WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 2532
ตอนที่ 2532
ตอนที่ 2,532 : รู้แจ้ง! ก้าวเดียวทะยานฟ้า!
“ข้าทำผิดอะไร?!”
ตู้เวยกล่าวเถียงออกมาคอเป็นเอ็น “แถมถ้าวันนั้นข้าไม่ขายแกจนตาย…คนอย่างแกจะมีวันนี้ได้หรือ หลิงเทียน!?”
“หึ! ช่างกล้าพูดได้ไม่อายปาก!”
หลังได้ฟังตู้เวยเถียงข้างๆคูๆต้วนหลิงเทียนสบถออกคราหนึ่ง ค่อยกล่าวเย้ยออกมาอย่างสุดจะทน “หรือตอนที่คิดขายข้าให้ตาย เจ้ารู้ล่วงหน้าว่าวิญญาณข้าไปจะโผล่โลกอื่น ทั้งยังจะมีทุกสิ่งเหมือนวันนี้?”
ได้ฟังคำแถของตู้เวยเมื่อครู่ ต้วนหลิงเทียนรู้สึกว่ามันช่างหน้าด้านสิ้นดี!
ทรยศหักหลัง จนเขาต้องตาย…
ถือเป็นการทำดี จนมีบุญคุณงั้นเหรอ?
เหลวไหล!
“ข้าจะรู้หรือไม่รู้มันสำคัญยังไง? ในเมื่อผลมันออกมาเป็นแบบนี้?”
ตู้เวยยังจะตะโกนแถต่ออย่างหน้าไม่อาย “ดังนั้นแกฆ่าข้าไม่ได้…ถ้าฆ่าข้ายังจะต่างอะไรจากเนรคุณคน?หรือคนอย่างราชันทหารรับจ้างหลิงเทียน เดี๋ยวนี้เนรคุณคนอื่นเป็นแล้ว?”
เมื่อความตายกล้ำกรายมาถึงตรงนี้ ตู้เวยได้ชักแม่น้ำทั้งห้า พยายามยกอ้างคุณธรรมมาเล่นกับต้วนหลิงเทียน
ในสายตาของมัน
เมื่อไม่กี่สิบปีที่แล้วหลิงเทียนนั้นเป็นคนกตัญญู หากใครทำดีด้วยแม้จะไม่จำเป็นแต่สุดท้ายก็ตอบแทนเสมอ แต่ถ้าใครคิดร้ายก็ต้องโดนดี เรียกว่ามีคุณต้องทดแทนมีแค้นต้องชำระ…
มาตอนนี้มันเลยยืนยันจากมุมมองของมัน
หากจะกล่าวว่าผลลัพธ์คือทุกสิ่ง งั้นไม่ใช่ว่าทั้งหมดทั้งมวลเป็นเพราะมันหรอกหรือ ที่ทำให้หลิงเทียนประสบความสำเร็จอย่างในวันนี้ได้?
เช่นนั้นผลประโยชน์ที่ต้วนหลิงเทียนได้มาเพราะมัน ก็ต้องใช้ลบล้างความผิดพลาดที่มันทำไว้ในอดีตได้!
“อ้อ ข้าเป็นคนยังไง…ดูเหมือนเจ้าจะยังรู้ดีนี่”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงดูแคลน
หลังจากนั้น ต้วนหลิงเทียนก็ถอนพลังไร้สภาพที่ห่อหุ้มกำบังตู้เวยที่ยืนชี้หน้าทวงบุญคุณหน้าด้านๆออกทันที ปล่อยให้อีกฝ่ายได้สัมผัสกับห้วงอวกาศกับตัวตรงๆ
“ไม่….!”
ทันใดนั้นด้วยความเหน็บหนาวในห้วงอวกาศ ตู้เวยเพียงร่ำร้องด้วยความทรมานได้ไม่ทันไร ร่างมันก็แข็งตายไปทันที…
แม้ตู้เวยจะเป็นนักรบเหนือธรรมชาติ ทั้งวิญญาณยังมีระดับทัดเทียมครึ่งก้าวเซียนอมตะ แต่ร่างกายของมันจะอย่างไรก็เป็นมนุษย์ธรรมดา ไม่เหมือนผู้ฝึกตน…
ในฐานะที่ยังเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา แล้วจะอยู่รอดในอวกาศได้อย่างไร…
ปงง!
