WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 3147
WSSTH ตอนที่ 3,147 : ประมืออีกครา
ตอนที่ต้วนหลิงเทียนเหาะมาใกล้ถึงร่างเหิงเฟิง ด้านเหิงเฟิงก็เลือกที่จะเร่งเร้าพลังเตรียมการรับมือต้วนหลิงเทียนเอาไว้แต่แรก! ไม่เพียงแต่ใช้ออกด้วยความลึกซึ้งกายาศิลา ยังใช้ความลึกซึ้งปราการผลึก รวมถึงความลึกซึ้งเกราะของกฏแห่งดินออกมาพร้อมสรรพ!!
อีกทั้งรอบนี้ดูเหมือนมันจะได้เรียนรู้จากความผิดพลาดครั้งก่อนมาเป็นอย่างดี…
ความลึกซึ้งเกราะ ที่มีรูปลักษณ์เป็นแผ่นๆคล้ายยันต์อมตะ หาได้หมุนวนรอบกายห่างตัวอีกต่อไป แต่เลือกที่จะผสานเข้ากับความลึกซึ้งปราการผลึกที่ปรากฏบนเกราะศิลาสวมร่าง จนปราการผลึกแลดูแข็งแกร่งขึ้นผิดหูผิดตา
ขณะเดียวกันพลังเซียนอมตะที่ผสานไว้ด้วพลังธาตุดินก็โคจรพร้อมปะทุใช้งานตลอดเวลา เรียกว่าสามารถใช้ความลึกซึ้งของกฏแห่งดินอีก 3 ประการออกได้ทุกเมื่อ…
นอกจากความหมายแห่งดิน ความลึกซึ้งกายาศิลา ความลึกซึ้งปราการผลึก และความลึกซึ้งเกราะแล้วเหิงเฟิงยังเข้าใจความลึกซึ้ง พื้นที่โน้มถ่วง ความลึกซึ่งสั่นสะเทือน รวมถึงความลึกซึ้งฟื้นฟูของกฏแห่งดินอีกด้วย
“ต้วนหลิงเทียน ข้าไม่คิดเลยจริงๆว่าข้าจะโชคร้ายแบบนี้ ข้าพึ่งเข้ามาในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลางได้แค่ 3 วันเข้ากลับต้องมาพบเจอกับเจ้าอีกครั้ง…ว่าแต่นี่เจ้าเข้ามานานแค่ไหนแล้วเล่า?”
เหิงเฟิงมองถามต้วนหลิงเทียนที่อยู่ไม่ไกลด้วยรอยยิ้มแหยๆ
“ข้าพึ่งเข้ามาเลย…เรียกว่าก่อนหน้าพี่เหิงเฟิงกับแม่นางผู้นั้น ข้ายังไม่เจอใครอื่น”
ต้วนหลิงเทียนยักไหล่ตอบ
“พึ่งเข้ามา? แถมยังไม่เจอผู้ใดเลย?”
ได้ยินคำตอบของต้วนหลิงเทียน เหิงเฟิงรู้สึกหายใจไม่ออกอย่างไรไม่ทราบ…
เดือนที่แล้วมันพึ่งเข้ามาได้ไม่ทันไร มันก็พบเจอกับต้วนหลิงเทียนเป็นคนแรก
ส่วนเดือนนี้ต้วนหลิงเทียนพึ่งเข้ามาได้ไม่ทันไร ก็พบเจอมันเป็นคนแรก…
ดวงมันนรกอะไร?
ด้านต้วนหลิงเทียนตอนนี้ ยังแลดูสบายๆคล้ายไม่ยี่หระกับการปร้องกันที่เหิงเฟิงเตรียมไว้พร้อมสรรพแม้แต่น้อย “พี่ชายเหิงเฟิง สตรีที่พาท่านหนีมาเร็วไวเมื่อครู่…สมควรเป็นแม่นาง หว่านชิงชิง ของคฤหาสน์อู่จ้านท่านใช่หรือไม่?”
