WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 3001
WSSTH ตอนที่ 3,001 : สุมาผิงตง
“ฉะ…ไฉนเป็นเช่นนี้ได้!?”
สูงขึ้นไปเหนือใจกลางทะเลสาบอวิ๋นเยียน ท่ามกลางผู้คนจำนวนมากที่เหินร่างลอยกันอยู่นั้น ชายชราในชุดคลุมสีเทาผู้หนึ่ง เมื่ออยู่ๆก็เห็นว่าชื่อของสุมาฉุนได้อันตรธานหายไปจากตารางจัดอันดับ สีหน้ามันก็เปลี่ยนไปใหญ่หลวง
พร้อมกันนั้นแรงกดดันพลังอันน่ากลัวขุมหนึ่งก็เริ่มกวาดสะท้านไปในบรรยากาศ เป็นพลังทั่วร่างชราที่พุ่งพล่านขึ้นมาโดยที่มันเองก็ไม่ทันรู้สึกตัว พาลให้ผู้ที่มีพลังฝึกปรืออ่อนด้อยโดยรอบใจสั่นกันไปเป็นแถบ!
“ระ…ร้ายกาจยิ่ง!”
“ผู้เฒ่าคนนั้นเป็นผู้ใดกัน? กลิ่นอายพลังกล้าแข็งเหลือเกิน!”
“สหายท่านนี้ไม่รู้จักมันงั้นหรือ…มันคืออาวุโสสูงคนหนึ่งของตระกูลสุมา ตระกูลระดับ 7 ที่โด่งดังนั่นอย่างไรเล่า!”
“อะไร!? อาวุโสสูงของตระกูลสุมารึ? มันไฉนถึงมาด้วยตัวเองได้ ด้วยระดับของมัน กับอีแค่เรื่องพาคนมาเข้าแดนสวรรค์ใต้โบราณ…คงไม่จำเป็นต้องถ่อมาเองกระมัง?”
“ดูเหมือนเรื่องที่สุมาฉุนถูกฆ่าตายไปแบบนี้ อาวุโสสูงคงไม่อาจทำใจยอมรับได้โดยง่าย…”
“นั่นก็ธรรมดา…ด้วยพรสวรรค์ทั้งความสามารถในการตีความของสุมาฉุน นับได้ว่ามันเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งในประวัติศาสตร์อันยาวนานหลายพันหมื่นปีของตระกูลสุมา และตระกูลก็ทุ่มเททรัพยากรเพาะสร้างมันมาเต็มที่ คงเป็นเรื่องยากไม่ใช่น้อยที่อาวุโสสูงจะทำใจรับความสูญเสียครั้งใหญ่เช่นนี้ได้!”
…
ถึงแม้จะมีหลาคนจดจำได้ว่าชายชราคลุมเทาผู้นั้นก็คืออาวุโสสูงของตระกูลสุมา แต่น้อยคนนักที่จะล่วงรู้ถึงความสัมพันธ์ที่แท้จริงระหว่างมันกับ สุมาฉุน!
ชายชราในชุดคลุมเทาที่เป็นผู้นำคนของตระกูลสุมาครั้งนี้ ก็คือ ‘สุมาผิงตง’ และมันไม่เพียงแต่จะเป็นผู้อาวุโสสูงของตระกูลสุมาเท่านั้น พลังฝีมือของมันนั้นยังเหนือกว่าเหล่าผู้ที่นำพาคนของ 3 นิกาย 2 ตระกูลมาด้วยซ้ำ เรียกว่าหากไม่ใช่ปี้ไห่หมิงเฟิงกับผู้นำขุมกำลัง 3 นิกาย 2 ตระกูลมาเองแล้ว มันไม่เห็นผู้ใดอยู่ในสายตา
อีกทั้งมันไม่เพียงนำพาคนของตระกูลสุมาเพราะคิดร่วมสนุกเฉยๆ
ทว่าไฉนมันถึงเป็นผู้นำคนของตระกูลสุมาที่นี่นั้น เพราะมันคิดมาเฝ้ามองและให้กำลังใจหลานชายคนโปรดของมันอย่าง สุมาฉุน ที่นับว่าเป็นยอดเซียนอมตะที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ของตระกูลสุมาโดยเฉพาะ!
สุมาฉุน เป็นหลานชายแท้ๆของมัน
“ฉุนเอ้อ…ฉุนเอ้อตายตกแล้ว!?”
