WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 3730 เผยไพ่ตาย
เห็นการเคลื่อนย้ายมิติของต้วนหลิงเทียน หลิงหูจวินก็ไม่ได้แปลกใจอะไร ราวกับทราบแต่แรกว่าอีกฝ่ายจะมาไม้นี้
“ตรงนั้น!”
หลังจากล็อคตำแหน่งของต้วนหลิงเทียนได้แล้ว หลิงหูจวินก็ห้อเหยียดไปทางต้วนหลิงเทียนปานสายลมกรรโชก จากนั้นรอบกายก็อุบัติเกลียวสว่านสายลมนับสิบๆ เจาะทะลวงเข้าใส่ต้วนหลิงเทียนอีกรอบ!
ซัว! ซัว! ซัว! ซัว! ซัว!
…
ต้วนหลิงเทียนก็เลือกจะใช้เคลื่อนมิติหลีกหลบสว่านสายลมไม่หยุด อย่างไรก็ตามแต่ละครั้งที่เขาใช้การเคลื่อนย้ายข้ามมิติ ระยะห่างระหว่างหลิงหูจวินก็หดกระชั้นเข้ามาทุกขณะ
สุดท้ายแล้วพลังเทพของต้วนหลิงเทียน ก็ยังเป็นพลังเทพของราชาเทพขั้นต่ำเท่านั้น ระดับพลังยังด้อยกว่าหลิงหูจวินขั้นหนึ่ง
แม้กฏมิติที่เขาใช้อยู่ในปัจจุบันจะไม่ได้ด้อยกว่ากฏแห่งลมของหลิงหูจวิน แต่ก็ยังเสียเปรียบอยู่ดี
‘30 กระบวนท่า?’
พอนึกถึงข้อกำหนดในการทดสอบที่หลิงหูเหรินเจี๋ยตั้งไว้ครั้งนี้ ต้วนหลิงเทียนก็ลอบยิ้มในใจ สุดท้ายแล้วหากเขาใช้มรรคากระบี่มิติกับวิถีควบคุมออกไปล่ะก็ ต่อให้หลิงหูจวินจะใช้พลังสายเลือด ก็ไม่อาจรับเขาได้แม้แต่ท่าเดียว
แต่ต้วนหลิงเทียนก็ไม่ลืมเรื่องที่ต้องไม่ลงมือให้โดดเด่นเกินไป
ต้องเลือก
ว่าจะทำอย่างไรให้ชนะหลิงหูจวินได้ไม่ขาดลอยมาก
เพราะสุดท้ายอาศัยพลังฝีมือเท่าที่เคยเผยออกมาให้ผู้คนรู้ เรื่องจะยันเสมอหลิงหูจวินก็ยังนับว่ายาก
ดังนั้น ต้วนหลิงเทียนก็เลยเริ่มลงมือจากการใช้กฏมิติที่ทุกคนรู้ข้อมูลออกมาก่อน ความลึกซึ้งของกฏมิติ 8 ประการค่อยๆถูกใช้ จากนั้นความลึกซึ้ง 3 ประการชุดแล้วชุดเล่าก็ค่อยๆผสานรวมกัน
เมื่อใช้การผสานรวมความลึกซึ้งของกฏมิติ 3 ประการชุดต่างๆออกมา ด้วยพลังเทพในปัจจุบัน ยามขับเคลื่อนใช้ออกมันก็ทรงพลังมากกว่าในอดีตพอสมควร พอมารวมกับกับมรรคากระบี่ที่จงใจเผยแค่ขั้นตอนพื้นฐาน ก็ทำให้อานุภาพพลังสูงขึ้นทันตา
ปงงง!
ตูมมม!!
