WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 3806 หลันอวี่ซานลงมือ
ในการแข่งขันมังกรซ่อนนั้น มีแค่ผู้ที่ติด 100 อันดับแรกเท่านั้น ถึงจะได้รับการจัดอันดับเฉพาะ
เป็นธรรมดาว่าตั้งแต่อันดับที่ 31 ถึง 100 ของรางวัลที่ได้จะมีรางวัลเหมือนกันหมด
กลับกันด้านอันดับที่ 1 ถึง 30 ของรางวัลนั้นยิ่งอันดับดีมันก็จะดีตาม
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 10 อันดับแรก จะได้รับของรางวัลมากมาย และต้องทราบด้วยว่าทางนิกายมังกรสวรรค์ถึงกับมอบโอสถเทพทะลวงราชันให้เป็นของรางวัลยืนพื้น โอสถเทพที่สามารถช่วยให้ตัวตนขอบเขตราชาเทพขั้นสูงทะลวงถึงขอบเขตจอมราชันเทพขั้นต่ำได้ทันที!
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้อันดับที่ 31 ถึง 100 จะได้รับของรางวัลเหมือนกันหมด แต่การต่อสู้เพื่อช่วงชิงอันดับดีๆก็นับว่าเข้มข้นมาก ทุกคนมุ่งหวังจะได้อันดับดีๆเพื่อเชื่อเสียงทั้งนั้น
“เจ้าพวกนี้แลดูจริงจังกันเสียจริง”
โหวชิ่งหนิงหัวเราะ
“นั่นมันแน่อยู่แล้ว”
ติงเหยียนกล่าว “ถึงแม้ของรางวัลที่ได้จะไม่แตกต่าง แต่พวกมันมีใครเป็นตัวโง่งมเล่า…โอกาสแสดงฝีมือเช่นนี้ไม่ใช่ว่าจะมีบบ่อยนัก ไม่แน่อาจความพยายามของมันอาจทำให้อาวุโสมังกรดำบางคนเห็นแววจนรับไปเป็นศิษย์ก็เป็นได้”
“ว่าแต่มีโอกาสบ้างไหม ที่จะเข้าตาอาวุโสมังกรทอง?”
โหวชิ่งหนิงเอ่ยถาม
“ว่ากันตามตรง เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้เลย”
ติงเหยียนส่ายหน้าไปมา “อาวุโสมังกรทองในนิกายมังกรสวรรค์มีน้อยคนนัก…และสถานะของอาวุโสมังกรทองในนิกายหมอกเร้นลับ ก็ไม่ต่างอะไรจากฐานะอาวุโสสูงสุดทั้ง 3 ของนิกายหมอกเร้นลับ”
“ไม่ต้องกล่าวถึงอันดับที่ 31 ลงมาด้วยซ้ำ…กระทั่งอันดับที่ 11 ถึง 30 อาวุโสมังกรทองยังไม่เหลียวแลด้วยซ้ำ ยังจะโดนดูถูกเอาเข้าง่ายๆ”
“มีก็แต่ 10 อันดับแรกเท่านั้น ที่พอมีความหวัง แม้มันจะริบหรี่ก็ตามที”
ติงเหยียนย่อมล่วงรู้สถานการณ์ภายในนิกายมังกรสวรรค์ดี
ในนิกายมังกรสวรรค์ ชนชั้นอาวุโสมังกรดำยังไม่ใช่จุดสูงสุดของผู้อาวุโส เหนืออาวุโสมังกรดำยังมีอาวุโสมังกรทอง ซึ่งแต่ละคนถือเป็นเสาหลักอันสำคัญของนิกายมังกรสวรรค์ และให้มองไปทั่วนิกายมังกรสวรรค์ก็มีอยู่ด้วยกันไม่กี่คนเท่านั้น
และอาวุโสมังกกรทอง ไม่ว่าใครล้วนเป็นชนชั้นยอดฝีมือในบรรดายอดฝีมือขอบเขตจอมราชันเทพขั้นสูงอีกที!
กระทั่งประมุขนิกายมังกรสวรรค์คนปัจจุบัน ยังมีพลังฝีมือไม่สู้อาวุโสมังกรทอง!
