WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 3092
และในขณะเดียวกันกับที่อาจารย์ของหยวนเจิงลงมือ คลื่นดาบอันน่าพรั่นพรึงของเจียงหลานก็เจียนบรรลุถึงตัวหยวนเจิงแล้ว!
ซู่มมม!!
คลื่นดาบพุ่งแหวกอากาศมาฉับไว เปล่งแสงพลังสีฟ้าเจิดจ้า อานุภาพประหนึ่งจะผ่าได้กระทั่งความว่างเปล่า ท่ามกลางห้วงราตรีอันมีแต่แสงดาวนำทางเช่นนี้ คลื่นดาบสีฟ้าที่สว่างวาบตัดห้วงมืดมาช่างงดงามพิกล
ที่สำคัญยามมันพุ่งทะยานเข่นฆ่าไปทางหยวนเจิน หยดน้ำสีฟ้ามหาศาลทั้งหลายที่ถล่มโจมตีนำมา ก็ถูกคลื่นดาบดังกล่าวดูดรั้งให้มาหลอมรวมผสานทุกหยาดหยด จนสีคลื่นดาบยิ่งมายิ่งเข้ม!
คลื่นดาบสีฟ้าเข้มที่เข่นฆ่าสังหารมาด้วยพลังสภาวะน่าพรั่นพรึง พอบรรลุถึงเงาร่างชุดเกราะอันเป็นปราการป้องกันของหยวนเจิง ก็ประหนึ่งมีดร้อนผ่าแผ่นเนยบางๆ!
เกล็ดสีกากีลักษณะคล้ายแผ่นยันต์นับร้อยพันเองก็ไม่อาจต้านทานอะไรได้เลย เพียงต้องแตะถูกคลื่นดาบสีฟ้า ล้วนแหลกลงเป็นละอองธุลีพลัง สาบสูญไปในสวรรค์และโลก
“ไม่!!”
หยวนเจิงซึ่งแต่เดิมเปี่ยมล้นไปด้วยความมั่นใจ บัดนี้สีหน้าแววตาของมันล้วนเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง เมื่อเห็นปราการรักษาชีวิตทลายลงอย่างไร้ต้านทาน มันก็ร่ำร้องออกมาเสียงหลงอย่างเสียขวัญ
เสียงกรีดร้องด้วยความสิ้นหวังของมัน พอดังก้องเข้าหูทุกผู้คน เหล่ายอดเซียนอมตะบนยอดเขามากมายอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสมือนหนังศีรษะชาหนึบ!
ฉัวะ!!
เสียงสับสะบั้นดังขึ้นอย่างแผ่วเบา หลังปราการป้องกันถูกทำลาย ร่างหยวนเจิงก็ถูกคลื่นดาบสีฟ้าผ่ากลางจนร่างแยกเป็น 2 เสี่ยง ครึ่งซ้ายครึ่งขวาค่อยๆแยกห่างออกจากกัน อวัยวะภายในทั้งมันสมองกรูทะลักออกมาอย่างน่าสดสยอง สุดท้ายก็ล่วงตกไปกองเป็นซากเนื้อเลอะเลือนเกลื่อนพื้น!
คลื่นดาบสีฟ้าเข้มนี้ของเจียงหลาน ฆ่าหยวนเจิงตายคาที่!
ฟืด! ฟืด! ฟืด! ฟืด! ฟืด!
…
เสียงสูดลมหายใจเข้าดังขึ้นระงม เหล่ายอดเซียนอมตะขั้นสูงสุดทั้งหลาย พอมองไปยังเจียงหลานอีกครั้ง สายตาก็ฉายชัดถึงความหวาดผวาประหนึ่งพบพานภูตผี
“อั๊ค!”
ขณะเดียวกัน สูงขึ้นไปบนฟ้าด้านนอกม่านพลังปกคลุมยอดเขา ชายวัยกลางคนในชุดจอมยุทธ์อาจารย์ของหยวนเจิงที่พึ่งตายตก หลังลงมือซัดพลังหมายทำลายค่ายกลไปพักหนึ่ง มันก็ถูกพลังขอค่ายกลตอบโต้ทำร้าย จนเลือดลมตีกลับ โลหิตกระอักออกมาเป็นกลุ่มก้อน สีหน้าคนซีดเซียวปานกระดาษ ร่างสั่นระริกปานจะพังทลาย
“เจ้าเป็นผู้ใดกันแน่!?”
