WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 3811 ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของหัวเทียนตู้
หัวเทียนตู้ นายน้อยของนิกายบูรพารุ่งโรจน์อันเป็นขุมกำลังระดับจอมราชันเทพนั้น ปีนี้มันยังมีอายุไม่ถึง 8,000 ปี
ในอดีต ผู้คนมักกล่าวกันว่าพลังฝีมือของมันทัดเทียมกับจี้อู่ชาง แต่ในปัจจุบันทุกคนทราบกันชัดเจนแล้ว ว่าพลังฝีมือของมันเหนือกว่าจี้อู่ชางมาก และไม่ใช่อะไรที่จี้อู่ชางจะเทียบได้เลย
กระทั่งตอนที่มันเอาชนะจี้อู่ชาง ตัวจี้อู่ชางเองยังเผยท่าทีอึ้งๆ ราวกับพบเจอเรื่องเหนือความคาดหมาย
สิ่งนี้บอกให้รู้ว่า ตัวจี้อู่ชางเองก็ไม่รู้ว่าหัวเทียนตู้ซุกซ่อนความแข็งแกร่งเอาไว้
จนถึงตอนนี้ หัวเทียนตู้ยังไม่ได้ใช้พลังสายเลือดเลยด้วยซ้ำ ทว่ามันกลับเอาชนะอัจฉริยะรุ่นเยาว์ที่แข็งแกร่งหลายคนอย่างจี้อู่ชาง ตู้ปั้วจวิน โอวหยางเจี้ยนเฉิน และแม่นาง 7 มาได้หมด
“ดูเหมือนการแบ่งชั้นอัจฉริยะก่อนหน้า ยังต้องเพิ่มอีกชั้นเป็นพิเศษ…เหนือชั้นแนวหน้า ยังมีชั้นสูงสุด และอัจฉริยะที่อยู่ในชั้นนี้ก็มีแค่ต้วนหลิงเทียนกับหัวเทียนตู้สองคน”
หลายคนได้แต่ถอนหายใจออกมา เพราะเท่าที่พวกมันเห็น ความแข็งแกร่งของต้วนหลิงเทียนกับหัวเทียนตู้ ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับพวกจี้อู่ชางและคนอื่นๆเลย
กล่าวได้ว่าต่อให้จับต้วนหลิงเทียนกับหัวเทียนตู้ไปวางไว้ในขุมกำลังระดับจักรพรรดิเทพชั้นแนวหน้าในเขตคฤหาสน์ตงหลิง ทั้งคู่ก็ถือเป็นอัจฉริยะระดับต้นๆ
โดยเฉพาะ ต้วนหลิงเทียน
พวกมันกำลังสงสัยอยู่ด้วยซ้ำ ว่าหากข่าวเรื่องพลังฝีมือกับอายุของต้วนหลิงเทียนแพร่กระจายออกไป ไม่พ้นขุมกำลังระดับจักรพรรดิเทพชั้นแนวหน้าทั้งหลาย คงแห่กันมาทาบทามต้วนหลิงเทียนแน่นอน
พอถึงตอนนั้นเว้นเสียแต่ต้วนหลิงเทียนจะเลือกปฏิเสธออกมาเอ
หาไม่แล้วนิกายมังกรสวรรค์คงไม่อาจรั้งตัวต้วนหลิงเทียนได้ไหว กระทั่งยังไม่กล้ารั้ง
ขุมกำลังระดับจักรพรรดิเทพชั้นแนวหน้าที่ว่า ย่อมมีตัวตนระดับจักรพรรดิเทพดำรงอยู่ และนั่นไม่ใช่อะไรที่นิกายมังกรสวรรค์ที่ไร้ตัวตนระดับจักรพรรดิเทพดำรงอยู่จะแข็งข้อต่อต้านได้เลย
“ต้วนหลิงเทียน”
ท่ามกลางสายตาของทุกคน ร่างหัวเทียนตู้ก็สั่นไหวเบาๆ ก่อนคนจะวูบขึ้นสังเวียนกลางหาวไปก่อน จากนั้นก็หันมามองต้วนหลิงเทียนไกลๆ พลางยิ้มบางๆ “ข้าท่าน พวกเรามาประลองกันเพื่อจบการแข่งขันมังกรซ่อนครั้งนี้เถอะ”
ต้วนหลิงเทียนพยักหน้ารับเบาๆ จากนั้นร่างเขาก็เหินทะยานไปหยุดลงบนสังเวียนกลางหาว
ทั้ง 2 แม้จะยืนเผชิญหน้ากันบนสังเวียน แต่กลับไม่คลุ้งกลิ่นดินปืนอะไร ชวนให้ผู้ชมรู้สึกถึงความสงบ
แค่มันเป็นความสงบก่อนพายุจะเข้าเท่านั้น
“เจ้าว่า…2 คนนั่นผู้ใดจะแข็งแกร่งกว่ากัน?”
