WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 2539
WSSTH ตอนที่ 2,539 : เงื่อนไขของต้วนหลิงเทียน
ตุบ!
เสียงทึบหนึ่งดังขึ้นเบาๆ เป็นผู้นำตระกูลปาร์คที่แข้งขาอ่อนแรง ทรุดลงไปนั่งก้นจ้ำเบ้าบนยานบินของมัน…ร่างยังสั่นระริกไปราวลูกนกตกน้ำ
ตอนนี้มันมองจ้องร่างชายหนุ่มชุดม่วงในม่านแสงด้วยสายตาทำราวกับมองเทพเจ้า มันหวาดผวาทั้งกลัวจนหัวใจแทบหยุดเต้น!
เหล่าระดับสูงๆของตระกูลปาร์คทั้งหลายก็หน้าเสียถึงขีดสุด! บางคนก็ถึงกับซีดจนหาสีเลือดไม่เจอ! บ้างก็ยืนขาสั่นพั่บๆ ตัวสั่นระริก!!
พระเจ้าช่วย!
ตระกูลปาร์คของพวกมันไปล่วงเกินตัวตนระดับนี้ได้ยังไง!
“ตอนนี้…เจ้ายังอยากจะตอบว่าทุกสิ่งที่เจ้าไปทำไว้บนโลก เป็นเพราะความหวังดีอยู่อีกไหม?”
ภายใต้สายตาหวาดลัวของทุกคน ต้วนหลิงเทียนเพียงหันไปเหลือบมองเรย์โนลด์ที่เขาบีบคอยยกร่างอยู่ พลางถามเสียงเย็น
ตั้งแต่ที่ต้วนหลิงเทียนควบคุมเรือรบระดับเหนือชั้นทั้ง 37 ลำได้ง่ายดายราวของเล่น เรย์โนลด์ก็ตกตะลึงไปด้วยความหวาดกลัว…
อีกทั้งมันยังตระหนักได้ตั้งแต่วินาทีนั้น
ผู้ฝึกตนเบื้องหน้า…ไม่ใช่ตัวตนที่ตระกูลปาร์คของพวกมันจะตอแยได้!
และตอนนี้พอมาได้เห็นฉากเรื่องราวที่ปรากฏขึ้นในม่านแสงสะท้อน ว่าผู้ฝึกตนเบื้องหน้าทำลายเรือรบระดับภัยพิบัติที่มีระดับเหนือกว่ายานรบระดับเหนือชั้นของพวกมันถึง 2 ขั้นได้ง่ายดายเพียงใด!
ยิ่งไปกว่านั้นภายใต้การระดมยิงเต็มอัตราศึกของเรือรบระดับภัยพิบัติ 17 ลำ อีกฝ่ายไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน!
‘มันไม่ใช่คน มันไม่ใช่คนแล้ว! ปีศาจ…มันต้องเป็นปีศาจแน่ๆ!!’
เรย์โนลด์ก็ได้แต่ร่ำร้องในใจอย่างหวาดผวาเสียขวัญ มองต้วนหลิงเทียนอีกครั้งสายตาก็ท่วมท้นไปด้วยความหวาดกลัวไร้สิ้นสุด
“มะ…ไม่”
สุดท้ายภายใต้สายตาเย็นชาอันน่ากลัวของต้วนหลิงเทียน เรย์โนลด์ที่หายใจแทบไม่ออกก็พยายามกล่าวความจริงออกมาอย่างยากลำบาก “ผะ…ผมต้องการยึดครองและควบคุมโลก จากนั้นค่อยทำให้โลกเป็นดาวอาณานิคมของตระกูลปาร์ค ให้มนุษย์โลกเป็นดั่งสัตว์เลี้ยง…และทาสแรงงานให้ตระกูลปาร์คของผมไว้ใช้ประโยชน์…”
ทันทีที่เรย์โนลด์กล่าวตอบออกมา สีหน้าต้วนหลิงเทียนก็ทำราวกับพูดคำ ‘ว่าแล้วเชียว’ ออกมา
อย่างไรก็ตามด้านหลงเจิ้นกั๋วกับอีก 10 ขุนพลถึงกับหน้าเสียไปทันที
เพราะหากต้วนหลิงเทียนไม่ปรากฏตัวขึ้น พวกมันจินตนาการออกได้ไม่ยากเลย ว่าอนาคตอันใกล้…มนุษย์โลกจะอยู่กันยังไง…ไม่พ้นต้องตกเป็นทาสอย่างไร้หนทางขัดขืน ใช้ชีวิตดั่งหมูในคอก!!
