WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 2686
WSSTH ตอนที่ 2,686 : ต้วนหลิงเทียน!
ผู้ว่าการมณฑลหลัวฝูย่อมรู้ดี…
หากไม่ใช่เพราะหอกสุดท้ายของฉู่อวี้ได้ยั้งมือไว้ไมตรีไว้ล่ะก็ ป่านนี้ฉิงตงคงไม่ใช่แค่บาดเจ็บเล็กน้อยแน่นอน…
และเท่าที่เห็นนั้น อาการบาดเจ็บของฉิงตงตอนนี้ อาศัยโอสถทิพย์รักษาระดับต่ำแค่เม็ดสองเม็ดก็ทำให้มันฟื้นตัวจนหายดีดังเดิมได้ไม่ยาก สามารถเข้าร่วมการประลอง 16 มณฑลต่อได้อย่างไม่มีปัญหา
ถึงแม้ว่าการท้าทายครั้งแรกของฉิงตงจะล้มเหลว แต่จะอย่างไรก็ยังเหลือโอกาสท้าชิงอันดับที่ 4 ถึง 10 อยู่
กระทั่งหากสามารถช่วงชิงหนึ่งใน 7 อันดับที่ว่ามาได้ มันก็ยังเหลือโอกาสสุดท้ายที่จะท้าชิง 1 ใน 3 อันดับแรกชั่วคราวอยู่!
“ลุงเหลียนเกรงใจไปแล้ว”
ในฐานะบุตรีของผู้ว่าการมณฑลหลัวฝู ฉู่อวี้ย่อมเคยพบปะกับชนชั้นผู้ว่าการมณฑลมาไม่น้อยยามติดตามไปทำงานพร้อมบิดา เมื่อเห็นผู้ว่าการมณฑลหลัวฝูกล่าวขอบคุณ นางก็คลี่ยิ้มตอบกลับไปอย่างสุภาพ จากนั้นค่อยเหินร่างกลับไปพักยังอัฒจันทร์ส่วนของมณฑลหลิวฟง…
“ต่อไป!”
คนของวังฉิน กล่าวออกด้วยยน้ำเสียงไม่แยแส
“มณฑลชิวหลี โม่ชิว ขอท้า ถงหยวน มณฑลหม่าหยา”
สิ้นคำผู้ดำเนินการประลองของวังฉิน ชายหนุ่มแลดูแข็งแรงผู้หนึ่ง ก็ก้าวย่ำฟ้าอาดๆ มาหยุดยืนกลางอากาศเหนือเวทีประลอง ค่อยเอ่ยคำท้าอันดับ 2 ชั่วคราวของการประลอง 16 มณฑลออกไปเสียงดังฟังชัด
มณฑลหม่าหยา ถงหยวน!
ถงหยวนที่ว่านั้น มีรูปลักษณ์เป็นชายวัยกลางคนร่างของมันสูงสองหมี่ ผิวสีทองแดงรูปร่างบึกบึน มองไปดั่งยักษ์ปักหลั่น!
เมื่อถูกท้าทาย มันก็ลุกขึ้นยืนตัวตรงดั่งหอก ใบหน้าแลดูสงบไม่เผยอารมณ์สุขหรือเศร้าใดๆ เพียงหันไปมองสบตากับผู้ท้าทายอย่าง โมชิว แห่งมณฑลชิวหลี ที่ลอยกลางอากาศคราหนึ่ง จากนั้นก็เหินร่างไปประจัญหน้ากับอีกฝ่ายเงียบๆ
ครู่ต่อมาทั้งคู่ก็เริ่มลงมือทันที ไม่มีเสียเวลามาเอ่ยวาจา!
ปง! ปง! ปง! ปง! ปง!
…
เปรี๊ยง! เปรี๊ยง! เปรี๊ยง! เปรี๊ยง!
…
หลังจากนั้นเพียงผ่านไปได้ราวๆ 30 ลมหายใจ ร่างมหึมาก็ปลิดปลิวกระเด็นออกมา คนยังหมุนคว้างไปกลางหาวหลายตลบ กว่าจะขืนร่างทรงตัวได้อีกครั้ง จากนั้นร่างที่มุมปากปรากฏโลหิตไหลย้อย ก็เอ่ยคำยอมรับความพ่ายแพ้ออกมาแต่โดยดี “ข้าไม่ใช่คู่มือเจ้า ข้าขอยอมแพ้!”
