WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 2665
WSSTH ตอนที่ 2,665 : ฆ่า ปรมาจารย์หลอมโอสถอมตะระดับต่ำ!
หินอมตะระดับสูง 100,000 ก้อน!
อย่าได้เอ่ยถึง หลิวตงผิง ผู้นำตระกูลหลิวไม่อาจควักออกมาจ่ายได้เลย…
กระทั่งให้เป็นตระกูลหลิวทั้งตระกูล จะให้ควักออกมาจากเดี๋ยวนั้น ก็เป็นไปไม่ได้!
เว้นเสียแต่มันจะขายกิจการบางอย่างออกไปให้ผู้อื่น โดยยอมเฉือนเนื้อหั่นกระดูก…
แต่นั่นจะเป็นไปได้หรือ?
“แล้วหากข้าไม่ยอมรับแค่นั้น…ผู้นำตระกูลหลิวคิดจะทำเช่นไรดีเล่า?”
ได้ยินคำพูดของหลิวตงผิง และเห็นแววตาข่มขู่ของอีกฝ่าย ต้วนหลิงเทียนก็หยีตาลงกล่าวถามออกมาด้วยรอยยิ้มบางๆ แลดูสนุกสนานนัก
อย่างไรก็ตามรอยยิ้มบางๆแลดูสนุกสนานดังกล่าวบนใบหน้าของต้วนหลิงเทียน กลับทำให้หลิวตงงผิงบังเกิดอาการขนลุกซู่ขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ ขณะเดียวกันในใจก็เริ่มบังเกิดสังหรณ์อัปมงคลหนึ่ง…
ชายหนุ่มชุดม่วงเบื้องหน้า หาได้ง่ายดายไม่!
“คุณชายเช่นนั้นท่านรับหินอมตะระดับสูงไป 3,000 ก้อนเถอะ…หินอมตะระดับสูง 3,000 ก้อนเป็นขีดจำกัดที่ข้าจักสามารถมอบให้ท่านได้แล้ว หากท่านต้องการเยอะกว่านี้ ข้าไม่มี!”
เนื่องจากรู้สึกได้ว่าต้วนหลิงเทียนไม่ธรรมดา หลิวตงผิงก็ยอมผ่อนปรนข้อเสนออีกหน่อย
“ในเมื่อไม่มี…เช่นนั้นข้าขอรับชีวิตลูกชายของเจ้าไปแล้วกัน”
ต้วนหลิงเทียนเอ่ยออกเสียงเบา
และพอสิ้นคำกล่าวของเขา สายตาก็หันไปมองยังหลิวจัวหลินอีกครั้ง สายตายังดุร้ายน่ากลัวนัก!
“ท่านพ่อ!!”
เมื่อเห็นต้วนหลิงเทียนมองมาด้วยสายตาน่ากลัวมากล้นไปด้วยจิตสังหาร หลิวจั่วหลินก็บังเกิดความหวาดกลัวจนขี้หดตดหาย หน้ามันเปลี่ยนสีไปใหญ่หลวง เร่งรุดไปหลบหลังหลิวตงผิงราวกับไขว่คว้าฟางเส้นสุดท้าย “ท่านพ่อข้ายังไม่อยากตาย…ข้ายังไม่อยากตาย!!”
“คุณชาย ท่านอย่าให้มันมากเกินไปนัก!!”
ถึงแม้จะผิดหวังกับการกระทำของลูกชายมากแค่ไหน อย่างไรก็ตามอีกฝ่ายก็เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของมัน หลิวตงผิงย่อมไม่ปล่อยให้เกิดเรื่องร้ายๆอะไรขึ้นกับลูกชายมันอยู่แล้ว จึงหันไปมองกล่าวกับต้วนหลิงเทียนเสียงเย็นอย่างเต็มกลืน
“มากเกินไปหรือ?”