สีหน้าสุมาผิงตงยิ่งมายิ่งเปลี่ยนไปเป็นดูไม่ได้ และในขณะที่มันเพ้อพร่ำออกมา อาการของมันก็แลดูเลื่อนลอยคล้ายไม่อาจยอมรับความจริงที่เกิดขึ้นได้
“ท่านผู้อาวุโสสูง โปรดระงับความโศกเศร้าด้วย…”
ชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่ด้านหลังสุมาผิงตง ได้แต่ประสานมือกล่าวคำออกมาเสียงอ่อน มันเองก็เป็นผู้อาวุโสคนหนึ่งของตระกูลสุมาเช่นกัน หากแต่ฐานะในตระกูลถือว่าอ่อนด้อยกว่าสุมาผิงตงมาก เป็นแค่อาวุโสทั่วๆไปเท่านั้น
‘มิคิดเลยว่าสุมาฉุนหลานรักของท่านผู้อาวุโสสูงจะมีอันเป็นไปในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับต่ำครานี้ได้…ตอนนี้ท่านผู้อาวุโสคงบังเกิดความเสียใจอย่างสุดแสน ที่ปล่อยให้สุมาฉุนเข้าร่วมแดนสวรรค์ใต้โบราณอยู่กระมัง’
ผู้อาวุโสตระกูลสุมาคนดังกล่าวได้แต่ลอบกล่าวในใจอย่างทอดถอน มันรู้ดีว่าตำแหน่งของสุมาฉุนในใจผู้อาวุโสสูงนั้น ไม่ใช่อะไรที่ใครในตระกูลสุมาจะเทียบได้
และตอนนี้สุมาฉุนกลับต้องตกตายก่อนวัยอันควรชวนใจหาย ไม่ว่าใครในตระกูลสุมาก็สามารถเข้าใจหัวอกของอาวุโสสูงดี
กระทั่งในใจของมันเองยังเต็มไปด้วยความแตกตื่นอันยากระงับ
สุมาฉุนกลับพลาดท่าตายตกด้านในแดนสวรรค์ใต้โบราณจริงๆ?
ต้องทราบด้วยวว่าสุมาฉุนคือยอดเซียนอมตะที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์นับหมื่นพันปีของตระกูลสุมา อายุเพียงแค่สองร้อยปีเศษ ไม่เพียงแต่จะบรรลุถึงยอดเซียนอมตะขั้นสูงสุด แต่ยังเข้าใจความลึกซึ้งของกฏแห่งลมได้แล้วถึง 2 ประการ
ตัวตนระดับนี้ ให้กวาดตามองไปทั่วยอดเซียนอมตะทั้งหมดที่เข้าไปในแดนสวรรค์ใต้โบราณ แต่เกรงว่าพลังฝีมือย่อมติดอยู่ใน 10 อันดับแรก!
ทว่าตอนนี้ คนกลับตายตกเสียแล้ว! มันในฐานะอาวุโสคนหนึ่งของตระกูลสุมาเองก็เสียใจไม่น้อยที่ตระกูลต้องมาสูญเสียอัจฉริยะเช่นนี้ไป!!
ปงงง!!
เท้าของสุมาผิงตงพลันย่ำลงอากาศอย่างแรง จนมวลอากาศใต้ฝ่าเท้าแตกระเบิดออกก่อเกิดระลอกคลื่นนกระแทกกำจายออกไปเป็นวง ส่งร่างชราของมันให้พุ่งทานไปยังน่านฟ้าบริเวณที่คนของ 3 นิกาย 2 ตระกูลลอยร่างกันอยู่
พริบตาร่างชราก็ลุถึงเบื้องหน้าปี้ไห่หมิงเฟิง ผู้ชราป้องมือประสานกล่าวคำทักทาย พลางก้มหัวเป็นการคารวะ “ท่านประมุขปี้ไห่”
“อาวุโสผิงตง”
ตระกูลสุมาอย่างไรก็เป็นขุมกำลังระดับ 7 ที่เป็นรองก็แต่ 3 นิกาย 2 ตระกูล ปี้ไห่หมิงเฟิงในฐานะประมุขของนิกายอมตะเหอฮวนคนหนึ่ง ย่อมรู้จักมักคุ้นอีกฝ่ายดี “ข้าขอแสดงความเสียใจกับการสูญเสียหลานชายของท่านด้วย…”
