WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 2477 ไปจากที่นี่
ตอนที่ 2,477 : ไปจากที่นี่
ท่ามกลางสายตาของทุกคน อยู่ๆร่างบางของเค่อเอ๋อก็อันตรธานหายไปในอากาศว่างเปล่าอีกรอบ
และเมื่อเค่อเอ๋อปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง นางก็อยู่ข้างๆต้วนหลิงเทียนแล้ว นางยังไปกอดแขนข้างหนึ่งของต้วนหลิงเทียนเอาไว้แล้วอิงซบอยู่ข้างกายของต้วนหลิงเทียนราวดรุณีน้อยแรกรัก
หากไม่ได้มาเห็นกับตา ผู้คนในที่นี้คงไม่มีผู้ใดเชื่อได้ลงคอ!
ตัวตนอันทรงพลังถึงขั้นลบการดำรงอยู่อย่างเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ให้สาบสูญไปจากสวรรค์และโลกในชั่วพริบตา กลับอิงซวบบุรุษราวกับดรุณีน้อยแรกรัก…
“ต้วนหลิงเทียน…”
เรียกว่าทุกสายตาล้วนหันขวับไปมองต้วนหลิงเทียนอย่างพร้อมเพรียง
เรียกว่าตอนนี้ต้วนหลิงเทียนกลายเป็นจุดศูนย์รวมความสนใจผู้คนทั้งมวลอีกครั้ง แต่ทั้งหมดไม่ได้เกิดจากตัวเขา หากแต่เป็นสตรีข้างกายเขาต่างหาก!
เค่อเอ๋อ ภรรยาเขา!
“ต้วนหลิงเทียนผู้นี้ยังพอใช้คำสัตว์ประหลาดอธิบายได้…แต่สตรีข้างกายมัน ทะลุฟ้าไปแล้ว!!”
“ให้ตายเถอะ! เห็นกันอยู่ชัดๆว่าพลังของสตรีนางนั้นร้ายกาจเหนือมันมากโข…แต่ไม่ทราบจริงๆว่ายอดฝีมือไร้เทียมทานเช่นนางไฉนไปหลงรักมันได้”
“สิบในสิบสตรีนางนี้สมควรมาจากระนาบเทวโลกเป็นแน่…หาไม่แล้วนางไม่มีทางทรงพลังได้ถึงขั้นนี้!”
“เป็นไปได้หรือไม่…ที่ไฉนต้วนหลิงเทียนเป็นแค่ครึ่งก้าวเซียนอมตะแต่ทรงพลังได้ถึงขนาดนี้ จะเป็นเพราะนาง?”
“ข้าแทงสิบเอาหนึ่งเลยยังได้ ว่าต้องเป็นเพราะนางแน่ๆ!”
…
เมื่อเห็นเค่อเอ๋อวูบร่างไปปรากฏข้างกายต้วนหลิงเทียน ทั้งกอดแขนอิงซบต้วนหลิงเทียนไปราวดรุณีน้อยแรกรัก เหล่าเซียนอมตะเสเพลทั้งหลายอดไม่ได้ที่จะลอบซุบซิบคาดเดา
โดเฉพาะเหล่าบุรุษหนุ่มทั้งหลายที่เป็นชนชั้นอัจฉริยะจากขุมพลังต่างๆ ล้วนมองไปยังต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาอิจฉาริษยาทั้งสิ้น บ้างยังสาปแช่งต้วนหลิงเทียนด้วยความเกลียดชัง
“เค่อเอ๋อ…”
มองไปยังเค่อเอ๋อที่มาอิงซบอยู่ข้างกาย ต้วนหลิงเทียนก็รู้ได้ทันทีว่าเค่อเอ๋อยังเป็นเหมือนกาลก่อนที่ขี้อาจและประหม่ายามถูกผู้คนมากมายมองจ้อง คงมีแต่พลังความแข็งแกร่งเท่านั้นที่เปลี่ยนแปลงไปราวพลิกฟ้าคว่ำดิน!