วูบ วูบ วูบ วูบ วูบ
…
และพอได้ยินคำตอบของเรย์โนลด์ คนของตระกูลปาร์คก็ยิ่งหน้าเสียไปกันใหญ่ หลายคนเริ่มโงนเงนไปมาคล้ายจะเป็นลม
ถึงแม้พวกมันจะเข้าใจการกระทำของเรย์โนลด์ก็ตามที
เพราะโดยปกติแล้ว พวกมันก็มักจะเดินทางไปหาดาวเคราะห์ที่มีสิ่งมีชีวิตแบบนี้ แล้วพยายามครอบงำจนทำให้อีกฝ่ายกลายเป็นทาส…
อย่างไรก็ตามดาวเคราะห์ที่พวกมันไปยึด ปกติก็ไม่มีภูมิหลังยิ่งใหญ่อะไร
แต่ตอนนี้พวกมันตระหนักได้ชัดถนัดใจ
ดาวเคราะห์นามว่าโลก ที่เรย์โนลด์ไปพบเจอเข้าโดยบังเอิญ จริงอยู่ที่ด้อยอารยธรรม…ทว่ากลับมีผู้ฝึกตนอันทรงพลัง!!
กล่าวได้ว่า…
คราวนี้เรย์โนลด์เตะโดนตอเหล็กเข้าอย่างจัง!
“คุณชายผู้ยิ่งใหญ่ สิ่งที่เรย์โนลด์ทำเป็นการกระทำตามอำเภอใจของมัน…ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับตระกูลปาร์คของพวกเราแม้แต่น้อย! ขอท่านได้โปรดอย่าลากตระกูลปาร์คของพวกเราเข้าไปเกี่ยวข้อง!!”
ไม่นานก็มีระดับสูงของตระกูลปาร์คกดปุ่มกระจายเสียงบนยานบิน แล้วรีบพูดออกมาอย่างร้อนใจ
“ใช่แล้วคุณชาย! พววกเราไม่รู้เลยว่าเรย์โนลด์มันไปทำอะไรแบบนั้น!”
“คุณชายผู้ยิ่งใหญ่ ท่านจะทำอะไรกับเรย์โนลด์ก็เชิญท่านจัดการได้ตามใจ…แต่พวกเราหวังให้ท่านปล่อยปละละเว้นตระกูลปาร์คของพวกเราไปสักครั้ง!!”
…
เรียกว่าระดับสูงทั้งหลายของตระกูลปาร์คไม่มีใครยึดถือศักดิ์ศรีอะไรทั้งนั้น เร่งกล่าวร้องขอความเมตตาออกมาจ้าละหวั่น!
“ผู้นำตระกูลปาร์ค แล้วเจ้าล่ะ…ว่าไง?”
ต้วนหลิงเทียนไม่ได้สนใจอะไรกับเสียงวิงวอนของระดับสูงตระกูลปาร์ค เพียงหันไปมองถามเรย์ลินด้วยรอยยิ้ม
“คุณชายผู้ยิ่งใหญ่…”
ด้านเรย์ลินตอนนี้ก็ได้กลับมายืนขึ้นอีกครั้งแล้ว แต่อย่างไรขามันก็ยังสั่นไม่หาย สองตามองต้วนหลิงเทียนด้วยความซับซ้อน ค่อยถอนหายใจตอบว่า “ถึงสิ่งที่เรย์โนลด์ทำ ถึงแม้จะเป็นเรื่องส่วนตัว แต่เจตนาของมันก็เป็นการทำเพื่อตระกูลปาร์คของพวกเรา…ทั้งหมดเพราะคิดทำประโยชน์ให้ตระกูลปาร์ค”
“ดังนั้นผม…ปาร์คเรย์ลิน! ในฐานะผู้นำตระกูลปาร์ค ขอรับผิดชอบเรื่องทั้งหมดด้วยชีวิต!!”
