WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 3199
5 เดือนต่อมา…
ณ แดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูง
อยู่ๆหัวตารางจัดอันดับพลันบังเกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้น และความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ก็ทำให้ทุกคนในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูงในเขตปลอดภัยก็ดี หรือที่บังเอิญลองตรวจอันดับในป้ายดูก็ดี ล้วนตื่นตระหนกตกตะลึง อารมณ์พุ่งพล่านกันยกใหญ่!
“จ้าวสวรรค์ช่วย! ศิษย์ที่แท้จริงของนิกายปราชญ์เต๋าลี้ลับ ‘เหยียนหรูอวี้’ คนนั้น กำจัด ‘ถังผิงซาน’ ของนิกายฟ้าหมื่นศึกได้งั้นเหรอ!?”
“ถังผิงซานนั่น ตั้งแต่ที่ได้รับอันดับ 1 ในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูงครั้งแรก หลังจากนั้นมันก็ไม่เคยแพ้พ่ายหรือถูกผู้ใดจัดการได้เลยใช่ไหม?”
“ให้ตายเถอะ อัจฉริยะไร้เทียมทาน ถังผิงซาน ของนิกายฟ้าหมื่นศึกที่เข้าใจความลึกซึ้งของกฏสายฟ้าถึงขั้นตอนเล็กน้อยได้ถึง 3 ประการผู้นั้น พ่ายแพ้แล้วจริงๆหรือ!?”
“เป็นเหยียนหรูอวี้ก้าวหน้าขึ้นมาอย่างรวดเร็ว หรือที่แท้ในอดีตมันซุกซ่อนพลังฝีมือไว้กันแน่? ไฉนปีนี้กลับสยบถังผิงซานได้!?”
“ไม่รู้ล่ะ ข้ารู้แค่หลังจากวันนี้เป็นต้นไป ตำนานไร้พ่ายในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูงของ ถังผิงซาน ผู้ที่ถูกกล่าวขานว่าเป็นอัจฉริยะท้าทายสวรรค์ไร้ผู้ต้านของนิกายฟ้าหมื่นศึกคนนั้นได้ถูกทำลายลงแล้ว!”
…
ถังผิงซาน ศิษย์นิกายฟ้าหมื่นศึก ซึ่งถูกขนานนามว่าเป็นอัจฉริยะท้าทายสวรรค์ไร้ผู้ต้าน พลังฝีมือกล้าแข็งสุดที่ผู้ใดในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูงจะทาบติด ตลอดหลายสิบปีที่ผ่าน…
วันนี้ได้ถูกกำจัดแล้ว!
ถูกกำจัดโดย เหยียนหรูอวี้ แห่งนิกายปราชญ์เต๋าลี้ลับ!
และเหยียนหรูอวี้ก็ไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับผู้ที่เข้ามาในแดนสวรรค์ใต้โบราณณะดับสูงแม้แต่น้อย เพราะเหยียนหรูอวี้เองก็มักจะติด 1 ใน 10 อันดับแรกของแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูงอยู่เสมอ และเป็นศิษย์ที่แท้จริงคนหนึ่งของนิกายปราชญ์เต๋าลี้ลับ
สิ่งที่สำคัญที่สุดเลยก็คือ เหยียนหรูอวี้ยังเยาว์นัก อ่อนกว่าถังผิงซานหลายร้อยปี แต่วันนี้กลับเอาชนะถังผิงซานและก้าวขึ้นสู่อันดับ 1 แทนที่อีกฝ่ายได้สำเร็จ
หลังจากที่มันได้สยบถังผิงซานไป ในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูงมิแคล้วต้องปรากฏตำนานบทใหม่ขึ้น!
ที่ไหนสักแห่งในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูง…
ปรากฏร่างชายหนุ่มเหินลอยกลางอากาศ คนมาในชุดคลุมสีขาว ในมือถือไว้ด้วยพัดเล่มหนึ่งกำลังโบกพัดเบาๆ ชายหนุ่มผู้นี้ยังมีรูปร่างหน้าตาหล่อเหลา ลักษณะท่าทางแลดูสง่างามเป็นที่สุด
“ขอแสดงความยินดีกับเจ้าด้วย ในที่สุดเจ้าก็เอาชนะเจ้าถังผิงซานนั่นได้เสียที…ตลอดชั่วชีวิตข้าเฉินหลี เรื่องที่ข้ารู้สึกว่าโชคดีที่สุดก็คือมีเพื่อนเช่นเจ้า!”