ผู้ที่กล่าวยอมแพ้ก็คือถงหยวนของมณฑลหม่าหยาที่ถูกท้าทายนั่นเอง…
ในบรรดา 13 ไพ่ตายของทั้ง 13 มณฑล ตอนนี้ก็มีคนลงสนามไปแล้ว 2…
ไม่เหมือนกับฉิงตงของมณฑลหลัวฝูที่ท้าชิงอันดับ 1 ชั่วคราวไม่สำเร็จ จนพบพานกับความพ่ายแพ้…
โม่ชิว ของมณฑลชิวหลี สามารถท้าถงหยวนจนเอาชนะได้สำเร็จ และเข้าไปแทนที่อันดับ 2 ของการประลอง 16 มณฑลเป็นการชั่วคราว!
สำหรับถงหยวนของมณฑลหม่าหยานั้น ก็ถูกลดอันดับลงไป 1 ลำดับ ตอนนี้เลยอยู่ในอันดับที่ 3
และคนที่ถือครองอันดับที่ 3 ถึงอันดับที่ 9 แต่เดิม อันดับของแต่ละคนก็พากันลดหลั่นลงไป 1 อันดับถ้วนหน้า…
“เจ้าถูกบีบให้ออกจาก 10 อันดับแรกเป็นการชั่วคราว ตอนนี้เจ้ามีโอกาสท้าประลองเพื่อเข้าไปอยู่ใน 10 อันดับแรกอีกครั้ง…เจ้าสามารถเลือกผู้ใดก็ได้ใน 10 อันดับ และตราบใดที่เจ้าเอาชนะได้ เจ้าก็จะได้รับอันดับนั้นเป็นการชั่วคราว…
พิธีกรจากวังฉินหันไปมองชายหนุ่มที่ถูกบีบให้หลุดจาก 10 อันดับแรก พลางกล่าว “ถ้าเจ้าเลือกจะละทิ้งโอกาสนี้…เจ้าจะพลาดโอกาสเข้าสู่ 10 อันดับแรกของการประลอง 16 มณฑลโดยทันที ข้าจะให้เวลาเจ้าไตร่ตรอง 10 ลมหายใจ จากนั้นค่อยตอบข้า…”
“ข้าพอแล้วใต้เท้า…”
หลังผ่านไปเพียง 2 ลมหายใจ ชายหนุ่มที่ถูกบีบให้หลุด 10 อันดับแรกก็ได้แต่ส่ายหัวไปมา และเลือกจะกล่าวประกาศความตั้งใจว่าจะพอแต่เพียงเท่านี้ออกมาทันที
มันที่สู้สุดกำลังมาตั้งแต่วันแรก สุดท้ายก็เป็นได้แค่อันดับ 10 ชั่วคราว ในเมื่อกระทั่ง 9 คนก่อนหน้าที่ครองอันดับชั่วคราวมันยังสู้ไม่ได้ เช่นนั้นยังต้องคิดอะไรให้มากความ?
และตอนนี้ในบรรดา 10 อันดับแรกชั่วคราวของการประลอง 16 มณฑล หน้าใหม่ที่มันยังไม่เคยสู้ด้วยเลยก็คือโม่ชิวที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าถงหยวนคนเดียวเท่านั้น มันถามตัวเองดูก็ตอบได้ทันที ว่าพลังฝีมือยังห่างไกลจากผู้อื่นเขานัก! เช่นนั้นจึงเลือกที่จะยอมแพ้ออกมาทันที เพราะมันรู้ตัวขึ้นไปก็ถูกโม่ชิวทุบตีให้เจ็บตัวเปล่าๆ!!
และอีก 9 คนที่เหลือก็ไม่จำเป็นต้องสู้ เพราะมันแพ้พ่ายมาแล้วทุกคน…
“ต่อไป!”
…
“ต่อไป!”
