WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 3031
WSSTH ตอนที่ 3,031 : ปี้ไห่หมิงเฟิงผู้ร้ายกาจ!
“ดูเหมือนพวกเจ้าสองคนจะไม่เห็นพวกเรา 3 นิกาย 2 ตระกูลอยู่ในสายตาแล้วสินะ”
หลังเสียงสบถเยียบเย็น ก็มีเสียงอันเย็นชาหนึ่งดังขึ้น และทันทีที่ได้ยินประโยคดังกล่าวผู้คนก็รู้สึกเสมือนตกไปอยู่ในหล่มน้ำแข็งอันยะเยือก
และแทบจะพร้อมกันกับที่เสียงดังจบคำ
ฟุ่บ!
ดั่งสายลมกรรโชกพัดมาหอบหนึ่ง
พริบตาต่อมาท่ามกลางสายตาทุกคู่ ร่างปี้ไห่หมิงเฟิง ก็ไปผุดโผล่เบื้องหน้าสุมาตงผิงอาวุโสสูงสุดของตระกูลสุมา ราวกับปรากฏขึ้นจากอากาศธาตุ!
“ปี้ไห่หมิงเฟิง!”
พอสุมาตงผิงเห็นว่าผู้ที่วูบมาปรากฏเป็นใคร ไม่ทันที่มันจะได้ทำอะไร ร่างที่วูบมาก็ลงมือออกมาปานอัสนีฟาดผ่า ไร้ซึ่งโอกาสให้มันได้แก้ต่างอันใด
ซุ่มมม!!
พลังเซียนอมตะต้นกำเนิดทั่วร่างของสุมาตงผิงพึ่งจะเริ่มเคลื่อนไหว ไม่ทันได้ปลดปล่อย ก็เป็นหนึ่งมือที่ยกขึ้น คว้าจับพู่กันอันเขื่องที่ผุดโผล่ออกมาจากอากาศว่างเปล่า ตวัดฟาดเข้ามาอย่างดุร้ายประหนึ่งมังกรสะบัดหาง! สภาวะพลังครอบงำน่ากลัวนัก!!
พริบตาต่อมา
ปงงงง!!
ซัวว ลา ลา!!
……
พู่กันสะบัดฟาดมาดั่งมังกรสะบัดหาง สะท้านสะเทือนความว่างเปล่า หอบมวลพลังสุดไพศาลถล่มทับลงมายังร่างสุมาตงผิง! พลังเซียนอมตะต้นกำเนิดของมันที่พึ่งเร่งเร้าออกมาได้ไม่ทันไรก็ถูกพลังสุดไพศาลถล่มทลาย จากนั้นร่างก็ถูกขนแปรงของพู่กันดังกล่าวปัดกระทบ จนคนแหลกสลาย กลับกลายเป็นหมอกโลหิตคาวคลุ้งฟุ้งกระจายไปทั่วแผ่นฟ้า
คงเหลือเพียงเกราะอ่อนรูปลักษณ์เสื้อกั๊กพร้อมกับแหวนพื้นที่วงหนึ่ง ร่วงตกลงจากฟ้าอย่างเงียบงัน
ครืนนนน!!
ฟิ่ววว!!
…
ขณะเดียวกัน ทุกคนไม่เว้นต้วนหลิงเทียนก็สัมผัสได้ถึงคลื่นพลังกระแทกมหาประลัยหนึ่งกวาดข้ามฟ้ามาฉับไว ผลักดันห้วงอากาศให้เกิดเป็นสายลมวิปริต พัดกระหน่ำออกไปทั่วสารทิศ ชุดเสื้อคลุมผมเผ้าโบกสะบัดวุ่นวายไปหมด
ผู้ที่อยู่ใกล้จุดปะทะก็จำต้องหยีตา พลางเร่งรุดล่าถอยออกไปทันที
“ตายแล้วรึ?”
