WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 2557
ตอนที่ 2,557 : ป้ายหยก ที่เซี่ยเจี๋ยให้ไว้
“เพราะหากเจ้าทำ…เจ้าก็สามารถหลบหนีเอาตัวรอดไปได้ง่ายๆ”
สายตาที่ต้วนหลิงเทียนใช้มองชายชราตอนนี้ เต็มไปด้วยความสนใจนัก
“หากข้าคิดจะเอาตัวรอด วันนี้ข้าคงไม่เลือกมาที่นี่แต่แรก…”
ชายชราหาได้หลงเหลือท่าทีทรงพลังเข้มแข็งเหมือนก่อนหน้าอีกต่อไป ตอนนี้มันแลคล้ายผู้เฒ่าเหนื่อยล้าใกล้สิ้นแรงคนหนึ่ง ที่กำลังคลี่ยิ้มแหยๆ
“เพราะตอนแรกข้าก็คิดไว้แล้ว ว่าอย่างไรวันนี้ภรรยาเจ้าต้องมาด้วยแน่…”
“และพลังฝีมือของภรรยาเจ้าข้าก็ได้ยืนยันมาเรียบร้อย…ว่าแข็งแกร่งทัดเทียมกับขอบเขตจินเซียนบนระนาบเทวโลก เช่นนั้นไฉนข้ายังไม่รู้ว่าต้องตาย?”
ชายชรากล่าว
“งั้น…เจ้ามาเพราะคนของเจ้า?”
ต้วนหลิงเทียนกล่าถามออกมาเสียงเบา
“ใช่”
ชายชราไม่ปฏิเสธ
“ด้วยระดับพลังฝึกปรือของเจ้าตอนนี้ กล่าวได้ว่าเจ้าขาดอีกแค่ก้าวเดียวเท่านั้น และขอเพียงเจ้าข้ามผ่านหายนะทัณฑ์เซียนอมตะเสเพลรอบที่ 10 ไปได้ เจ้าก็จะได้ขึ้นสู่ระนาบเทวโลก กลายเป็นจินเซียนทันที…เจ้าทำแบบนี้มันคุ้มค่าแล้วรึ?”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวถามออกมาอีกครั้ง
“ยังไม่คุ้มค่าตรงที่ใด…ในเมื่อทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นพี่น้องเผ่าพันธุ์ปีศาจของข้าทั้งสิ้น”
ชายชรากล่าว
“ใต้เท้าอู๋จี๋!”
“ใต้เท้าอู๋จี๋!”
…
หลังได้ยินคำพูดของชายชรา เหล่าปีศาจทั้งหลายอดไม่ได้ที่จะบังเกิดความซาบซึ้งตื้นตันนัก
เหล่าปีศาจนั้นแม้จะเห็นแล้วว่าอู๋จี๋ไม่อาจหยุดยั้งต้วนหลิงเทียนไม่ให้เข่นฆ่าพวกมันได้อีกต่อไป แต่พวกมันก็ไม่คิดโทษว่าอู๋จี๋แม้แต่น้อย
มาตอนนี้พอได้ยินคำพูดดังกล่าวของอู๋จี๋ ใจพวกมันก็บังเกิดความเคารพเทิดทูนอีกฝ่ายถึงขีดสุด!
“ต้วนหลิงเทียน”
ตอนนี้เองชายชราพลันมองจ้องต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาจริงจังกล่าวออกเสียงหนัก “ข้าหวังว่าวันนี้หลังจากที่ข้าตาย…เจ้าสามารถละเว้นพี่น้องเผ่าพันธุ์ปีศาจของข้าสักครั้ง! ข้าจะฝากฝังให้เซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์ทั้ง 7 จัดการอพยพเผ่าปีศาจออกจากระนาบเซียนและกลับไปยังแดนเนรเทศโดยเร็วที่สุด…”
“และถึงตอนนั้นเผ่าปีศาจของข้าจะซ่อมแซมม่านพลังฉาบคลุมช่องโหว่บริเวณกำแพงกั้นแดนระหว่างระนาบเซียนกับระนาบที่ถูกทอดทิ้งทันที คืนความสงบให้ระนาบเซียนของพวกเจ้า…”
กล่าวถึงท้ายประโยค น้ำเสียงของชายชราแฝงไว้ด้วยความวิงวอน
“ใต้เท้าอู๋จี๋!”
“ใต้เท้าอู๋จี๋!”
…
เหล่าปีศาจทั้งหลายพอได้ยินวาจาสั่งเสียดังกล่าว ก็บังเกิดความสะเทือนใจหนักนัก
“ข้าบอกว่าจะฆ่าเจ้าตั้งแต่ตอนไหน?”
