WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 3777 หลิงหูเหรินเจี๋ยยอมรับความผิดกลางโถงบรรพชน
- Home
- WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์
- ตอนที่ 3777 หลิงหูเหรินเจี๋ยยอมรับความผิดกลางโถงบรรพชน
เวลาผันผ่านไปว่องไวดั่งม้าขาวควบทะยาน
ไม่กี่เดือนได้ล่วงเลยผ่านพ้นไปดุจลัดนิ้วมือ
ณ ตระกูลหลิงหู
บ้านพักของต้วนหลิงเทียน
“นายน้อย ผู้อาวุโสเหิงกับผู้อาวุโสฮวนได้มารอท่านอยู่ด้านนอกแล้วขอรับ อาวุโสทั้งสองกล่าวว่าถึงเวลาต้องไปแล้วขอรับ…”
เสียงของพ่อบ้าน หวางฟู่ ดังขึ้นจากด้านนอก ปลุกต้วนหลิงเทียนที่กำลังจดจ่อกับการควบสร้างร่างอวตารกฏมิติให้ตื่นขึ้นทันที “เวลาผ่านไปไวขนาดนี้เชียว?”
“แต่ยังโชคดีที่ใกล้จะเสร็จแล้ว…”
“ส่วนที่เหลือสมควรทำเสร็จในเรือเหาะ…”
ขณะกล่าวพึมพำเบาๆกับตัว ต้วนหลิงเทียนก็ได้หยุดกระบวนการควบสร้างร่างอวตารกฏมิติทันที จากนั้นก็ลุกออกจากเตียง เดินออกประตูไป หลังเดินตามหวางฟู่ออกไปด้านนอก เขาก็ได้พบว่าภายในลานได้ปรากฏร่างผู้เฒ่าเหิงฮวน คู่แฝดของตระกูลหลิงหูคอยท่าอยู่แล้ว…
“ผู้เฒ่าเหิง ผู้เฒ่าฮวน”
ต้วนหลิงเทียนก็ยกมือประสานพลางทักอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้ม “การเดินทางหลังจากนี้ ต้องรบกวนพวกท่านอีกแล้ว”
หลิงหูฮวนผู้มีร่างผอมเพรียวปานลำไผ่นั้น ยังคงเงียบขรึมสงวนวาจาดั่งทองเหมือนเคย มันเพียงตอบรับคำทักว่า ‘อืม’ เบาๆเท่านั้น กลับกันอาวุโสเหิงที่ร่างอ้วนกลมปานลูกบอล ใบหน้าอ้วนๆของมันพลันกระเพื่อมสั่นไหวเพราะหัวเราะกล่าวว่า “เจ้าหนูหลิงเทียน ข้าได้ยินจากผู้นำมาว่าเจ้าทะลวงถึงราชาเทพขั้นกลางแล้วเช่นนั้นรึ ดูเหมือนว่าการแข่งขันมังกรซ่อนของนิกายมังกรสวรรค์ครั้งนี้ เจ้าก็มีลุ้น 3 อันดับแรกแล้วสิ?”
“ข้าเองก็หวังว่าจะเป็นอย่างที่ผู้เฒ่าเหิงพูด”
ต้วนหลิงเทียนคลี่ยิ้มพลางพยักหน้าตอบคำ
อย่างไรก็ตาม หลังต้วนหลิงเทียนติดตามผู้เฒ่าทั้ง 2 ไปพักหนึ่งเขาก็พบว่านอกจากเขากับผู้เฒ่าทั้ง 2 แล้วกลับไม่มีคนอื่นอีกเลย สิ่งนี้ทำให้ต้วนหลิงเทียนอดแปลกใจไม่ได้ “ผู้เฒ่าเหิง แล้วคนอื่นๆล่ะ หรือในตระกูลหลิงหูไม่มีใครไปสมัครนิกายมังกรสวรรค์นอกจากข้าแล้วเหรอ?”