ลูกตาต้วนหลิงเทียนหดลงเล็กน้อย ด้วยไม่คิดว่าอาวุโสสูงสุดของตระกูลสุมาอย่างสุมาตงผิง จะถูกฆ่าตายง่ายๆในชั่วพริบตา
นับว่าผู้ลงมือเข่นฆ่าสังหารได้หมดจดยิ่งนัก!
“อะ…อาวุโสสูงสุดตระกูลสุมา…ตกตายเพียงเท่านี้!?”
“ให้ตายเถอะ สุมาตงผิง อาวุโสสูงสุดตระกูลสุมาผู้นั้น นับเป็นยอดฝีมือที่ร้ายกาจที่สุดของตระกูลสุมาแล้ว…แต่ต่อหน้าประมุขลำดับ 3 ของนิกายอมตะเหอฮวน กลับไม่อาจรับได้แม้ท่าเดียว? ต่อให้จะไม่ทันตั้งตัว แต่ก็ไม่น่าจะถึงขั้นทำอะไรไม่ได้เลยแบบนี้มิใช่หรือ?”
“เรื่องธรรมดา…อย่าได้ลืมไปว่าประมุขลำดับ 3 ของนิกายอมตะเหอฮวนพลังฝีมือกล้าแข็งปานใด เจ้าไม่เคยได้ยินหรือว่ากระทั่งประมุขอีก 2 คนยังเทียบไม่ได้ แถมต้องไม่ลืมว่ามันเป็น 1 ใน 10 ผู้ตรวจการของคฤหาสน์เฉวียนโยวแล้ว”
“นับว่าผู้อาวุโสสูงสุดตระกูลสุมาโชคร้ายยิ่ง…หากวันนี้คนของนิกายอมตะเหอฮวนที่มามิใช่ปี้ไห่หมิงเฟิง อย่างน้อยถึงจะทำผิดกฏแต่ก็ยังพอเจรจาอันใดบ้าง แต่กับประมุข 3 ของนิกายอมตะเหอฮวนที่ดำรงตำแหน่ง 1 ใน 10 ผู้ตรวจการของคฤหาสน์เฉวียนโยว ผู้อื่นย่อมมีอำนาจลงมือจัดการมันได้ทันที ไม่จำเป็นต้องยั้งมือไว้ไมตรีอันใด”
…
ในชั่วพริบตา ประมุข 3 ของนิกายอมตะเหอฮวนที่ระเบิดพลังสังหาร ก็จบชีวิต สุมาตงผิง ผู้อาวุโสสูงสุดตระกูลสุมาได้อย่างง่ายดาย เรื่องนี้นับว่าสะเทือนขวัญผู้คนที่ชมดูรอบๆนัก
จังหวะนี้เหล่าคนของขุมกำลังงระดับ 8 ต้นสังกัดหลี่หยวนกับอวิ๋นจ้าน ก็อดไม่ได้ที่จะหลั่งเหงื่อเย็นชุ่มโชก
โชคดีเหลือเกินที่เมื่อครู่พวกมันไม่ทันมีเวลาได้ประกาศคำอะไร! หาไม่แล้วอาจจะตกเป็นเป้าสังหารของปี้ไห่หมิงเฟิงอีกคน ถึงตอนนั้นพวกมันได้ตายไร้ที่ฝังแน่!!
ความแข็งแกร่งของสุมาตงผิงไม่ทราบเหนือกว่ามันเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ แต่ยังถูกฆ่าตายง่ายดายเยี่ยงสุนัขข้างงถนน!
“ผู้อาวุโสสูงสุด…”
อาวุโสของตระกูลสุมาอีกคน ที่เห็นอาวุโสสูงสุดถูกปี้ไห่หมิงเฟิงฆ่าตายคามือต่อหน้าต่อตา ก็ได้แต่คลี่ยิ้มขื่นขมออกมาอย่างอับจนหนทาง
“แล้วคนของตระกูลตงฟางเล่า…”
หลังจากที่ปี้ไห่หมิงเฟิงฆ่าสุมาผิงตงแล้วว ผู้คนโดยรอบก็เริ่มหันไปมองคนของตระกูลตงฟางทันที
เพราะเมื่อครู่ ก็มีคนของตระกูลตงฟางที่ประกาศถ้อยคำออกมาทำนองเดียวกับสุมาตงผิง!
