WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 3752 การตัดสินใจของอาวุโสเหล่ย
พอเห็นว่าหลินย่าหลินคล้ายบังเกิดอาการละอายใจหลังได้ยินคำพูดตัวเอง ต้วนหลิงเทียนก็เร่งกล่าวบอกปัญหาที่ประสบออกไปขณะหลอมโอสถเทพทันที
ครู่ต่อมาสีหน้ากระดากใจของหลินย่าหลินก็เปลี่ยนไป เริ่มคลี่ยิ้มออกมา “อาจารย์ต้วน สิ่งที่ท่านไม่เข้าใจ อันที่จริงแล้วมันเป็นแค่พื้นฐานของการหลอมโอสถเทพเท่านั้น”
“หากไม่รังเกียจข้ายินดีสอนให้ท่าน”
มาตอนนี้หลินย่าหลินค่อยตระหนักได้ ว่าอย่างไรชายหนุ่มชุดเมื่องเบื้องหน้าก็แค่ ‘เด็กน้อย’ จากระนาบเทวโลก พอเป็นการหลอมโอสถเทพแล้ว อีกฝ่ายยังมีเรื่องที่ไม่รู้อีกมาก
เป็นธรรมดาว่าสิ่งที่อีกฝ่ายไม่รู้ แม้จะเป็นแค่ขั้นพื้นฐานแต่ก็ไม่ค่อยมีใครเขียนตำราสอนเอาไว้ ส่วนมากจะถ่ายทอดกันผ่านปากเปล่ามากกว่า เพราะมันก็ค่อนข้างซับซ้อนแต่ยืดหยุ่นพอสมควร จึงไม่อาจบันทึกไว้เป็นคำพูดได้
“เช่นนั้นข้าต้องขอขอบคุณอาจารย์หลินล่วงหน้าแล้ว”
ต้วนหลิงเทียนเร่งกล่าวขอบคุณออกไปทันที
จากนั้นหลินย่าหลินก็หันไปมองหลิงหูเหรินเจี๋ย พลางส่งเสียงผ่านพลังไปว่า “หลิงหูคราวนี้เจ้าเก็บตกสมบัติล้ำค่ามาได้แล้วจริงๆ…พื้นฐานการหลอมโอสถที่อาจารย์ต้วนยังไม่เข้าใจนั้น ตราบใดที่สอนให้อีกฝ่ายเข้าใจแล้วล่ะก็ อีกไม่นานตระกูลหลิงหูของเจ้าจักมีปรมาจารย์หลอมโอสถเทพระดับจอมราชันอันเก่งกาจ!”
“เจ้าช่วยบอกให้ผู้อื่นหลอมยาให้ข้าดูที…ในความเห็นของข้า หลังจากที่ผู้อื่นเชี่ยวชาญพื้นฐานการหลอมโอสถเทพแล้ว ลองให้ผู้อื่นหลอมโอสถเทพระดับราชาดู ไม่แน่อาจหลอมโอสถเทพขั้นสุดยอดออกมาได้อีกสักเม็ดสองเม็ด!”
หลินย่าหลินเผยความคาดหวัง
ในขณะเดียวกัน ต้วนหลิงเทียนก็ได้ฟังจากหลินย่าหลินว่า เพื่อช่วยให้เขาศึกษาร่ำเรีนการหลอมโอสถเทพตั้งแต่พื้นฐบาน หลิงหูเหรินเจี๋ยก็ได้มอบหมายให้ตัวมันมาสอนเขาเป็นพิเศษ
“หากเป็นอย่างที่เจ้าว่าจริงเช่นนั้นก็ดียิ่ง รอให้ต้วนหลิงเทียนร่ำเรียนแล้วเสร็จ ข้าจะหาวัตถุดิบสมุนไพรมาให้ผู้อื่นหลอมเอง”
หลิงหูเหรินเจี๋ยพยักหน้า จากนั้นก็หยีตามองหลินย่าหลินและส่งเสียงผ่านพลังไปบอกสืบต่อว่า “ดูเหมือนว่าก่อนที่ต้วนหลิงเทียนจะออกจากตระกูลหลิงหูเรา โอสถระดับเทพที่สำคัญบางชนิด อาจไม่ต้องลำบากสหายเฒ่าเช่นเจ้าแล้ว”
“เหอะๆ ก็จริงของเจ้าให้ผู้เฒ่าเช่นข้าหลอม่อมไม่ต่างอะไรกับสิ้นเปลืองสมุนไพรเปล่าๆ เป็นการดีกว่าที่จะให้ต้วนหลิงเทียนหลอมมัน”
พอหลิงหูเหรินเจี๋ยกล่าวออกมาทำนองนี้ หลินย่าหลินก็คลี่ยิ้มสดใสออกมา…
“เช่นนั้น ต่อไปเดี๋ยวข้าออกจากตระกูลหลิงหูแล้วออกไปท่องเที่ยวเพียงลำพังด้วยเลย ดีหรือไม่?”