เมื่อเห็นตู้เวยถูกอวกาศแช่แข็งจนตายตาลีตาเหลือกต่อหน้า ต้วนหลิงเทียนเพียงสะบัดมือซัดพลังออกไปขุมหนึ่ง ด้วยใบหน้าเฉยเมยไม่ยินดียินร้ายใดๆ ป่นร่างของมันจนแตกกระจาย…
ที่ไฉนกล่าวว่าแตกกระจายนั้น
เพราะตอนนี้ร่างตู้เวยได้แข็งจนไม่ต่างจากน้ำแข็งไปแล้ว
พอต้วนหลิงเทียนซัดพลังใส่ ร่างมันจึงแตกกระจาย…
ละอองน้ำแข็งที่กาลครั้งหนึ่งเคยเป็นคน ก็ค่อยๆกระจัดกระจายล่องลอยหายไปในห้วงอวกาศ ยามชิ้นส่วนเลือดเนื้อที่กลายเป็นก้อนเย็นละเอียดกระจัดกระจายออกไปไกลๆต้องสะท้อนแสงดาวระยิบระยับ มองไปก็งดงามพิกล…
ตู้เวย อดีตนายหน้าที่ทรยศหักหลัง และขายหลิงเทียนจนตาย ก็ตกตายลงด้วยลักษณะนี้
“หืม?”
เมื่อได้เห็นร่างคนทรยศแหลกเป็นละอองกระจัดกระจายหายไป อยู่ๆคิ้วต้วนหลิงเทียนพลันโค้งขึ้นคล้ายตระหนักได้ถึงบางสิ่ง
ต่อมาร่างพลันยืดตรงเผยความจริงจัง
และในขณะที่ต้วนหลิงเทียนเผยทีท่าจริงจัง สองตาก็หลับลงทันใด
วู้ม! วู้ม! วู้ม! วู้ม! วู้ม!
…
ทันใดนั้น ทั่วร่างของเขาปรากฏพลังแผ่พุ่งออกมาไม่หยุด!
เมื่อพลังทั้งหลายแผ่พุ่งออกมาจากร่าง พวกมันก็เริ่มควบรวมจับตัว ก่อเกิดเป็นกระบี่พลัง!
พลังปะทุออกมาควบรวมก่อเกิดกระบี่ผุดลอยอยู่รอบกายต้วนหลิงเทียนเล่มแล้วเล่มเล่า ทำราวกับมันจะก่อเกิดขึ้นอย่างกระบี่พลังอย่างไร้ที่สิ้นสุด…
และเมื่อถึงจุดหนึ่ง เมื่อกระบี่พลังก่อเกิดรอบร่างต้วนหลิงเทียนจนนับไม่ถ้วน พวกมันก็ทำราวกับจะลุกโชนขึ้นมาดั่งเพลิงไฟ!
เป็นกระบี่พลังทั้งหลายที่อยู่ๆก็เริ่มเปล่งพลังลี้ลับออกมา! สำนึกกระบี่มากมายแผ่พุ่งออกไปไม่หยุดยั้ง!!
เรียกว่าตอนนี้ต้วนหลิงเทียนได้เข้าสู่ภวังค์รู้แจ้งเวทย์พลัง 13 กระบี่บงกชฟ้าอย่างกะทันหัน!
ในอดีตนั้น 13 กระบี่บงกชฟ้าของต้วนหลิงเทียนเขา พึ่งสำเร็จไปแค่ 6 กระบี่เท่านั้น
หลังจากนั้นมันก็ไร้ซึ่งความก้าวหน้าใดๆอีกต่อไป แต่ไม่ใช่เป็นเพราะติดจุดรอคอยหรือจุดอิ่มตัวอะไรทำนองนั้น ทั้งหมดเป็นเพราะในใจมีเรื่องค้างคาหมกมุ่น…
ต้นตอก็มาจากตู้เวย อดีตนายหน้าเมื่อชีวิตที่แล้ว!