และถ้อยคำดังกล่าวก็ถือเป็นการละเมิดกฏของแดนสวรรค์ใต้โบราณชัดเจน
เป็นธรรมดาว่าหลังประหารสุมาตงผิงแล้ว ร่างปี้ไห่หมิงเฟิงก็อันตรธานหายไปจากสายตาผู้คน ก่อนจะไปปรากฏตัวเบื้องหน้าคนของตระกูลตงฟางที่กล่าวคำเมื่อครู่ในเสี้ยวพริบตา!
คนของตระกูลตงฟางที่ประกาศถ้อยคำดุดันก่อนหน้า ก็เป็นแค่อาวุโสธรรมดาๆคนหนึ่งของตระกูลตงฟางเท่านั้น พอเห็นสุมาตงผิงถูกฆ่าตายคาตา หน้ามันก็เปลี่ยนสีไปใหญ่หลวง!
และบัดนี้พอเห็นปี้ไห่หมิงเฟิงวูบร่างมาหยุดลงเบื้องหน้า สีหน้าของมันก็ซีดลงปานกระดาษในฉับพลัน ไม่เหลือสีเลือดให้เห็นแม้แต่นิดเดียว!!
“ประมุข 3 เมตตาด้วย! ขอท่านประมุข 3 เมตตาข้าน้อยด้วย!!”
ท่ามกลางสายตาทุกผู้คน อาวุโสที่เอ่ยประกาศก่อนหน้าของตระกูลตงฟางก็เร่งรุดคุกเข่าลงกลางหาว มองกล่าววิงวอนร้องขอชีวิตต่อปี้ไห่หมิงเฟิงอย่างร้อนรน
ต่อให้มันจะเตรียมตัวแค่ไหน หากปี้ไห่หมิงเฟิงคิดฆ่ามัน อีกฝ่ายก็ลำบากเพียงยกมือเท่านั้น!
กับคนที่จบชีวิตสุมาตงผิงได้ในชั่วพริบตา จะฆ่ามันย่อมไม่ต่างอะไรกับบี้มด!
อย่างไรก็ตาม แม้อาวุโสสกุลตงฟางจะคุกเข่าวิงวอนร้องขอชีวิต แต่ปี้ไห่ก็ยังงคงเฉยเมยไร้แยแส สองตาเย็นชาไม่ได้เผยความหวั่นไหวแม้แต่น้อย
ภายใต้ดวงตาทุกคู่ ปี้ไห่หมิงเฟิงก็ยกมืออันถือพู่กันอันเขื่องขึ้นอีกครั้ง
จากนั้น…
ซู่มม!!
ปรากฏลำแสงพลังให้ความรู้สึกแหลมคมหนึ่งพุ่งออกมาจากปลายพู่กัน ทะลวงเจาะความว่างเปล่าไปฉับไวปานดาวตก ให้เสียงคล้ายกระบี่ผ่าอากาศอยู่บ้าง!
ฉัวะ!!