ต้วนหลิงเทียนพอได้ฟังก็คลี่ยิ้มบางๆ ค่อยหัวเราะออกมาเบาๆ
และหลังหัวเราะเบาๆได้สักพัก รอยยิ้มบนใบหน้าต้วนหลิงเทียนก็เริ่มหดหายกลายเป็นเย็นชา พอกล่าวออกมาอีกครั้ง ในนน้ำเสียงก็เต็มไปด้วยเจตนาฆ่าฟันทันที “เจ้าบ้านหลิว หากเจ้าไม่อยากลากทั้งตระกูลหลิวให้ล่มจม…ข้าแนะนำว่าอย่าได้ยุ่งเรื่องราวความแค้นระหว่างข้ากับมันเสียประเสริฐกว่า!”
“เหอะ!!”
หลิวตงผิงแค่นคำสบถเสียงเย็นคราหนึ่ง จากนั้นมันก็เร่งยกมือขึ้นเรียกป้ายหยกออกมา ค่อยจ่ายพลังเซียนอมตะต้นกำเนิดลงไปอย่างไม่รอช้า ป้ายหยกดังกล่าวพลันกระจายเป็นกลุ่มแสง พุ่งลัดฟ้าตรงไปยังทิศทางหนึ่งในคฤหาสน์สกุลหลิว
“ยันต์อมตะสื่อสาร?”
ถึงแม้หากคิดจะหยุดอาคมของยันต์อมตะสื่อสารหลิวตงผิงเมื่อครู่ ต้วนหลิงเทียนก็ลำบากเพียงยกมือเท่านั้น แต่เขาก็ไม่ได้ทำอะไร เพราะรู้สึกว่ามันไร้จำเป็น
“ดูเหมือนว่า…เจ้าบ้านหลิวคิดลากให้ตระกูลหลิวร่วมกลบฝังไปพร้อมกับศพลูกชายตัวดีแล้วจริงๆ!”
ต้วนหลิงเทียนที่มองจ้องไปยังหลิวตงผิงตาเขม็ง กล่าวต่อว่า “ตอนแรกข้าคิดว่าผู้นำตระกูลหลิวเป็นคนฉลาดเสียอีก…แต่ตอนนี้ดูเหมือนก็แค่ตัวไร้ยางอายปกป้องเดียรัจฉานอย่างหน้ามืดตามัวเท่านั้น!”
“หากข้าเป็นเจ้า ข้าจะรีบไปจากที่นี่เสียตั้งแต่ตอนที่ยังทำได้แทนที่จะมาเล่นลิ้น…รอให้ยอดฝีมือตระกูลหลิวข้ามาถึงเมื่อใด ตอนนั้นต่อให้เจ้าคิดจากไป ก็มิอาจจากไปแล้ว!!”
ได้ฟังวาจาไม่ไว้หน้าของต้วนหลิงเทียน หลิวตงผิงพลันกล่าวออกไปเสียงเย็นอย่างไม่ไว้หน้าเช่นกัน ในแววตายังเริ่มฉายชัดถึงเจตนาฆ่าฟันวูบวาบ!
ถึงแม้มันจะเป็นผู้นำตระกูลหลิว หากทว่าพลังฝีมือของมันก็ไม่ได้ร้ายกาจที่สุดในตระกูลหลิว
ในตระกูลหลิวมีอาวุโส 3 คนที่มีพลังฝีมือเหนือกว่ามัน
หนึ่งในนั้นยังเป็นถึงผู้อาวุโสฝ่ายในของจวนผู้ว่า พลังฝีมือสูงส่งถึงขั้น ต่อให้มองไปยังผู้อาวุโสฝ่ายในทั้งหมดของมณฑลจิ่วโยว ก็นับว่าติดอยู่ในอันดับที่ 3! เป็นรองก็แต่อาวุโสฝ่ายใน 2 อันดับแรกเท่านั้น!!