ต้วนหลิงเทียนจำชื่อ หว่านชิงชิงได้
ยังจำได้แม่นอีกด้วย เพราะชื่อดังกล่าวติด 1 ใน 30 อันดับแรกของเมื่อเดือนก่อน
ที่สำคัญชื่อหว่านชิงชิง เมื่อเดือนก่อนยังได้อันดับที่ 17
“ใช่”
เหิงเฟิงพยักหน้า ค่อยกล่าวออกเสียงเย็น “อย่างไรก็ตามข้าแนะนำให้เจ้าล้มเลิกความคิดเรื่องจัดการศิษย์น้องชิงชิงไปเสียประเสริฐกว่า…เพราะความเร็วของศิษย์น้องชิงชิงข้า ไม่เป็นสองรองใครในบรรดาขุนนาอมตะ 10 ทิศทั้งหมดในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลางแห่งนี้แน่นอน…ในแง่ความเร็วแล้ว มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เทียบนางได้!”
“เจ้าเองก็ตามนางไม่ทันแน่นอน”
ฟังจากคำพูดของเหิงเฟิงแล้ว เห็นได้ชัดว่ามันมั่นใจในความเร็วของหว่านชิงชิงมาก
และหลังจากได้เห็นความเร็วของหว่านชิงชิงมากับตา ต้วนหลิงเทียนก็รู้ดีว่าที่เหิงเฟิงพูดมาเป็นความจริง! ตราบใดที่หว่านชิงชิงไม่เปิดช่องโหว่ให้เขา ขอเพียงหว่านชิงชิงคิดหลบหนี เขาก็ไล่นางไม่ทัน!!
“หากข้าเดาไม่ผิด เดือนนี้พี่ชายเหิงเฟิงคิดชวนนางมาร่วมมือและแบ่งแต้มกัน แต่ท่านยังไม่ได้เริ่มแบ่งแต้มให้นางสินะ?”
ต้วนหลิงเทียนหยีตามองเหิงเฟิงเขม็ง พลางเอ่ยถามเสียยงเข้ม “พี่ชายเหิงเฟิง…ท่านไม่รู้สึกผิดกับนางบ้างหรือ?”
คำพูดดังกล่าวของต้วนหลิงเทียน ไม่ต่างอะไรจากแหลนที่พุ่งแทงเข้ากลางใจของเหิงเฟิงแม้แต่น้อย ทำให้สีหน้าเหิงเฟิงกลับกลายเป็นปั้นยากทันที
มันยังไม่รู้สึกผิดได้หรือ?
หากไม่มีความช่วยเหลือของหว่านชิงชิง อาศัยมันคนเดียวไหนเลยจะได้รับคะแนนสะสมมากมายแบบนี้ในเวลาแค่ 3 วัน?
และพอถึงตอนที่มันจะเป็นฝ่ายปล่อยให้หว่านชิงชิงได้คะแนน ต้วนหลิงเทียนกลับปรากฏตัววออกมาเสียก่อน…
“หึ!”
เหิงเฟิงพ่นลมสบถออกมาเสียงเย็น “รอให้ข้าจัดการเจ้าได้ก่อน! ถึงตอนนั้นข้าค่อยร่วมมือกับศิษย์น้องชิงชิงเพื่อเก็บคะแนนสะสมให้นางก็ยังไม่สาย!!”
“อ้อ ดูเหมือนนางจะยังไม่ได้ไปไหนไกลสินะ…”
ต้วนหลิงเทียนหยีตาลง กล่าวออกด้วยรอยยิ้มบางๆ
อันที่จริงเรื่องนี้เขาก็เดาได้แต่แรก หาไม่แล้วก่อนหน้าเขาคงไม่ทำแค่ยืนมองหว่านชิงชิงจากไปแต่แรก ทั้งๆที่ยังไม่ได้ยื่นข้อเสนอให้หว่านชิงชิงหรอก
เขารู้…ว่าด้วยความเร็วของหว่านชิงชิง นางต้องอยู่ไม่ไกลจากที่นี่เพื่อคอยติดตามสถานการณ์แน่นอน
อย่างน้อยๆหว่านชิงชิก็ไม่น่าจะจากไปก่อนที่จะยืนยันได้ว่าเหิงเฟิงถูกกำจัดแล้วจริงๆ
เพราะด้วยความเร็วของหว่านชิงชิง ตราบใดที่นางระวังป้องกันและเตรียมตัวไว้แต่แรก นางก็ไม่ต้องกังวลเรื่องที่จะถูกเขาจัดการ
“หากนางยังไปไม่ไกลแล้วจักอย่างไร หรือเจ้าคิดว่าสามารถตามนางได้ทัน?”