หลินย่าหลินไม่โกรธ เพียงกล่าวกับหลิงหูเหรินเจี๋ยด้วยน้ำเสียงเฉยเมย
และรอยยิ้มบนใบหน้าหลิงหูเหรินเจี๋ยก็ค้างเติ่งไปทันที จากานั้นก็คลี่ยิ้มโง่งมเร่งกล่าวง้อสหายเก่า “อั้ยหยา เฒ่าหลินอ่า ข้าล้อเล่นนิดเดียวเอง…”
ต้วนหลิงเทียนอาจกลายเป็นปรมาจารย์หลอมโอสถเทพอันเก่งกาจก็จริง แต่อีกฝ่ายไม่อาจอยู่ในตระกูลหลิงหูได้ตลอดไป
และถึงต้วนหลิงเทียนจะไม่ได้กลายเป็นปรมาจารย์หลอมโอสถเทพอันเก่งกาจ แต่สุดท้ายอีก 20 กว่าปีหลังจากนี้ ผู้อื่นเขาก็จะออกจากตระกูลหลิงหู และเข้าสู่นิกายมังกรสวรรค์อยู่ดี
อีกฝ่ายมีพรสวรรค์ทั้งเฉลียวฉลาดยิ่ง หากตระกูลหลิงหูรั้งตัวอีกฝ่ายไว้ ก็มีแต่จะฉุดฝีเท้าอีกฝ่ายให้ช้าลงเท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้น มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยที่อีกฝ่ายจะอยู่ตระกูลหลิงหูตลอดไป
ในช่วง 20 ปีหลังจากนี้ มันอาจขอให้ต้วนหลิงเทียนหลอมโอสถระดับเทพที่สำคัญๆบางอย่างได้ แต่ 20 ปีหลังจากนี้ พอต้วนหลิงเทียนย้ายไปอยู่นิกายมังกรสวรรค์แล้ว เกรงว่ามันคงไม่อาจขอให้อีกฝ่ายหลอมยาให้ตระกูลหลิงหูได้อีก
…
ต่อมาหากไม่ใช่หลินย่าหลินไปหาต้วนหลิงเทียนที่บ้าน ต้วนหลิงเทียนก็ไปหาหลินย่าหลินที่บ้านอีกฝ่ายแทน
และจุดที่ต้วนหลิงเทียนไม่เคยรู้มาก่อน พอได้หลินยย่าหลินช่วยสอน เขาก็เริ่มเข้าใจการหลอมโอสถเทพมากขึ้น
และในช่วงเวลาดังกล่าว ข่าวเรื่องที่ต้วนหลิงเทียนสามารถหลอมโอสถเทพเจี๋ยอี๋ปิ่งทั้ง 3 เม็ดถึงขั้นสุดยอด ก็ได้แพร่ออกไปทั่วตระกูลหลิงหู
และใช้เวลาไม่นานนักมันก็เริ่มแพร่กระจายไปทั่วเมืองหลิงหู กระทั่งพื้นที่ข้างเคียง
โอสถเทพขั้นสุดยอด!
