบกสะบัดให้ความรู้สึกเหมือนเปลวไฟ หนุนเสริมให้นางแลคล้ายเทพธิดาอัคคีอยู่บ้าง
“เป็นไปได้อย่างไรกัน…”
“หรือ…มันจักได้รับสืบทอดมรดกของต้าหลัวจินเซียนไปแล้ว?”
เสียงประหลาดใจหนึ่งดังขึ้น เจ้าของเสียงเป็นร่างาสตรีในชุดขาวที่มีม่านผ้าสีขาวปิดใบหน้าครึ่งล่างเอาไว้ สองตาของนางฉายความประหลาดใจไม่น้อย
เสียงกล่าวยังเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
ทั้งคู่ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นผู้สืบทอดทวาราเที่ยงแท้ลำดับที่ 5 หงส์ฟ้าจรัสแสง กับผู้สืบทอดทวาราเที่ยงแท้ลำดับที่ 2 ความลับสวรรค์ เฟิ่งเทียนหวู่กับมู่อีอี!
เมื่อ 6 เดือนที่แล้วทั้งคู่ได้พบกันโดยบังเอิญ จากนั้นจึงเดินทางร่วมกัน
อย่างไรก็ตามด้วยพลังฝีมือของพวกนางซึ่งไม่นับเป็นอะไรในแดนลับต่างสวรรค์ จึงได้แต่เดินทางกันอย่างเจียมตัวและคอยระแวดระวังทุกฝีก้าว
เพราะหากเจอครึ่งก้าวเซียนอมตะที่คิดไม่ซื่อ พวกนางก็ยากจะรับมือได้
“อาจเป็นได้”
เฟิ่งเทียนหวู่พยักหน้ากล่าวคำ หลังได้ยินการคาดเดาของมู่อีอี
“แต่ไม่ว่าจะได้รับมรดกต้าหลัวจินเซียนไปแล้วจริงหรือไม่เดี๋ยวพวกเราก็ได้รู้…เพราะหากมันได้รับมรดกต้าหลัวจินเซียนไปแล้วจริงๆ เข็มทิศที่จักนำพวกเราไปสู่มรดกสถานของต้าหลัวจินเซียนหรือสมบัติสถานระดับมนุษย์กับสวรรค์ ก็ต้องใช้การไม่ได้ทันที”
มู่อีอีกล่าว
“ไม่ผิด”
เฟิ่งเทียนหวู่พยักหน้า เรื่องนี้หลังจากที่เข้ามาในแดนลับต่างสวรรค์นางก็ได้รับทราบมาจากผู้อื่น
ไม่ว่าจะเป็นเฟิ่งเทียนหวู่หรือมู่อีอี ตอนนี้ทั้งคู่ก็รู้แล้วว่าที่นี่ไม่ใช่แดนลับเซียนกระบี่ แต่เป็นแดนลับต่างสวรรค์ที่เชื่อมต่อกับระนาบโลกียะทั้ง 5 ซึ่งหนึ่งในนั้นก็รวมถึงระนาบเซียนของพวกนางด้วย
ในแดนลับต่างสวรรค์แห่งนี้ นอกจากรุ่นเยาว์อัจฉริยะที่อายุไม่ถึง 100 ปีแล้ว ก็ยังมีเหล่าเซียนอมมตะเสเพลมากมายที่เข้ามาด้วย
ที่สำคัญในบรรดาเซียนอมตะเสเพลทั้งหลายก็ไม่ขาดเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์ ยังมีกระทั่งเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์!
บางคนยังกล่าวกันว่า…
กระทั่งเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ก็ยังมี!
“พวกมันไปกันแล้ว”
หลังผ่านไปอีกครึ่งวัน มู่อีอีที่ลอยร่างอย่างสงบทั้งหลับตาอยู่ก็กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“แล้วเข็มทิศที่พวกมันได้มา…ยังใช้งานได้หรือไม่?”
เฟิ่งเทียนหวู่อดไม่ได้ที่จะกล่าวถาม
ตอนนี้เฟิ่งเทียนหวู่ได้แต่หวังว่า เข็มทิศของกลุ่มคนที่พึ่งออกจากสมบัติสถานระดับมนุษย์เบื้องล่างจะใช้การไม่ได้แล้ว เพราะนั่นหมายความว่าพี่ใหญ่ต้วนของนางอาจจะได้รับมรดกของต้าหลัวจินเซียนไปแล้วจริงๆ!