เหิงเฟิงกล่าวเย้ย
“พี่ชายเหิงเฟิง รอบนี้ท่านจะทำลายป้ายหยกสะสมคะแนนด้วยตัวเอง หรือจะให้ข้าช่วยทุบทำลายให้ท่านเล่า…”
ต้วนหลิงเทียนเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม น้ำเสียงยังฟังดูเป็นกันเองราวสนทนับสหายเก่า
“เพ่ย! ได้ทีเอาใหญ่เลยนะเจ้า! ครั้งก่อนแม้ข้าจะแพ้เจ้าก็จริง แต่เพราะข้าไม่รู้มาก่อนว่าเจ้าเข้าใจความลึกซึ้งส่งผ่านของกฏมิติด้วย…!”
“อย่างไรก็ตาม จนถึงตอนนี้ข้าก็ยังไม่อาจยืนยันได้…ว่าความลึกซึ้งส่งผ่านที่เจ้าใช้วันนั้น ที่แท้เจ้าเข้าใจมันถึงขั้นตอนความลึกซึ้งเบื้องต้นแล้ว หรือยังพึ่งเข้าใจได้บางส่วนเท่านั้น”
เหิงเฟิงกล่าวถึงจุดนี้ น้ำเสียงก็เริ่มหนักขึ้น “หากเข้าใจมันถึงขั้นตอนเบื้องต้นแล้ว ต่อให้ข้าจักผสานความลึกซึ้งเกราะกับความลึกซึ้งปราการผลึก ด้วยความลึกซึ้งส่งผ่านขั้นตอนความสำเร็จเบื้องต้น เจ้าก็สามารถเพิกเฉยการป้องกันทั้งหมดของข้าและเล่นงานข้าได้โดยตรงอยู่ดี…แต่ถ้ายังไม่ เจ้าก็ยังไม่อาจเพิกเฉยความลึกซึ้งเกราะของข้าได้!”
ความลึกซึ้งส่งผ่าน การบรรลุขั้นตอนความสำเร็จเบื้องต้นกับยังไม่บรรลุนั้น พลังของมันนับว่าแตกต่างกันคนละเรื่อง!
เหิงเฟิงไปศึกษาเรื่องนี้อยู่หลายวัน จนเข้าใจพลังอำนาจของมันได้กระจ่างชัด
ด้วยเหตุนี้มันจึงคิดวัดดวงดูสักครา…
วัดดวงว่า ที่แท้ต้วนหลิงเทียนเข้าใจความลึกซึ้งส่งผ่านถึงขั้นตอนความสำเร็จเบื้องต้นแล้วหรือไม่!
“นับว่าเป็นข้าดูเบาผู้ที่เคยติดอยู่ใน 50 อันดับแรกเช่นท่านเกินไปจริงๆ…ไม่นึกเลยว่าที่แท้ท่านจะช่างสังเกตขนาดนี้”
ได้ยินคำพูดของเหิงเฟิง ต้วนหลิงเทียนประหลาดใจไม่น้อยเลยทีเดียว จากนั้นค่อยกล่าวออกเสียงเรียบว่า “อย่างไรก็ตาม ที่ท่านกล่าวนับว่าไม่ผิด…ข้าพึ่งเข้าใจความลึกซึ้งส่งผ่านได้บางส่วนเท่านั้น…”
“ตอนนี้ในเมื่อท่านผสานความลึกซึ้งเกราะเข้ากับความลึกซึ้งปราการผลึก ข้าจึงไม่อาจใช้ความลึกซึ้งส่งผ่าน เพื่อส่งคมมีดมิติหรือการโจมตีใดๆผ่านปราการป้องกันที่เกิดจากความลึกซึ้งเกราะผสานความลึกซึ้งปราการผลึกของท่านได้เลย”
ฟังจากคำพูดของต้วนหลิงเทียนแล้ว เขานับว่าบอกออกไปตรงๆอย่างไม่คิดจะปิดบังแม้แต่น้อย ว่ายังพึ่งเข้าใจความลึกซึ้งส่งผ่านได้แค่บางส่วนเท่านั้น
“โฮ่? เช่นนั้นหมายความว่า…เจ้าไม่มีทางทำลายการป้องกันของข้าได้!!”