…
ในปัจจุบันต้วนหลิงเทียนไม่ได้อาศัยการเคลื่อนมิติหลีกหลบอีกต่อไป แต่เลือกจะลงมือต่อต้านกระบวนท่าของหลิงหูจวินตรงๆ และก็ไม่ได้เสียเปรียบอะไรมากมาย
เช่นนั้นหลังต้านทานไปไม่ทันไร การประมือครั้งนี้ก็ล่วงเลยไปหลายกระบวนท่าแล้ว
และหลิงหูจวินก็ไม่ได้มีท่าทีว่าจะมีเปรียบต้วนหลิงเทียนแม้แต่น้อย
“ร้ายกาจยิ่ง!”
ห่างออกไปไกลๆ หลิงหูอวิ๋นที่ชมดูเรื่องราวอยู่ แม้จะมองเรื่องราวตรงหน้าไม่เห็น แต่อาศัยคลื่นพลังที่ระเบิดปงปังไกลๆ มันก็อดไม่ได้ที่จะหวาดกลัว “หากพี่สามไม่ใช้พลังสายเลือดออกมา ข้าเกรงว่าอ่างดีก็คงทำได้แค่เสมอกับต้วนหลิงเทียน”
ราวกับจะตอบรับคำพูดของหลิงหูอวิ๋น ไม่ทันไรเสียงผ่านพลังของหลิงหูเหรินเจี๋ยก็ดังขึ้นในหูหลิงหูอวิ๋นอีกครั้ง “มิผิด อาศัยพลังที่มันเผยออกตอนนี้ ก็นับว่าไม่ได้อ่อนด้อยไปกว่าหลงเซียว ศิษย์ของอาวุโสเหล่ยยามใช้พลังสายเลือดแล้ว”
“อย่างไรก็ตาม หากว่ามันมีพลังเพียงเท่านี้ล่ะก็…ขอเพียงพี่สามของเจ้าใช้พลังสายเลือด ก็คงสามารถเอาชนะมันได้ใน 10 กระบวนท่า”
ฟังจากคำพูดของหลิงหูเหรินเจี๋ย เห็นได้ชัดว่ามั่นใจในตัวลูกชายไม่น้อย
“ข้าได้ยินมาว่าต้วนหลิงเทียนเป็นคนจากระนาบเทวโลก ไม่ใช่ชนพื้นเมืองของระนาบเทพ…เช่นนั้นก็เลยไม่มีพลังสายเลือดให้ใช้”
หลิงหูอวิ๋นกล่าวออกมาอย่างทอดถอนใจ “เกรงว่ามันคงไม่อาจรับมือพี่สามได้ครบ 30 กระบวนท่าแล้ว”
ในขณะที่หลิงหูอวิ๋นกับหลิงหูเหรินเจี๋ยกำลังคุยกันนั้นเอง
ซัว!
ร่างต้วนหลิงเทียนที่ประมือกับหลิงหูจวินอยู่เมื่อครู่ อยู่ดีๆก็เคลื่อนมิติหายตัวไปไกลห่าง
“ต้วนหลิงเทียน”
หลิงหูจวินก็หยุดลง จากนั้นมันก็มองไปยังต้วนหลิงเทียนที่ปรากฏตัวไกลๆ ในแววตายังเผยความนับถือไม่น้อย “เจ้ายังเป็นแค่ราชาเทพขั้นต่ำแท้ๆ แต่กลับสู้กับข้าในสภาพนี้ได้อย่างไม่เสียเปรียบ นับว่าเจ้าเป็นราชาเทพขั้นต่ำที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่ข้าเคยพบเจอมาจริงๆ”
“เกรงว่าในนิกายมังกรสวรรค์เอง ก็ไม่มีราชาเทพขั้นต่ำที่ประมือกับข้าได้เหมือนเจ้ามากนัก”
“แต่…น่าเสียดายนัก เจ้าในฐานะคนที่มาจากระนาบเทวโลก จึงไม่มีพลังสายเลือดเหมือนชนพื้นเมืองในระนาบเทพ”
“ตอนนี้ข้าจะให้เจ้าเห็นพลังสายเลือดของข้า”
พอหลิงหูจวินกล่าวจบคำ ท่ามกลางสาลมสีเขียวที่ม้วนวนรอบกายมันปานพายุใต้ฝุ่น อยู่ๆก็ปรากฏเส้นสายอัสนีสีม่วงแลบลั่นแปลบปลาบขึ้นมา ราวกับมันเป็นพลังของกฏสายฟ้าอย่างไรอย่างนั้น!