…
ในขณะที่พิธีกรจากวังฉินก็กล่าวคำ ‘ต่อไป’ ออกมา ก็ปรากฏร่างรุ่นเยาว์ออกมาท้าทายสู้ชิงชัยกันจนรู้ผล…
การประลองดำเนินไปอย่างดุเด็ดเผ็ดมัน และยิ่งมาก็ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น
ในระหว่างการประลอง เหล่าผู้ที่ถูกบีบให้หลุดจาก 10 อันดับแรกชั่วคราวของการประลอง 16 มณฑล ก็จะได้รับโอกาสให้ท้าทายผู้อื่นเพื่อเข้าสู่ 10 อันดับแรกเสมอ…หากสำเร็จก็แล้วไป หากพลาดพลั้งก็หมดโอกาสไปต่อทันที…
และในระหว่างการประลอง หากจะถามว่าการประลองของผู้ใดน่าดูชมที่สุด ก็คือการประลองของไพ่ตายมณฑลผิงชาน หยางจิ้น! และไพ่ตายของมณฑลหลิวฟง ฉู่เหยียนอย่างไม่ต้องสงสัยเลย!!
ฉู่เหยียนนั้นเป็นพี่ชายของฉู่อวี้ ที่ตอนนี้รั้งอยู่ในอันดับที่ 1 เป็นการชั่วคราว ยังเป็นบุตรชายคนโตของผู้ว่าการมณฑลหลิวฟง
หลังการประลองดำเนินการไปรอบแล้วรอบเล่า ในที่สุดจุดจบของการประลอง 16 มณฑลครานี้ก็เจียนจะได้บทสรุปเต็มที
ฉู่อวี้ที่แต่เดิมอยู่ในอันดับ 1 เป็นการชั่วคราวนั้น ไม่เพียงจะหลุดจากอันดับ 1 กระทั่ง 3 อันดับแรกตอนนี้ชื่อนางก็ยังไม่ติดโผ! สุดท้ายไปๆมาๆนางก็รั้งอยู่ในอันดับ 6 ของการประลอง 16 มณฑลเป็นการชั่วคราว…
หากไม่เกิดเหตุผิดพลาดอะไร อันดับของนางก็คงไม่เปลี่ยนแปลงไปมากกว่านี้สักเท่าไหร่
และการเปลี่ยนแปลงที่ว่า อย่างมากก็คืออันดับของนางลดลงไป 1 อันดับเท่านั้น และนั่นยังหมายความว่า ต้วนหลิงเทียน ผู้เป็นไพ่ตายของมณฑลจิ่วโยว ได้ปรากฏตัวขึ้นมาและชิงอันดับ 1 ไปครอง จนทุกคนอันดับลดหลั่นกันคนละหนึ่งเท่านั้น!
ส่วนเรื่องที่พลังฝีมือของต้วนหลิงเทียนสูงส่งกว่านางหรือไม่ ตัวนางก็ไม่คิดสงสัยแม้แต่น้อย
ดังนั้นแล้วหากต้วนหลิงเทียนปรากฏตัวขึ้นมา อันดับนางย่อมลดงไปอีกหนึ่งอันดับ แต่หากต้วนหลิงเทียนไม่ปรากฏตัวนางก็สมควรรั้งอยู่ในอันดับที่ 6 จนจบสิ้นการประลอง 16 มณฑลคราวนี้…
และตอนนี้รายชื่อ ผู้ที่ติด 10 อันดับแรกเป็นนการชั่วคราวของการประลอง 16 มณฑลก็มีดังนี้…
อันดับที่ 1 หยางจิ้น จากมณฑลผิงชาน
อันดับที่ 2 ฉู่เหยียน จากมณฑลหลิวฟง
อันดับที่ 3 จงเจี๋ยมิ่ง จากมณฑลไท่ผิง
อันดับที่ 4 เริ่นเฟย จากมณฑลหงอวิ๋น
อันดับที่ 5 จางเจี้ยนหง จากมณฑลเหมยฮัว
อันดับที่ 6 ฉู่อวี้ จากมณฑลหลิวฟง
อันดับที่ 7 โม่ชิว จากมณฑลชิวหลี
อันดับที่ 8 ถงหยวน จากมณฑลหม่าหยา
อันดับที่ 9 เหยียนชื่อหู่ จากมณฑถงซิน
อันดับที่ 10 ฉิงตง แห่งมณฑลหลัวฝู
ตอนนี้นอกจาก หยางจิ้น ของมณฑลผิงชานผู้ถือครองอันดับ 1 ชั่วคราว กับ ฉู่เหยียนจากมณฑลหลิวฟงที่ถือครองอันดับ 2 เป็นการชั่วคราวที่ยังไม่ได้ประมือกันเองแล้ว…คนอื่นๆได้ประลองจนรู้สูงต่ำกันหมดสิ้น!
