WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 2728 โรงประมูลของตระกูลเหนียน
WSSTH ตอนที่ 2,728 : โรงประมูลของตระกูลเหนียน
ต้วนหลิงเทียนย่างเท้าก้าวเดินตามกลุ่มคนสืบต่อ สองมือไพร่หลัง อกผายไหล่ผึ่ง แลดูสุขุมทั้งมั่นใจในตัวเอง สีหน้าไม่เผยความยินดียินร้ายใดๆ…
เมื่อครู่ถึงแม้ยอดฝีมือขอบเขตยอดเซียนอมตะทั้ง 2 พุ่งเข้ามาหมายลงมือกับเขา แต่เขาก็ยังคงสงบนิ่ง แต่ต้นจนจบเรียกว่าตาไม่แม้แต่จะกระพริบ
เหตุผลที่เขาสงบนิ่งนั้น ไม่ใช่เพราะเขามั่นใจว่าสามารถรับมือกับตัวตนขอบเขตยอดเซียนอมตะได้ แต่เป็นเพราะเขารู้ดีว่ายอดเซียนอมตะทั้ง 2 ของทางโรงเตี๊ยมหลิวเหนียนไม่มีทางนิ่งดูดายแน่นอน!
และเรื่องนี้ต้วนหลิงเทียนก็รู้ได้ตั้งแต่ตอนที่เขาลงมือเข่นฆ่าชายหนุ่มหน้าใสเมื่อครู่
ตราบใดที่ยอดเซียนอมตะทั้ง 2 คิดจะขัดขวางเขาไม่ให้ฆ่าคนจริง เขาคงฆ่ามันไม่ได้แน่นอน!
แต่ในเมื่ออีกฝ่ายไม่ขัดขวาง เช่นนั้นหมายความว่าทั้งคู่ยยอมรับเรื่องที่เขาฆ่ามันทิ้งได้!!
ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่กังวลกับผลที่จะตามมาหลังฆ่าคนเลย
และผลก็ออกมาเป็นอย่างที่เขาคิด
ในขณะที่ยอดเซียนอมตะทั้ง 2 จากโรงประมูลลงมือ ยอดเซียนอมตะทั้ง 2 ของฝั่งโรงเตี๊ยมหลิวเหนียนก็เคลื่อนไหวขัดขวาง บ่งบอกให้รู้ว่าทั้งคู่ไม่เพียงไม่ตำหนิเรื่องเขาฆ่าคนยังปกป้องเขา!
‘หากยอดฝีมือจากฝั่งโรงประมูลคิดทำอะไรข้า ยอดฝีมือขอบเขตยอดเซียนอมตะทั้ง 2 ของโรงเตี๊ยมหลิวเหนียนสมควรหยุดพวกมันเอาไว้…และแจ้งเรื่องระหว่างข้ากับองค์ชาย 4 ให้พวกมันฟังจนรู้ต้นสายปลายเหตุ’
ต้วนหลิงเทียนย่อมคาดเดาเรื่องนี้ออกได้ไม่ยากเย็น
เพราะ 5 วันที่แล้วการพบปะระหว่างเขากับองค์ชาย 4 ก็อยู่ในสายตาของผู้ดูโรงเตี๊ยมหลิวเหนียน กระทั่งผู้ดูแลโรงเตี๊ยมสมควรรับทราบพลังฝีมือเขาคร่าวๆ จากการลอบประลองกันลับๆระหว่างเขากับองค์ชาย 4 และมันยังน่าจะคาดเดาอายุเขาได้จากกลิ่นอายเลือดเนื้อ!
เมื่อผลลัพธ์สุดท้ายออกมาเป็นองค์ชาย 4 ถึงกับต้องไว้หน้าเขา! ไม่กล้าเอาเรื่องราวที่เขาลงมือกับสกุลโจวสืบต่อ ทุกอย่างมันก็ชี้ชัด…เขามีความเป็นมาไม่ธรรมดา!
เช่นนั้นผู้ดูแลโรงเตี๊ยมหลิวเหนียนย่อมกำชับเรื่องนี้กับทางยอดฝีมือที่คอยคุ้มครองคนในโรงเตี๊ยมแต่แรก! และยอดฝีมือของโรงเตี๊ยมก็ต้องดูแลเขาเป็นพิเศษ เช่นนั้นต้องคุ้มครองและส่งเสียงผ่านพลังแจ้งเหตุผลที่ทำแบบนั้นต่อยอดฝีมือทางฝั่งโรงประมูลแน่นอน คราวนี้เว้นเสียแต่พวกมันจะถูกลาเตะศีรษะจนสมองกลับ ไม่งั้นไหนเลยจะกล้าลงมือกับเขา…
กระทั่งองค์ชาย 4 ตัวตนผู้ยิ่งใหญ่ของพวกมัน ยังไม่กล้าแตะต้องเขา…
แล้วอาศัยยอดเซียนอมตะ 2 คนจากโรงประมูลเช่นพวกมันจะกล้าแตะ?
