WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 2582
ตอนที่ 2,582 : ราว ‘เทพเจ้า’
ในเวลานี้สือฟูฉางทั้ง 8 รวมถึงหวังเวยล้วนกระจ่างชัด
ว่าการลงมือของต้วนหลิงเทียนก่อนหน้านั้น ได้ยั้งมือเอาไว้!
กระทั่งยั้งมือไว้มาก!
‘บัดซบ! พลังของมัน…ไฉนถึงร้ายกาจได้ขนาดนี้!? จากที่เห็น…พลังของมันไม่ได้ด้อยไปกว่าไป่ฟูฉางเลย!’
หวังเวยที่ก่อนหน้ามองจ้องต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาดุร้ายราวหมาป่าหิวโหยนั้น
ตอนนี้พอได้เห็นพลังที่แท้จริงอันร้ายกาจของต้วนหลิงเทียน หน้ามันก็เหวอไปจนไม่น่าดู มองต้วนหลิงเทียนอีกครั้ง แววตาดุร้ายกระเหี้ยนกระหือรือล้วนมลายหาย หลงเหลือไว้ก็แต่เพียงความหวาดกลัว!
มันไม่คิดไม่ฝันเลย
ว่าชายหนุ่มชุดม่วงที่พึ่งขึ้นสวรรค์มาใหม่ กลับทรงพลังขนาดนี้!
กระทั่งก่อนหน้าแม้จะยั้งมือไว้มากแล้ว แต่ก็เอาชนะมันได้อย่างราบคาบ!
“นี่มัน…เป็นไปได้ยังไงกัน!?”
“ไม่ใช่ว่ามันคือเซียนอมตะสวรรค์หน้าใหม่ ที่พึ่งมาจากสระกำเนิดเซียนอมตะ…รึไง?”
“ลองพวกเราไม่เห็นว่ามันลงมือเช่นไรแบบนี้…มันไม่น่าจะอ่อนแอกว่าไป่ฟูฉางคนไหนของกองทัพมังกรเงินเราด้วยซ้ำ!”
“ข้ารู้! แค่กระบวนท่าของมันที่ข้ามองตามไม่ทันตอนนี้…ก็เทียบได้กับไป่ฟูฉางทั้ง 2 ของพวกเราแล้ว!”
“พวกเจ้าอย่าได้ลืมไป…ที่ไป่ฟูฉางทั้ง 2สำแดงพลังระดับนี้ได้เพราะมียอดสมบัติสวรรค์ในมือ! แล้วพวกเจ้าคนไหนเห็นเจ้าหนูนั่นมันใช้อาวุธเซียนอมตะหรือไม่เล่า?”
“เช่นนั้น…หากมันมีศาสตราเซียนอมตะ ไม่ได้หมายความว่ามันจะร้ายกาจยิ่งกว่าไป่ฟูฉางทั้งสองหรอกรึ!?”
“ถึงเรื่องราวยากจะเชื่อได้ลงคอ…แต่มันก็เป็นความจริง!”
…
นอกจากหวังเวยแล้ว อีก 7 สือฟูฉางเกราะเงินได้ระเบิดบทสนทนาออกมาอย่าตื่นตระหนก ทั้งหมดอึ้งกับพลังอันร้ายกาจที่ต้วนหลิงเทียนเปิดเผยออกมานัก เพราะไม่มีใครคิดคาด่าต้วนหลิงเทียนจะซุกซ่อนพลังฝีมือเอาไว้ขนาดนี้
โดยเฉพาะชายชราที่เคยตะโกนถามต้วนหลิงเทียนในสระก่อนหน้า ตอนนี้มันถึงกับเหงื่อแตกพลั่กๆ!
ก่อนหน้าเป็นเพราะมันถามออกไปแล้วต้วนหลิงเทียนไม่สนใจ มันเลยมีโมโหจนหวุดหวิดจะลงมือสั่งสอนต้วนหลิงเทียน!
โชคดีที่หวังเวยชิงลงมือไปซะก่อน เลยไม่ทันได้ทำอะไร!
ตอนนี้พอมาได้เห็นพลังของต้วนหลิงเทียน จึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกขอบคุณหวังเวยที่เป็นดั่ง ‘วิหกตัวแรก’ ให้เห็นเป็นเยี่ยงอย่าง…
(นกที่บินนำหน้ามักถูกยิงสอยก่อนเพื่อน)
หาไม่แล้วเกิดมันไปล่วงเกินตัวตนทรงพลังเช่นนี้เข้า คงจบไม่สวยแน่!