“ในเมื่อเจ้าบ้านหลิวมั่นใจในตระกูลหลิวมาก…เช่นนั้นให้ข้ารับชมสักคราว่าตระกูลหลิวจะทำอย่างไร เพื่อกันไม่ให้ข้าจัดการตระกูลหลิว!”
ได้ยินคำของหลิวตผิง รอยยิ้มต้วนหลิงเทียนยิ่งมายิ่งสดใส
สำหรับเจตนาฆ่าฟันของหลิวตงผิงนั้น เขาเมินเฉยไปอย่างสิ้นเชิง
ถึงแม้ห้วงเวลาที่ต้องใช้ในการรอคอยจะสั้นนัก ทว่าสำหรับหลิวตงผิงกับหลิวจั่วหลินแวเสมือนยานานแรมปี…
“ไอ้ลูกไม่รักดี คราวนี้เจ้าไปหาเรื่องผู้ใดมากันแน่!?”
ระหว่างนั้นหลิวตงผิงก็ส่งเสียงผ่านพลังไปถามหลิวจั่วหลินด้วยโทสะ
“ท่านพ่อ…ข้ามิรู้จริงๆว่ามันเป็นผู้ใด”
หลิวจั่วหลินกล่าวผ่านพลังตอบไปด้วยรอยยิ้มเหยเก
จากนั้นคล้ายมันคิดอะไรได้ออก สองตาหลิวจั่วหลินก็ทอประกายเรืองขึ้นวูบหนึ่งเอ่ยผ่านพลังถามบิดาว่า “ท่านพ่อ…หรือจะให้ข้าแจ้งท่านแม่เรื่องนี้ดี?”
“ถึงแม้ตระกูลผางของท่านแม่ตอนนี้จะตกต่ำลง แต่บรรพบุรุษของตระกูลผางอย่างไรก็เป็นถึงอันดับ 1 ใต้ต้าหลัวจินเซียนแห่งมณฑลจิ่วโยวเรา ยังเป็นลุงแท้ๆของท่านแม่และเอ็นดูท่านแม่อย่างยิ่ง! ถึงขั้นเห็นท่านแม่ไม่ต่างอะไรจากบุตรีแท้ๆด้วยซ้ำ!!”
“หากท่านแม่ร้องขอล่ะก็…ใต้เท้าผู้นั้นคงมิมีทางปฏิเสธใช่หรือไม่?”
พอกล่าวจบคำ สองตาหลิวจั่วหลินก็เปล่งแสงวับวาว ราวกับพึ่งค้นพบฟางช่วยชีวิตอีกเส้น!
“เช่นนั้นก็รีบส่งข่าวให้แม่เจ้าเสีย…ข้าหวังว่าใต้เท้าแซ่ผางผู้นั้นจักยินดีออกหน้าช่วยเหลือ เพราะอย่างไรใต้เท้าแซ่ผางก็มีอำนาจของจวนผู้ว่าในระดับหนึ่ง ให้ไอ้หนูไม่รู้ที่มาผู้นี้แน่แค่ไหนมันก็ต้องยำเกรงกันบ้าง!”
หลิวตงผิงกล่าวผ่านพลังตอบบุตรชาย และพอกล่าวจบสายตาที่ใช้มองไปยังต้วนหลิงเทียนตอนนี้ ก็ลดทอนความหวาดกลัวลงไปไม่น้อย…
ด้านหลิวจั่วหลินพอได้ยินก็เร่งควักยันต์อมตะสื่อสารมาใช้งานทันที
แต่ต้นจนจบ ต้วนหลิงเทียนไม่ได้ขัดขวางการส่งยันต์อมตะของหลิวจั่วหลินแม้แต่น้อย เพียงมองเรื่องราวด้วยสายตาเฉยชาประหนึ่งไม่หวั่นกลัวสิ่งใด คล้ายไม่ว่าวันนี้ตระกูลหลิวจะเชิญเทพองค์ใดมา เขาจะจับลงไหเสียให้หมด!