แต่เรื่องพรรค์นั้นมันไม่น่าจะเป็นไปได้เลย!
หากทว่ากับเกิดขึ้นแล้วจริงๆ!
โดยปกติแล้ว กฏต่างๆจะไม่อาจใช้ออกมาพร้อมๆกันได้ ไม่ว่าจะในระนาบเทวโลกก็ดี หรือระนาบเทพก็ดี
ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดที่ทรงพลังที่สุดในสวรรค์และโลก ขณะลงมือก็ทำได้เพียงเลือกใช้พลังของกฏต่างๆได้แค่กฏเดียวเท่านั้น เป็นไปไม่ได้ที่จะใช้พลังของกฏออกมาพร้อมกัน 2 กฏ!
สิ่งนี้เป็นดั่งกฏเหล็กในสวรรค์และโลก ไม่มีผู้ใดสามารถฝ่าฝืนได้
‘หืม? ไม่ใช่…นั่นไม่ใช่พลังจากกฏสายฟ้า แต่เป็นพลังสายเลือดของมันที่สร้างสายฟ้านั่นขึ้นมา แถมยังผสานพลังสายฟ้านั่นเข้ากับพลังจากฏแห่งลมของมันโดยอัตโนมัติ!’
ต้วนหลิงเทียนอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะกลับมารู้สึกตัว และตระหนักได้ว่าสายฟ้าสีม่วงที่ปรากฏอยู่ในพลังกฏแห่งลมของหลิงหูจวินตอนนี้ มันไม่ใช่พลังอำนาจที่เกิดจากฏสายฟ้า แต่เกิดจากพลังสายเลือดของมัน
อย่างไรก็ตาม พอหลิงหูจวินลงมืออีกครั้ง ต้วนหลิงเทียนก็ตระหนักได้ถึงความน่ากลัวของพลังสายเลือดอีกฝ่าย!
พลังสายเลือดที่สร้างสายฟ้าผสานเข้ากับกฏแห่งลมนั่น แม้จะไม่ได้มีพลังอำนาจเท่ากับการผสานรวมความลึกซึ้งของกฏแห่งลม 4 ประการ แต่มันก็ทำให้พลังของกฏแห่งลมของหลิงหูจวิน ไม่ได้ด้อยไปกว่ากฏมิติของต้วนหลิงเทียนเลย
กล่าวได้ว่าพลังสายเลือดของหลิงหูจวิน ทำให้พลังของกฏแห่งลมมันทรงพลังขึ้นไปอีกขีดขั้น!
หากบอกว่าก่อนหน้า เป็นเพราะต้วนหลิงเทียนใช้กฏมิติ 1 ใน 4 กฏสูงสุดที่ทรงพลังเหนือกว่ากฏทั่วไปอย่างกฏแห่งลมจนยามผสานเข้ากับพลังของมรรคากระบี่มิติขั้นพื้นฐาน ก็ทำให้เสมอกับหลิงหูจวินที่ด่านพลังเหนือกว่าขั้นหนึ่งแต่ใช้กฏแห่งลมล่ะก็
เช่นนั้นยามหลิงหูจวินใช้พลังสายเลือดออกมา เสมือนว่าข้อได้เปรียบของกฏมิติอันเป็น 1 ใน 4 กฏสูงสุดที่มีต่อกฏแห่งลม มันได้หายไปหมดสิ้น!
