WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 3843 ฆ่าต้วนหลิงเทียน
ชายหนุ่มชุดคลุมขาวราวหิมะ อยู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นยังบริเวณหน้าทางเข้าสนามรบศึกจักรพรรดิของนิกายมหาเอกะ
“นั่นมัน…ศิษย์พี่ซีเหมินหลงเซี่ยง!!”
“ศิษย์พี่ซีเหมินหลงเซี่ยง!”
“อะไรกัน! มิใช่ว่าศิษย์พี่ซีเหมินหลงเซี่ยงออกจากนิกายไปเมื่อพันกว่าปีก่อน แล้วไปเข้าร่วมกับขุมกำลังระดับจักรพรรดิเทพชั้นแนวหน้าของเขตคฤหาสน์ตงหลิงเราแล้วหรือไร? ข้าจำได้ว่าตอนนั้นมีตัวตนระดับสูงมากมายมาชักชวนศิษย์พี่…แถมคนที่มายังมีฐานะไม่ใช่ชั่วทั้งนั้น!”
“ข้านึกไม่ถึงจริงๆว่าที่แท้ศิษย์พี่ซีเหมินหลงเซี่ยงยังอยู่ในนิกายมหาเอกะเรา…นับเป็นข่าวที่น่าตกตะลึงจริงๆ!”
“ว่าแต่ ลองศิษย์พี่ซีเหมินหลงเซี่ยงมาปรากฏตัวที่นี่ หมายความว่าคิดจะเข้าสู่สนามรบศึกจักรพรรดิกระมัง?”
“เห็นๆกันอยู่! ต้องเป็นเช่นนั้นแหงอยู่แล้ว!”
“พันกว่าปีก่อน ศิษย์พี่ซีเหมินหลงเซี่ยงอาศัยด่านพลังระดับราชาเทพขั้นกลาง ก็สามารถอยู่ยงคงกระพันใต้ขอบเขตจอมราชันเทพในนิกายเรา…มาวันนี้หลังผ่านไปพันปี น่ากลัวด้วยพรสวรรค์ของศิษย์พี่ ก็สมควรเป็นราชาเทพขั้นสูงแล้วกระมัง?”
…
เหล่าคนที่อยู่ในบริเวณสถานที่ตั้งประตูมิติของนิกายมหาเอกะ มองไปยังร่างซีเหมินหลงเซี่ยงไกลๆ ด้วยสองตาเป็นประกาย
ซีเหมินหลงเซี่ยง อัจฉริยะอันดับหนึ่งของนิกายมหาเอกะ ตัวตนที่ได้รับการยอมรับว่ามีอัจฉริยะภาพสูงล้ำที่สุดในประวัติศาสตร์นิกายมหาเอกะ และผู้คนกล่าวขานกันหนาหู ว่านี่คือตัวตนที่มีโอกาสจะบรรลุถึงขอบเขตจักรพรรดิเทพมากที่สุดในนิกาย
พันกว่าปีก่อนตอนที่ซีเหมินหลงเซี่ยงเงียบหายไปไม่ปรากฏตัว หลายๆคนในนิกายมหาเอกะก็คิดว่าอีกฝ่ายออกจากนิกายไปแล้ว แต่ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าที่แท้คนยังอยู่ไม่จากไปไหน!
“ศิษย์พี่ซีเหมินขอรับ…”
ทันใดนั้นเอง ศิษย์นิกายมหาเอกะที่อยู่ไม่ไกล พอเห็นซีเหมินหลงเซี่ยงก้าวเดินไปยังประตูมิติสู่สนามรบศึกจักรพรรดิอย่างไม่รีบไม่ร้อน มันก็รวบรวมความกล้าเอ่ยถามด้วยท่าทีประหม่าว่า “ท่าน…ท่านใช่คิดจะเข้าสู่สนามรบศึกจักรพรรดิหรือไม่?”
“อืม”
ซีเหมินหลงเซี่ยงยังคงก้าวเดินไปอย่างไม่รีบไม่ร้อน เอ่ยตอบเสียงเฉย “ข้าจะเข้าสู่สนามรบราชาเทพ เพื่อฆ่าต้วนหลิงเทียน”
สิ้นคำกล่าว อยู่ๆร่างซีเหมินหลงเซี่ยงก็วูบหายเข้าไปในประตูมิติสู่สนามรบศึกจักรพรรดิ จากนั้นพักหนึ่งผู้คนก็ทยอยกันได้สติคืนกลับ
“ศิษย์พี่ซีเหมินหลงเซี่ยง…เข้าสนามรบศึกจักรพรรดิ เพื่อจะไปฆ่าต้วนหลิงเทียน!?”