การสนทนาทั้งหลายของสือฟูฉางทั้ง 7 แห่งทัพมังกรเงิน บังเกิดขึ้นในชั่วพริบตา
และตอนนี้ค่ายกลกระบี่ของต้วนหลิงเทียน ก็เจียนปะทะเข้ากับกระบวนท่าของไป่ฟูฉางทั้ง 2 เต็มที
แต่ในขณะที่ค่ายกลกระบี่ของต้วนหลิงเทียน จะปะทะกับคลื่นดาบและคลื่นกระบี่ของไป่ฟูฉางทั้งสองนั้นเอง
“หมื่นศาสตราสยบ!”
เพียงหนึ่งห้วงคิด ค่ายกลกระบี่ที่ทะยานข้ามฟ้าไปพลันเปล่งพลังอำนาจลี้ลับออกมาในฉับพลัน เป็นกลิ่นอายพลังลี้ลับยากหยั่งถึงนัก!
ซัว! ซัว! ซัว! ซัว! ซัว!
…
และเมื่อกลิ่นอายพลังลี้ลับดังกล่าวแพร่กระจายออกไป ก็เสมือนมีพลังอำนาจลึกล้ำหนึ่งกระทำต่ออาวุธในมือไป่ฟูฉางทั้งสอง สุดท้ายก็ฉกชิงอาวุธของไป่ฟูฉางทั้ง 2 มาอย่างหน้าด้านๆ!
“มือข้า! นี่มันอะไรกัน!?”
“ดาบข้า! ไฉนจึงได้!?”
จนเมื่อดาบและกระบี่ในมือเปล่งพลังทำร้ายมือจนหลั่งเลือดทั้งดิ้นหลุดมือของพวกมันไปได้พักหนึ่ง พวกมันจึงค่อยฟื้นสติจากอาการตกตะลึง สีหน้าเปลี่ยนไปเป็นมืดคล้ำ แววตายังเผยความเหลือเชื่อไม่หาย
พวกมันตระหนักได้
ว่ามีพลังอำนาจอันร้ายกาจสุดต้านทานประการหนึ่ง มาบังคับฉกชิงอาวุธไปจากมือของพวกมันหน้าด้านๆ!
แต่ต้นจนจบสิ้นกระบวนการฉกชิง พวกมันไม่อาจต้านทานใดๆได้เลย!
กระทั่งพวกมันลองคิดเก็บอาวุธลงแหวนพื้นที่ก็แล้ว…
หากแต่พลังลึกลับดังกล่าวได้ตัดการเชื่อมต่อระหว่างมันกับอาวุธคู่กายโดยตรง ทำให้พวกมันไม่อาจควบคุมเก็บอาวุธลงแหวนได้เลย!
ปง! ปง! ปง! ปง! ปง!
…
หลังจากศาสตราทั้ง 2 ของไป่ฟูฉางถูกฉกชิงไป ตอนนี้เองคลื่นดับทั้งคลื่นกระบี่ของไป่ฟูฉางทั้งคู่ก็ได้ปะทะเข้ากับค่ายกลกระบี่ของต้วนหลิงเทียนแล้ว กลางฟ้าบังเกิดการระเบิดสนั่นหวั่นไหวขึ้น!
หลังการระเบิดจบลง ก็อุบัติเป็นคลื่นลมแรงดั่งมหาพายุกวาดซัดออกไปโดยรอบ
พร้อมกับสายลมแรงดังกล่าวยังมีคลื่นกระแทกอันน่ากลัวขุมหนึ่งซัดกวาดออกมาพร้อมพลังทำลายน่าหวั่นหวาด!
เผชิญหน้ากับคลื่นกระแทกอันหอบหิ้วพลังทำลายน่าหวั่นหวาดมาด้วยดังกล่าว กระทั่งเหล่าสือฟูฉางทั้ง 8 ยังไม่กล้าอยู่เฉย ต่างเร่งเร้าโคจรสร้างม่านพลังป้องกันเป็นระวิง!
หาไม่แล้วถึงไม่ตาย แต่พวกมันไม่วายได้เจ็บหนักแน่!