ครู่ต่อมา ทุกคนก็ได้เห็น อาวุโสสกุลตงฟางที่คุกเข่าวิงวอนร้องขอชีวิตอยู่นั้น หว่างคิ้วได้ปรากฏหลุมโลหิตสยดสยองหลุมหนึ่ง ลูกตายังเบิกกว้างไปด้วยความตกตะลึง
ก่อนหน้าหลังจากที่ฆ่าสุมาผิงตงแล้ว ปี้ไห่หมิงเฟิงได้สะบัดมือเก็บเสื้อกั๊กอันเป็นชุดเกราะกับแหวนพื้นที่ของอีกฝ่ายเอาไว้
ทว่าหลังจากฆ่าคนของตระกูลตงฟาง มันกลับไม่ริบสิ่งของใดๆจากตัวอีกฝ่ายเลย ทำราวกับไม่เห็นสมบัติชั่วชีวิตของอาวุโสตระกูลตงฟางผู้นี้อยู่ในสายตา
อันที่จริงก็เป็นเช่นนั้น
ด้วยฐานะของปี้ไห่หมิงเฟิง ความมั่งคั่งและทรัพยากรของมันนั้น กระทั่งสุมาตงผิงอาวุโสสูงสุดของตระกูลสุมายังเทียบไม่ได้ด้วยซ้ำ
เป็นธรรมดาว่าอาศัยแหวนพื้นที่ของอาวุโสธรรมดาๆของตระกูลตงฟาง ย่อมไม่อยู่ในสายตาของมัน
และหลังฆ่าอาวุโสตระกูลตงฟางแล้ว ร่างปี้ไห่หมิงเฟิงก็วูบกลับไปนั่งเอนกายบนเกี้ยวที่มีผู้คนแบกหามอยู่
“ประมุขปี้ไห่ ท่านสำแดงพลังฝีมือร้ายกาจแบบนี้ ข้าเกรงว่าคนส่วนใหญ่ที่รอดกลับออกมาจากแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับต่ำ คงเทใจให้นิกายอมตะเหอฮวนของท่านหมดสิ้น…”
ปี้ไห่หมิงเฟิงพึ่งกลับมานั่งเอนกายได้ไม่ทันไร รองงประมุขนิกายเป้าผู่ จางกวงเจิ้งก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มแหยๆ
“นั่นสิประมุขปี้ไห่…ท่านแสดงความเก่งกาจขนาดนี้ ไม่เป็นการรังแกผู้คนเกินไปหน่อยหรือ”
เหิงฉานผู้นำโถงอรหันต์ของนิกายอมตะอวิ๋นไถ ก็เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจเช่นกัน
สำหรับคนจากตระกูลจ่างซุนและตระกูลกงหยาง แม้จะไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่พวกมันก็หันมามองหน้ากัน พลางยิ้มขื่นขม
ประมุข 3 ของนิกายอมตะเหอฮวนแสดงพลังร้ายกาจขนาดนี้ แต่พวกมันกลับไม่ได้ทำอะไรเลย หากพวกมันเป็นคนที่กำลังจะเลือกขุมกำลังเข้าร่วม ไม่พ้นต้องเลือกจะเข้าร่วมกับนิกายอมตะเหอฮวนแน่นอน
“พวกเจ้าไม่ใช่ว่าหลังได้ยินที่สุมาผิงตงพูด ถึงจะไม่พอใจแต่ก็ไม่คิดจะลงมือทำอะไร จนข้าต้องลงมือไม่ใช่รึไง?”
ปี้ไห่หมิงเฟิงเหลือบมองจางกวงเจิ้งกับเหิงฉาน พลงกล่าวด้วยน้ำเสียงเฉยเมย “ในเมื่อพวกเจ้าไม่กล้าลงมือ เช่นนั้นข้าก็ได้แต่ลงมือเอง”
ได้ฟังวาจาดังกล่าวของปี้ไห่หมิงเฟิง จางกวงเจิ้งกับเหิงฉานก็หดหู่ใจไม่น้อย แต่พวกมันก็หมดคำจะพูด ทำได้แค่ยิ้มแห้งๆอย่างจนปัญญาเท่านั้น
พวกมันก็อยากลงมืออยู่หรอก…
แต่พลังฝีมือของสุมาตงฉิงนั่น ไม่ได้ด้อยไปกว่าการร่วมมือกันของพวกมันด้วยซ้ำ! เช่นนั้นต่อให้พวกมันลงมือ แต่อย่างดีก็ทำได้แค่รบติดพันผู้อื่นเขาเท่านั้น!!
