WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 2541
WSSTH ตอนที่ 2,541 : นรกอสุรา!
นายน้อยชิงเหยียน!!
ทันทีที่ได้ยินวาจาดังกล่าวของชายวัยกลางคนร่างผอม ลูกตาต้วนหลิงเทียนก็หดเล็กลงทันใด
กระทั่งลึกลงไปในแววตายังเผยให้เห็นถึงโทสะอันไร้สิ้นสุดที่กำลังลุกโชนดั่งเพลิงไฟ!
อวิ๋นชิงเหยียน!!
เพียงได้ยินชื่อนายน้อยชิงเหยียนที่ชายวัยกลางคนร่างผอมเอ่ยออก ต้วนหลิงเทียนก็รู้ทันทีว่าอีกฝ่ายคือคนที่อวิ๋นชิงเหยียนส่งมาเพื่อฆ่าเขาโดยเฉพาะ!!
ถึงแม้เขาจะมีคิดไว้บ้างแล้ว…ว่าอวิ๋นชิงเหยียนไม่มีทางปล่อยเขาไปง่ายๆแน่!
แต่เขาไม่คิดไม่ฝันเลย…
ว่าอวิ๋นชิงเหยียนจะคลั่งแค้นถึงขั้นส่งคนมาฆ่าเขาโดยตรง!
‘ลองมันส่งเจ้านี่มาฆ่าข้าแบบนี้ หมายความว่ามันไม่กลัวเค่อเอ๋อจะรู้ว่าข้าตายสินะ…เพราะถึงอย่างไรเค่อเอ๋อก็มีลูกแก้ววิญญาณของข้าอยู่ในมือ’
ต้วนหลิงเทียนลอบกล่าวในใจ
และเหตุไฉนที่อวิ๋นชิงเหยียนไม่กลัวเรื่องนี้ ต้วนหลิงเทียนก็เดาได้ไม่ยาก สิบในสิบล้วนเป็นเพราะมันไม่เพียงมีครอบครัวและสหายเขาเท่านั้น ยังมีลูกชายกับลูกสาวของเขาเป็นตัวประกันไว้คอยข่มขู่เค่อเอ๋อ!
‘อวิ๋นชิงเหยียน…’
คิดถึงเรื่องนี้ สายตาที่ต้วนหลิงเทียนใช้มองชายวัยกลางคนร่างผอมยิ่งมาก็ยิ่งดุร้ายอำมหิต
หากสายตาสามารถฆ่าคนได้ ไม่ทราบชายวัยกลางคนร่างผอมจะถูกต้วนหลิงเทียนเข่นฆ่าสังหารไปแล้วกี่รอบ!
“ที่แท้เจ้าก็เป็นสุนัขรับอวิ๋นชิงเหยียน…”
ต้วนหลิงเทียนหัวเราะเยาะออกมา พลางมองจ้องชายวัยกลางคนร่างผอม
และในเวลาเดียวกันกับที่เขาหัวเราะเยาะ พลังทั่วร่างก็ปะทุออกฉับไว ใช้ปฐมเวทย์กลืนกินเพื่อเพิ่มพูนพลังในร่างทันที!
จากนั้นมือก็สะบัดเรียกกระบี่เซียนอมตะออกมา ใช้ออกด้วยเคล็ดสุดท้ายของยอดใจกระบี่ทันที!
ครืน! ครืน! ครืน! ครืน! ครืน!
…
รังสีกระบี่นับพันนับหมื่น เริ่มม้วนวนผสานก่อเกิดค่ายกลกระบี่ท่ามกลางความว่างเปล่าเหนือศีรษะต้วนหลิงเทียน!
ทั้งเขายังเร่งเร้าพลังเต็มสิบส่วนขึ้นมาทั่วร่าง เตรียมใช้ออกด้วยเวทย์พลังจู่โจม 13 กระบี่บงกชฟ้าทันที!
ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนก็ได้เข้าใจ 13 กระบี่บกชฟ้าครบสมบูรณ์แล้ว พลังของเขาไม่เหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป!
กระทั่งต่อให้เบื้องหน้าจะเป็นเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ เขาก็มั่นใจว่าเข่นฆ่าได้ในกระบี่เดียว!!