เรย์ลินกล่าว
“ผู้นำ!”
หน้าของระดับสูงตระกูลปาร์คเปลี่ยนไปยกใหญ่
พวกมันแทบรอตัดสัมพันธ์กับเรย์โนลด์ไม่ไหวแล้ว แต่ผู้นำของพวกมันดันพูดทำนองว่าการกระทำของเรย์โนลด์เกี่ยวพันถึงตระกูลปาร์ค?
“ผู้นำ ฉันรู้ว่าพ่อแม่ของเรย์โนลด์ทำเพื่อเธอไว้มาก อีกทั้งๆคู่ยังตายเพราะช่วยเธอ…แต่อย่าลืมไป! ว่าเรื่องวันนี้เกี่ยวพันถึงความอยู่รอดและล่มสลายของตระกูลปาร์ค!!”
“ผู้นำ…แกจะลากทั้งตระกูลให้ล่มจมไปพร้อมเรย์โนลด์เพราะความเอาแต่ใจของแกไม่ได้!!”
…
ตอนนี้เองเหล่าระดับสูงตระกูลปาร์คที่มีอายุมากกว่าเรย์ลินก็พากันปิดฝาครอบยานบินให้มิดชิด และกดปุ่มสือสารพลางตะคอกเสียงใส่เรย์ลินอย่างไม่เกรงใจ หมายเกลี้ยกล่อมให้เรย์ลินเปลี่ยนใจให้ได้!
“คุณลุง…”
เรย์โนลด์ที่อึดอัดเพราะหายใจไม่ออก ตอนนี้ถึงกับต้องน้ำตาไหล ในขณะที่ทุกคนในตระกูลกำลังทอดทิ้งมันอย่างไม่ใยดี แต่ลุงของมันกลับยังคิดปกป้องมันด้วยชีวิต ทำให้มันตื้นตันใจจนต้องร้องไห้ออกมา!
“คุณชาย ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมทำไปทั้งหมดเป็นเพราะความเห็นแก่ตัวของผมคนเดียว! ตระกูลปาร์คไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้!!”
สุดท้ายเรย์โนลด์ก็กัดฟันพูดออกมา ราวกับตัดสินใจขั้นเด็ดขาด มันมองกล่าวกับต้วนหลิงเทียนด้วยน้ำเสียงเด็ดเดี่ยวว่า “จะฆ่าจะแกงผมก็สุดแล้วแต่ท่านเลย!!”
“พวกเจ้าลุงกับหลานสองคน นับว่าสนิทสนมกลมเกลียวกันดีจริงๆ…น่าซาบซึ้งนัก”
มองไปยังเรย์โนลด์กับเรย์ลินที่แลดูจะรักกันมาก ต้วนหลิงเทียนก็ค่อยๆคลายมือที่กอบกุมลำคอของเรย์โนลด์ ก่อนที่จะใช้พลังหอบหิ้วร่างมันไปไว้บนยานบินของเรย์ลิน
“หือ?”
เห็นฉากดังกล่าว คนของตระกูลปาร์คก็พากันสับสน ด้วยไม่รู้ว่าผู้ฝึกคนคนนี้คิดจะทำอะไรกันแน่
ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!
…
จากนั้นภายใต้สายตาของทุกคน ต้วนหลิงเทียนเพียงยกมือขึ้นมาสะบัดออกส่งๆ ก็เหินร่างออกไปพร้อมหอบหิ้วถังเซี่ยวเซี่ยว หลงเจิ้นกั๋วและคนอื่นๆ มุ่งหน้าไปยังปราสาทหลังใหญ่เบื้องล่างทันที
ในขณะเดียวกันเรือรบระดับเหนือชั้นทั้ง 37 ลำที่ลอยล่องอยู่ ก็คล้ายมีมือที่มองไม่เห็นหยิบยกพวกมันไปวางเก็บไว้ในฐานใต้ดินอย่างที่พวกมันเคยอยู่!