ชายวัยกลางคนในชุดจอมยุทธ์ที่ร่างสั่นระริก แผดเสียงคำรามถามไถ่ออกมาดั่งสนั่นปานฟ้าลั่น อย่างไรก็ตามสองตาที่มองจ้องเจียงหลานของมัน เริ่มเผยให้เห็นความหวั่นหวาดประการหนึ่ง!
บัดนี้หากมันยังไม่อาจตระหนักได้ว่าเจียงหลานมิใช่คนธรรมดา เกรงว่าชีวิตที่อยู่มาหลายปีของมันคงไร้ค่าเยี่ยงชีวิตสุนัข!
เจียงหลานที่พึ่งลงมือเข่นฆ่าศิษย์สายตรงของมันไปผู้นี้ หากนับรวมความหมายแห่งน้ำแล้ว เมื่อครู่อีกฝ่ายได้ใช้ความลึกซึ้งของกฏแห่งน้ำออกมาทั้งสิ้น 4 ประการ!
“เจียงหลานผู้นี้…ยังมีอายุไม่ถึงร้อยปี!”
ในขณะที่ชายวัยกลางคนในชุดจอมยุทธ์มองถามเจีงหลานด้วยสายตาหวั่นหวาด ชายชราคนหนึ่งที่ลอยร่างบนฟ้าสูงท่ามกลางกลุ่มคนนับร้อยก็อุทานออกมาด้วยน้ำเสียงตกใจ
อายุไม่ถึงร้อยปี?
ได้ยินวาจาดังกล่าวของชายชรา เหล่ายอดฝีมือที่ลอยร่างค้างกลางหาวกว่า 500 คนไม่เว้นชายวัยกลางคนในชุดจอมยุทธ์ ก็แผ่สำนึกเทวะออกไปหมายตรวจสอบเจียงหลานยกใหญ่ ม่านพลังที่ปกคลุมยอดเขาหมาป่าหอนฟ้าเบื้องหน้า ก็หาได้ปิดกั้นสำนึกเทวะแต่อย่างใด ผ่านทะลุลงไปได้อย่างราบรื่น
และเมื่อสำนึกเทวะของพวกมันทั้งหลายปกคลุมไปยังร่างเจียงหลาน ก็ไม่ยากที่จะตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องที่เจียงหลานยังมีอายุไม่ถึงร้อยปี!
“ไม่ผิด! มันมีอายุไม่ถึงร้อยปีจริงๆ!!”
“อายุไม่ถึงร้อยปี บรรลุด่านพลังยอดเซียนอมตะขั้นสูงสุดแถมเข้าใจความลึกซึ้งของกฏแห่งน้ำ 4 ประการ…เจียงหลานผู้นี้เป็นใครกันแน่!?”
“ผู้อมตะทั่วไป ไม่ว่าจะมีศักยภาพพรสวรรค์และเฉลียวฉลาดเพียงใด แต่อย่างน้อยๆมันก็ต้องเป็นอัจฉริยะจากขุมกำลังระดับสูงของระนาบเทวโลกกระมัง ถึงบรรลุความสำเร็จระดับนี้ได้!?”
“ข้าว่าเจียงหลานผู้นี้สมควรเป็นผู้อมตะกลับชาติมาเกิด!!”
…
เหล่าอาวุโสที่ลอบติดตามยอดเซียนอมตะขั้นสูงสุดหลายร้อยเหนือฟ้าสูง จังหวะนี้พวกมันต้องมองเจียงหลานใหม่อีกครั้ง ฟังจากคำพูดของพวกมันแล้ว ยังคาดว่าเจียงหลานไม่น่าจะใช่ผู้อมตะธรรมดาๆ แต่สมควรเป็นผู้อมตะที่กลับชาติมาเกิดใหม่! หาไม่แล้วคงไม่มีทางประสบความสำเร็จได้ถึงขนาดนี้ด้วยวัยเพียงไม่ถึงร้อยปีได้เลย!!