ต้วนหลิงเทียนเหลือบมองชายชรา พลางถามออกมาเสียงห้วน
“เจ้า…เจ้าไม่คิดฆ่าข้าหรือ?”
ร่างชายชราสะท้านไปเบาๆ มองจ้องต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาเหลือเชื่อ
เหล่าสมาชิกเผ่าพันธุ์ปีศาจทั้งหลายก็มองจ้องต้วนหลิงเทียนเป็นสายตาเดียวกัน และหวังว่าที่ต้วนหลิงเทียนพูดเมื่อครู่จะเป็นเรื่องจริงไม่ใช่คำลวง
ต้วนหลิงเทียนไม่ได้ตอบคำชายชรา เพียงเอ่ยกับชายชราอย่างไร้แยแส “ยกเว้นเผ่าปีศาจมนุษย์ที่อยากอยู่ในระนาบเซียน…ข้าจะให้เวลาปีศาจเผ่าอื่นๆออกจากระนาบเซียน 3 เดือนเท่านั้น”
“นอกจากนี้ เมื่อครึ่งเดือนที่แล้วข้าได้ไปเยือนเผ่าหงส์ฟ้า ทั้งมอบยอดสมบัติสวรรค์ไว้ให้เซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์ทั้งหลายของเผ่าหงส์ฟ้าเรียบร้อย…เช่นนั้นพวกเจ้าอย่าได้หวังว่าจะเล่นลูกไม้อะไรหลังข้าขึ้นสู่ระนาบเทวโลกเสียให้ยาก”
“ถึงข้าต้องขึ้นไปยังเบื้องบนในสักวัน…แต่อาศัยเผ่าหงส์ฟ้าก็มากพอจะจัดการเผ่าปีศาจของพวกเจ้า!”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกเสียงเหี้ยม
พอได้ฟังวาจาดังกล่าวของต้วนหลิงเทียน ชายชราก็บังเกิดความอิจฉาจับใจนัก!
ต้องทราบด้วยว่าถึงแม้ตัวมันจะเป็นเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ แต่มันก็ไม่มีแม้แต่ยอดสมบัติสวรรค์สักชิ้น
ทว่าตอนนี้เหล่าเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์ของเผ่าหงส์ฟ้ากลับได้รับยอดสมบัติสวรรค์ไปครองง่ายๆ!
เหล่าเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์ทั้ง 7 ของเผ่าปีศาจที่อยู่ไม่ไกล ก็กำหมัดกัดฟันแน่นด้วยความอิจฉาริษยา ในใจยังเต็มไปด้วยความเกลียดชังล้นปรี่!!
เป็นธรรมดาว่าเป้าของความอิจฉาริษยาและความเกลียดชังของพวกมันก็คือ คนของเผ่าหงส์ฟ้า!
ไม่ใช่ว่าก็เป็นเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์เหมือนกันหรือไร ไฉนชีวิตถึงได้แตกต่างกันขนาดนี้เล่า?
“ไปกันเถอะ”
ตอนนี้ในเมื่อจัดการเรื่องราวกับเผ่าปีศาจเรียบร้อยแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็คร้านจะอยู่ที่นี่สืบต่อ หันไปมองถังเซี่ยวเซี่ยวที่ลอยร่างอยู่ด้านข้าง แล้วกล่าวชวนนางทันที
หลังจากนั้นเขาก็สะบัดมือฉีกเปิดมิติ แล้วพานางวูบหายเข้าไปในพริบตา…
สุดท้ายก็คงเหลือแต่ 2 ทัพที่ลอยร่างเผชิญหน้ากัน
และทันทีที่เห็นแผ่นหลังของต้วนหลิงเทียนหายลับไปในรอยแยกมิติ ชายชราขอบเขตเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ก็พอได้ระบายลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก
ก่อนที่ต้วนหลิงเทียนจะจากไป สิ่งที่มันกลัวมากที่สุดก็คือต้วนหลิงเทียนเกิดเปลี่ยนใจ และหันกลับมาฆ่ามันทิ้ง…
“ใต้เท้าอู๋จี๋…ถึงแม้ต้วนหลิงเทียนนั่นมันจะทรงพลังทัดเทียมกับตัวตนขอบเขตจินเซียนบนระนาบเทวโลก แต่อย่างไรก็ตาม พลังฝึกปรือของมันก็เป็นแค่ครึ่งก้าวเซียนอมตะเท่านั้น…หากพวกเราพบเจอผู้ที่บ่มเพาะร่างวิญญาณควบแน่นในบันทึกโบราณพวกเราก็น่าจะใช้ให้มันลอบสังหารต้วนหลิเทียนได้ไม่ยาก!”