หากเข็มทิศยังใช้การได้อยู่ ย่อมหมายความว่าพี่ใหญ่ของนางยังไม่ได้รับมรดก
เพราะแต่ละครั้งที่แดนลับต่างสวรรค์เปิดออก จะมีคนได้รับสืบทอดมรดกต้าหลัวจินเซียนแค่คนเดียวเท่านั้น!
เมื่อได้รับมรดกไปแล้ว เบาะแสทั้งหลายที่เกี่ยวข้องกับมรดกสถานของต้าหลัวจินเซียนจะกลายเป็นใช้การไม่ได้ทันที!
กล่าวได้ว่า…
หากพี่ใหญ่ต้วนของนางได้รับมรดกต้าหลัวจินเซียนไปแล้วจริงๆ เข็มทิศทั้งหมดภายในแดนลับต่างสวรรค์ต้องสิ้นคุนค่าลง และใช้การไม่ได้ทันที!
“ยัง! เข็มทิศในมือของพวกมัน…ยังไม่หยุดทำงาน!!”
ในขณะที่เฟิง่เทียนหวู่มองรอฟังมู่อีอีที่หลับตาอย่างใจจดจ่อ มู่อีอีก็ลืมตาพร้อมกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงรีบร้อน
มู่อีอีในฐานะผู้บำเพ็ญเต๋ากบฏสวรรค์ ได้มีกลวิธีลับกระการหนึ่งที่สามารถใช้พลังวิญญาณตรวจสอบเรื่องราว ที่แม้แต่เซียนอมตะเสเพลก็ไม่อาจรู้ตัว!
ด้วยเหตุนี้หลังจากที่ได้เจอกับเฟิ่งเทียนหวู่จนร่วมเดินทางด้วยกัน แม้นางจะติดตามกลุ่มเล็กๆกลุ่มหนึ่งที่มีเบาะแสนำไปยังมรดกสถานของต้าหลัวจินเซียน แต่อีกฝ่ายก็ไม่อาจค้นพบพวกนางได้
และไม่กี่วันที่ผ่านกลุ่มเล็กๆดังกล่าวก็ได้เข้าไปในสมบัติสถานระดับมนุษย์
จนวันนี้พึ่งออกมา
และทันทีที่พวกมันออกมา ก็ถูกมู่อีอีจับตามองอย่างใกล้ชิด จนสุดท้ายมู่อีอีค่อยพบว่าพวกมันได้รับเข็มทิศอันใหม่มา ที่สำคัญเข็มทิศดังกล่าวยังใช้งานได้และพวกมันก็กำลังเดินทางไปต่อ
“ไป! รีบตามพวกมันไปกันเถอะ!”
มู่อีอีกล่าวชวนเฟิ่งเทียนหวู่ ก่อนที่จะสะกดรอยตามกลุ่มคนเบื้องหน้าไปทันที
เฟิ่งเทียนหวู่ที่ได้ยินคำชวน ก็ไม่รอช้าเหินร่างตามไปติดๆ
“เช่นนั้น…พี่ใหญ่ต้วนก็ยังไม่ได้มรดกของต้าหลัวจินเซียนงั้นหรือ?”
“แล้วหากยังไม่ได้รับมรดกต้าหลัวจินเซียน…พี่ใหญ่ต้วนจะฆ่าเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์ได้ยังไง?”
เฟิ่งเทียนหวู่กล่าวพึมพำออกมาด้วยความสับสน เพราะนางไม่อาจเข้าใจที่มาพลังฝีมือของต้วนหลิงเทียนได้จริงๆ
ก่อนหน้าที่จะเข้ามาแดนลับต่างสวรรค์ หากพี่ใหญ่ต้วนของนางลงมือเต็มกำลังใช้ออกด้วยทุกสิ่ง พลังก็เพียงเทียบได้กับเซียนอมตะเสเพล 6 ทัณฑ์เท่านั้น
‘ต่อให้พี่ใหญ่ต้วนได้รับยอดสมบัติสวรรค์มา…แต่อย่างดีพลังก็น่าจะเทียบได้กับเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์เท่านั้น’
‘แต่จากข่าวลือที่แพร่ออกมา พี่ใหญ่ต้วนยังฆ่าได้กระทั่งเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์!’
‘หรือว่า…พี่ใหญ่ต้วนจะได้รับเวทย์พลังกระทั่งวรยุทธ์เซียนอมตะจากระนาบเทวโลก จนฝึกฝนใช้ออกได้สำเร็จเลยมีพลังดังกล่าว?’