“บอกยาก ต้องทราบว่าหัวเทียนตู้ผู้นั้นมันไม่เคยใช้พลังสายเลือดออกมาให้เห็นเลย แต่เท่าที่ข้าเคยได้ยินมาเหมือนพลังสายเลือดของมันก็ไม่ใช่เล่นๆ”
“พลังสายเลือดของมันทำอะไรได้บ้างหรือ?”
“เรื่องนั้นข้าเองก็ไม่รู้หรอก”
“เอ๋า แล้วไฉนเจ้าบอกว่าพลังสายเลือดของมันไม่ใช่เล่นๆเล่า”
“หูเจ้ามีปัญหารึไร ข้าพึ่งพูดไปหยกๆว่า ‘ข้าเคยได้ยินมา’ ไม่ได้ไปเห็นกับตาสักหน่อย!”
…
เมื่อต้วนหลิงเทียนกับหัวเทียนตู้ลงสังเวียนแล้ว ไม่เพียงแต่เหล่าผู้ชมจะจดจ้องทั้งคู่ตาไม่กระพริบเท่านั้น กระทั่งอาวุโสมังกรดำหลันอวี่ซานกับอาวุโสมังกรขาวทั้ง 2 ด้านหลังก็มองทั้งคู่ไม่วางตาเช่นกัน
ศึกครั้งนี้จะเป็นศึกสุดท้ายในการแข่งขันมังกรซ่อนครั้งนี้
หลังจบศึกตรงหน้า ผู้ชนะเลิศอันดับ 1 ของการแข่งขันมังกรซ่อนก็จะปรากฏ
“ต้วนหลิงเทียน เจ้าเอาอุปกรณ์เทพขั้นสูงให้ร่างอวตารกฏมิติของเจ้าเถอะ”
เมื่อกลิ่นอายพลังแห่งความตายเริ่มลุกโชนขึ้นมาท่วมร่างหัวเทียนตู้ มันก็มองกล่าวกับต้วนหลิงเทียนด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
กฏที่มันเก่งก็คือกฏแห่งความตาย
และด้วยวาจากล่าวเตือนดังกล่าวของหัวเทียนตู้ ก็ทำให้ผู้ชมฮือฮากันทันที “หืม? หัวเทียนตู้ผู้นั้นมันไม่กลัวว่าต้วนหลิงเทียนจะหยิบยืมอุปกรณ์เทพขั้นสูงมาให้ร่างอวตารกฏมิติจริงๆรึไร?”
“ไฉนมันถึงแลดูมั่นใจนัก ที่แท้บ่อเกิดความมั่นใจของมันอยู่ที่ใด”
“ดูเหมือนว่าพลังสายเลือดของมันไม่เพียงจะร้ายกาจ แต่น่ากลัวมันยังซุกซ่อนพลังฝีมือเอาไว้อีกด้วย!”
