WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 3138
หลิวเสี่ยวโจว เป็นบุตรชายของหนึ่งในบรรดารองผู้นำคฤหาสน์อู่จ้าน ถึงแม้พลังฝีมือจะไม่ร้ายกาจเท่าเหิงเฟิง แต่อย่างไรมันก็เข้าใจความลึกซึ้งของกฏแห่งทองได้ถึง 5 ประการ และยังเข้าใจประการที่ 6 ได้บางส่วนแล้ว
ผลงานในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกกลางของหลิวเสี่ยวโจว ที่ทำได้ดีที่สุดก็คืออันดับที่ 69 เรียกว่ามันเคยติดอยู่ใน 70 อันดับแรกครั้งหนึ่ง
ต้องทราบด้วยว่าผลงานเช่นนี้สำหรับขุนนางอมตะ 10 ทิศที่เข้าใจความลึกซึ้งของกฏได้เพียง 5 ประการ นับว่าไม่ใช่เล่นๆเลย
แต่เป็นธรรมดาว่าทั้งหมดเพราะหลิวเสี่ยวโจวเข้าใจกฏแห่งทอง
หากกฏที่มันช่ำชองดันเป็นกฏแห่งดินล่ะก็ อย่าพูดถึง 70 อันดับแรกเลย กระทั่งจะดิ้นให้ขึ้นมาถึง 80 อันดับแรกด้วตัวเอง ก็คงลำบากยากเข็ญจนแทบเป็นไปไม่ได้
และตอนนี้ทุกคนในตำหนักกเคลื่อนย้ายของคฤหาสน์อู่จ้านย่อมเห็นกันชัดเจน…
ว่าเดือนนี้หลิวเสี่ยวโจวอยู่ในอันดับที่ 78 ซึ่งกล่าวได้ว่าเป็นผลงานระดับกลางๆของมันแล้ว อย่างไรก็ตามมันยังเหลือเวลาอยู่ในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลางอีก 3 วันซึ่งใกล้ๆกับหมดเดือนพอดี
หลายคนจึงหวังว่าหลิวเสี่ยวโจวจะได้อันดับดีกว่านี้
แต่ผู้ใดจะไปคิดคาด ว่าหลังเหิงเฟิงถูกกำจัดออกมา หลิวเสี่ยวโจวก็ถูกกำจัดออกมาตามติด…
กล่าวได้ว่าทั้งคู่แทบจะเดินย่ำเท้ากันด้วยซ้ำ…
“เฮ่อ ให้ข้าทำไงได้ล่ะ เจ้านั่นมันเอาชนะได้กระทั่งศิษย์พี่เหิงเฟิง…ข้าจะสู้กับมันให้เจ็บตัวทำอะไร แถมจะหนีก็หนีไม่ทัน เช่นนั้นมิสู้ออกมาเองประเสริฐกว่า”
ได้ยินคำถามราวกับจะสอบสวนของอาวุโสคฤหาสน์อู่จ้าน หลิวเสี่ยวโจวก็ยักไหล่ตอบกลับไปด้วยท่าทางไม่ยี่หระ ไม่ได้มีอาการสลดอะไรแม้แต่น้อย
และพอหลิวเสี่ยวโจวกล่าวออกมาเช่นนั้น ผู้คนที่อยู่โดยยรอบก็พร้อมใจกันเงียบลงทันที
ครู่ต่อมา อาวุโสคฤหาสน์อู่จ้านที่เอ่ยถามหลิวเสี่ยวโจวเมื่อครู่ก็คืนสติก่อนใคร มันสูดอากาศเข้าลึกๆฟอดหนึ่งค่อยเอ่ยถามออกมาต่อว่า “เช่นนั้นหมายความว่า…เจ้าโดนคนที่ทำลายการป้องกันของเหิงเฟิงบีบให้ออกมางั้นหรือ?”
วิ้ง! วิ้ง!