หลังได้รับทราบข้อความที่ส่งมา ชายหนุ่มในชุดขาวก็คลี่ยิ้มอย่างสบายอารมณ์ จากนั้นก็หยิบยันต์อมตะสื่อสารทางวิญญาณ ส่งข้อความตอบกลับ “ขอบใจเจ้ามากเฉินหลี ว่าแต่เจ้าสืบไปถึงไหนแล้ว ที่แท้ต้วนหลิงเทียนที่ติดอยู่ในอันดับ 13 ของแดนสวรรค์ใต้โบราณณะดับสูงตอนนี้ ใช่ต้วนหลิงเทียน ผู้พิทักษ์คฤหาสน์น้อยคนใหม่ของคฤหาสน์เฉวียนโยว ที่พวกเจ้าทำได้แค่ยกเลิกภารกิจสังหารไปเมื่อ 30 ปีก่อนรึเปล่า?”
ชายหนุ่มในชุดคลุมขาวที่แลดูหล่อเหลาสง่างามคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น มันก็คือเหยียนหรูอวี้ ที่พึ่งจะเอาชนะถังผิงซาน ศิษย์ที่แท้จริงของนิกายฟ้าหมื่นศึกมาได้นั่นเอง…
เหยียนหรูอวี้ยังเป็นสหายเพียงหนึ่งเดียวของเฉินหลี ลูกชายเฉินหยวนซาน 1 ใน 3 รองผู้นำองค์กรมือสังหารกะโหลกเลือด ที่สนิทสนมกับเฉินหลีเป็นอย่างมาก
หากจะถามว่าในโลกนี้ เหยียนหรูอวี้ใส่ใจใครมากที่สุด…ก็คือเฉินหลี เพื่อนเล่นเพียงหนึ่งเดียวในวัยเด็กของมัน!
“สืบได้แล้ว…คนของเราไปเลียบๆเคียงถามเฮยชามาจนได้ และพบว่าต้วนหลิงเทียนที่เอาชนะมันได้นั้น ก็เป็นคนๆเดียวกับต้วนหลิงเทียนที่เป็นผู้พิทักษ์คฤหาสน์น้อยของคฤหาสน์เฉวียนโยว”
“ที่คิดไม่ถึงก็คือ ไม่เพียงแต่มันจะทะลวงด่านพลังมาถึงราชาอมตะ 3 ศักดิ์ได้ในเวลาอันสั้น แต่พลังฝีมือของมันกลับร้ายกาจถึงขั้นจัดการเฮยชาได้! และฟังจากที่เฮยชาบอกมา ต้วนหลิงเทียน นั่นแม้มันจะเป็นแค่ราชาอมตะ 3 ศักดิ์ แต่มันกลับเข้าใจความลึกซึ้งของกฏมิติถึงขั้นตอนความสำเร็จเล็กน้อยได้หลายประการ…”
เฉินหลีส่งข้อความตอบกลับเสียงเข้ม
“แล้วสตรีนามฮ่วนเอ๋อเล่า เจ้าสืบเจอแล้วรึยังว่านางเป็นผู้ใดมาจากไหนกันแน่? หากข้าเดาไม่ผิด ส่วนหนึ่งเลยที่มันสามารถติดอยู่ใน 20 อันดับแรกได้ ไม่พ้นต้องได้สตรีนางนั้นคอยช่วยเหลือแน่นอน หาไม่แล้วราชาอมตะ 3 ศักดิ์เช่นมัน ไม่น่าจะเป็นไปได้เลยที่สามารถประสบความสำเร็จขนาดนี้ได้ในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูง”
เหยียนหรูอวี้ ส่งข้อความถามเพิ่ม
“สตรีข้างกายมันก็มีความเป็นมาลึกลับมาก…นางพึ่งจะปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้งที่คฤหาสน์เฉวียนโยวเมื่อ 30 ปีก่อนเท่านั้น ก่อนหน้านั้นนางเคยอยู่ข้างกายต้วนหลิงเทียนในพื้นที่ชายแดน…แต่ก็หายตัวไปอย่างลึกลับพักใหญ่”