“พี่เทียน…”
เค่อเอ๋อที่เอาหัวเล็กๆอิงซบต้วนหลิงเทียนอยู่สักพักก็เคยๆเงยหน้าขึ้นมามองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาหลงใหล ทำราวกับในโลกนี้เหลือเพียงต้วนหลิงเทียนเท่านั้น
หากไม่ได้มาเห็นกับตา ในที่นี้คงไม่มีผู้ใดเชื่อได้ลงคอ
ว่าสตรีร่างบางแลดูอ่อนแอนางนี้ จะเป็นผู้ที่สังหารเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ทั้ง 2 ด้วยพลังที่เหนือกว่าอย่างสิ้นเชิง!
“เค่อเอ๋อ…เจ้ากำลังปิดบังอะไรข้าอยู่รึเปล่า? หืม?”
ต้วนหลิงเทียนค่อยๆลูบศีรษะเค่อเอ๋อเบาๆ พลางถามออกมาด้วยน้ำเสียงแววตาจริงจัง
ตอนนี้สัญชาตญาณของต้วนหลิงเทียนได้ร้องเตือนเขาดังลั่น
ว่าเบื้องหลังพลังที่เพิ่มพูนขึ้นมาอย่างสะท้านฟ้าของเค่อเอ๋อ 9 ใน 10 สมควรมีอันตรายอย่างใหญ่หลวง!
อย่างน้อยๆขั้นตอนการเพิ่มพลังก็ไม่มีทางไร้เรื่องราวแน่นอน!
ได้ยินคำของต้วนหลิงเทียน ร่างบางของเค่อเอ๋อก็แข็งทื่อไปทันที
สุดท้ายนางก็ไม่อาจโกหกปิดบังอะไรได้เมื่อถูกต้วนหลิงเทียนมองถามมาด้วยสายตาจริงจังแบบนี้ จึงเล่าเรื่องราวการผลาญวิญญาณกู้คืนชิ้นส่วนความทรงจำในชาติที่แล้วเพื่อยกระดับพลังออกไป
“ผลาญวิญญาณ…”
ถึงแม้เค่อเอ๋อจะกล่าวออกมาเสียงเบา แต่ต้วนหลิงเทียนก็อดไม่ได้ที่จะชะงักไปทันที!
เขาย่อมรู้ดีว่าการผลาญวิญญาณตัวเองเป็นอย่างไร!
“เค่อเอ๋อ…ไฉนเจ้าโง่งมถึงขนาดนี้”
ต้วนหลิงเทียนดึงร่างบางเค่อเอ๋อมากดไว้แน่น กล่าวถามออกด้วยเสียงสั่นเครือ
เมื่อได้รู้ว่าเค่อเอ๋อผลายวิญญาณตัวเอง ใจเขาก็รู้สึกเจ็บปวดราวกับสัมผัสได้ถึงความทุกข์ทรมานดังกล่าว
“หาก…เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า แล้วข้ากับซือหลิงจะอยู่กันอย่างไร…”
ไม่ทราบตั้งแต่เมื่อไหร่ตอนนี้สองตาต้วนหลิงเทียนได้เปลี่ยนไปเป็นแดงรื้นขึ้นมา
“พี่เทียนข้าไม่เป็นอะไรหรอก…ข้าไหนเลยจะโง่งมทำเกินขอบเขตที่ข้าทนไหวเพียงเพื่อความแข็งแกร่ง ข้าย่อมกลัวไม่ได้อยู่กับพี่เทียนและซือหลิงเป็นที่สุด…”
ทว่านางไม่ทันได้อธิบายจบคำดี ก็ถูกต้วนหลิงเทียนกล่าวขัดขึ้น “แค่นั้นก็ไม่ได้! เจ้า…ไฉนเรื่องสำคัญแบบนี้เจ้าไม่ปรึกษาข้าก่อน! หากข้ารู้ข้าไม่มีวันให้เจ้าทำแบบนั้นเด็ดขาด!!”
“ขะ…ข้าแค่อยากแข็งแกร่งขึ้น จะได้ช่วยแบ่งเบาภาระให้พี่เทียนบ้าง ข้ามิอยากเป็นเพียงดอกไม้ในแจกัน…”
เผชิญหน้ากับเสียงดุของต้วนหลิงเทียน เค่อเอ๋อก็ลนลานไปไม่เป็น ได้แต่กล่าวออกมาอย่างหวาดกลัว
“ดอกไม้ในแจกันบ้าบออะไร! ข้าขอห้ามไม่ให้เจ้าพูดเหลวไหลแบบนี้อีก! เจ้าจะเป็นดอกไม้ในแจกันได้อย่างไร หากไม่มีเจ้าจะมีซือหลิงได้หรือ ที่ข้าพยายามไขว่คว้าหาพลังไม่ใช่ทำเพื่อปกป้องเจ้ากับครอบครัวหรือไร!”
