WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 2548
ตอนที่ 2,548 : จ้าววังคลื่นสวรรค์ หยางชิงเจียน!
ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ!
…
เสียงหอนกระบี่กรีดฟ้าแว่วดังขึ้นเสียดหู เป็นค่ายกลกระบี่ของต้วนหลิงเทียน…หลังจากที่ยิงรังสีกระบี่ออกไปชุดหนึ่งเพื่อสร้างทางให้ถังเซี่ยวเซี่ยวแล้ว! พวกมันก็เริ่มเปล่งแสงทั้งม้วนวนเหนือศีรษะเขาอย่างฉับไวอีกอีกครั้ง!!
และในขณะที่พวกมันกำลังเปล่งแสงเรืองรองออกมาจนคล้ายดาราสุกสกาวกลางฟ้ายามค่ำคืนนั้นเอง
รังสีกระบี่อีกชุดพลันพุ่งซัดออกมาจากค่ายกลกระบี่ดังกล่าว!!
รังสีกระบี่ชุดนี้ก็พุ่งตรงไปในขุดที่ถังเซี่ยวเซี่ยวกับหยางอวี้ถิงอยู่!
ปง! ปง! ปง! ปง! ปง!
…
ทันใดนั้นอุบัติเสียงระเบิดดังขึ้นก้องฟ้า! เป็นรังสีกระบี่จากค่ายกลกระบี่ของต้วนหลิงเทียน พุ่งทะยานตัดอากาศไปฉับไวขวางกั้นพลังไร้สภาพสองขุมที่คิดขัดขวางถังเซี่ยวเซี่ยวไม่ให้ฆ่าหยางอวี้ถิงได้สำเร็จ!!
ถึงแม้พลังไร้สภาพสองขุมนั้น จะให้สัมผัสพลังอันยิ่งใหญ่สุดไพศาล เพราะมันถูกซัดออกมาจากเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์ทั้งสอง…
อย่างไรก็ตามเมื่ออยู่ต่อหน้าการโจมตีอันเกิดจากค่ายกลกระบี่ของต้วนหลิงเทียน ก็ทำได้แค่ระเบิดหักล้างก่อสร้างเสียงดังขึ้นในอากาศเท่านั้น!
ณ จุดปะทะก่อเกิดสายลมม้วนวนหอบคลื่นกระแทกกำจายออกไปทั่วสารทิศ!!
เปรียะ! เปรียะ! เปรียะ! เปรียะ!
…
ขณะเดียวกัน ณ จุดปะทะก็อุบัติรอยปริแตกมืดดำท่ามกลางความว่างเปล่า มองไปดั่งอสรพิษสีดำสนิทแกว่งหางวูบวาบ น่ากลัวพิกล!
ด้วยความแข็งแกร่งของต้วนหลิงเทียนตอนนี้ พอลงมือก็สามารถขัดขวางเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์ได้อย่างง่ายดาย
อย่างไรก็ตามเนื่องจากต้วนหลิงเทียนไม่ได้ใช้ยอดสมบัติสวรรค์ ทั้งไม่ได้ใช้เวทย์พลังจู่โจมอย่าง 13 กระบี่บงกชฟ้า เช่นนั้นการลงมือของเขาก็เพียงเทียบได้กับการโจมตีเต็มกำลังของเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์เท่านั้น และมากพอจะสลายการลงมือส่งๆของเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์ได้อย่างง่ายดาย
“หยุดมือ!!”
“เจ้ากล้า!!”
เซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์ทั้ง 2 คนที่เร่งรุดทะยานเข้ามา ไม่มีเวลาหันไปมองว่าเป็นผู้ใดที่ลงมือทำลายพลังของพวกมัน พวกมันก็ได้แต่ร้องตะโกนออกไปเสียงดัง เมื่อเห็นกริชของถังเซี่ยวเซี่ยวกำลังจะทะลวงคอหอยหยางอวี้ถิงอยู่รอมร่อ!!
ฉึกกก!!
อย่างไรก็ตามถังเซี่ยวเซี่ยวไม่แยแสเสียงตะโกนเยียบเย็นของพวกมันแม้แต่น้อย กริชในมือที่ตวัดจ้วงออกไปดั่งอสรพิษฉกกัด เสือกทะลวงลำคอของหยางอวี้ถิงจนทะลุ! เข่นฆ่าหยางอวี้ถิงที่ไม่มีกะใจจะต่อสู้ให้ตายคาที่ในชั่วพริบตา!!
