WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 2912
ตอนที่ 2,912 : ยอดฝีมือที่ซ่อนตัวในเงามืด?
“อาศัยยอดเซียนอมตะขั้นลี้ลับคนหนึ่ง ไปเอาความมั่นใจมาแต่ที่ใดถึงได้พูดแบบนี้?”
“ข้าคิดว่ามันเสียสติไปแล้ว…อาศัยยอดเซียนอมตะขั้นลี้ลับเช่นมัน กลับกล้าเสแสร้งทำเป็นพูดว่าจะฆ่าพวกเรา หากพวกเราไม่ให้ความร่วมมือกับมันงั้นเหรอ?”
“ข้าอยากจะเห็นนักว่าหลังผ่านไปครบ 3 ลมหายใจแล้ว มันจะฆ่าพวกเราคนหนึ่งอย่างไร แล้วผู้ใดจักเป็นคนลงมือฆ่าพวกเราได้!”
“ตอนนี้ผ่านไป 1 ลมหายใจแล้ว เหลืออีก 2 ลมหายใจ”
…
พอได้ยินคำพูดดังกล่าวของต้วนหลิงเทียน ระดับสูงของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับ ก็พากันระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างสนุกสนาน เพราะพวกมันรู้สึกว่าต้วนหลิงเทียนผู้นี้ช่างเหลวไหลสิ้นดี สายตาที่ใช้มองต้วนหลิงเทียนของพวกมันไม่เพียงแต่จะเต็มไปด้วยความดูแคลนรังเกียจ ยังเผยความท้าทายออกมาล้นปรี่
ด้านอาวุโสหงกับอาวุโสฉีแม้จะไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่สายตาที่พวกมันใช้มองต้วนหลิงเทียนในปัจจุบัน ก็เต็มไปด้วยความเหยียดหยามท้าทายเช่นกัน
“ที่แท้มันคือต้วนหลิงเทียน หัวหน้าปรมาจารย์โอสถของนิกายอมตะไท่อี และมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่ว 6 พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงใต้ในงานสมัชชาเต๋าโอสถครั้งล่าสุดงั้นหรือ?”
“มิผิด เป็นมัน! หลังจบงานสมัชชาเต๋าโอสถครั้งที่ผ่านมา มันยังได้รับการยอมรับจากปรมาจารย์โอสถทั้งหมด ว่ามันคือปรมาจารย์หลอมโอสถอมตะระดับสูงอันดับ 1 ใน 6 พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงใต้ ที่สำคัญมันยังมีอายุไม่ถึงร้อยปี และด่านพลังบรรลุถึงยอดเซียนอมตะขั้นลี้ลับอีกด้วย”
“ไม่อาจปฏิเสธได้จริงๆ ว่านับเป็นเรื่องที่น่าตกใจอย่างยิ่ง ที่มันสามารถบรรลุเต๋าโอสถได้ถึงระดับนี้ภายในเวลาไม่ถึงร้อยปี ที่สำคัญยังไม่อาจปฏิเสธได้เลย…ว่าการที่มันสามารถทะลวงถึงยอดเซียนอมตะขั้นลี้ลับทั้งที่ยังอายุไม่ถึงร้อย มันช่างมีศักยภาพพรสวรรค์เลิศล้ำนัก! แต่ที่ข้าคิดไม่ออกจริงๆก็คือ อาศัยยอดเซียนอมตะขั้นลี้ลับเช่นมัน ไปเอาความมั่นใจมาแต่ที่ใดถึงกล้าพูดแบบนั้น?”
“มันกล้าดีอย่างไรถึงขู่ให้อาวุโสร่วมมือกับมัน…แถมหากผ่านไปครบ 3 ลมหายใจแล้วแต่ผู้อาวุโสไม่ร่วมมือ มันจะฆ่าอาวุโสคนใดคนหนึ่ง? นี่ใช่มันเสียสติไปแล้วหรือไม่?”
“ก่อนหน้าหากนิกายอมตะสราญรมย์ไม่ได้ขุดคุ้ยประวัติจนสืบทราบความเป็นมาของมันโดยละเอียด ไม่ว่าใครก็อาจจะกริ่งเกรงตระกูลใหญ่ที่หนุนหลังมัน…แต่ตอนนี้พอสืบประวัติมันจนละเอียดแล้ว แต่ไม่พบว่ามันมีตระกูลอยู่ในภาคกลาง เหล่าผู้อาวุโสไหนเลยจักต้องกริ่งเกรงมัน!”