กล่าวอีกอย่างได้ว่า…ตอนนนี้หยางจิ้นกับฉู่เหยียนกำลังจะสู้ตัดสิน ชิงอันดับที่ 1 ของการประลอง 16 มณฑลเป็นการชั่วคราว…
“ถ้าหากวันนี้ต้วนหลิงเทียนไม่ปรากฏตัวขึ้นมาจริง การประลองระหว่างหยางจิ้นกับฉู่เหยียนก็จะเป็นศึกตัดสินแล้ว ว่าผู้ใดจะได้อันดับ 1 ไปครอง…”
“มิผิด ถ้าต้วนหลิงเทียนไม่มา เช่นนั้นกล่าวได้ว่านอกจาก 2 อันดับแรกที่ยังเปลี่ยนแปลงได้ อันดับที่ 3 ถึง 10 ก็ไม่ใช่อันดับชั่วคราวอีกต่อไป แต่จะกลายเป็นอันดับที่แท้จริงไปทันที…”
“แต่ถ้าหากต้วนหลิงเทียนผู้นั้นมาล่ะก็ เช่นนั้นอันดับที่ 1 ของการประลอง 16 มณฑลครานี้ สิบในสิบไม่พ้นต้องถูกมันช่วงชิงไปได้แน่นอน…หากไม่มาก็ไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนจากตอนนี้มากนัก…”
“จะว่าไป…ถ้าเกิดต้วนหลิงเทียนนั่นมาจริง เช่นนั้นฉิงตงจากมณฑลหลัวฝู มิใช่ว่าจะถูกบีบให้หลุดโผ 10 อันดับแรกทันทีหรือไร? ป่านนี้มันคงลุ้นจนตัวเกร็งแล้วกระมัง?”
…
เมื่อเห็นว่าการประลอง 16 มณฑลครานี้ใกล้จะถึงจุดยุติเต็มที เหล่าผู้คนในอัฒจันทร์รอบๆเวทีก็คึกคักไม่น้อย และตอนนี้พวกมันก็เอาแต่พูดถึงไพ่ตายของมณฑลจิ่วโยวไม่หยุด…
เพราะจนถึงตอนนี้ไพ่ตายของมณฑลจิ่วโยวยังปรากฏตัวออกมาเลย
“เจ้าอย่าได้กังวลไป…กระทั่งป่านนี้แล้วมันยังไม่มา เช่นนั้นมันก็คงไม่มาแล้วล่ะ”
ผู้ว่าการมณฑลหลัวฝู ที่เห็นฉิงตงนั่งหน้าดำคร่ำเครียดถึงขั้นกัดเล็บไม่หยุด ก็ได้แต่กล่าวปลอบออกไปด้วยรอยยิ้มแหยๆ…
ฉิงตงที่ขมวดคิ้วทั้งกัดเล็บอยู่ พอได้ยินคำปลอบก็เงยหน้าขึ้นมาพยักหน้ารับคำ แต่อย่างไรก็ตาม แววตาตึงเครียดทั้งคิ้วที่ขดย่นเป็นปมของมันนั้น…ไม่ได้มีวี่แววจะคลี่คลายเลย!
แต่จะว่ามันก็ไม่ได้ เพราะถ้าหากอยู่ๆต้วนหลิงเทียนเกิดปรากฏตัวขึ้นมานาทีสุดท้ายจริงๆ เช่นนั้นมันก็จะถูกบีบให้หลุดออกจาก 10 อันดับแรกทันที และถึงตอนนั้นมณฑลหลัวฝูบ้านเกิดของมัน ไม่พ้นต้องถูกวังฉินลงโทษ ด้วยการปรับจ่ายภาษีหินอมตะเพิ่มขึ้น 3 เท่าเป็นเวลา 10 ปี!
