WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 3433
ตอนที่ 3,433 : แบบนี้เรียกว่าขอคำอธิบายได้ด้วยเหรอ?
“ใต้เท้าจักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยาง…มิทราบใต้เท้าท่านมาหาใต้เท้าจักรพรรดินีสวรรค์ของพวกเราด้วยสาเหตุอันใดหรือ?”
ชายชราที่จดจำฟงชิงหยางได้ เอ่ยถามออกมาด้ววยน้ำเสียงเคารพนอบน้อม
จักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยางเบื้องหน้า เรื่องพลังฝีมือถือว่าเหนือกว่าจักรพรรดินีสวรรค์ลั่วสุ่ยเทียนของพวกมันคนละชั้น และฟังจากเสียงตะโกนให้ไสหัวออกมาเมื่อครู่ เกรงว่าคงไม่ได้มาดีแน่! มันจึงถามออกไปด้วยความกล้ากลัวๆ และหากเป็นจักรพรรดินีสวรรค์ของพวกมันไปหาเรื่องผู้อื่นเขาก่อนล่ะก็… มันตัดสินใจว่าจะรีบถอนตัวอกจากพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์ลั่วสุ่ยเทียนให้ไว!
“ข้ามาหานางเพื่อคิดบัญชี!”
ฟงชิงหยางเอ่ยออกเสียงเบา
จากนั้นฟงชิงหยางก็ไม่สนใจผู้ใด แผ่สำนึกเทวะออกไปปกคลุมทั่วทั้งนิกายลั่วสุ่ย กระทั่งยังลุกลามแผ่ไปปกคลุมทั่วทั้งพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์ลั่วสุ่ยเทียน อย่างไรก็ตามด้วยความที่มันไม่รู้จักซือถูฉูชิง จึงไม่ทราบว่าใครเป็นใคร
หลังการตรวจสอบ มันพบว่าในนิกายลั่วสุ่ยและพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์ลั่วสุ่ยเทียนก็หลงเหลือจักรพรรดิอมตะ 10 ทิศเพียงไม่กี่สิบคน
ทว่าถึงจะเหลือไม่กี่สิบคนก็ไม่นับว่าแปลกอะไร เพราะคนนับโหลๆที่มาปรากฏตัวเบื้องหน้ามันก็ล้วนเป็นจักรพรรดิอมตะ 10 ทิศของนิกายลั่วสุ่ยทั้งสิ้น
ดังนั้นจึงไม่อาจระบุได้ว่าที่แท้ในบรรดาผู้ที่ยังไม่มาใช่มีจักรพรรดินีสวรรค์ลั่วสุ่ยเทียนรวมอยู่หรือเปล่า
ลูกตาชายชราหดเล็กลงทันที และดูเหมือนที่มันคาดเดาไว้ในใจจะไม่มีผิด
“วันนี้นางต้องตาย!”
ในขณะที่คนอื่นๆพากันมองไปยังฟงชิงหยางด้วยสายตาวิตกกังวล ฟงชิงหยางก็เอ่ยคำออกมาเสียงเรียบอีกครั้ง ทำให้หน้าทุกคนเปลี่ยนสีไปทันที!
นรก! ใต้เท้าจักรพรรดินีสวรรค์ของพวกมันไปทำอะไรผู้อื่นเขาไว้กันแน่!? หรือไม่ทราบว่าจักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยางผู้นี้ เพียงเพื่อเมิ่งหลัวที่ถูกสั่งสอนกลับมา ก็ถึงกับบุกไปลงมือฆ่าคนคาถิ่น…และคนที่ถูกฆ่านั่นก็คือจักรพรรดิสวรรค์คนหนึ่ง!!
“ใต้เท้าจักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยาง…”
ตอนนี้เอง หญิงชราคนหนึ่งท่ามกลางคนนับโหลกลางหาว เอ่ยถามฟงชิงหยางออกมาด้วยน้ำเสียงขมขื่น “มิทราบใต้เท้าจักรพรรดินีสวรรค์ของพวกเราใช่ไปทำให้ท่านขุ่นเคืองเมื่อ 200 ปีก่อนหรือไม่?”