“ต้วนหลิงเทียนนั่น ตั้งแต่ตอนยังมีระดับพลังบ่มเพาะราชาเทพขั้นกลาง มันก็เก่งกาจเป็นอันดับต้นๆของขอบเขตราชาเทพในนิกายมังกรสวรรค์แล้ว มาตอนนี้เมื่อมันทะลงถึงราชาเทพขั้นสูง…ศิษย์พี่ซีเหมินหลงเซี่ยงจะฆ่ามันได้จริงๆหรือ?”
“ข้าเชื่อมั่นในตัวศิษย์พี่ซีเหมินหลงเซี่ยง! เจ้าก็น่าจะรู้ว่าเมื่อพันกว่าปีก่อนตอนที่ศิษย์พี่ซีเหมินหลงเซี่ยงอยู่ในขอบเขตราชาเทพขั้นกลาง ท่านก็ได้สยบราชาสเทพทั้งหมดในนิกายเรา จนกลายเป็นอันดับ 1 ใต้ขอบเขตจอมราชันเทพ เช่นนั้นมิใช่เรื่องง่ายหรือที่ศิษย์พี่ซีเหมินหลงเซี่ยงจะฆ่าต้วนหลิงเทียน?”
“เฮ่อ การประมือระหว่าง 2 อัจฉริยะ…หากได้ดูชมให้เห็นกับตา ชีวิตนี้ข้าเกิดมาก็ไม่นับว่าสูญเปล่าแล้ว”
“ช้าอยู่ไยเล่า! รีบตามศิษย์พี่ซีเหมินไปเถอะ! ถ้าพวกเราติดตามศิษย์พี่ซีเหมินหลงเซี่ยงไป…ด้วยมีศิษย์พี่ซีเหมินหลงเซี่ยงอยู่ด้วย เช่นนั้นในสนามรบราชาเทพ ก็ไม่มีแรงกดดันอันใดแล้ว สุดท้ายถึงพวกเราจะเจอราชาเทพที่เก่งกาจของนิกายมังกรสวรรค์ แม้พวกเราจะสู้ไม่ได้ แต่ศิษย์พี่ซีเหมินหลงเซี่ยงจะนิ่งดูดายยืนมองพวกเราถูกฆ่ารึไง?”
“จริงของเจ้า! ไปกันเร็ว รีบตามศิษย์พี่ซีเหมินหลงเซี่ยงไป!!”
…
เหล่าศิษย์นิกายมหาเอกะหน้าประตูมิติบัดนี้แลดูคึกคักอักโขนัก แต่ละคนเร่งโจนทานเข้าสนามรบศึกจักรพรรดิด้วยความตื่นเต้น
ด้านเมืองมหาเอกะในระนาบศึกจักรพรรดิ พอผู้คนเห็นซีเหมินหลงเซี่ยงปรากฏกาย ไม่ว่าใครก็ล้วนตกใจไม่ต่าง
และพอพวกมันได้ยินเหล่าศิษย์ที่เร่งรุดติดตามซีเหมินหลงเซี่ยงเข้ามา บอกกล่าว่าก่อนหน้านี้ซีเหมินหลงเซี่ยงพูดว่าอะไร ทุกคนก็เร่งติดตามซีเหมินหลงเซี่ยงไปยังทางเข้าสนามรบราชาเทพทันที
ในปัจจุบันคนของนิกายมหาเอกะก็ได้รวมกลุ่มกันเรียบร้อย ทว่าพอเห็นการมาของซีเหมินหลงเซี่ยง พวกมันก็เลิกสนใจกลุ่มทันที
หลายกลุ่มถึงกับแตกลงทันที
“จังหวะนี้ข้าไม่ต้องรวมกลุ่มกับผู้ใดแล้ว…ด้วยมีศิษย์พี่ซีเหมินหลงเซี่ยงเข้าไปฆ่าต้วนหลิงเทียนในสนามรบราชาเทพทั้งคน ในนั้นย่อมไม่เหลืออันตรายใดๆสำหรับข้าสืบไป มีก็แต่ความตื่นเต้นที่น่าดูชมเท่านั้น”
ศิษย์ราชาเทพขั้นสูงมากมายที่ละทิ้งกลุ่ม กล่าวออกมาก่อนจะรีบตามซีเหมินหลงเซี่ยงไปติดๆ
นอกจากนันยังมีศิษย์ของนิกายมหาเอกะที่มองเรื่องราวได้ขาด “กล่าวไป พวกเราไม่ต้องแยกย้ายกันไปก็ได้ มิสู้ติดตามศิษย์พี่ซีเหมินหลงเซี่ยงไปทั้งกลุ่มเลยเล่า…พอพบเจอคนมังกรสวรรค์ก็จะได้จัดการกันเอง ไม่ต้องลำบากศิษย์พี่ซีเหมินหลงเซี่ยง”
“จริง กระทั่งข้าเชื่อว่าด้วยจำนวนคนของกลุ่มเรา เรื่องจะฆ่าต้วนหลิงเทียนกันเองก็ไม่น่ามีปัญหาด้วยซ้ำ”
“ฮ่าๆๆ…จริงของเจ้า!”