แต่แน่นอนว่าฐานใต้ดินที่ว่า…ตอนนี้เพดานพังพินาศ สภาพด้านในยังเลอะเทอะดูไม่ได้!
“ตอนนี้ข้ากับเพื่อนๆ คิดเป็นอาคันตุกะจากแดนไกลมาเยือนตระกูลปาร์คสักหน่อย…ผู้นำเรย์ลินมีอะไรขัดข้องรึเปล่า?”
ในขณะที่เหินร่างพลางหอบหิ้วทุกคนไปหยุดลอยเหนือปราสาท ต้วนหลิงเทียนก็หันกลับไปกล่าวถาม เรย์ลิน ผู้นำตระกูลปาร์คเสียงเรียบ
“หา?”
เรย์ลินผงะไปวูบหนึ่ง หลังจากนั้นมันก็ดึงสติกลับคืน และตระหนักได้ว่าดูเหมือนจะมีหนทางประนีประนอมเรื่องราวแล้ว จึงเร่งพยักหน้าราวไก่จิกเม็ดข้าวทันที “ไม่มี! ไม่มีอะไรขัดข้องครับท่าน! คุณชายผู้ยิ่งใหญ่ลดตัวมาเยือนตระกูลปาร์คของพวกเราแบบนี้ ถือเป็นเกียรติของวงศ์ตระกูลพวกเราอย่างยิ่ง!!”
ไม่นานฉากเรื่องราวความวุ่นวายกลางฟ้าในหน้าจอถ่ายทอดสดก็หายไป…
เพราะเหล่าระดับสูงของตระกูลปาร์คแห่กันนำยานบินไปลงจอด และเร่งตามกลุ่มต้วนหลิงเทียนเข้าไปในปราสาทหลังมหึมา อันเป็นดั่งเคหะสถานหลักของตระกูลปาร์คกันจ้าละหวั่น
“เอ่อ…ตกลงนี่มันยังไงกันล่ะเนี่ย? ไม่ตีกันแล้วเหรอ?”
“ดูเหมือนว่าผู้ฝึกตนคนนั้น…คิดมอบความเมตตาให้ตระกูลปาร์ค?”
“ยังไม่ชัดรึไง? ด้วยพลังดั่งเทพเจ้าของผู้ฝึกตนคนนั้น ถ้าคิดจะลบตระกูลปาร์คให้หายไปจริงๆก็ง่ายเหมือนล้างก้น! เห็นกันอยู่ว่ามันจงใจปล่อยตระกูลปาร์คไปชัดๆ!!”
…
จังหวะนี้หลานคนบนดาวลีซเซอร์ที่ดูถ่ายทอดสดอยู่ ก็อดไม่ได้ที่จะระบายลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก
เพราะพวกมันหลายคนก็วิตกกังวลไม่น้อยว่าผู้ฝึกตนจะทำลายตระกูลปาร์ค
ต้องทราบด้วยว่าตระกูลปาร์คหยั่งรากลึกในดาวลีซเซอร์มานาน กิจการอะไรก็มีมากมาย หากผู้ฝึกตนคนนั้นทำลายตระกูลปาร์คจริงๆ แล้วคนอื่นๆที่ทำงานในเครือตระกูลปาร์คล่ะ? ถึงตอนนั้นจะมากจะน้อยพวกมันก็ยากจะหลีกเลี่ยงผลกกระทบแล้ว…!