และในปัจจุบัน ไพ่ตายของทั้ง 13 มณฑลนั้น มีเพียงไพ่ตายของ 9 มณฑลเท่านั้น ที่ติดอยู่ใน 10 อันดับแรกเป็นการชั่วคราว
ในอีก 4 มณฑลที่เหลือ ยกเว้นไพ่ตายของมณฑลลจิ่วโยว ที่ยังไม่มาปรากฏตัวอย่างต้วนหลิงเทียนแล้ว ไพ่ตายของอีก 3 มณฑล ก็ได้ถูกบีบให้หลุดออกจาก 10 อันดับแรกไปเป็นที่เรียบร้อย และถูกลิขิตให้ต้องจ่ายภาษีหินอมตะเพิ่ม 3 เท่าเป็นเวลา 10 ปีอย่างไม่อาจเปลี่ยนแปลง…
เช่นนั้นแล้ว สีหน้าของผู้ว่าการทั้ง 3 มณฑลดังกล่าว จึงมืดดำราวจะคั้นได้เป็นน้ำหมึก! ไพ่ตายทั้งหลายก็นั่งจ๋อยหน้าซึม หารอยยิ้มไม่เจอ…
และถึงแม้การลงโทษของวังฉินอย่างปรับเพิ่มภาษีหินอมตะขึ้น 3 เท่าเป็นเวลา 10 ปี จะไม่ได้มากมายถึงขั้นทำให้ทั้ง 3 มณฑลต้องเฉือนเนื้อหั่นกระดูก แต่ก็ทำให้พวกมันปวดร้าวไปถึงทรวงในแน่นอน…
ณ อัฒจันทร์ที่นั่งสำหรับบุคคลพิเศษ
ต้วนหลิงเทียน ที่สวมใส่ชุดคลุมปรมาจารย์อมตะแผ่นดินปกปิดร่างกายมิดชิด ยังคงนั่งมองดูเรื่องราวการประลองอย่างสงบประหนึ่งน้ำในบ่อโบราณ เขามองพินิจระหว่างหยางจิ้นกับฉู่เหยียน ที่ลอยร่างเผชิญหน้ากันกลางหาวเงียบๆ
หยางจิ้นนั้นเป็นไพ่ตายของมณฑลผิงชาน และได้รับการยอมรับจากผู้คนทั้งมณฑลผิงชานว่าเป็นรุ่นเยาวว์อัจฉริยะอันดับ 1 ที่อายุไม่ถึงร้อยปี มันเป็นชายหนุ่มรูปร่างไม่อ้วนไม่ผอม ใส่ชุดคลุมสีน้ำเงิน หน้าตาแลดูธรรมดาไม่มีใดโดดเด่น หากจับมันโยนลงไปฝูงชนล่ะก็…คงยากจะหาตัวมันเจอเป็นครั้งที่สอง
ด้านฉู่เหยียนนั้น ไม่เพียงเป็นไพ่ตายของมณฑลหลิวฟง มันยังเป็นบุตรชายของผู้ว่าการมณฑลหลิวฟงอีกด้วย หากทว่ามันผู้นี้กลับไม่เป็นที่รู้จักของผู้คน จนเมื่อข่าวการประลอง 16 มณฑลแพร่ออกไป ผู้คนก็เลยได้รับทราบว่ามีมันอยู่!
ก่อนหน้า ฉู่อวี้ น้องสาวของมัน ก็เป็นคนที่ถูกผู้คนในมณฑลหลิวฟงเข้าใจผิด…ว่านางคืออัจฉริยะอันดับ 1 ในบรรดารุ่นเยาว์อายุไม่ถึงร้อยปีของมณฑลหลิวฟงมาโดยตลอด!
ทว่าในการประลอง 16 มณฑลคราวนี้ ในที่สุดพลังฝีมือของฉู่เหยียนก็ได้เปิดเผยออกมาให้ทุกคนได้ประจักษ์แจ้ง ว่าเหนือล้ำนำหน้าน้องสาวไปหลายก้าวใหญ่ ขณะเดียวกันก็กำลังจะพิสูจน์ว่า มันใช่เหนือล้ำกว่า หยางจิ้น จนจะคว้าอันดับที่ 1 ในการประลอง 16 มณฑลครานี้ไปครองได้หรือไม่!