แทบจะพอดีกับที่อาวุโสดังกล่าวถามจบคำ ก็มีร่างคน 2 คนถูกส่งมาปรากฏบนค่ายกลเคลื่อนย้ายรับตัว เห็นได้ชัดว่าสมควรถูกกำจัดออกมาจากแดนสวรรค์ใต้โบราณเช่นกัน
“อันใด พวกเจ้าสองคนก็ถูกกำจัดออกมาด้วยหรือ? มิใช่ว่าก่อนหน้า คนของคฤหาสน์อู่จ้านเราในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลางเหลือแค่ 12 คนแล้วหรือไร?”
ภายในเวลาไม่ถึง 1 เค่อ อยู่ๆคนของคฤหาสน์อู่จ้านในแดนสวรรค์ใต้โบราณก็ถูกบีบให้ออกมาถึง 4 คน สถานการณ์เช่นนี้นับว่ายากนักที่จะเกิดขึ้นในคฤหาสน์อู่จ้าน
“พวกเจ้าสองคน…คงมิได้ถูกคนที่จัดการเหิงเฟิงกับหลิวเสี่ยวโจวบีบให้ถอยออกมาเหมือนกันหรอกนะ?”
อาวุโสคฤหาสน์อู่จ้านคนเดิมหันไปเอ่ยถามร่างทั้ง 2 ที่พึ่งก้าวออกมาจากค่ายกล
นั่นเพราะช่วงเวลาที่ทั้ง 4 คนถูกบีบให้ออกมามันไล่เลี่ยกันเกินไป!
จึงไม่น่าจะเป็นเรื่องบังเอิญไปได้
“ก็…ใช่”
ภายใต้ทุกสายตาที่มองจ้องมาเขม็งจนแลดูน่ากลัวอยู่บ้าง ศิษย์คฤหาสน์อู่จ้านทั้ง 2 ที่พึ่งเดินลงมาจากค่ายกลเคลื่อนย้ายรับตัวก็ได้แต่พยักหน้าอย่างซึมๆ หนึ่งในนั้นก็กล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้มแหยๆว่า…
“อันที่จริงนอกจากพวกเราแล้วยังมีอีก 7 คนที่ถูกบีบให้ถอยออกมา…แต่เท่าที่เห็นดูเหมือนพวกมันจะใช้ค่ายกลเคลื่อนย้ายของตำหนักอื่น ก็เลยไม่ถูกส่งกลับมาที่นี่”
พอเสียงของศิษย์คนนี้ดังออกมา ทุกคนโดยรอบก็พร้อมใจกันเงียบกริบ…
อีก 7 คนก็ถูกกำจัดแล้วหรือ?
เช่นนั้นกล่าวได้ว่า ในเวลาไม่ถึงเค่อ 11 คนของคฤหาสน์อู่จ้านรวมเหิงเฟิงกับหลิวเสี่ยวโจวแล้ว ทั้งหมดถูกกำจัดออกมาแทบจะพร้อมๆกัน?
ยิ่งไปกว่านั้นนี่ยังเป็นเพราะฝีมือของคนๆเดียว!?
“ไอ้หยา หลังจัดการพวกเราได้ เจ้านั่นมันก็พุ่งขึ้นมาติด 50 อันดับแรกแล้ว!”
หลิวเสี่ยวโจวที่มองสำรวจวไปยยังตารางจัดอันดับไกลๆ อดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา จากนั้นก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ พอนึกย้อนถึงเรื่องราวเมื่อครู่ก็ได้แต่คลี่ยิ้มแหยๆออกมาปลอบใจตัวเอง
ได้ยินคำอุทานดังกล่าวของหลิวเสี่ยวโจว เหล่าศิษย์และอาวุโสของคฤหาสน์อู่จ้านก็หันไปมองม่านแสงตารางอันดับทันที
มองไปปราดหนึ่งก็พบชื่อไม่คุ้นอยู่ในอันดับที่ 45
คนที่ติดอยู่ใน 50 อันดับแรกนั้น มีชื่อเสียงไม่น้อย ทั้งหมดจึงคุ้นเคยดี พอมีชื่อไม่คุ้นโผล่มาจึงล่วงรู้ได้แทบจะทันที
เป็นธรรมดาว่าพวกมันก็เคยเห็นชื่อนี้มาก่อน
“ชื่อนี้ไม่ใช่ว่าก่อนหน้ามันพึ่งจะมีแค่ 19 คะแนนและอยู่ในอันดับที่ 52 หรือไร…ศิษย์คฤหาสน์เฉวียนโยวคนนี้เป็นใครกันแน่ ไฉนพวกเราถึงไม่คุ้นชื่อมันเลยเล่า?”