เรียกว่าคนที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับตระกูลปาร์คทั้งหมด ล้วนภาวนาให้ตระกูลปาร์คแก้ไขเรื่องราวได้โดยสันติวิธีทั้งนั้น
…
ส่วนอีกด้าน ต้วนหลิงเทียน ถังเซี่ยวเซี่ยว หลงเจิ้นกั๋วและคนอื่นๆ ที่ตอนนี้ถูกรายล้อมไปด้วยระดับสูงของตระกูลปาร์ค ก็ถูกผู้นำตระกูลอย่างเรย์ลินพามายังห้องรับแขกที่ดีที่สุดในปราสาทหลังใหญ่ และอีกฝ่ายก็ต้อนรับขับสู้ราวกับทุกคนเป็นพระราชา
ต้วนหลิงเทียนก็ไม่แปลกใจอะไรกับวิธีปฏิบัติอย่างดีของอีกฝ่าย
“บอกตรงๆ ตอนแรกข้าคิดว่าจะทำลายเรือรบระดับเหนือชั้นของตระกูลปาร์คทั้งหมด รวมถึงฆ่านักวิทยาศาสตร์ของตระกูลปาร์คทุกคน…และปล่อยให้ตระกูลปาร์คของพวกเจ้าวิ่งเต้นดิ้นรนหนีการล่มสลายกันเอาเอง…”
หลังจิบชารสชาติสดชื่นอึกหนึ่ง ต้วนหลิงเทียนที่นั่งบนโซฟาหรูก็กล่าวออกมาตรงๆ ท่ามกลางความสงบเงียบของผู้คนตระกูลปาร์คที่ยืนแน่นิ่งอย่างเรียบๆร้อยๆ
และบอกได้เลยว่าทันทีที่ต้วนหลิงเทียนพูดประโยคนี้จบคำ ขาของตระกูลปาร์คทุกคนในห้องรับรองแทบจะสูญสิ้นเรี่ยวแรง!
เพราะหากอีกฝ่ายลงมืออย่างที่พูดจริง ถึงแม้ว่าตระกูลปาร์คจะยังไม่ถึงขั้นล่มสลายลงทันที แต่ทว่าก็เสมือนเหลือแค่เปลือก! และหลังจากนั้น…ในเวลาแค่ไม่นาน ตระกูลปาร์คก็ไม่พ้นต้องถูกอีก 9 ตระกูลกลืนกินแน่!!
ท้ายที่สุดแล้ว ตระกูลปาร์คที่ไร้นักวิทยาศาสตร์กับยานรบ ก็เหมือนพยัคฆ์ไร้เขี้ยวเล็บ!
“แต่ว่าตอนนี้ข้าเปลี่ยนใจแล้ว…”
พอต้วนหลิงเทียนเอ่ยประโยคนี้ออกมา คนตระกุลปาร์คพอได้หายใจคล่องคออีกครั้ง
“และสิ่งที่ข้าจะพูดต่อไปนี้ ข้าบอกไว้เลยว่าข้าไม่สนว่าพวกเจ้าจะคิดเห็นอย่างไร…และไม่ว่าพวกเจ้าจะเต็มใจหรือไม่เต็มใจก็เรื่องของพวกเจ้า…”
ภายใต้สายตาของทุกคนในห้อง ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกมาเสียงดังฟังชัด ด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดไม่อนุญาตให้ปฏิเสธ!
ได้ยินวาจาดั่งประกาศิตของต้วนหลิงเทียน คนตระกูลปาร์คก็ได้แต่คลี่ยิ้มขื่นขมระทมใจออกมาตาละห้อย
จังหวะนี้พวกมันยังมีทางเลือกอีกเหรอ?
ขอเพียงแค่ผู้ฝึกตนที่ทรงพลังดั่งทวยเทพเบื้องหน้าไม่ทำให้ตระกูลปาร์คของพวกมันต้องจบสิ้น ไม่ว่าอีกฝ่ายต้องการให้พวกมันทำอะไรพวกมันก็ทำได้แค่กล้ำกลืนฝืนทน ยอมรับอย่างไร้ปากเสียง…
“ก่อนอื่นเลย ข้าจะตั้งข้อจำกัดบางประการให้กับระดับสูงทุกคนของตระกูลปาร์คในห้องนี้”
ทันใดนั้น ต้วนหลิงเทียนพลันยกมือขึ้น ก่อนที่ฝ่ามือจะปรากฏแสงสว่างเรืองรองออกมา ทันใดนั้นปรากฏรังสีกระบี่ไร้สภาพที่เห็นได้ชัดดั่งเนื้อเน่าบนกระดูกผุ พุ่งเข้าสู่กลางกระหม่อมของระดับสูงตระกูลปาร์คทุกคนในห้อง!
