WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 2910
ตอนที่ 2,910 : บุกนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับ!
นิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับนั้น เป็นหนึ่งในนิกายอมตะใหญ่ของ 6 พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงใต้ และยังได้รับการยอมรับให้เป็นนิกายอันดับ 1 ของภาคตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย
พื้นเพความเป็นมาของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับก็ล้ำลึกนัก
และที่สำคัญก็คือ บัดนี้ขุมกำลังของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับได้ทรงพลังเหนือกว่านิกายอมตะใหญ่ใดๆใน 6 พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงใต้อย่างเห็นได้ชัด
ในบรรดานิกายอมตะใหญ่ของ 6 พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงใต้นั้น บางนิกายไม่มีแม้กระทั่งขุนนางอมตะ 9 ตำหนักด้วยซ้ำ ยังจะนับประสาอะไรกับขุนนางอมตะ 10 ทิศ!
และมีนิกายอมตะใหญ่ชั้นนำไม่น้อย ที่มีแค่ตัวตนขอบเขตขุนนางอมตะ 9 ตำหนัก แต่ก็ไร้ซึ่งขุนนางอมตะ 10 ทิศดำรงอยู่
โดยทั่วไปแล้ว มีแต่นิกายอมตะใหญ่ใน 6 พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงใต้ที่มีชื่อเสียงโด่งดังเท่านั้น ถึงจะมีตัวตนขอบเขตขุนนางอมตะ 10 ทิศดำรงอยู่ นิกายอมตะเหล่านี้ก็ได้แก่ นิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับ นิกายอมตะสือหัง นิกายยอมตะสราญรมย์ ฯลฯ
แต่ในบรรดานิกายอมตะใหญ่ที่มีชื่อเสียงเหล่านี้ นอกจากนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับแล้ว ก็ล้วนมีตัวตนขุนนางอมตะ 10 ทิศดำรงอยู่เพียงแค่คนเดียวเท่านั้น
แต่อย่างไรเสียแม้จะมีแค่คนเดียว แต่พลังอำนาจก็ถือว่าเป็นรองนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับแค่นิกายเดียว
ส่วนนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับนั้น มีตัวตนขอบเขตขุนนางอมตะ 10 ทิศอยู่ด้วยกันทั้งสิ้น 3 คน!
และเป็นเพราะการดำรงอยู่ของขุนนางอมตะ 10 ทิศทั้ง 3 คนนี้เอง ที่ทำให้ตำแหน่งของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับใน 6 พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงใต้ไม่เว้นพื้นที่ชายแดนทั้งมวลอยู่ ณ จุดสูงสุดไร้ผู้ใดเทียบติด
แน่นอนว่าข้างต้นที่กล่าวมา ก็คือพลังความแข็งแกร่งที่เปิดเผยสู่โลกภายนอกของเหล่านิกายอมตะใหญ่ในภาคตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงพื้นที่ชายแดนอื่นๆเท่านั้น
เพราะไม่มีผู้ใดบอกได้ ว่านิกายอมตะใดที่มีตัวตนขอบเขตพลังกึ่งราชาอมตะเร้นกายอยู่บ้าง เพราะยอดฝีมือเหล่านั้นจะปรากฏตัวขึ้นก็ต่อเมื่อนิกายตกอยู่ในอันตรายถึงขั้นล่มสลายเท่านั้น
ในประวัติศาสตร์ของ 6 พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงใต้ ก็มีกรณีตัวอย่างนิกายอมตะไท่อีให้เห็นกันเป็นอย่างดี…
แน่นอนว่าประวัติศาสตร์ในพื้นที่ชายแดนภาคอื่นๆ ก็ไม่ขาดกรณีอย่างนิกายอมตะไท่อีเช่นกัน!