ลำดับพลังฝีมือในนิกายมังกรสวรรค์นั้น ชนชั้นอาวุโสมังกรทองคือตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุด จากนั้นก็เป็นประมุขนิกาย และรองประมุขนิกาย ต่อมาถึงจะเป็นอาวุโสมังกรดำ แต่เรื่องที่น่าสนใจก็คือยังมีอาวุโสมังกรดำบางคนที่ไม่ได้อ่อนด้อยไปกว่าประมุขหรือรองประมุขนิกายเลย
‘อาวุโสมังกรทอง…’
ต้วนหลิงเทียนที่อยู่ข้างๆก็ฟังบทสนทนาของโหวชิ่งหนิงกับติงเหยียนเงียบๆ เขาเองก็เคยได้ยินมาว่าในนิกายมังกรสวรรค์มีตัวตนระดับอาวุโสมังกรทองอยู่ไม่กี่คน และไม่ว่าใครก็แข็งแกร่งใกล้เคียงตัวตนระดับจักรพรรดิเทพ
กระทั่งมีอยู่ 1-2 คนที่ห่างจากขอบเขตจักรพรรดิเทพแค่ก้าวเดียว
…
พริบตาเดียวอีกวันก็ผ่านไป
วันนี้ ยังเป็นวันที่ 30 อันดับแรกจะถูกจัดอันดับเฉพาะ
สำหรับลำดับในการต่อสู้นั้น ยังคงเป็นอาวุโสฝ่ายในทั้ง 10 ที่เป็นคนจัดการ…ยังแบ่งรุ่นเยาว์ทั้ง 30 คนออกเป็น 2 กลุ่ม เพื่อประลองกัน 15 คู่
และการจับคู่นั้น จะคัดผู้เข้มแข็งให้พบเจอผู้อ่อนแอ
ติงเหยียนที่ลงประลองก่อนต้วนหลิงเทียน และมันก็พ่ายแพ้ไป
คนที่เอาชนะติงเหยียนได้ก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล มันคือมู่หรงลั่วเฟิง ที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของมู่หรงอวิ๋นเยว่ และก่อนที่ติงเหยียนจะขึ้นไปสู้ มู่หรงอวิ๋นเยว่ก็บอกไว้ก่อนแล้ว ว่าติงเหยียนอาจไม่ใช่คู่ต่อสู้ของลูกพี่ลูกน้องนาง
หลังประมือกัน ติงเหยียนก็เป็นฝ่ายแพ้จริงๆ
ในแง่ความเข้าใจในกฏ มู่หรงลั่วเฟิงไม่ได้ด้อยไปกว่าติงเหยียนเลย ถึงแม้พลังของสายเลือดจะไม่ได้มีอานุภาพเท่ากับพลังสายเลือดของติงเหยียน แต่มันก็เอาชนะติงเหยียนไปได้ไม่ยาก เพราะด่านพลังราชาเทพขั้นสูงของมัน
ด้านติงเหยียนก็ไม่ได้กังขาในความพ่ายแพ้
ด่านพลังฝึกฝนเป็นจุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุดของมัน
แน่นอนว่าด้วยอายุของมัน ด่านพลังบรรลุถึงราชาเทพขั้นต่ำก็ไม่เลวแล้ว
ตัวมันยังมีอายุไม่ถึง 3,000 ปีด้วยซ้ำ แต่มู่หรงลั่วเฟิงมีอายุเจียนหมื่นแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น ติงเหยียนเองก็ทำใจไว้แต่แรก ว่าต่อให้มันจะรั้งอยู่ใน 30 อันดับแรกของการแข่งขันมังกรซ่อนได้ แต่มันก็คงได้อันดับท้ายๆใน 30 อันดับแรกแน่นอน
ในขณะที่ติงเหยียนแพ้พ่าย หัวเทียนตู้ที่ขึ้นไปประลองในเวลาไล่เลี่ยกัน ก็สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้หลังลงมือไปไม่ถึง 10 ประบวนท่า
หลังหัวเทียนตู้กับติงเหยียนสู้จบได้ไม่นาน ต่อไปก็เป็นแม่นาง 7 ที่เอาชนะคู่ต่อสู้ได้เช่นกัน และนางยังเอาชนะได้ภายใน 20 กระบวนท่า
แน่นอนว่าสิ่งนี้ไม่ได้บ่งบอกว่าหัวเทียนตู้แข็งแกร่งกว่าแม่นาง 7
พลังฝีมือของคู่ต่อสู้ที่ทั้งคู่พบเจอ มันแตกต่างกัน
กระทั่งในแง่ของคู่ต่อสู้แล้ว คนที่ต้วนหลิงเทียนพบเจอ พลังฝีมือของมันก็สามารถติด 20 อันดับแรกได้สบายๆ