“และในอดีต นางยังแข็งแกร่งกว่าต้วนหลิงเทียนเสียอีก”
เฉินหลีกล่าว
“พวกมันทั้งคู่นับเป็นสัตว์ประหลาดจริงๆ…หากไม่ใช่ว่าเจ้าไปยืนยันมาด้วยตัวเอง ข้าคงสงสัยแน่…ว่าใช่หน่วยข่าวกรองขององค์กรกะโหลกเลือดเจ้ามีปัญหารึเปล่า”
เหยียนหรูอวี้ถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง ในแววตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
เดิมทีมันก็คิดว่าพรสวรรค์ของมันน่าทึ่งมากแล้ว
อย่างไรก็ตาม เมื่อนำตัวเองไปเปรียบเทียบกับต้วนหลิงเทียนและสตรีนามว่าฮ่วนเอ๋อนั่น พรสวรรค์ของมันดูเหมือนจะไม่ได้ยอดเยี่ยมอะไรเลย….
ต้วนหลิงเทียนอายุพึ่งจะครบร้อยปี ก็บรรลุถึงขอบเขตราชาอมตะ 3 ศักดิ์ แถมเข้าใจความลึกซึ้งของกฏมิติถึงขั้นตอนเล็กน้อยได้หลายประการจนเอาชนะเฮยชาได้ด้วยมือเปล่า…
ฮ่วนเอ๋อ อายุไม่ถึงร้อยปีแต่กลับบรรลุถึงขอบเขตราชาอมตะ 6 ผสาน นอกจากนั้นยังเข้าใจความลึกซึ้งของกฏมิติบางประการถึงขั้นตอนเล็กน้อยแล้วเช่นกัน
“ถึงแม้ตอนนี้ภารกิจสังหารต้วนหลิงเทียนจะถูกยกเลิกไปแล้ว…แต่หากเจ้าบังเอิญเจอมัน ข้าหวังว่าเจ้าจะฆ่ามันให้ตาย!”
เฉินหลีกล่าว “หากมันไม่ตาย ใจข้าไม่อาจสงบลงได้!”
“เจ้าวางใจเถอะ”
เหยียนหรูอวี้รับปาก “หากข้าเจอมันเมื่อไหร่ มันก็ถึงที่ตายเมื่อนั้น”
“ว่าแต่ข้าได้ยินมาว่าในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูงปรากฏยอดฝีมือหน้าใหม่ ที่ราวกับจะผุดโผล่ออกมาจากอากาศธาตุคนหนึ่ง และไม่ทันไรก็ติดอยู่ใน 10 อันดับแรกแล้ว เป็นเรื่องจริงรึ?”
เฉินหลีเปลี่ยนเรื่องโดยการถามเปิดประเด็นใหม่
“ใช่ มีคนแบบนั้นจริงๆ”
เหยียนหรูอวี้ตอบ “เจ้านั่นเรียกว่า จางจินอี้ และข้าเองก็ไม่รู้ว่ามันเป็นใครมาจากไหนกันแน่…อีกทั้งไม่ว่าใครก็ตามที่พบเจอกับมัน สมควรตกตายหมดสิ้น จึงกล่าวได้ว่านอกจากชื่อแล้ว ไม่มีใครล่วงรู้อะไรเกี่ยวกับมันอีกเลย…”
“ช่างเป็นคนลึกลับเสียจริง”
เฉินหลีพอได้ยินคำตอบของสหาย ก็อดไม่ได้ที่จะส่งข้อความตอบกลับไปด้วยความประหลาดใจ
“อืม ไม่เพียงแต่ลึกลับเท่านั้น พลังฝีมือของมันยังร้ายกาจมาก…กระทั่งศิษย์ที่แท้จริงของนิกายโพธิญาณอย่าง ทั่วขู่ ที่มีพลังป้องกันแข็งแกร่งที่สุดในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูง ยังถูกมันฆ่าตาย!”