ณ ชั้นลอย ภายใต้ม่านผ้า
ตอนนี้ด้านหลังไกลๆปรากกฏม้าสีขาวปลอด 9 นอนอยู่อย่างเรียบๆร้อยๆ โดยมีกลุ่มคนด้านหลังคอยดูแลปรนนิบัติพัดวี
ส่วนพื้นที่บริเวณใกล้ๆม่านผ้า ด้านหน้ากลุ่มม้าสีขาวปลอดทั้ง 9 นั้น ปรากฏที่นั่ง 3 ที่อันหรูหรานั่งเรียงรายกันอย่างสง่าผ่าเผย ทั้ง 3 ก็คืออ๋องฉิน อ๋อง 3 และคนสุดท้ายก็คือลูกชายคนเดียวของอ๋อง 4 ผู้ล่วงลับที่ทุกคนรู้จักกันในนาม ฉินอวี่
ตอนนี้ฉินอวี่ก็มองจ้องไปยังหยางจิ้นกับฉู่เหยียน ที่ลอยร่างเผชิญหน้ากันกลางหาวเหนือเวทีประลองด้วยความสงสัย มันเองก็อยากรู้เหมือนกัน ว่าการประลอง 16 มณฑลคราวนี้ ที่แท้ผู้ใดจะได้อันดับ 1 ไปครองกันแน่…
‘ไม่รู้ว่าต้วนหลิงเทียนจะมารึเปล่า…หากมาอันดับ 1 ของการประลอง 16 มณฑลครานี้ก็คงรับไปครองอย่างไม่มีข้อกังขา…’
‘แต่ถ้าไม่มา…เช่นนั้นผู้ใดจะได้อันดับ 1 ในการประลอง 16 มณฑลครั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับผลการประลองรอบนี้แล้ว…’
‘หวังว่ามันจะไม่มา แต่ก็มิใช่อยากให้มันเกิดเรื่องอันใด…แค่อยากให้มันปลอดภัยรอดพ้นเรื่องราว’
ฉินอวี่ลอบกล่าวในใจอย่างเงียบงัน
ต่างจากฉินอวี่
แม้บางครั้งสายตาของอ๋อฉินกับอ๋อง 3 จะเหลือบไปมองรุ่นเยาว์ทั้ง 2 ที่อยู่เหนือเวทีประลอง แต่สายตาของพวกมันก็เหลือบไปมองยังอัฒจันทร์ที่นั่งของมณฑลผิงชานบ่อยๆ
กล่าวให้ชัด ทั้งคู่ล้วนให้ความสนใจกับ ‘ร่างในชุดคลุมสีเทา’ ที่นั่งข้างผู้ว่าการมณฑลผิงชาน
“พี่ใหญ่…จนป่านนี้แล้วแต่อาวุโสหลักของนิกายสือหังเซียนผู้นั้นยังมิได้ลงมือเคลื่อนไหวอันใดเลย…เป็นไปได้หรือไม่ว่าคนที่นิกายสือหังเซียนส่งมันมาฆ่าคราวนี้จะยังไม่ปรากฏตัว?”
อ๋อง 3 ได้แต่ถามอ๋องฉินด้วยความสงสัย
“สมควรเป็นเช่นนั้น”
อ๋องฉินพยักหน้ารับ จากนั้นก็กล่าวต่อว่า “เพียงแค่…ถึงตอนนี้แล้วในบรรดาคนของทั้ง 16 มณฑล ผู้ที่ควรมาก็เหมือนจะมากันเกือบหมดแล้วมิใช่หรือ? เว้นเสียก็แต่…”
กล่าวถึงจุดนี้อ๋องฉินก็เงียบไป ก่อนจะหันมองสบตากับอ๋อง 3 …
ครู่ต่อมา
“ต้วนหลิงเทียน!”
อ๋องฉินกับ อ๋อง 3 พลันเอ่ยนามหนึ่งออกมาแทบจะเป็นเสียงเดียวกัน!