หลังเวลาล่วงเลยไปอีกสิบกว่าลมหายใจ
ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!
…
เสียงแหวกสายลมฉับไวดังหวิวมาทุกทั่วสารทิศ ปรากฏร่างมากมายพุ่งมารวมตัวยังน่านฟ้าเหนือห้องโถงหลักตระกูลหลิว เมื่อมาถึงทั้งหมดก็ไปลอยร่างใกล้ๆกับผู้นำตระกูลหลิวอย่างหลิวตงผิง
ในบรรดาผู้ที่มาถึง มีทั้งชายหนุ่ม วัยกลางคนรวมถึงแก่หง่ำ
อย่างไรก็ตามไร้ข้อยกเว้น ทั้งหมดล้วนเป็นตัวตนขอบเขตจินเซียนทั้งสิ้น
“ท่านผู้นำที่แท้เกิดเรื่องราวอันใดขึ้น?”
“ท่านผู้นำ ผู้ใดหาญกล้าท้าทายตระกูลหลิวเรา?!”
…
เมื่อกลุ่มคนมากมายพากันมาถึง พวกมันก็เริ่มยิงคำถามไปยังหลิวตงผิงเสียงกร้าว แน่นอนว่าขณะถามพวกมันยังมองมาทางต้วนหลิงเทียนอย่างเอาเรื่อง แววตายังแฝงความดุร้ายราวกับต้วนหลิงเทียนไปเข่นฆ่าบิดา ถล่มมารดาของพวกมันมา…
“เจ้านั่นไม่เพียงแต่ฆ่าผู้เฒ่าหลี่เท่านั้น ยังตามมาฆ่าลูกชายข้าถึงตระกูลหลิวอีกด้วย!”
หลิวตงผิงมองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาดุร้าย กล่าวออกเสียงเหี้ยม!
“หืม? สารเลวน้อยนี่เข่นฆ่าผู้เฒ่าหลี่เช่นนั้นหรือ? ถ้างั้นวันนี้มันอย่าหวังว่าจะได้กลับออกจากตระกูลหลิวเราทั้งยังมีชีวิต!!”
“ฆ่าคนตระกูลหลิวเรา ต้องชดใช้ด้วยชีวิต!!”
…
เหล่ากลุ่มคนที่มาถึงตอนนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นชนชั้นผู้อาวุโสของตระกูลหลิวทั้งสิ้น แม้คำพูดคำจาจะฟังดูเกรี้ยวกราด หากแต่ไม่มีใครกล้าลงมือสักคน…
พวกมันไม่ใช่ตัวโง่งม!
ในเมื่อชายหนุ่มเบื้องหน้ายังลอยร่างค้างกลางหาวถึงตอนนี้อย่างอยู่ดีมีสุข เช่นนั้นหมายความว่า หลิวตงผิง ผู้นำตระกูลหลิวของพวกมันอาจรับมืออีกฝ่ายไม่ไหว! อาศัยพวกมันที่กระทั่งเอาชนะหลิวตงผิงยังทำไม่ได้ เป็นธรรมดาว่าจะทำได้แค่ปากดีไม่กล้าลงมือ เพราะไม่มีใครอยากตาย!
ในความคิดของพวกมัน
หากผู้นำตระกูลหลิวของพวกมันมีพลังฝีมือสูงพอจะเข่นฆ่าชายหนุ่มเบื้องหน้าได้ เช่นนั้นอีกฝ่ายคงไม่รอดชีวิตมาจนถึงตอนนี้!
ฟุ่บ!
ฟุ่บ!
เสียงแหวกสายลมดังขึ้นอีก 2 สำเนียง เป็นชายชราผมสีดอกเลา กับชายวัยกลางคนร่างกายสูงใหญ่บึกบึนที่เหินมากันจากคนละทิศทาง แต่พริบตาทั้งคู่ก็บรรลุถึงน่านฟ้าเหนือห้องโถงสกุลหลิวไล่เลี่ยกัน!