‘เท่าที่ข้ารู้ภายในสมบัติสถานระดับสวรรค์จะมีสิ่งเหล่านี้อยู่ เช่นนั้นหมายความว่า 9 ใน 10 ส่วนพี่ใหญ่ต้วนต้องพบเจอสมบัติสถานระดับสวรรค์แล้วเป็นแน่!’
เฟิ่งเทียนหวู่นั้นเคยสละได้กระทั่งชีวิตเพื่อต้วนหลิงเทียน
ตอนนั้นทำให้ต้วนหลิงเทียนเปิดใจรับนางเต็มที่ และก็ได้กลายเป็นคนสำคัญของใจอีกคน
หลังจากนั้นต้วนหลิงเทียนก็นับเฟิ่งเทียนหวู่เป็นสตรีของเขา
ต้วนหลิงเทียนย่อมไม่ปิดซ่อนอะไรกับสตรีที่ตัวเองรักชอบ จึงได้บอกเรื่องราวและความสามารถกับเฟิ่งเทียนหวู่เสมอ
ดังนั้นเฟิ่งเทียนหวู่ย่อมคาดเดาเรื่องราวได้คร่าวๆ
‘หากเป็นแบบนั้นหมายความว่า…ในมือพี่ใหญ่ต้วนก็กุมเบาะแสนำไปสู่มรดกสถานของต้าหลัวจินเซียนอยู่เช่นกัน เพราะในสมบัติสถานระดับสวรรค์ก็ย่อมมีเข็มทิศนำไปยังสถานที่ต่อไปจนกว่าจะถึงมรดกสถานของต้าหลัวจินเซียน’
นึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาเฟิ่งเทียนหวู่ก็อดไม่ได้ที่จะตื่นเต้น
เพราะเรื่องนี้หมายความว่า
นางกับพี่ใหญ่ต้วนของนางมีโอกาสพบเจอกันในแดนลับต่างสวรรค์แห่งนี้
และอันที่จริงการเดินทางของเฟิ่งเทียนหวู่กับต้วนหลิงเทียน จะอย่างไรก็ต้องพบเจอกันแน่นอน เพราะสุดท้ายแล้วจุดหมายปลายทางย่อมเป็นที่เดียวกัน
และนั่นคือมรดกสถานของต้าหลัวจินเซียน
ที่สำคัญคนของระนาบเซียนที่กำลังมุ่งหน้าตามรอยบเบาะแสมรดกสถานของต้าหลัวจินเซียนก็ไม่ได้มีแค่เฟิ่งเทียนหวู่กับมู่อีอีเท่านั้น
“เจ้านั่น…มันฆ่าได้กระทั่งเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์เลยงั้นเหรอ!?”
เหนือธารน้ำแข็ง ก่านหรูเยี่ยนอดไม่ได้ที่จะตะลึง หลังได้ยินข่าวลือเรื่องต้วนหลิงเทียนเข่นฆ่าเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์
ผู้ชายคนนั้น แข็งแกร่งขนาดนี้แล้ว?
สุดท้ายก่านหรูเยี่ยนก็ดึงสติกลับมา ค่อยหันมองไปยังสตรีข้างกายที่หน้าตาเหมือนกับนางราวกับแกะ “เค่อเอ๋อ…ข้าคิดว่าพลังฝีมือของเจ้าตอนนี้จะก้าวข้ามมันไปแล้วเสียอีก…”
“แต่ไม่คิดเลยว่ามันเองก็ก้าวหน้าไม่หยุดเช่นกัน”
ทันใดนั้นสายตาของก่านหรูเยี่ยนก็ฉายแววซับซ้อนนัก
ไม่ทันรู้ตัวไม่เพียงแต่บุรุษคนนั้นจะก้าวข้ามนางไปไกลลิบ ตอนนี้กระทั่งน้องสาวยังเหนือล้ำไปไกลนางแล้ว
“พี่เทียน…ย่อมแข็งแกร่งเหนือข้า!”
สตรีข้างกายก่านหรูเยี่ยนที่หน้าตาเหมือนกันไม่ผิดเพี้ยน แน่นอนว่าต้องเป็นเค่อเอ๋อ หลังจากที่ได้ยินคำของก่านหรูเยี่ยน เค่อเอ๋อก็ส่ายหน้าไปมาเบาๆ กล่าวออกด้วยน้ำเสียงมั่นใจ
หากแต่สองตางามดั่งสารทฤดูของนางยังฉายความตื่นเต้นออกมาไม่น้อย
เหตุผลที่นางตื่นเต้นก็เป็นธรรมดานัก…
นั่นหมายความว่านางมีโอกาสจะได้พบชายคนรักอีกครั้งภายในแดนลับต่างสวรรค์อันกว้างใหญ่แห่งนี้!