กล่าวได้ว่าพอพลังอำนาจจากฏกลายเป็นทัดเทียม เช่นนั้นอาศัยพลังจากพื้นฐานมรรคากระบี่อย่างเดียว ก็ยากจะกลบถมความต่างของขั้นพลังได้…
พลังเทพของราชาเทพขั้นต่ำ กับราชาเทพขั้นกลางมันแตกต่างกันเกินไป
‘ได้เวลาเผยไพ่ตายอีกใบแล้วสิ…ว่าแต่จะใช้อะไรดีเล่า’
พอหลิงหูจวินใช้พลังสายเลือดแบบนี้ สีหน้าต้วนหลิงเทียนก็แลดูตึงเครียดอยู่บ้าง
นั่นเพราะเขามีไพ่ตายซ่อนไว้หลายใบ
แต่ในปัจุบัน อย่างน้อยๆกระบี่หลิงหลง 7 เปลี่ยนที่มีหวงเอ้อก็ควักออกมาใช้ไม่ได้แน่ เพราะในปัจจุบันหลิงหูจวินไม่ได้ใช้อาวุธใดๆ และถึงอีกฝ่ายจะควักอาวุธเทพออกมา ถ้าเป็นขั้นกลาง เขาก็จำต้องควักอาวุธเทพขั้นสูงออกมาใช้ถึงจะเอาชนะได้
ยิ่งไปกว่านั้น หากเขาชักอาวุธเทพขั้นสูงออกมาใช้ ก็ไม่แน่ว่าหลิงหูจวินจะไม่เปลี่ยนไปใช้อาวุธเทพขั้นสูงตาม เพราะสุดท้ายแล้วอีกฝ่ายก็อาจมีอาวุธเทพขั้นสูงอยู่ในครอบครองเช่นกัน ไม่ว่าจะมีเป็นของตัวเองหรือหลิงหูเหรินเจี๋ยหื้มก็ตามที
ด้วยภูมิหลังของตระกูลหลิงหู ย่อมมีอาวุธเทพขั้นสูง 1-2 ชิ้นอยู่ในครอบครองเป็นธรรมดา
และกระบี่หลิงหลง 7 เปลี่ยนก็ไม่อาจนำออกมาใช้ได้เด็ดขาด
พอถ้าควักออกมา เผลอๆหลิงหูเหรินเจี๋ยจะเป็นคนแรกที่งมือฆ่าเขาชิงกระบี่ไป
‘ร่างอวตารกฏต้นไม้สนหลิว?’
ทันใดนั้นเอง ต้วนหลิงเทียนก็นึกถึงร่างอวตารกฏต้นไม้เทพสนหลิวที่เขาเคยใช้มาก่อน ทำให้สองตาเป็นประกายขึ้นมาทันที แต่สุดท้ายเขาก็ล้มเลิกความคิดดังกล่าว ไม่ได้สร้างร่างอวตารกฏต้นไม้เทพสนหลิวแต่อย่างใด
เพราะร่างอวตารกฏต้นไม้เทพสนหลิวนั่น หากจะใช้มันให้เต็มประสิทธิภาพล่ะก็ เขาจำต้องเปิดโลกใบเล็กภายในกาย เพื่อชักนำพลังชีวิตจากพฤกษาเทพกำเนิดชีพออกมาหนุนเสริม
ทว่าการเปิดโลกใบเล็กน มันก็ไม่มีอะไรรับประกันได้เลย ว่าความลับในโลกใบเล็กเขาจะไม่ถูกหลิงหูเหรินเจี๋ยผู้นำตระกูลหลิงหูคนปัจจุบันค้นพบ
ต้องไม่ลืมว่าในโลกใบเล็กภายในกายเขายังมีเทพเบญจธาตุทั้ง 5 ที่หลับใหลเพื่อฟื้นพลังอยู่…
‘มรรคากระบี่มิติเบื้องต้น…พื้นฐานวิถีควบคุม การผสานรวมความลึกซึ้งของกฏมิติ 4 ประการ…จะเอาอันไหนออกมาใช้ดี?’