สองตาเหิงเฟิงทอประกายวับวาว มุมปากยังยกยิ้มขึ้นมาด้วยความมั่นใจ
“ศิษย์น้องชิงชิง เจ้ากลับมาเถอะ”
พร้อมกันนั้นเอง เหิงเฟิงก็หันไปมองฟ้าทิศทางหนึ่ง จากนั้นก็กล่าวผสานพลังเซียนอมตะต้นกำเนิด ทำให้เสียงพูดของมันพุ่งผ่านระยะไกลห่างในพริบตา
ฟุ่บบ!!
ครู่ต่อมา ต้วนหลิงเทียนก็สังเกตเห็นประกายแสงสีเขียววูบมาด้วยความเร็วสูง ไม่นานร่างดังกล่าวก็หยุดลงไกลห่าง สองตาจับจ้องมองเขาเขม็ง
ต้วนหลิงเทียนก็มองสบตาอีกฝ่าย
นับเป็นครั้งแรกเลยที่ต้วนหลิงเทียนได้มองศิษย์สตรีของคฤหาสน์อู่จ้านนางนี้ให้ชัดถนัดตา เส้นผมสีดำขลับของนางทอดยาวลงมาปานม่านน้ำตก รูปร่างอ้อนแอ้นอรชร ใบหน้ากระจ่างแลดูงดงามทั้งจิ้มลิ้มไม่น้อย แต่ยังไม่อาจสู้กับภรรยาทั้ง 2 รวมถึงสตรีในใจเขาได้…
ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนมองสำรวจอีกฝ่าย อีกฝ่ายก็มองสำรวจเขาเช่นกัน
เรียกว่าต่างคนต่างมองจ้องกัน จนเวลาเสมือนหยุดเดิน
จนในที่สุดเหิงเฟิงก็กล่าวออกมาเสียงเข้ม
“ศิษย์น้องชิงชิง เจ้ารักษาระยะและเตรียมพร้อมลงมือสนับสนุนข้าด้วย…หากต้วนหลิงเทียนผู้นี้ไม่อาจทำลายการป้องกันของข้าได้จริง ถึงตอนนั้นข้ากับเจ้าพวกเราจักร่วมมือกันกำจัดมัน!”
เหิงเฟิงกล่าวกับหว่านชิงชิง ทั้งที่สองตายังมองจ้องต้วนหลิงเทียนเขม็ง น้ำเสียงของมันฟังแล้วตื่นเต้นฮึกเหิมไม่น้อย แต่ก็ช่วยไม่ได้ เพราะนี่นับเป็นโอกาสที่มันจะใช้ล้างความอัปยศที่แพ้พ่ายเมื่อครั้งก่อน!
“แน่นอนว่าข้าไม่มั่นใจว่าต้วนหลิงเทียนผู้นี้ใช่ซุกซ่อนพลังฝีมืออันใดไว้หรือไม่…หากมันยังซุกซ่อนพลังฝีมืออยู่จริงๆ และสามารถทำลายการป้องกันของข้าได้ เช่นนั้นศิษย์น้องชิงชิงก็รีบหนีไปเสีย!”
เหิงเฟิงกล่าวสืบต่อเสียงหนัก “และครั้งนี้ถือเสียว่าข้าติดหนี้เจ้า…วันหน้าข้าต้องชดใช้ให้เจ้าแน่!”
“ได้”
หว่านชิงชิงที่หยุดลอยร่างกลางอากาศห่างพอสมควร เอ่ยตอบเสียงเรียบ
“ศิษย์พี่หญิงหว่าน…หากข้าไม่สามารถทำลายการป้องกันของพี่ชายเหิงเฟิงได้ เชิญท่านร่วมมือกับเขากำจัดข้าได้เลย…แต่ถ้าข้าสามารถทำลายการป้องกันของพี่ชายเหิงเฟิงได้ ท่านอย่าได้รีบร้อนจากไป แล้วมาสนทนาเรื่องร่วมมือกับข้าสักครู่ได้หรือไม่?”
พอเสียงกล่าวนัดแนะของเหิงเฟิงดังจบคำ ต้วนหลิงเทียนก็กล่าวแทรกออกมาด้วยน้ำเสียงสบายๆพร้อมรอยยิ้มเป็นกันเอง “ข้ารับปากท่านตรงนี้เลย…ว่าหากศิษย์พี่หญิงหว่านยินดีร่วมมือ ข้าจะพยายามช่วยให้ท่านติด 10 อันดับแรกเท่าที่ข้าจะทำได้เป็นอย่างไร?”