เพราะท้ายที่สุดแล้วเวทย์พลังจู่โจมสายกระบี่ของระนาบเทวโลกอย่าง 13 กระบี่บงกชฟ้านั้น ไม่ใช่เวทย์พลังสวรรค์ธรรมดาๆ เมื่อบรรลุถึงขั้นตอนไร้ตำหนิยังเหนือกว่าเวทย์พลังสวรรค์จู่โจมทั่วๆไปไม่น้อย!
เพียงแค่ต่อหน้าตัวตนที่อวิ๋นชิงเหยียนส่งมา พลังอำนาจที่เขามีก็แลคล้ายจะอ่อนแอลงถนัดตา…
“เซี่ยวเซี่ยวเจ้ารีบหนีไปเร็วเข้า…ความแข็งแกร่งของเจ้านี่ ไม่ด้อยกว่าต้าหลัวจินเซียนที่ทิ้งสมบัติทั้งหลายเอาไว้ในแดนลับต่างสวรรค์แน่นอน!”
ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนเตรียมตัวสู้ตาย เขาก็ไม่ลืมส่งเสียงผ่านพลังไปกล่าวบอกถังเซี่ยวเซี่ยว
ถึงแม้เขารู้ตัวดี ว่าเขาไม่มีทางเป็นคู่มือของคนที่อวิ๋นชิงเหยียนส่งมาฆ่าเขาได้เลย แต่เขาก็ไม่คิดจะงอมืองอเท้ารอคอยความตายอยู่เฉยๆ!
นั่นไม่ใช่นิสัยเขา!
อย่างไรก็ตาม เขาไม่คิดจะลากถังเซี่ยวเซี่ยวให้ลงมาจมปลักโคลนนี้ไปด้วยกัน!
ถังเซี่ยวเซี่ยวเป็นผู้บริสุทธิ์!
วูบ!
และทันทีที่ถังเซี่ยวเซี่ยวได้ยินเสียงผ่านพลังของต้วนหลิงเทียน หน้างามของนางก็เปลี่ยนสีไปทันใด!
ตั้งแต่ที่ได้เห็นชายวัยกลางคนร่างผอมก้าวเดินออกมาจากรอยแยกมิติอย่างลึกลับ นางก็ตระหนักได้ทันทีว่าอีกฝ่ายไม่ใช่ชนชั้นต่ำทรามแน่นอน…!
เพราะด้วยสำนึกเทวะของนางที่แผ่ออกไปตรวจสอบ ก็ไม่พบเจอระนาบเทียมเช่นกัน
หากอีกฝ่ายฉีกเปิดมิติออกมาจากระนาบเซียน พลังฝีมืออาจไม่สู้ต้วนหลิงเทียนหรือกระทั่งตัวนาง…
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากพื้นที่แถบนี้ไม่มีระนาบเทียมอันใด เช่นนั้นเรื่องราวจึงแตกต่างออกไปใหญ่หลวงแล้ว! เพราะนี่หมายความว่าอีกฝ่ายไม่ได้มาจากระนาบเทียม แต่มาจากระนาบอื่น!!
และตัวตนที่ทรงพลังถึงขั้นฉีกเปิดรอยแยกมิติ ข้ามผ่านห้วงแห่งมิติท่องไประหว่างระนาบเทวโลกกับระนาบโลกียะได้ด้วยเลือดเนื้อเช่นนั้น ในบันทึกที่ส่งต่อกันมาแต่โบราณของนิกายถังนางระบุไว้ชัดเจนว่า…มีเพียงตัวตนอย่างต้าหลัวจินเซียนของระนาบเทวโลกขึ้นไปเท่านั้นที่กระทำได้! ไม่ใช่อะไรที่จินเซียนจะทำได้เลย!!
และพอมาได้ยินวาจาผ่านพลังดังกล่าวของต้วนหลิงเทียน ถังเซี่ยวเซี่ยวก็ได้ยืนยันข้อเท็จจริงอันน่าตื่นตระหนกนี้ทันที สีหน้าจึงอดไม่ได้ที่จะเปลี่ยนไปใหญ่หลวง!