กระทั่งหลังทะลวงลำคอฆ่าหยางอวี้ถิงแล้ว ถังเซี่ยวเซี่ยวยังคล้ายไม่พอใจและโทสะในใจยังไม่บรรเทา! ก็ปะทุพลังออกมาอีกครั้งทำลายร่างหยางอวี้ถิงจนแหลกไม่เหลือซาก!!
ถึงแม้หยางอวี้ถิงจะไม่ใช่คนฆ่าบรรพบุรุษของนาง
อย่างไรก็ตาม ในความคิดนางหากสารเลวหยางอวี้ถิงไม่คิดอยากแต่งกับนางแต่แรก เรื่องราวทั้งหมดคงไม่เกิดขึ้น!
กล่าวได้ว่าหยางอวี้ถิงเป็นฆาตกรฆ่าบรรพบุรุษของนางทางอ้อม และเป็นตัวต้นเหตุ!
ฟืด! ฟืด! ฟืด! ฟืด! ฟืด!
…
ขณะเดียวกัน พอได้เห็นฉากถังเซี่ยวเซี่ยวเข่นฆ่าจ้าววังน้อยไปอย่างดุร้าย เหล่าคนของวังคลื่นสวรรค์ทั้งหลายก็อดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเข้าด้วยความหนาวเหน็บ…
โดยเฉพาะเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์ ที่พึ่งมาใหม่ทั้ง 2!
พวกมันรู้ดี ว่าหากจ้าววังคลื่นสวรรค์ได้รับทราบเรื่องราว และรู้ว่าจ้าววังน้อยตกตายไปต่อหน้าต่อตาพวกมันโดยที่พวกมันไม่มีแม้แต่เวลาจะช่วยเหลือ พวกมันไม่รอดแน่!!
“กล้าดีอย่างไรถึงได้ฆ่านายน้อยวังคลื่นสวรรค์! ตายเสีย!!”
“นังแพศยาเจ้าตาย!!”
เซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์ทั้ง 2 ของวังคลื่นสวรรค์ ตอนนี้ได้แต่คิดทำคุณไถ่โทษ จึงไม่สนใจต้วนหลิงเทียนที่พึ่งลงมือขัดขวางพวกมันแม้แต่น้อย ในใจคิดเพียงแต่ต้องจัดการถังเซี่ยวเซี่ยวให้ได้! ทั่วร่างปะทุพลังชั่วชีวิต ทะยานพุ่งปรี่ตรงเข้าใส่ถังเซี่ยวเซี่ยวหมายลงมือเข่นฆ่าให้ตาย!!
“ถังเซี่ยวเซี่ยวตายแน่!”
จังหวะนี้คนวังคลื่นสวรรค์ส่วนใหญ่พากันคิดไปทำนองดังกล่าว
ถึงแม้ว่าเมื่อครู่สหายของถังเซี่ยวเซี่ยวจะหยุดการลงมือของอาวุโสเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์ทั้ง 2 ได้ แต่พวกมันหลายคนเห็นชัดเจน…
พลังฝีมือของสหายถังเซี่ยวเซี่ยวอย่างดีก็เทียบได้กับเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์เท่านั้น
แล้วอาศัยเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์คนเดียว จะต้านทานรับมือเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์สองคนได้อย่างไร?
เผชิญหน้ากับการเข่นฆ่าสังหารเข้ามาของสองเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์ ถังเซี่ยวเซี่ยวไม่ได้แตกตื่นหวาดกลัวแม้แต่นิดเดียว ทำราวกับเรื่องที่ทั้งคู่คิดฆ่านางไม่ได้ทำให้นางต้องใส่ใจแม้แต่น้อย
“ข้าเองก็อยากจะเห็น…ว่าใครมันจะตายกันแน่!”
เมื่อเห็นเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์ทั้ง 2 ทะยานเข้าใกล้ถังเซี่ยวเซี่ยว และต่างเร่งเร้าพลังดุร้ายตบฟาดฝ่ามือออกไปประหนึ่งฆ้อนยักษ์ หมายทุบถล่มถังเซี่ยวเซี่ยวให้ตายในกระบวนเดียว เสียงเยียบเย็นของต้วนหลิงเทียนพลันดังขึ้น!
ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ!
