WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 2519
ตอนที่ 2,519 : เล่นใหญ่!
ด้วยอำนาจของตระกูลการ์นิเย่ ไม่ว่าจะส่วนไหนของดาราจักรคอสเตอร์ขอเพียงรับสัญญาณดาวเทียมได้ ล้วนได้เห็นการถ่ายทอดสดทั้งหมด…
และตอนนี้แทบทุกคนในดาราจักรคอสเตอร์ที่ได้รับสัญญาณแจ้งเตือนการถ่ายทอดสดด่วนก็วางมือจากเรื่องราวที่กำลังทำอยู่ หันมาจับจ้องหน้าจอโฮโลแกรมจากอุปกรณ์ที่มีทันที
ทุกคนกำลังมองไปยังร่างชายหนุ่มบนหน้าจอด้วยความสนใจ
ชายหนุ่มในหน้าจอที่ว่ามาในชุดโบราณสีม่วง หน้าตาแลดูหล่อเหลา ผมยาวรวบมัดไว้ด้านหลัง คิ้วคมดั่งดาบ เรียกว่าแรกปรากฏให้เห็นก็ทำให้สาวน้อยใหญ่ในดาราจักรคอสเตอร์วี๊ดว๊ายไม่น้อย!
“หล่ออ่ะแก…โคตรหล่อเลยอ้ะ!!”
“ให้ตายสิ…ผู้ฝึกตนมีคนหน้าตาดีขนาดนี้ด้วยเหรอ นี่มันดาราชัดๆ!”
“โอ๊ย ถ้าหนูได้แฟนหล่อขนาดนี้นะ หนูจะตั้งใจเรียนเลย…จะให้หนูอายุสั้นลงก็ยอมอ่ะ!!”
“หล่อโฮก!!”
…
เรียกว่าจะสาวน้อยสาวใหญ่ กระทั่งชายหนุ่มล่ำบึก?ของดาราจักรคอสเตอร์ล้วนร่ำร้องออกมากันอย่างอดไม่ไหว
เป็นธรรมดาว่าชายหนุ่มที่กำลังขึ้นจออยู่ตอนนี้ก็คือต้วนหลิงเทียน
ชีวิตนี้ของต้วนหลิงเทียน เรียกว่ามีหน้าตาหล่อเหลามาก อีกทั้งยังแลดูเป็นธรรมชาติไม่ได้เสริมแต่งอะไร และด้วยพลังที่มีหว่างคิ้วย่อมแผ่พุ่งความเหี้ยมหาญทั้งมั่นใจ ให้ความรู้สึกดั่งวีรบุรุษผู้ประสบความสำเร็จในชีวิต จึงมีอำนาจกระชากใจสาวน้อยใหญ่ในดาราจักรคอสเตอร์ไม่น้อย
ขณะเดียวกัน ถังเซี่ยวเซี่ยวที่เหินบินอยู่ข้างๆต้วนหลิงเทียนก็ปรากฏขึ้นในจอภาพเช่นกัน และแน่นอนว่านางก็เข้าตาเหล่าผู้ชายในดาราจักรคอสเตอร์ไม่น้อย
“เชี่ยโคตรสวยเลย!”
“สวยจริงๆ…ลูกสาวบ้านไหนกัน?”
“แม่ขอตังค์หน่อย! ผมเจอลูกสะใภ้แล้ว…”
…
เรียกว่าไม่ใช่แค่สาวน้อยใหญ่ในดาราจักรคอสเตอร์ที่ฮือฮาเพราะได้เห็นต้วนหลิงเทียนเท่านั้น เหล่าหนุ่มๆทั้งหลายของดาราจักรคอสเตอร์ก็คึกคักตาลอยไม่น้อยเมื่อได้เห็นถังเซี่ยเซี่ยว
ถังเซี่ยวเซี่ยวนั้น ตอนนี้แม้นางจะสวมผ้าคลุมลมดำเพื่อปกปิดร่างกายทั้งมีส่วนช่วยในเรื่องการใช้อาวุธลับ แต่ยามเคลื่อนไหว ก็ยากที่จะบดบังส่วนสัดอันน่าเย้ายวนของนางได้
นอกจากนี้เมื่อไม่ได้ใช้ม่านผ้าปิดบัง ใบหน้าอันงดงามล่มเมืองของนางก็ปรากฏสู่สายตาทุกคนกระจ่างชัด เพียงได้มองหน้าสวยอันไร้ที่ตินั่น ก็ดูเหมือนทุกสิ่งโดยรอบคล้ายจะหมองลงถนัดตา
“ผู้ชายก็หล่อ ผู้หญิงก็สวย…ให้ตายเถอะ นี่มันคู่สวรรค์สร้างรึไง?”
ขณะเดียวกัน พอได้เห็นต้วนหลิงเทียนกับถังเซี่ยวเซี่ยวเหินร่างเคียงกันไปโดยมีฉากหลังเป็นท้องฟ้าอันเต็มไปด้วยหมู่ดาวแบบนี้ ก็ทำให้หลายคนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจอย่างปลงๆ
แน่นอนว่ามีสตรีหลายคนที่ถลึงตามองถังเซี่ยวเซี่ยวตาเป็นมัน ทำราวกับอยากจะพุ่งไปทึ้งผมจิกหัวตบสั่งสอนก่อนสักคราค่อยถีบนางไปไกลๆ แล้ววจะได้เป็นคนอยู่เคียงข้างต้วนหลิงเทียนแทน
แน่นอนว่ามู้ชายหลายคนก็มองเขม่นต้วนหลิงเทียนด้วยความขัดใจ แล้วได้แต่ถามฟ้าว่าทำไมไม่ใช่ตัวเองที่อยู่ข้างสาวงามคนนี้…
“หนุ่มหล่อสาวสวยแบบนี้ กลับกำลังจะตาย…ช่างน่าเสียดายจริงๆ”
“นั่นสิ เห็นว่าเพื่อจะฆ่าทั้งคู่ตระกูลการ์นิเย่ถึงกับส่งเรือรบระดับภัยพิบัติออกไปเชียว!”
“เรือรบระดับภัยพิบัติ…ผู้ฝึกตนสองคนนี้มีพลังร้ายกาจถึงขนาดนั้นเลยเหรอ…ตระกูลการ์นิเย่ถึงกับต้องลงมือใหญ่โตแบบนี้?”
…
ตอนนี้ทั่วทั้งดาราจักรคอสเตอร์ ล้วนมีแต่คนของตระกูลการ์นิเย่เท่านั้นที่รู้
ว่าเหตุผลที่พวกมันส่งเรือรบระดับภัยพิบัติออกไปจัดการผู้ฝึกตนทั้ง 2 ไม่ใช่เพราะพลังฝีมือทั้งคู่ร้ายกาจถึงขั้นต้องใช้เรือรบระดับภัยพิบัติอะไร
แต่เป็นเพราะพวกมันอยากแสดงพลังอำนาจ!
ตระกูลการ์นิเย่เงียบมานานแล้ว เมื่อมีโอกาสประกาศศักดิ์ดาให้ทั่วทั้งดาราจักรเห็นทั้งที พวกมันไหนเลยจะพลาดได้!!
“คิดยังไงก็ไม่เข้าใจจริงๆ…แค่ผู้ฝึกตนสองคนนี้ ทำไมตระกูลการ์นิเย่ถึงกับต้องส่งเรือรบระดับภัยพิบัติออกไปด้วย?”
ไม่เพียงแต่คนทั่วไป กระทั่งคนของสองตระกูลใหญ่ในดาราจักรคอสเตอร์ก็สงสัยเรื่องนี้
“อย่าได้ลืมไป พวกผู้ฝึกตนที่มีพรสวรรค์สูงๆ สามารถคงความเยาว์วัยเอาไว้ได้…ตอนนี้จากหน้าจอเราเห็นทั้งคู่เป็นหนุ่มเป็นสาว แต่ใครจะไปรู้ว่าที่จริงพวกมันเป็นสัตว์ประหลาดอายุพันปีแล้วรึเปล่า!”
“จริงสิ! ไม่ได้มีแต่ยาพันธุกรรมของพวกเราที่ทำให้คงความอ่อนวัยและมีชีวิตอมตะได้เท่านั้น พลังของผู้ฝึกตนก็ทำให้พวกมันคงความอ่อนวัยไม่มีวันแก่เฒ่าได้เหมือนกัน”
“พวกมันต้องไม่ใช่ธรรมดาๆแน่นอน ไม่งั้นตระกูลการ์นิเย่ไม่ส่งเรือรบระดับภัยพิบัติออกไปหรอก…”
…
คนของทั้ง 2 ตระกูลใหญ่ต่างคิดว่าผู้ฝึกตนที่เห็นไม่ใช่ธรรมดาๆเป็นแน่
ไม่งั้นตระกูลการ์นิเย่คงไม่ส่งเรือรบระดับภัยพิบัติออกไปแบบนี้!
ในเวลาเดียวกัน
“หืม?”
ต้วนหลิงเทียนที่เหินร่างออกมาจากดาวแซทเทิลพร้อมถังเซี่ยวเซี่ยวได้สักพัก อยู่ๆก็หยุดร่างลงกลางอวกาศ คิ้วยังขมวดขึ้นคล้ายสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง
“มีอะไรหรือ?”
ถังเซี่ยวเซี่ยวก็หยุดลงและกล่าวถามด้วยความสงสัย
“ข้ารู้สึก…เหมือนมีอะไรบางอย่างกำลังจับตาดูข้าจากที่ไหนสักแห่งได้สักพักใหญ่ๆแล้ว…”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกมา
สัญชาตญาณเขามันร้องเตือนได้สักพักแล้ว ว่ามีบางสิ่งกำลังลอบจับจ้องมาที่เขา และนั่นก็ทำให้เขารู้สึกอึดอัดไม่น้อย
ตอนแรกเขาก็นึกว่าคิดไปเอง
แต่ไม่นานเขาก็ตระหนักได้
ความรู้สึกมันชัดแบบนี้ ไม่มีทางคิดไปเองแน่นอน
“เจ้าเองก็รู้สึกเหมือนกันหรือ?”
ถังเซี่ยวเซี่ยวถามออกมาด้วยความตกใจ
อันที่จริงเมื่อครู่นางก็บังเกิดความรู้สึกดังกล่าวขึ้นมาเช่นกัน แต่พอเห็นต้วนหลิงเทียนไม่ตอบสนองอะไร นางก็คิดว่านางนึกไปเองคนเดียว…
แต่ตอนนี้พอได้ยินคำของต้วนหลิงเทียน นางก็ตระหนักได้ทันที ว่านางไม่ได้รู้สึกผิดพลาด
“มีอะไรบางอย่างกำลังมา!”
ทันใดนั้นคล้ายตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่าง สองตาต้วนหลิงเทียนหดหยีลง ก่อนที่จะหันกลับไปเพ่งมองอวกาศมืดดำไกลห่างทิศทางหนึ่ง
ไม่นานต้วนหลิงเทียนก็มองเห็นเงาดำๆกำลังเคลื่อนที่มาด้วยความเร็วสูง ทั้งสัมผัสได้ว่าพวกมันเริ่มกระจายตัวคล้ายจะปิดล้อมเขา “ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม…พวกมันกำลังพยายามปิดล้อมพวกเราอยู่”
“อะไรนะ!?”
ด้วยความตกใจถังเซี่ยวเซี่ยวก็เริ่มแผ่สำนึกเทววะออกไปทันที และหลังจากรออยู่พักหนึ่งในที่สุดนางก็จับสัมผัสอะไรบางอย่างได้
โดยมีนางกับต้วนหลิงเทียนเป็นจุดศูนย์กลาง ตอนนี้มีวัตถุประหลาดขนาดใหญ่รูปลักษณ์คล้ายนกยักษ์ กำลังพุ่งฝ่าห้วงอวกาศไปอย่างมีแบบแผนหมายล้อมกรอบพวกนาง!
และหลังจากวัตถุดังกล่าวเข้ามาใกล้ นางก็ตระหนักได้ว่ามันไม่ใช่นกยักษ์แต่อย่างใด
“เรือรบ!!”
เมื่อสัมผัสได้ถึงต้นตอความเคลื่อนไหวที่กำลังปิดล้อมนางกับต้วนหลิงเทียนเอาไว้ ถังเซี่ยวเซี่ยวก็อดไม่ได้ที่จะหยีตากล่าวออกเสียงเรียบด้วยประกายตาเย็นเยือก
“เรือรบ?”
ได้ยินเสียงของถังเซี่ยวเซี่ยว ต้วนหลิงเทียนก็โค้งคิ้วขึ้นทันที
ปรากฏว่าอะไรบางอย่างที่มีจำนวนมากถึง 18 ลำ และกำลังเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูงตีวงล้อมเขาอยู่ ที่แท้ก็เป็นเรือรบนี่เอง
อย่างไรก็ตามเมื่อต้วนหลิงเทียนได้เห็นเรือรบที่ว่าแล้ว เขาก็อดไม่ได้ที่จะโค้งคิ้วขึ้นเล็กน้อย เพราะเรือรบที่ว่ามันต่างกับเรือรบที่เขาเคยเห็นในหนังไซไฟไม่น้อย
เรือรบเบื้องหน้าไม่ได้มีรูปลักษณ์เหมือนเรือ หรือยานอวกาศใดๆที่เขาเคยเห็นในหนัง แต่พวกมันกลับมีรูปลักษณ์ราวกับจะถอดแบบมาจากคุนเผิงในตำนานโบราณเมื่อชีวิตที่แล้วของเขาเลย! ปีกมหึมาของมันใหญ่โตดั่งแพเมฆ เมื่อปรากฏสามารถบดบังแสงตะวันให้โลกหล้าตกอยู่ในความมืดมิดได้ง่ายๆ…!!
“ดูเหมือนว่าผู้ชายชื่อน็อคที่อ้างตัวว่ามาจากตระกูลการ์นิเย่ จะมีความเป็นมาไม่ธรรมดาเลยทีเดียว…”
ถังเซี่ยวเซี่ยวกล่าว “หากข้าจำไม่ผิดเรือรบพวกนี้สมควรเป็นเรือรบระดับ ภัยพิบัติ!”
“เรือรบระดับภัยพิบัติ?”
ต้วนหลิงเทียนแปลกใจไม่น้อย “ระดับภัยพิบัติ…เรือรบของพวกมัน มีจัดระดับอะไรแบบนี้ด้วย?”
“อื้อ”
ถังเซี่ยวเซี่ยวพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม พลางกล่าวอธิบายอย่างอดทน “เรือรบระดับภัยพิบัติก็ตามชื่อมันเลย อาวุธของมันมีพลังอำนาจทำลายล้างรุนแรงไม่ต่างอะไรจากภัยพิบัติ”
“นอกจากนี้เรือรบระดับภัยพิบัติยังมีอานุภาพมากพอจะสังหารเซียนอมตะเสเพลได้ด้วย!”
ได้ยินคำอธิบายของถังเซี่ยวเซี่ยว ต้วนหลิงเทียนก็อดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ
ฆ่าเซียนอมตะเสเพลได้?
“เรือรบ…เทคโนโลยีคนเราสร้างของน่ากลัวได้ถึงขนาดนี้จริงๆ?”
ต้วนหลิงเทียนย่อมรู้เป็นธรรมดาว่าตัวตนขอบเขตเซียนอมตะเสเพลแข็งแกร่งแค่ไหน…
ต่อให้เป็นเซียนอมตะเสเพลที่พึ่งล้มเหลวจากการข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์มา ก็มีพลังทัดเทียมกับเซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยนเข้าไปแล้ว
เซียนอมตะเสเพล 1 ทัณฑ์ มีพลังทัดเทียมเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยน เซียนอมตะเสเพล 2 ทัณฑ์มีพลังทัดเทียมครึ่งก้าวเซียนอมตะ!
เซียนอมตะเสเพล 3 ทัณฑ์ ก็ทรงพลังเหนือกว่าครึ่งก้าวเซียนอมตะไปแล้ว!
ไม่ต้องกล่าวถึงเซียนอมตะเสเพลหลังจากนี้เลย!
และเป็นธรรมดาว่าต้วนหลิงเทียนก็รู้เช่นกัน
เนื่องจากถังเซี่ยวเซี่ยวกล่าวเพียงว่า เรือรบระดับภัยพิบัติฆ่าได้กระทั่งเซียนอมตะเสเพล เช่นนั้นหมายความว่ามันไม่ใช่ฆ่าได้แค่เซียนอมตะเสเพลเฉยๆ หรือเซียนอมตะเสเพล 1-2 ทัณฑ์เท่านั้น
อย่างน้อยๆสมควรฆ่าได้กระทั่งเซียนอมตะเสเพล 3ทัณฑ์ หรือไม่ก็ตัวตนที่เหนือกว่าเซียนอมตะเสเพล 3ทัณฑ์!
