WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 2916
ตอนที่ 2,916 : ไป๋อวี่ซวนชะตาขาด!
“ช่วยเจ้า?”
เดิมทีชายวัยกลางคนในชุดคลุมสีน้ำเงินหรือก็คือโจวเหวิน บรรพบุรุษนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับ พี่ชายฝาแฝดของโจวหมิงที่พึ่งถูกต้วนหลิงเทียนฆ่าไป ก็ลอยร่างเงียบงันเหม่อมองฟ้าด้วยสายตาเลื่อนลอย เพราะยังไม่อาจทำใจกับความตายของน้องชายฝาแฝดได้ พอมาได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือจากไป๋อวี่ซวน สองตาแดงฉานก็คลายจากอาการเลื่อนลอยหันไปจับจ้องมองงไป๋อวี่ซวนเขม็งอย่างเย็นชา
“เดียรัจฉานน้อย ข้าไถ่ถามตัวเองดูก็พบว่าในอดีตมิเคยทำอันใดเลวร้ายกับเจ้า…แต่มิคิดเลยว่าวันหนึ่งเจ้ากลับชักนำหายนะเช่นนี้มาสู่นิกาย!”
“ตอนนี้เจ้าไม่เพียงแต่ทำให้อาจารย์อาโจวหมิงของเจ้าต้องตาย กระทั่งบิดาของเจ้ายังต้องมาตกตายเพราะการกระทำชั่วชาติของเจ้า แล้วนี่เจ้ายังจะมีหน้ามาร้องขอความช่วยเหลือจากข้าอีกหรือ!?”
กล่าวถึงท้ายประโยค สายตาที่โจวเหวินใช้มองไป๋อวี่ซวนก็ท่วมท้นไปด้วยเพลิงโทสะที่ลุกโชนปานจะท่วมแผ่นฟ้า!
เกรงว่าหากโทสะอารมณ์สามารถฆ่าคนได้ ไม่ทราบไป๋อวี่ซวนจะตกตายไปแล้วกี่รอบ
“หากข้าล่วงรู้แต่แรกว่าวันหนึ่งเดียรัจฉานน้อยเจ้าจักชักนำภัยพิบัติเช่นนี้มาสู่นิกาย ข้าจักเอาขี้เถ้ายัดปากเจ้าให้ตายเสียตั้งแต่ยังแบเบาะ!”
โจวเหวินกล่าวคำออกมาด้วยน้ำเสียงอำมหิตเย็นชา หลังกล่าวจบก็หยุดลงครู่หนึ่งค่อยหันไปมองฟ้าด้วยสายตาเลื่อนลอยกล่าวออกด้วยน้ำเสียงสะทกสะท้อนสุดสะเทือนอารมณ์ “สงสารก็แต่น้องหมิงของข้า กลับต้องมาถูกเจ้าลากให้ตกตายไปด้วย!”
ได้ยินวาจาอำมหิตเย็นชาของโจวเหวินถล่มมาเป็นชุด ไป๋อวี่ซวนก็ถึงกับหน้าชา
“อะไร!?”
“อะ…อาจารย์อาหมิง…ตายแล้วหรือ!?”
เรียกว่าไป๋อวี่ซวนตกตะลึงจนไม่รู้เหนือรู้ใต้แล้วจริงๆ
“หึ!”
ตอนนี้เองบรรพบุรุษชราที่ติดตามไป๋หวู่จี้ไปพาตัวไป๋อวี่ซวนมาก่อนหน้าก็พ่นลมสบถเสียงเย็น มองกล่าวกับไป๋อวี่ซวนด้วยน้ำเสียงชิงชัง “ไม่ใช่ทั้งหมดล้วนตกตายเพราะเดียรัจฉานเจ้าหรือ? หากมิใช่เพราะเจ้าสรรหาแผนอุบาทว์ยืมมีดฆ่าคนจนเหอซานบรรพจารย์ไท่อีตายตก ปรมาจารย์โอสถต้วนจักมาที่นี่ทำอะไร?”