เกี่ยวกับสถานการณ์ของต้วนหลิงเทียน เค่อเอ๋อย่อมรู้ดีกว่าเฟิ่งเทียนหวู่เสียอีก จึงยืนยันได้ทันทีว่า…
บุรุษของนางไม่พ้นต้องได้รับยอดสมบัติสวรรค์ ทั้งเผลอๆจะได้รับเวทย์พลังจากระนาบเทวโลกมาแล้ว
สำหรับวรยุทธ์เซียนอมตะนั้นนางไม่ได้นึกถึง
เพราะนางรู้ดีว่าต่อให้ได้รับมาบุรุษของนางก็ไม่ฝึกวรยุทธ์เซียนอมตะแน่ เพราะนั่นจะขัดแย้งกับ ยอดใจกระบี่ ที่ฝึกปรืออยู่!
‘เวทย์พลังจากระนาบเทวโลกสมควรมีอยู่แต่ในสมบัติสถานระดับสวรรค์เท่านั้น…หมายความว่าตอนนี้พี่เทียนสมควรผ่านมรดกสถานระดับสวรรค์มาแล้ว และมีเบาะแสนำไปสู่มรดกสถานของต้าหลัวจินเซียนอยู่ในมือ’
‘และตอนนี้ข้ากับพี่หญิงก็พึ่งผ่านสมบัติสถานระดับมนุษย์มาหยกๆ จนได้รับเข็มทิศอันนี้มา…หากไปต่อสุดท้ายปลายทางก็ต้องเจอกับพี่เทียน!’
คิดถึงจุดนี้เค่อเอ๋อก็มองจานเข็มทิศในมือ ด้วยแววตาตื่นเต้นยินดีนัก
“อืม…นี่น่ะเหรอยอดสมบัติสวรรค์…ดูเหมือนจะแตกต่างกับอาวุธในระนาบโลกียะอยู่นะ”
ที่ไหนสักแห่งภายในแดนลับต่างสวรรค์ เด็กหญิงตัวน้อยในชุดสีทองกำลังเล่นกับกรงเล็บเหล็กในมือที่เปล่งประกายเยียบเย็นด้วยความสนใจ
กรงเล็บเหล็กที่ว่าแน่นอนว่าไม่ได้หลอมสร้างขึ้นมาจากเหล็กธรรมดาๆแน่นอน เพราะมันเปล่งกลิ่นอายพลังดุร้ายสะท้านสะเทือนบรรยากาศออกมาตลอดเวลา
เหล่าเซียนอมตะเสเพลทั้งหลายที่เห็นเด็กหญิงตัวน้อยเล่นกรงเล็บเหล็กอยู่ เมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายเยียบเย็นที่แผ่ออกมา ร่างก็สะท้านไปอย่างไม่รู้ตัว
และตอนนี้รอบตัวของเด็กหญิงตัวน้อยในชุดสีทองก็ไม่ได้มีแต่เหล่าเซียนอมตะเสเพลเท่านั้น ยังมีรุ่นเยาว์อายุไม่ถึงร้อยปีอีกมากมาย
“ยาโถวน้อยนางนี้เป็นผู้ใดกันแน่…ไฉนถึงได้ร้ายกาจนัก!?”
เซียนอมตะเสเพลคนหนึ่งกล่าววออกด้วยน้ำเสียงสั่นๆ
ขณะเดียวกันสายตาที่ใช้มองเด็กหญิงตัวน้อยในชุดทองไกลตาก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัวทั้งตื่นตระหนกไม่น้อย
“เจ้านั่นอย่างไรก็เซียนอมตะเสเพล 5 ทัณฑ์…แต่นางกลับตบฝ่ามือเดียวฆ่ามันตาย แถมไม่ได้ใช้เวทย์พลังทั้งวรยุทธ์ใดๆสักท่า!”
พอนึกถึงการเข่นฆ่าตัวตนขอบเขตเซียนอมตะเสเพล 5 ทัณฑ์ได้ง่ายดายราวบดบี้มดของเด็กหญิงตัวน้อย เหล่าเซียนอมตะเสเพลในปัจจุบันที่แข็งแกร่งที่สุดก็เป็นแค่เซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ได้แต่หวาดกลัวถึงที่สุด
ไม่มีใครกล้าคิดช่วงชิงยอดสมบัติสวรรค์ในมือเด็กหญิงตัวน้อยชุดทองแม้แต่คนเดียว!