แน่นอนว่าวาจาคาดเดาของพวกมัน ยังมีประเด็นเรื่องเจียงหลานอาจเป็นอัจฉริยะของขุมกำลังระดับแนวหน้าของระนาบเทวโลกอยู่ด้วย! แต่ทั้งหมดรู้สึกว่าความเป็นไปได้เรื่องนี้ น้อยกว่าความเป็นไปได้ที่อีกฝ่ายจะเป็นผู้อมตะกลับชาติมาเกิด!!
เพราะหากเจียงหลานเป็นอัจฉริยะของขุมกำลังระดับแนวหน้าของระนาบเทวโลกจริง ข้างกายของอีกฝ่ายสมควรมีตัวตนอันทรงพลังให้ความคุ้มครองไม่ห่าง ไหนเลยจะต้องพึ่งค่ายกลอะไรป้องกันตัวเองแบบนี้
เพราะค่ายกลนี่ สมควรเป็นปราการพิทักษ์ชีวิตของเจียงหลานไม่ผิดแน่ กระทั่งราชาอมตะ 8 ชะตายังมิอาจฝ่าทำลายมิหนำซ้ำยังโดนพลังตอบโต้ค่ายกลย้อนมาทำร้ายจนเจ็บหนัก! สิ่งนี้ทำให้พวกมันบังเกิดอาการคิดเขวี้ยงมุสิกกริ่งเกรงภาชนะเสียหายอยู่บ้าง!!
“ไอ้บ้าเอ๊ย! เจียงหลานผู้นี้ที่แท้ตอนประลองกับข้าเป็นมันปกปิดพลังที่แท้จริงเอาไว้! วันนั้นมันใช้ความลึกซึ้งของกฏแห่งน้ำสู้กับข้าแค่ 2 ประการเท่านั้น แต่ฟังจากเหล่าอาวุโสบนฟ้า ดูเหมือนที่แท้มันจะเข้าใจความลึกซึ้งของกฏแห่งน้ำถึง 4 ประการ!!”
เหล่ายอดเซียนอมตะขั้นสูงสุดบนยอดเขาหมาป่าหอนฟ้า บัดนี้หลายคนได้แต่มองเจียงหลานด้วยสายตาประหลาดใจเหลือเชื่อ!
“ที่แท้ตอนมันประลองกับข้าก็เป็นมันปกปิดพลังเอาไว้…ให้ตายเถอะ ตอนนั้นข้าเองก็ตกใจไม่น้อยแล้วเรื่องที่มันอายุไม่ถึงร้อยปีแต่กลับเข้าใจความลึกซึ้งของกฏแห่งน้ำ 2 ประการ แต่ดูเหมือนยังเป็นข้าที่ดูเบามันเกินไป!!”
“อายุไม่ถึงร้อยปี บรรลุยอดเซียนอมตะขั้นสูงสุด แถมยังเข้าใจความลึกซึ้งของกฏแห่งน้ำ 4 ประการ…ก่อนหน้านี้ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อนเลว่าจะมีใครประสบความสำเร็จสูงด้วยวัยเพียงเท่านี้ได้!”
“ดูเหมือนเจียงหลานผู้นี้จะเป็นผู้อมตะกลับชาติมาเกิดจริงๆ!”
…
สายตาที่เหล่ายอดเซียนอมตะขั้นสูงสุดบนยอดเขาหมาป่าหอนฟ้าใช้มองเจีงหลานตอนนี้ เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ในแววตาทุกคนนล้วนเผยความตกตะลึงทั้งไม่อยากจะเชื่อ เพราะพวกมันไม่เคยพบเจอหรือได้ยินเรื่องอัจฉริยะที่ร้ายกาจขนาดนี้มาก่อนเลย!
“เหอะๆ ข้าหลงคิดว่าตัวข้าที่อายุไม่ถึงสองร้อยปี สามารถบรรลุขอบเขตยอดเซียนอมตะขั้นสูงสุดและเข้าใจความลึกซึ้งของกฏแห่งทองได้ 3 ประการ จะถือว่าเป็นสุดยอดอัจฉริยะแล้ว…แต่พอมาอยู่ต่อหน้าเจียงหลานผู้นี้ ความสำเร็จของข้ายังไม่คู่ควรให้กล่าวถึง!”