…
ไม่ทันไรพื้นที่บริเวณหน้าทางเข้าสนามรบราชาเทพของเมืองมหาเอกะ ก็เต็มไปด้วยความคึกคักมีชีวิตชีวา
เหล่าคนของนิกายมหาเอกะมากมาย พากันกรูเข้าสนามรบราชาเทพติดตามซีเหมินหลงเซี่ยงไปอย่างฮึกเหิม
อย่างไรก็ตาม พอพวกมันแห่เข้ามาถึงสนามรบราชาเทพแล้ว ไม่ว่าใครก็ต้องยืนตะลึงอึ้งเหวอ
นั่นเพราะซีเหมินหลงเซี่ยง ได้อันตรธานหายไปต่อหน้าต่อตาของทุกคน
ฉากนี้ไม่เพียงทำให้พวกมันฝันสลาย แต่ยังทำให้หลายๆคนตกใจอีกด้วย “ให้ตายเถอะ! ความเร็วของศิษย์พี่ซีเหมินหลงเซี่ยงนั่นมันอะไรกัน! ข้ามองไม่เห็นแม้แต่เงาร่างด้วยซ้ำ!!”
“ศิษย์พี่ซีเหมินหลงเซี่ยงเป็นราชาเทพขั้นสูงแล้วจริงๆ…ยิ่งไปกว่านั้นข้ารู้สึกว่ากฏแห่งลมของศิษย์พี่ ได้บรรลุความก้าวหน้าครั้งใหญ่ เพราะข้าที่เป็นราชาเทพขั้นสูงเอง ก็มองไม่เห็นเงาร่างเลย!”
“ข้ายังดี…เพราะข้าสามารถเห็นเงาร่างของศิษย์พี่ซีเหมินหลงเซี่ยงได้ แต่ก็พร่าเลือนมากกล่าวไปนั่นสมควรเป็นภาพติดตาเท่านั้น แล้วไม่ทันไรก็หายไปแล้ว ไม่ทราบไปถึงไหนต่อไหนแล้ว”
“ด้วยความแข็งแกร่งของศิษย์พี่ซีเหมินหลงเซี่ยงในปัจจุบัน ให้กวาดตามองตัวตนใต้ขอบเขตจอมราชันเทพทั้งเขตคฤหาสน์ตงหลิง เกรงว่าคงยากที่จะหาผู้ใดเอาชนะศิษย์พี่ได้!”
“ฮ่าๆๆๆ ต้วนหลิงเทียนของนิกายมังกรสวรรค์นั้น คราวนี้มันถึงวาระแล้วจริงๆ!”