“หากปรมาจารย์โอสถต้วนไม่มา โจวหมิงกับบิดาเจ้ายังต้องตายหรือไม่?”
“สำหรับข้า…ที่สมควรตายที่สุดคือตัวอุบาทว์เจ้า!”
กล่าวถึงภายหลัง ชายชรา บรรพบุรุษนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับ ที่ปกติมาดแลดูเทพเซียนสูงส่งไม่นำพาโลกหล้า เวลานี้กลับแลดูเกรี้ยวกราดปานยักษ์มารพิโรธ!
“ปะ…ปรมาจารย์โอสถต้วน?”
ได้ยินคำพูดของบรรพบุรุษนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับทั้งสอง ไป๋อวี่ซวนจึงรับทราบว่าที่แท้มันเกิดเรื่องราวอันใดขึ้น มันถึงกับต้องหันไปมองต้วนหลิงเทียนด้วยความเหลือเชื่อ ในลูกตานอกจากความหวาดกลัวแล้ว ยังเต็มไปด้วยความสับสน “มัน…มัน…มันมีความสามารถถึงขั้นนั้นได้อย่างไร?”
“มิใช่พวกนิกายอมตะสราญญรมย์ขุดประวัติมันออกมาหมดสิ้นแล้วหรือไร?”
“มันมิใช่คนจากระนาบโลกียะแสนต้อยต่ำที่พึ่งขึ้นมาหลิงหลัวเทียนได้ไม่กี่ปีหรอกหรือ?”
ได้ยินโจวเหวินกับชายชรากล่าวด้วยเสียงชิงชัง ไป๋อวี่ซวน เรียกว่าสับสนงุนงงนัก
ถึงแม้ตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็นบิดาถูกบีบคั้นจนต้องฆ่าตัวตาย มันก็ตระหนักได้แล้วว่าต้วนหลิงเทียนไม่ธรรมดา และหาใช่คนที่จะล่วงเกินได้ง่ายดายไม่!
อย่างไรก็ตาม มันไม่คิดไม่ฝันเลยจริงๆ ว่ากระทั่งโจวหมิง 1 ใน 3 บรรพบบุรุษของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับ ซึ่งเป็นถึงตัวตนขอบเขตขุนนางอมตะ 10 ทิศ ยังตายเพราะต้วนหลิงเทียนอีกคน!
ยิ่งไปกว่านั้นหลังมันมองประเมินท่าทีบรรพบุรุษทั้ง 2 รวมถึงบรรยากาศโดยยรอบที่แลดูอึมครึมจากการตายของโจวหมิงและบิดามันแต่กลับไม่มีใครกล้าพูดสักคำ ก็เผยให้รู้ว่านิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับไม่อาจทำอะไรได้เลย กระทั่งไม่มีความกล้าจะทำอะไรทั้งสิ้น!
มาตอนนี้พอได้ฟังเรื่องราวจากบรรพบุรุษ มันก็ทราบได้ทันทีว่าบัดนี้ทุกคนกลัวต้วนหลิงเทียนกันหมด!
อย่างไรก็ตามแม้มันจะรู้แล้วว่าต้วนหลิงเทียนคือบ่อเกิดแห่งความกลัวของทุกคน แต่มันเข้าใจไปว่าที่ทุกคนหวาดกลัวก็คือภูมิหลังของต้วนหลิงเทียน และข้างกายต้วนหลิงเทียนสมควรมียอดฝีมือที่ทรงพลังอำนาจถึงขั้นบรรพบุรุษนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับของมันไม่อาจต่อกรด้วยได้!
มันไม่เคยคิดไปทำนองว่าบรรพบุรุษของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับจะสู้ต้วนหลิงเทียนไม่ได้แม้แต่น้อย เพราะเรื่องนั้นต่อให้หลับมันก็ไม่เคยฝันถึง
ท้ายที่สุดแล้วมันก็รู้เรื่องที่ต้วนหลิงเทียนเป็นปรมาจารยย์โอสถฝีมือฉกาจดี แถมอีกฝ่ายยังมีอายุไม่ถึงร้อยปีด้วยซ้ำ!