ขณะพูดข้อความดังกล่าว สีหน้าแววตาของเหยียนหรูอวี้ก็เผยให้เห็นความหวาดกลัวไม่น้อย
“อะไร? ทั่วขู่? ศิษย์ที่แท้จริงของนิกายโพธิญาณคนนั้น ที่เข้าใจความลึกซึ้งของกฏแห่งดินถึงขั้นตอนเล็กน้อย จนได้ชื่อว่ามีพลังป้องกันสูงสุดในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูงนั่นน่ะนะ?”
เฉินหลีอดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็ส่งข้อความต่อว่า “ข้าได้ยินมาว่ากระทั่งถังผิงซาน ยามพบเจอกับทั่วขู่ หากทั่วขู่ต้องการจะหลบหนีด้วยการทุบทำลายป้ายหยก ถังผิงซานก็ไม่มีทางหยุดมันได้เลย”
“แล้วคนที่ชื่อจางจินอี้ผู้นี้มันมาจากไหนกันแน่?”
ถึงแม้เฉินหลีจะเคยได้ยินเรื่องทั่วขู่มาบ้าง แต่ก็ไม่ละเอียดเท่าเหยียนหรูอวี้ที่รู้จักทั่วขู่ดี
“ข้าไม่รู้ ที่รู้คือข้ายังมั่นใจว่าหากต้องปะทะแตกหักกันจริงๆ ข้าน่าจะจัดการมันได้…อย่างไรก็ตาม หากมันคิดจากไป ข้าเกรงว่าคงไม่อาจหยุดมันได้เช่นกัน”
เหยียนหรูอวี้กล่าว
“เจ้าพูดแบบนี้…ไม่ได้หมายความว่า พลังของจางจินอี้ผู้นั้นไม่ได้อ่อนด้อยไปกว่าเจ้ามากเท่าไหร่ กระทั่งอาจจะทัดเทียมกับเจ้าหรือไร?”
เฉินหลีอดสูดลมหายใจเข้าลึกๆไม่ได้
“เรื่องนั้นก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้…แต่ยังมีความเป็นไปได้อีกประการหนึ่ง นั่นก็คือเพราะทั่วขู่ไม่รู้จักมันจึงประมาท ทำให้มันฉวยโอกาสเข่นฆ่าทั่วขู่ที่ไม่ทันตั้งตัว…”
เหยียนหรูอวี้เอ่ยคาดเดา “หากเป็นกรณีนี้ พลังฝีมือของมันก็ไม่แน่ว่าจะทัดเทียมกับข้า”
“จะอย่างไรก็แล้วแต่ ในเมื่อมันสามารถติดอยู่ใน 10 อันดับแรกได้ ก็บ่งบอกว่าพลังฝีมือของมันก็มิใช่ชั่ว!”
เหยียนหรูอวี้กล่าวสืบต่อ
…
ณ คฤหาสน์เฉวียนโยว
วังผู้พิทักษ์คฤหาสน์น้อย
“ข้าได้ยินว่าพวกเจ้าไต่ไปถึงอันดับที่ 13 กับ 15 แล้วนี่ ไฉนพวกเจ้าไม่ลงมือต่อเล่าจะได้เข้าสู่ 10 อันดับแรก อย่างไรเสียเวลาก็เหลืออีกตั้งหนึ่งเดือนกว่าๆ เหลือโอกาสให้พวกเจ้าอีกตั้งมากมาย?”
จ้าววังผู้พิทักษ์คฤหาสน์น้อยมองถามต้วนหลิงเทียนกับฮ่วนเอ๋อ ที่เลือกจะออกจากแดนสวรรค์ใต้ราณระดับสูงมาก่อนจะครบกำหนดเวลาด้วยความงุนงง
“มีบางอย่างผิดปกติ”
ต้วนหลิงเทียนส่ายหน้าไปมา ทีท่ายังเปลี่ยนเป็นจริงจังไม่น้อย
“มีอันใดผิดปกติรึ?”
ชายชราเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“เมื่อ 4 เดือน ในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูงอยู่ๆก็ปรากฏคนนาม จางจินอี้ ขึ้นมาคนหนึ่ง คนผู้นี้ราวกับปรากฏตัวขึ้นจากอากาศธาตุ ข้าลองถามทุกคนที่พบเจอก็ปรากฏว่าไม่มีใครรู้จักมันเลยสักคน กระทั่งคนในเขตปลอดภัยหลายจุดก็ไม่มีใครรู้จักตัวมัน”
ต้วนหลิงเทียนเอ่ยยออกเสียงขรึม “หลังจากฆ่าคนชื่อ ทั่วขู่ ที่ทุกคนเอ่ยเป็นเสียงเดียวกันว่ามีพลังป้องกันแข็งแกร่งที่สุดในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูง มันก็ไต่ขึ้นมาถึอันดับ 4 แล้ว…”
“จริงอยู่ที่ทั่วขู่อาจจะตกตายเพราะความประมาท…แต่สิ่งนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้ เพราะก่อนหน้าจางจินอี้ผู้นั้นก็ไต่ขึ้นมาถึงอันดับ 9 แต่แรก…”
กล่าวถึงประโยคท้ายน้ำเสียงต้วนหลิงเทียนก็เปลี่ยนเป็นจริงจังไม่น้อย
“แล้ว?”
ชายชราเอ่ยถามอีกครั้ง
“ข้าสงสัยว่า…มันอาจจะมาจากตระกูลจาง ของเผ่าจิ้งจอกมายา”
ต้วนหลิงเทียนเอ่ยข้อสันนิษฐานออกมา
“ตระกูลจางของเผ่าจิ้งจอกมายา?”
ชาชราย่นคิ้วก่อนจะส่ายหัวไปมา “ตระกูลจางของเผ่าจิ้งจอกมายา ไม่มีใครร้ายกาจขนาดนั้นหรอก…ถ้ามีก็ไม่มีทางที่ข้าจะไม่รู้!”
“ก็แล้วถ้ามันไม่ใช่เผ่าจิ้งจอกมายาสาขาแดนสวรรค์ใต้เล่า? หากมันมาจากเผ่าจิ้งจอกมายาที่อยู่ใน 7 ภูมิภาคเบื้องบนล่ะ? หรือหากมันเป็นเผ่าจิ้งจอกมายาที่ไม่ได้ตั้งรกรากในหลิงหลัวเทียนล่ะ?”
ต้วนหลิงเทียนเอ่ยเสริม “ระนาบเทวโลกมีค่ายกลเคลื่อนย้ายตั้งอยู่แทบทุกแห่งหน จะไปไหนมาไหนก็นับว่าสะดวกสบายเป็นที่สุด ต่อให้เป็นคนของเผ่าจิ้งจอกมายาสาขาหลัก คิดจะมาแดนสวรรค์ใต้ยังยากอะไร”
“เผ่าหลักของจิ้งจอกมายา…นี่เจ้าคิดว่า มันมาจากแดนฟ้าสิ้นสุด 1 ใน 7 ภูมิภาคเบื้องบนงั้นหรือ?”
รูม่านตาชาชราหดแคบลงโดยพลัน
“ถึงข้าเองก็ยังไม่อาจชี้ชัด แต่ก็มีความเป็นไปได้สูง…หาไม่แล้วใต้หล้าไหนเลยจะมีเรื่องบังเอิญพรรค์นี้?”
“อยู่ๆก็มีคนลึกลับปรากฏขึ้นในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูง แถมแซ่จาง…”
ที่ต้วนหลิงเทียนเอะใจสงสัย ไม่เพียงแต่เห็นว่าคนลึกลับมีแซ่จางเท่านั้น ต่อให้เป็นชื่ออื่นแต่ไต่อันดับขึ้นมาด้วยความเร็วโดยที่ไม่มีใครรู้จักแบบนี้เขาก็เลือกจะสงสัยไว้ก่อน!