มองไปในประวัติศาสตร์ของตระกูลหลิงหู ก็ไม่เคยปรากฏว่ามีใครหลอมได้มาก่อน แม้จะเป็นโอสถเทพที่มีระดับน้อยกว่าโอสถเทพเจี๋ยอี๋ปิ่งก็ตาม ทว่าไม่มีผู้ใดหลอมออกมาเป็นขั้นสุดยอดได้ทักคน
เช่นนั้นพอข่าวดังกล่าวแพร่กระจายไปทั่วเมืองหลิงหู ก็สร้างความรู้สึกดีๆให้แก่ผู้คนอย่างมาก
“ให้ตายเถอะ…อาคันตุกะแซ่ต้วนผู้นั้น เป็นมหาปราชญ์กลับชาติมาเกิดหรือไร? ไม่เพียงแต่จะเป็นอัจฉริยะที่มากล้นไปด้วยพรสวรรค์และความเข้าใจ ยังเป็นปรมาจารย์หลอมโอสถเทพตั้งแต่ยังเยาว์อีก แถมยังพึ่งเป็นราชาเทพขั้นต่ำเท่านั้น แต่กลับหลอมโอสถระดับเทพขั้นสุดยอดที่ปรมาจารย์หลอมโอสถเทพระดับราชาส่วนใหญ่ยังหลอมไม่ได้ออกมาอีก?”
“นี่นิกายหมอกเร้นลับปล่อยอัจฉริยะเช่นนี้ออกมาได้อย่างไร?”
“ตระกูลหลิงหูนับว่าเก็บตกสมบัติล้ำค่าได้จริงๆ ป่านนี้พวกนิกายหมอกเร้นลับคงปวดตับกันหน้าเขียวแล้วกระมัง?”
“เหอะๆ หากข้าเป็นประมุขนิกายหมอกเร้นลับนะ ข้าคงอยากเอาหัวโขกกำแพงตายแล้ว!”
…
ก่อนที่ต้วนหลิงเทียนจะเข้าร่วมตระกูลหลิงหู ชื่อเสียงและวีรกรรมของเขาก็แพร่ออกมาจากนิกายหมอกเร้นลับแต่แรก
อายุไม่ถึง 3,000 ปี สามารถผ่านการทดสอบประเมินศิษย์หลักขอบเขตเทพคนแรกในรอบหมื่นปีของนิกายหมอกเร้นลับ เรียกว่าเป็นอัจฉริยะที่เหนือกว่าเชวียไห่ชวนในอดีตเสียอีก
ต่อมาเมื่อต้วนหลิงเทียนฆ่าซั่งกวนฉงเฟิงกับหลงเซียวซึ่งเป็นศิษย์หลักของนิกายหมอกเร้นลับได้ ก็ทำให้ผู้คนที่ได้รับทราบเรื่องราวตกใจกันไม่น้อย
หากจะบอกว่าศิษย์ฝ่ายในที่ต้วนหลิงเทียนเข่นฆ่าไปบนแท่นยอดยุทธ์ก่อนหน้าไม่ค่อยมีคนนอกรู้จักล่ะก็
เช่นนั้นซั่งกวนฉงเฟิงกับหลงเซียว ก็เป็นอะไรที่คนนอกรู้จักกันดี ยังรู้ว่าทั้ง 2 คนนั่นล้วนแล้วแต่เป็น ศิษย์หลักที่แข็งแกร่งที่สุดติด 5 อันดับแรกของนิกายหมอกเร้นลับ!
อย่างไรก็ตาม กับตัวตนที่อาศัยด่านพังราชาเทพขั้นกลางก็เอาชนะอาวุโสฝ่ายในขอบเขตราชาเทพขั้นสูงส่วนใหญ่ของนิกายหมอกเร้นลับได้นั่น กลับถูกต้วนหลิงเทียนที่พึ่งทะลวงถึงราชาเทพขั้นต่ำปลิดชีพ!