ด้วยเหตุนี้ใน 6 พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงใต้ จวบจนในพื้นที่ชายแดนทั้งมวล หลังเกิดเหตุการณ์ตัวอย่างที่มียอดฝีมือเร้นกายของนิกายอมตะไท่อี ออกมาทำลายล้างนิกายอมตะอันดับ 1 ให้เห็น ก็ไม่มีนิกายอมตะใหญ่นิกายใดที่คิดจะฮุบกลืนนิกายอมตะใหญ่ที่อ่อนด้อยกว่า กระทั่งไม่มีนิกายใดเปิดฉากเข่นฆ่าสังหารจนกระทบถึงรากฐานนิกายอีกเลย
เพราะสุดท้ายแล้วไม่ว่าจะเป็นนิกายอมตะใหญ่นิกายใด แม้ในปัจจุบันจะอ่อนด้อยแค่ไหน แต่ในอดีตก็ล้วนแล้วแต่มีช่วงเวลาที่เคยรุ่งโรจน์ และมีตัวตนที่ทะลวงถึงขอบเขตราชาอมตะด้วยกันทั้งสิ้น…
และไม่มีผู้ใดสามารถมั่นใจได้ว่า…เหล่าราชาอมตะที่ออกจากนิกายไป ที่แท้ใช่ไปยังภาคกลางแล้วจริงหรือไม่ หรืออันที่จริงแล้วเลือกที่จะเร้นกายรั้งอยู่เพื่อลอบให้ความคุ้มครองนิกายของตัวเองอย่างลับๆ…
เช่นนั้นแล้ว ใน 6 พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยมีอำนาจสะกดของตัวตนขอบเขตกึ่งราชาอมตะที่อาจเร้นกายลอบให้ความคุ้มครองอยู่ แม้จะเป็นนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับที่ทรงพลัง ก็ไม่กล้าที่จะลงมือฮุบกลืนนิกายอมตะที่อ่อนแอกว่าสักครั้ง
อย่างไรก็ตามในที่แจ้ง นิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับก็ยังคงครองความเป็นหนึ่ง มองไปทั่ว 6 พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงใต้ ก็ไร้ผู้ใดหาญกล้าต่อกรอย่างไม่อาจปฏิเสธได้…
ทำให้ไม่ว่าจะเป็นประมุขนิกายอมตะสือหัง หรือประมุขนิกายอมตะสราญรมย์ไม่เว้นประมุขนิกายอื่นใด ยามพบหน้าประมุขนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับ ก็ยังต้องให้หน้าอีกฝ่าย และลดท่าทีลงสามส่วน
ท้ายที่สุดแล้วตราบใดที่นิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับ ไม่คิดจะเปิดฉากลงมือทำลายนิกายอมตะใหญ่อื่นๆก่อน แม้นิกายอมตะใหญ่อื่นๆอาจจะล่วงรู้ว่านิกายของตัวเองมียอดฝีมือเร้นกายอยู่ใน 6 พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงใต้ แต่ก็ไม่มีใครกล้าลงมือทำอะไร เพราะยอดฝีมือเหล่านั้นไม่คิดเคลื่อนไหวลงมือเพราะช่วยพวกมันช่วงชิงอำนาจแน่นอน…
…
“นิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับ ด้านหน้าเหรอ?”
พอเห็นว่าอยู่ๆเถี่ยไท่เหอก็หยุดร่างลงกลางหาว ต้วนหลิงเทียนก็พอจะคาดเดาได้ว่าสมควรมาถึงนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับแล้ว พอได้ยินคำพูดของเถี่ยไท่เหอเขาก็เลยหันไปมองสำรวจที่ทางเบื้องหน้าทันที
พบว่าเบื้องหน้า เป็นป่าทึบเขียวขจีทอดยาวไปสุดลูกหูลูกตา
และเหนือขึ้นไปจากพื้นที่ป่าขจีขึ้นไปหลายสิบลี้ ก็เห็นเป็นแพเมฆกว้างใหญ่หนึ่ง และเห็นได้ชัดว่ามันแตกต่างจากแพเมฆที่เกิดขึ้นธรรมชาติ
เป็นธรรมดาว่าหากไร้พลังของอุปกรณ์อมตะจอมราชันสิ้นเปลือง ต้วนหลิงเทียนก็คงไม่อาจแลเห็นความแตกต่างของแพเมฆบนฟ้าได้เลย ว่ามันต่างจากแพเมฆธรรมดาอย่างไร
ทว่าตอนนี้ต้วนหลิงเทียนกลับมองเห็นความต่างได้ในปราดเดียว!