และพริบตาที่รังสีกระบี่ดังกล่าวพุ่งหายไปในกระหม่อมของทุกคนกับตา ทุกคนก็เริ่มรู้สึกอื้ออึงและขยับร่างกายไม่ได้ราวถูกแช่แข็งไปไม่กี่ลมหายใจ ทำให้ทั้งหมดอดไม่ได้ที่จะบังเกิดความหวาดกลัวจับจิต!
“พวกเจ้าคงสัมผัสกันได้แล้วว่ามีบางสิ่งพุ่งเข้าร่างไป มันก็คือข้อจำกัดที่ข้าผนึกลงในวิญญาณของพวกเจ้า! และคนที่จะควบคุมข้อจำกัดของพวกเจ้าก็คือ…หลงเจิ้นกั๋ว ผู้นำองค์กรจิตวิญญาณแห่งเหยียนหวงของประเทศจีนบนดาวโลก”
ขณะที่ทุกคนกลับมาขยับร่างกายกันได้แล้ว ต้วนหลิงเทียนก็กล่าวออกมาพลางผายมือไปทางหลงเจิ้นกั๋ว ค่อยพูดต่อว่า “ข้อจำกัดที่ข้าผนึกไว้ในวิญญาณของพวกเจ้า…ภายใน 100 ปีนี้ ขอเพียงเขาต้องการ เพียงหนึ่งความคิดพวกเจ้าก็จะตายทันที…”
ทันทีที่ต้วนหลิงเทียนพูดประโยคนี้ออกมา สีหน้าท่าทีของระดับสูงตระกูลปาร์คก็เปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยวอัปลักษณ์ถึงขีดสุด!
“และพวกเจ้าเลิกฝันเรื่องจะใช้เทคโนโลยีของพวกเจ้าค้นหาและขจัดข้อจำกัดที่ข้าตั้งไว้เลย…เพราะไม่เพียงแต่พวกเจ้าจะไม่มีวันหาเจอ แต่ยังเป็นการกระตุ้นให้ข้อจำกัดนั่นทำงาน…เมื่อข้อจำกัดนั่นทำงานพวกเจ้าก็ต้องตายอย่างไร้ทางช่วย!”
ต้วนหลิงเทียนเอ่ยขึ้นอีกครั้ง และขจัดความคิดในหัวของคนระดับสูงตระกูลปาร์คมากมายทิ้งไปทันที
“คุณชายผู้ยิ่งใหญ่…ไม่ทราบว่าในช่วงเวลา 100 ปีหลังจากนี้ ท่านคิดให้ตระกูลปาร์คของพวกเราทำอะไร?”
ในฐานะผู้นำตระกูลใหญ่อย่างตระกูลปาร์ค เรย์ลินย่อมเข้าใจได้ทันทีว่าต้วนหลิงเทียนทำแบบนี้ ไม่พ้นต้องคิดใช้ให้ตระกูลปาร์คของพวกมันทำอะไรบางอย่างให้ในช่วงเวลา 100 ปีแน่นอน
ข้อจำกัดนั่น ก็ไม่ต่างอะไรจากปลอกคออาคม! หลักประกันว่าตระกูลปาร์คจะไม่ขัดขืน!!
“ข้าต้องการให้พวกเจ้ายกระดับเทคโนโลยีและอารยธรรมของประเทศจีนบนโลก ให้ก้าวขึ้นมาทัดเทียมกับตระกูลปาร์คของพวกเจ้าภายใน 100 ปี…”
“และภายในร้อยปี ข้าต้องการให้ประเทศจีนกลายเป็นขุมพลังใหญ่ขุมที่ 11 ของดาราจักรทางช้างเผือก”
“เป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งเทียบได้กับตระกูลใหญ่ทั้ง 10 รวมถึงตระกูลปาร์คของพวกเจ้า!”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกมาเสียงเรียบ