WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 2522
ตอนที่ 2,522 : เรือรบระดับ โลกาวินาศ?
ในเวลาชั่วพริบตา เหล่าผู้คนของดาราจักรคอสเตอร์ที่กำลังชมดูการถ่ายทอดสด ก็ได้เห็นร่างต้วนหลิงเทียนและดาร์ล ผู้นำตระกูลการ์นิเย่แห่งดาราจักรคอสเตอร์ถูกปืนเลเซอร์ ลำแสงอนุภาพ…ฯลฯ ถล่มเข้าอย่างจัง! การระเบิดครั้งใหญ่พลันอุบัติขึ้นอย่างน่าสะพรึงกลัว!!
ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม!
…
เสียงระเบิดดังสนั่นลั่นขึ้นไม่หยุด!
ถึงแม้ระเบิดมหาประลัยนี้จะอุบัติขึ้นท่ามกลางอวกาศ แต่ทว่าคลื่นกระแทกจากแรงระเบิดยังกวาดซัดข้ามเวิ้งอวกาศห่างไกล จนมาถึงชั้นบรรยากาศดาวแซทเทิล! สุดท้ายก็สร้างผลกระทบต่อพื้นดาวแซทเทิล พาลให้ดาวแซทเทิลทั้งดวงสั่นไหวอย่างรุนแรง!!
ทันใดนั้น!
โครมมมม!!
ตึงงงงงง!!
…
ดาวแซทเทิลทั้งดววงเสมือนบังเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขึ้นทุกทั่วหัวระแหง คลื่นกระแทกจากเรือรบระดับภัยพิบัติทั้ง 17 ลำไม่ใช่อะไรที่ล้อเล่นได้จริงๆ!!
และเมื่อทั้งดาวแซทเทิลสั่นไหวรุนแรงอย่างนี้ เป็นธรรมดาว่าอาคารปลูกสร้างทั้งหลายก็ย่อมพังพินาศลงมาด้วย เพราะมันไม่อาจทานทนรับแรงกระแทกรุนแรงระดับนี้ได้!
โชคดีที่ด้วยเทคโนโลยีระดับสูง ทำให้มีคนตายเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น
หาไม่แล้วด้วยแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ยิ่งกว่าครั้งใดในประวัติศาสตร์แบบนี้ คงต้องพรากชีวิตผู้คนไปครึ่งค่อนดาวแน่!
และยังดีที่คลื่นกระแทกมันไม่ได้ถล่มทลายมาในทีเดียวหากแต่ค่อยๆซัดกระทบเข้ามาเป็นระลอกๆ ทำให้เหล่าผู้ที่พอมีฐานะทั้งหลาย ได้หลบหนีขึ้นยานอวกาศ หรือพาหนะบินได้หลบขึ้นไปบนฟ้าได้ทันท่วงที…
“โอย น่ากลัวจริงๆ…”
“พระเจ้าช่วย นี่น่ะเหรอพลังของเรือรบระดับภัยพิบัติ 17 ลำ…”
“โดนจัดไปชุดใหญ่แบบนั้น…ผู้ฝึกตนที่แลดูมั่นใจนั่น มันยังจะรอดอยู่อีกเหรอ?”
“แล้วเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์อะไรนั่น มันสามารถรอดชีวิตจากการโจมตีระดับนี้ได้จริงๆ?”
…
คนบนดาวแซทเทิลที่กำลังยุ่งอยู่กับการลอยตัวให้ห่างพื้นดิน เมื่อเอาชีวิตรอดกันได้แล้ว พอมองไปยังหน้าจอถ่ายทอดสด ทั้งหมดก็ได้แลเห็นเมฆรูปเห็ดมหึมาเบ่งบานเต็มจอ!
ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม!
…
ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม!
…
การระดมยิงเต็มอัตราศึกด้วยทุกสิ่งทุกอย่างที่มีของเรือรบระดับภัยพิบัติทั้ง 17 ลำนั้น ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องกว่า 1 เค่อ ถึงจะหยุด
และตอนนี้เสียงดังกระหึ่มก็เงียบดับไป
เมฆเห็ดขนาดมหึมาค่อยๆเล็กลง…
“ผู้ฝึกตนนั่น…มันตายรึยัง?”