ทั้งเหิงเฟิงร่วมถึงหว่านชิงชิงไม่คิดไม่ฝันเลยจริงๆ ว่าจู่ๆต้วนหลิงเทียนจะยื่นข้อเสนอเพื่อร่วมมืออะไรแบบนี้ออกมา
“ฮึ่ม! ต้วนหลิงเทียน เจ้าคิดใช้คำอ้างเช่นนี้เพื่อเข้าใกล้ศิษย์น้องชิงชิงแล้วลงมือจัดการนางงั้นสินะ!? เจ้าคิดง่ายเกินไปแล้ว!!”
เหิงเฟิงโพล่งกล่าวออกมาด้วยแววตาทำราวกับอ่านใจต้วนหลิงเทียนได้หมด…
“พี่ชายเหิงเฟิง ข้าถามท่านสักคำว่าตอนนี้ศิษย์พี่หญิงหว่านมีคะแนนสะสมเท่าไหร่…ข้ายังต้องยกอ้างเรื่องเสนอความร่วมมือกับนางเพื่อหลอกจัดการนางด้วยหรือ? ท่านคิดว่าข้าจำเป็นต้องทำอะไรแบบนั้นด้วย?”
ต้วนหลิงเทียนเหลือบมองเหิงเฟิงผ่าน กล่าวออกเสียงเรียบ “หากท่านเป็นข้า…ท่านยังเลือกจะจัดการนางหรือไม่?”
คำถามของต้วนหลิงเทียน ก็ทำให้เหิงเฟิงพูดไม่ออกทันที
เนื่องจากตอนนี้หว่านชิงชิงมีคะแนนสะสมแค่แต้มเดียว ต่อให้จะใช้เรื่องร่วมมือเพื่อหลอกลวงนางมาจัดการ สุดท้ายก็ได้แค่ 1 แต้มไม่ใช่หรือไร? แม้การสงครามไม่หน่ายอุบาย แต่บุรุษหลอกฆ่าสตรียังไม่น่าละอายหรือไร?
“เช่นนั้นพวกเราก็ร่วมมือกัน 3 คนไปสิ”
ทันใดนั้นเสียงเย็นชาของหว่านชิงชิงก็ดังมาแต่ไกล
“ขออภัยด้วยศิษย์พี่หญิงหว่าน…แต่ในสายตาข้า พี่ชายเหิงเฟิงค่อนข้างไร้ประโยชน์”
ต้วนหลิงเทียนมองกล่าวกับหว่านชิงชิง แม้เสียงกล่าวจะฟังดูสุภาพลื่นหู แต่ช่างบาดใจเหิงเหิงนัก
“หากเจ้าจัดการศิษย์พี่เหิง เช่นนั้นข้าก็ไม่คิดร่วมมือกับเจ้า!”
หว่านชิงชิงกล่าวโต้กลับเสียงเย็น
“ไม่ว่าท่านจะร่วมมือกับข้าก็ดี หรือไม่ร่วมมือก็ช่าง ข้ายังคงจัดการพี่ชายเหิงเฟิงอยู่ดี…ศิษย์พี่หญิงหว่าน ท่านก็เหมือนลายบุปผาที่เตรียมปักลงผ้าดิ้นของข้า ข้าก็ไม่ใช่ว่าจำเป็นต้องร่วมมือกับท่านให้ได้”
ถึงแม้ต้วนหลิงเทียนจะชื่นชมความแข็งกร้าวของนางอยู่บ้าง แต่เขาก็ไม่คิดจะยอมอ่อนข้อให้นางแม้แต่นิดเดียว
“เจ้า…”
หว่านชิงชิงโมโหไม่น้อย ดวงตานางฉายแววเยียบเย็นนัก
ตัวนางหว่านชิงชิง ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่โดนบุรุษปฏิบัติกับนางด้วยกิริยาเย็นชาเช่นนี้?
บุรุษผู้นี้ ไม่รู้จักคำว่า ‘รักหยกถนอมบุปผา’ บ้างเลยหรือไร?
“หึ! ต้วนหลิงเทียน เจ้าอย่าพึ่งทำเป็นพูดดีไป! ก่อนอื่นเลยเจ้าต้องทำลายการป้องกันข้าให้ได้เสียก่อน! หาไม่แล้ววันนี้เจ้าจักเป็นฝ่ายถูกพวกเรากำจัดเสียเอง!!”