ตอนนี้พอตู้เวยตกตายไป สิ่งที่ค้างคาในใจก็ย่อมสลายหายไปเป็นธรรมดา
และทันทีที่เห็นร่างตู้เวยแตกสลายเป็นละอองกระจัดกระจายหายไปในห้วงอวกาศ ในหัวต้วนหลิงเทียนก็นึกถึงเคล็ดความ 13 กระบี่บงกชฟ้า ที่เขาพยายามตีความก่อนหน้าขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว
และพอเคล็ดความของ 13 กระบี่บงกชฟ้าผุดขึ้นมาในใจ ต้วนหลิงเทียนความจริงก็สามารถหยุดคิดและเพิกเฉยไปก่อนก็ได้ แต่เขากลับไม่ได้ทำแบบนั้น
เพราะเขารู้ดี
ว่าอยู่ๆเคล็ดความของ 13 กระบี่บงกชฟ้าพลันปรากฏขึ้นในใจตอนนี้ ต้องมีเหตุผลอะไรบบางอย่างแน่นอน และหากเพิกเฉยละความสนใจไว้ก่อน อาจจะทำให้เขาต้องพลาดอะไรบางอย่างไป…
‘นี่…มัน…’
และเมื่อเข้าสู่สู่ภวังค์ไม่นานนัก ต้วนหลิงเทียนพลันตระหนักได้ในห้วงสำนึก
13 กระบี่บงกชฟ้าที่เขาพยายามตีความมันในอดีต แต่สุดท้ายก็ทำไม่สำเร็จเพราะใจว้าวุ่นจนคล้ายมีพันธนาการหนึ่ง ตอนนี้พอสิ่งที่ฉุดรั้งหน่วงเหนี่ยวดั่งพันธนาการนั่นหายไป เขาที่รู้สึกปลอดโปร่ง ก็เริ่มเข้าใจมันได้ง่ายดายอย่างประหลาด…
อีกทั้งความก้าวหน้ายังบรรลุถึงขอบเขตอัศจรรย์!
‘นี่…หรือจะเป็นภาวะรู้แจ้ง?’
ทันทีที่ในห้วงสำนึกของต้วนหลิงเทียนบังเกิดความคิดดังกล่าวขึ้น เขาก็ไม่กล้าแบ่งจิตมาวอกแวกสืบไป ทุ่มสมาธิสู่ภวังค์ตีความ 13 กระบี่บงกชฟ้าอย่างตั้งใจ ตัดขาดทุกสิ่งอย่างแท้จริง
ร่างต้วนหลิงเทียนลอยล่องกลางห้วงอวกาศดังหลวงจีนชราเข้าฌาณ!
และทั่วร่างก็ปรากฏกลิ่นอายพลังแหลมคม กระบี่พลังแต่ละเล่มก็เปล่งกลิ่นอายแหลมคมไม่หยุด มองไกลๆคล้ายทะเลกระบี่ก็ไม่ปาน
“13 กระบี่บงกชฟ้า กระบี่ที่ 7!”
ทันใดนั้น ท่ามกลางกระบี่พลังไร้สภาพมากมาย พลันปรากฏกระบี่พลังเล่มหนึ่ง ตวัดฟันออกไป 7กระบวนท่าในชั่วพริบตา!
ยังไม่จบสิ้นเพียงเท่านั้น
“13 กระบี่บงกชฟ้า กระบี่ที่ 8!”
“13 กระบี่บงกชฟ้า กระบี่ที่ 9!”
“13 กระบี่บงกชฟ้า กระบี่ที่ 10!”
…
ต้วนหลิงเทียนจมจ่อมสู่ภวังค์อย่างสมบูรณ์ บ้างเนิ่นนานแต่รู้สึกคล้ายชั่วพริบตา บ้างในเวลาชั่วพริบตาลับยาวนานดุจพันปี
และเมื่อต้วนหลิงเทียนกลับมามีสติแจ่มใสอีกครั้งหลังบังเกิดความรู้แจ้ง เขาก็ได้เข้าใจถึงกระบี่ที่ 13ของ 13 กระบี่บงกชฟ้าได้สำเร็จ!
กล่าวได้ว่าตอนนี้ต้วนหลิงเทียนสำเร็จ 13 กระบี่บงกชฟ้าเต็มชุดแล้ว!
‘ไม่คิดไม่ฝันเลยจริงๆ…ว่าข้าจะมีโชคขนาดนี้! หลังฆ่าตู้เวยขจัดมารในใจ ข้ากลับบังเกิดการรู้แจ้ง จนเข้าใจ 13 กระบี่บงกชฟ้าครบถ้วนสมบูรณ์ในคราเดียว!’