“สุดท้ายไป่ฟูฉางทั้ง 2 ก็ชนะ!!”
ในขณะที่สือฟูฉางทั้ง 8 สร้างม่านพลังกำบังคลื่นกระแทกที่จะมาถึงตัว พวกมันก็แลเห็นได้ชัดว่ากระบวนท่าของไป่ฟูฉางทั้ง 2 หลังทำลายค่ายกลกระบี่ของต้วนหลิงเทียนไปแล้วยังคงเหลือพลังเกือบครึ่ง!
และตอนนี้กระบวนท่าที่เหลืองเหลือพลังเกือบครึ่งทั้ง 2 นั่นก็กำลังเข่นฆ่าสังหารไปทางต้วนหลิงเทียนสืบต่อ!!
ทำราวกับหากไม่ได้ฆ่าต้วนหลิงเทียนให้ตายพวกมันจะไม่เลิกรา!!
“แย่แล้ว! จังหวะนี้มันไม่มีทางเร่งเร้าพลังต้านทานได้ทัน! ไอ้หน้าใหม่นั่นมันไม่รอดแน่!!”
“แต่…ไป่ฟูฉางทั้ง 2 คิดฆ่าไอ้หนูนั่นจริงเหรอ? ถ้างั้นวรยุทธ์เซียนอมตะกับเวทย์พลังมันเล่า…ไม่สูญไปกับมันหมดหรือ?”
“หากเป็นเช่นนั้น…ช่างน่าเสียดายนัก!”
…
จังหวะนี้เหล่าสือฟูฉางทั้ง 8 อดไม่ได้ที่จะบังเกิดอาการเสียดายออกมา เมื่อคิดถึงเวทย์พลังทั้งวรยุทธ์เซียนอมตะของต้วนหลิงเทียน
พวกมันไม่ได้สนใจคนที่พึ่งขึ้นสวรรค์ในชุดสีม่วงแม้แต่นิดเดียว
สิ่งที่พวกมันให้ความสนใจก็คือวรยุทธ์เซียนอมตะ ทั้งเวทย์พลังที่อีกฝ่ายใช้ เพราะเหตุนี้มันถึงเรียกไป่ฟูฉางมาให้หมายสยบปราบอีกฝ่าย!!
“มันตายไม่ได้!”
“ไม่อาจปล่อยให้มันตาย!!”
ไป่ฟูฉางทั้ง 2 เอง ก็ไม่มีเวลามาตกใจกับเรื่องที่อยู่ๆถูกช่วงชิงยอดสมบัติสวรรค์ไปจากมือ เพราะตอนนี้พวกมันก็เห็นกันชัดถนัดตาว่ากระบวนท่าของพวกมันกำลังจะบรรลุถึงตัวและเข่นฆ่าสังหารชายหนุ่มชุดม่วงแล้ว!!
และหากชายหนุ่มชุดม่วงตกตายไป เช่นนั้นเวทย์พลังกับวรยุทธ์เลิศล้ำที่อีกฝ่ายใช้ออกจนมีพลังทัดเทียมพวกมันเล่า? ไม่หายไปหมดสิ้นเหรอ?!
อีกทั้งหากเป็นแบบนั้นจริง ไม่ใช่ว่าที่พวกมันอุตส่าห์ถ่อมาถึงที่นี่ต้องกลายเป็นสูญเปล่ารึไร?!
ตูม! ตูม!
ไป่ฟูฉางแห่งทัพมังกรเงินทั้ง 2 พยายามเร่งเร้าพลังออกมาสุดตัว ก่อนจะกระทืบย่ำความว่างเปล่าไปดั่งจุดระเบิด ร่างพุ่งทะยานไล่คลื่นพลังของตัว ที่พุ่งเข้าใส่ต้วนหลิงเทียนราวกับแยกเขี้ยวยิงฟันควั่นกรงเล็บ!
ปง! ปง! ปง! ปง! ปง!
…
ขณะเดียวกันกับที่โจนทะยานไปสุดตัว ไป่ฟูฉางทั้ง 2 ก็ตบฟาดพลังฝ่ามือออกไปอย่างดุดัน บังเกิดเป็นคลื่นพลังยิ่งใหญ่สุดไพศาลโถมถันออกไปดั่งคลื่นสมุทร ไล่หลังคลื่นสะบั้นที่เจียนเข่นฆ่าต้วนหลิงเทียน หมายช่วยต้วนหลิงเทียนที่กำลังจะถูกคลื่นสะบั้นกลืนกิน!!