“ถิ่นที่อยู่ของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับตั้งอยู่บนฟ้าสูงขึ้นไปนับหมื่นหมี่..อีกทั้งในป่าแห่งนี้ แม้จะมีสัตว์อมตะเป็นจำนวนมาก หากแต่พวกมันล้วนเป็นสัตวว์อมตะไร้สติปัญญาที่ไม่อาจเหินบินได้ เช่นนั้นจึงเป็นสถานที่ฝึกฝนขัดเกลาเหล่าศิษย์นิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับอย่างดี”
เถี่ยไท่เหอเองก็มองไปยังแพเมฆที่ต้วนหลิงเทียนสังเกตเห็นความแตกต่างในปราดเดียวเช่นกัน จากนั้นก็กวาดตาลงมามองป่าทึบเบื้องล่างพลางกล่าวเล่าให้ต้วนหลิงเทียนฟัง
ต้วนหลิงเทียนพยักหน้ารับรู้เบาๆ
“ไปกันเถอะ…ข้าอยากจะฟังคำอธิบายของนายน้อยนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับไป๋อวี่ซวนผู้นั้นนัก ว่าอาศัยพลังฝีมือระดับมัน ทำอย่างไรถึงรอดพ้นความตายภายใต้เงื้อมมือของบรรพจารย์ไท่อีมาได้”
ต้วนหลิงเอ่ยออกเสียงเรียบ และพอกล่าวจบคำ พลังเซียนอมตะต้นกำเนิดอันทรงพลังน่าพรั่นพรึงขุมหนึ่งก็แผ่กำจายออกมาปกคลุมเถี่ยไท่เหอและฮ่วนเอ๋อเอาไว้
พริบตาต่อมาร่างทั้ง 3 ก็ราวกับจะสาสูญไปในความว่างเปล่า!
พอปรากฏตัวอีกครั้ง ทั้งหมดก็บรรลุถึงน่านฟ้าเหนือแผ่นดินนับหมื่นๆหมี่แล้ว ยังเป็นการพุ่งทะลวงแหวกม่านเมฆที่ไม่ใช่แพเมฆธรรมดานั่นขึ้นมาอย่างอุกกอาจ!
แพเมฆหนาที่เห็นนั้นล้วนเป็นแพเมฆที่เกิดจากค่ายกลป้องกันของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับ และหากไม่ใชคนของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับที่มีป้ายผ่านเข้าออกค่ายกลแล้วล่ะก็ ต่อให้เป็นตัวตนขอบเขตราชาอมตะ 1 ต้นกำเนิดก็ไม่อาจฝ่าเข้ามาได้ง่ายๆ!