“การกระทำของมันวันนี้ เรียกว่าขุดหลุมฝังศพของตัวเองแท้ๆ!”
“เป็นไปได้หรือไม่…ที่มันจะยังไม่รู้ ว่านิกายอมตะสราญรมย์ได้ขุดคุ้ยประวัติมันจนกระจ่างแล้ว?”
“ข้าว่ามันต้องยังไม่รู้แน่นอน…หากมันรู้ วันนี้มันจะยังกล้าอวดดีแบบนี้อีกหรือ?”
…
ในขณะที่เหล่าอาวุโสระดับสูงของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับระเบิดเสียงหัวเราะออกมาหลังได้ยินคำพูดของต้วนหลิงเทียน ทางด้านเหล่าศิษย์และอาวุโสหน่วยลาดตระเวนก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาด้วยความขบขัน จากนั้นก็เริ่มสนทนากันอย่างออกรส
หลายคนรู้สึกว่าต้วนหลิงเทียนกำลังจะถึงคราวซวย!
“ผ่านไปครบ 3 ลมหายใจแล้ว…”
ทันใดนั้นเอง เสียงของต้วนหลิงเทียนพลันดังขึ้นมาอีกครั้ง แม้จะไม่ได้ดังมากมายอะไร แต่ก็ดังเข้าหูทุกคนชัดเจนประหนึ่งมีเวทมนตร์
“อ้อ ครบ 3 ลมหายใจแล้วรึ…ให้ข้าชมดูหน่อยเถอะว่าเจ้าจะเข่นฆ่าผู้ใดในบรรดาพวกเรา!”
ตอนนี้เองอาวุโสคนหนึ่งของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับได้มองจ้องไปที่ต้วนหลิงเทียนด้วยสีหน้าเหยียดหยาม ค่อยตะโกนกล่าวออกมาอย่างท้าทายว่า “จักว่าไปพลังฝีมือของข้า ก็นับว่าไม่ได้ร้ายกาจอันใดในบรรดาอาวุโสนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับที่อยู่ที่นี่…เช่นนั้นไยเจ้าไม่ลองฆ่าข้าดูเล่า?”
กลาวถึงท้ายประโยค สีหน้าอาวุโสนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับคนดังกล่าวก็ปรากฏรอยยิ้มเย้ยหยัน ไม่ขาดการท้าทายแม้แต่น้อย
ขณะเดียวกันด้านอาวุโสและเหล่าศิษย์ลาดตระเวนของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับก็พากันมองจ้องไปยังต้วนหลิงเทียนด้วยสายตายิ้มเยาะ
“ตัวโง่งม!”
พอเห็นว่าคนของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับ ยังคงไม่นำพากับวาจาของต้วนหลิงเทียน อีกทั้งแต่ละคน คำพูดคำจายังกล้าตั้งคำถามถึงพลังฝีมือของต้วนหลิงเทียน! จังหวะนี้เถี่ยไท่เหออดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าไปมาเบาๆ ยังกวาดตามองพวกมันด้วยสายตาเวทนาสงสาร!!
มันรู้สึกเวทนาสงสารเหล่าผู้ที่ไม่รู้เรื่องราวอะไรเลยเหล่านี้อย่างแท้จริง
“เดิมทีข้าก็กังวลอยู่บ้างด้วยไม่รู้จะฆ่าใครก่อนดี…ในเมื่อเจ้ารีบร้อนหาที่ตายนัก เช่นนั้นข้าก็จะให้เจ้าได้สมหวัง!”
แทบจะพร้อมกันกับที่อาวุโสของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับที่โพล่งคำเย้ยเยาะท้าทายต้วนหลิงเทียนออกมาดังจบคำ สายตาต้วนหลิงเทียนก็เบนไปตกยังร่างของมัน พลางกล่าวออกเสียงเรียบทันที ในแววตายังเริ่มฉายชัดถึงจิตสังหารอำมหิต พาลให้ผู้ที่ชมมองอดรู้สึกหวาดกลัวไม่ได้
และพอต้วนหลิงเทียนกล่าวจบคำ ไม่ทันที่กลุ่มคนของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับจะทันใดตอบสนองใดๆ
“อ่อคค..”