“คนอื่นๆ ผู้นำได้พาพวกมันล่วงหน้าไปก่อนแล้ว”
หลิงหูเหิงกล่าว
อย่างไรก็ตามหากสังเกตให้ดีจะพบว่ายาวมันกล่าวคำ ลึกลงไปในดวงตามันกลับฉายแววผิดแปลกขึ้นมาวูบหนึ่ง และพอดีต้วนหลิงเทียนไม่ทันได้สนใจ จึงยากจะพบเห็น
เป็นธรรมดาว่าคำตอบของหลิงหูเหิงก็ทำให้ต้วนหลิงเทียนอดแปลกใจไม่ได้
การประเมินทดสอบของนิกายมังกรสวรรค์รวมถึงการแข่งขันมังกรซ่อน ไม่เพียงแต่เขาเองก็ตั้งหน้าตั้งตารอ แต่ภายในตระกูลหลิงหูก็มีรุ่นเยาว์ที่โดดเด่นมากมายตั้งหน้าตั้งตารอคอยอยู่เช่นกัน หากเป็นสายรองก็สนใจทั้งศิษย์ฝ่ายในและฝ่ายนอก ส่วนเหล่าทายาทสายเลือดหลักก็มุ่งเป้าไปที่ศิษย์ฝ่ายใน
“ไปกันเถอะ…”
หลังต้วนหลิงเทียนขึ้นเรือเหาะระดับจอมราชันเทพแล้ว หลิงหูเหิงก็กล่าวทักเล็กน้อยก่อนจะควบคุมเรือเหาะให้บินฉิวออกจากตระกูลหลิงหูไปทันที ไม่ทันไรก็เดินทาพ้นเขตเมืองหลิงหู มุ่งหน้าไปยังสถานที่ตั้งนิกายมังกรสวรรค์
และเนื่องจากเวลาไม่ได้กระชั้นอะไรมากมาย เช่นนั้นเรือเหาะจึงบินด้วยความเร็วระดับจอมราชันเทพขั้นต่ำเท่านั้น
ด้วยความเร็วดังกล่าว จึงพอมีเวลาอยู่บ้างก่อนจะถึงนิกายมังกรสวรรค์
ด้านต้วนหลิงเทียนหลังกล่าวบอกผู้เฒ่าเหิงฮวนแล้ว ก็เริ่มควบสร้างร่างอวตารกฏมิติต่อ เนื่องจากกระบวนการดังกล่าวก็เกิดขึ้นภายในร่างกาย มีเพียงแค่กลิ่นอายพลังของพลังเทพธาตุมิติเท่านั้นที่พุ่งพล่านไปทั่วร่างกาย ไม่ได้เผยการผสานรวมความลึกซึ้งของกฏมิติออกไป เช่นนั้นต้วนหลิงเทียนจึงไม่ต้องกังวลอะไร และควบสร้างร่างอวตารกฏมิติต่อหน้าผู้เฒ่าเหิงฮวนได้อย่างสบายใจ
“เจ้าหนูนี่มันกำลังควบสร้างร่างอวตารกฏมิติรึ?”