เรียกว่าพอข่าวดังกล่าวแพร่มาถึงเมืองหลิงหู ก็ทำให้ทั้งเมืองหลิงหูตกตะลึง และหลายคนก็เริ่มสงสัยในข้อเท็จจริงของข่าวลือดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม เมื่อต้วนหลิงเทียนออกจากนิกายหมอกเร้นลับมาเข้าร่วมตระกูลหลิงหูในเมืองหลิงหูแห่งนี้ ผู้ที่เคยคลางแคลงสงสัยในข้อเท็จจริงของข่าวลือก่อนหน้า ก็ไม่กล้าสงสัยอีกต่อไป
ความจริงมันอยู่ตรงหน้าแล้วนี่ไง!
หากไม่ใช่เรื่องจริง ไฉนต้วนหลิงเทียนต้องออกจากนิกายหมอกเร้นลับมาเข้าร่วมกับตระกูลหลิงหูเช่นนี้ด้วย?
สำหรับเรื่องที่ต้วนหลิงเทียนเป็นคนทรยศเนรคุณนิกายหมอกเร้นลับนั้น ก็มีแต่คนในนิกายหมอกเร้นลับเท่านั้นที่ใส่ใจ กับคนนอกแล้วไม่ได้ใส่ใจอะไรกับเรื่องนี้มากนัก ยังรู้สึกว่าทางเลือกของต้วนหลิงเทียนเป็นสิ่งที่ถูกต้องอีกต่างหาก
หาไม่แล้วจะให้อยู่ในนิกายหมอกเร้นลับ เพื่อรอให้อาวุโสเหล่ยกับอาวุโสฟงฆ่าเอาหรือไร?
ชื่อของต้วนหลิงเทียนดังกระฉ่อนในเมืองหลิงหูมานาน และพึ่งจะหยุดไปได้สักพัก…บัดนี้พอได้ข่าวล่ามาแรงจากตระกูลหลิงหู ก็ทำให้ชื่อต้วนหลิงเทียนกลายเป็นจุดสนใจของคนทั้งเมืองทันที
“มันหลอมโอสถระดับเทพขั้นสุดยอดได้?”
ภายในห้องส่วนตัวแห่งหนึ่งของเหลาอาหารเมืองหลิงหู ปรากฏชายชราคนหนึ่งนั่งที่โต๊ะ สีหน้าของมันกลายเป็นอัปลักษณ์ปั้นยากทันใดหลังได้ทราบข่าว มันก็ฟาดจอกชาในมือลงโต๊ะอย่างแรงดัง ปัง หากทว่าน้ำชาไม่แม้แต่จะกระฉอก!
ทว่าต่อมามันก็สะบัดมือเขวี้ยงถ้วยชาทิ้งไปด้วยความโมโห จนถ้วนชาเสมือนยานเหาะ พุ่งละลิ่วทะลุผนังหายลับเข้ากลีบเมฆไป…
“ขอท่านอาจารย์สงบใจด้วย”
ฝั่งตรงข้าวชายชรา ชายหนุ่มที่นั่งอยู่เมื่อสัมผัสได้ถึงโทสะของชายชรา ก็เร่งลุกขึ้นยืนแล้วมองกล่าวกับชายชราด้วยสีหน้ากังวลใจ
หากต้วนหลิงเทียนมาอยู่ที่นี่และได้เห็นชายหนุ่มคนนี้ เขาคงจดจำอีกฝ่ายได้ทันที เพราะคนผู้นี้ก็คือศิษย์หลักของนิกายหมอกเร้นลับที่มาชวนเขาให้เข้าร่วมสำนักมัน และกราบอาวุโสเหล่ยเป็นอาจารย์หลังจากเขาสังหารถูเฟิงบนแท่นยอดยุทธ์วันนั้น สือถงหมิง
แต่ตอนนั้นเขาก็ได้ปฏิเสธสือถงหมิงไป
ตอนนั้นเขาคิดว่าคงจบเรื่องราวแล้ว แต่ไม่คิดเลยว่านั่นจะเป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น
ต่อมาศิษย์อีกคนของอาวุโสเหล่ย ซึ่งเป็นศิษย์พี่ของสือถงหมิง ‘หลงเซียว’ ที่ไม่พอใจในเรื่องนี้ ก็ถึงกับขอให้ซั่งกวนฉงเฟิงมาหาเรื่องเขา แถมรีดไพถโอสถเสริมโชค 2 เม็ดที่เขาแลกกับหวูเฟิงไป
อย่างไรก็ตาม มนานนักพวกมันทั้งคู่ก็ตกตายภายใต้เงื้อมมือของต้วนหลิงเทียน และกลายเป็นตัวพิสูจน์ความจริงเรื่อง ‘หากไม่ลงมือก็จะไม่ถูกตอบโต้’
“ฉงหมิง…”
ชายชราหรือก็คืออาวุโสเหล่ย หันไปมองถามชายหนุ่มด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย “หากข้าเลิก้างแค้นให้ศิษย์พี่ของเจ้า เจ้าว่า…มันจะตำหนิข้าหรือไม่?”