“อาวุโสสูง!”
“ข้าน้อยขอคารวะท่านผู้อาวุโสสูง”
…
เมื่อเห็นร่างผู้มาใหม่ทั้งสอง หลิวตงผิงกับหลิวจั่วหลินก็เร่งประสานมือคารวะทักทายออกไปทันที
“ตงผิง มีเรื่องอันใดกัน?”
ชายชราผมสีดอกเลาในชุดเทาอ่อนที่มีใบหน้าอ่อนกว่าวัย เอ่ยถามขึ้น
“ท่านลุงรอง…”
พอได้ฟัง หลิวตงผิงก็ตอบคำของชายชราด้วยน้ำเสียงเคารพทันที “เรื่องราวเป็นเช่นนี้…”
จากนั้นหลิวตงผิงก็กล่าวเล่าเรื่องราวทั้งหมดออกไป วาจาที่กล่าวยังเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นตามความเป็นจริง ไม่ได้ปิดบังทั้งเสริมแต่งอะไรแม้แต่น้อย…
ขณะเดียวกันคนของตระกูลหลิวทั้งหลายที่มาถึงแล้ว พอได้ฟังก็ทราบว่าที่แท้เรื่องนี้เกิดขึ้นจากหลิวจั่วหลิน บุตรชายคนเดียวของหลิวตงผิงล้วนๆ! กระทั่งหลิวจั่วหลินยังเป็นฝ่ายไปหาเรื่องและกระทำผิดต่อผู้อื่นเขาก่อน…ทำให้ทุกคนหันไปถลึงตามองหลิวจั่วหลินด้วยสายตาดุร้ายหมายทุบตีมันให้ตาย!!
“ชายหนุ่มชุดม่วงผู้นี้ดูแล้ว ท่าทางความเป็นมาของมันหาได้ธรรมดาสามัญไม่!”
“หากความเป็นมาของผู้อื่นธรรมดามัญ ไฉนผู้อื่นยังกล้าบุกมาตระกูลหลิวเรา ทั้งรอคำอธิบายอยู่ตัวคนเดียวเช่นนี้เล่า?”
“กระทั่งอาวุโสสูงทั้ง 2 มาแล้ว…ข้ายังมิเห็นว่ามันจะเผยอาการหวั่นหวาดอันใด หรือมันไม่กลัวอาวุโสสูงทั้ง 2 ของตระกูลหลิวเราจริงๆ?”
…
หลังจากทราบเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น สายตาของเหล่าอาวุโสตระกูลหลิวกลุ่มแรกที่ใช้มองต้วนหลิงเทียน ก็เผยความหวาดกลัวขึ้นหลายส่วน!
“ฮึ่ม!”
ส่วนอาวุโสสูงที่มีรูปลักษณ์เป็นชายวัยกลางคนร่างสูงแลดูบึกบึนของสกุลหลิวนั้น มันมองจ้องต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาชืดชา กล่าวออกด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น “ข้าไม่สนว่าเจ้าจักเป็นผู้ใดมาจากไหน…แต่เคยได้ยินหรือไม่ ‘มังกรพลัดถิ่น มิอาจสู้งูดินเจ้าที่!’ ที่นี่คือตระกูลหลิวแห่งมณฑลจิ่วโยว หากเจ้ายังรู้ผิดชอบชั่วดีก็รีบจากไปเสียเถอะ!!”
“อ้อ แล้วหากข้าไม่อยากไปล่ะ?”
ต้วนหลิงเทียนหยีตามองอาวุโสสูงร่างบึกบึนสกุลหลิว พลางกล่าวออกด้วยน้ำเสียงไม่อ่อนน้อมไม่ถือดี เพียงตั้งแง่
“ไม่อยากไป? เช่นนั้นวันนี้เจ้าก็อย่าได้หวังว่าจักได้ไปไหน!!”