…
ทันใดนั้นเอง แม้ไม่ทราบตั้งแต่เมื่อไหร่ หากแต่รังสีกระบี่ที่ม้วนวนเป็นค่ายกลเหนือหัวเขา กลับแบ่งรังสีกระบี่ออกมาสิบกว่าสาย ม้วนวนก่อเกิดค่ายกลกระบี่อีกค่ายหนึ่งใต้ฝ่าเท้า! นำพาร่างเขาให้ท่องทะยานไปทางถังเซี่ยวเซี่ยวด้วยความเร็วสูงล้ำ!!
และตั้งแต่ต้นจนจบที่ต้วนหลิงเทียนลงมือ ความเร็วในการเคลื่อนไหวของเขาก็รวดเร็วสุดที่เซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์ทั้ง 2 จะตอบสนองสิ่งใดได้!
จนเมื่ออยู่ๆดีเบื้องหน้าสายตาก็คล้ายมีแสงสว่างกระพริบวาบขึ้นวูบหนึ่ง และปรากฏบางสิ่งอยู่ตรงหน้า ทีท่าของพวกมันก็แปรเปลี่ยนไปใหญ่หลวง!
ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ!
…
และในขณะที่ท่าทีของเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์ทั้ง 2 เปลี่ยนไปไม่สู้ดี ค่ายกลกระบี่ใต้เท้าต้วนหลิงเทียนคล้ายแปรสภาพกลับกลายเป็นเคียวแห่งความตาย ไม่เพียงแต่ทำลายพลังกระบวนท่าของทั้งคู่ที่ใช้ออก ยังกลืนร่างพวกมันทั้งคู่จนตกตายไม่เหลือซาก!!
ทั้งหมดทั้งมวล….มีเพียงเสียงหอนของห่ากระบี่ดังขึ้นวูบเดียวเท่านั้น!
เซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์ 2 คนก็อันตรธานหายไปแล้ว!!
“นี่…”
“ปะ…เป็นไปได้อย่างไร!?”
…
ในบรรดาเหล่าคนของวังคลื่นสวรรค์ทั้งหลายนั้น ที่ตอบสนองเรื่องราวก่อนใครก็คือกลุ่มเซียนอมตะเสเพล 6 ทัณฑ์ และ 5 ทัณฑ์…
และพอพวกมันเห็นว่าอยู่ๆร่างชายหนุ่มชุดม่วงก็วูบไปขวางเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์ทั้ง 2 ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ! ทั้งไม่ทราบลงมืออย่างไรแต่กลับลบเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์ทั้ง 2 ให้สาบสูญไปจากสวรรค์และโลกได้ง่ายดาย พวกมันก็หวาดกลัวจนแผ่นหลังชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อเย็น!!
และพวกมันก็ล้วนเป็นคนที่บังขวางหยางอวี้ถิงก่อนหน้านี้ทั้งสิ้น…!
ทว่ายังดีที่ตอนนั้นต้วนหลิงเทียนเพียงคิดไล่พวกมันออกไปให้พ้นทาง…
พวกมันสามารถจินตนาการออกได้ไม่ยาก
หากชายหนุ่มชุดม่วงผู้นี้ไม่เพียงแค่คิดไล่พวกมันให้พ้นทาง แต่คิดเข่นฆ่าสังหารพวกมันทิ้ง…น่ากลัวพวกมันคงได้ตกตายกลายเป็นผีโง่งมใต้คมกระบี่อีกฝ่ายอย่างไม่รู้ตัว!!
“มันเป็นใครกัน?!”
“มือดีที่ถังเซี่ยวเซี่ยวจ้างมาให้ช่วยหรือ?”
“มิน่าแปลกใจเลยที่ไฉนถังเซี่ยวเซี่ยวหาญกล้าบุกฆ่ามาถึงวังคลื่นสวรรค์ของพวกเราอย่างอุกอาจ…ที่แท้นางมั่นใจในมือดีที่นางพามา!!”
“มิผิด นางสมควรรู้ดีว่าท่านจ้าววังของพวกเราคือเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์…หากแต่นางยังกล้าเข่นฆ่าบุกมา! หรือชายหนุ่มชุดม่วงผู้นี้จะเป็นเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ชนชั้นสุดยอดฝีมือ!?”