ด้านคู่ต่อสู้ของหัวเทียนตู้นั้น แม้จะไม่ใช่อันดับโหล่ แต่อย่างเก่งก็ได้แค่อันดับ 25 เท่านั้น
“โอวหยางเจี้ยนเฉิน กับ จี้อู่ชางก็ชนะมาได้เหมือนกัน”
หลังหัวเทียนตู้ แม่นาง 7 ประลองจบ โอวหยางเจี้ยนเฉินกับจี้อู่ชางก็สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้เช่นกัน
ต่อมาหลังการประลองอีก 5 คู่จบลง ก็ได้ผู้ชนะอีก 5 คน เพียงแต่ไม่ได้ชนะขาดกันอีกแล้ว
กล่าวได้ว่าคนที่ผ่านเข้ามาถึงจุดนี้ได้ ไม่ว่าใครก็ร้ายกาจพอตัวทั้งนั้น
ยกเว้นแต่ผู้ที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษ คนที่เหลือก็ไม่ได้มีพลังฝีมือแตกต่างกันมากนัก
“ตอนนี้ในบรรดา 15 คนที่ชนะมาก่อน มีแค่ 10 คนเท่านั้นที่น่าจะติด 15 อันดับแรกได้แน่นอน”
ในการแข่งขันมังกรซ่อน การจัดอันดับของทั้ง 30 คน จะถูกจัดคร่าวๆโดยแบ่งเป็น 15 อันดับแรกก่อน ซึ่งถือว่าผู้ที่ชนะมาจะได้รับ 15 อันดับแรกเป็นการชั่วคราว จากนั้นก็จะเผชิญหน้ากับการท้าทายของผู้แพ้
แน่นอนว่าในรอบนี้ ยังมีบทลงโทษจากรอบก่อนหน้าเช่นกัน
หากท่านไม่มีความมั่นใจในตัวเองมากพอ คิดไปท้าทายผู้เข้มแข็งก็ไม่ต่างอะไรจากรนหาที่
“ต้วนหลิงเทียน ถึงตาเจ้าแล้วแน่ะ”
สังเวียนกลางหาวจะอย่างไรก็มีเพียง 10 สังเวียน เช่นน้นการเฟ้นหาผู้ชนะ 15 คนแรก จึงแบ่งออกเป็น 2 ช่วง และหลังจากที่การประลองของคน 20 จบลง อีก 10 คนที่เหลือรวมถึงต้วนหลิงเทียนก็ขึ้นไปประลองบนสังเวียนต่อ
คราวนี้มีแต่ 5 เวทีเท่านั้นที่แข่งขันกัน
และในบรรดา 5 สังเวียน…ที่สะดุดตาที่สุดก็มีอยู่ด้วยกัน 2 คู่ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือคู่ประลองของต้วนหลิงเทียน
ต้วนหลิงเทียนไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับทุกคนในที่นี้อีกต่อไป
กระทั่งต้วนหลิงเทียนเอง ยังถือว่าเป็นอัจฉริยะที่มีชื่อเสียงในพื้นที่ละแวกนิกายมังกรสวรรค์ไม่น้อย ยังเป็นผู้เข้าแข่งขันมังกรซ่อนที่ได้รับการจับตาจากทุกฝ่าย
เรื่องของเรื่องก็คือต้วนหลิงเทียนยังมีอายุไม่ถึง 300 ปี!
ยิ่งไปกว่านั้น ยังลือกันว่าต้วนหลิงเทียนยังมีอายุน้อยกว่าติงเหยียน ที่เป็นคนที่อายุน้อยกว่า 3,000 ปีอีกคนที่ติด 30 อันดับแรกอยู่ 100 กว่าปี!
เดิมทีติงเหยียนเองกก็เป็นผู้เข้าแข่งขันที่โดดเด่นมากแล้ว
แต่นับว่ามันถูกต้วนหลิงเทียนกลบรัศมีจนมิด หลายคนยังพูดกันด้วยซ้ำ ว่าติงเหยียนโชคร้ายที่เกิดมาช่วงนี้ เลยถูกต้วนหลิงเทียนแย่งความโดดเด่นไปจนหมด
ติงเหยียนที่เป็นผู้เกี่ยวข้องโดยตรง พอได้ยินเสียงซุบซิบดังกล่าวมันก็ไม่ได้แยแสอะไร
เพราะในสายตาของมัน ต้วนหลิงเทียนนั้นเป็นตัวประหลาดผิดมนุษย์มนา และมันไม่คิดจะเอาตัวไปเทียบกับต้วนหลิงเทียน
“ติงเหยียน เจ้าคิดว่าต้วนหลิงเทียนมันจะใช้กี่ท่า ก่อนจะเอาชนะเจ้านั่นได้?”