อาวุโสตระกูลหลิวในรูปลักษณ์ชายวัยกลางคนร่างกำยำ หน้าจมลงทันใด ทั่วร่างเผยเจตนาฆ่าฟันออกมาอย่างไม่คิดจะกักเก็บ มองต้วนหลิงเทียนอีกครั้ง สายตาทำราวกับกำลังมองคนตาย!
นอกจากดำรงตำแหน่งอาวุโสสูงของตระกูลหลิวแล้ว มันผู้นี้ยังเป็นถึงปรมาจารย์หลอมโอสถอมตะ 1 ใน 3 คนของมณฑลจิ่วโยวอีกด้วย!
โดยปกติแล้ว แม้จะเป็นผู้ว่าการมณฑลจิ่วโยว ‘เถียนจี้หวี่’ พอพบเจอหน้ามัน ก็ยังต้องเรียกหามันอย่างให้เกียรติว่า ปรมาจารย์หลิว!
เพราะท้ายที่สุดแล้วปรมาจารย์หลอมโอสถอมตะระดับต่ำ ที่อย่างน้อยๆก็ต้องมีเพลิงอมตะระดับต่ำอยู่ในร่างเช่นมัน หากเลือกยอมตาย ต่อให้เป็นต้าหลัวจินเซียนก็ไม่รอด!
เพราะทันทีที่ปรมาจารย์หลอมโอสถระดับต่ำเช่นมันจุดชนวนเพลิงอมตะระดับต่ำให้ระเบิดออก ตัวตนขอบเขตต้าหลัวจินเซียนอย่างเถียนจี้หวี่ ก็ถูกกำหนดให้ร่วมกลบฝังไปกับปรมาจารย์หลอมโอสถอมตะระดับต่ำเช่นมัน!!
ดังนั้นแล้ว มันในฐานะปรมาจารย์หลอมโอสถระดับต่ำย่อมมีความทะนงตัวไม่น้อย!
“หืม?”
แทบจะทันทีที่เสียงของอาวุโสรูปลักษณ์วัยกลายคนสกุลหลิวดังจบคำ ลูกตาต้วนหลิงเทียนก็เปลี่ยนเป็นเยียบเย็นทันใด จิตสังหารอำมหิตยังปะทุขึ้นมาทั่วร่าง!
ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ!
…
พริบตาต่อมาทั่วร่างต้วนหลิงเทียนก็ระเบิดห่ารังสีกระบี่นับพันๆ พวกมันร้อยเรียงก่อเกิดค่ายกลกระบี่เร็วไว เข่นฆ่าสังหารไปทางอาวุโสสูงตระกูลหลิ่วในฉับพลัน!
ถึงแม้เขาจะไม่ได้ใช้อดีตอุปกรณ์เทพอย่างกระบี่หลิงหลง 7 เปลี่ยน เพียงใช้กระบี่เซียนอมตะระดับต่ำ ทว่ายามต้วนหลิงเทียนปะทุพลังสังหารสุดกำลัง กระบวนท่าพิฆาตของเขาก็รุนแรงทั้งฉับไว สุดที่ตัวตนขอบเขตต้าหลัวจินเซียนระดับต่ำๆจะต้านทานรับไหว!!
ฉึก! ฉึก! ฉึก! ฉึก!
…
ปรมาจารย์หลอมโอสถอมตะระดับต่ำที่พลังฝึกปรือบรรลุถึงจินเซียนตะวันคราม เมื่อเจอต้วนหลิงเทียนปะทุพลังสังหารอำมหิตเช่นนี้ อย่าได้กล่าวถึงเรื่องจะจุดชนวนเพลิงอมตะให้ระเบิดวอดวายไปตามๆกันเลย มันยังไม่ทันรู้ตัวอะไรด้วยซ้ำ…ค่ายกลกระบี่ต้วนหลิงเทียนก็เข่นฆ่ามาถึงจนทั่วร่างปุพรุนเป็นรังแตนเสียแล้ว!!