“ต้วนหลิงเทียนเจ้า…เจ้าไปทำอีท่าไหนของเจ้ากัน! ถึงไปยั่วยุตัวตนทรงพลังระดับนี้ได้?!”
ขณะที่ส่งเสียงผ่านพลังไปกล่าวถามต้วนหลิงเทียน น้ำเสียงของนางถึงกับสั่นไปไม่น้อย เห็นได้ชัดว่านางหวาดกลัววจับใจแล้วจริงๆ
นางไม่อาจไม่กลัว!!
ท้ายที่สุดแล้ว นี่ก็คือตัวตนที่อยู่เหนือต้าหลัวจินเซียนบนระนาบเทวโลก!!
เหตุไฉนผู้คนถึงได้มาไล่ล่าไขว่คว้ามรดกตกทอดในแดนลับต่างสวรรค์กันอย่างเอาเป็นเอาตาย?
ไม่ใช่เพราะว่ามรดกที่ว่านั้นถูกทิ้งไว้โดยตัวตนระดับต้าหลัวจินเซียนหรือไร?
ทว่าตอนนี้ตัวตนที่ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าต่อตานาง…กลับเป็นตัวตนที่อยู่เหนือต้าหลัวจินเซียน! แล้วจะไม่ให้นางหวาดกลัวได้อย่างไร?!
“เจ้ายังจะมัวมาสนใจอะไร…รีบหนีไปเร็วเข้าเถอะ!!”
ต้วนหลิงเทียนไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ ว่ากระทั่งตกอยู่ในสถานการณ์คับขันแบบนี้ แต่ถังเซี่ยวเซี่ยวยังจะมีอารมณ์ส่งเสียงผ่านพลังกล่าวถามเรื่องหยุมหยิมแบบนี้อีก!
“ไม่ทันแล้วแหล่ะ…เจ้าลองแผ่สำนึกเทวออกไปดูสิ ตอนนี้เหมือนว่าพื้นที่รอบๆจะถูกมันใช้พลังปิดกั้นเอาไว้…ถึงข้าอยากไปก็ไปไม่ได้หรอก…”
ถังเซี่ยวเซี่ยวกล่าวผ่านพลังพลางคลี่ยิ้มขมขื่น
วูบ
และเมื่อได้ยินคำของถังเซี่ยวเซี่ยว สีหน้าท่าทีต้วนหลิงเทียนก็อดเปลี่ยนไปไม่ได้ สองตาหยีมองชายวัยกลางคนร่างผอมที่กำลังใช้สายตาดูแคลนหยันหยามเขา ค่อยกล่าวออกเสียงหนัก “อวิ๋นชิงเหยียนส่งเจ้ามาฆ่าข้า…แต่ไม่เกี่ยวอะไรกับเพื่อนข้า ปล่อยนางไปเสีย!”
“กระทั่งชีวิตตัวเองยังยากจะรักษา ยังจะมีหน้าห่วงเรื่องสตรีจะจากไปได้หรือไม่ได้อยู่อีก…เจ้านี่ช่างเป็นพวกรักหยกถนอมบุปผาเสียจริง”
(รักหยกถนอมบุปผา = อ่อนโยนกับผู้หญิง)
ชายวัยกลางคนร่างผอมคลี่ยิ้มแสยะออกมาอย่างชั่วร้าย
“อย่างไรก็ตามยิ่งเจ้าอยากให้นางไปมากเท่าไหร่ ข้ายิ่งไม่อยากปล่อยให้นางไปมากเท่านั้น…และลองข้าไม่ปล่อยนางไปสักคน เจ้าจักมีปัญญาทำอะไรข้าได้เล่า?”
หลังกล่าวท้าทายแล้ว สายตาที่ชายวัยกลางคนใช้มองต้วนหลิงเทียนก็ฉายแววปรามาสดูแคลนออกมาแจ่มชัด
“เจ้า…”
ทันใดนั้นสองตาต้วนหลิงเทียนก็ลุกโชนไปด้วยโทสะ ค่ายกลกระบี่ท่ามกลางความว่างเปล่าเหนือศีรษะ เริ่มสั่นไหวสะเทือน ทั้งทอประกายวูบวาบ ทำราวกับพร้อมจะพุ่งทะยานออกไปเข่นฆ่าสังหารชายวัยกลางคนร่างผอมได้ทุกเวลา!!