ได้ยินคำของเค่อเอ๋อต้วนหลิงเทียนก็รู้สึกโกรธไม่น้อย
เค่อเอ๋อเมื่อถูกตำหนิก็อดไม่ได้ที่จะลนลานแตกตื่น ก้มหน้างุดๆลงไปราวเด็กน้อยทำผิด
“พะ…พี่เทียน ข้า…ข้าผิดไปแล้ว”
ถึงแม้ตอนนี้พลังของเค่อเอ๋อจะสูงล้ำกว่าต้วนหลิงเทียนแล้ว แต่ต่อหน้าต้วนหลิงเทียนนางก็เป็นได้แค่ดรุณีน้อยนางหนึ่งเสมอ นางย่อมไม่กล้าต่อต้านแข็งขืนอะไรได้
“ยาโถวโง่งม…”
เผชิญกับท่าทีน่าสงสารของเค่อเอ๋อ ให้ต้วนหลิงเทียนโกรธแค่ไหนก็โกรธนางไม่ลง
ยิ่งไปกว่านั้นเค่อเอ๋อทำทั้งหมดก็เพื่อเขา
เพราะสุดท้ายแล้วที่เค่อเอ๋อรีบร้อนยกระดับพลัง ก็เพียงเพราะคิดช่วยเขาล้วนๆ
และก็เป็นเค่อเอ๋อได้ช่วยเขาไว้จริงๆ
วันนี้หากไม่ได้เค่อเอ๋อ อย่าว่าแต่เฟิ่งเทียนหวู่ หานเฉวี่ยไน่ และคนอื่นๆเลย กระทั่งเขาเองก็ยากจะรอดตัวไปได้ง่ายๆ กระทั่งหากพลาดพลั้งอาจถึงขั้นตายตกด้วยซ้ำ!
“ยาโถวโง่งม…ยาโถวน้อยโง่งม”
วงแขนที่กอดร่างเค่อเอ๋อของต้วนหลิงเทียนยิ่งมายิ่งกระชับแน่นขึ้น ราวกับจะกอดให้ร่างเค่อเอ่อผูดติดกับเขาไปเลย ต่อไปนี้นางจะได้ไม่ต้องห่างเขาไปลอบทำเรื่องอะไรแบบนี้ได้อีก
“พี่เทียน”
เค่อเอ๋อเองก็กอดต้วนหลิงเทียนเอาไว้อย่างแนบแน่นเช่นกัน
เรียกว่าตอนนี้หนึ่งหญิงหนึ่งชายได้กอดกันตัวกลมโดยไม่สนสายตาคนมองแม้แต่น้อย
หากแต่ตอนนี้ก็ไม่มีใครกล้ากล่าววาจาอะไรออกมา
ทั้งหมดได้แต่มองร่างชายหญิงกอดกันตัวกลมอย่างเงียบงัน กระทั่งถึงขั้นสะกดลมหายใจเอาไว้ราวกับกลัวว่าเสียงลมหายใจจะดังเกินไปจนรบกวนชายหญิงคู่นั้นบังเกิดความขุ่นเคืองขึ้นมา
หากทั้งคู่บังเกิดความไม่พอใจ ผลที่จะตามมาคืออะไรพวกมันรู้ดี…
ส่วนด้านเซียนอมตะเสเพลและอัจฉริยะของนิกายคุนหม่ากับด่าน 9 เซียนนั้น แม้หลายคนจะมองร่างชายหญิงที่กอดกันเป็นเกลียวด้วยสองตาแดงฉาน แต่พวกมันก็ไม่กล้าก่อหวอดอะไร
เพราะสุดท้ายแล้วสตรีนางนั้น ก็เป็นตัวตนที่ททรงพลังถึงขั้นลบบรรพบุรุษของพวกมันให้หายไปได้ง่ายดาย…
หากพวกมันยังคิดแก้แค้น ไม่พ้นต้องไปเมืองผีตามบรรพบุรุษ!
ไม่มีใครทันได้สังเกตเห็น
ก่านหรูเยี่ยนที่ลอยร่างอยู่ห่างๆ สองตาที่เฝ้ามองร่างชายหญิงที่กำลังกอดกันของนางเผยให้เห็นถึงความอิจฉาทั้งริษยาออกมาให้เห็นเล็กน้อย
แน่นอนว่าเป้าความอิจฉาและริษยาเล็กน้อยของนาง ย่อมเป็นเค่อเอ๋อน้องสาวฝาแฝดของนาง
ที่ผ่านมานางแค่อิจฉาเค่อเอ๋อเท่านั้น แต่ไม่คิดคิดริษยาใดๆ…
เพราะสุดท้ายเค่อเอ๋อก็เป็นน้องสาวฝาแฝดของนาง
อย่างไรก็ตามวันนี้หลังกลับออกมาจากมรดกสถานต้าหลัวจินเซียน แล้วถูกต้วนหลิงเทียนตำหนิด้วยโทสะกระทั่งยังคิดฆ่า! นางก็อดไม่ได้ที่จะบังเกิดความเสียใจถึงขีดสุด ทำให้จิตใจของนางอดที่จะบิดเบี้ยวไปเล็กน้อยไม่ได้!!
ทำให้นางไม่เพียงแต่บังเกิดความอิจฉาน้องสาวฝาแฝดเท่านั้น แต่บัดนี้ยังเริ่มมีความริษยาก่อตัวขึ้นบ้างแล้ว…
‘ล้วนคลอดออกมาจากครรภ์มารดาเดียวกัน…ไฉนชีวิตข้าถึงได้ด้อยกว่านางขนาดนี้’
เรียกว่าตอนนี้ก่านหรูเยี่ยนไม่เพียงแต่อิจฉาริษยาเท่านั้น ยังบังเกิดความทดท้อไม่ยินยอมอยู่บ้าง
โดยเฉพาะหลังได้เห็นพลังของเค่อเอ๋อ นางก็รู้สึกราวกับถูกสวรรค์ทอดทิ้ง…
หาไม่แล้วในเมื่อเป็นพี่น้องฝาแฝดกันแท้ๆ ไฉนชีวิตของนางถึงได้เลวร้ายกว่าน้องสาวถึงขนาดนี้เล่า?
แน่นอนว่าแม้ก่านหรูเยี่ยนจะอิจฉาริษยาเค่อเอ๋อ แต่นางก็ไม่ได้เจ้าคิดเจ้าแค้นถึงขั้นคิดลงมือทำอะไรทั้งนั้น
กระทั่งต่อหน้าคนอื่นนางยังไม่กล้าเผยความรู้สึกดังกล่าวออกมาให้เห็น
“พี่ใหญ่หลิงเทียน พี่สาวเค่อเอ๋อ…พวกท่านกอดกันตรงนี้นานๆ คงไม่ดีเท่าไหรนา…เห็นใจผู้อื่นที่โสดบ้างอะไรบ้าง”
หลังจากนั้นหานเฉวี่ยไน่ก็รู้สึกทนกับทั้ง 2 ที่กอดกันกลมจนราวกับอยู่ในโลกส่วนตัวไม่ไหวอีกต่อไป จึงเป็นคนริเริ่มกล่าวทำลายความเงียบออกมา “ที่สำคัญเลยก็คือ…พี่ใหญ่หลิงเทียน ท่านให้ข้ายืมตัวพี่สาวเค่อเอ๋อมาสนทนนาประสาลูกผู้หญิงสักครู่ได้หรือไม่…”
วาจาของหานเฉวี่ยไน่ที่โพล่งออกมา ย่อมทำให้หน้าเค่อเอ๋อเปลี่ยนเป็นแดงก่ำทันที จึงลนลานหมายผละตัวออกจากร่างต้วนหลิงเทียนอย่างขวยเขิน
“เฉวี่ยไน่เจ้าให้ข้ามอบพี่สาวเค่อเอ๋อของเจ้าไปแบบนี้ ใช่เพราะคิดถามความลับในการยกระดับพลัง เพื่อเอาไปเพิ่มพูนพลังของเจ้าเร็วๆใช่หรือไม่?”