…
ในขณะที่ผู้ชมกำลังซุบซิบคุยกันดังระงม ต้วนหลิงเทียนก็อดคลี่ยิ้มบางๆพลางกล่าวออกมาไม่ได้ “ดูเหมือนนายน้อยหัวจะมีความมั่นใจในพลังฝีมือของตัวเองไม่เบาเลย”
กล่าวจบคำ ความว่างเปล่ารอบตัวต้วนหลิงเทียนก็เริ่มปั่นป่วนทันที
ถึงแม้ต้วนหลิงเทียนเองก็มีความมั่นใจว่าต้องชนะ แต่เขาก็ไม่คิดจะประมาทหัวเทียนตู้
ต้องทราบด้วยว่าอาศัยพลังที่เขาเผยออกมาก่อนหน้า แม้ว่าเขาจะยังซุกซ่อนพลังส่วนใหญ่เอาไว้ แต่มันก็ไม่ได้อ่อนแอเลย มากพอจะเอาชนะทุกคนได้อย่างง่ายดาย เว้นก็แต่หัวเทียนตู้เพียงคนเดียว
“หากเจ้ายังมิได้หยิบยืมอุปกรณ์เทพขั้นสูงมาเพิ่ม ข้าจักให้โอกาสเจ้าหยิบยืมมันเสียตอนนี้…เพราะเกรงว่าในช่วงเวลาคับขันเจ้าอาจไม่มีเวลาหยิบยืม”
หัวเทียนตู้ไม่ได้รีบร้อนลงมือ ยังเปิดโอกาสให้ต้วนหลิงเทียนมีเวลาหยิบยืมอุปกรณ์เทพขั้นสูง!
และฉากดังกล่าวก็ทำให้ผู้ชมทั้งหลายตระหนักได้ทันที ว่าที่แท้หัวเทียนตู้ยังซุกซ่อนพลังเอาไว้จริงๆ ยังซุกซ่อนไว้มากอีกด้วย หาไม่แล้วคงไม่มีความมั่นใจถึงขนาดนั้น
สองตาต้วนหลิงเทียนหรี่ลงโดยพลัน สีหน้าเปลี่ยนเป็นจริงจังเอ่ยออกเสียงขรึม “เรื่องนั้น ข้าไม่รบกวนให้นายน้อยหัวเป็นห่วง”
“ต้วนหลิงเทียน อย่าได้หาว่าข้าไม่เตือน…เพราะวันนี้ข้าจะเผยความแข็งแกร่งที่แท้จริงของข้าเป็นครั้งแรก!”
หัวเทียนตู้ค่อยๆก้าวเท้าออกไปทีละก้าว ทันใดนั้นสภาวะร่างของมันก็เปลี่ยนไปในฉับพลัน ความเปลี่ยนแปลงยังมากมายปานพลิกฟ้าคว่ำดิน และนอกจากกลิ่นอายพลังมหาศาลแล้ว ยังปรากฏร่างหัวเทียนตู้อีกคนแยกตัวออกมาจากร่างของมัน! สองตาของร่างหัวเทียนตู้คนใหม่ยังแดงฉานปานก้อนเลือด!!
นี่ไม่ใช่ร่างอวตารกฏแห่งความตายของหัวเทียนตู้ แต่มันเป็นร่างจากพลังของกฏแห่งความตาย!
ผู้คนรู้จักกันในนาม ร่างแยกแห่งความตาย!
ร่างแยกแห่งความตาย แน่นอนว่ามันแตกต่างจากร่างอวตารกฏแห่งความตายคนละเรื่อง
เหมือนกันกับหลิงเจวี๋ยอวิ๋น สหายของต้วนหลิงเทียนที่พบเจอในระนาบเทวโลก แม้มันจะมีร่างแยกแห่งความตายเช่นกัน แต่หลิงเจวี๋ยอวิ๋นก็เป็นคนจากระนาบเทพ ด้วยสายเลือดแห่งความตายที่ไหลเวียนในกาย จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะควบแน่นพลังสร้างร่างอวตารแห่งกฏ
และไม่ใช่แค่กฏแห่งความตาย ไม่ว่าจะกฏใดก็ตาม แต่ผู้ที่มีสายเลือดของผู้แข็งแกร่งที่สุดไม่อาจสร้างร่างอวตารแห่งกฏได้ทั้งนั้น
เป็นธรรมดาว่าร่างแยกแห่งความตาย ที่สร้างขึ้นจากพลังของกฏแห่งความตาย มันมีความแตกต่างจากร่างอวตารกฏใหญ่หลวง ในแง่พลังอำนาจแล้วมันด้อยกว่าร่างอวตารกฏหลายขุม
“หืม?”
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่หัวเทียนตู้สร้างร่างแยกแห่งความตายออกมาแล้ว ต้วนหลิงเทียนพลันสังเกตเห็นว่าทั่วร่างของมันกลับปรากฏพลังสายเลือดพุ่งพล่านขึ้นมา จากนั้นร่างแยกแห่งความตายก็เริ่มบังเกิดความเปลี่ยนแปลงไปพลิกฟ้าคว่ำดิน คล้ายมันจะมีพลังเทพไหลเวียนอัดแน่นผิดปกติ แถมสองตาที่แดงฉานไร้อารมณ์บัดนี้คล้ายมีความรู้สึกนึกคิดขึ้นมาอย่างไรชอบกล!