ไร้ซึ่งการแจ้งเตือนใดๆ กระทั่งไร้ซึ่งร่องรอยใดๆให้สัมผัส ท่ามกลางสายตาของทุกคน อยู่ดีๆอาวุโสของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับที่ตะโกนท้าทายต้วนหลิงเทียนก่อนหน้า ก็ยกมือขึ้นมากอบกุมลำคำของตัวเอง สีหน้าของมันเริ่มเปลี่ยนไปเป็นแดงฉานปานจะคั้นได้เป็นหยดโลหิต!
สีหน้าของมันยังบิดเบี้ยวแลดูอึดอัด คล้ายกำลังพบพานกับความทรมานเหนือคำบรรยาย!
“นี่มัน…”
“เกิดอะไรขึ้น!?”
…
และฉากพิสดารดังกล่าว ก็สร้างความตื่นตระหนกตกใจให้คนของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับถ้วนหน้า แม้กระทั่งเหล่าอาวุโสระดับสูงที่ไม่นำพาจาของต้วนหลิงเทียนในตอนแรก ยังอดไม่ได้ที่จะชักสีหน้าเคร่งเครียดจริงจัง
ปงงง!!
และในขณะที่ทุกคนกำลังตื่นตระหนกกับท่าทางทรมานของอาวุโสนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับที่หน้าแดงก่ำปานจะคั้นได้เป็นหยดโลหิต อยู่ๆก็บังเกิดเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวเสียดสะท้านแก้วหูพวกมัน!
ขณะเดียวกัน พวกมันก็เห็นชัดถนัดตา
ว่าร่างของผู้อาวุโสนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับที่ตะโกนท้าต้วนหลิงเทียน อยู่ดีๆก็ระเบิดบึ้มขึ้นมาอย่างกะทันหัน! คนทั้งคนกลับกลายเป็นหมอกโลหิตไปในบัดดล! หยาดพิรุณโลหิตห่าหนึ่งเริ่มหล่นร่วงตกฟ้า!!
ฟุ่บ!
จากนั้นแหวนพื้นที่ที่ร่วงตกฟ้าไปพร้อมกับฝนเลือด ก็ถูกพลังไร้สภาพขุมหนึ่งดูดรั้งให้พุ่งบินออกไปทิศทางหนึ่ง
ต้วนหลิงเทียนวาดมือเบาๆคว้าแหวนดังกล่าวเอาไว้ ก่อนจะเก็บไปอย่างไร้เรื่องราว
ฟืด! ฟืด! ฟืด! ฟืด! ฟืด! ฟืด!
…
เมื่อเห็นฉากอาวุโสของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับถูกเข่นฆ่าอย่างแปลกประหลาด และแหวนพื้นที่ยังถูกต้วนหลิงเทียนเก็บไป เหลาอาวุโสของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับก็กลับมาครองสติกันทันใด อดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเข้าลึกๆอย่างสยิวกาย!
ครู่ต่อมา พอพวกมันหันไปมองต้วนหลิงเทียนอีกครั้ง ในแววตาก็ฉายความหวาดกลัวออกมาโดยไม่รู้ตัว
ขุนนางอมตะ 8 ชะตาอย่างอาวุโสหงกับอาวุโสฉี หลังมองต้วนหลิงเทียนด้วยความหวาดกลัวแล้ว พวกมันก็เร่งหันรีหันขวางไปทั่ว คล้ายจะค้นหายอดฝีมือที่ซ่อนอยู่ในเงามืดท่ามกลางอากาศว่างเปล่าโดยรอบ…
ถึงแม้ว่าผู้อาวุโสของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับที่พึ่งถูกต้วนหลิงเทียนฆ่าไปจะเป็นแค่ขุนนางอมตะ 6 ผสาน และอาศัยพลังฝีมือของพวกมันทั้งคู่ก็สามารถเข่นฆ่าอีกฝ่ายได้ง่ายดายเช่นกัน
อย่างไรก็ตามหากจะให้พวกมันฆ่าอาวุโสคนดังกล่าวด้วยวิธีการอันพิสดารเช่นนี้ พวกมันรู้ตัวดีว่าไม่มีปัญญากระทำได้!