“ท่านอาจารย์…”
สือถงหมิงก็ได้แต่ยิ้มเฝื่อน กล่าวตอบไปว่า “ศิษย์พี่ต้องไม่โทษท่านแน่นอน”
“ท่านอาจารย์ ข้าคอยแนะนำท่านอยู่ตลอดว่าอ่าได้เป็นศัตรูกับต้วนหลิงเทียนผู้นั้น เพราะมันไม่เหมือนผู้คนแต่เป็นปีศาจ ยังเป็นปีศาจที่ร้ายกาจอย่างยิ่ง…”
“หากพิตารณาจากข้อมูลในปัจจุบันที่พวกเราได้มา หากว่ามันมีภูมิหลังจริงๆ ข้าเกรงว่าขุมกำลังที่อยู่เบื้องหลังมันอาจจะถึงขุมกำลังระดับจักรพรรดิเทพ แถมไม่น่าจะใช่ขุมกำลังระดับจักรพรรดิเทพทั่วไป”
“มีคนบอกว่าเจ้านั่นมันมาจากระนาบเทวโลก…แต่ในระนาบเทวโลกเคยปรากฏปีศาจเช่นนี้ด้วยหรือ?”
“มันยังมีอายุไม่ถึง 3,000 ปีด้วยซ้ำแต่ทะลวงถึงขอบเขตราชาเทพขั้นต่ำแล้ว แถมยังมิใช่ราชาเทพขั้นต่ำธรรมดาๆ แต่เป็นสุดยอดฝีมือขอบเขตราชาเทพขั้นต่ำที่ข้าไม่เคยแม้แต่จะได้ยินมาก่อน มาตอนนี้มันยังหลอมโอสถระดับเทพขั้นสุดยอดได้อีก…ต่อให้เป็นสุดยอดอัจฉริยะในขุมกำลังระดับจักรพรรดิเทพชั้นแนวหน้าของเขตคฤหาสน์ตงหลิง ข้ายังไม่เคยเห็นจะเคยได้ยินว่ามีใครที่ร้ายกาจเช่นนี้มาก่อนเลย และหากมีอายุเท่ากันก็นับว่าอ่อนด้อยกว่าต้วนหลิงเทียนหลายขุม”
“อาจารย์ศิษย์ทราบว่าการตายของศิษย์พี่ใหญ่ทำให้ท่านโมโหมาก…แต่ท่านลองนึกดูเถิด หากว่าศิษย์พี่ไม่ไปหาเรื่องต้วนหลิงเทียนก่อน ต้วนหลิงเทียนมันจะลงมือกับศิษย์พี่ทำอะไร”
สือถงหมิงเร่งเกลี้ยกล่อมอาจารย์ เพราะมันไม่อยากให้อาจารย์เป็นศัตรูกับต้วนหลิงเทียนผู้นั้นจริงๆ
ครั้งแรกที่มันพบเจอต้วนหลิงเทียน มันก็รู้สึกว่าอีกฝ่ายลึกลับอยากหยั่งถึงอยู่แล้ว ไม่คล้ายคนธรรมดาๆแม้แต่น้อย
ด้วยเหตุนี้แม้ต้วนหลิงเทียนจะปฏิเสธคำชวนของมัน แต่มันก็ไม่ได้เซ้าซี้อะไรให้มากความ เพราะมันมองออกว่าต้วนหลิงเทียนเป็นคนแน่วแน่ เมื่อตัดสินใจอะไรไปแล้ว คงไม่เปลี่ยนความตั้งใจง่ายๆแน่