วาจาน้ำเสียงดุดันของเหิงเฟิงโพล่งดังขึ้น ขณะเดียวกันร่างเหิงเฟิงก็ย่ำฟ้าห้อเหยียดไปทางต้วนหลิงเทียน ราวกระทิงเถื่อน!
“ศิษย์น้องชิงชิง”
ในขณะที่ก้าวเข้าใส่ต้วนหลิงเทียน เสียงผ่านพลังของเหิงเฟิงพลันดังขึ้นในหูหว่านชิงชิงอย่างประจวบเหมาะ “หากต้วนหลิงเทียนมันสามารถทำลายการป้องกันของข้าได้จริงๆ เจ้าก็ลองร่วมมือกับมันดูเถอะ”
“ถึงแม้ข้าจะไม่ได้รู้จักมักคุ้นอะไรมันมากนัก แต่สายตามองคนของข้ายังใช้การได้อยู่บ้าง เจ้านี่ไม่เพียงแววตากระจ่างใส ลักษณะยังสง่าผ่าเผยนัก…ไม่น่าจะใช่คนที่ไม่รักษาคำพูดไปได้”
“บางที เจ้าอาจใช้โอกาสนี้ก้าวเข้าสู่ 10 อันดับแรกของแดนสวรรค์ใต้โบราณได้ในคราวเดียว!”
เสียงผ่านพลังของเหิงเฟิง เป็นการเกลี้ยกล่อมหว่านชิงชิงอย่างเห็นได้ชัด และทำให้นางหวั่นไหวไม่น้อย
“รอให้มันทำลายการป้องกันของท่านให้ได้ก่อนเถอะ”
หว่านชิงชิงกล่าวผ่านพลังตอบกลับ
“ในเมื่อพี่ชายเหิงเฟิงมั่นใจในการป้องกันมาก…เช่นนั้นข้าจะทำลายการป้องกันท่านในกระบวนท่าเดียวเป็นไร?!”
ต้วนหลิงเทียนมองจ้องเหิงเฟิงที่ย่ำฟ้าลุยเข้ามาราวกระทิงเถื่อน กล่าวออกด้วยน้ำเสียงท้าทายเต็มแฝงความลี้ลับประการหนึ่ง “อีกทั้ง…คราวนี้ข้าจะไม่ใช่ความลึกซึ้งส่งผ่าน”
“ไม่ใช้ความลึกซึ้งส่งผ่านรึ!?”
วาจาดังกล่าวทำให้เหิงเฟิงตกใจไม่น้อย ‘หรือต้วนหลิงเทียนผู้นี้ มันจะเข้าใจความลึกซึ้งอีก 2 ประการที่เหลือของกฏแห่งมิติแล้ว!?’
หากนับรวมความลึกซึ้งสงผ่าน เหิงเฟิงก็เคยเห็นต้วนหลิงเทียนใช้ความลึกซึ้งของกฏแห่งมิติออกมาแล้วทั้งสิ้น 7 ประการ
ตอนนี้ด้วยวาจาทำราวกับมั่นใจหนักหนาของต้วนหลิงเทียน ทำให้มันเผลอคิดว่าต้วนหลิงเทียนอาจจะเข้าใจความลึกซึ้งของกฏมิติอีก 2 ประการที่เหลือ!
‘ความลึกซึ้งพื้นที่โน้มถ่วง!’
‘ความลึกซึ้งสั่นสะเทือน!’
‘ความลึกซึ้งฟื้นฟู!’
ด้วยความตื่นตัวทั้งหวั่นใจ เหิงเฟิงไม่กล้าประมาทแม้แต่นิดเดียว มันเลือกจะลงมือใช้ออกด้วยพลังสามารถทั้งหมดทันที!
ตอนนี้มันหวาดกลัวอย่างยิ่ง! กลัวว่าต้วนหลิงเทียนจะจู่โจมอัศจรรยย์ จนมันไม่ทันได้มีโอกาสใช้พลังทั้งหมด!!
เพราะท้ายที่สุดแล้ว การลงมือของผู้ที่เข้าใจกฏแห่งมิติเช่นต้วนหลิงเทียนก็ขึ้นชื่อเรื่องพิสดารเหนือคาดนัก!