วิ้ง!
ทันใดนั้นเอง ในมือร่างแยกแห่งความตายที่บังเกิดความเปลี่ยนแปลงไปอย่างแปลกประหลาด พลันปรากฏอุปกรณ์เทพขั้นสูงผุดจากความว่างเปล่าเข้ามือ แถมร่างแยกแห่งความตายดังกล่าวยังถ่ายทอดพลังเทพลงไปจนตัวอาวุธเปล่งแสงพลังเรืองรองเจิดจ้า!
และร่างต้นของหัวเทียนตู้เองก็ถืออุปกรณ์เทพขั้นสูงไว้อีกชิ้น!
ฟุ่บ! ฟุ่บ!
ทันใดนั้น หัวเทียนตู้พร้อมร่างแยกแห่งความตายก็เริ่มเคลื่อนไหวลงมือ และจากกลิ่นอายพลังที่แผ่ออกมา ทำให้ต้วนหลิงเทียนตระหนักได้ว่า ร่างแยกแห่งความตายของหัวเทียนตู้ ก็สามารถใช้พลังของกฏแห่งความตายได้เช่นกัน!
กล่าวได้ว่าร่างแยกแห่งความตายของหัวเทียนตู้ ได้ลบล้างความเข้าใจในร่างแยกแห่งความตายที่ต้วนหลิงเทียนเคยมีมาทั้งหมด!
ต้องทราบด้วยว่าปกติแล้วร่างแยกแห่งความตาย มันเกิดจากความลึกซึ้งคู่แฝดแห่งความตาย และเป็นไปไม่ได้เลยที่จะใช้พลังความลึกซึ้งอื่นใดของกฏแห่งความตายไม่เว้นกฏอื่นๆออกมา
แต่บัดนี้ร่างแยกแห่งความตายของหัวเทียนตู้ กลับใช้พลังจากการผสานรวมความลึกซึ้งของกฏแห่งความตาย 3 ประการ 2 ชุดออกมาหน้าตาเฉย!
ความเข้าใจในกฏดังกล่าว นับว่าเหนือกว่าหลายๆคนในการแข่งขันมังกรซ่อนครั้งนี้
และจากการผสานรวมความลึกซึ้ง 2 ประการที่ใช้เสริมออกมาอีกชุด เห็นได้ชัดว่าความเข้าใจในกฏแห่งความตายของหัวเทียนตู้ ไม่ได้ด้อยไปกว่าความเข้าใจในกฏมิติที่ต้วนหลิงเทียนเผยออกมาเลย!
กล่าวได้ว่าตอนนี้ ขอเพียงหัวเทียนตู้สามารถผสานรวมความลึกซึ้งอีกสักประการลงไปในความลึกซึ้ง 2 ประการที่ผสานรวมกันสักชุด มันก็จะสำเร็จการผสานรวมความลึกซึ้ง 3 ประการชุดที่ 3 ทันที! ห่างจากการผสานรวมความลึกซึ้งของกฏแห่งความตาย 3 ประการ 3 ชุดแค่ก้าวเดียว!!
และตราบใดที่มันสามารถผสานรวมความลึกซึ้ง 3 ประการ 3 ชุดได้สำเร็จ พลังของมันก็จะเพิ่มพูนขึ้นอย่างก้าวกระโดด
“นั่นมัน…พลังสายเลือดเช่นนั้นหรือ!?”
“อะไรกัน พลังสายเลือดของหัวเทียนตู้มีความสามารถเปลี่ยนร่างแยกแห่งความตาย ให้กลายเป็นร่างอวตารกฏแห่งความตายได้งั้นเหรอ!?”
“เช่นนั้นมิได้หมายความว่า…ข้อได้เปรียบใดๆที่ต้วนหลิงเทียนมี มันก็มีเช่นกันหรือไร!?”
“ให้ตายเถอะ ก่อนหน้านี้มันไม่เคยใช้กลวิธีดังกล่าวออกมาเลย!”