…
หลังจากนั้นคนอื่นๆของวังคลื่นสวรรค์ก็ทยอยกันฟื้นคืนสติ พวกมันแต่ละคนเริ่มมองจ้องไปยังต้วนหลิงเทียนด้วยท่าทางหวาดๆ
ราวกับกลัวว่าอยู่ๆต้วนหลิงเทียนจะลงมือฆ่าพวกมัน!
“สุดยอดฝีมือขอบเขตเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์…?”
เมื่อได้ยินวาจาเอ่ยคาดเดาดังกล่าว เหล่าเซียนอมตะเสเพล 5 ทัณฑ์ และเซียนอมตะเสเพล 6 ทัณฑ์ของวังคลื่นสวรรค์ที่ขวางบังหยางอวี้ถิงก่อนหน้าถึงกับเสียวสันหลังวาบ มองไปยังต้วนหลิงเทียนอีกครั้งแววตาก็เต็มไปด้วยความหวาดผวาไร้สิ้นสุด!
ในขณะที่กลุ่มคนของวังคลื่นสวรรค์กำลังมองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาหวาดกลัวนั้นเอง
ทันใดนั้น
“ถิงเอ้อร์!!”
เสียงคำรามที่ดังปานจะสะท้านไปทั่วปฐพีหนึ่ง พลันกึกก้องออกมาจากส่วนลึกของวังคลื่นสวรรค์!
นอกจากเสียงคำรามดังกล่าวแล้ว ยังมีเสียงแหวกฝ่าสายลมอันฉับไวเสียงหนึ่ง!
ฟุ่บ!!
จากนั้นไม่ทันไร ในสายตาของทุกคนก็แลเห็นร่างชายวัยกลางคนในชุดคลุมสีน้ำเงินคนหนึ่ง
ชายวัยกลางคนผู้นี้มีใบหน้ารูปเหลี่ยม หว่างคิ้วไม่ขาดบารมีทั้งความน่าเกรงขาม เห็นได้ชัดว่ามันเป็นคนที่อยู่ในตำแหน่งสูงส่งมาเนิ่นนาน
“ท่านจ้าววัง!!”
“ท่านจ้าววัง!!”
…
พอเห็นร่าผู้มาใหม่ชัดถนัดตา เหล่าคนของวังคลื่นสวรรค์ทั้งหลายในจุดเกิดเหตุก็เร่งประสานมือโค้งคารวะทักทายออกไปอย่างนอบน้อม!
“จ้าววังคลื่นสวรรค์?”
คิ้วต้วนหลิงเทียนเลิกขึ้น
ไม่เพียงยืนยันตัวตนของผู้มาใหม่ได้ เขายังล่วงรู้นามคนผู้นี้จากเหล่าอาวุโสวังคลื่นสวรรค์ที่คารวะทักทายอีกด้วย
จ้าววังคลื่นสวรรค์ หยางชิงเจียน
“ถังเซี่ยวเซี่ยว เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงได้ฆ่าลูกชายข้า!!”
หยางชิงเจียนเพิกเฉยการคารวะทักทายด้วยความเคารพของเหล่าศิษย์โดยสิ้นเชิง ตั้งแต่ที่ปรากฏตัว มันก็เอาแต่มองจ้องถังเซี่ยวเซี่ยวไม่วางตา!
เห็นได้ชัดว่าก่อนที่มันจะมาถึงที่นี่ มันได้ทราบเรื่องที่ลูกชายมันอย่างหยางอวี้ถิงตกตายแต่แรก
แต่นี่ก็เป็นเรื่องธรรมดา…
จ้าววังคลื่นสวรรค์หยางชิงเจียนย่อมมีลูกแก้ววิญญาณของหยางอวี้ถิงพกติดตัว เช่นนั้นพอลูกชายของมันตกตายมันก็ย่อมรู้ได้ทันที จากนั้นเพียงอาศัยยันต์เต๋าแผ่นหนึ่ง ก็สามารถเห็นฉากสุดท้ายก่อนตายของหยางอวี้ถิงได้…
เช่นนั้นมันจึงรู้ได้ทันทีว่าคนฆ่าหยางอวี้ถิงก็คือถังเซี่ยวเซี่ยว!
“แล้วยังไง?”
เผชิญหน้ากับคำถามของหยางชิงเจียนจ้าววังคลื่นสวรรค์ ถังเซี่ยวเซี่ยวไม่เพียงแต่จะไม่หวาดกลัว ยังย้อนถามออกไปด้วยรอยยิ้มเยาะ!!