พอหญิงชรากล่าวประโยคนี้ออกมา ผู้คนนับโหลกลางหาวก็ได้แต่หันไปมองหญิงชราด้วยความอึ้ง
จักรพรรดินีสวรรค์ของพวกมัน หรือจะไปมีเรื่องมีราวกับฟงชิงหยยางจริงๆ?
นอกจากนี้เรื่องที่นางก่อ ยังทำให้จักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยางตามมาฆ่าถึงที่นี่!?
นางเสียสติไปแล้วหรือไร ไฉนไปตอแยดาวมฤคยูเช่นนี้ได้!?
“โฮ่? ดูเหมือนว่าเจ้าจะรู้เรื่องดีนี่?”
ฟงชิงหยางมองลึกไปยังหญิงชรา เอ่ยถามเป็นนัย
“ใต้เท้าจักรพรรดิสวรรค์ ข้าน้อยไหนเลยจะรู้เรื่อง…”
หญิงชราคลี่ยิ้มขื่นขมพลางกล่าว “ข้าก็แค่ล่วงรู้ว่าตั้งแต่เมื่อ 200 ปีก่อน อยู่ๆใต้เท้าจักรพรรดินีสวรรค์ของเราก็พาธิดาเทพออกไปด้านนอก…จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่กลับ ที่สำคัญก่อนที่จะหายตัวไปก็มิได้แจ้งพวกเราไว้สักคำว่าไปที่ใด”
“ในอดีตถึงแม้ใต้เท้าจักรพรรดินีสวรรค์จะออกไปด้านนอก แต่เต็มที่ก็ไม่เกิน 30 ปี…คราวนี้มันผิดปกติเกินไป”
หญิงชรากล่าว
“ออกไปตั้งแต่เมื่อ 200 ปีก่อน?”
ได้ยินคำของหญิงชรา ลูกตาฟงชิงหยางก็หดเล็กลงทันที มุมปากยังยกยิ้มแสยะ กล่าวคำแดกดันหยันหยาม “นางนับว่าฉลาดไม่น้อย ถึงกับรีบหนีไปแต่เนิ่นๆ…แต่นางคิดว่าหลบหนีออกจากพระราชวังจักรพรรดริสวรรค์ลั่วสุ่ยเทียนแล้วข้าจะทำอะไรนางไม่ได้งั้นรึ?”
ด้านต้วนหลิงเทียนที่ฟังงอยู่เงียบๆด้านข้าง หลังได้ยินคำพูดหญิงชราก็อดไม่ได้ที่จะตกใจ นี่จักรพรรดินีสวรรค์ลั่วสุ่ยเทียนหนีไปตั้งแต่เมื่อ 200 ปีก่อนแล้วหรือ?
ต้องทราบด้วยว่า จักรพรรดิมตะสวรรค์กร่างก็ได้ไปยังระนาบเซียนพร้อมกับเขาเมื่อ 200 ปีก่อนเช่นกัน!
กล่าวอีกอย่างได้ว่า ทันทีที่อีกฝ่ายรู้ว่าการส่งคนไปสังหารสรรพชีวิตในระนาบเซียน จนเป็นการล่วงเกินฟงชิงหยาง ก็เลือกที่จะหลบหนีออกจากพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์ลั่วสุ่ยเทียนทันที ไม่กล้าอยู่ต่อ?
‘ให้ตายเถอะ…พลังขู่ขวัญของท่านอาจารย์ร้ายกาจถึงขนาดนี้เชียวหรือ?’
‘นั่นจะอย่างไรก็จักรพรรดินีสวรรค์ลั่วสุ่ยเทียน ตัวตนระดับจักรพรรดิสวรรค์คนหนึ่ง…แต่พอรู้ตัวว่าเผลอล่วงเกินอาจารย์เข้าให้ ก็หนีเตลิดเลย?’