ในปัจจุบันต้วนหลิงเทียนสามารถเลือกได้จาก 3 ตัวเลือกนี้เท่านั้น
สุดท้ายท่ามกลางแรงกดดันจากการลงมือจู่โจมเป็นครั้งที่ 2 ของหลิงหูจวินในสภาพใช้พลังสายเลือด ต้วนหลิงเทียนก็ยกมือขึ้นสร้างกระบี่แสงอันแผ่กลิ่นอายแหลมคมขึ้นมาจากพลังมิติ เขาเลือกจะใช้มรรคากระบี่ขั้นตอนเบื้องต้นออกมา!
ต้องทราบด้วยว่า ตั้งแต่เดินทางมาถึงดินแดนดาราพิศวงแห่งนี้ นี่นับเป็นครั้งแรกเลยที่เขาได้ใช้พลังจากมรรคากระบี่มิติในขั้นตอนเบื้องต้นออกมาต่อหน้าผู้คน!
ในอดีต มรรคากระบี่มิติที่เขาใช้ออกมา มันก็เป็นแค่ขั้นพื้นฐานเท่านั้น
แต่ตอนนี้เขาไม่ได้ปกปิดอีกต่อไป
กระบี่แสงกระพริบวาบ!
ฟั่ฟฟ!!
ต้วนหลิงเทียนตวัดกระบี่แสงในมือออกมาฉับไว ทันใดนั้นก็อุบัติแสงพลังกระบี่สาดส่องออกมาเจิดจ้า ปานจะย้อมโลกใบเล็กของหลิงหูเหรินเจี๋ยให้เป็นสีเทาก็ไม่ปาน
และพอกระบี่นี้ถูกตวัดออก ความมีเปรียบของหลิงหูจวินก่อนหน้าก็มลายหายไปสิ้น ไม่เพียงสภาวะพลังจะถูกสะกดข่มเท่านั้น แต่ยังตกเป็นรองอย่างเห็นได้ชัด!
ซัว!
เชียะ!!
แสงกระบี่สว่างขึ้นไม่ทันไร ปอยผมของหลิงหูจวินก็ถูกตัดออก แถมยังมีรอยเฉือนเล็กๆราวแมวข่วนปรากฏขึ้นบนใบหน้าอันหล่อเหลาของมันอีกด้วย!
เลือดเพียงซึมออกมาเท่านั้น ไม่ได้ไหลออกจากปากแผล
เห็นชัดว่าความลึกของบาดแผลมันถูกคำนวณมาอย่างดี
“ข้าแพ้แล้ว”
หลิงหูจวินถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง จากนั้นพอมองต้วนหลิงเทียนอีกครั้งในแววตาก็เต็มไปด้วยความตกใจ
เดิมทีมันคิดว่าหลังจากเปิดใช้พลังสายเลือดแล้ว จะสามารถเอาชนะต้วนหลิงเทียนได้ใน 10 กระบวนท่า…แต่ไม่คิดเลยว่าอยู่ๆต้วนหลิงเทียนจะลงมือออกมาได้อย่างน่ากลัว กลายเป็นมันที่แพ้พ่ายอีกฝ่ายใน 2 กระบวนท่าเท่านั้น!
กระบี่แรกของต้วนหลิงเทียนก็ทำลายพลังกระบวนท่ามันได้ราบคาบ ส่วนกระบี่ที่ 2 ก็พุ่งมาด้วยความเร็วสูงล้ำจนตัดผมมันไปโดยที่ไม่ทันรู้ตัว ยังทิ้งรอยแผลไว้บนแก้วมันได้อย่างชวนขนลุกอีก
หากต้วนหลิงเทียนคิดฆ่ามันโดยเล็งกระบี่ที่ 2 มาที่หว่างคิ้วล่ะก็…เกรงว่ามันคงตายไปแล้ว!
“มรรคากระบี่…เจ้ากลับเข้าถึงมรรคากระบี่ได้จริงๆ!!”
เสียงหลิงหูจวินดังจบคำไม่ทันไร ในขณะที่สีหน้าหลิงหูอวิ๋นกลายเป็นอื้ออึงไม่ทราบเรื่องราว เสียงของหลิงหูเหรินเจี๋ยก็ดังก้องมาจากทั่วสารทิศ แถมน้ำเสียงยังเต็มไปด้วยความตกใจกลัว!