ลำพังปรมาจารย์หลอมโอสถอมตะระดับสูงอายุไม่ถึงร้อยปี ก็ยากจะพบพานเป็นอย่างยิ่ง! ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่ปรมาจารย์หลอมโอสถอมตะระดับสูงคนนี้ มีความสามารถเหนือกว่าปรมาจารย์หลอมโอสถอมตะระดับขุนนางในบางแง่มุมด้วยซ้ำ!!
ดังนั้นไป๋อวี่ซวนจึงไม่เคยคิดแม้แต่ครั้งเดียว ว่าตัวตนเช่นนี้…จะเป็นตัวตนที่ทำให้บรรพบุรุษทั้ง 3 ของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับที่เป็นถึงขุนนางอมตะ 10 ทิศหวั่นกลัวไปได้!
‘ยอดฝีมือที่ติดตามข้างกายมันอยู่ที่ใด?’
‘ถึงขั้นเข่นฆ่าอาจารย์อาหมิง กระทั่งสะกดให้บรรพบุรุษทั้ง 2 ไม่กล้าแม้แต่จะกระดิกตัวได้ น่ากลัวว่าคงมิใช่ง่ายดายเช่นยอดฝีมือกึ่งราชาอมตะ…อย่างน้อยๆยอดฝีมือที่ติดตามข้างกายต้วนหลิงเทียนต้องเป็นตัวตนขอบเขตราชาอมตะ!!’
ในขณะที่ไป๋อวี่ซวนคิดไปในใจอย่างหวั่นหวาด มันก็เริ่มหันรีหันขวางหมายมองหายอดฝีมือขอบเขตราชาอมตะที่สมควรเร้นกายติดตามต้วนหลิงเทียนมาไม่หยุด
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่ามันจะมองไปทางไหนก็ไม่อาจหาผู้ใดพบเจอ
ในที่สุดสายตามันก็เบนไปตกยังเถี่ยไท่เหอที่ลอยร่างอยู่ด้านหลังต้วนหลิงเทียนกับฮ่วนเอ๋อ และคิดไปว่าเถี่ยไท่เหอคนนี้อาจจะเป็นยอดฝีมือขอบเขตราชาอมตะที่ติดตามต้วนหลิงเทียนมา
อย่างไรก็ตาม ไม่ทันไรมันก็รู้สึกคุ้นๆหน้าเถี่ยไท่เหออย่างประหลาด
‘ข้าจำได้แล้ว…’
‘เจ้านั่นคือเถี่ยไท่เหอ ผู้พิทักษ์ซ้ายของนิกายอมตะไท่อีที่ข้าเคยเจอในอดีต’
‘เช่นนั้นมันย่อมไม่ใช่ยอดฝีมือราชาอมตะที่ติดตามต้วนหลิงเทียนมาด้วยแน่…ยอดฝีมือราชาอมตะผู้นั้นสมควรยังเร้นกายอยู่ในความมืดไม่เผยตัว!’
พอคิดถึงงจุดนี้ ไป๋อวี่ซวนก็อดไม่ได้ที่จะหันมองไปรอบๆอย่างหวาดระแวงอีกครั้ง ใบหน้ายังเริ่มฉายชัดถึงความไม่ยินยอมพร้อมใจขึ้นมา มันไม่พอใจเรื่องที่ต้วนหลิงเทียนมีภูมิหลังอันแข็งแกร่งถึงขั้นมียอดฝีมืออันทรงพลังติดตามคุ้มครอง!
“หึ! อย่าได้มองหาให้เสียเวลา!!”