หลังจากนั้นตลอดการเดินทางไปโรงประมูล ต้วนหลิงเทียนก็สัมผัสได้ถึงสายตายำเกรงของทุกคนที่มองมา ไม่มีใครกล้าพูดอะไรกับเขาต่อสักคน
แต่เขาก็เข้าใจได้
เพราะสุดท้ายแล้วเขาก็พึ่งฆ่าคนภายใต้การคุ้มครองโรงเตี๊ยมหลิวเหนียนต่อหน้าต่อตา ทว่าสุดท้ายคนของโรงเตี๊ยมยังต้องออกหน้าปกป้องเขา!
“ถึงแล้ว”
หลังเดินอยู่ราวๆ 1 เค่อ ยอดฝีมือขอบเขตยอดเซียนอมตะที่ถูกโรงประมูลส่งมา ก็พาต้วนหลิงเทียนและคนอื่นๆมาหยุดลงหน้าทางเข้าสถานที่แห่งหนึ่ง ทุกคนก็มองสำรวจสถานที่เบื้องหน้าทันที
สถานที่เบื้องหน้าเป็นอาคารใหญ่โตหลังหนึ่ง แลดูหรูหรามีระดับ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าถูกปลูกสร้างมาอย่างประณีต การตกแต่งภายนอกก็พิถีพิถันนัก ทำให้ผู้คนชมดูจนละลานตาอยู่บ้าง
‘นี่น่ะเหรอ โรงประมูลสกุลเหนียน ค่อนข้างน่าประทับใจเลยทีเดียว’
ต้วนหลิงเทียนลอบกล่าว
‘แต่…ที่นี่ดูเหมือนจะไม่ใช่ทางเข้าหลักสินะ?’
ขณะเดียวกันต้วนหลิงเทียนก็บอกได้ว่า ที่นี่ไม่น่าจะใช่ทางเข้าหลัของโรงประมูล เพราะให้เทียบจากอาคารใหญ่โตที่สวยงามเบื้องหน้าแล้ว ทางเข้าหลักของมันไม่ควรเล็กๆเพียงเท่านี้ ให้เดาก็คงไม่พ้นประตูหลัง หรือทางเข้าออกย่อยเพื่อป้องกันแขกที่เข้าร่วมประมูลอะไรเทือกนั้น…
“ทุกท่านโปรดตามข้ามาทางนี้”
จากนั้นยอดเซียนอมตะทั้ง 2 ของโรงประมูลก็เดินนำเข้าไป ก่อนที่จะผายมือเชื้อเชิญให้ทุกคนเดินตามเจ้ามาอย่างมืออาชีพ
จากนั้นพวกมันก็เรียกสาวใช้มาจัดแจงให้แขกแต่ละคนเข้าห้องส่วนตัว
ในโรงประมูลสกุลเหนียนนั้นจะแบ่งที่สำหรับแขกเข้าร่วมการประมูลออกเป็น 3 ระดับชั้น ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนและคนอื่นๆได้ถูกพาไปยังชั้น 2 ไม่ทราบว่ามันบังเอิญหรือเป็นทางโรงประมูลสกุลเหนียนจงใจกันแน่ ทว่าต้วนหลิงเทียนกลับได้เข้าใช้ห้องปฐพีหมายเลข 1!
มันเป็นห้องส่วนตัวของชั้น 2 ที่อยู่ตรงกลางพอดิบพอดี เรียกว่าเป็นทำเลที่ดีที่สุดของชั้น 2
หน้าต่างของห้องนี้ อยู่ตรงกับเวทีประมูลเลยก็ว่าได้
‘โรงประมูลที่นี่นับว่ากว้างใหญ่จริงๆ ยังใหญ่กว่าโรงประมูลทุกที่ๆข้าเคยไป’
ต้วนหลิงเทียนที่นั่งลงบนเก้าอี้นุ่มๆในห้องปฐพีหมายเลข 1 เมื่อมองลอหน้าต่างไปยังเวทีประมูลอันใหญ่โตด้านนอก ก็อดไม่ได้ที่จะลอบทอดถอนในใจ
เบื้องหน้าต้วนหลิงเทียนเป็นมีโต๊ะไม้สวยงาม พร้อมชุดน้ำชาวางอยู่
และตอนนี้ก็มีสาวใช้กำลังรินชาให้เขา
“นายน้อย มิทราบท่านมีนามว่าอะไรหรือเจ้าคะ?”