ตอนนี้เอง 1 ใน 7 เซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์พลันส่งเสียงผ่านพลังไปถึงชายชรา
“ฮึ่ม!”
อย่างไรก็ตามพอชายชราได้ยินข้อเสนอดังกล่าว มันก็พ่นลมสบถเสียงเย็น ค่อยกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียหงุดหงิด “มันเป็นแค่ครึ่งก้าวเซียนอมตะ แล้วเจ้ามั่นใจหรือไม่ว่าภรรยาของมันจะเป็นครึ่งก้าวเซียนอมตะด้วย? และหากภรรยาของมันรู้เรื่องที่มันตกตาย จนย้อนกลับลงมาจากระนาบเทวโลกในสักวัน ถึงตอนนั้นเผ่าพันธุ์ปีศาจของเราไม่ถึงกาลดับสูญหรือไร?!”
“นอกจากนี้ถึงแม้พวกเราจะพบเจอเซียนอมตะเสเพลที่บ่มเพาะร่างวิญญาณควบแน่นจริง…แต่อาศัยพลังของต้วนหลิงเทียนนั่นในตอนนี้ เจ้าจะเอาอันใดไปลอบสังหารมัน? และขอเพียงมันรู้ตัวได้ทันท่วงทีมันก็ฆ่าเซียนอมตะเสเพลที่บ่มเพะร่างวิญญาณควบแน่นของเจ้าได้ในพริบตา!”
เสียงตำหนิที่ส่งผ่านพลังมาของชายชรา ทำเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์ของเผ่าปีศาจตนนั้นไม่กล้าพูดอะไรต่อแม้ครึ่งคำ
“พวกเจ้ารั้งอยู่ในนครแห่งบาปก่อนอย่าพึ่งไปไหน รอข้าเสร็จธุระแล้วจะแวะมาหา”
ก่อนที่ต้วนหลิงเทียนจะหายไปในห้วงมิติ เขาก็ได้ส่งเสียงผ่านพลังดังกล่าวไปถึงคนสองคน
ศิษย์วังเซียนสัญจร หวงฉี่หลิง กับจ้าววังเซียนยสัญจรอวี่เหวินฮ่าวเฉิน
ได้ยินเสียงผ่านพลังของต้วนหลิงเทียน ทั้ง 2 ก็ตื่นเต้นยินดีนัก
เพราะนี่บอกให้พวกมันรู้
ว่ายอดฝีมือที่แข็งแกร่งดั่งเทพเจ้า ยังไม่ได้ลืมเลือนพวกมัน…
…
เปรียะ! เปรียะ!
หลังต้วนหลิงเทียนพาถังเซี่ยวเซี่ยววูบเข้าสู่รอยแยกมิติ เขาก็ออกจากภูมิภาคเบื้องบนของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋ามาโผล่ยังภูมิภาคเบื้องล่างของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าอีกครั้ง
สำหรับเขาแล้ว
เขาได้จัดการแก้ไขเรื่องการรุกรานของเผ่าปีศาจเท่าที่จะทำได้เรียบร้อย
ถึงแม้ว่าตอนนี้พลังเซียนอมตะจากระนาบเทวโลกจะสาดส่องลงมาฉุดดึงเข้าขึ้นสวรรค์ เขาก็ไม่ต้องกังวลเรื่องของเผ่าปีศาจใดๆอีกต่อไป
เพราะเขาได้สร้างหลักประกันไว้แล้ว
เซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์ของเผ่าหงส์ฟ้า ได้รับยอดสมบัติสวรรค์จากเขาถ้วนหน้า
และหลังจากเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์เหล่านี้ได้รับยอดสมบัติสวรรค์ไป แต่ละคนก็แข็งแกร่งขึ้นจนไม่ต่างอะไรจากเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ของเผ่าปีศาจเลย
เรียกว่าขอเพียงแค่ร่วมมือกัน 2 คน ก็กลุ้มรุมสังหารเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ของเผ่าปีศาจได้ไม่ยากเย็น!
สำหรับเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์ทั้ง 7 ของเผ่าปีศาจนั้น ขอเพียงเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์ของเผ่าหงส์ฟ้าที่มียอดสมบัติสวรรค์บุกไปสักคน ก็สามารถกวาดล้างสังหารพวกมันได้อย่างไม่ยากเย็น!