หลิงหูเหิงอดไม่ได้ที่จะหันไปมองถามหลิงหูฮวนผ่านพลัง “ฮวน เจ้าว่ามันมีโอกาสได้อันดับในการแข่งขันมังกรซ่อนหรือไม่…เพราะในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ในตระกูลหลิงหูเราคนที่ทำได้ดีที่สุดก็แค่ติด 3 อันดับแรกเท่านั้น”
การแข่งขันมังกรซ่อนของนิกายมังกรสวรรค์ แม้จะจัดขึ้นทุกๆรอบ 100 ปี
อย่างไรก็ตาม ตระกูลหลิงหูที่สืบทอดต่อๆกันมาเนิ่นนานกลับไม่มีใครเคยได้อันดับ 1 ในการแข่งขันมังกรซ่อนเลย เช่นนั้นการแข่งขันมันรุนแรงขนาดไหน ก็พอจะจินตนาการได้ออก
“ยาก”
หลิงหูฮวนส่ายหัวไปมา เห็นได้ชัดว่ามันไม่ได้มองโลกในแง่ดีสำหรับต้วนหลิงเทียนสักเท่าไหร่ “หากมันเป็นราชาเทพขั้นสูง ข้าเชื่อว่าด้วยพลังสามารถมันย่อมได้รับอันดับ 1 ง่ายๆ…แต่ตอนนี้มันเป็นเพียงราชาเทพขั้นกลางเท่านั้น”
“เจ้าก็อย่าได้ลืมไป ในการแข่งขันมังกรซ่อน ล้วนไม่ขาดรุ่นเยาว์อัจฉริยะ กระทั่งบางคนแม้จะเป็นเพียงราชาเทพขั้นสูง แต่กลับสามารถประมือกับจอมราชันเทพขั้นต่ำได้นานสองนานด้วยซ้ำ…”
คำพูดผ่านพลังของหลิงหูฮวนครั้งนี้ นับว่ามากกว่าที่มันพูดมาตลอดทั้งปีเสียอีก
“ก็จริงของเจ้า…”
หลิงหูเหิงพยักหน้าเห็นด้วย จากนั้นก็หันไปมองร่างชายหนุ่มชุดม่วงที่ไปนั่งขัดสมาธิกลางอากาศด้านหนึ่งของห้องโดยสารเรือเหาะด้วยสายตาซับซ้อน “อย่างไรเสียเจ้าหนูนี่มันก็ยังมีอายุไม่ถึง 3,000 ปีเลย…มันเข้าร่วมการแข่งขันมังกรซ่อนด้วยอายุเพียงเท่านี้ นับว่าเสียเปรียบผู้อื่นอย่างแรง…”
“แม้แต่ในตระกูลหลิงหูของพวกเราเอง ในบรรดารุ่นเยาว์ ก็มี 3 คนที่มีพลังฝีมือไม่ได้อ่อนด้อยไปกว่าเจ้าหนุ่มนี่ยามเข่นฆ่าซั่งกวนฉงเฟิงกับหลงเซียว…อย่างไรก็ตามนี่มันก็ผ่านมา 20 กว่าปีแล้ว ความแข็งแกร่งของเจ้าหนูสมควรเพิ่มพูนขึ้น และสมควรเหนือกว่าเด็กเหลือขอทั้ง 3 นั่นแล้ว…”
หลิงหูเหิงกล่าวพึมพำ
เป็นธรรมดาว่าเสียงพึมพำของมันก็ดังพอให้มันกับหลิงหูฮวนได้ยินเท่านั้น ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนกำลังจมอยู่กับการควบสร้างร่างอวตารกฏมิติเลย
ในปัจจุบันเรียกว่าต้วนหลิงเทียนกำลังพยายามเต็มกำลังเพื่อควบสร้างร่างอวตารกฏมิติให้แล้วเสร็จ ก่อนที่การแข่งขันมังกรซ่อนของนิกายมังกรสวรรค์จะเริ่มต้นขึ้น…
…
ต้วนหลิงเทียนเองก็ไม่ได้รู้เลย ว่าในบรรดารุ่นเยาว์ของตระกูลหลิงหูที่คิดไปเข้าร่วมการประเมินทดสอบรับศิษย์ของนิกายมังกรสวรรค์ครั้งนี้ที่ออกเดินทางไปล่วงหน้านั้น คนที่นำพาพวกมันไปกลับไม่ใช่หลิงหูเหรินเจี๋ยอย่างที่ผู้เฒ่าเหิงกล่าว แต่กลับเป็นอาวุโสสูงสุดคนหนึ่งของตระกูลหลิงหู หลิงหูเจิ้งซิง
กล่าวได้ว่า หลิงหูเจิ้งซิงได้เป็นคนนำพารุ่นเยาว์ของตระกูลหลิงหูไปเข้าร่วมการทดสอบด้วยตัวเอง!