“สามารถใช้วิธีพิสดาร สังหารขุนนางอมตะ 6 ผสานได้อย่างไร้ร่องรอยใดๆให้สืบสาว…ข้าเกรงว่าคงมีแต่ขุนนางอมตะชนชั้นยอดฝีมือเช่นประมุขกระมังที่สามารถทำเช่นนี้ได้?”
อาวุโสหงหันมองไปยังอาวุโสฉีพลางส่งเสียงผ่านพลังหารืออย่างหวาดหวั่น สีหน้าแววตายังเผยความหวาดกลัวออกชัด
“ข้าก็คิดเหมือนเจ้า…มีแต่สุดยอดฝีมือขอบเขตขุนนางอมตะ 9 ตำหนักขึ้นไปถึงจะเข่นฆ่าขุนนางอมตะ 6 ผสานคนหนึ่งด้วยกลวิธีพิสดารไร้ร่องรอยเช่นนี้ได้! แถมพวกเราเองก็มิทันได้ตั้งตัว จึงไม่อาจเห็นได้เลยว่ามันลงมืออย่างไรกันแน่!!”
อาวุโสฉีตอบกลับผ่านพลังเสียงเครียด
ในสายตาของอาวุโสฉีนั้น ด้วยระดับพลังของมันกับอาวุโสหง หากพวกมันระมัดระวังไว้แต่แรก ต่อให้ผู้ลงมือจะเป็นขุนนางอมตะ 9 ตำหนักที่ซ่อนในเงามืด พวกมันก็มั่นใจว่าสามารถพบเบาะแสร่องรอยใดๆแน่นอน เพราะพวกมันทั้งคู่จะอย่างไรก็เป็นยอดฝีมือขอบเขตขุนนางอมตะ 8 ชะตา!
กลับกัน หากพวกมันไม่ทันได้ระวังตัวไว้แต่แรก พวกมันก็ไม่อาจสังเกตเห็นสิ่งใดได้เลย…
ดังนั้นพวกมันก็เลยจัดสินใจกันไปว่า…ผู้ที่ลงมือเมื่อครู่ สมควรเป็นยอดฝีมือขอบเขตขุนนางอมตะ 9 ตำหนัก ตัวตนที่มีด่านพลังสูงกว่าพวกมันขั้นหนึ่ง!
“เกิดอะไรขึ้น!?”
“อะ…อาวุโสเผิง ตะ….ตายแล้ว!”
“อาวุโสเผิง…เหมือนจะเป็นขุนนางอมตะ 6 ผสานมิใช่หรือ? ไฉนถึงถูกฆ่าตายในพริบตาได้เล่า!?”
“เป็นการลงมือของต้วนหลิงเทียนผู้นั้น!?”
…
สีหน้าท่าทีเหล่าศิษย์และผู้อาวุโสหน่วยลาดตระเวนเองก็เปลี่ยนไปใหญ่หลวง พวกมันแลดูตื่นตระหนกตกใจ พอมองไปยังต้วนหลิงเทียนอีกครั้ง ในแววตาก็ไม่หลงเหลือความเยาะเย้ยถากถางใดๆอีกเลย ถูกความผวาพรั่นกลัวเข้ามาแทนที่หมดสิ้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อสังเกตท่าทางของเหล่าอาวุโสระดับสูงที่เริ่มหันรีหันขวางไปรอบๆตามอาวุโสหงกับอาวุโสฉี พวกมันก็เริ่มคาดเดาอะไรบางอย่างได้ “ดูเหมือนจะมียอดฝีมือที่เร้นกายในเงามืด!”
“แต่ไม่ใช่ว่าภูมิหลังของต้วนหลิงเทียนถูกนิกายอมตะสราญรมย์ขุดคุ้ยหมดสิ้นแล้วหรือไร เรื่องที่มันมีตระกูลใหญ่ในภาคกลางหนุนหลังก็ล้วนเป็นเรื่องปั้นแต่งมิใช่เหรอ?”
“นั่นก็ใช่…แต่เรื่องเมื่อครู่เจ้าจะอธิบายว่าอย่างไรเล่า?”