“ทวีปเมฆาล่อง…”
หลังย้อนกลับมายังภูมิภาคเบื้องล่างของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า ต้วนหลิงเทียนกับถังเซี่ยวเซี่ยวก็ไม่ได้เสียเวลาอยู่ในดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าภูมิภาคเบื้องล่างแต่อย่างไร แต่เลือกจะพาถังเซี่ยวเซี่ยวเหินบินไปยังทวีปเมฆาล่องซึ่งเป็นบ้านเกิดที่เรียกว่าเป็นต้นกำเนิดของเขาในโลกนี้ทันที
ทวีปเมฆาล่องของเขาเสมือนถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนดินแดนรอบนอก กับส่วนเขตปกครองของราชวงศ์…
และเขาก็มาจาก 1 ใน 10 ราชวงศ์ของทวีปเมฆาล่อง
ที่นั่นยังมีสหายในวัยเยาว์ของเขาอยู่
การกลับมาครั้งนี้เขาไม่ได้คิดจะไปรบกวนวิถีชีวิตอะไรของสหายเก่า เพียงอยากมาเฝ้ามองทุกคนอย่างลับๆจากมุมมืดเท่านั้น และนี่ถือว่าเป็นการเติมเต็มความต้องการสุดท้ายในใจก่อนที่เขาจะออกจากระนาบเซียน…
ต้วนหลิงเทียนได้วางแผนไว้แล้ว ว่าหลังจากเสร็จเรื่องในระนาบเซียนเมื่อไหร่ เขาจะรีบออกเดินทางไปยังระนาบเหยียนหวงทันที จากนั้นก็ฝึกฝนบ่มเพาะอยู่ในระนาบเหยียนหวงเพื่อรอคอยให้พลังเซียนอมตะจากสวรรค์สาดส่องลงมาฉุดดึงเขาขึ้นไป…
ตอนนี้เกรงว่าแม้แต่ต้วนหลิงเทียนเองก็ยังไม่รู้ตัว…
ว่าที่ไฉนเขาจึงรู้สึกอยากรีบออกไปจากระนาบเซียนแห่งนี้ให้พ้นๆโดยเร็วนั้น ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะ จิตใต้สำนึกของเขารู้สึกว่าสถานที่แห่งนี้คือสถานที่แห่งความทุกข์ของเขา! ยิ่งเขาอยู่ที่นี่เท่าไหร่…เขาก็ยิ่งคิดถึงเค่อเอ๋อและคนอื่นๆในครอบครัวรวมทั้งเหล่าสหายที่ถูกอวิ๋นชิงเหยียนจับไปมากขึ้นเท่านั้น!!
และเมื่อไหร่ก็ตามที่คิดถึงทุกคน เขาก็อดไม่ได้ที่จะโทษตัวเองที่ไร้ประโยชน์ ชิงชังความอ่อนแอไร้พลังของตัวที่ทำอะไรไม่ได้เลย
“จะว่าไป ไม่รู้จริงๆด้วยระดับพลังของข้าตอนนี้…หากข้าใช้พลังขึ้นมา ปรากฏการณ์ฟ้าดินที่นี่จะเป็นยังไงบ้าง…”
ต้วนหลิงเทียนย่อมยังไม่ลืม ว่าทวีปเมฆาล่องนั้น นับเป็นสถานที่อันแปลกประหลาดประการหนึ่ง นั่นคือยามเมื่อผู้ฝึกตนใช้พลังออกมา พลังวิญญาณฟ้าดินในสวรรค์และโลกจะตอบรับพลังงานของผู้ใช้ และเริ่มก่อสร้างปรากฏการณ์ฟ้าดินเผยให้เห็นพลังความแข็งแกร่งออกมา
เงาร่างช้างแมมมอธโบราณเอย มังกรโบราณเอย มังกรดำเอย…
ซู่มม!!
ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ต้วนหลิงเทียนก็ไม่รอช้าอะไร เขาโคจรเร่งเร้าพลังให้พุ่งผ่านชีพจรเซียนทั้ง 99 สายไปยังช่องพลังทั่วร่าง จนพลังงานปะทุออกทั่วร่างดังเพลิงไฟ!
ครืน! ครืน! ครืน! ครืน! ครืน! ครืน!
…
ต้วนหลิงเทียนพลันได้ยินเสียงจากความว่างเปล่าเหนือศีรษะทันที พอแหงนมองขึ้นไป เขาก็พบว่าพลังวิญญาณฟ้าดินกำลังหลั่งไหลมาจากทุกทั่วสารทิศ ทำให้เขาลุ้นระทึกนักว่ามันจะสร้างปรากฏการณ์ออกมาอย่างไร!