และนี่ก็เป็นเรื่องที่หลิงหูเหรินเจี๋ยร้องขอมันเป็นการส่วนตัว
ไม่กี่วันหลังจากที่ต้วนหลิงเทียนออกเดินทางไปกับผู้เฒ่าเหิงฮวน ด้านหลิงหูเหรินเจี๋ย ก็ได้เรียกเหล่าอาวุโสหลักของตระกูลให้มารวมตัวกันในโถงบรรพชน กระทั่งหลิงหูชิงเจ๋อและอาวุโสสูงสุดที่ออกไปช่วยคุ้มกันต้วนหลิงเทียนวันนั้นก็ถูกเรียกมาเช่นกัน
ภายในตระกูลหลิงหูนั้นอาวุโสฝ่ายในของตระกูล ก็เทียบได้กับอาวุโสฝ่ายในของนิกายหมื่นปีศาจและนิกายหมอกเร้นลับ
อาวุโสหลักของตระกูลหลิงหู ก็ไม่ต่างอะไรจากอาวุโสหลักของนิกายหมื่นปีศาจและนิกายหมอกเร้นลับเช่นกัน ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นราชาเทพขั้นสูง ยังเป็นชนชั้นยอดฝีมืออีกด้วย
ส่วนอาวุโสสูงสุดของตระกูลหลิงหูนั้น ก็จะเป็นจอมราชันเทพขั้นต่ำที่ทรงพลังไม่ใช่ชั่ว
และบัดนี้ภายในโถงบรรพชนของตระกูลหลิงหู ตั้งแต่อาวุโสหลักจวบจนไปถึงอาวุโสสูงสุดที่ยังอยู่ในตระกูลก็ได้มารวมตัวกันพร้อมหน้าพร้อมตาเพราะหลิงหูเหรินเจี๋ยนัดประชุม…ไม่ผิด สถานที่นัดประชุมเป็นโถงบรรพชน
โดยปกติแล้ว การประชุมระดับนี้มักจะใช้ห้องโถงหลักของตระกูล
ทว่าวันนี้หลิงหูเหรินเจี๋ยกลับเรียกทุกคนให้มารวมตัวกันที่โถงบรรพชน
เช่นนั้นแล้ว โถงบรรพชนที่ปกติมักเปลี่ยวร้างไร้ผู้คน วันนี้ก็เลยคึกคักเป็นพิเศษ
“ไฉนผู้นำถึงเรียกพวกเราให้มารวมตัวกันที่นี่เล่า?”
อาวุโสหลักคนหนึ่งเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“ข้าเองก็ไม่ทราบ…ปกติแล้วไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ไม่น่ามาหารือกันที่นี่ สมควรไปหารือกันที่โถงหลักมากกว่า”
อาวุโสหลักอีกคนย่นคิ้ว
“แม่เฒ่าชิงเจ๋อมาแล้ว”
เมื่อหญิงชรานางหนึ่งก้าวอาดๆเข้ามายังโถงบรรพชน อาวุโสหลักหลายคนที่มาถึงก่อนก็เร่งทักทายนางด้วยความเคารพทันที เพราะหญิงชรานางนี้ก็เป็นหนึ่งในบรรดาผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลหลิงหู หลิงหูชิงเจ๋อ
นอกจากนั้นนางยังเป็นผู้ที่คอยติดตามดูแลความปลอดภัยของหลิงหูชูยิน ตอนที่ต้วนหลิงเทียนได้พบกับหลิงหูชูยินครั้งแรกที่เมืองจวินหลิงในอดีต
“อาวุโสถังผิงก็มา!”
