WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 2690
ตอนที่ 2,690 : ฉู่เหยียนชนะ!
พิธีกรดำเนินการประลองของวังฉินนั้น เป็นผู้ฝึกตนระดับต้าหลัวจินเซียน
“พวกเจ้าทั้งคู่จงระวังให้ดี…ตอนนี้ข้าจะแผ่พลังกดดันพวกเจ้าแล้ว!”
เมื่อเสียงของพิธีกรดังจบคำ ทั่วร่างของมันก็ปรากฏพลังขุมหนึ่งแผ่ซ่านออกมา พริบตาก็ครอบคลุมไปถึงจุดที่ทั้งสองคนกำลังประมือกันอยู่!
ทันใดนั้นไม่ว่าจะฉู่เหยียนหรือหยางจิ้นก็สัมผัสได้ถึงแรงดันพลังที่กดทับเข้าร่างอย่างหนักหน่วง!
อย่างไรก็ตามพวกมันทั้งคู่ก็ทำได้แค่เจียดพลังส่วนหนึ่งมาต้านทานแรงดันพลังเอาไว้ และประลองหาผู้แพ้ชนะกันต่อไป และถึงแม้จะตกอยู่ในสภาพแบบนี้ ทั้งสองก็ยังคู่คี่สูสีไม่อาจตัดสินเหมือนเดิม
“หึ!”
เห็นว่ารุ่นเยาว์ทั้ง 2 ยังไม่มีใครพลาดพลั้ง พิธีกรพลันสบถออกมาคำหนึ่ง จากนั้นแรงดันพลังที่บีบคั้นไปในบรรยากาศก็ทวีพลังอำนาจขึ้นหลายส่วน! ร่างฉู่เหยียนกับหยางจิ้นอยู่ๆก็รู้สึกเสมือนมีน้ำป่าไหลหลากโถมเข้าร่าง!!
พริบตาฉู่เหยียนกับหยางจิ้นก็รู้สึกกดดันเพิ่มขึ้นอย่างหนัก
จังหวะนี้ผู้ชมทั้งหลายก็มองจ้องฉู่เหยียนกับหยางจิ้นไม่วางตา
“หยางจิ้น…”
หวังฉี่หลิง ผู้ว่าการมณฑลผิงชานมองจ้องหยางจิ้นที่กำลังต่อสู้ด้วยสายตาคาดหวัง มันอยากเห็นฉากหยางจิ้นพิชิตชัยฉู่เหยียน คว้าอันดับ 1 ในการประลอง 16 มณฑลครั้งนี้นัก!
เพราะตราบใดที่หยางจิ้นสามารถคว้าอันดับ 1 ในการประลอง 16 มณฑลครานี้ได้ มณฑลผิงชานของมันก็จะได้รับโอสถต้าหลัว 3 เม็ด!!
โอสถต้าหลัว 3 เม็ด…สร้างต้าหลัวจินเซียนได้ถึง 3 คน!
“เหยียนเอ๋อ…”
ฉู่ถิงซวน ผู้ว่าการมณฑลหลิวฟงหาได้อยู่ในอาการสงบเหมือนอย่างเคยไม่ ตอนนี้แววตาของมันที่ใช้มองบุตรชาย เผยให้เห็นถึงความคาดหวังและความโลภไม่น้อย…
มันหวังว่าลูกชายจะเอาชนะหยาจิ้น และได้รับอันดับ 1 การประลอง…
หากเป็นแบบนั้น ต่อให้หลังจากนี้อยู่ๆต้วนหลิงเทียนจะปรากฏตัวออกมา อย่างไรลูกชายของมันก็ยังรั้งอยู่ในอันดับ 2 ยังคงได้รับโอสถต้าหลัวถึง 2 เม็ด!
และหากมันใช้โอสถต้าหลัวทั้ง 2 เม็ดล่ะก็ มันย่อมทะลวงจุดรอคอย หลุดพ้นอาการตีบตัน บรรลุถึงขอบเขตต้าหลัวจินเซียนขั้นปฐพีได้อย่างราบรื่นแน่นอน!
ต่างจากฉู่ถิงซวน ผู้ว่าการมณฑลหลิวฟง ที่ยังคงกังวลเรื่องการปรากฏตัวของต้วนหลิงเทียนอยู่บ้าง…
ทางด้านหวังฉี่หลิงจากมณฑลผิงชาน ไม่ได้กังวลเรื่องที่ต้วนหลิงเทียนจะปรากฏตัวแม้แต่น้อย!