“และข้าเองก็พอเดาได้ว่าไฉนอยยู่ท่านจึงมาหาข้าแบบนี้…อย่างไรก็ตามสถานการณ์ภายในแดนสวรรค์ใต้โบราณนั้น สุดที่ข้าจะล่วงรู้ได้จริงๆ กระทั่งในบรรดาพวกเราก็ไม่มีผู้ใดล่วงรู้แม้แต่น้อย”
“ดังนั้นต่อให้พวกเราอยากจะบอกท่าน ว่าเป็นผู้ใดเข่นฆ่าหลานชาของท่าน แต่พวกเราก็มิอาจทำอะไรได้จริงๆ”
ปี้ไห่หมิงเฟิงชิงกล่าวออกมา ราวกับอ่านใจชายชราได้ออกว่าอีกฝ่ายมาหามันทำอะไร
“ท่านประมุขปี้ไห่ เรื่องนี้ข้าเข้าใจ”
สุมาผิงตงพยักหน้ารับคำ ก่อนที่จะเอ่ยออกเสียงหนัก “ที่ข้ามาหาท่านเพราะคิดร้องขอเรื่องหนึ่งจากท่าน ประมุขปี้ไห่…หากถึงเวลาที่ผู้คนกลับออกมาจากแดนสวรรค์ใต้โบราณแล้ว ตัวข้าสามารถยืนยันได้ว่าเป็นผู้ใดเข่นฆ่าหลานชายของข้า…ข้าขอให้ประมุขปี้ไห่อย่าได้ช่วยมัน ยามข้าลงมือล้างแค้นให้หลานชายได้หรือไม่?”
แต่ต้นจนจบสุมาผิงตงไม่แม้แต่จะเหลือบแลไปยังเหล่าผู้นำของ 3 นิกาย 2 ตระกูลทั้ง 4 ที่เหลือแม้แต่น้อย เพราะมันรู้ดีว่าหากมันคิดจะฆ่าคน อาศัยพลังฝีมือของทั้ง 4 ก็ไม่มีปัญญาหยุดมันเอาไว้ได้
มีเพียงปี้ไห่หมิงเฟิงเพียงคนเดียว ที่สามารถหยุดมันได้!
“อาวุโสผิงตง เรื่องนี้เห็นทีข้าคงไม่อาจรับปากท่านได้”
ปี้ไห่หมิงเฟิงส่ายหน้าไปมา “นี่มิใช่ข้าไม่ไว้หน้าท่านแต่อย่างใดอาวุโสผิงตง หากแต่เรื่องราวของผู้ที่รอดกลับออกมาจากแดนสวรรค์ใต้โบราณนั้น พวกเรา 3 นิกาย 2 ตระกูลไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจอันใดทั้งสิ้น…เพราะสุดท้ายแล้วอำนาจสิทธิ์ขาดเรื่องเปิดแดนสวรรค์ใต้โบราณ ก็เป็นของคฤหาสน์เฉวียนโยว พวกเรา 3 นิกาย 2 ตระกูลก็แค่ได้รับมอบหมายยมาให้ดูแลจัดการเรื่องยิบย่อยเท่านั้น”
“ประมุขปี้ไห่ ท่านในฐานะ 1 ใน 10 ผู้ตรวจการของคฤหาสน์เฉวียนโยว ขอเพียงท่านเต็มใจช่วยเหลือข้าสักครั้ง…ข้าเชื่อว่าหลังเกิดเรื่องราวครั้งนี้ ด้วยความที่คฤหาสน์เฉวียนโยวเห็นแก่ท่าน ย่อมไม่คิดตำหนิท่านเพียงเพื่อยอดเซียนอมตะไม่กี่คนเป็นแน่…”
สุมาผิงตงยังคงดื้อรั้น
อย่างไรก็ตามปี้ไห่หมิงเฟิงก็ได้แต่ส่ายหัวเป็นการยืนกรานว่าไม่อาจเห็นด้วย
แต่ต้นจนจบผู้คนก็สังเกตเห็นการพบปะระหว่างสุมาผิงตงกับปี้ไห่หมิงเฟิงเช่นกัน และหลายคนก็พอจะคาดเดาได้ว่าสุมาผิงตงต้องการอะไรจากปี้ไห่หมิงเฟิง
“สุมาผิงตงนั้น เห็นว่าเป็นปู่แท้ๆของสุมาฉุน ทั้งยังรักและเอ็นดูสุมาฉุนยิ่งนัก…ในเมื่อหลานชายคนโปรดของมันตกตาย มันย่อมไม่พ้นคิดอยากสับร่างฆาตกรฆ่าหลานชายมันให้แหลกเป็นหมื่นๆชิ้น!”