ต่อมาพอต้วนหลิงเทียน กับมายังนิกายหมอกเร้นลับด้วยด่านพลังราชาเทพขั้นต่ำ จนฆ่าศิษย์พี่มันอย่างหลงเซียวกับซั่งกวนฉงเฟิงได้ง่ายๆ มันก็ตระหนักถึงความน่าหวาดกลัวของต้วนหลิงเทียนทันที
ตอนนี้พอรู้ว่าต้วนหลิงเทียนคนนั้น กลับมีความสามารถถึงขั้นหลอมโอสถระดับเทพขั้นสุดยอดออกมาได้ มันก็ยิ่งหวาดกลัวอีกฝ่ายมากขึ้น
ถึงแม้โอสถเทพเจี๋ยอี๋ปิ่ง จะเป็นแค่โอสถระดับเทพ แต่การจะหลอมออกมาให้เป็นขั้นสุดยอดได้นั้น น่ากลัวว่าอย่างน้อยๆก็ต้องเป็นปรมาจารย์หลอมโอสถเทพระดับจอมราชันลงมือ
ยิ่งไปกว่านั้นปรมาจารย์หลอมโอสถเทพระดับจอมราชันธรรมดาๆ ก็ไม่อาจหลอมได้อีกด้วย
อย่างน้อยปรมาจารย์หลอมโอสถเทพระดับจอมราชันของนิกายหมอกเร้นลับ ก็ไม่มีความสามารถดังกล่าว
“อืม”
อาวุโสเหล่ยระบายลมหายใจออกมาอย่างทอดถอน คนคล้ายแก่ตัวลงสิบกว่าปีในพริบตา จากนั้นมันก็หันไปมองกล่าวกับสือถงหมิงว่า “ถงหมิงเอย เจ้าไปเยือนตระกูลหลิงหูในนามอาจารย์ แล้วขอพบต้วนหลิงเทียนผู้นั้นเถอะ”
“จากนั้นบอกมันว่า เพราะหลงเซียวศิษย์พี่เจ้าเป็นฝ่ายหาเรื่องมันก่อน เช่นนั้นการฆ่าหลงเซียวไปก็ถือว่าเป็นความผิดของหลงเซียว จากนี้ต่อไปข้าไม่คิดติดใจเอาความอีก…ข้ากับมันต่างคนต่างอยู่เถอะ!”
อาวุโสเหล่ยเลือกประนีประนอม
ไม่ว่าจะเป็นความสามารถอันร้ายกาจเหนือคาดคิดของต้วนหลิงเทียนก็ดี หรือความเป็นมาอันลึกลับไม่ธรรมดาของต้วนหลิงเทียนก็ดี ตอนนี้มันก็ได้แต่รามือเท่านั้น
เดิมทีที่มันมารั้งอยู่ในเมืองหลิงหูแบบนี้ ก็เพื่อหาโอกาสจับตัวต้วนหลิงเทียนกลับไปนิกายหมอกเร้นลับ
ทุกอย่างเพราะการตายของหลงเซียว
และตอนนี้ มันก็ปล่อยวางแล้ว
เพราะมันมีลางสังหรณ์อันแรงกล้า ว่าหากมันยังตอแยวุ่นวายกับต้วนหลิงเทียนอยู่อีก สุดท้ายไม่ใช่แค่มันกับศิษย์ในนิกายเท่านั้นที่จะซวยไปกับมัน บางทีแม้แต่นิกายหมอกเร้นลับก็อาจจะประสบเคราะห์ไปกับมันด้วย