ไม่ใช่เพราะหวังฉี่หลิงมั่นใจว่าไพ่ตายของมณฑลผิงชานมันอย่างหยางจิ้นสามารถเอาชนะต้วนหลิงเทียนได้ แต่เพราะมันรู้ดีว่าต่อให้ต้วนหลิงเทียนโผล่มาก็ไม่มีทางรอด!
เพราะเหตุผลเดียวที่ร่างในชุดคลุมสีเทาข้างๆมันมาที่นี่วันนี้ ก็คือรอฆ่าต้วนหลิงเทียน!!
ดังนั้นแล้วในสายตาของมัน ตราบใดที่หยางจิ้นเอาชนะฉู่เหยียนและคว้าอันดับ 1 ในการประลอง 16 มณฑลมาครองได้ ตัวมันต้องได้รับโอสถต้าหลัวจากวังฉินจำนวน 3 เม็ดแน่นอน!
‘สุดท้ายมันก็ไม่อาจรักษาลมหายใจได้…’
ท่ามกลางอัฒจันทร์ที่นั่งสำหรับบุคคลพิเศษ ต้วนหลิงเทียนคล้ายสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง หลังกล่าวพึมพำในใจเบาๆแล้ว เขาก็ละสายตาออกมาจากฉู่เหยียนและหยางจิ้นที่กำลังประมือกันอยู่ทันที…
และแทบจะเป็นเวลาเดียวกันกับที่ต้วนหลิงเทียนละสายตาออกมา
ปงงงง!!
เสียงระเบิดดังขึ้นสนั่น!
ท่ามกลางสายตาของทุกคน ในห้วงเวลาดุจละอองไฟวาบดับเมื่อครู่ หยางจิ้นที่สีหน้าแลดูร้อนใจราวกับจะรีบเผด็จศึกสุดท้ายก็ไม่อาจรักษาลมหายใจได้ไหว พลังของมันจึงขาดห้วงไปเล็กน้อย ทว่าในพริบตาเดียวกันที่พลังของมันขาดห้วงไปเล็กน้อยนั่น…ฉู่เหยียนที่นิ่งสงบไม่เผยสีหน้ามาแต่ต้นจนจบ ก็แสยะยิ้มเยียบเย็น ระเบิดพลังชั่วชีวิตซัดพลังฝ่ามือออกไปฉับไว ประหนึ่งมังกรทะยานพ้นสมุทร!
พลังฝ่ามือมหาประลัยของฉู่เหยียน ซัดทำลายกระบวนท่าที่เผยช่องโหว่ของหยางจิ้นได้ง่ายดาย ก่อนกระแทกเข้ากลางอกมันอย่างแรง จนคนกระเด็นปลิวละลิ่วไปไม่เป็นท่า!!
“อั๊ค–!”
หลังกระอักโลหิตออกคำใหญ่ หยางจิ้นก็สามารถรั้งร่างตัวไว้ไม่ให้ร่วงตกกระแทกพื้นได้สำเร็จ อย่างไรก็ตามตอนนี้กลิ่นอายพลังทั่วร่างของมันก็อ่อนโทรมลงหลายส่วน!
ดูท่าแล้วเรื่องประมือกับฉู่เหยียน คงเป็นไปไม่ได้อีกต่อไป…
หากดันทุรังสู้ต่อ ก็รังแต่จะหาที่ตาย และทำให้คนอื่นดูแคลนเท่านั้น…
“บัดซบ!!”
ด้วยเหตุนี้สีหน้าของหยางจิ้นจึงเปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยวอัปลักษณ์นัก แววตายังฉายชัดถึงความไม่ยินยอมพร้อมใจเป็นที่สุด!
แต่ถึงมันจะไม่อยากรับความจริงเท่าไหร่ แต่มันก็กระจ่างแจ้งแก่ใจดี…
ว่าตอนนี้มันแพ้แล้ว ยังแพ้ภัยตัวเอง!
“เจ้ายังคิดจะสู้ต่อหรือไม่?”
หลังจากที่ฉวยโอกาสที่หยางจิ้นพลังขาดห้วงจนกระบวนท่าอ่อนพลัง และระเบิดพลังทั้งหมดซัดหยางจิ้นได้สำเร็จ ฉู่เหยียนก็กล่าวถามหยางจิ้นออกมาด้วยท่าทางฮึกเหิมไม่น้อย
“รอให้ข้าหายดีก่อนเถอะค่อยไปท้าเจ้าสู้ใหม่อีกรอบ…ถึงตอนนั้นข้าไม่มีวันประมาทเหมือนวันนี้แน่!”