‘จักรพรรดินีสวรรค์เช่นนาง ไม่ห่วงหน้าตาศักดิ์ศรีอะไรแล้ว?’
ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนตกใจไม่น้อยจริงๆ ถึงแม้เขาพอจะเดาได้ว่าอีกฝ่ายไม่พ้นคิดว่าอาจารย์เขาอาจบรรลุถึงขอบเขตเทพไปแล้ว แต่ฟังจากที่อาจารย์ของเขาบอกมา ถึงแม้โลกภายนอกจะลือกันว่าตนบรรลุถึงขอบเขตเทพแล้ว แต่ก็มีน้อยคนนักที่รู้ว่าบรรลุถึงขอบเขตเทพจริงๆ
อย่างไรก็ตามพอนึกขึ้นได้ว่า จักรพรรดินีสวรรค์ลั่วสุ่ยเทียนนั่น ตั้งแต่ก่อนที่อาจารย์เขาจะเข้าสู่นรกอสุรานางก็สู้ไม่ได้แล้ว เขาก็พอจะเข้าใจได้
“หืม?”
ทันใดนั้นเอง ต้วนหลิงเทียนพลันพบว่าในบรรดาคนนับโหลของนิกายลั่วสุ่ยเบื้องหน้า มีชายวัยกลางคนผู้หนึ่งที่มองจ้องเขาอยู่ ทันใดนั้นเขาก็เดาได้ทันทีว่าอีกฝ่ายไม่พ้นจดจำเขาได้ “ทำไม? กำลังสงสัยอยู่หรือ…ว่าข้าใช่คนที่ธิดาเทพของพวกเจ้าสั่งให้ตามหาหรือไม่??”
วันนั้นตอนที่เขามานิกายลั่วสุ่ยเพื่อพบมู่อีอี หากเดาไม่ผิดต้องมีหนึ่งในคนที่อยู่หน้าประตูใหญ่นิกายลั่วสุ่ยจดจำหน้าตาเขาได้ และไม่พ้นวาดภาพเหมือนของเขาให้ธิดาเทพใช้ตามล่าหาตัวเขา เช่นนั้นจะมีคนมองเขาด้วยความสงสัยก็ไม่แปลก
พอต้วนหลิงเทียนกล่าวจบคำ คนอื่นๆก็หันมามองต้วนหลิงเทียนด้วยความระวังทันที ทั้งหมดเพราะความสนใจของพวกมันหยุดอยู่ที่ฟงชิงหยาง จึงไม่ได้ให้ความสนใจอะไรต้วนหลิงเทียนมากนัก ถึงแม้พวกมันจะรู้สึกว่าต้วนหลิงเทียนหน้าตาคุ้นๆก็ตามที
“เจ้า…เจ้าคือต้วนหลิงเทียน!?”
ชายชราคนหนึ่งเอ่ยถามออกมาด้วยความประหลาดใจ ขณะเดียวกันในใจของมันก็เต็มไปด้วยความตกใจ ด้วยไม่คิดเลยว่าคนที่ธิดาเทพสั่งให้ตามหาล่าตัว จะมาปรากฏตัวพร้อมฟงชิงหยางได้
ยิ่งไปกว่านั้นดูจากการที่ทั้งสองลอยร่างข้างๆกัน เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ความสัมพันธ์รูปแบบเจ้านายกับข้ารับใช้แน่!
“ดูเหมือนว่าพวกเจ้าจะจำข้าได้จริงๆ…”
ต้วนหลิงเทียนเอ่ยออกเสียงเรียบ “อย่างไรก็ตามขอให้พวกเจ้ารู้เอาไว้ ว่าข้าไม่ได้ลักพาตัวมู่อีอี ศิษย์ธิดาเทพของพวกเจ้า…ข้าเพียงแค่ช่วยศิษย์น้องของข้า ที่ถูกวิญญาณแฝดผู้น้องของธิดาเทพพวกเจ้าคิดช่วงชิงร่างกายเท่านั้น! หลังข้าพบว่าในร่างศิษย์น้องมีวิญญาณของนางกำลังหลอมกลืนวิญญาณศิษย์น้องข้า เช่นนั้นข้าก็เลยทำลายวิญญาณของนางเสีย!!”