ยอดเซียนอมตะขั้นสูงสุดที่เข้าใจความลึกซึ้งของกฏแห่งทอง 3 ประการคนหนึ่ง กล่าวเย้ยหยันตัวเองพลางหัวร่อ
“เจียงหลานผู้นี้เป็นอัจฉริยะที่ร้ายกาจที่สุดเท่าที่ข้าเคยเห็นหรือได้ยินมาชั่วชีวิต! ลองมันประสบความสำเร็จระดับนี้ด้วยวัยไม่ถึงร้อยปีได้ ข้าว่าชาติก่อนมันไม่ใช่ผู้อมตะธรรมดาๆแน่!”
“ชาติที่แล้วมันเป็นนจอมราชันอมตะ…หรือจักรพรรดิอมตะกันแน่?”
“จักรพรรดิอมตะ? นั่นเป็นไปไม่ได้กระมัง…”
…
หลังจากที่เหล่ายอดเซียนอมตะขั้นสูงสุดทั้งหลายได้เห็นพลังที่แท้จริงของเจียงหลาน ยิ่งมาพวกมันก็ยิ่งหวาดกลัวเจียงหลาน
“ข้าเองก็คิดไม่ถึงจริงๆว่าเจียงหลานนั่น จะเข้าใจความลึกซึ้งของกฏแห่งน้ำได้ 4 ประการ…”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวอย่างทอดถอนใจ
“อันที่จริงนี่ก็เป็นเรื่องธรรมดา…สุดท้ายแล้วชาติก่อนมันก็เป็นจักรพรรดิอมตะ ทั้งชาติก่อนไม่พ้นกฏที่มันถนัดก็ต้องเป็นกฏแห่งน้ำแน่ ด้วยมีความทรงจำและประสบการณ์ของชาติก่อน ชาตินี้มันก็ไม่ต่างอะไรจากปลาในน้ำ”
หลิงเจวี๋ยอวิ๋นกล่าวผ่านพลัง
“ยังมีผู้ใดกลับคำพูด แล้วพาอาวุโสมาที่นี่อีกบ้าง?”
เจียงหลานที่คอนดาบลอยร่างค้างกลางหาว กวาดตามองไปยังยอดเซียนอมตะขั้นสูงสุดทั้งหมดบนยอดเขาหมาป่าหอนฟ้า ไม่เว้นต้วนหลิงเทียนกับหลิงเจวี๋ยอวิ๋น มุมปากฉีกยิ้มแสยะ กล่าวถามเสียงเรียบ
อย่างไรก็ตาม ได้ยินคำถามประหนึ่งจะสอบสวนของเจียงหลาน ก็ไม่มีใครยอมรับออกมาสักคน
ล้อกันเล่นหรือ!?
จังหวะนี้หากใครหาญกล้ากล่าวยอมรับออกมา ไม่ใช่รนหาที่ตายหรือไร!?
“สหายทั้งหลาย! อาศัยข้าเพียงลำพังคงมิอาจทำลายค่ายกลนี้ได้…แต่หากพวกเราร่วมมือกัน คงมิใช่เรื่องยากที่จะทำลายค่ายกลนี่!!”
ชายวัยกลางคนในชุดจอมยุทธ์ที่ลอยร่างบนฟ้าสูง หันกลับไปมองเหล่ายอดฝีมือที่อยู่โดยรอบด้วยสีหน้าอัปลักษณ์ปั้นยาก “ตอนนี้ลูกศิษย์ของข้าถูกมันฆ่าตายไปคนนึงแล้ว…สหายทั้งหลายเองก็คงไม่วางใจเรื่องความปลอดภัยของศิษย์หรือลูกหลานพวกท่านใช่หรือไม่? หรือพวกท่านคิดนิ่งดูดายชมดูรุ่นเยาว์ของตัวเองประสบบบเคราะห์จริงๆ?”
ถึงแม้ศิษย์ของชายวัยกลางคนจะตกตายไปแล้ว แต่ชายวัยกลางคนก็ไม่เลิกราง่ายๆ มันคิดอาศัยพลังของคนอื่นๆทำลายม่านพลังของค่ายกลป้องกันหุบเขานี่ จะได้ฆ่าเจียงหลานล้างแค้นให้ศิษย์มัน!