ไม่นานนักก็มีชายชราอีกคนก้าวเข้ามาในห้องโถงบรรพชน เป็นชายชราที่มีใบหน้าอ่อนวัยนัก
ชายชราดังกล่าวมีชื่อว่า หลิงหูถังผิง มันก็เป็นอาวุโสสูงสุดอีกคนของตระกูลหลิงหู ยังเป็นจอมราชันเทพขั้นต่ำชนชั้นยอดฝีมือ และหากต้วนหลิงเทียนมาอยู่ภายในโถงบรรพชนด้วยล่ะก็ต้องจดจำมันได้ทันทีแน่ เพราะมันก็คือชายชราที่ติดตามไปคุ้มกันเขาพร้อมกับหลิงหูชิงเจ๋อ หลิงหูเจิ้งซิง และผู้เฒ่าเหิงฮวน สุดท้ายก็สามารถปิดล้อมอาวุโสฟงของนิกายหมอกเร้นลับให้จนตรอกสิ้นทาง ถึงขั้นต้องระเบิดโลกใบเล็กภายในกาย
แต่เป็นธรรมดาว่าในตระกูลหลิงหูไม่ได้มีตัตนระดับจอมราชันเทพเพียงเท่านี้
ไม่นานนัก ผู้คนอีกนับโหลก็ทยอยกันมาถึง ทั้งหมดเป็นอาวุโสสูงสุดเช่นกัน แต่แม้ด่านพลังของพวกมันจะอยู่ในขอบเขตจอมราชันเทพขั้นต่ำ แต่พลังฝีมือกลับไม่ร้ายกาจเท่าหลิงหูเจิ้งซิง และผู้เฒ่าเหิงฮวน เพราะทั้ง 3 คนนั้นเป็นขุมพลังที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลหลิงหู อย่างไรก็ตามสถานะในตระกูลหลิงหูของพวกมันก็ถือว่าทัดเทียมกับ 3 อาวุโสหลักที่ยังเหลืออยู่ของนิกายหมอกเร้นลับ
ตั้งแต่ที่อาวุโสฟงของนิกายหมอกเร้นลับตายไป นิกายหมอกเร้นลับก็ไม่มีแล้ว ฟงเหล่ย อวิ๋นหวู่ เพียงเรียกรวมๆกันว่า เหล่ย อวิ๋น หวู่ เท่านั้น
ราวๆ 2 เค่อต่อมา กล่าวได้ว่าอาวุโสหลักและอาวุโสสูงสุดของตระกูลหลิงหูตราบใดที่ยังอยู่ในตระกูลหลิงหูก็ล้วนมารวมตัวกันที่โถงบรรพชนกันหมด และนอกจากไม่กี่คนในนี้ที่รู้เรื่องราวบางอย่าง ก็ไม่มีใครล่วงรู้เลยว่าหลิงหูเหรินเจี๋ยเรียกพวกมันมาที่นี่ทำไม
“ไฉนผู้นำยังไม่มาอีกเล่า?”
ในขณะที่มีอาวุโสบางคนย่นคิ้วกล่าวบ่นออกมาด้วยความไม่พอใจ ก็มีร่างหนึ่งก้าวมาถึงหน้าประตูทางเข้าโถงบรรพชนพอดี
“ผู้นำตระกูล”
“ผู้นำตระกูล”
…
ผู้ที่พึ่งมาถึงทางเข้าโถงบรรพชนก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นหลิงหูเหรินเจี๋ยที่เรียกทุกคนให้มารวมตัวกันที่นี่วันนี้นั่นเอง และแทบทุกคนก็กล่าวทักมัน และมีหลายคนที่กำลังมองมันด้วยสายตาสงสัย ด้วยไม่รู้ว่าหลิงหูเหรินเจี๋ยเรียกพวกมันมาที่นี่ทำอะไรกันแน่
แต่ในขณะที่บางคนคิดจะกล่าวถามออกมา พวกมันก็พบว่าหลิงหูเหรินเจี๋ยได้ก้าวอาดๆเข้ามาในโถงบรรพชนด้วยสีหน้าเคร่งขรึมจริงจัง ก่อนจะเดินผ่านทุกคนไปถึงเบื้องหน้าหิ้งที่ตั้งป้ายวิญญาณของบรรพชนด้านหนึ่ง
ป้ายวิญญาณนับร้อยที่ตั้งบนหิ้งนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นบรรพชนของตระกูลหลิงหูที่ตกตายไปเพราะหายนะสวรรค์ทั้งสิ้น
ตุบ!