จากนั้นโจวเหวินที่ไม่ทราบหายจากอาการเหม่อเมื่อไหร่ ก็มองกล่าวกับไป๋อวี่ซวนด้วยน้ำเสียงเย็นชาค่อนแคะ “ปรมาจารย์โอสถต้วนหาได้มียอดฝีมือติดตามอยู่ข้างกายไม่…อาจารย์อาของเจ้า เป็นปรมาจารย์โอสถต้วนลงมือสังหารด้วยตัวเอง!”
“อีกทั้งบิดาของเจ้า…ด้วยเพราะกริ่งเกรงพลังฝีมืออันน่าสะพรึงกลัวของปรมาจารย์โอสถต้วน และกังวลว่าปรมาจารย์โอสถต้วนจะเอาโทสะเรื่องที่เจ้าคิดแผนอุบาทว์หลอกมันไปเข่นฆ่าเหอซาน มาลงกับนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับของพวกเรา สุดท้ายก็ทำลายล้างนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับของพวกเราจนพินาศสิ้น! จึงตัดสินใจจบชีวิตตัวเองเช่นนั้น!!”
เห็นได้ชัดว่าพอเห็นไป๋อวี่ซวนหันรีหันขวางคล้ายกำลังงมองหาอะไรอยู่ โจวเหวินก็ล่วงรู้ความคิดในหัวของมันทันที
“อะไร!?”
และทันทีที่เสียงกล่าวของโจวเหวินดังจบคำ ไป๋อวี่ซวนก็เริ่มบังเกิดความหวาดกลัวขึ้นมาจับใจ มองต้วนหลิงเทียนอีกครั้ง สีหน้าแววตาของมันก็ทำราวกับพบพานภูตผีกลางวันแสกๆ ปากอ้าพะงาบๆกล่าวคำออกมาอย่างยากลำบาก “มัน…มันน่ะหรือ จะมีพลังสามารถฆ่าอาจารย์อาได้!?”
“ยิ่งไปกว่านั้น…เป็นเพราะกังวลว่ามันจะทำลายนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับ ท่านพ่อถึงกับเลือกฆ่าตัวตาย?”
“เรื่องพรรค์นี้…มันจะเป็นไปได้อย่างไร!?”
“มันไหนเลยจะมีพลังสูงส่งจนน่ากลัวถึงขั้นนั้นได้ทั้งที่ยังมีอายุไม่ถึงร้อยปี?!”
ไป๋อวี่ซวนไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ อีกทั้งมันไม่อาจทำใจเชื่อได้ลงคอจริงๆ!
“หากชาติหน้ามีจริง เจ้าก็จำเอาไว้ให้ดี…”
ตอนนี้เองต้วนหลิงเทียนที่มองไป๋อวี่ซวนเงียบๆมาตลอด สองตาพลันทอประกายเยียบเย็น กล่าวออกมาอย่างไม่รีบไม่ร้อนว่า “เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมียอดคนเสมอ…บางครั้งความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยก็อาจทำลายทั้งชีวิตเจ้าได้!”
และแทบจะเป็นเวลาเดียวกันกับที่ต้วนหลิงเทียนกล่าวจบคำ เขาก็โบกมือออกมาอย่างขอไปที
ทว่าทันใดนั้นเอง มวลอากาศเบื้องหน้าพลันอุบัติเป็นฝ่ามือพลังสีม่วงมหึมาประหนึ่งเนินเขาย่อมๆ พุ่งทะยานตัดฟ้าไปฉับไวซัดเข้าร่างไป๋อวี่ซวนอย่างอำมหิต!
ปงงงง!!