“ไม่น่าแปลกใจเลยที่ไฉนหัวเทียนตู้ถึงเปี่ยมล้นไปด้วยความมั่นใจนัก…ด้วยกลวิธีดังกล่าว ต่อให้ต้วนหลิงเทียนจะนำอุปกรณ์เทพขั้นสูงให้ร่างอวตารกฏมิติใช้ ก็ยังยากที่จะเอาชนะหัวเทียนตู้ได้”
…
จังหวะนี้ กระทั่งบิดาของหัวเทียนตู้ ผู้เป็นประมุขของนิกายบูรพารุ่งโรจน์ ไม่เว้นผู้ชมทั้งหลายก็อดตกตะลึงไม่ได้
เพราะไม่มีใครคิดฝัน ว่าหัวเทียนตู้จะมีพลังสามารถดังกล่าว
ต้องทราบด้วยว่าก่อนหน้านี้ ที่หัวเทียนตู้สามารถเอาชนะ แม่นาง 7 จี้อู่ชาง โอวหยางเจี้ยนเฉิน ตู้ปั้วจวิน และคนอื่นๆมาได้ง่ายๆ ไม่ใช่เพาะความสามารถที่พึ่งเปิดเผยออกมาในปัจจุบัน แต่เป็นเพราะความเข้าใจในกฏของมันเหนือล้ำกว่าคนอื่นๆ
“ต่อให้ต้วนหลิงเทียนจะติดอาวุธเทพขั้นสูงให้ร่างอวตารกฏมิติ แต่ต้องเผชิญหน้ากับหัวเทียนตู้ในปัจจุบัน ข้าเกรงว่าต้วนหลิงเทียนยังต้องตกเป็นรองอยู่ดี เพราะพลังจากกฏมิติที่ต้วนหลิงเทียนเผยก็แค่พอๆกับหัวเทียนตู้เท่านั้น ไม่ได้มีเปรียบอะไรเลย!!”
“มิผิด ต่อให้ต้วนหลิงเทียนจะมีมรรคากระบี่ขั้นพื้นฐาน แต่ก็ไม่อาจกลบถมความต่างของพลังได้อยู่ดี…เพราะสุดท้ายด่านพลังของหัวเทียนตู้ก็เหนือกว่าต้วนหลิงเทียนขั้นหนึ่ง!”
…
ท่ามกลางสายตาที่จับจ้องมาเขม็งของทุกคน ต้วนหลิงเทียนก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เขาเองก็แปลกใจที่เห็นหัวเทียนตู้มีความสามารถดังกล่าวอยู่บ้าง
เขาไม่เคยคิดมาก่อน ว่าพลังสายเลือดของหัวเทียนตู้ จะทำให้ร่างแยกของกฏแห่งความตาย แปลงสภาพไปจนมีลักษณะคล้ายร่างอวตารกฏแห่งความตายได้เช่นนั้น
ไม่เพียงจะใช้พลังความลึกซึ้งของกฏแห่งความตายได้ ยังสามารถใช้อุปกรณ์เทพได้อีก!
ต้องทราบด้วยว่าปกติแล้วร่างแยกแห่งความตาย ไม่อาจใช้พลังจากความลึกซึ้งใดๆได้เลย และไม่อาจใช้อุปกรณ์เทพได้ด้วย
แต่บัดนี้ร่างแยกแห่งความตายของหัวเทียนตู้ ที่ผสานเข้ากับพลังสายเลือด เหมือนมันจะเปลี่ยนสภาพไปเป็นร่างอวตารกฏแห่งความตายอย่างไรอย่างนั้น และตัดสินจากพลังอำนาจของกฏที่เผยออก ก็ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าร่างอวตารกฏมิติของต้วนหลิงเทียนแม้แต่นิดเดียว
“นายน้อยหัวช่างน่าประทับใจจริงๆ ที่ทำอะไรแบบนี้ได้”
นอกจากประหลาดใจแล้ว ต้วนหลิงเทียนยังทราบอีกด้วย ว่าอาศัยพลังของหัวเทียนตู้ในปัจจุบัน หากเขาคิดจะประมือกับอีกฝ่าย เว้นเสียแต่จะอาศัยข้อได้เปรียบในแง่ความเร็วแล้ว ให้ปะทะตรงๆกับหัวเทียนตู้คงยากจะเอาชนะอีกฝ่ายได้ แน่นอนว่านี่อยู่ในกรณีที่ต้วนหลิงเทียนไม่เผยความเข้าใจในกฏมิติเพิ่มเติม
“ต้วนหลิงเทียน หวังว่าเจ้าเองก็จะทำให้ข้าประหลาดใจได้เช่นกัน”
“เพราะหากเจ้ามีพลังเท่าที่เคยเผยออกก่อนหน้า ข้าเกรงว่าวันนี้เจ้าจักมิใช่คู่ต่อสู้ของข้า!”