“จะว่าไป ทักษะกระบี่ที่เจ้ากำลังใช้อยู่ก็คล้ายๆ กับทักษะกระบี่ที่จักรพรรดิสวรรค์ของจี้เมี่ยเทียนอย่างฟงชิงหยางใช้มิน้อยเลย…”
ตอนนี้เองชายวัยกลางคนร่างผอมคล้ายนึกอะไรได้ออก มันหยีตามองต้วนหลิงเทียนพลางกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเหมือนพึ่งเข้าใจอะไรบางอย่าง “ข้าก็สงสัยอยู่แต่แรกว่าไฉนนายน้อยถึงให้ข้าไปจัดการกับจักพรรดิสวรรค์ของจี้เมี่ยเทียนนั่นด้วย…ดูเหมือนสาเหตุจักเป็นเพราะเจ้าเองสินะ”
“แต่เต๋ากระบี่ของเจ้าช่างหยาบยิ่ง ยังห่างชั้นจากฟงชิงหยางหลายขุม!”
“กระนั้นแล้วฟงชิงหยางยามลงมือเต็มกำลัง กลับมิอาจต้านรับข้าได้ถึงร้อยกระบวนท่าด้วยซ้ำ สุดท้ายก็ทำได้แค่เข้าสู่นรกอสุรา 1 ใน 7 แดนอันตราย เพื่อหลบหนีการไล่ล่าสังหารของข้า”
“กล่าวไปแล้ว ผู้ที่ล่วงล้ำเข้าสู่นรกอสุรา แม้จะเป็นจักรพรรดิสวรรค์…แต่สิบทางเบื้องหน้าล้วนมีแต่ตายกับตาย ไร้ทางเป็น!”
ชายวัยกลางคนร่างผอมกล่าว
วูบ!
หน้าต้วนหลิงเทียนเปลี่ยนไปอีกครั้งเมื่อได้ยินวาจาดังกล่าวของชายวัยกลางคนร่างผอม!
เขาไม่คิดไม่ฝันเลย!
ว่าชายวัยกลางคนร่างผอมเบื้องหน้า ก็คือคนที่อวิ๋นชิงเหยียนกล่าวไว้ตอนนั้น! ว่าได้ส่งไปจัดการอาวุโสฟงชิงหยางแล้ว!!
และเหตุผลเดียวที่อวิ่นชิงเหยียนคิดกำจัดอาวุโสฟงชิงหยาง ก็เพราะเขาดันไปรับสืบทอดมรดกของอาวุโสฟงชิงหยางมา เป็นดั่งผู้ทายาทของอาวุโสฟงชิงหยาง!
เพียงเพราะเรื่องนี้ อวิ๋นชิงเหยียนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอันใดกับอาวุโสฟงชิงหยางมาก่อน ถึงกับส่งคนไปเข่นฆ่าอาวุโสฟงชิงหยาง!
“สิบทางเบื้องหน้ามีแต่ตายกับตาย ไร้ทางเป็น…”
วาจาดังกล่าวของชายวัยกลางคนร่างผอม เสมือนก้องดังวนซ้ำอยู่ในหูต้วนหลิงเทียนไม่หยุด…
เขาเป็นคนฆ่าอาวุโสฟงชิงหยางทางอ้อมแล้ว!!
“จะ…จักรพรรดิสวรรค์?”
ข้างๆต้วนหลิงเทียน ถังเซี่ยวเซี่ยวตอนนี้ใบหน้าช่างอัปลักษณ์ปั้นยากนัก หลังจากที่ได้ยินวาจาเมื่อครู่ของชายวัยกลางคนร่างผอม!
และเมื่อนางมองไปยังชายวัยกลางคนร่างผอมอีกครั้ง สีหน้าแววตาก็มากล้นไปด้วยความตื่นตระหนกเหลือเชื่อ “เจ้า…เจ้าบอกว่าจักรพรรดิสวรรค์คนหนึ่งของระนาบเทวโลก ไม่แม้แต่จะรับมือเจ้าได้ถึงร้อยกระบวนท่า?”