“เพราะเหตุนี้ธิดาเทพกับจักรพรรดินีสวรรค์ของพวกเจ้าถึงได้เกลียดแค้นข้าเข้ากระดูกดำ…และเพราะหาข้าไม่เจอนางก็ถึงกับลงมือต่ำช้าสามานย์ สั่งให้คนไปฆ่าล้างสรรพชีวิตบนระนาบเซียนที่เป็นราบโลกียะบ้านเกิดของข้า!”
ต้วนหลิงเทียนยกล่าวออกมารวดเดียวจบ
“อะไร!?”
“น้องสาวฝาแฝด? หลอมกลืนวิญญาณชิงร่าง?”
ได้ยินคำพูดของต้วนหลิงเทียน ยกเว้นบางคนที่คล้ายล่วงรู้เรื่องนี้แต่แรก คนส่วนใหญ่แลดูตกใจจริงจัง ท่าทางจะไม่ทราบมาก่อนว่าธิดาเทพที่แท้มีน้องสาวฝาแฝดอยู่ด้วยอีกคน!
และน้องสาวฝาแฝดของธิดาเทพ แน่นอนว่าต้องเป็นลูกในไส้ของจักรพรรดินีสวรรค์ลั่วสุ่ยเทียน!
“น่าเสียดายที่จักรพรรดินีสวรรค์รวมถึงธิดาเทพของพวกเจ้าไม่ได้รู้เลยว่าระนาบเซียนนั่น ไม่ใช่แค่บ้านเกิดของข้าเท่านั้น แต่ยังเป็นบ้านเกิดของอาจารย์ข้าฟงชิงหยางอีกด้วย…ตอนนั้นเพราะจักรพรรดิอมตะสวรรค์กร่างเมิ่งหลัวออกหน้าหยุดยั้งการสังหารหมู่ที่ระนาบเซียน นางจึงได้รับทราบว่าที่นั่นก็คือบ้านเกิดของอาจารย์ข้า”
“และเรื่องที่ข้าพูด มันก็เกิดขึ้นตั้งแต่ 200 ปีก่อน!”
กล่าวถึงเรื่องนี้ต้วนหลิงเทียนก็มีโมโหนัก “ถึงแม้อาวุโสเมิ่งหลัวจะออกหน้าหยุดยั้งการสังหารหมู่ที่ระนาบเซียน แต่ผู้คนในระนาบเซียนบ้านเกิดของข้าก็ตกตายไป 7-8 ส่วน…เป็นพวกเราไปถึงช้าไป!”
“ตอนรับทราบเรื่องนี้ข้ายังไม่อยากจะเชื่อเลย ว่าจักรพรรดิสวรรค์คนหนึ่งที่ปกครองทั้งระนาบเทวโลก ผู้ยิ่งใหญ่ที่มีหน้ามีตาไม่น้อย เพียงเพื่อสนองความเห็นแก่ตัว ถึงกับลงมือทำร้ายผู้คนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ในระนาบโลกียะ! หากนางไม่สมควรตาย ในโลกยังมีใครสมควรตายอีก!!”
ยิ่งมาเสียงของต้วนหลิงเทียนก็ยิ่งเย็นลงเรื่อยๆ พาลให้เหล่าอาวุโสของนิกายลั่วสุ่ยเสมือนติดอยู่ในถ้ำน้ำแข็ง!
และเหล่าจักรพรรดิอมตะสมญานามทั้งหลาย ก็พากันตกตะลึงพรึงเพริดเพราะวาจาของต้วนหลิงเทียนนัก ด้วยไม่คิดเลยว่าจักรพรรดินีสวรรค์ของพวกมัน เพราะคิดแก้แค้นต้วนหลิงเทียน จะล่วงเกินจักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยางสาหัสถึงขนาดนี้!
และพวกมันก็สุดที่จะจินตนาการได้ออก…
มิคาดต้วนหลิงเทียนกลับเป็นศิษย์ของฟงชิงหยาง!
ผู้คนนับโหลตอนนี้ตกใจกลัวจนหน้าถอดสี ออกอาการวิตกกังวลให้เห็นชัด ด้วยกลัวว่าจักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยางแห่งจี้เมี่ยเทียนจะบันดาลโทสะ เข่นฆ่าพวกมันทิ้งเพื่อระบายอารมณ์!
“ใต้เท้าจักรพรรดิสวรรค์…”
ตอนนี้เอง ชายชราที่จดจำฟงชิงหยางได้ ก็เร่งกล่าวออกมาก่อนใครเพื่อน “ข้าน้อยมิทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นเลย เรื่องนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับข้าน้อยทั้งสิ้น! เพื่อแสดงคววามจริงใจต่อท่าน วันนี้ข้าจะพาครอบครัวและเหล่าศิษย์ถอนตัวออกจากพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์ลั่วสุ่ยเทียน! ขอใต้เท้าจักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยางอย่าได้ถือโทษโกรธข้าน้อย!!”
พอชายชราเอ่ยออกมาแบบนี้ หลายคนก็เริ่มคิดเหมือนกัน แต่ละคนยังพากันหวาดกลัวจนเหงื่อตก เร่งขอขมาลาโทษและให้คำมั่นว่าจะถอนตัวกันใหญ่ ด้วยกลัวจะตกเป็นเหยื่ออารมณ์ของฟงชิงหยาง!
สุดท้ายคนที่ก่อเรื่องก็ได้เปิดตูดหนีไปนานแล้ว! ทีนี้ผู้ใดจะไปรู้ว่าจักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยางจะหงุดหงิดที่หาคนก่อเหตุไม่เจอแล้วเอามาลงที่พวกมันรึเปล่า?
“ท่านอาจารย์”
ตอนนี้เอง ต้วนหลิงเทียนพลันหันไปมองฟงชิงหยางพลางส่งเสียงผ่านพลังว่า “หรือจะใช้ข้าเป็นเหยื่อล่อ เพื่อให้จักรพรรดินีสวรรค์ลั่วสุ่ยเทียนเผยตัวออกมาดี? ข้าฆ่าลูกสาวนางทั้งคนไม่พ้นนางต้องเกลียดข้าเข้ากระดูกดำเป็นแน่ หากนางรู้ว่าข้าอยู่ที่ไหน ไม่แน่นางอาจจะหาทางมาจัดการข้า…”
“เรื่องนั้นไม่จำเป็น”
อย่างไรก็ตาม ฟงชิงหยางปฏิเสธข้อเสนอของต้วนหลิงเทียน “นางไม่ใช่ตั่วโง่งมที่จะถูกล่อออกมาง่ายๆ เผลอๆในบรรดาพวกมันที่ยืนหน้าสลอนกันอยู่ตรงนี้อาจมีสายของนาง และลอบส่งข้อความเรื่องที่เจ้าเป็นศิษย์ข้าออกไปแล้ว”
“ไม่แน่ ตอนนี้จักรพรรดินีสวรรค์ลั่วสุ่ยเทียนอาจจะรู้เรื่องแล้วก็เป็นได้”
“ดังนั้น ต่อให้เจ้าคิดใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อ 9 ใน 10 ไม่พ้นเสียเวลาเปล่า”
“นอกจากนั้น ถึงแม้ระนาบเทวโลกจะมีทั้งสิ้น 81 ระนาบ และแต่ละระนาบก็กว้างใหญ่…ทว่านางจะสามารถซ่อนตัวเยี่ยงมุสิกขลาดเขลาได้ตลอดชีวิตหรือไร?”