อย่างไรก็ตาม คราวนี้ต้วนหลิงเทียนอาศัยพลังที่ทัดเทียมได้กับตัวตนขอบเขตราชาอมตะ 8 ชะตา เช่นนั้นเขาจึงผ่านแพเมฆอันเป็นค่ายกลดังกล่าวได้อย่างงไร้เรื่องราว กระทั่งยังผ่านเข้ามาได้อย่างไร้ร่องรอยโดยไม่มีใครทันรู้ตัว
“ว้าว…พี่หลิงเทียน ที่อยู่ของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับช่างงดงามยิ่ง มันดูดีกว่าที่อยู่ของนิกายอมตะไท่อีหลายขุมเลย สมแล้วที่แข็งแกร่งกว่านิกายอมตะไท่อีมาก”
หลังผ่านแพเมฆอันเกิดจากค่ายกลจนล่วงล้ำเข้ามายังถิ่นที่อยู่ของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับได้แล้ว ต้วนหลิงเทียนก็ได้ยินเสียงฮ่วนเอ๋อดังเข้าหูก่อนใดอื่น
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ฮ่วนเอ๋อ ก็ได้ตื่นจากภวังค์ตีความเวทย์พลังเรียบร้อย และหลังจากนั้นนางก็ไม่คิดจะฝึกฝนเวทย์พลังหรือวรยุทธ์อมตะอันใดอีก
ได้ยินเสียงวิพากษ์วิจารย์พาดพิงถึงนิกายอมตะไท่อีของฮ่วนเอ๋อระยะประชิด เถี่ยไท่เหอที่อยู่ข้างๆก็อดไม่ได้ที่จะคลี่ยิ้มแหยๆออกกมา อย่างไรก็ตามมันเคยชินกับท่านย่าน้อยผู้มีอภิสิทธิ์นางนี้แล้ว
“สุดท้ายแล้วมันก็เป็นนิกายอมตะอันดับ 1 ใน 6 พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงใต้นี่นา พวกมันก็ต้องทำให้ยิ่งใหญ่เอาหน้าเป็นธรรมดา…”
ต้วนหลิงเทียนเอง ที่เห็นฉากเรื่องราวเบื้องหน้าอันเป็นถิ่นที่อยู่ของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับครั้งแรก ก็อดไม่ได้ที่จะตาลุกวาวขึ้นมาเช่นกัน
เพราะถิ่นที่อยู่ของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับ แม้จะเป็นรูปแบบเกาะลอยเหมือนนิกายอมะตไท่อี แต่รูปร่างของแต่ละเกาะยังไม่เหมือนกัน เรียกว่ามีเอกลักษณ์เฉพาะทั้งสิ้น
สิ่งเดียวที่เหล่าเกาะลอยเหล่านี้มีเหมือนกันก็คือ ความอลังการงานสร้าง! สิ่งปลูกสร้างทั้งอาคารไม่เว้นตัวเกาะเห็นได้ชัดว่าถูกสร้างขึ้นอย่างวิจิตรบรรจง! กระทั่งพลังที่พยุงแต่ละเกาะยังทอแสงเรืองรอง แลดูนวลตาให้ความรู้สึกโอ่อ่าไม่ใช่เล่น สร้างความประทับใจแรกให้แก่ผู้ที่พบเห็นทันที!!
“ผู้อาวุโสเถี่ยในเมื่อพวกเรามาเยือนจากแดนไกล เช่นนั้นพวกเราก็ถือเป็นอาคันตุกะ…และคราวนี้ข้าก็มาในนามหัวหน้าปรมาจารย์โอสถของนิกายอมตะไท่อี”
ต้วนหลิงเทียนมองชมถิ่นที่อยู่ของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับอยู่พักหนึ่ง ก็หันไปเอ่ยคำกับเถี่ยไท่เหอด้านข้าง “เช่นนั้นไม่ใช่ว่าท่านสมควรกล่าวทักทายนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับสักหน่อยหรือ?”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวด้วยรอยยิ้มบางๆ
อย่างไรก็ตามแม้จะกล่าวคำพร้อมแย้มยิ้มอ่อนๆ ทว่าลึกลงไปในแววตาของต้วนหลิงเทียนกลับฉายชัดถึงความเยียบเย็นอำมหิตประการหนึ่ง
ตั้งแต่ที่เขารับทราบว่าไป๋อวี่ซวนนายน้อยของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับยังมีชีวิตอยู่ และสมควรเป็นนิกายอมตะสววรรค์ลี้ลับสมรู้ร่วมคิดกันจัดฉากเข่นฆ่าบรรพจารย์ไท่อี ในใจของเขาก็ท่วมท้นไปด้วยโทสะ เพราะเขาเองก็รู้สึกว่าบรรพจารย์ไท่อีตกตายอย่างไร้ความเป็นธรรมสิ้นดี!
ถึงแม้ว่าเขากับเหอซานจะไม่ได้สนิทสนมอะไรกันมากมาย
อย่างไรก็ตามเหอซานก็เป็นบรรพจารย์ของนิกายอมตะไท่อี และไป๋ผิงผู้เป็นประมุขนิกายอมตะไท่อี ก็ดูแลรับรองเขาอย่างดี กระทั่งเอาใจเขาทุกอย่าง ในเมื่อเรื่องนี้อยู่ในขอบเขตที่เขาจัดการได้ เขาย่อมไม่มีวันนิ่งเฉยอยู่ได้!!