“มันไปพบกับประมุขปี้ไห่เช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าหมายวิงวอนให้ประมุขปี้ไห่อย่าได้สอดมือตอนมันคิดก่อการเป็นแน่”
“แต่ว่ามันจะทราบได้หรือ ว่าเป็นผู้ใดที่ฆ่าหลานชายคนดีของมัน?”
“เหอะๆ เรื่องนี้ข้าเกรงวว่ามันคงไม่อาจยืนยันได้เต็มสิบส่วนหรอก…อย่างไรก็ตามหนทางหมื่นลี้เริ่มจากก้าวแรก มันไม่พ้นคิดเตรียมการไว้ก่อน เพราะหลังจากนี้เกิดมันหาวิธีระบุตัวฆาตกรได้จริงๆ แต่ยามลงมือดันถูกประมุขปี้ไห่หยุดไว้ มิให้มันลงมือฆ่าคนล้างแค้นให้หลานชาย มันไหนเลยจะล้างแค้นได้สำเร็จเล่า…”
“เช่นนั้นมันจึงบากหน้าไปขอความร่วมมือจากประมุขปี้ไห่ไว้ก่อน หมายให้ประมุขปี้ไห่รับปากว่ายามมันลงมือจะไม่สอดมือเข้ามายุ่ง…อนิจจาดูจากสีหน้าบิดเบี้ยวชมดูแทบไม่ได้นั่นของมัน ไม่พ้นพึ่งถูกประมุขปี้ไห่ปฏิเสธมาเป็นแน่”
“เรื่องมันต้องเป็นนี้อยู่แล้ว หากประมุขปี้ไห่ไม่ปฏิเสธมัน นี่จะไม่กลายเป็นกรณีตัวอย่างให้คนเอาเยี่ยงรึ? ต่อไปยังจะมีใครกล้าเข่นฆ่าผู้คนมั่วซั่วในแดนสวรรค์ใต้โบราณเล่า?”
…
เห็นได้ชัดว่าในบรรดาผู้ที่ชมดูเรื่องราวอยู่ ก็คาดเดาวัตถุประสงค์ของสุมาผิงตงได้ออก
“แต่หลังจากสุมาฉุนตายตกไป เหมือนจักไม่มีผู้ใดได้คะแนนเพิ่มขึ้น 8 แต้มรวดเดียวเลย”
ชายวัยกลางคนผู้หนึ่ง หันไปมองตารางจัดอันดับพลางกล่าวออกมา
“เหลวไหล! เรื่องพรรค์นั้นไหนเลยจะเป็นไปได้!”
และชายชราคนหนึ่งที่ลอยร่างไม่ไกลจากมัน พอได้ยินก็โพล่งคำออกมาราวกูรูทันที “หากอยู่ๆมีผู้ใดได้คะแนนเพิ่มขึ้นมา 8 แต้ม มิใช่บ่งบอกโดยอ้อมให้ผู้คนล่วงรู้กันหมดรึไรว่ามันเป็นคนฆ่าสุมาฉุน?”
“ด้วยพลังของค่ายกลที่ท่านจอมราชันอมตะสวรรค์ใต้ในอดีตจัดตั้งไว้ ย่อมมีการคำนึงถึงจุดนี้อยู่แล้ว และ 8 แต้มที่คนฆ่าสุมาฉุนจักได้รับนั้น มันจะทยอยเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ นี่เป็นกลวิธีป้องกันมิให้ผู้ใดล่วงรู้ว่าใครได้สังหารผู้ใดด้านใน”
ชายชรากล่าวเสริม
“ที่แท้เป็นเช่นนี้นี่เอง…ข้าก็นึกว่าแค่ประวิงเวลาได้คะแนนอย่างเดียวเสียอีก ที่แท้กลับมีการค่อยๆทยอยเพิ่มคะแนนนให้ผู้คนแบบนี้ด้วย เช่นนั้นหมายความว่าคงไม่มีทางล่วงรู้ได้เลยน่ะสิ ว่าใครเป็นคนฆ่าสุมาฉุน หากไร้บุคคลที่ 3 ที่อยู่ในเหตุการณ์รอดกลับมาบอก หรือเจ้าตัวสารภาพออกมาเอง?”
“มิผิด!”