“สุดท้ายภายใต้การไล่ล่าสังหารของเจ้า…ยังถูกบีบคั้นให้เข้าไปยังนรกอสุรา 1 ใน 7 แดนอันตราย ดินแดนที่กระทั่งตัวตนระดับจักรพรรดิสวรรค์ สิบทางมีแต่ตายกับตายไร้ทางรอด?”
ขณะที่กล่าวถามออกไป เสียงของถังเซี่ยวเซี่ยวก็สั่นเครือนัก
เพราะนางรู้ดีว่าคำ ‘จักรพรรดิสวรรค์’ หมายถึงอะไร…
เนื่องเพราะในบันทึกที่ส่งต่อกันมาแต่โบราณของนิกายถังนาง ก็มีระบุไว้ว่า จักรพรรดิสวรรค์ ก็คือตัวตนที่ทรงอำนาจสูงสุดของระนาบเทวโลกระนาบหนึ่ง และยืนอยู่ ณ จุดสูงสุดในแดนสวรรค์นั้นๆ!
แดนสวรรค์ทั้งเก้าเก้า 81 แดน…ก็มีจักรพรรดิสวรรค์ทั้งสิ้น 81 คนเท่านั้น
ทว่าตอนนี้ฟังจากวาจาของชายวัยกลางคนร่างผอมเบื้องหน้า หมายความว่าอีกฝ่ายมีพลังเหนือกว่าตัวตนระดับจักรพรรดิสวรรค์!
จะไม่ให้นางตกใจได้อย่างไรไหว!?
จะให้นางไม่กลัวได้อย่างไร?
“หึ!”
ได้ยินคำถามของถังเซี่ยวเซี่ยว ชายวัยกลางคนร่างผอมพ่นลมสบถเสียงเย็นค่อยกล่าวออกด้วยน้ำเสียงดูแคลนค่อนแคะ “ในบรรดาจักรพรรดิสวรรค์ทั้ง 81 คนของระนาบเทวโลกทั้งมวล มีไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถรับมือข้าได้ถึงร้อยกระบวนท่า…และการที่ฟงชิงหยางนั่นมันรับมือข้าได้เกือบครบร้อยกระบวนท่าเช่นนั้น ข้าสามารถกล่าวได้เลยว่าในบรรดา 81 จักรพรรดิสวรรค์ พลังฝีมือของมันอย่างน้อยๆก็ต้องติดอยู่ใน 20 อันดับแรก!”
ได้ยินวาจาดังกล่าววของชายวัยกลางคนร่างผอม ร่างถังเซี่ยวเซี่ยวตกตะลึงอึ้งค้างไปจนคนคล้ายกลับกลายเป็นหิน!
“เจ้าหนู บอกตามตรงข้าไม่เห็นว่าเจ้ามันพิเศษตรงที่ใด…แล้วไฉนเจ้าถึงครอบครองหัวใจโฉมงามอันดับในดินแดนแห่งทวยเทพของพวกเราได้?”
หลังละสายตาออกมาจากถังเซี่ยวเซี่ยว ชายวัยกลางคนร่างผอมก็หันมามองพินิจต้วนหลิงเทียนอีกครั้งตั้งแต่หัวจรดเท้า สุดท้ายดวงตาของมันก็ฉายแววดูแคลนรังเกียจออกมาอีกรอบ
“แต่เห็นเจ้าเตรียมพร้อมลงมือกับข้าแบบนี้ ข้าเองก็มิใช่คนใจแคบที่จะฆ่าเจ้าทิ้งโดยไม่ให้โอกาส…เอาเช่นนี้ปะไร! ข้าจักอยู่นิ่งๆตรงนี้ ขอเพียงการโจมตีของเจ้าสามารถล่วงล้ำเข้ามาในระยะ 10 หมี่จากตัวข้าได้ วันนี้ข้าจะไว้ชีวิตเจ้าสักครา…”
ขณะที่ชายวัยกลางคนร่างผอมพูดประโยคดังกล่าว น้ำเสียงมันก็เต็มไปด้วยความปรามาสทั้งดูถูกถึงขีดสุด!
ด้านต้วนหลิงเทียนตอนนี้ แววตาก็เผยความคับแค้นทั้งมีโมโหไม่น้อย! คำก็ดูถูก สองคำก็ดูถูก!!