…
ภายใต้สายตาสงสัยของทุกคน อยู่ๆหลิงหูเหรินเจี๋ยก็คุกเข่าลงเบื้องหน้าหิ้งตั้งป้ายวิญญาณ และในขณะที่ทุกคนกำลังมองชมเรื่องราวด้วยความตะลึงหลิงหูเหรินเจี๋ยก็ได้โขกศีรษะลงกับพื้น 3 ครั้ง
พอทุกคนกลับมารู้สึกตัว ด้านคนที่ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น หนังศีรษะของพวกมันก็รู้สึกด้านชาขึ้นมา
เพราะถึงแม้พวกมันจะยังไม่ทราบว่านี่มันเรื่องอะไรกันแน่ แต่ฉากตรงหน้าก็มากพอจะบอกให้พวกมันตระหนักได้คร่าวๆว่าต้องเป็นเรื่องสำคัญแน่นอน
“บรรพชนทั้งหลาย ลูกหลานอกตัญญูหลิงหูเหรินเจี๋ย วันนี้ขอลาออกจากตำแหน่งผู้นำตระกูล และผู้นำตระกูลคนใหม่จักถูกคัดเลือกโดยผู้อาวุโสทั้งหลาย”
ในขณะที่วาจาจริงจังของหลิงหูเหรินเจี๋ยดังก้องไปทั่วโถงบรรพชน เหล่าอาวุโสทั้งหลายก็หน้าเปลี่ยนสีทันที
ผู้นำตระกูลหลิงหูคนปัจจุบัน หลิงหูเหรินเจี๋ย อยู่ๆก็กล่าวประกาศถอนตัวออกจากตำแหน่งผู้นำจริงๆ?
“ผู้นำตระกูล นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?”
หลิงหูเหรินเจี๋ยขมวดคิ้วพลางถาม
ไม่เพียงแต่นางเท่านั้น กระทั่งอาวุโสกว่า 9 ส่วนภายในโถงบรรพชนแห่งนี้ก็ไม่ทราบว่านี่มันเรื่องอะไรกันแน่ ยังอดมองหลิงหูเหรินเจี๋ยด้วยความตกใจไม่ได้
และในขณะนั้นเอง หลิงหูเหรินเจี๋ยก็ได้ประกาศออกมาเสียงดัง “ข้า หลิงหูเหรินเจี๋ย ในฐานะผู้นำตระกูลหลิงหูกลับใช้อำนาจโดยมิชอบเพื่อเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว ปล่อยให้ต้วนหลิงเทียนอาศัยอยู่ในห้องลับแห่งกฏของตระกูลเป็นเวลา 3 ปีติดต่อ จนทำให้สายแร่หินเทพเกือบ 1 ใน 3 ส่วนของตระกูลจำต้องพร่องไป…”
“หลังจากนั้น ข้ายังจงใจปกปิดเรื่องนี้เอาไว้ จนส่งผลเสียต่อตระกูลหลิงหู บัดนี้ต่อหน้าบรรพชนผู้ล่วงลับและอาวุโสทุกท่าน ข้าหลิงหูเหรินเจี๋นที่รู้ผิดจึงขอลาออกจากตำแหน่งผู้นำตระกูล ส่วนบทลงโทษหลังจากนี้ มิว่าอาวุโสทั้งหลายจักตัดสินเช่นไร ข้า หลิงหูเหรินเจี๋ย พร้อมน้อมรับทุกสิ่งอย่าง!”