ในสายตาของทุกคนในที่นี้ ทั้งหมดเพียงเห็นต้วนหลิงเทียนโบกมือส่งๆและไม่อาจแลเห็นได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น จากนั้นเสียงระเบิดหนึ่งก็ดังขึ้นอย่างกะทันหัน พอรู้ตัวอีกที ณ จุดที่ไป๋อวี่ซวนลอยร่างอยู่เมื่อครู่ ก็คงเหลือแต่เพียงความว่างเปล่าที่กำลังสั่นไหวสะเทือน กับหมอกโลหิตและแหวนพื้นที่วงหนึ่งเท่านั้น…
แหวนพื้นที่ของไป๋อวี่ซวนก็เริ่มร่วงตกฟ้าลงมาพร้อมละอองเลือด…
“เรื่องในวันนี้ทั้งหมดเกิดจากไป๋อวี่ซวนนายน้อยนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับเป็นต้นเหตุ ข้าได้จัดการสะสางงเรื่องราวของข้แล้ว หลังจากนี้ข้าไม่สนว่าพวกเจ้าคิดจะนำความแค้นความสูญเสีญที่เกิดขึ้นวันนี้ไปลงกับนิกายอมตะไท่อีหรือไม่ ทั้งยังไม่สนอีกด้วยว่าพวกเจ้าคิดจะลงมือกับนิกายอมตะไท่อีอย่างไร…”
หลังเข่นฆ่าไป๋อวี่ซวนไปในฉับพลันจนสร้างความตกตะลึงให้ผู้คนแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็เริ่มกวาดตามองไปยังคนของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับทั่วๆ พลางกล่าวออกมาอย่างไม่รีบไม่ร้อนด้วยน้ำเสียงเฉยเมยไร้แยแส
“แต่ข้าต้วนหลิงเทียนก็ไม่รังเกียจที่จะมาเยือนนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับอีกครา ทั้งไม่รังเกียจที่จะทำลายนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับของพวกเจ้าให้สิ้นซาก หากข้ารู้ว่ามีคนของนิกายอมตะไท่อีเป็นอะไรไปเพราะพวกเจ้าแม้จะแค่คนเดียวก็ตาม!”
วาจาของต้วนหลิงเทียนแม้จะค่อยๆกล่าวออกมาเสียงเนิบแลดูไม่อีนังขังขอบ แต่พอมันดังเข้าหูคนของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับ ก็พาลให้ใจพวกมันสั่นสะท้านไปด้วยความกลัว
“เรื่องนี้ขอปรมาจารย์โอสถต้วนอย่าได้กังวล!”
ตอนนี้เองก็เป็นบรรพบุรุษชราของนิกายอมะตสวรรค์ลี้ลับที่แลคล้ายเทพเซียนหันไปมองกล่าวกับต้วนหลิงเทียนหลังจากที่ต้วนหลิงเทียนพูดจบ ยังรับปากกับต้วนหลิงเทียนอีกว่า “ตราบใดที่ข้ายังมีชีวิตอยู่ ข้าจะไม่ปล่อยให้คนของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับแตะต้องนิกายอมตะไท่อีเด็ดขาด!”
“ปรมาจารย์โอสถต้วน ข้าโจวเหวินก็รับปากท่านเรื่องนี้อีกคน”
โจวเหวินที่เป็นบรรพบุรุษของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับอีกคน ก็กล่าวรับปากต้วนหลิงเทียนเป็นมั่นเหมาะ
ถึงแม้ในใจของมันจะแทบทนรอฆ่าชายหนุ่มชุดม่วงเบื้องหน้า เพื่อล้างแค้นให้น้องชายฝาแฝดไม่ไหวแล้ว…
อย่างไรก็ตามมันสำเหนียกตัวเองดี ว่าอาศัยพลังฝีมือที่ชายหนุ่มชุดม่วงเปิดเผยออกมาให้เห็น เกรงว่าชั่วชีวิตนี้มันคงไม่มีโอกาสจะล้างแค้นอันใด
เช่นนั้นมันก็ทำได้แค่กลบฝังความแค้นทั้งหมดเอาไว้ให้ลึกสุดใจเท่านั้น เว้นเสียแต่มันจะมั่นใจแล้วจริงๆว่ามีพลังสามารถหรือมีวิธีฆ่าต้วนหลิงเทียนได้แน่นอน หาไม่แล้วมันไม่คิดจะขุดความแค้นดังกล่าว และรื้อฟื้นเรื่องราวความแค้นขึ้นมาอีกตลอดชั่วชีวิต!