ในขณะที่รินน้ำชาให้ต้วนหลิงเทียน สาวใช้ก็ส่งยิ้มให้ต้วนหลิงเทียนพลางถาม
“ข้าแซ่ ต้วน”
ต้วนหลิงเทียนหยิบจอกชาที่สาวใช้รินให้ขึ้นมาจิบเบาๆ ทันใดนั้นสองตาเขาก็ทอประกายเรืองขึ้นวูบหนึ่ง “ชาดี!”
เพราะทันทีที่จิบชาลงคอ ต้วนหลิงเทียนก็สัมผัสได้ถึงพลังอุ่นร้อนอ่อนโยนสายหนึ่ง แผ่ซ่านไปทั่วชีพจรสวรรค์ทั้ง 99 สายของเขา
ถึงแม้จะไม่ถึงขั้นช่วยเพิ่มพูนพลังฝึกปรืออะไร แต่ทำให้เขารู้สึกสบายตัวไม่น้อย
ช่างอุ่นร้อนสบายตัว ผ่อนคลายนัก!
“คุณชายต้วนนี่เป็นชาที่ นายท่าน 3 ตระกูลเหนียนของพวกเราใช้เวลาค้นคว้าและเพาะพันธุ์อยู่นานปีตั้งแต่สมัยยังหนุ่ม เรียกว่า ‘ชาหน่วนชุน’ ถึงแม้จักมิใช่ชาอมตะที่ช่วยเพิ่มพูนพลังฝึกปรือ หากแต่ก็ทำให้ผู้ที่ลิ้มลองรู้สึกเสมือนอยู่ท่ามกลางสายลมอบอุ่นของงฤดูใบไม้ผลิ ยังรู้สึกเสมือนมีสายน้ำหล่อเลี้ยงชีพจรสวรรค์ทั่วร่างเจ้าค่ะ…”
สาวใช้กล่าว
“ชาหน่วนชุนงั้นหรือ? ชาดี ยังมีสรรพคุณสมชื่อ”
ต้วนหลิงเทียนพยักหน้า
หลังจากนั้นต้วนหลิงเทียนก็สอบถามเรื่องราวทั่ไปจากสาวใช้ จนได้รับทราบถึงรายละเอียดของชั้นต่างๆในโรงประมูล ซึ่งทั้งหมดมี 3 ชั้น ได้แก่ชั้นนภา ชั้นปฐพี และชั้นมนุษย์
ในบรรดาทั้ง 3 ชั้น ชั้นนภานั้นจะเปิดให้คนในตระกูลราชวงศ์ของประเทศอมตะเถิงหลงเข้าใช้เท่านั้น
แต่แน่นอนว่าหากมีแขกที่มีฐานะเหนือกว่าคนของตระกูลราชวงศ์ประเทศอมตะเถิงหลงเข้าใช้ ก็จะถูกจัดให้อยู่ในชั้นนภาเช่นกัน
กล่าวได้ว่า ผู้ที่จะเข้าใช้ชั้นนภาได้ อย่างน้อยๆก็ต้องเป็นเชื้อพระวงศ์
‘ห้องปฐพีหมายเลข 1 ที่ข้าใช้อยู่ตอนนี้ เป็นห้องที่ดีที่สุดของชั้นปฐพีแล้วจริงๆ กล่าวได้ว่าถ้าไม่ใช่เชื้อพระวงศ์ ห้องนี้ก็คือห้องที่ดีที่สุดเท่าที่จะเข้าใช้ได้ และต่อให้เป็นฮ่องเต้ของประเทศอมตะระดับกลางมาเอง ห้องที่ดีที่สุดที่มันจะเข้าใช้ได้ก็คือห้องนี้เท่านั้น’
‘คิดไม่ถึงจริงๆ…ว่างานประมูลย่อยครั้งนี้สกุลเหนียนจะให้ข้าใช้ ห้องปฐพีหมายเลข 1’
ต้วนหลิงเทียนลอบกล่าว
ตอนนี้เขามั่นใจเต็มสิบส่วน
ผู้ดูแลสกุลเหนียนย่อมรับทราบชัดเจน ว่าเขาไม่ได้หวาดกลัวอะไรองค์ชาย 4 เลย หาไม่แล้วคงไม่จัดห้องปฐพีหมายเลข 1 ให้เขาแบบนี้
‘หากผู้ดูแลโรงประมูลสกุลเหนียนรู้ว่าข้าไม่ได้มีภูมิหลังยิ่งใหญ่อะไร…น่ากลัวมันคงโมโหจนไฟลุก แล้วรีบวิ่งมาไล่ตะเพิดข้าออกจากห้องปฐพีหมายเลข 1 ใช่ไหม?’