“ฮ่า!!”
สุดท้ายต้วนหลิงเทียนที่เตรียมพร้อมลงมือแต่แรกก็ไม่อาจทานทนรับฟังวาจาปรามาสครั้งแล้วครั้งเล่าของชายวัยกลางคนร่างผอมได้ไหวสืบไป! ค่ายกลกระบี่เหนือศีรษะพลันเปล่งแสงสว่างจ้าออกมาทันใด!!
ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ!
…
ค่ายกลกระบี่ดั่งจะคำรามออกก็ไม่ปาน! มันพุ่งทะยานเข่นฆ่าสังหารออกไปอย่างดุร้าย! นอกจากนั้นยังปรากฏรังสีพลังสังหารอันเกรี้ยวกราดพุ่งซัดออกมาตามหลังติดๆ!!
และหากนับให้ดี ก็มีรังสีกระบี่สังหารทั้งสิ้น 12 กระบวนไล่หลังมาติดๆ!
เช่นนั้นเมื่อนับรวมกับค่ายกลกระบี่ทั้งชุดที่เข่นฆ่าสังหารนำมา กล่าวได้ว่าการโจมตีนี้ปะทุกระบวนสังหารออกทั้งสิ้น 13 กระบวนในเสี้ยวพริบตา!!
เห็นได้ชัดว่าเป็นต้วนหลิงเทียนที่ใช้ออกด้วยปฐมเวทย์กลืนกินเพิ่มพูนพลังถึงขีดสุดแล้ว ได้ใช้กระบี่เซียนอมตะออกด้วยค่ายกลกระบี่ อันเป็นเคล็ดพลังขอบเขตที่ 5 ขอบเขตสุดท้ายที่แข็งแกร่งที่สุดของยอดใจกระบี่ พร้อมผสานหนุนเสริมด้วยเวทย์พลังจู่โจมจากระนาบเทวโลกอย่าง 13 กระบี่บงกชฟ้า!!
ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ!
…
หลังค่ายกลกระบี่พุ่งทะยานเข่นฆ่าสังหารออกไปครู่หนึ่ง รังสีกระบี่สังหารทั้ง 12 กระบวนที่ซัดมาทีหลัง ก็เริ่มผสานหลอมรวมไล่มาจากท้ายจนผสานหลอมรวมเข้ากับค่ายกลกระบี่จนหมด! พลังอำนาจอันน่าพรั่นพรึงปะทุระเบิดออกมากลางห้วงอวกาศอย่างเกรี้ยวกราด!!
กลิ่นอายพลังยังรุนแรงราวกับเพียงเสี้ยวเศษพลังก็ทำลายล้างโลกได้ในพริบตา!!
ค่ายกลกระบี่ที่อัดแน่นไปด้วยพลังสังหารอันน่าพรั่นพรึงยามเข่นฆ่าออกไป! ห้วงอวกาศตามรายทางล้วนปริแตกฉีกขาดไปเป็นทิว! เบื้องหน้าส่องสว่างเจิดจ้าทว่าเบื้องหลังกลับมืดดำดั่งอนธการ มองแล้วช่างงดงามและเข้ากันอย่างประหลาด!!
หากมองจากไกลห่าง เสมือนมีอสรพิษมืดทมิฬตัวเขื่องกำลังไล่งับตะวันก็ว่า!
“นับว่าข้าดูเบาเจ้าแล้วจริงๆ…”
“ครึ่งก้าวเซียนอมตะของระนาบโลกียะคนหนึ่ง…กลับสำแดงพลังทำลายทัดเทียมกับการลงมือของ จินเซียน ในระนาบเทวโลกได้…คิดไม่ถึงเลยจริงๆ”
“แต่…ด้วยพลังน้อยนิดเพียงเท่านี้ เรื่องล่วงล้ำเข้ามาในระยะสิบหมี่จากร่างข้ายังเป็นไปมิได้!!”
เผชิญหน้ากับการลงมือเต็มกำลังของต้วนหลิงเทียน ชายวัยกลางคนร่างผอมยิ้มแสยะกล่าวออกด้วยความดูถูก!