“ประเสริฐ!”
เถี่ยไท่เหอที่กำลังรอคำนี้ของต้วนหลิงเทียนอยู่ เช่นนั้นทันทีที่ต้วนหลิงเทียนกล่าวจบคำ มันก็ตอบรับทันใด จากนั้นก็อ้าปากกล่าวคำออกมาอีกรอบ และเสียงกล่าววาจาครานี้ยังผสานไปด้วยพลังเซียนอมตะต้นกำเนิดอันสุดไพศาล จนดังสะท้านไปทั่วนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับ!!
“เถี่ยไท่เหอ ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายอมตะไท่อี พร้อมด้วย ปรมาจารย์โอสถต้วน หัวหน้าปรมาจารย์โอสถของนิกายอมตะไท่อี มาเยี่ยมเยียนนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับ!”
นี่คือวาจาที่เถี่ยไท่เหอพึ่งกล่าว
และอยู่ๆการที่เสียงของเถี่ยไท่เหอดังกึกก้องไปทั่วทั้งนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับแบบนี้ มันก็สร้างความแตกตื่นโกลาหลให้กับคนขอนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับทันที!
เพราะสุดท้ายแล้ว ตราบใดที่เป็นคนที่อยู่ในนิกายอมตะสววรรค์ลี้ลับมาสักพัก ย่อมรู้ได้ทันทีว่าเถี่ยไท่เหอนั้นเป็นอาคันตุกะไม่ได้รับเชิญ ที่บุกรุกเข้ามาในถิ่นที่อยู่ของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับอย่างอึกอาจโดยไม่ได้รับอนุญาต!
เพราะหากเถี่ยไท่เหหอมาเยี่ยมเยียนนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับจริง นับประสาอะไรกับมันที่เป็นแค่ขุนนางอมตะ 7 ดารา ต่อให้เป็นขุนนางอมตะ 10 ทิศ แต่เสียงของมันก็ไม่มีวันดังเข้ามาในถิ่นที่อยู่ของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับกระทั่งดังก้องไปทั่วแบบนี้!
เนื่องเพราะค่ายกลที่ปกคลุมรอบถิ่นที่อยู่นิกายอมตคะสวรรค์ลี้ลับนั้น มันมีอาคมปิดกั้นเสียงด้วยเช่นกัน และมีแต่ตัวตนขอบเขตราชาอมตะขึ้นไปเท่านั้น ถึงจะมีพลังสามารถส่งเสียงงให้ดังผ่านเข้ามากึกก้องไปทั่วนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับได้!
“เถี่ยไท่เหอ ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายอมตะไท่อี มันมิใช่อดีตผู้พิทักษ์เถี่ยของนิกายอมตะไท่อีที่พึ่งทะลวงถึงขุนนางอมตะ 7 ดาราได้ไม่นานคนนั้นหรือไร?”
“ฟังที่มันพูดเมื่อครู่…มันบอกว่ามาเยี่ยมเยียนนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับเรางั้นรึ?”
“แต่มันเข้ามาที่นี่โดยไม่มีผู้ใดแจ้งเตือนได้อย่างไร เช่นนั้นหมายความว่ามันเข้ามาโดยมิได้รับเชิญ…นี่มันถึงกับกล้าบุกรุกเข้ามาตามอำเภอใจงั้นรึ?”
“เหอะ! ขุนนางอมตะ 7 ดาราที่กล้าหาญนัก!”
“ฟังแล้วดูเหมือนมันจะมาพร้อมต้วนหลิงเทียน หัวหน้าปรมาจรย์โอสถของนิกายอมตะไท่อีผู้นั้น…หรือเป็นเพราะต้วนหลิงเทียน มันถึงได้กล้าหาญชาญชัญขนาดนี้!?”