ศิษย์คฤหาสน์อู่จ้านคนนึงกล่าวพึมพำออกมาด้วยความสงสัย
“นั่นสิ ข้าเองก็ไม่คุ้นชื่อมันเลย กล่าวไปเหมือนจะพึ่งเห็นชื่อมันโผล่มาเมื่อไม่กี่วันก่อนด้วยซ้ำ”
“ต้วนหลิงเทียน…คฤหาสน์เฉวียนโยวมีศิษย์ชื่อนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“หรือว่ามันจะเป็นไพ่ตายที่คฤหาสน์เฉวียนโยวซุกซ่อนเอาไว้?”
…
ตอนนี้คนของคฤหาสน์อู่จ้านพลันตระหนักได้ว่า…
สมควรเป็นศิษย์คฤหาสน์เฉวียนโยวผู้นี้ที่เอาชนะเหิงเฟิง และบีบให้พวกหลิวเสี่ยวโจวต้องถอนตัวออกมา…
แต่คนที่สามารถทำลายการป้องกันของเหิงเฟิงได้นี่มันหมายความว่าอะไร?
ย่อมหมายความว่า…
ศิษย์คฤหาสน์เฉวียนโยวผู้นี้ มีศักยภาพมากพอจะติด 30 อันดับแรก!
“เจ้า…ตกลงพวกเจ้าถูกคนๆเดียวจัดการมาจริงๆ?!”
อาวุโสของคฤาหสน์อู่จ้านคนเดิมได้แต่ถามย้ำหลิวเสี่ยวโจวด้วยความไม่อยากจะเชื่อออกมาอีกครั้ง
เดิมทีมันคิดว่าระดับเหิงเฟิง ผู้ที่จะจัดการให้ถอนตัวออกมาได้สมควรมีแค่ เหลิ่งอวิ๋นโหยวของคฤหาสน์ชิงหลิง กับหลิวจี๋ของคฤหาสน์หานชิงเสียอีก เพราะมีแต่ทั้งคู่ที่มีพลังฝีมือสูงมากพอจะทำเรื่องแบบนั้น
อย่างไรก็ตาม เหิงเฟิงกลับบอกว่าไม่ใช่
มาตอนนี้พอหลิวเสี่ยวโจวกับอีก 2 คนถูกขับออกมา และกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าคนที่ทำให้พวกมันต้องถอนตัวออกมาก็คือคนที่เอาชนะเหิงเฟิงได้ และยังเป็นศิษย์คฤหาสน์เฉวียนโยวที่ไม่มีใครรู้จักอีก!
เรื่องนี้ทำให้มันรู้สึกยากจะเชื่อได้ลงคอนัก!
“พวกเราไม่เคยได้ยินชื่อมันมาก่อนเลยก็ไม่แปลกหรอก…เจ้านั่นมันบอกข้าว่ามันพึ่งจะเข้าร่วมคฤหาสน์เฉวียนโยวได้ไม่กี่วันเท่านั้นเอง นอกจากนั้นป้ายประจำตัวที่มันห้อยแขวนไว้ ยังเป็นป้ายศิษย์ฝ่ายนอกของคฤหาสน์เฉวียนโยวอยู่เลย…”
หลิวเสี่ยวโจวเห็นทุกคนอื้ออึง ก็ได้แต่กล่าวอธิบายออกมาเพื่อแถลงไข “อย่างไรก็ตาม ข้าเดาว่า…เจ้านั่นสมควรเป็นคนนอกที่คฤหาสน์เฉวียนโยวหามาช่วยเป็นแน่!”
“ยิ่งไปกว่านั้น ข้าเกรงว่าคนนอกผู้นี้อาจมีความเป็นมาไม่ธรรมดาถึงที่สุด!”