“อย่างไรก็ตาม สัญชาตญาณของข้ามันร้องเตือน ว่าเจ้ายังไม่ได้มีดีแค่นั้น!”
ในขณะที่หัวเทียนตู้พร้อมด้วยร่างแยกแห่งความตายกำลังจะลงมือจู่โจมเข้าใส่ต้วนหลิงเทียน มันยังไม่ลืมกล่าวคำกระตุ้นต้วนหลิงเทียนออกมา และฟังจากถ้อยคำของมันเห็นได้ชัดว่ามันประเมินต้วนหลิงเทียนไว้สูงมาก
ด้านต้วนหลิงเทียนที่เผชิญหน้ากับการบุกเข้ามาของหัวเทียนตู้และร่างแยก ก็ไม่ได้เผยอาการแตกตื่นแต่อย่างใด เพียงแค่แลดูประหลาดใจกับวิธีการของหัวเทียนตู้เท่านั้น
“หากความแข็งแกร่งของต้วนหลิงเทียนมีเท่าที่เผยออกก่อนหน้า…ข้าเกรงว่าวันนี้มันต้องแพ้แน่นอน!”
หลายคนเริ่มถอนหายใจออกมา
และต้วนหลิงเทียนก็ไม่ทำให้หัวเทียนตู้ผิดหวัง
ท่ามกลางสายตาชมดูของผู้คน ร่างอวตารแห่งกฏมิติของต้วนหลิงเทียน อยู่ๆก็คว้ากระบี่เทพเล่มหนึ่งที่ผุดออกจากความว่างเปล่ามากระชับถือไว้ แน่นอนว่าร่างต้นเองก็นำกระบี่เทพออกมาถือไว้เช่นกัน และจากกลิ่นอายพลังที่แผ่ออกมาของตัวกระบี่ ก็บอกให้ทุกคนรู้กันชัดๆว่าล้วนเป็นกระบี่เทพขั้นสูงทั้งสองเล่ม!!
“กระบี่เล่มนั้น…ดูเหมือนจะไม่ใช่ของท่านกระมัง? หรือท่านไปได้กระบี่เทพขั้นสูงเล่มใหม่มาโดยที่ข้าไม่รู้?”
หลิงหูเหิงอาวุโสสูงสุดของตระกูลหลิงหู หันไปมองถามหิงหูเจิ้งซิงข้างๆด้วยสายตาแปลกใจ
มันเอากระบี่เทพขั้นสูงให้ต้วนหลิงเทียนยืมไปเล่มเดียวเท่านั้น และกระบี่เทพขั้นสูงที่ร่างอวตารกฏมิติของต้วนหลิงเทียนกำลังถืออยู่ มันมั่นใจมากว่าไม่ใช่ของพี่น้องฝาแฝดมันอย่างหลิงหูฮวนแน่นอน และเหมือนจะไม่ใช่กระบี่คู่กายของหลิงหูเจิ้งซิงอีกด้วย เว้นเสียแต่หลิงหูเจิ้งซิงจะได้กระบี่เทพขั้นสูงเล่มใหม่มาเพิ่ม
“ไม่ใช่”
หลิงหูเจิ้งซิงส่ายหัวไปมา “ข้าเองก็เคยเห็นอุปกรณ์เทพขั้นสูงในตระกูลหลิงหูเราหมดแล้ว รวมถึงที่อยู่ในมือพวกท่านด้วย…เช่นนั้นข้าบอกได้ทันที ว่ากระบี่เทพขั้นสูงในมือร่างอวตารกฏมิติของต้วนหลิงเทียน มิได้เป็นอุปกรณ์เทพขั้นสูงของตระกูลหลิงหูเราแน่นอน สมควรเป็นของมันเอง!”
��