อย่างไรก็ตามเนื่องจากตอนนี้พวกมันไร้ยอดสมบัติสวรรค์ในมือ เช่นนั้นต่อให้คิดจะช่วยต้วนหลิงเทียนอย่างไร พวกมันก็ไม่มีพลังมากพอกระทำ!!
“บัดซบเอ๊ย!”
“หากดาบเซียนอมตะข้ายังอยู่…ไหนเลยจะหยุดคลื่นดาบตัวเองไม่ได้!!”
เมื่อเห็นว่าในเวลาแค่ชั่วพริบตา คลื่นพลังสะบั้นของตัวเองก็บรรลุถึงเบื้องหน้าต้วนหลิงเทียนจนมองไปประหนึ่งสัตว์ร้าย 2 ตัวที่กำลังอ้าปากกระหายเลือดหมายกลืนกินต้วนหลิงเทียนให้หายไปในหนึ่งคำ ไป่ฟูฉางทั้ง 2 ของทัพมังกรเงินก็อดไม่ได้ที่จะหดหู่ใจ!
หากไม่มีพลังประหลาดลึกลับที่โผล่มาฉกชิงอาวุธของพวกมันไปหน้าตาเฉย ไหนเลยพวกมันจะทำได้แค่ยืนมองชายหนุ่มชุดม่วงตกตายอย่างไร้หนทางช่วยแบบนี้!?
ต้องทราบด้วยว่าชายหนุ่มชุดม่วงที่พึ่งขึ้นสวรรค์มาคนนี้มีวรยุทธ์เซียนอมตะทั้งเวทย์พลังอันน่ากลัว!
หากอีกฝ่ายไม่ตาย พวกมันก็มีโอกาสได้รับวรยุทธ์เซียนอมตะทั้งเวทย์พลังทั้งหมดที่อีกฝ่ายมี!
“น่าเสียดายนัก!”
เมื่อตระหนักว่าไร้หนทางช่วยเหลือ…ไม่ให้ชายหนุ่มชุดม่วงที่พึ่งขึ้นสวรรค์มาตายตก ไป่ฟูฉางทั้ง 2 ของทัพมังกรเงินก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างจนปัญญา
แน่นอนว่ามันไม่ได้ทดท้อเพราะความตายอีกฝ่าย แต่เป็นเพราะเสียดายวรยุทธ์เซียนอมตะและเวทย์พลังที่สมควรทำให้พวกมันทะยานฟ้าล้วนๆ…
ทว่า
ในขณะที่ไป่ฟูฉางทั้ง 2 ของกองทัพมังกรเงินคิดว่าต้วนหลิงเทียนต้องตายแน่ๆแล้ว…
ทันใดนั้นเอง
ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ!
…
เสียงหอนกระบี่กรีดฟ้าพลันดังขึ้นถี่ยิบราวเสียงกระพือปีกของห่าตั๊กแตน! และคลื่นพลังสะบั้นจากดาบกระบี่ของไป่ฟูฉางทั้ง 2 ที่กำลังจะกลืนกินต้วนหลิงเทียนนั้น…อยู่ดีๆก็ถูกประกายแสงฉับไวนับพันที่ผุดโผล่ขึ้นมาในความว่างเปล่าดั่งภูตผี ซัดปะทะทำลายอย่างหักหาญ จนก่อให้เกิดการระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง!!
และหลังเกิดการระเบิดไปพักหนึ่งไป่ฟูฉางทั้ง 2 ของกองทัพมังกรเงิน ก็จำต้องเบิกตาชมมองเรื่องราวเบื้องหน้าอย่างตื่นตระหนก!
นั่นเพราะท่ามกลางหมอกควันจากแรงระเบิดอันน่ากลัว ได้ปรากฏร่างชายหนุ่มชุดม่วงโผล่ออกมาราวเทพเจ้า!