จังหวะนี้ไม่ว่าจะคนของดาวแซทเทิลที่ลอยตัวกันเหนือพื้นดินหรือคนของดาราจักรคอสเตอร์บนดาวอื่นที่กำลังดูการถ่ายทอดสด ต่างจับจ้องภาพเมฆเห็ดที่กำลังจางลงทุกขณะไม่วางตา…
“ต่อให้ไม่ตายตาย…แต่โดนไปขนาดนี้ก็เลี้ยงไม่โตแล้วล่ะ!”
“จริง! ต่อให้มันจะแน่แค่ไหน ให้กางม่านพลังป้องกันร้ายกาจยังไง…โดนถล่มยิงซะขนาดนี้ก็ต้องมีเจ็บกันบ้าง!”
“ว่างั้นล่ะ”
…
คนของดาราจักรคอสเตอร์ที่มอจ้องหน้าจอถ่ายทอดสดพากันคาดเดาไปทำนองดังกล่าว
และไม่นานนัก เมฆเห็ดในหน้าจอถ่ายทอดสดที่ทุกคนกำลังจับจ้อง่ไม่วางตาก็เริ่มอ่อนจางลงเรื่อยๆ
“เรือรบระดับภัยพิบัติ…”
เสียงคุ้นหูหนึ่งดังขึ้นอย่างไม่รีบไม่ร้อน
พิกลนักเสียงนี้ไม่ได้ฟังดูอิดโรยเหมือนคนบาดเจ็บแต่อย่างไร ยังฟังแล้วคล้ายกำลังเบื่อหน่ายด้วยซ้ำ
“…มันก็เท่านั้น”
เสียงดังกล่าวดังต่อจนจบ ทำให้ผู้ที่กำลังรับฟังสะอึกจนพูดอะไรไม่ออก
เรือรบระดับภัยพิบัติ…มันก็เท่านั้น?
เสียงดังกล่าว แน่นอนว่าดังออกมาจากเมฆเห็ดที่กำลังสลายตัว
“เฮ่ย…”
“บ้าน่า…เรื่องแบบนี้มันจะเป็นไปได้ยังไงกัน!?”
“มัน…มันไม่เป็นอะไรเลยเหรอ!? กระทั่งเสื้อคลุมของมันยังไม่เสียหายด้วยซ้ำ!?”
“ชุดคลุมโบราณนั่นของมันอย่าว่าแต่เสียหาย…รอยเปื้อนยังไม่มีให้เห็นเลย”
“ดูจอเร็ว! ผู้นำตระกูลดาร์ลที่มันหิ้วไว้ก็ยังอยู่ดีมีสุข…เมื่อครู่พวกมันโดนเรือรบระดับภัยพิบัติระดมซัดทุกอย่างใส่แน่นะ?”
“เอ้ย! นี่…ไม่ใช่รายการล้อกันเล่นใช่มั้ย?”
…
เรียกว่าผู้คนของดาราจักรคอสเตอร์ที่ดูชมเรื่องราวถ่ายทอดสดอยู่ จะไม่มีวันลืมเลือนฉากนี้เลย
ผู้ฝึกตนหนุ่มชุดม่วง รอดจากแรงระเบิดจากการกระหน่ำยิงด้วยทุกสิ่งอย่างของเรือรบระดับภัยพิบัติทั้ง 17 เป็นเวลากว่า 15 นาที โดยที่ชุดไม่แม้แต่จะมีรอยเปื้อน…
ไม่ใช่แค่นั้น
กระทั่งผู้นำตระกูลการ์นิเย่ที่หิ้วไว้ในมือก็ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร
“หะ..หก…เซียนอมตะเสเพล 6 ทัณฑ์! อย่างน้อยๆก็ต้องเป็นเซียนอมตะเสเพล 6 ทัณฑ์!!”