“เรือรบระดับภัยพิบัติ 18 ลำ…”
มองไปยังเรือรบใหญ่โตทั้ง 18 ลำที่กระจายตัววปิดล้อมกับถังเซี่ยวเซี่ยวเอาไว้ ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วกล่าวออกด้วยความสนใจ “ครั้งนี้พวกมันเล่นใหญ่ไม่น้อย…”
ต้วนหลิงเทียนกับถังเซี่ยวเซี่ยวลอยล่องอยู่กลางอวกาศ
รอบๆปรากฏเรือรบระดับภัยพิบัติ 18 กระจายตัวปิดล้อม แต่ละลำให้ความรู้สึกดั่งป้อมปราการเคลื่อนที่!
เมื่อทุกคนในดาราจักรคอสเตอร์ได้เห็นฉากเรื่องราวการถ่ายทอดสดดังกล่าว ต่างก็พากันตกตะลึงกันยกใหญ่!
ในหน้าจอถ่ายทอดสดที่พวกมันเห็นนั้น เรือรบแต่ละลำล้วนมีขนาดใหญ่กว่าต้วนหลิงเทียนกับถังเซี่ยวเซี่ยวนับหมื่นเท่า!
ต่อหน้าเรือรบระดับภัยพิบัติ คนเราก็เล็กจ้อยยิ่งกว่ามด!
ด้วยมีเรือรบระดับภัยพิบัติปิดล้อมอยู่ถึง 18 ลำ จะให้บินขึ้นฟ้าหรือดำดินก็ไร้หนทางหนี!!
“พระเจ้าช่วย! เรือรบระดับภัยพิบัติ 18 ลำ! ผู้ฝึกตนทั้ง 2 คนนี่เป็นใครกันแน่!?”
หลายคนในดาราจักรคอสเตอร์อดไม่ได้ที่จะอุทานถามด้วยความแตกตื่น
ตอนนี้มีไม่น้อยที่รู้สึกลำคอแห้งผากยากจะกลืนน้ำลายได้ลง เพราะฉากเรื่องราวเบื้องหน้ามันช่างน่ากลัวเกินไป
“18 ลำ…นั่นมันเรือรบระดับภัยพิบัติ! เรือรบระดับภัยพิบัติเชียวนะ!!”
“ถึงตอนแรกจะได้ยินมาว่าตระกูลการ์นิเย่คิดส่งเรือรบระดับภัยพิบัติออกไปล้างแค้น…แต่นี่คิดว่าอย่างดีก็ส่งไปแค่ลำสองลำเท่านั้น ไม่นึกไม่ฝันเลยว่าพวกจะล่อส่งไปถึง 18 ลำแบบนี้!!”
“นี่ก็ได้ยินมาว่าตระกูลการ์นิเย่มีเรือรบระดับภัยพิบัติแค่ 13 ลำเท่านั้น…แต่ตอนนี้ดูเหมือนพวกมันจะซุกซ่อนกำลังรบเอาไว้! ที่แท้กองยานของพวกมันถึงกับมีเรือรบระดับภัยพิบัติในครอบครองถึง 18 ลำ!”
“ให้ตายเถอะ! เรื่องยิ่งทำให้อยากรู้เข้าไปใหญ่ ว่าผู้ฝึกตนสองคนนั่นมันร้ายกาจถึงขนาดไหนกันแน่ ตระกูลการ์นิเย่ถึงกับต้องส่งเรือรบระดับภัยพิบัติออกไปรับมือทีเดียว 18 ลำ!!”
…
เรียกว่าผู้คนทั่วทั้งดาราจักรคอสเตอร์ ได้แต่ชมดูการถ่ายทอดสดด้วยหนังศีรษะด้านชา ในหัวอื้ออึงไปหมด!
ในหน้าจอถ่ายทอดสดตอนนี้
ชายหนุ่มชุดม่วงกับสตรีในชุดดำยังคงลอยล่องกลางอวกาศอย่างสงบเหมือนเคย
ส่วนเรือรบระดับภัยพิบัติทั้ง 18 ลำ ได้เริ่มเคลื่อนไหวแล้ว อาวุธทุกชนิดทั้งป้อมปืนต่างๆคล้ายอยู่ในสภาพเตรียมพร้อม! ราวกับทั้งหมดได้เล็งเป้าไปยังทั้งคู่เรียบร้อย!!