กล่าวถึงท้ายประโยค สองตาหลิวเสี่ยวโจวก็ทอประกายสว่างจ้าขึ้น
เพราะในตอนที่มันบดทำลายป้ายหยกสะสมคะแนนของตัวเอง มันก็แผ่สำนึกเทวะออกไปตรวจสอบต้วนหลิงเทียนศิษ์ฝ่ายนอกคฤหาสน์เฉวียนโยวผู้นั้นอย่างหาญกล้า จึงได้ค้นพบเรื่องอัศจรรย์ยากจะเชื่อได้ลงคอประการหนึ่ง
ต้วนหลิงเทียนผู้นั้น…ยังมีอายุไม่ถึงร้อยปี!
อายุไม่ถึง 100 ปี แต่เอาชนะเหิงเฟิงที่เข้าใจความลึกซึ้งของกฏแห่งดิน 7 ประการได้…
นี่จะให้คิดอย่างไร?
หลิวเสี่ยวโจวตระหนักได้ชัดเจน….
หากไม่ได้ตรวจสอบอายุของชายหนุ่มผู้นั้นด้วยตัวเอง คงไม่มีใครเชื่อแน่ๆว่าคนๆนั้นยังมีอายุไม่ถึงร้อยปี!
ต่อให้เป็นตัวมันเองถ้าไม่ใช่ว่าได้ตรวจสอบมากับตัว ให้มีคนมาบอกมันว่าชายหนุ่มคนนั้นอายุไม่ถึงร้อยปี หัวเด็ดตีนขาดมันก็ไม่เชื่อเช่นกัน!
ดังนั้นต่อให้มันจะรู้ความจริงอันน่าตื่นตระหนกนี้ มันก็ไม่คิดจะพูดออกมาสักคำ
เว้นแต่จะมีคนอื่นตระหนักถึงเรื่องนี้แล้วกล่าวออกมา มันถึงจะยืนยันด้วยอีกเสียง หาไม่แล้วถึงพูดไปก็ไม่มีใครเชื่อ เปลืองน้ำลายเปล่าๆ
“พึ่งเข้าร่วมคฤหาสน์เฉวียนโยวได้ไม่กี่วัน? ศิษย์ฝ่ายนอก?”
ได้ยินคำพูดของหลิวเสี่ยวโจว เหล่าศิษย์และผู้อาวุโสของคฤหาสน์อู่จ้าน ก็พอจะเข้าใจเรื่องราวได้
“เหิงเฟิง แล้วเจ้านั่นมันเข้าใจกฏอันใด…ลองมันทำลายการป้องกันของเจ้าได้แบบนี้ อย่างน้อยๆก็สมควรเข้าใจกฏที่ทรงพลังในเรื่องการจู่โจมใช่หรือไม่?”
อาวุโสคฤหาสน์อู่จ้าน มองถามเหิงเฟิง ในส่วนลึกของแววตายังฉายชัดถึงความอยากรู้ “นอกจากนั้นเจ้านั่นมันสมควรเข้าใจความลึกซึ้งของกฏที่ว่าได้ถึง 7 ประการแล้วใช่หรือไม่?”