ต้วนหลิงเทียนนึกในใจอย่างสนุกสนาน
เขาเองก็ไม่คิดว่าการเสแสร้งแสดงวางมาดยอดฝีมือลึกลับต่อหน้าองค์ชาย 4 จะทำให้ได้สิทธิประโยชน์และความสะดวกสบายขนาดนี้
อย่างไรก็ตาม ต้องกล่าวเลยว่าเขาชมชอบอภิสิทธิ์เช่นนี้จริงๆ
เป็นธรรมดาว่าอภิสิทธิ์นี้ไม่ใช่ได้มาโดยไร้เรื่องราว แต่ยังมีความเสี่ยงด้วยเช่นกัน!
ไม่นานการประมูลก็เริ่มต้นขึ้น
บนเวทีประมูลด้านล่างตอนนี้ ก็มีพิธีกรก้าวอาดๆขึ้นมากลางเวที เป็นสตรีรูปร่างอวบอิ่มนางหนึ่ง และพอเปิดปากกล่าววาจาออกมา ต้องบอกเลยว่าเสียงนางไม่เพียงแต่จะฟังรื่นหู ยังมีมนต์ขลังชวนให้หลงใหลประการหนึ่ง
จากนั้นพิธีการสาวก็เริ่มดำเนินการประมูลไปอย่างช่ำชอง ยังควบคุมบรรยากาศการประมูลได้อย่างยอดเยี่ยม สิ่งของประมูลแต่ละชิ้นถูกทยอยขึ้นมาให้ทุกคนประกวดราคากันอย่างคึกคัก ราคาประมูลสุดท้ายแต่ละชิ้นก็นับว่าเอาเรื่องอยู่
หลังผ่านไปครึ่งชั่วยาม ต้วนหลิงเทียนก็ยังไม่คิดจะประมูลอะไร
เพราะจนถึงบัดนี้เขายังไม่เห็นของที่ต้องการ
ต้วนหลิงเทียนนั่งจิบชารอเวลาไปเรื่อยเปื่อย
สาวใช้ก็คอยรินชาไม่ขาด
…
สำหรับชั้นนภาของโรงประมูลสกุลเหนียนนั้น มีไว้สำหรับรับรองแขกของทางตระกูลราชวงศ์โดยเฉพาะ
แน่นอนว่าหากมีบุคคลสำคัญที่มีพลังอำนาจเหนือกว่าคนของตระกูลราชวงศ์ ก็จะได้เข้าใช้ห้องประมูลส่วนตัวในชั้นนภาเช่นกัน ทว่าสถานการณ์เช่นนั้น ตั้งแต่สร้างมาโรงประมูลสกุลเหนียนก็ยังไม่เคยพบเจอมาก่อน
เพราะไม่เคยมีตัวตนระดับนั้นแวะเวียนเข้ามาใช้โรงประมูลของสกุลเหนียนเลย
ภายในห้องนภาหมายเลข 1 ก่อนอื่นต้องกล่าวเลยว่าห้องนี้ตกแต่งอย่างหรูหรามีระดับนัก! ข้าวของเครื่องใช้ภายในห้องรวมถึงอาหารที่ยกมาจัดวาง มันหรูหราสุดที่ห้องปฐพีหมายเลข 1 ของต้วนหลิงเทียนจะเทียบได้
และตอนนี้ภายในห้องนภาหมายเลข 1 ก็ปรากฏร่างชายหนุ่มหล่อเหลานั่งอยู่
ชายหนุ่มหล่อเหลาผู้นี้มาในชุดคลุมสีขาวขลิบทอง แก้มขาวกระจ่างเจือสีเลือดฝาดอ่อนๆ แลดูบอบบางราวกับเพียงใช้นิ้วจิ้มก็อาจจะเป็นแผล ชวนให้สตรีทั้งหลายอิจฉานัก
อย่างไรก็ตามหว่างคิ้วของชายหนุ่มผู้นี้กลับแผ่พุ่งความองอาจเข้มแข็งสมชายชาติ ซึ่งเข้ากับผิวขาวๆรวมถึงแก้มสีกุหลาบอ่อนๆของมันพิกล เป็นความย้อนแย้งที่ผสานกันได้ลงตัวอย่างประหลาด ยังผลให้แลดูมีเสน่ห์นัก
สาวใช้ทั้ง 2 ที่คอยปรนนิบัติรับใช้ข้างๆโต๊ะหยกหรูหรา มักจะลอบมองชายหนุ่มผู้นี้เป็นระยะๆ และทุกคราที่แอบมองพวงแก้มแต่ละคนก็ขึ้นสีชมพูระเรื่อให้เห็น
“องค์ชาย 13…งานประมูลย่อยของทางเรามิได้มีสินค้าอันใดที่คุณภาพสูงเหมาะสมกับท่านเลย ท่านใช่เข้าใจผิดว่าวันนี้เป็นงานประมูลใหญ่ประจำปีหรือไม่ขอรับ?”