การเข้าใจมรรคากระบี่ของตัวเอง กับใช้พื้นฐานมรรคากระบี่ได้ เป็นสองเรื่องที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
อย่างหลังเป็นดั่งเมล็ดพันธุ์ที่ยังไม่งอกเงย
แต่อย่างแรกคือเมล็ดพันธุ์นั่นได้งอกเงยขึ้นมาแล้ว และพลังของมันก็ลึกล้ำยากหยั่งถึงนัก
หากกล่าวว่าการประมือระหว่างต้วนหลิงเทียนกับหลิงหูเหรินเจี๋ย สามารถอาศัยความได้เปรียบของกฏมิติอันเป็น 1 ใน 4 กฏสูงสุดกับพื้นฐานมรรคากระบี่ ก็กลบถมความต่างระหว่างด่านพลังราชาเทพขั้นต่ำกับราชาเทพขั้นกลางได้ล่ะก็
เช่นนั้นการที่ต้วนหลิงเทียนใช้มรรคากระบี่เบื้องต้นออกมา ก็ข้ามผ่านความต่างของขั้นพลังได้สมบูรณ์
มรรคากระบี่ เป็น 1 ใน 4 วิถีแห่งสวรรค์และโลก มันเป็นอะไรที่ลึกลับยากเข้าถึงมาก แม้แต่ในระนาบเทพเองก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเข้าใจกันได้
ไม่ว่าจะจักรพรรดิเทพ หรือแม้แต่อริยะเทพ ก็มีไม่น้อยที่ไม่อาจเข้าใจจตุรวิถีแห่งสวรรค์และโลกได้เลย
กลับกัน ต้วนหลิงเทียน ที่ยังเป็นแค่ราชาเทพขั้นต่ำแถมอายุไม่ถึง 3,000 ปี กลับเข้าใจมรรคากระบี่ได้แล้ว
พื้นฐานมรรคากระบี่ อาจกล่าวได้ว่าเป็นโชค
แต่มรรคากระบี่ที่แท้จริง นั่นคือพรสวรรค์กับความเข้าใจ
แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้ที่สมาชิกทั้ง 3 ของตระกูลหลิงหูจะรู้เรื่องที่ต้วนหลิงเทียนปกปิดอายุจริง และที่จริงอายุของต้วนหลิงเทียนต้องเอา 2,000 มาลบออกจากปัจจุบัน…หากพวกมันรู้ พวกมันคงได้ตกใจกันมากกว่านี้แน่
“มรรคากระบี่?”
เมื่อครู่หลิงหูจวินก็พอจะคาดเดาอะไรได้บ้างแล้ว พอได้ยินคำพูดของบิดา มันก็ยืนยันได้ทันที และหลังจากยืนยันได้แล้ว แววตาของมันก็ยิ่งฉายแววซับซ้อนมากขึ้น
ด้านหลิงหูอวิ๋นนั้น ตกใจจนอ้าปากค้างไปราวตัวโง่งมแล้ว
“ต้วนหลิงเทียน…นอกจากพวกเรา 3 คนแล้วมีผู้ใดที่ล่วงรู้อีกบ้างว่าเจ้าเข้าใจมรรคากระบี่?”
ทันใดนั้นเองภาพมายาของหลิงหูเหรินเจี๋นพลันควบสร้างขึ้นในโลกใบเล็ก ยังมองถามต้วนหลิงเทียนด้วยท่าทีรีบร้อนพิกล
“ไม่มี”
ต้วนหลิงเทียนส่ายหัวไปมา “ข้าพึ่งจะเข้าใจมันได้ไม่นาน…และนี่เป็นครั้งแรกที่ข้าใช้มันต่อหน้าคนอื่น”
พอหลิงหูเหรินเจี๋ยได้ยินดังนั้น สองตามันก็ลุกวาวขึ้นมาทันที “ดี! ดีมาก!!”