เมื่อดูจากคะแนนสะสมที่อีกฝ่ายหาได้รวดเร็วกว่าเขาและฮ่วนเอ๋อรวมกันแบบนี้ เขาจึงสงสัยว่ามันอาจจะเป็นคนตระกูลจาง 1 ใน 3 ตระกูลใหญ่ของเผ่าหลักจิ้งจอกมายาที่มีพลังฝีมือกล้าแข็งจริงๆ ก็เลยเลือกจะออกจากแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูงทันทีเพื่อความปลอดภัย
และเขากับฮ่วนเอ๋อก็ไม่คิดจะไต่ขึ้นไปให้ถึง 10 อันดับแรกเลย
เพราะหลังจากที่อันดับปีนี้ถูกยืนยันแล้ว เขากับฮ่วนเอ๋อจะได้เข้าสู่แดนลับสมบัติระดับ 2 ด้วยกัน
ถึงแม้จางจินอี้นั่นจะมาจากเผ่าจิ้งจอกมายาหลัก แต่เนื่องจากมันติดอยู่ใน 10 อันดับแรก เช่นนั้นมันก็จะเข้าสู่แดนลับสมบัติระดับ 1 ซึ่งเป็นคนละที่กับเขาและฮ่วนเอ๋อ ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องที่จะต้องปะทะกับอีกฝ่าย
ถึงแม้ตอนนี้เขากับฮ่วนเอ๋อจะไม่ใช่ชนชั้นอ่อนด้อยแล้ว แต่กล่าวไปเรื่องจะให้ติด 10 อันดับแรก ก็ไม่ใช่ว่าจะง่ายดายถึงขนาดนั้น
และเมื่อพิจารณาจากผลงานของจางจินอี้นั่น ต้วนหลิงเทียนก็ตระหนักว่าต่อให้เขากับฮ่วนเอ๋อร่วมมือกัน ก็ไม่แน่ว่าจะสู้อีกฝ่ายได้
“พอเจ้ากล่าวเช่นนี้แล้ว ก็มีความเป็นไปได้จริงๆ และนับว่าเจ้าระวังตัวดียิ่ง…ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะทันสังเกตเรื่องพวกนี้ด้วย นับว่าไหวพริบเจ้าไม่ใช่ชั่วจริงๆ”
ได้ยินข้อสันนิษฐานของต้วนหลิงเทียน จาววังผู้พิทักษ์คฤหาสน์น้อยก็คล้อยตามทันที
…
ณ สถานที่ตั้งเผ่าจิ้งจอกมายา สาขาแดนสวรรค์ใต้
“ต้วนหลิงเทียนกับฮ่วนเอ๋อนั่นมันย้อนกลับไปยังเขตปลอดภัย และใช้ค่ายกลเคลื่อนย้ายออกจากแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูงไปแล้ว?”
จางจินอี้ที่พึ่งได้รับข้อความติดต่อ อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วหน้านิ่ว
เป็นลูกชายของจางอวิ๋นถิง ที่ไม่ได้ไปไหนและเอาแต่ซ่อนตัวเฝ้าเขตปลอดภัยที่ต้วนหลิงเทียนกับฮ่วนเอ๋อปรากฏตัวขึ้นครั้งแรก ก็ได้เห็นต้วนหลิงเทียนกับฮ่วนเอ๋อตอนย้อนกลับมาใช้ค่ายกลออกไปถนัดตา
และมันก็รีบส่งข้อความไปรายงานจางตงหนานทันที
‘จางจินอี้ผู้นี้…ข้าก็บอกแต่แรกแล้วว่าให้ใช้นามแฝงๆ แต่ยังดื้อรั้นโง่ๆ ตอนนี้อย่างไรเล่า…สิบในสิบไม่พ้นต้วนหลิงเทียนนั่นต้องระแคะระคายอันใดแล้วเป็นแน่!’
สีหน้าของจางตงหนานบิดเบี้ยวดูไม่ได้นัก ขณะเดียวกันมันก็ได้แต่ส่งข้อความไปบอกเรื่องราวแก่จางจินอี้ “ท่านทูต มิพ้นพวกมันต้องสงสัยในความเป็นมาของท่านแล้ว…”