ต้วนหลิงเทียนเองพอรู้สึกตัวก็คลายวงแขนที่กอดเค่อเอ๋อออกทันที ก่อนที่จะหันไปหยีตากล่าวกับหานเฉวี่ยไน่เสียงดุ
แน่นอนว่าเขาไม่ได้โกรธหานเฉวี่ยไน่เพราะเรื่องนี้แม้แต่น้อย
อันที่จริงกล่าวไปตอนนี้เขาก็รู้สึกหน้าร้อนขึ้นมาไม่น้อย เพราะลองนึกไปเมื่อครู่เขาก็ทำราวกับเล่นฉากหวานชื่นอย่างพระเอกในละครกอดนางเอกตัวกลมต่อหน้าผู้คนมากมายอย่างไม่สนใจใคร…
“แหะๆ ไฉนพี่ใหญ่รู้มากนักเล่า…”
หานเฉวี่ยไน่ที่ถูกต้วนหลิงเทียนเปิดโปงความคิด อดไม่ได้ที่จะหัวเราะกลบเกลื่อนแก้เขิน
“เฉวี่ยไน่”
ด้านเค่อเอ๋อ พอเห็นสายตาเฟิ่งเทียนหวู่ ก่านหรูเยี่ยน และมู่อีอีที่มองมา ก็ยิ่งรู้สึกอายไปกันใหญ่ ใบหน้าของนางรู้สึกร้อนจนไม่รู้จะร้อนอย่างไร จึงได้แต่วูบร่างไปหาหานเฉวี่ยไน่ทันที ก่อนที่จะจับมืออีกฝ่ายไวว้ด้วยความเอ็นดู
ต้วนหลิงเทียนเห็นหานเฉวี่ยไน่ไม่ต่างอะไรจากน้องสาวแท้ๆ นางที่รักต้วนหลิงเทียนก็ย่อมเห็นหานเฉวี่ยไน่ไม่ต่างจากน้องสาวแท้ๆไปด้วย
แน่นอนว่าที่นางมาหาหานเฉวี่ยไน่ เป็นแค่การกระทำแก้เขินของตัวเองเท่านั้น
ถึงนางจะไม่ได้คิดสนใจสายตาคนอื่นที่มองมาอยู่แล้ว
ทว่าเหล่าคนรู้จักมองจ้องแบบนั้น ยังทำให้นางอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอาย
“เอาล่ะ พวกเราไปจากที่นี่กันก่อนเถอะ”
ต้วนหลิงเทียนที่รู้สึกหน้าม้านเพราะสายตาผู้คนอยู่บ้าง เมื่อเห็นเค่อเอ๋อไปอยู่กับหานเฉวี่ยไน่แล้ว ก็กวาดตามองรอบๆ พลางกล่าวทักคนของตัวทันที
หลังจากนั้นต้วนหลิงเทียนกับพวกก็เดินทางออกไป จนหายลับไปจากสายตาของทุกคน
เมื่อเห็นดังนั้น ด้านคนของนิกายคุนหม่างกับด่าน 9เซียนก็อดไม่ได้ที่จะระบายลมหายใจออกมาด้วยคววามโล่งอก
เดิมทีพวกมันก็กังวลใจกันไม่น้อย ด้วยกลัวว่าต้วนหลิงเทียนจะเอาเรื่องพวกมันเพราะการกระทำของบรรพบุรุษ และฆ่าล้างพวกมันเพื่อระบายโทสะ…
แต่ตอนนี้ดูเหมือนพวกมันจะคิดมากกันไปเอง
ต้วนหลิงเทียนไม่ได้เห็นพวกมันอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ…
“ข้าไม่คิดไม่ฝันเลยจริงๆ…เข้ามาแดนลับต่างสวรรค์ครานี้ กลับได้พบเห็นตัวตนที่ทรงพลังเหนือล้ำกว่าเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์! ตัดสินจากพลังที่สตรีนางนั้นสำแดงออก น่ากลัวว่าอย่างน้อยๆนางก็ต้องเป็นยอดฝีมือขอบเขตจินเซียน!!”
เหล่าเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์ทั้งหลายพากันถอนหายใจออกมาดังระงม…