หยางจิ้นถลึงตามองฉู่เหยียนอย่างเอาเรื่อง กล่าวคำทิ้งทายเสียงเย็น ก่อนที่จะหอบร่างสะบักสะบอมเหินกลับอัฒจันทร์ที่นั่งส่วนของมณฑลผิงชาน จากนั้นพอมาถึงเบื้องหน้าผู้ว่าการมณฑลผิงชาน หวังฉี่หลิง มันก็ก้มหัวลงเอ่ยคำเสียงสลดว่า “ท่านผู้ว่า…เป็นข้าทำให้ท่านต้องผิดหวังแล้ว”
หวังฉี่หลิงระบายลมหายใจออกมาอย่างทอดถอนเบาๆ แม้ว่ามันจะรู้สึกผิดหวัง แต่ก็ไม่ได้เผยออกมาให้เห็น “ช่างเถิด…ถึงการประลอง 16 มณฑลครานี้เจ้าจะไม่อาจชนะเลิศได้ แต่อย่างน้อยๆเจ้าก็สามารถคว้าโอสถต้าหลัวมาให้มณฑลผิงชานเราถึง 2 เม็ด มณฑลผิงชานเราก็เหมือนทำโอสถต้าหลัวหล่นหายไปเม็ดหนึ่งเท่านั้น…”
“ท่านผู้ว่า…ท่านจะไม่ด่วนตัดสินไปหน่อยหรือว่าพวกเราจะได้โอสถต้าหลัว 2 เม็ดแน่ๆ เพราะอย่างไรเสียพวกเราก็ยังไม่อาจยืนยันได้แน่ชัด ว่าต้วนหลิงเทียนจะปรากฏตัวขึ้นมาหรือไม่…หากมันมาหยางจิ้นของเราก็จะได้อันดับที่ 3 ในการประลอง 16 มณฑลเท่านั้น…”
ผู้อาวุโสคนหนึ่งของมณฑลผิงชานที่ได้ยินบทสนทนาพลันกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มเจื่อนๆ
“ต้วนหลิงเทียนนั่นมันจะมาหรือไม่มาก็ช่าง…เพราะต่อให้มันมาจริง มันก็ไร้ชะตาคว้าอันดับ 1 ในการประลอง 16 มณฑลคราวนี้แน่นอน!!”
หวังฉี่หลิงแสยะยิ้มกล่าวออกเสียงเย็น ฟังจากน้ำเสียงและดูสีหน้าแววตาของมันแล้ว คล้ายมั่นใจเต็มสิบส่วน!
ราวกับไม่ว่าต้วนหลิงเทียนจะมาหรือไม่มา ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่ออันดับของหยางจิ้นเลย! ทำเหมือนมณฑลผิงชานของพวกมันจะอย่างไรก็ต้องได้รับรางวัลอันดับ 2 แน่นอน!
ได้ยินคำพูดด้วยน้ำเสียงท่าทางเปี่ยมล้นไปด้วยความมั่นใจถึงขีดสุดของหวังฉี่หลิง ไม่ว่าอาวุโสที่อยู่ข้างๆหรือหยางจิ้นก็หันไปมองยังร่างในชุดคลุมสีเทาข้างๆหวังฉี่หลิงอย่างไม่รู้ตัว…
“คนในชุดคลุมสีเทานั่น…คงมิใช่ยอดฝีมือที่ใต้เท้าผู้ว่าทุกท่านร่วมกันจ้างวานหรอกนะ?”
“ไม่น่าจะเป็นไปได้…ตอนนี้มิใช่แค่อ๋อง 3 เท่านั้น กระทั่งอ๋องฉินก็อยู่ที่นี่ด้วย นับประสาอะไรกับคนในชุดคลุมสีเทานั่นอาจจะไม่มีโอกาสฆ่าต้วนหลิงเทียน ต่อให้มันจะฆ่าต้วนหลิงเทียนได้จริง แต่ข้าก็เกรงว่ามันคงยากจะหนีไปไหนได้พ้น และถึงตอนนั้นไม่พ้น มันต้องลากมณฑลผิงชานของพวกเราจมปลักโคลนไปด้วยแน่…”
“ข้าเองก็คิดว่าเป็นไปไม่ได้ ให้ถอยหลังหมื่นก้าว…ต่อให้คนในชุดคลุมเทานั่นจะหลบหนีไปหลังฆ่าต้วนหลิงเทียนได้จริง แต่ทางวังฉินก็ต้องเอาความผิดทั้งหมดที่เกิดเรื่องกลางงานประลอง 16 มณฑลมาลงที่มณฑลผิงชานเราแน่! ถึงตอนนั้นด้วยโทสะของอ๋องฉิน เผลอๆมณฑลผิงชานเราจะต้องถูกลงโทษสถานหนัก และไม่ต้องหวังจะได้รับรางวัลอะไรเลยด้วยซ้ำ…”
“แล้วหากคนในชุดคลุมเทานั่นมิใช่มือสังหารที่เหล่าใต้เท้าไปจ้างมาเล่า? ไฉนใต้เท้าผู้ว่าเราถึงได้แลดูมั่นใจนักว่าต่อให้ต้วนหลิงเทียนจะมา ก็ไม่ส่งผลกระทบอะไรกับอันดับ 2 ของหยางจิ้น?”