และถ้าสุมาตงผิงคิดหนีขึ้นมา ด้วยพลังของพวกมัน ก็คงยากจะหยุดยั้งอีกฝ่ายได้
ถึงตอนนั้นหากสุมาตงผิงหนีรอดพ้นเงื้อมมือพวกมันไปได้ พวกมันไม่พ้นต้องอับอายขายหน้าผู้คนมากกว่าอยู่เฉยๆเสียอีก
ด้วยเหตุนี้หลังจากชั่งน้ำหนักผลได้ผลเสียแล้ว พวกมันจึงเลือกจะนิ่งเฉยเอาไว้ไม่ลงมือ
หลังปี้ไห่หมิงเฟิงลงมือ คนที่เหลือของตระกูลสุมาและตระกูลตงฟางก็สงบปากสงบคำกลายเป็นเรียบๆร้อยๆทันที
ขุมกำลังระดับ 8 เบื้องหลังหลี่หยวนกับอวิ๋นจ้านก็กลายเป็นเรียบๆร้อยๆ ไม่กล้าแม้แต่จะมองสังเกตต้วนหลิงเทียนกับคนอื่นๆที่ติด 10 อันดับแรกเพื่อหาตัวฆาตกรต่อไปด้วยซ้ำ
“มีคนออกมาอีกแล้ว!”
หลังจากผ่านไปอีกสักพัก ก็เริ่มปรากฏผู้คนเหินร่างออกมาจากประตูที่ลอยค้างกลางหาว
เมื่อมีคนแรกออกมา หลังจากนั้นคนที่สองที่สามก็ทยอยกันออกมาติดๆกัน
“พี่เจียหลง!”
ไม่นานต้วนหลิงเทียนก็เห็นหวงเจียหลงเหินร่างออกมา
นอกจากนี้เขารู้อยู่แล้วว่าหวงเจียหลงต้องรอดกลับออกมาแน่ เพราะชื่อของอีกฝ่ายยังเด่นหราอยู่ในตารางจัดอันดับ
ยิ่งไปกว่านั้นคะแนนของหวงเจียหลง ยังมากกว่าหวงเจียเชาด้วยซ้ำ และไม่เหมือนกับหวงเจียเชาที่ได้รับความช่วยเหลือจากต้วนหลิงเทียน มันใช้พลังฝีมือตัวเองหามาทั้งสิ้น
“สุดท้าย 9 คนของประเทศฝูชิว…ก็รอดกลับออกมาแค่ 4 คน”
“นอกจากพวกเรา 3 คนแล้ว…อีกคนก็คือเมิ่งชิวอวี่”
เมื่อเห็นหวงเจียหลงกลับมาโดยปลอดภัย ต้วนหลิงเทียนก็หันไปมองตารางจัดอันดับอีกครั้ง และหลังมองไล่รายชื่อดู ก็พบว่าคนของฝูชิวนอกจากพวกเขา 3 คน ก็เหลือแค่เมิ่งชิวอวี่คนเดียวเท่านั้น
เมิ่งชิวอวี่นั้นเป็นคนที่มีสตรีชราขอบเขตราชาอมตะ 1 ต้นกำเนิดติดตามดูแลอยู่ข้างกาย และยังเป็น 1 ใน 2 สตรีที่เข้าสู่แดนสวรรค์ใต้โบราณระดับต่ำครั้งนี้ของประเทศฝูชิว
“ฝ่าบาท! น้องต้วน!”
หวงเจียหลงพอกลับออกมา ก็เหินร่างไปหาพวกต้วนหลิงเทียนทันที จากนั้นมันก็ทักทายหูหลินอี้ฮ่องเต้ฝูชิวเล็กน้อย ค่อยหันมาคุยกับต้วนหลิงเทียน
“น้องต้วน เจ้าได้กี่คะแนนกัน คงไม่น้อยเลยล่ะสิ?”