เมื่อต้วนหลิงเทียนฟื้นสติแล้วแบบนี้ ทะเลกระบี่มากมายที่อยู่รอบกายต้วนหลิงเทียนก็เริ่มสั่นไหว
สุดท้ายพวกมันก็แปรสภาพกลับกลายเป็นไอพลัง หวนกลับเข้าร่างต้วนหลิงเทียนในชั่วพริบตา
กระบี่มากมายอันตรธานหายไปราวกับไม่เคยปรากฏมาก่อน
ขณะเดียวกันกับที่รั้งพลังกลับเข้าร่างจนหมด สองตาต้วนหลิงเทียนพลันลืมขึ้นมา ทันใดนั้นพลันมีประกายเยียบเย็นสองสายแวบขึ้น!
ฟั่ฟ!! ฟั่ฟ!!
ปรากฏเป็นรังสีกระบี่ 2 สายพุ่งยิงออกจากลูกตาอย่างไร้ซึ่งสัญญาณแจ้งเตือนใดๆ และในขณะที่ต้วนหลิงเทียนตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น รังสีกระบี่ที่ยิงพุ่งออกไปก็สลายหายไปทันที
“พริบตากระบี่! สัญญาณบ่งบอกถึงความสำเร็จของ13 กระบี่บงกชฟ้า!!”
ถึงในห้วงแห่งการรู้แจ้ง ต้วนหลิงเทียนจะตระหนักได้ว่าเขาสมควรบรรลุถึงกระบี่ที่ 13 ของกระบี่บงกชฟ้าแล้ว
แต่จะอย่างไรสุดท้ายนั่นก็แค่ความรู้สึก!
ดังนั้นหากยังไม่ทันใช้ออกมาด้วยตัวเองสักครั้งเพื่อลองดู เขาก็ไม่อาจยืนยันได้ว่าเขาสำเร็จมันแล้วจริงๆ
ทว่าตอนนี้การปรากฏขึ้นของรังสีกระบี่ที่ยิงพุ่งออกมาจากสายตาอย่าง ‘พริบตากระบี่’ ทำให้เขามั่นใจได้อีกส่วนว่าเขาสำเร็จ 13 กระบี่บงกชฟ้าแล้ว!
“กระบี่มา!”
อย่างไรก็ตามแม้จะมีพริบตากระบี่เป็นสัญญาณบ่งบอก แต่ต้วนหลิงเทียยังคงยกมือขึ้นก่อนที่จะจี้ 2 นิ้วชี้กลางต่างกระบี่ ก่อนที่จะเริ่มใช้ออกด้วยเวทย์พลัง 13 กระบี่บงกชฟ้าที่เขารู้สึกว่ารู้แจ้งออกไปแล้วทันที
ฟั่ฟ!
เพียงตวัดนิ้วออกไปคราหนึ่งปรากฏรังสีกระบี่ยิงพุ่งออกไป
และแทบจะทันทีที่รังสีกระบี่ยิ่งพุ่งออกไป ข้อมือต้วนหลิงเทียนพลันหักลงเล็กน้อยค่อยตวัดอีกกระบวนท่าซัดรังสีกระบี่ที่ 2 ออกไป รวมถึงกระบวนท่าอื่นๆออกไปต่อเนื่องเป็นชุดในเสี้ยวพริบตา!
และสุดท้ายรังสีกระบี่ทั้ง 12 สายภายหลังก็พุ่งไปหลอมรวมบรรจบกับรังสีกระบี่สายแรกฉับไวดุจฟ้าแลบ!
จากจำนวนรังสีกระบี่ทั้ง 13 ที่พุ่งออกไปผสานหลอมรวมกันเป็นหนึ่งนี้ เผยให้เห็นว่า…
ต้วนหลิงเทียนได้เข้าใจอีก 7 กระบี่ที่เหลือของ 13กระบี่บงกชฟ้า ที่ก่อนหน้าเขายังไม่อาจเข้าใจได้สำเร็จแล้ว…
‘ดูเหมือนการพาตู้เวยออกจากโลก และลงมือใหญ่โตทำลายดาวเพื่อให้มันสิ้นหวังจากนั้นค่อยฆ่าทิ้งแบบนั้น…ถึงจะนับว่าวุ่นวายไปบ้าง แต่ก็ทำถูกแล้วจริงๆ’
‘เพราะจัดการมันแบบนี้ ถึงทำให้ข้าคลายปมในใจได้อย่างสมบูรณ์ ขจัดเรื่องที่ค้างคาในใจที่เกิดจากมันเมื่อชาติก่อนให้หมดไปได้อย่างสมบูรณ์’
‘สุดท้าย…ยังก่อให้เกิดการรู้แจ้งอย่างกะทันหัน ทำให้ตีความ 13 กระบี่บงกชฟ้าที่เหลือได้สำเร็จในคราวเดียว!’