“กล่าวไปหากมิมีการเตรียมการรองรับในเรื่องนี้เอาไว้ ใครยังจะกล้าเข่นฆ่าผู้คนในนั้นมั่วซั่วเล่า ต่อให้อีกฝ่ายอ่อนด้อยแต่ดันเป็นลูกหลานตระกูลใหญ่ ยังไม่เกิดอาการคิดเขวี้ยงมุสิกกริ่งเกรงภายชนะเสียหายได้หรือ แดนสวรรค์ใต้โบราณยังจะเหลือคุณค่าอันใด?”
…
หลายคนที่เดิมไม่รู้ว่ามีเรื่องราวแบบนี้ด้วย พอมีผู้รู้กล่าวบอกจึงได้รับทราบกันถ้วนหน้า
“หือ!? คะแนนของต้วนหลิงเทียนเพิ่มขึ้นอีก 2 แต้มแล้ว!”
ด้านหูหลินอี้เอง ที่เอาแต่มองจ้องอันดับคนของประเทศฝูชิว ก็เบิกตากว้างทั้งฉายแววสดใสจ้า เมื่อเห็นว่าคะแนนของต้วนหลิงเทียนกระเตื้องขึ้น
สำหรับคนอื่นๆนั้น แม้ว่าจะเพิ่มขึ้นคะแนนเดียวและไม่ได้อยู่ในอันดับสลักสำคัญอะไร มันก็สังเกตเห็นเช่นกัน
เพราะสุดท้ายแล้ว นั่นก็คือเหล่าผู้ที่จะนำผลประโยชน์มาให้มัน มันย่อมให้ความใส่ใจทุกรายละเอียด
“5 แต้ม…ต้วนหลิงเทียนนับว่าไม่ทำให้ข้าผิดหวังจริงๆ!”
อย่างไรก็ตามรอยยิ้มสดใสพึ่งจะคลี่กางบนใบหน้าหูหลินอี้ได้ไม่นาน พอมันเห็นคะแนนของผู้ที่อยู่ในอันดับหนึ่ง คิ้วมันก็เริ่มขดย่นเป็นปม “อันดับ 1 มีถึง 11 แต้มเชียวหรือ…”
“กระทั่งอันดับที่ 10 ก็ยังมี 7 แต้ม…”
“ข้าหวังว่าต้วนหลิงเทียนจักติด 10 อันดับแรกเร็วๆ…”
ในสายตาของหูหลินอี้ฉายถึงความคาดหวังไม่น้อย
ถึงแม้ว่ามันจะให้ความสนใจกับการตาของสุมาฉุนแห่งตระกูลสุมาเช่นกัน แต่มันไม่ได้เชื่อมโยงการตายของอีกฝ่ายเข้ากับต้วนหลิงเทียนเลย
เพราะในความคิดของมัน สุมาฉุนก็คือยยอดเซียนอมตะขั้นสูงสุดที่เข้าใจความลึกซึ้งของกฏแห่งลมได้แล้วถึง 2 ประการ พลังฝีมือนับว่าสูงส่งสุดที่ต้วนหลิงเทียนจะทาบติด อีกทั้งยังร่ำลือกันหนาหูว่าความลึกซึ้งประการที่สองของกฏแห่งลมที่สุมาฉุนเข้าใจยังคือ ‘ลมกรด’ อีกด้วย
จากสิ่งนี้ทำให้มันเชื่อว่าต้วนหลิงเทียนไม่มีทางเข่นฆ่าสุมาฉุนได้แน่นอน!
กล่าวได้ว่าจิตใต้สำนึกของมันได้กำหนดไว้แต่แรกโดยไม่รู้ตัว
ว่าต้วนหลิงเทียนไม่ใช่คู่มือของสุมาฉุน!
“ท่านผู้อาวุโส…ต่อให้ประมุขปี้ไห่จะเห็นด้วยกับท่าน แต่เกรงว่าพวกเราเองก็ไร้หนทางจับมือใครดมได้ เพราะมิใช่เรื่องง่ายเลยที่ท่านจะหาตัววฆาตกรฆ่าหลานท่านได้เจอ”
อาวุโสของตระกูลสุมาอีกคนพอเห็นอาวุโสสูงกลับมาพร้อมใบหน้าอัปลักษณ์ มันก็ได้แต่คลี่ยิ้มขื่นขมกล่าวออก
“ผู้ใดมีความเป็นไปได้ที่จักสามารถฆ่าหลานชายข้าได้ ข้าจักฆ่ามันให้สิ้น!”