…
เหล่าอาวุโสของมณฑลผิงชานได้แต่ลอบส่งเสียงผ่านพลังหารือกันด้วยความสงสัย แต่สุดท้ายพวกมันก็ไม่อาจหาข้อสรุปได้…
ที่แท้ผู้ว่าของพวกมันอาศัยอะไรกันแน่ ถึงได้มั่นอกมั่นใจนัก…ว่าต่อให้ต้วนหลิงเทียนจะมา ก็จะไม่มีทางส่งผลกระทบต่ออันดับ 2 ในการประลอง 16 มณฑลของหยางจิ้น!
“ฉู่เหยียนชนะแล้ว…”
“ไม่คิดเลย ข้าไม่คิดเลยจริงๆ…ว่าสุดท้ายผู้ที่คว้าชัยในที่สุดจักเป็นฉู่เหยียน”
“มณฑลหลิวฟงนับว่าประสบผลเลิศล้ำแล้วจริงๆ”
“เมื่อครู่เป็นข้าสังเกตเห็นได้ชัดเจน…หยางจิ้นคล้ายเร่งร้อนจนไม่อาจรักษาลมหายใจเอาไว้ได้ พอพลังขาดห้วงก็ถูกฉู่เหยียนฉกฉวยโอกาสตีงูด้วยลำไผ่คว้าชัยเหนือหยางจิ้นในเสี้ยวพริบตา!”
“ไม่ว่าจะอย่างไรก็แล้วแต่..สุดท้ายวันนี้ผู้ที่คว้าชัยชนะสูงสุดได้ก็คือฉู่เหยียน!”
“ชัยชนะสูงสุดหรือ? พี่ชายนี่ท่านจะไม่ด่วนสรุปเกินไปหน่อยหรือไร…เพราะสุดท้ายแล้วไพ่ตายของมณฑลจิ่วโยว ต้วนหลิงเทียนนั่นก็ยังไม่ปรากฏตัว!”
“ใช่แล้ว หากต้วนหลิงเทียนปรากฏตัวออกมา อันดับ 1 ในการประลอง 16 มณฑลคราวนี้ก็ต้องเป็นของต้วนหลิงเทียนแน่…ต้องรอให้ต้วนหลิงเทียนไม่ปรากฏตัววออกมาเสียก่อน ถึงจะสรุปได้ว่าฉู่เหยียนชนะเลิศ…”
“ไม่ว่าต้วนหลิงเทียนจะปรากฏตัวหรือไม่…แต่การประลอง 16 มณฑลคราวนี้ นับว่าทำให้นายน้อยฉู่รวมถึงนายน้อยหยางโด่งดังไปทั่ง 16 มณฑลแน่นอน!!”
…
อัฒจันทร์รอบๆเวทีประลอง ยังคงเต็มไปด้วยเสียงสนทนานดังระงม
เหล่าผู้ว่าของแต่ละมณฑลใต้การปกครองของวังฉินก็เริ่มทยอยกันเดินทางไปยังอัฒจันทร์ส่วนของมณฑลหลิวฟง และเริ่มประสานมือกล่าวคำแสดงความยินดีกับฉู่ถิงซวนกันยกใหญ่ “ขอแสดงความยินดีด้วยผู้ว่าฉู่…ที่มณฑลหลิวฟงท่านได้รับอันดับ 1 ในการประลอง 16 มณฑลครานี้…”
“ฮัยยาผู้ว่าฉู่! ข้าเคยรู้แค่เพียงท่านมีลูกสาวเข้มแข็งเยี่ยงวีรสตรี แต่ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าลูกชายท่านยังร้ายกาจยิ่งกว่าลูกสาวท่านเสียอีก! ไฉนท่านถึงทำให้ผู้อื่นอิจฉานักเล่า!?”