อีกทั้งเบื้องหน้าชายหนุ่มชุดม่วง ยังปรากฏค่ายกลกระบี่กำลังเข่นฆ่าทำลายทุกสิ่งที่ขวางทางอย่างไร้ปราณี! และหากผู้ใดตาถึง เพียงมองไปปราดเดียวก็ทราบได้…ว่าค่ายกลกระบี่ชุดนี้กลับทรงพลังยิ่งกว่าก่อนหน้า!!
“มะ…มันยังคงซุกซ่อนพลังเอาไว้!?”
“ปะ…เป็นไปได้อย่างไร!?”
เมื่อเห็นว่าค่ายกลกระบี่ชุดใหม่สามารถทำลายคลื่นสะบั้นที่เหลือพลังเกือบครึ่งของตัวเองได้อย่างง่ายดายราวบดบี้หนอนแมลง ไป่ฟูฉางทั้ง 2 ของทัพมังกรเงินก็ได้แต่มองจ้องเรื่องราวเบื้องหน้าอย่างแตกตื่นจนลูกตาแทบถลน!
ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ!
…
หลังทำลายคลื่นสะบั้นทั้ง 2 สายไปแล้ว ค่ายกลกระบี่ยังพุ่งทะยานเข่นฆ่าไปต่อไม่หยุดยั้ง สภาวะพลังยังไม่อ่อนโทรมลงแม้แต่น้อย กระทั่งยังทำลายคลื่นพลังสุดไพศาลที่ไป่ฟูฉางทั้ง 2 เร่งปล่อยออกมาหมายช่วยเหลือแต่ไม่สำเร็จนั่นลงได้อย่างง่ายดาย!
เรียกว่ากระบวนการทำลายทุกอย่างราบรื่นเหมือนช้างตะลุยฝ่าดงมด! อีกทั้งค่ายกลกระบี่ยังเข่นฆ่าสังหารจี้ไปถึงเบื้องหน้าไป่ฟูฉางทั้ง 2 ที่โจนทะยานสวนเข้ามา จนทำให้ทั้งคู่ตั้งตัวไม่ทัน!!
‘ข้าต้องตายเช่นนี้?’
‘คิดไม่ถึง…ว่าข้ากลับต้องมาตายด้วยน้ำมือเซียนอมตะสวรรค์จันทร์แดงแบบนี้! ยังเป็นเซียนอมตะสวรรค์จันทร์แดงที่พึ่งขึ้นมายังหลิงหลัวเทียน!!’
พอได้เห็นค่ายกลกระบี่ต้วนหลิงเทียนที่เข่นฆ่าเข้ามาด้วยสภาวะพลังอันยิ่งใหญ่ไร้ผู้ต้าน ไป่ฟูฉางทั้ง 2 ไม่เพียงแต่จะตกใจจนสายเกินไป กระทั่งให้สติครบถ้วนแต่แรก ทว่าด้วยความที่เร่งรุดลงมือไปมากมายก่อนหน้า ก็ทำให้พวกมันยากจะเร่งเร้าพลังออกมาต้านทานได้ทัน…!
ซัว! ซัว! ซัว! ฟั่ฟ! ฟุ่บ!
…
อย่างไรก็ตามในขณะที่ไป่ฟูฉางทั้ง 2 กำลังสิ้นหวังนั้น ค่ายกลกระบี่อันน่าพรั่นพรึงที่เข่นฆ่ามาถึงเบื้องหน้าจนห่างแค่เอื้อมมือ…อยู่ดีๆก็สลายหายไปในพริบตาดั่งหมอกควันต้องลมก็ว่า! คงเหลือเพียงแต่ประกายแสง 2 สายที่พุ่งวาบย้อนกลับไปเข้ามือต้วนหลิงเทียน!!
“กระบี่เซียนอมตะของข้า!!”
หนึ่งในสองไป่ฟูฉางร่ำร้องออกมาเสียงดัง เมื่อเห็นว่าประกายแสงที่พุ่งย้อนกลับไปอยู่ในมือข้างหนึ่งของชายหนุ่มชุดม่วงคืออะไร…
“นั่นมัน…ดาบเซียนอมตะข้า!”
แทบจะในเวลาเดียวกัน ไป่ฟูฉางอีกคนก็เบิกตาโพลงร่ำร้องออกมาเสียงดัง เมื่อเห็นว่าในมืออีกข้างของต้วนหลิงเทียนถือไว้ด้วยดาบคุ้นตา! เป็นดาบของมันเอง!!