และด้วยมีชายวัยกลางคนกล่าวปลุกระดม สองตาของเหล่ายอดฝีมือกลางหาว 500 กว่าคนก็ลุกวาวขึ้นมาทันที
ในบรรดายยอดฝีมือกว่า 500 คนนี้ แม้จะไร้ตัวตนขอบเขตจอมราชันอมตะ และเป็นแค่ราชาอมตะกันหมด อย่างไรก็ตามยังมียอดฝีมือขอบเขตราชาอมตะ 9 ตำหนักอยู่…
“หืม?”
ได้ยินวาจาปลุกเร้าของชายวัยกลางคนในชุดจอมยุทธ์ ต้วนหลิงเทียนอดขมวดคิ้วไม่ได้ เพราะหากยอดฝีมือทั้งหมดผนึกกำลังกันลงมือทำลายค่ายกลจริง เกรงว่าค่ายกลที่คลุมครอบยอดเขาแห่งนี้คงมิอาจต้านทานได้ไหว
จังหวะนี้ต้วนหลิงเทียนยังหันไปมองเจียงหลานโดยไม่รู้ตัว
“หึ! กว่าพวกเจ้าจะคิดได้ก็สายเกินไปแล้ว…รุ่นเยาว์อัจฉริยะของพวกเจ้า ข้าขอรับไปเถอะ!”
และแทบจะเป็นเวลาเดียวกันกับที่ต้วนหลิงเทียนหันไปมองเจียงหลานด้วยอยากรู้ว่าอีกฝ่ายจะจัดการเรื่องราวอย่างไร เจียงหลานก็หันไปมองชายวัยกลางคนในชุดจอมยุทธ์และคนอื่นๆอีกครั้ง จากนั้นพร้อมๆกันกับที่มันฉีกยิ้มเย็นชา สองมือก็ยกขึ้นวาดสัญลักษณ์และอักขระบางอย่างกลางอากาศ แลดูลี้ลับนัก!
“แย่แล้ว!”
“สหายทั้งหลาย เร่งมือเร็วเข้า!!”
…
ยอดฝีมือขอบเขตราชาอมตะที่ลอยยล่องเหนือฟ้า พอเห็นเจียงหลานเริ่มทำวาดสัญลักษณ์อักขระกลางอากาศ สองตาหลันหดหยีแทบปิด บางคนเร่งโพล่งคำผสานพลังออกมาดังสนั่น จากนั้นก็ปะทุพลังเต็มสิบส่วนดิ่งลงจากฟ้ามาปานดาวตก เพราะพวกมันตระหนักได้จากวาจาการกระทำของเจียงหลาน และเดาได้ว่าอีกฝ่ายกำลังจะเปิดใช้ค่ายกลเคลื่อนย้ายทางไกล!!
พริบตาต่อมา ห่าพลังของตัวตนขอบเขตราชาอมตะ 500 กว่าคนก็ถล่มลงจากฟ้ามาปานห่าอุกกาบาตถล่มโลก! กลิ่นอายพลังสุดไพศาลกำจายออกมาอย่างน่ากลัว สภาวะห่าพลังเกรี้ยวกราดปานจะล้างผลาญได้ทุกสิ่ง!!
เปรี๊ยง! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม!
…
ม่านพลังจากค่ายกลพลันปรากฏขึ้นอีกครา ต้านรับห่าพลังของราชาอมตะ 500 กว่าคนเอาไว้แข็งขัน อย่างไรก็ตามแทบจะพร้อมๆกันกับที่ห่าพลังระลอกแรกถล่มลงบนม่านพลัง ยอดเขาหมาป่าหอนฟ้าก็ปรากฏแสงสว่างเจิดจ้าขึ้นมา ปกคลุมต้วนหลิงเทียนและเหล่ายอดเซียนอมตะขั้นสูงสุดทั้งหมดเอาไว้!
“ต้วนหลิงเทียน ค่ายกลเคลื่อนย้ายที่กำลังเปิดใช้บนยอดเขาตอนนี้ สมควรส่งตัวพวกเราไปยังแดนลับที่เจียงหลานสร้างไว้เมื่อชาติก่อนเป็นแน่…เมื่อพวกเราไปถึงที่นั่นไม่พ้นต้องเผชิญหน้ากับค่ายกลมายาหลอนประสาท เจ้าอย่าได้แตกตื่นและเชื่อในสิ่งที่ตาเห็น ปล่อยให้พี่สาวหวงเอ้อจัดการทำลายมายาลวงตาเสีย จากนั้นก็ไม่ยากที่เจ้าจะมองผ่านภาพมายาได้!”
ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนพบว่าเบื้องหน้าสองตาเขากลับกลายเป็นมืดมิดจนไม่อาจแลเห็นแม้แต่นิ้วมือทั้ง 5 เสียงผ่านพลังของหลิงเจวี๋ยอวิ๋นก็ดังขึ้นในหูเขาอย่างประจวบเหมาะ
และครู่ต่อมาเมื่อแสงสว่างจ้าที่ปกคลุมยอดเขาหมาป่าหอนฟ้าหายไป เหล่ายอดเซียนยอมตะขั้นสูงสุดทั้งหมดก็อันตรธานหายไปอย่างไร้ร่องรอยย คงเหลือก็แต่เพียงเจียงหลานที่พึ่งกระตุ้นค่ายกลเคลื่อนย้ายให้ทำงานลอยร่างกลางอากาศเพียงผู้เดียว
และบัดนี้ม่านพลังเหนือยอดเขาก็เริ่มปรากฏรอยร้าวให้เห็นชัดเจนแล้ว คาดว่าคงต้านทานห่าพลังของราชาอมตะ 500 กว่าคนได้อีกไม่นานนัก
อย่างไรก็ตามก่อนที่ม่านพลังจากค่ายกลป้องกันยอดเขาจะพังทลาย เจียงหลานก็กวาดตามองไปยังราชาอมตะ 500 กว่าคนที่กำลังรีบร้อนลงมือด้วยสายตาเย้ยเยาะ กล่าวออกด้วยน้ำเสียงถือดี “หากค่ายกลที่ข้าจัดตั้งไว้เมื่อชาติที่แล้วไม่อ่อนแอลงหลังเวลาล่วงเลยไปร้อยปี…อาศัยมดปลวกขอบเขตราชาอมตะเยี่ยงพวกเจ้า ต่อให้ร่วมมือกันให้ตาย ก็ไม่มีวันสั่นคลอนมันได้!”
“อย่างไรก็ตาม ข้ายังต้องขอบคุณพวกเจ้าแล้วจริงๆ ที่ฟูมฟักอัจฉริยะมาให้ข้ามากมาย…ด้วยมีพวกมันเป็นเครื่องสังเวยให้ต้นไม้เทพสังเวยสวรรค์ของข้า โอกาสที่ข้าจักได้รับผลเทพสังเวยสวรรค์ย่อมมากขึ้นหลายส่วน!!”
“ฮ่าๆๆๆ…!!”
พร้อมกันกับที่เสียงหัววเราะระเบิดออกมาดังร่า ร่างเจียงหลานก็ค่อยๆจางหายไป และไม่นานนักร่างคนก็หายสาบสูญไปในอากาศว่างเปล่าดุจเดียวกับพวกต้วนหลิงเทียนและยอดเซียนอมตะขั้นสูงสุดคนอื่นๆ ราวไม่เคยปรากฏตัวขึ้นมาก่อน
และหลังจากร่างเจียงหลานอันตรธานหายไปได้ไม่นาน กระทั่งเสียงหัวเราะของมันยังไม่ทันจางหาย ม่านพลังป้องกันยอดเขาหมาป่าหอนฟ้า ในที่สุดก็ถูกห่าพลังของราชาอมตะกว่า 500 คนถล่มทำลายจนพังพินาศ!
อย่างไรก็ตาม แม้จะทำลายม่านพลังจากค่ายกลป้องกันได้แล้ว แต่สีหน้าราชาอมตะ 500 กว่าคนก็อัปลักษณ์ปั้นยากนัก นอกจากสีหน้าจะบิดเบี้ยวดูไม่ได้แล้ว ลูกตาของพวกมันังฉายชัดถึงความตื่นตระหนกหวาดกลัว!
ค่ายกลป้องกันเมื่อครู่…เจียงหลานได้จัดตั้งเอาไว้เมื่อชาติก่อน?
ยิ่งไปกว่านั้น ค่ายกลดังกล่าวยังประคองสภาพมานานนับร้อยปีแล้ว?
ผลเทพสังเวยสวรรค์!?