“ข้าคร้านจะเสียเวลาตามหาหนูสกปรกเช่นนาง เพียงรอข่าวการปรากฏตัวของนางเถอะ…วันไหนที่นางกล้าปรากฏตัวออกมาสู่สังคม วันนั้นจะเป็นวันตายของนาง!”
ฟังจากคำพูดทั้งน้ำเสียงขณะพูดของฟงชิงหยางแล้ว ราวกับคิดฆ่าจักรพรรดิสวรรค์คนหนึ่ง ก็เป็นเรื่องราวอันง่ายดายราวตัดหญ้าฆ่าไก่
ด้านต้วนหลิงเทียน ก็ได้ยินชัดเจนถึงความดูแคลนหยามหยันในน้ำเสียงของฟงชิงหยาง เห็นชัดว่าจักรพรรดินีสวรรค์ลั่วสุ่ยเทียนไม่อาจนับเป็นตัวอะไรได้จริงๆ ก็เลยพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย “อาจารย์พูดถูก ไปเสียเวลาตามหาคนอย่างนางนับว่าไม่คุ้มจริงๆ…”
“รอให้นางปรากฏตัวออกมาเองเถอะ!”
“กล่าวไปแล้ว ข้ายังอยากจะฆ่านางด้วยมือตัวเอง!”
สองตาต้วนหลิงเทียนแผ่พุ่งจิตสังหารอำมหิตออกมาอย่างแรงกล้า สำหรับจักรพรรดินีสวรรค์ที่ทำลายบ้านเกิดและสังหารหมู่คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่ที่ระนาบเซียนและฆ่าล้างตระกูลของหานเฉวี่ยไน่อย่าง ซือถูฉูชิง นั่น หากเลือกได้เขาก็อยากจะฆ่ามันด้วยมือตัวเอง!
“ตอนนี้เรื่องจักรพรรดินีสวรรค์ลั่วสุ่ยเทียนเจ้าไม่ต้องไปสนใจ…ตอนนี้พวกเราไปฝูโหย่วเทียนกันก่อนดีกว่า”
สองตาฟงชิงหยางทอประกายเรืองขึ้นวูบหนึ่ง “ผู้เฒ่าหั่วเล่าให้ข้าฟังหมดแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น…จักรพรรดิสวรรค์ฝูโหย่วเทียนนั่น แม้จะถือได้ว่าเป็นสหายเก่าของข้า แต่คราวนี้มันกล้าปกป้องลูกศิษย์อย่างไม่รู้ผิดชอบชั่วดี เช่นนั้นข้าต้องไปขอคำอธิบายจากมันเสียหน่อย”
ต้วนหลิงเทียนเดิมที คิดว่าคำพูดดังกล่าวของฟงชิงหยาง จะเป็นการไปฉีกหน้าหาความอีกฝ่ายตรงๆ
แต่ใครจะไปรู้ พอฟงชิงหยางได้พบหน้าจักรพรรดิสวรรค์ฝูโหย่วเทียน แม้หยางอวิ๋นเซียวจะกล่าวคำทักทายด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า แต่อาจารย์เขาก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง ร่างวูบไปด้วยความเร็วอัศจรรย์ ถีบเข้ายอดอกจักรพรรดิสวรรค์ฝูโหย่วเทียนจนร่างปลิวทะลุห้องโถงใหญ่ จนมีสภาพร่อแร่ราวสุนัขป่วยใกล้ตาย!
พริบตาต่อมายังปรากฏกระบี่พลังเล่มเขื่องปานจะมีอำนาจทะลวงเจาะโลก พุ่งไปฉับไวราวจะทะลวงเสียบหน้าหยางอวิ๋นเซียว!
เห็นฉากเรื่องราวที่อุบัติขึ้นในพริบตา ต้วนหลิงเทียนก็ตกตะลึงตาค้างแล้วจริงๆ
แบบนี้เรียกว่าขอคำอธิบายได้ด้วยหรือ?