อย่างไรก็ตามเนิ่นนานผ่านไปแม้ปรากฏการณ์ยังไม่เกิด แต่ก็ทำให้ต้วนหลิงเทียนตะลึงไม่น้อย
เพราะตอนนี้สูงขึ้นไปบนฟ้า พลังวิญญาณฟ้าดินที่หลั่งไหลมาจากทุกทั่วสารทิศ ได้ควบรวมกันจนไม่ต่างอะไรจากเมฆดำทมิฬขนาดมหึมาปานจะปิดฟ้าบังตะวัน! แต่อย่างไรก็ตามพวกมันควบรวมอยู่นานแต่กลับไม่เริ่มก่อสร้างปรากฏการณ์ฟ้าดินอะไรให้เห็น!!
“ต้องรออีกนานแค่ไหนล่ะเนี่ย…”
จังหวะนี้ต้วนหลิงเทียนได้แต่เหม่อมองอยู่สักพัก หากแต่เมฆทะมึนบนฟ้ายังไม่เริ่มขึ้นรูปใดๆ เพียงแผ่ขยายออกไปมากขึ้นเรื่อยๆเท่านั้น
“นี่เจ้ากำลังทำอะไรอยู่เหรอ?”
ถังเซี่ยวเซี่ยวที่ลอยร่างอยู่ข้างๆต้วนหลิงเทียนสุดท้ายก็ทนสงสัยไม่ไหวจำต้องกล่าวถามออกมา
เพราะนางดูอยู่นาน แต่ไม่รู้ต้วนหลิงเทียนคิดจะทำอะไรกันแน่
จนเมื่อต้วนหลิงเทียนอธิบายให้นางฟัง นางก็ลองเร่งเร้าพลังออกมา หมายกระตุ้นให้เกิดปรากฏการณ์ฟ้าดินดูบ้าง
อนิจจาปรากฏการณ์ของนางก็ไม่ต่างอะไรจากต้วนหลิงเทียนเลย ปรากฏให้เห็นเพียงแพเมฆดำเท่านั้น ไม่มีช้างแมมมอธโบราณ มังกร หรือมังกรดำอะไร
“สงสัยระดับพลังของพวกเราจะสูงเกินไป ไอ้ปรากฏการณ์ฟ้าดินที่เจ้าว่าคงไม่อาจรวบรวมพลังวิญญาณฟ้าดินมากพอจะก่อเกิดเงาร่างมังกรคชสารอะไรของเจ้าให้ครบจำนวนได้ในเวลาอันสั้น…”
ถังเซี่ยวเซี่ยวเดา
“ก็คงอย่างนั้นล่ะ”
ต้วนหลิงเทียนพยักหน้า และเลิกล้มทันที
“หืม?”
ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนกำลังจะเลิกล้ม และเตรียมกลับบ้านเกิดเพื่อไปลอบมองเหล่าสหายพร้อมถังเซี่ยวเซี่ยว ร่างเขาก็ชะงักไปทันใด
คล้ายมีอะไรบางอย่างที่นึกไม่ถึงเกิดขึ้น!
“มีอะไรหรือ?”
ถังเซี่ยวเซี่ยวก็ชะงักเล็กน้อย และหันไปมองถามต้วนหลิงเทียนด้วยสงสัย
อย่างไรก็ตามคราวนี้ต้วนหลิงเทียนไม่ตอบคำอะไรเพียงยกมือขึ้นมา
และพอเขายกมือขึ้นมา ก็ปรากฏป้ายหยกป้ายหนึ่งผุดขึ้นจากความว่างเปล่า ตัวป้ายหยกยังคงเปล่งแสงลี้ลับออกมาเหมือนเดิม…
“เอ๋ ป้ายหยกนี่มัน…ไม่ใช่ป้านหยกที่อาวุโสเซี่ยเจี๋ยมอบไว้ให้เจ้าหรอกเหรอ?”
ถังเซี่ยวเซี่ยวย่อมจดจำได้ว่าป้ายหยกดังกล่าว ต้วนหลิงเทียนได้รับมาจากตัวตนทรงพลังที่ประกาศตัวว่าชื่อ เซี่ยเจี๋ย จากดินแดนแห่งทวยเทพ
ทันใดนั้นเอง
วู้มมม!!
ไม่ทันที่ต้วนหลิงเทียนจะได้ทำอะไร อยู่ดีๆป้ายหยกก็เปล่งลำแสงประหลาดพุ่งขึ้นไปบนฟ้าดังเสา! ก่อนที่เสาลำแสงดังกล่าวจะเริ่มหักลงจากฟ้าในฉับพลัน สาดส่องไปทางทิศใต้!
ราวกับลำแสงดังกล่าวกำลังชี้นำให้เขาไปที่ไหนสักแห่ง!!