โหวชิ่งหนิงยิ้มถาม
นี่นับเป็นครั้งที่ 2 ที่ต้วนหลิงเทียนออกไปสู้ นับตั้งแต่การลงมือครั้งสุดท้าย ที่อาวุโสฝ่ายในประเมินให้เขาอยู่ใน 30 อันดับแรกโดยตรง
การดูแลเช่นนี้ มีไม่กี่คนเท่านั้นที่จะได้รับ
และหลังจากได้รับการจัดให้อยู่ใน 30 อันดับแรกแล้ว ก็ไม่มีใครกล้าท้าประลองเขาสักคน อย่างแรกเลทุกคนรู้ว่าเขาร้ายกาจ อย่างที่สองก็คือ ทุกคนเชื่อในสายตาของอาวุโสฝ่ายในทั้ง 10
“คู่ต่อสู้ของต้วนหลิงเทียน ดูเหมือนจะมาจากนิกายด่านสะกดเทพ ที่เป็นขุมกำลังระดับจอมราชัน…เจ้านั่นเห็นว่าเป็นศิษย์ปิดสำนักของประมุขนิกายด่านสะกดเทพ ยังเป็น 1 ใน 2 อัจฉริยะที่โดดเด่นที่สุดในบรรดารุ่นเยาว์ของนิกายด่านสะกดเทพ…อย่างไรก็ตาม หากก่อนหน้านี้มันไม่ได้ซุกซ่อนไพ่ตายอะไรไว้ ไม่พ้นต้องแพ้พ่ายต้วนหลิงเทียนภายใน 10 กระบวนท่าแน่นอน แต่ถ้ามันซุกซ่อนไพ่เด็ดอันใด ก็อาจจะอยู่ได้นานขึ้นอีกหน่อย”
ฟังจากคำพูดของติงเหยียนแล้ว เห็นได้ชัดว่ามันมั่นใจในตัวต้วนหลิงเทียนมาก
และบทสนทนาของทั้งคู่ก็ไม่ได้เบาเสียงอะไร ทำให้ศิษย์ของนิกายด่านสะกดเทพที่อยู่ไม่ไกลได้ยินเช่นกัน
“พวกขี้แพ้เช่นเจ้า ยังมีหน้ามากล่าวปรามาสศิษย์นิกายด่านสะกดเทพของข้าด้วยรึ?”
ประมุขนิกายด่านสะกดเทพ อันเป็นชายวัยกลางคนร่างสูงใหญ่ ใบหน้าจริงจังเคร่งขรึม เหลือบมามองโหวชิ่งหนิงกับติงเหยียน พลางแสยะยิ้มกล่าวเสียดสีออกมาอย่างรังเกียจ
“อ้อ เดี๋ยวศิษย์ท่านก็จะกลายเป็นพวกขี้แพ้เหมือนพวกเราเช่นกัน ข้ายินดีต้อนรับล่วงหน้าแล้วกัน”
ต่างจากโหวชิ่งหนิงที่ขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ ติงเหยียนกลับกล่าวประชดกลับไปอย่างไม่เกรงกลัว ถึงแม้อีกฝ่ายจะเป็นประมุขนิกายระดับจอมราชันเทพก็ตาม
จังหวะนี้ โหวชิ่งหนิงยังอดยกนิ้วให้ติงเหยียนไม่ได้
มารดามันเถอะ!
มีคนหนุนหลังดีก็แบบนี้ล่ะ!
จังหวะนี้โหวชิ่งหนิงสัมผัสได้ถึงความยิ่งใหญ่ของติงเหยียนชัดเจน ในขณะเดียวกันมันก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหดหู่ ว่าไฉนมันถึงไม่มีอาวุโสมังกรดำหนุนหลังบ้างนะ?
ในนิกายมังกรสวรรค์ อาวุโสสักการะถือว่าเป็นคนนอก! เช่นนั้นการที่จะได้รับการตั้งให้เป็นอาวุโสมังกรดำได้ อย่างน้อยๆก็ต้องมีพลังฝีมือเหนือกว่าอาวุโสมังกรดำส่วนใหญ่!!