ต้วนหลิงเทียนเองก็ไม่เคยคิดมาก่อนเลย
ว่าการตัดสินใจพาตู้เวยออกมาท่องอวกาศ ด้วยหมายทำให้มันสิ้นหวังก่อนจะฆ่า จะทำให้เขาได้รับประโยชน์ขนาดนี้!
‘โชคดีที่ข้าพามันมาฆ่าที่นี่…หากก่อนหน้าข้าแค่ลงมือทรมานหรือฆ่ามันทิ้งบนเรือสำราญที่โลก ข้าอาจจะไม่ได้ปลดเปลื้องความในใจได้หมดจดขนาดนี้…’
‘หากไม่ได้ปลดเปลื้องความในใจอย่างสมบูรณ์ เช่นนั้นก็ยากจะเข้าสู่สภาวะรู้แจ้งของ 13 กระบี่บงกชฟ้าได้…’
พอนึกถึงเรื่องนี้ ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกขอบคุณในใจ
ด้วยแบบนี้ การลงมือวุ่นวายของเขาก็นับว่าคุ้มค่า
“ในที่สุดเจ้าก็ตื่นขึ้นมาเสียที…”
และในขณะที่ต้วนหลิงเทียนกลับมารู้สึกตัว เสียงคุ้นเคยหนึ่งก็ดังเข้าหูพอดี
พอหันไปมองต้นเสียง เขาก็พบว่าห่างออกไปไม่ไกลเท่าไหร่ มีร่างถังเซี่ยวเซี่ยวกำลังนั่งขัดสมาธิกลางห้วงอวกาศ
“อ่าว ทำไมเจ้ามารอข้าที่นี่ล่ะ?”
พอเห็นถังเซี่ยวเซี่ยว ต้วนหลิงเทียนก็อดไม่ได้ที่จะตกใจ “เจ้า…ไม่ใช่ว่า…สมควรรออยู่ที่ดาวเหยียนหวงรึไง?”
“เหอๆ…เจ้าอยู่ที่นี่มาตั้ง 5 ปี ยังจะมีหน้ามาถามอีกว่าข้ามารอที่นี่ทำไม?”
ถังเซี่ยวเซี่ยวส่ายหัวไปมา พลางถามต่อว่า “แต่พอข้ามาถึงก็เห็นเจ้าจมอยู่ในภวังค์คล้ายกำลังตีความเวทย์พลังอะไรบางอย่างถึงช่วงสำคัญก็เลยไม่อยากจะกวน…แล้วเป็นอย่างไรบ้างเล่า การเข้าสู่ภวังค์ตีความคราวนี้ได้ผลเลิศล้ำไหม?”
“เจ้าว่าอะไรนะ?!”
“หะ..ห้าปีงั้นเหรอ?!”
ต้วนหลิงเทียนไม่ได้สนใจฟังวาจาประโยคหลังของถังเซี่ยวเซี่ยวแม้แต่น้อย เพราะความสนใจของเขาหยุดอยู่ที่ประโยคแรกของนางอย่างสมบูรณ์!
ห้าปี?
การเข้าสู่ภวังค์รู้แจ้ง และตีความ 13 กระบี่บงกชฟ้าคราวนี้ เขาใช้เวลาไปถึง 5 ปีเลยหรือ?!
“อะ!?”
“ไม่ใช่ว่า 1 เดือนหลังจากที่ตู้เวยตาย คนของมันจะจุดชนวนระเบิดนิวเคลียที่ซ่อนไว้ทั่วโลกพร้อมกันรึไง…แต่ตอนนี้กลับผ่านไปแล้วถึง 5 ปี!”
“แล้วโลกล่ะ…ไม่ใช่ถูกทำลายไปแล้วหรือ?”
สีหน้าท่าทีต้วนหลิงเทียนเปลี่ยนไปใหญ่หลวง และยิ่งพึมพำมากเท่าไหรหน้าเขาก็ยิ่งเสียมากขึ้นเท่านั้น ทั้งเริ่มบังเกิดความรู้สึกเสียใจที่ไม่เพิกเฉยการเข้าสู่ภวังค์รู้แจ้งของ 13 กระบี่บงกชฟ้าก่อนหน้าขึ้นมา…