“ผู้ว่าฉู่ลูกสาวข้าปีนี้พึ่งมีอายุได้สองพันนิดๆ นับว่าโตเป็นสาวพอดี…พวกเรานัดให้เด็กๆดูตัวกันหน่อยดีหรือไม่?”
…
เหล่าผู้ว่าทั้งหลายแวะเวียนมากล่าวแสดงความยินดีทั้งสนทนาพาทีไปเรื่อย ทำให้ฉู่ถิงซวนยิ้มไม่หุบจริงๆ
แตกต่างจากอัฒจันทร์ของเหล่า 16 มณฑลที่แลดูคึกครื้นกันใหญ่…
อัฒจันทร์สำหรับบุคคลพิเศษที่ก่อนหน้ายังฮือฮาอยู่บ้าง ทว่าตอนนี้ช่างเงียบกริบนัก
และทั้งหมดเป็นเพราะมีคนเอ่ยประโยคหนึ่งออกมา…
“ฉู่เหยียนชนะแล้วแบบนี้…มิได้หมายความว่าปรมาจาร์หลอมโอสถอมตะระดับต่ำของนิกายมังกรบินก็ชนะพนันแล้วหรอกหรือ?”
เรียกว่าพอประโยคนี้ดังขึ้นมา ก็กระตุ้นเตือนให้ผู้คนทั้งอัฒจันทร์พิเศษนึกเรื่องราวได้ออกทันที..
ว่าก่อนที่ฉู่เหยียนกับหยางจิ้นจะตัดสินผลกันได้ มีคน 2 คนในอัฒจันทร์ที่นั่งสำหรับบุคคลพิเศษของพวกมัน ได้ทำการพนันกันเอาไว้ ที่สำคัญการพนันระหว่างทั้งคู่ยังถึงกับได้อ๋อง 3 มาเป็นคนกลางอีกด้วย…
“รองเจ้าสำนักราชันพิษ โจวอัน…แพ้พนันแล้ว!”
“50,000 หินอมตะระดับสูง…มารดาของเรา! นั่นมันหินอมตะระดับสูงตั้ง 50,000 ก้อนเชียว!!”
…
ตอนนี้ไม่ว่าใครหากเผลอไปสบตากับโจวอันรองเจ้าสำนักราชันพิษแล้วล่ะก็ ต้องมีสะดุ้งโหยงกันบ้าง เพราะตอนนี้สีหน้าแววตาของโจวอันช่างอัปลักษณ์ดูไม่ได้ มันเอาแต่มองจ้องไปยังต้วนหลิงเทียนที่นั่งอยู่ท่ามกลางคนของนิกายมังกรบินด้วยสายตาดุร้ายเอาเรื่อง…
ส่วนด้านต้วนหลิงเทียนนั้น ตอนนี้ไม่ต่างอะไรจากวีรบุรุษผู้กล้าของนิกายมังกรบินที่พึ่งนำชัยกลับบ้านเกิดเลย…
“ขอแสดงความยินดีด้วยท่านผู้อาวุโสกิตติมศักดิ์เทียนหลิง!”
“ท่านผู้อาวุโสกิตติมศักดิ์เทียนหลิงท่านชนะแล้ว!”
“ท่านผู้อาวุโสกิตติมศักดิ์เทียนหลิง คราวนี้นับว่าท่านได้สร้างงผลงานล้ำเลิศให้นิกายมังกรบินเราแล้ว!”
…
เหล่าอาวุโสของนิกายมังกรบินแย้มยิ้มหน้าบาน ยกมือขึ้นมาประสานเขย่าๆแสดงความยินดีกับต้วนหลิงเทียนกันยกใหญ่
กระทั่งรองประมุขนิกายมังกรบินอย่างหวงกวงจี๋ตอนนี้ก็แย้มยิ้มน่าระรื่นเสียเหลือเกิน ยิ่งยามมันหันไปมองส่งยิ้มเยาะเย้ยให้โจวอัน ก็แลดูมันจะสนุกสนานคึกคักนัก
“เหอะ! ก็แค่แมวตาบอดพบพานหนูตาย น่าภูมิใจนักหรือ!!”
“ปัญญาอ่อน! ฉู่เหยียนบังเอิญชนะเข้าหน่อย แล้วคิดว่าวิเศษวิโสดั่งเทพพยากรณ์เลยรึไร!?”
…
ทางด้านคนของสำนักราชันพิษนั้น พอถูกคนของนิกายมังกรบินมองเย้ยเข้าหน่อย ก็ถึงกับของขึ้นตะคอกคำสวนไปด้วยน้ำเสียงอิจฉามากชิงชังทันที