หาไม่แล้ว ทางนิกายคงไม่มอบตำแหน่งสูงขนาดนี้ให้ง่ายๆ
เช่นนั้นก็ไม่ยากเลยว่าท่านลุงของติงเหยียนร้ายกาจแค่ไหน ไม่พ้นต้องเป็นยอดฝีมือขอบเขตจอมราชันเทพขั้นสูงแน่นอน
ลำพังแค่ตัวตนระดับจอมราชันเทพขั้นสูง แม้จะมีพลังฝีมือเท่าค่าเฉลี่ย แต่นั่นก็ไม่ใช่อะไรที่ประมุขนิกายด่านสะกดเทพซึ่งมีด่านพลังแค่ขอบเขตจอมราชันเทพขั้นต่ำ จะทาบติด
“ไอ้หนู ปากเก่งเช่นนี้ อยากหาที่ตายนักหรือ!”
พอโดนเด็กน้อยขอบเขตราชาเทพขั้นต่ำยอกย้อนประมุขนิกายด่านสะกดเทพ ชาเจิ้งหู่ ก็มีโมโหนัก สายตาที่ใช้มองติงเหยียนังเต็มไปด้วยความเย็นชา น้ำเสียงไม่ขาดเจตนาฆ่าฟัน
ปงงงง!!
อย่างไรก็ตาม แทบจะเป็นเวลาเดียวกับที่ชาเจิ้งหู่กล่าวคำอาฆาตจบคำ เสียงระเบิดหนึ่งพลันดังขึ้น ทำให้ทั้ง 10 คนบนสังเวียนกลางหาวทั้ง 5 ถึงกับหยุดลงชั่วขณะ
“อั๊ค–”
ในสายตาของต้วนหลิงเทียนและคนอื่นๆ ประมุขนิกายด่านสะกดเทพ ชาเจิ้งหู่ ก็ลอยละลิ่วปลิวไปด้านหลัง โลหิตยังกระอักออกปากเป็นสาย กว่าร่างจะหยุดลงอีกครั้งก็ปลิวไปร้อยกว่าหมี่
“นี่เป็นแค่การเตือนเท่านั้น…หากข้าได้ยินว่ามีผู้ใดคิดจะฆ่าศิษย์นิกายมังกรสวรรค์ข้าอีกครั้ง ข้าก็ไม่รังเกียจที่จะส่งมันไปตามทาง!”
เสียงของหลันอวี่ซาน อาวุโสมังกรดำดังขึ้นอย่างประจวบเหมาะ
มันเป็นคนลงมือซัดชาเจิ้งหู่เอง
สีหน้าของชาเจิ้งหู่บัดนี้มืดดำปานจะคั้นได้เป็นน้ำหมึก ในแววตายังฉายชัดถึงความหวาดกลัว จากนั้นมันก็พึ่งนึกขึ้นได้ว่าคนที่กล่าวคำปรามาสศิษย์มัน อย่างไรก็เป็นศิษย์ฝ่ายในของนิกายมังกรสวรรค์เหมือนศิษย์ของมันแล้ว
แต่ต่อหน้าผู้อาวุโสมังกรดำของนิกายมังกรสวรรค์ มันกลับพูดทำนองจะเข่นฆ่าศิษย์ฝ่ายในของนิกายมังกรสวรรค์ออกมา…
จังหวะนี้ในอกมันก็หลงเหลือแต่ความเสียใจเท่านั้น ไม่น่าปากพล่อยออกไปเลย
“ท่านอาจารย์!!” ด้านคู่ต่อสู้ของต้วนหลิงเทียน ศิษย์ปิดสำนักของชาเจิ้งหู่ อันเป็นชายหนุ่มในชุดสีแดงใบหน้าเคร่งขรึมนั่น บัดนี้สีหน้ามันเปลี่ยนไปอย่างมาก
แต่แน่นอนว่ามันไม่กล้าเอาโทสะไประบายกับอาวุโสมังกรดำ หลันอวี่ซาน ที่งมือทำร้ายอาจารย์มัน
หลังเหลืองมองติงเหยียนด้วยสายตาเย็นชา มันก็หันกลับมามองจ้องต้วนหลิงเทียนตาขวาง แววตาเยียบเย็นไม่น้อย “ต้วนหลิงเทียน ดูเหมือนสหายของเจ้าจักมั่นใจในตัวเจ้ามาก…”
“ข้าอยากรู้นัก ว่าเจ้าจะเอาอะไรมาชนะข้า!”