สุมาผิงตงกล่าวออกด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น สองตายังเผยความคุ้มคลั่งประการหนึ่ง
ถึงแม้มันจะมีลูกชายและหลานชายอีกหลายคน อย่างไรก็ตามมันให้ความสำคัญกับสุมาฉุนมากกว่าใคร
การตายของสุมาฉุนทำให้มันมีโทษะสาหัสแล้วจริงๆ ยังแทบทนรอบุกเข้าไปล่าตัวฆาตกรฆ่าหลานชายมันในแดนสวรรค์ใต้ และฆ่าคนล้างแค้นไม่ไหวแล้วด้วยซ้ำ!
ได้ยินคำของสุมาผิงตง อาวุโสของตระกูลสุมาก็ได้แต่คลี่ยิ้มเจื่อนๆ
เพราะอย่างไรก็ตามเรื่องจะหาตัวฆาตกรและล้างแค้นให้สุมาฉุนก็ไม่ใช่เป็นไปไม่ได้เสียทีเดียว เพราะมันก็รู้ระดับพลังฝีมือของสุมาฉุนดี ในแดนสววรรค์ใต้ครานี้เกรงว่ามีน้อยคนนักที่เทียบได้ ที่เหนือกว่าย่อมมีน้อยเสียยิ่งกว่าน้อย
อีกทั้งในบรรดาผู้คนที่มีน้อยเสียยิ่งกว่าน้อยยที่สมควรมีพลังฝีมือเหนือกว่าสุมาฉุนนั้น ก็อาจจะสู้ชนะสุมาฉุนได้จริง แต่ก็ไม่แน่ว่าจะฆ่าสุมาฉุนได้ เช่นนั้นขอเพียงมีใครที่มีพลังฝีมือโดดเด่นเหนือใครปรากฏตัวขึ้น นั่นก็คือผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่ง!!
เป็นธรรมดาว่ายังมีอีกสถานการณ์หนึ่ง
สุมาฉุนบังเอิญถูกกลุ้มรุมสังหาร!
และหากเป็นเช่นนั้นจริง น่ากลัวว่าเรื่องคิดตามหาตัวฆาตกร คงยากเย็นยิ่งกว่างมเข็มในกองฟางแล้ว!
ด้านต้วนหลิงเทียน ย่อมไม่ได้ล่วงรู้เลยว่าด้านนอกเกิดอะไรขึ้นบ้าง
ถึงแม้ว่าคะแนนของเขาจะทยอยเพิ่มขึ้นทีละแต้มสองแต้มอย่างเชื่องช้า แต่สุดท้ายก็เพิ่มขึ้นถึง 8 แต้มในเวลาไม่นานเกินรอ
อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครสงสัยเลยสักคน ว่าเขาเป็นผู้ที่ฆ่าสุมาฉุน
เพราะเหนือใดอื่น ในเวลานี้ไม่ใช่แค่เขาคนเดียวเท่านั้น ที่มีคะแนนเพิ่มขึ้นถึง 8 แต้ม!
นอกจากนี้เรื่องพลังฝีมือของเขาเองก็ถูกหลายคนเอาไปเล่าจากสิ่งที่เห็น ทำให้ไม่มีใครคิดว่าเขาจะสามารถฆ่าสุมาฉุนได้เลย ถูกตัดออกจากรายชื่อผู้ต้องสงสัยไปแทบจะทันที
และตั้งแต่ที่สุมาฉุนตกตายลงไป สุมาผิงตงก็เอาแต่จ้องตารางจัดอันดับไม่วางตา มันจดจำทุกรายชื่อที่มีคะแนนเพิ่มสูงขึ้นรวดเร็ว ยังถึงกับจดไว้ในบัญชีผู้ต้องสงสัยที่อาจฆ่าหลานชายมัน!
ภายใน แดนสวรรค์ใต้โบราณระดับต่ำ
“ในที่สุด ก็ออกมาพ้นเขตป่าได้ซะที…”
พริบตาเดียววันเวลาก็ได้ล่วงเลยไปอีก 1 เดือน ต้วนหลิงเทียนที่ได้มุ่งหน้าไปตามการชี้นำ ในที่สุดก็หลุดออกมาจากป่าที่กว้างใหญ่ปานจะไร้สิ้นสุดนั่นเสียที
ต้องทราบด้วยว่าในขณะที่เดินทาง เขาได้ใช้ความเร็วสูงสุดแล้ว!
ด้วยเหตุนี้จึงทราบได้ไม่ยาก ว่าป่าทึบแห่งนี้มันกว้างใหญ่ไพศาลเพียงใด