ชายชรา ที่เป็นถึงผู้ดูแลโรงประมูลของสกุลเหนียน บัดนี้กำลังยิ้มกล่าวคำกับชายหนุ่มหล่อเหลาด้วยท่าทางนอบน้อม
“ข้าแค่มาเล่นๆก็เท่านั้น ไม่ได้ตั้งใจจะมาประมูลอะไรกลับไป”
ได้ยินวาจาเอ่ยถามของผู้ดูแลชรา ชายหนุ่มหล่อเหลาก็เอ่ยตอบกลับไปเสียงเบา และแต่ต้นจนจบมันก็ไม่แม้แต่จะเหลือบแลผู้ดูชราเลย
ต้องทราบด้วยว่าผู้ดูแลโรงประมูลสกุลเหนียนผู้นี้ เป็นถึงยอดเซียนอมตะขั้นลี้ลับ ซึ่งมีพลังฝีมือกล้าแข็งเหนือกว่ายอดเซียนอมตะขั้นเหลืองทั้ง 4 ที่คุ้มกันต้วนหลิงเทียนกับคนอื่นๆที่เข้าพักโรงเตี๊ยมหลิวเหนียนมาส่งมากมายนัก!
ทว่าชายหนุ่มหล่อเหลาในชุดขาวขลิบทองทำราวกับไม่เห็นมันอยู่ในสายตา
หากทว่าชายชราไม่เพียงแต่จะไม่พอใจอะไร กลับกันมันยังรู้สึกว่าเป็นแบบนี้ก็สมควรแล้ว
“เอ่อ แล้ว…”
ในขณะที่ผู้ดูแลชราของโรงประมูลสกุลเหนียนคิดจะกล่าววาจาอะไรบางอย่างออกมา ชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่ด้านหลังชายหนุ่มหล่อเหลาในชุดขาวขลิปทอง แต่เดิมที่หลับตาอย่างเงียบงัน ก็พลันลืมตาขึ้นมา
สองตาของมันคล้ายมีอัสนีบาตแล่นวาบ เพียงเหลือบมองชายชราคราหนึ่งก็หลับตาลงต่อ
“องค์ชาย 13…เช่นนั้นหากท่านประสงค์สิ่งใด เพียงท่านบอกต่อสาวใช้ทั้ง 2 ให้มาแจ้งข้าน้อยได้ทุกเมื่อ…”
ด้วยถูกชายวัยกลางคนใช้สายตาดั่งสายฟ้าฟาดมองมาปราดหนึ่ง ชายชราผู้ดูแลโรงประมูลสกุลเหนียนก็รู้สึกเสมือนหนังศีรษะชาด้าน มันเร่งกล่าวทิ้งท้าย ก่อนจะรีบออกจากห้องนภาหมายเลข 1 ไปทันที
หากจะกล่าวว่ามันกลัวชายหนุ่มหล่อเหลาในชุดขาวขลิบทองเพราะฐานะแล้วล่ะก็….
เช่นนั้นมันก็กลัวชายวัยกลางคนในชุดจอมยุทธ์ด้านหลังชายหนุ่ม เพราะพลังฝีมืออันสูงส่ง!
‘คิดไม่ถึงจริงๆ…คนที่คอยติดตามอยู่ข้างกายองค์ชาย 13 ที่แท้จักเป็นถึงยอดเซียนอมตะขั้นสวรรค์! เพียงสายตาก็สร้างแรงกดดันอันหนักหน่วงอะไรเช่นนี้! คนที่ทำให้ข้ารู้สึกเช่นนี้ได้มีแต่ท่านบรรพบุรุษผู้เฒ่าเท่านั้น!!’
หลังออกมาจากห้องนภาหมายเลข 1 แล้ว ผู้ดูแลชราของโรงประมูลสกุลเหนียนก็เหงื่อแตกพลั่ก!