หวงเจียหลงเอ่ยถามด้วยความอยากรู้
ขณะเดียวกับที่ถาม มันก็ไม่ลืมหยกป้ายหยกสะสมคะแนนขึ้นมาส่ายๆ “ส่วนของข้าในนี้มี 22 แต้มเอง!”
“ท่านลองดูเองเถอะ”
ได้ยินคำถามแกมอวดของหวงเจียหลง ต้วนหลิเทียนยักไหล่เบาๆ จากนั้นก็พยักหน้าไปทางตารางจัดอันดับที่ลอยล่องอยู่กลางอากาศไกลๆ ด้วยรอยยิ้มสนุกสนาน
จากนั้นหวงเจียหลงก็หันมองตามสายตาไปยังตารางจัดอันดับไกลๆทันที
“หาจากด้านบน”
ในขณะที่หวงเจียหลงหันไป หวงเจียเชาก็เอ่ยเตือนขึ้นมาอยย่างประจวบเหมาะ ทำให้หวงเจียหลงไม่ต้องสุ่มไล่สายตา และเลือกจะมองจากด้านบนของตารางมาทันที
“อันดับที่ 1 หลิงเจวี๋ยอวิ๋น หืม!? มารดามันเถอะ 298 คะแนนเรอะ!?”
และพอเห็นชื่อคนได้อันดับที่ 1 หวงเจียหลงก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้เพราะรู้สึกคุ้นๆ จากนั้นพอเห็นคะแนนอีกฝ่ายเท่านั้นล่ะ มันก็โพล่งออกมาเสียงดังด้วยความตกใจ “บ้าไปแล้ว นี่มันไปขุดคะแนนมาจากไหนกัน!?”
“ฮัยยา ท่านพี่มันจะไปขุดมาแต่ไหนก็ช่างเถอะ ท่านรีบดูอันดับถัดมาเร็วๆ”
หวงเจียเชากล่าวขัด ไม่งั้นหวงเจียหลงได้ฮือฮาอีกนานแน่นอน
ได้ยินดังนั้นหวงเจียหลงก็ระงับความแตกตื่นในใจและเริ่มมองอันดับถัดมาทันที
และพอมองไปได้ไม่ทันนไร มันก็อึ้งไปตาตั้ง
อันดับที่ 2
ต้วนหลิงเทียน
286 คะแนน!
เมื่อมันอ่านชื่อทั้งดูเลขคะแนนซ้ำสามรอบจนมั่นใจว่าไม่มีอะไรผิดพลาด ลูกตาของมันก็เบิกโพลงกว้างขึ้น
“นะ..น้องต้วน…ท่าน…นี่ท่านได้อันดับ 2 รึ!? จะน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!!”
จากนั้นหวงเจียหลงก็หันขวับมามองต้วนหลิงเทียนตาโต เอ่ยถามด้วยสีหน้าแตกตื่น “นี่ท่านทำได้อย่างไรกันแน่!?”
“ทำได้ไงข้าก็ไมรู้ รู้แต่ทำไปแล้ว…”
ต้วนหลิงเทียนยักไหล่อีกรอบ ค่อยตอบอย่างขอไปที
ฟุ่บ!
สายลมหอบหนึ่งพัดมาแผ่วๆ เป็นเมิ่งชิวอวี่ที่พึ่งกลับออกมาจากแดนสวรรค์ใต้โบราณ เหินร่างกลับมาหาสตรีชราที่ลอยไม่ห่างงฮ่องเต้ฝูชิว
และเมื่อนางกลับออกมา ก็กล่าวได้ว่า ในบรรดาคนทั้ง 9 ของประเทศฝูชิวที่เข้าไปในแดนสวรรค์ใต้โบราณครั้งนี้…4 คนที่รอดชีวิต ได้กลับออกมาหมดแล้ว…