พอวาจาถามไถ่ประโยคนี้ของอาวุโสคฤหาสน์อู่จ้านดังออกมา ทุกคนนอกจากพวกหลิวเสี่ยวโจวก็หันขวับไปจับจ้องเหิงเฟิงเป็นสายตาเดียวกัน
แม้หลิวเสี่ยวโจวเองก็รู้ว่าคนๆนั้นใช้กฏแห่งมิติ แต่มันเองก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายใช้ความลึกซึ้งอะไรบ้าง ด้วยไม่สันทัดเรื่องกฏมิติสักเท่าไหร่
และในเมื่อมันไม่สันทัดเรื่องกฏมิติ แถมไม่ได้ปะทะกับอีกฝ่ายด้วยตัวเอง เช่นนั้นมันเองก็ไม่รู้เลยว่าตอนอีกฝ่ายเล่นงานเหิงเฟิงได้ใช้ความลึกซึ้งอะไรออกมาบ้าง
“ข้าไม่มั่นใจว่าที่แท้มันเข้าใจความลึกซึ้งทั้งสิ้นกี่ประการ…แต่ที่รู้ๆก็คือ มันใช้ความลึกซึ้ง 7 ประการเอาชนะข้ามา…”
เหิงเฟิงกล่าว
ศิษย์ฝ่ายนอกคฤหาสน์เฉวียนโยวนามต้วนหลิงเทียนผู้นั้น ตอนประมือกับมันช่วงแรกอีกฝ่ายเผยความลึกซึ้งของกฏมิติออกมาแค่ 6 ประการเท่านั้น
อย่างไรก็ตามในขณะที่อีกฝ่ายใช้ความลึกซึ้งผ่ามิติ ทำให้มันตกอยู่นห้วงแห่งความเป็นตายจนตระหนักรู้ถึงความลึกซึ้งเกราะถึงขั้นตอนความสำเร็จเบื้องต้น และทำให้มันหลงคิดไปว่าต้องสามารถป้องกันการโจมตีของอีกฝ่าได้แล้วแน่ๆ
แต่ใครจะไปรู้ว่าในช่วงเวลาเสี้ยวพริบตานั่น อีกฝ่ายกลับใช้ออกด้วยความลึกซึ้งส่งผ่าน ทำให้กระบี่มิตินั่นวูบผ่านความลึกซึ้งเกราะของมันมาหน้าตาเฉย!
ด้วยเหตุนี้ความลึกซึ้งเกราะที่มันใช้ออกก็ถูกเพิกเฉยโดยสมบูรณ์ เสมือนสูญเปล่าไม่เกิดประโยชน์อันใด
“เจ้านั่นมันใช้ความลึกซึ้งของกฏได้ถึง 7 ประการเชียวหรือ…เช่นนั้นนับว่าเจ้ามิได้พ่ายแพ้อย่างไม่เป็นธรรมแล้ว ในบรรดาผู้ที่เข้าใจกฏที่มีการโจมตีโดดเด่นอย่าง ไฟ ทอง ลม สายฟ้า และกฏทำลายล้าง ตราบใดที่ความลึกซึ้งที่เข้าใจเสริมการโจมตีเป็นหลักมากหน่อย ก็ย่อมฝ่าการป้องกันของเจ้าได้เป็นธรรมดา…”
อาวุโสของคฤหาสน์อู่จ้านคนนี้ ด้วยความที่มันรู้พลังฝีมือของเหิงเฟิงดี เช่นนั้นจึงตัดสินไปทำนองดังกล่าว
“อาวุโสอวิ๋น ข้าเกรงว่าท่านคงไม่รู้…ตอนที่การป้องกันของศิษย์พี่เหิงเฟิงถูกทำลาย ศิษย์พี่เหิงเฟิงได้เข้าใจความลึกซึ้งเกราะถึงขั้นตอนความสำเร็จเบื้องต้นแล้ว…”
เหิงเฟิงไม่ทันได้กล่าวอะไร หลิวเสี่ยวโจวก็เอ่ยออกมาเสียก่อน
“อะไร!?”
วาจาที่ดังขึ้นมาอย่างกะทันหันดังกล่าวของหลิวเสี่ยวโจว นับว่าทำให้อาวุโสอวิ๋นตกตะลึงแล้วจริงๆ “เหิงเฟิงเข้าใจความลึกซึ้งเกราะถึงขั้นตอนความสำเร็จเบื้องต้นแล้วรึ!?”
เท่าที่มันรู้มา เหิงเฟิงนั้นเข้าใจความลึกซึ้งของกฏแห่งดินถึงขั้นตอนความสำเร็จเบื้องต้นแค่ 6 ประการเท่านั้น ส่วนประการที่ 7 อย่างความลึกซึ้งเกราะ ยังพึ่งเข้าใจได้บางส่วน…
ทว่าฟังจากคำพูดของหลิวเสี่ยวโจวเมื่อครู่ หมายความว่าเหิงเฟิงเข้าใจความลึกซึ้งเกราะถึงขั้นตอนความสำเร็จเบื้องต้นแล้ว?!