ในขณะเดียวกันกับที่ต้วนหลิงเทียนปรากฏตัวออกมาหลังเกิดการระเบิดครั้งใหญ่พร้อมดาร์ลผู้นำตระกูลการ์นิเย่ ด้านผู้นำตระกูลการ์นิเย่ที่ตอนแรกเลื่อนลอยคล้ายคนวิญญาณหลุดออกจากร่าง อยู่ๆก็เหมือนสะดุ้งตื่น ตะโกนออกมาเสียงดังด้วยความตกใจ!
เซียนอมตะเสเพล 6 ทัณฑ์?!
ทันทีที่ดาร์ลพูดคำนี้ออกมา ทุกทั่วหัวระแหงของดาราจักรคอสเตอร์ก็เงียบกริบ เหล่าผู้ที่ชมดูการถ่ายทอดสดประหนึ่งถูกบีบคอเอาไว้ พูดอะไรไม่ออกอยู่นาน!
“หะ…หก! เซียนอมตะเสเพล 6 ทัณฑ์! ตัวตนระดับนั้นทำไมมาอยู่ในดาราจักรคอสเตอร์เราได้!?”
“เซียนอมตะเสเพล 6 ทัณฑ์…มาดาราจักรคอสเตอร์เราเพื่ออะไรกันแน่!?”
“ดาราจักรผู้ฝึกตนนับสิบๆที่อยู่ใกล้ๆดาราจักรคอสเตอร์เรา…อย่างดีก็มีแค่เซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์เท่านั้น แต่ผู้ฝึกตนชายหนุ่มชุดม่วงคนนี้กลับเป็นถึงเซียนอมตะเสเพล 6 ทัณฑ์เลยเหรอ…มีอะไรผิดพลาดรึเปล่า!?”
“ไม่ได้มีอะไรผิดพลาดหรอก…เพราะต่อให้เป็นเซียนอมตะเสเพล 5 ทัณฑ์ แต่ภายใต้การระดมยิงเต็มอัตราศึกของเรือรบระดับภัยพิบัติทั้ง 17 ลำ ต่อให้จะเล็กน้อยขนาดไหน แต่ยังไงมันก็ต้องได้รับบาดเจ็บ! แต่ดูเอาเถอะ…เจ้านั่นกระทั่งชายเสื้อยังไม่เปื้อนด้วยซ้ำ!!”
“บอกให้รู้ชัดเจน ว่าอย่างน้อยๆมันก็ต้องเป็นเซียนอมตะเสเพล 6 ทัณฑ์แน่นอน”
…
ในดาราจักรคอสเตอร์ คนที่เห็นด้วยกับเรื่องนี้เป็นกลุ่มแรกๆก็คือพวกพ่อค้าระหว่างดาราจักรทั้งหลาย เพราะพวกมันเองก็มักจะท่องไปทั่วดาราจักรต่างๆเพื่อค้าขาย
พวกมันเลยมีประสบการณ์และได้รู้เรื่องราวจากการเดินทางไม่น้อย ทำให้ระบุได้ไม่ยาก…ว่าพลังของต้วนหลิงเทียนอย่างน้อยๆก็ต้องอยู่ในขอบเขตเซียนอมตะเสเพล 6 ทัณฑ์หรืออาจจะเหนือกว่านั้น!!
แน่นอนว่าพวกมันตัดสินได้แค่นี้เพราะใช้เรือรบระดับภัยพิบัติเป็นตัวเทียบ…
ถึงจะให้พวกมันรอบรู้มากแค่ไหน แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะระบุชี้ชัดว่าต้วนหลิงเทียนแข็งแกร่งเหนือเซียนอมตะเสเพล 6 ทัณฑ์รึเปล่า โดยดูจากลักษณะท่าทีในปัจจุบัน
“เพื่อเห็นแก่ความร่วมมือของเจ้า…คนตระกูลการ์นิเย่ที่ข้าจะฆ่า ก็คือเจ้าคนเดียว”
ไม่ทันที่คนของดาราจักรคอสเตอร์จะทันได้คืนสติจากอาการตะลึง ต้วนหลิงเทียนพลันมองไปยังดาร์ลที่เขาหอบหิ้วอยู่ด้วยมือข้างหนึ่ง พลางเอ่ยออกเสียงเรียบ
และในขณะที่สีหน้าดาร์ลเริ่มซีดลง ต้วนหลิงเทียนก็โยนดาร์ลทิ้งไป…
ปงงง!!