“ไม่ใช่แค่พวกเจ้า…แม้แต่ชนรุ่นหลังของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับ หากมีใครกล้าเล่นตุกติกหรือเล่นแง่อะไร จนก่อให้เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับนิกายอมตะไท่อี ข้าไม่มีวันละเว้นนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับอีกแน่”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวเสริมมาอีกประโยคหนึ่ง และประโยคนี้ก็ทำให้คนของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับทั้งหลายหวาดกลัวจนตัวสั่นอีกรอบ!
ฟุ่บ!
หลังจากกล่าวเสริมจบคำ ร่างต้วนหลิงเทียนกับพวกก็อันตรธานหายไปต่อหน้าคนของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับทุกคนอย่างไร้ร่องรอย…
แม้จะเป็นบรรพบุรุษทั้ง 2 ของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับ ตัวตนขอบเขตขุนนางอมตะ 10 ทิศ ก็ยังไม่อาจมองเห็นร่องรอยใดๆของต้วนหลิงเทียนได้แม้แต่นิดเดียว พวกมันไม่อาจทราบได้จริงๆ ว่าคนอันตรธานหายไปหมดสิ้นได้อย่างไร แล้วหายไปทางไหน…
จังหวะนี้ทั้งสองอดไม่ได้ที่จะหันหน้ามามองสบตากัน ก่อนที่จะแลเห็นซึ้งถึงความหวาดกลัวในสายตากันและกัน
“อาวุโสฉี ตั้งแต่วันนี้ไปท่านก็ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของนิกายไปก่อนเถอะ…หลังจากนี้สักพัก ไว้รอให้ข้ากับโจวเหวินหารือกันแล้ว ค่อยตัดสินใจเลือกประมุขนิกายคนใหม่”
บรรพบุรุษชราของนิกายอมะตสวรรค์ลี้ลับที่แลคล้ายเทพเซียน หันไปมองกล่าวกับอาวุโสฉีที่ลอยร่างอยู่ด้านหลังเสียงเรียบ
“ช่วงนี้ข้าหวังว่าสถานการณ์ภายในนิกายจะสงบมั่นคงไร้เรื่องราวอันใด…เจ้าสมควรเข้าใจที่ข้าจะสื่อหรือไม่?”
“หากเจ้าจัดการเรื่องได้ดี…ประมุขนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับคนใหม่ ก็ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นเจ้า”
กล่าวถึงประโยคท้าย บรรพบุรุษชราของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับก็มองจ้องอาวุโสฉีด้วยสายตาลึกล้ำ
“ทราบแล้ว ท่านบรรพบุรุษ!”
และอาวุโสฉีผู้นี้ก็เป็น 1 ใน 2 ผู้อาวุโสระดับสูงขอบเขตขุนนางอมตะ 8 ชะตา ที่เผชิญหน้ากับต้วนหลิงเทียนก่อนที่บรรพบุรุษทั้ง 3 และไป๋หวู่จี้จะมาถึง…
ส่วนอีกคนที่เผชิญหน้ากับต้วนหลิงเทียนพร้อมมัน ได้ตกตายไปแล้ว…
ตั้งแต่ที่มันโชคดีรอดชีวิตมาได้เพราะบรรพบุรุษทั้ง 3 มาได้ทันเวลา มันก็รู้สึกขอบคุณฟ้าอย่างถึงที่สุด ที่ชีวิตน้อยๆของมันสามารถเก็บกู้เอาไว้ได้…
และตอนนี้พอมันได้ยินวาจาของ 1 ใน 2 บรรพบุรุษที่เหลืออยู่ของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับ ในใจก็บังเกิดความยินดีขึ้นมาปานลิงโลด!
ประมุขนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับ!?
นี่ตัวมัน…มีโอกาสจะได้ขึ้นดำรงตำแหน่งประมุขนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับงั้นหรือ!?