“เฮอะ! แม้แต่ซุนเชาอดีตปรมาจารย์หลอมโอสถอมตะระดับสูงอันดับหนึ่ง ของ 6 พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงใต้ในกาลก่อน ยามมาเยือนนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับเรา ยังต้องรอให้พวกเราเชิญเข้ามาเสียก่อนถึงจะเข้ามาได้! ถึงแม้ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนนจะแทนที่ซุนเชาแล้วกลายเป็นปรมาจารย์หลอมโอสถอมตะระดับสูงอันดับหนึ่งคนใหม่ แต่มันก็ไม่มีอภิสิทธิ์อันใด ที่จะบุกรุกเข้ามานิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับเราตามอำเภอใจ!!”
…
ทันทีที่เสียงของเถี่ยไท่เหอดังไปทั่วนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับ นอกจากจะทำให้ศิษย์ของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับตกใจแล้ว เหล่าอาวุโสของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับยังบังเกิดความไม่พอใจ และคิดว่าต้วนหลิงเทียนกับเถี่ยไท่เหอหยาบคาย ไร้มารยาทสิ้นดี!
“เถี่ยไท่เหอ?”
“แถมต้วนหลิงเทียนผู้นั้นก็มาด้วย?”
“พวกมันมาที่นี่ทำไม?”
หลังได้ยินเสียงของเถี่ยไท่เหอ ประมุขนิกายยอมตะสวรรค์ลี้ลับ ไป๋หวู่จี้ ก็เลิกคิ้วขึ้น แววตาฉายชัดถึงความแปลกใจสงสัย
เพราะต้วนหลิงเทียนกับเถี่ยไท่เหอบุกเข้ามาโดยไม่ได้รับเชิญ อีกทั้งฟังจากน้ำเสียงของเถี่ยไท่เหอแล้ว เกรงว่าจะไม่ได้มาในฐานะอาคันตุกะอันใด แต่คล้ายมาหาความอะไรมากกว่า!!
อย่างไรก็ตามแม้จะรู้ว่าทั้งสองคนคล้ายมาหาความอันใดบางอย่าง แต่ไป๋หวู่จี้ก็ไม่คิดจะออกไปพบทั้งคู่โดยตรง
เพราะสุดท้ายแล้ว ‘ฐานะ’ ของมันก็ค้ำคออยู่!
“ไปกันเถอะ! ไปดูหน้าเถี่ยไท่เหอของนิกายอมตะไท่อีสักครา…ข้าอยากรู้นักว่ามันอาศัยอะไรถึงได้หาญกล้าบุกเข้ามานิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับของพวกเราโดยมิได้รับเชิญ!”
“อาศัยขุนนางอมตะ 7 ดาราคนหนึ่งกลับลำพองตัว…ข้าอยากรู้เหมือนกัน ว่าอีกประเดี๋ยวมันจะหาญกล้ากล่าวเสียงดังเช่นเมื่อครู่ต่อหน้าขุนนางอมตะ 8 ชะตาอย่างข้าไหม!”
“มันคิดจริงๆหรือ ว่าอาศัยเด็กน้อยขนอุยที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นปรมจารย์หลอมโอสถอมตะระดับสูงอันดับ 1 ของพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงใต้คนหนึ่ง จักทำให้มันสามารถบุกรุกนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับได้ตามใจชอบ?”
“วันนี้ข้าจักคอยยดู ว่าเถี่ยไท่เหอนั่นจักอธิบายความหาญกล้าบุกรุกของมันว่าอย่างไร”
…
ถึงแม้ว่าไป๋หวู่จี้ ประมุขนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับไม่คิดจะออกไปพบพวกต้วนหลิงเทียนกับเถี่ยไท่เหอด้วยตัวเอง หากแต่ผู้อาวุโสระดับสูงคนอื่นๆของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับ ไม่จำเป็นต้องรั้งรออะไรเช่นนั้น ต่างพากันเหินร่างออกไปทีละคนๆ มุ่งตรงไปยังต้นเสียงเถี่ยไท่เหอด้วยสีหน้าแววตาดุร้ายเอาเรื่อง!