…
และตอนนี้ก็ไม่ใช่แค่เหล่าศิษย์และอาวุโสหน่วยลาดตระเวนเท่านั้นที่กำลังงุนงง กระทั่งระดับสูงของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับเองก็งุนงงทั้งไม่เข้าใจ
“เอาล่ะ อีก 3 ลมหายใจผ่านไปครบแล้ว…”
ต้วนหลิงเทียนเองก็คิดไม่ถึง ว่าทั้งๆที่เขาฆ่าคนไปแล้วคนหนึ่ง แต่ในบรรดาคนของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับจะยังไม่มีใครหน้าไหนไปเรียกไป๋อวี่ซวนให้เขาเลย ลูกตาจึงหดเล็กลงอย่างช่วยไม่ได้
หากกล่าวว่าคำขู่ก่อนหน้าของต้วนหลิงเทียนนั้น ไม่มีคนของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับสักคนที่ให้ความสนใจ
มาตอนนี้พอเห็นผู้อาวุโสขอบเขตขุนนางอมตะ 6 ผสานคนหนึ่งถูกฆ่าตายอย่างลึกลับหลังผ่านไปครบ 3 ลมหายใจจริงๆ พวกมันก็ตกตะลึงนัก! ทั้งไม่อาจไม่สนใจคำขู่ของต้วนหลิงเทียนได้อีกต่อไป ยังยึดถือคำขู่ของต้วนหลิงเทียนเป็นจริงจัง!!
และไฉนที่ผ่านไป 3 ลมหายใจอีกครั้งแต่ยังไม่มีใครทำอะไรนั้น ไม่ใช่เพราะไม่กลัวตาย แต่เพราะพวกมันยังตกตะลึงไม่หาย!
เช่นนั้นพอพวกมันได้ยินเสียงประกาศผ่านไปครบ 3 ลมหายใจของต้วนหลิงเทียนอีกครั้ง สีหน้าของพวกมันจึงเปลี่ยนไปใหญญ่หลวง!
และพอเสียงกล่าวคำของต้วนหลิงเทียนรอบนี้ดังเข้าหูพวกมัน ก็ทำให้พวกมันรู้สึกเสมือนเป็นสุรเสียงของเทพแห่งความตาย พาลให้ร่างบังเกิดอาการสะท้านไปด้วยความหนาวเหน็บทันที!
“หึ!”
แต่ต้วนหลิงเทียนก็ไม่คิดจะให้โอกาสอะไรพวกมัน หลังแค่นคำสบถเสียงเย็นคราหนึ่ง ร่างคนก็อันตรธานหายไปปานภูตผี พริบตาก็ไปปรากฏตัวเบื้องหน้าชายชราที่เหินร่างนำเหล่าอาวุโสระดับสูงของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับที่ถูกหน่วยลาดตระเวนเรียกขานว่าผู้อาวุโสหงอย่างอัศจรรย์!
อาการของคนนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับ ก็ไม่ใช่ว่าต้วนหลิงเทียนจะมองไม่ออก
ไม่พ้นพวกมันล้วนคิดว่าการตายของอาวุโสขอบเขตขุนนางอมตะ 6 ผสานเมื่อครู่ เป็นยอดฝีมือที่เร้นกายในเงามือลอบจู่โจมสังหาร…
ครั้งนี้เขาก็เลยตั้งใจลงมือให้พวกมันเห็นกันชัดถนัดตา จะได้ตระหนักถึงความแข็งแกร่งของเขา!
“ขุนนางอมตะ 8 ชะตางั้นรึ?”
ต้วนหลิงเทียนที่ราวกับจะผุดขึ้นมาจากความว่างเปล่าเบื้องหน้าอาวุโสหง พอเอ่ยคำที่คล้ายจะเป็นคำถามออกมาเสียงเบา ก็ทำให้อาวุโสหงที่พุ่งตระหนักถึงเรื่องราวหน้าเปลี่ยนสีไปทันที ลูกตาหดเล็กลงแทบปิด ใบหน้าฉายชัดถึงความสยดสยองหวาดกลัว
“เร็วยิ่ง!”
อาวุโสฉีที่อยู่ข้างๆอาวุโสหงก็พลันรู้สึกตัวเช่นกัน ยังมองต้วนหลิงเทียนที่อยู่เบื้องหน้าอาวุโสหงด้วยสายตาหวาดผวา ทำราวกับพบพานภูตผีกลางวันแสกๆ!