“เหิงเฟิง…”
ทันใดนั้นอาวุโสอวิ๋นก็หันไปมองเหิงเฟิงทันที ด้วยอยากได้ยินคำยืนยันจากปากของเหิงเฟิง
“ใช่”
เหิงเฟิงพยักหน้า “เรื่องนี้กล่าวไปแล้วข้าก็ต้องขอบคุณเจ้านั่นจริงๆ…เพราะตอนสู้กับมัน ข้าที่จนตรอกและอยู่ในห้วงแห่งความเป็นตาย พลันตระหนักรู้ความลึกซึ้งเกราะขึ้นมา ทำให้ข้าเข้าใจได้สมบูรณ์…”
“พอมันเห็นข้าเข้าใจความลึกซึ้งเกราะได้สมบูรณ์แล้ว มันจึงใช้ออกด้วยความลึกซึ้งประการที่ 7 ที่ไม่เคยใช้มาก่อนออกมา…หาไม่แล้วเกรงว่าอาศัยแค่ความลึกซึ้ง 6 ประการของมันก็คงเอาชนะข้าได้แล้ว”
เมื่อคิดถึงการโจมตีอันทรงพลังน่ากลัวนั่นของต้วนหลิงเทียน เหิงเฟิงยังรู้สึกหวาดกลัวไม่หาย
“เจ้าหมายความว่า…ตอนที่มันใช้ความลึกซึ้งแค่ 6 ประการ ก็สามารถเอาชนะเจ้าที่ยังไม่ทันเข้าใจความลึกซึ้งเกราะถึงขั้นตอนความสำเร็จเบื้องต้นได้แล้ว? แต่พอเจ้าเข้าใจความลึกซึ้งเกราะโดยยสมบูรณ์ เจ้านั่นก็ใช้ความลึกซึ้งประการที่ 7 ออกมา จนสามารถทำลายการป้องกันของเจ้าลงได้?”
ลูกตาของผู้อาวุโสอวิ๋นหดเล็กลงอย่างแรง ขณะเดียวกันมันก็ได้แต่สูดลมหายใจเข้าด้วยความหนาวเหน็บอีกรอบ
อาวุโสคฤหาสน์อู่จ้านคนอื่นๆไม่เว้นเหล่าศิษย์ที่ยืนฟังเรื่องราวกันอยู่ และรู้พลังฝีมือของเหิงเฟิงดี ก็อดไม่ได้ที่จะสูดหายใจเข้าดังฟืดเช่นกัน
“หรือกฏที่เจ้านั่นเข้าใจ…จักเป็นกฏสูงสุด?”
ตอนนี้เองอาวุโสคฤหาสน์อู่จ้านอีกคนที่เงียบฟังมาโดยตลอด พลันเอ่ยถามออกมา
เพราะในสายตาของมัน ต่อให้เป็นผู้ที่ใช้กฏแห่งลม ทอง สายฟ้า ไฟ และทำลายล้าง ต่อให้เข้าใจความลึกซึ้งที่หนุนเสริมการโจมตีเป็นหลักทั้งหมด…และเข้าใจความลึกซึ้งถึง 7 ประการจริง แต่ก็ไม่น่าจะทำอะไรเหิงเฟิงที่เข้าใจกฏแห่งดิน 7 ประการได้เลย!!
เพราะต้องทราบด้วยว่าในบรรดาความลึกซึ้งของกฏแห่งดินที่เหิงเฟิงเข้าใจ มันมีความลึกซึ้งที่เอกอุเรื่องการป้องกันถึง 2 ประการ!
นอกจากนั้นต้องทราบด้วยว่าในบรรดาความลึกซึ้งของกฏแห่งดินที่เหลือ เหิงเฟิงยังเข้าใจความลึกซึ้งกายาศิลา ที่สามารถหนุนเสริมพลังป้องกันได้อีกด้วย! ยังไม่ต้องกล่าวถึงความลึกซึ้งฟื้นฟูที่จะคอยฟื้นฟูปราการป้องกันของเหิงเฟิงให้เสมือนตกอยู่ในสภาพขุนเขาไร้ทลายด้วยซ้ำ…
ดังนั้นมันจึงคาดเดาออกมาอย่างอุกอาจ
ว่าบางทีกฏที่คนผู้นั้นเข้าใจ อาจจะเป็น 1 ใน 4 กฏสูงสุด!