และเพียงแค่สะบัดมือเบาๆดาร์ลที่ไม่แม้แต่จะเป็นผู้ฝึกตนก็ถูกพลังป่นร่างจนอันตรธานหายไปในอวกาศ…
“ท่านผู้นำ!!”
ด้านคนของตระกูลการ์นิเย่พอได้เห็นฉากการตายของดาร์ลจากจอภาพ ก็อดไม่ได้ที่จะหน้าเสีย พากันกรีดร้องออกมาอย่างโศกเศร้า
“พวกเราไปกันเถอะ”
หลังฆ่าดาร์ลแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็เหินกลับไปหาถังเซี่ยวเซี่ยวที่ยืนชมดูเรื่องราวอยู่ไม่ห่างตลอดเวลา กล่าวทักคำหนึ่งเขาก็ใช้ค่ายกลกระบี่แล้วหอบหิ้วนางเดินทางทันที!
ในเมื่อต้วนหลิงเทียนหอบหิ้วถังเซี่ยวเซี่ยวเดินทางด้วยความเร็วสูงสุด เช่นนั้นในสายตาของคนที่รับชมการถ่ายทอดสดทั้งดาราจักรคอสเตอร์ ก็รู้สึกเสมือนอยู่ๆต้วนหลิงเทียนพลันอันตรธานหายไปในอวกาศ!
ถึงแม้การถ่ายทอดสดคราวนี้จะถูกจับภาพด้วยดาวเทียมของตระกูลการ์นิเย่ แต่มันก็ไม่อาจจับความเคลื่อนไหวของต้วนหลิงเทียนรอบนี้ได้เลย!
ในหน้าจอถ่ายทอดสด เหลือเพียงเรือรบระดับภัยพิบัติลอยเคว้งคว้างอยู่ 17 ลำเท่านั้น
ด้วยขนาดใหญ่โตของพวกมัน ให้บอกว่าเป็นขุนเขาลอยคว้างก็ไม่แปลก
“ดะ…ได้ยังไง?!”
“ดาวเทียมสอดแนมความละเอียดสูงสุดของตระกูลการ์นิเย่…ยังตรวจจับความเคลื่อนไหวของมันไม่ได้งั้นเหรอ?!”
“ไม่จริงน่า! ต่อให้เป็นเซียนอมตะเสเพล 6 ทัณฑ์ แต่อย่างน้อยๆ ดาวเทียมสอดแนมความละเอียดสูงสุดก็น่าจะพอจับเงาร่างได้รางๆไม่ใช่รึไง! แต่ตอนชายหนุ่มชุดม่วงนั่นจากไปพร้อมผู้ฝึกตนหญิงชุดดำ…กลับไม่เห็นแม้แต่เงาเนี่ยนะ!?”
…
เหล่าพ่อค้าระหว่างดาราจักรที่อยู่ในดาราจักรคอสเตอร์พากันตกตะลึงอีกครั้ง
หลังจากดึงสติกลับมาอยู่กับเนื้อกับตัวได้แล้ว พวกมันก็ตระหนักได้เรื่องหนึ่งในใจ…
เซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์!
“ผู้ฝึกตนหนุ่มชุดม่วงนั่น…ท่าทางจะเป็นตัวตนขอบเขตเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์ขึ้นไปไม่ผิดแน่!”
“เพราะมีแต่เซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์ขึ้นไปเท่านั้น ถึงจะหลุดจากการตรวจจับของดาวเทียมสอดแนมความละเอียดสูงสุดได้!”
“เหอะๆ คราวนี้ตระกูลการ์นิเย่ต้องขอบคุณพระเจ้าแล้วล่ะ ที่ผู้ฝึกตนหนุ่มนั่นไม่ใช่พวกอำมหิตฆ่าคนตามอำเภอใจอะไรแบบนั้น…ไม่งั้นเกิดมันมีโมโหอะไรขึ้นมาอย่าว่าแต่ตระกูลกการ์นิเย่! เผลอๆดาราจักรคอสเตอร์จะวอดวายกันหมด!”