“เจ้า…เจ้า…”
ได้ยินคำย้อนถามด้วยท่าทางแบบนั้น หยางชิงเจียนย่อมของขึ้นเป็นธรรมดา หากแต่มันก็ไม่ได้ลงมือทำอะไร
ในฐานะที่เป็นถึงจ้าววังคลื่นสวรรค์ ไหนเลยมันจะเป็นชนชั้นโง่งม?
ในเมื่อถังเซี่ยวเซี่ยวหาญกล้าบุกมาฆ่าคนอย่างอุกอาจถึงวังคลื่นสวรรค์แบบนี้ กระทั่งยังกล้าถือดีแม้กระทั่งอยู่ต่อหน้ามัน ไม่พ้นนางต้องมีอะไรให้พึ่งพิงแน่…
และสิ่งที่นางพึ่งพา เป็นธรรมดาว่าไม่พ้นชายหนุ่มในชุดม่วงข้างกาย!
‘ชายหนุ่มชุดม่วงผู้นี้…สิบในสิบสมควรเป็นเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์แน่!’
กล่าวได้ว่าจังหวะนี้ไม่ใช่แค่ศิษย์วังคลื่นสวรรค์เท่านั้นที่คาดเดาว่าต้วนหลิงเทียนเป็นเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ ตัวจ้าววังคลื่นสวรรค์อย่างหยางชิงเจียนเองก็คิดแบบนั้นไม่ต่าง
หากชายหนุมชุดม่วงคนนี้ไม่ใช่เซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ ไหนเลยถังเซี่ยวเซี่ยวจะแลดูมั่นใจถึงขนาดนั้น!?
ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!
…
ทันใดนั้นเอง พร้อมๆกับเสียงแหวกฝ่าสายลมด้วยความเร็วสูงที่ดังขึ้นติดต่อกันหลายชุด พลันปรากฏร่างเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์ และเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์ที่อยู่ด้านในวังคลื่นสวรรค์พากันเดินทางมาถึง
พอพวกมันมาถึงก็ถามเรื่องราวจากคนรอบๆจนทราบความเป็นไปทันที
จังหวะนี้พวกมันก็อดหันไปมองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตายำเกรงไม่ได้
“คุณชายท่านนี้…”
และในที่สุดก็เป็นจ้าววังคลื่นสวรรค์หยางชิงเจียน ที่เป็นฝ่ายริเริ่มเคลื่อนไหว มันป้องมือประสานมาทางต้วนหลิงเทียนพลางกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงจริงใจ “แม้ตัวเรามิทราบว่าที่ท่านยื่นมือเข้าช่วยเหลือถังเซี่ยวเซี่ยวครานี้ ทางนิกายถังสัญญาจะมอบอันใดให้คุณชายบ้าง…”
“แต่เรา หยางชิงเจียน จ้าววังคลื่นสวรรค์ขอกล่าวบอกต่อคุณชายท่านไว้ ณ ที่นี้…มิว่าอันใดก็ตามที่ทางนิกายถังมอบให้ท่าน! ทางวังคลื่นสวรรค์ของพวกเรายินดีมอบให้เป็น 2 เท่า! พวกเราขอเพียงให้คุณชายวางมือจากเรื่องราวระหว่างพวกเราวังคลื่นสวรรค์กับนิกายถังเท่านั้น…”
เห็นได้ชัดว่าหยางชิงเจียนก็คิดว่าต้วนหลิงเทียนเป็นคนที่นิกายถังว่าจ้างมา
และไม่ใช่แค่หยางชิงเจียนจ้าววังคลื่นสวรรค์เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นใครหน้าไหนของวังคลื่นสวรรค์ที่ลอยล่องเหนือฟ้าที่นี่ ล้วนคิดว่าต้วนหลิงเทียนเป็นเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ที่ถูกจ้างวานมาทั้งสิ้น!!
อันที่จริงตราบใดที่พวกมันสักคนกล้าที่จะแผ่สำนึกเทวะมาตรวจสอบต้วนหลิงเทียนดู เพียงแค่เวลาเสี้ยวพริบตาพวกมันก็จะรู้ได้ทันทีว่าต้วนหลิงเทียนเป็นครึ่งก้าวเซียนอมตะ!
แต่ยังจะมีใครกล้าทำแบบนั้น!?