“จริง เซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์ คิดจะฆ่าล้างทั้งดาราจักรก็ทำได้ง่ายดาย แถมให้ตายพวกเราก็หนีไม่พ้น!”
…
พอเหล่าพ่อค้าระหว่างดาราจักรตระหนักได้ว่าต้วนหลิเทียนสมควรเป็นตัวตนขอบเขตเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์ขึ้นไป พวกมันก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าคราวนี้ตัวเองโชคดีจริงๆ…
โชคดีที่ต้วนหลิงเทียนไม่ใช่ฆาตกร!
“เซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์!?”
“ผู้ฝึกตนหนุ่มชุดม่วงคนนั้น…อย่างน้อยๆก็เป็นถึงเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์งั้นเรอะ!?”
…
ไม่นานข้อสันนิษฐานของเหล่าพ่อค้าระหว่างดาราจักรก็เริ่มแพร่ออกไปทั่วดาราจักรคอสเตอร์ ทำให้ผู้คนทั้งดาราจักรอดไม่ได้ที่จะหวาดกลัวทั้งเสียวสันหลังวาบ!
ยิ่งคนของตระกูลการ์นิเย่ต่างก็ยิ่งขวัญหนีดีฝ่อกันใหญ่!
“สารเลว…เพราะความคิดโง่ๆของแกคนเดียวไอ้แก่สมองกลับ เกือบทำให้ทั้งตระกูลล่มจมแล้ว!”
อาวุโสสูงของตระกูลคอสเตอร์อันเป็นชายชราเคราขาว…หลังได้รับทราบเรื่องดังกล่าว มันก็สบถด่าตัวเอง ค่อยยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่มรวดเดียวหมด จากนั้นก็ยกปืนขึ้นจ่อขมับแล้วลั่นไก…
หลังจากนั้นดาราจักรคอสเตอร์ก็ค่อยๆหวนคืนสู่ความสงบอีกครั้ง…
อย่างไรก็ตามฉากเรื่องราววันนั้น ได้ประทับตราตรึงอยู่ในใจคนทั้งดาราจักรคอสเตอร์ไม่รู้ลืม…
ร่างชายหนุ่มชุดม่วงที่ประดุจดั่งเทพเจ้านั่น ได้ตราตรึงในใจอย่างยากจะลบเลือน
เป็นธรรมดาที่ต้วนหลิงเทียนจะไม่ได้รู้เรื่องอะไรพวกนี้
…
จากดาราจักรคอสเตอร์ไปยังดาราจักรที่มีดาวเหยียนหวงตั้งอยู่ ถึงแม้ต้วนหลิงเทียนจะหอบหิ้วถังเซี่ยวเซี่ยวเดินทางด้วยความเร็วสูงสุด แต่ก็ต้องใช้เวลาถึง 3 เดือน…
และในตลอดระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่าน ต้วนหลิงเทียนยังได้รับรู้อะไรหลายๆอย่างจากถังเซี่ยวเซี่ยว รวมถึงระดับความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและอารยธรรมระหว่างดาราจักรต่างๆในระนาบเหยียนหวง
“เรือรบระดับภัยพิบัติ ไม่ใช่เทคโนโลยีสูงสุดในระนาบเหยียนหวง?”
“ดาราจักรคอสเตอร์ ถือเป็นดาราจักรเทคโนโลยีที่มีระดับอารยธรรมแค่ปานกลางเท่านั้น?”
“นอกจากเรือรบระดับภัยยพิบัติแล้ว ยังมีเรือรบระดับโลกาวินาศอยู่อีก? และนั่นคืออาวุธไฮเทคที่ทรงพลังที่สุดในระนาบเหยียนหวง?”
หลังได้รับทราบเรื่องราวดังกล่าวจากถังเซี่ยวเซี่ยว ต้วนหลิงเทียนก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามออกไปด้วยความสงสัย
“แล้วเรือรบระดับโลกาวินาศที่ว่า…มันคุกคามข้าได้รึเปล่า?”