“แต่น่าเสียดายนัก ข้าหลงคิดว่าจะได้ติดตามศิษย์พี่ซีเหมินหลงเซี่ยงไปดูชมความบันเทิง ไม่คิดเลยพึ่งเข้ามาไม่ทันไรศิษย์พี่ก็ดับฝันข้าเสียอย่างนั้น ข้ากลับไปเข้ากลุ่มเดิมดีกว่า”
“ข้าก็ด้วย”
…
พอเห็นซีเหมินหลงเซี่ยงทิ้งพวกมันไปดื้อๆ เหล่าศิษย์ของนิกายมหาเอกะหลายคนก็ย้อนกลับไปยังเมืองมหาเอกะทันที
ถึงแม้ความแข็งแกร่งของพวกมันจะไม่ต่ำทราม ทว่าก็ไม่ได้มั่นใจว่าจะไร้ผู้ต้าน ในเมื่อไม่อาจติดตามซีเหมินหลงเซี่ยงและได้รับความคุ้มครอง เช่นนั้นมันก็ตัดสินใจกลับไปหากลุ่มเป็นธรรมดา ที่ตัดสินใจแยกตัวออกมาก่อนหน้าทั้งหมดเพราะคิดว่าจะได้ติดตามซีเหมินหลงเซี่ยงเท่านั้น
โดยเฉพาะราชาเทพขั้นต่ำทั้งหลาย ก็สำเหนียกถึงกำลังรบตัวเองดี พวกมันไม่กล่าวคำใดให้มากความ เร่งกลับไปเมืองมหาเอกะเพื่อหากลุ่มอีกครั้ง
หลายต่อหลายคนที่เข้าสู่สนามรบราชาเทพอย่างห้าวหาญ บัดนี้กลับต้องรีบแจ้นกลับเพราะความกลัว
ในเวลาเดียวกัน
ด้านนิกายมังกรสวรรค์ก็ได้รับทราบข่าวจากสายที่แฝงตัวอยู่ในนิกายมหาเอกะเช่นกัน
“ซีเหมินหลงเซี่ยงได่ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง แถมมันยังเข้าสู่สนามรบราชาเทพ เพื่อฆ่าต้วนหลิงเทียนโดยเฉพาะ!”
พอข่าวดังกล่าวส่งมาถึงระดับสูงๆของนิกายมังกรสวรรค์ แต่ละคนก็เริ่มกังวลถึงความปลอดภัยต้วนหลิงเทียนทันที โดยเฉพาะ หลงฉิงชง ประมุขนิกายมังกรสวรรค์ มันถึงกับขมวดคิ้วย่นยู่เมื่อได้รับทราบเรื่องราว
“ซีเหมินหลงเซี่ยง?”
“เจ้าเด็กนั่นมันยังอยู่ในนิกายมหาเอกะอีกรึ?”
“ข้าหลงคิดว่ามันออกจากนิกายมหาเอกะแล้วไปเข้าร่วมกับขุมกำลังระดับจักรพรรดิเทพชั้นแนวหน้าของเขตคฤหาสน์ตงหลิงเราตั้งแต่พันกว่าปีก่อนแล้วเสียอีก!”
“ไม่คิดเลยว่าที่แท้มันยังอยู่ในนิกายมหาเอกะ”
“คราวนี้…ข้าเกรงว่าเรื่องราวคงกลายเป็นยุ่งยากแล้ว”
หลงฉิงชงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ในแววตาเริ่มฉายชัดถึงความวิตกกังวล
เพราะต้วนหลิงเทียนนั้น ไม่ว่าจะอยู่ในนิกายมังกรสวรรค์ก็ดี หรือออกไปเข้าร่วมกับขุมกำลังระดับจักรพรรดิชั้นแนวหน้าของเขตคฤหาสน์ตงหลิงก็ดี ทั้งหมดล้วนส่งผลดีต่อนิกายมังกรสวรรค์ทั้งนั้น กล่าวได้ว่าต้วนหลิงเทียนมีความสำคัญกับนิกายมังกรสวรรค์มากจริงๆ!
เดิมทีหลังได้ยินว่านิกายมหาเอกะคิดไล่ล่าต้วนหลิงเทียนโดยเฉพาะ หลงฉิงชงก็เป็นกังวลไม่น้อย แต่พอรู้ว่าต้วนหลิงเทียนทะลวงถึงราชาเทพขั้นสูงแล้ว มันก็วางใจได้ทันที เพราะเชื่อว่าต่อให้ต้วนหลิงเทียนไม่อาจรับมือคนหมู่มากได้ไหว แต่ด้วยพลังของกฏมิติ ก็ไม่มีใครจับได้ไล่ทันแน่
เพราะไม่ว่าศิษย์นิกายมหาเอกะจะรวมคนไปมากมายเพียงไหน ด้วยความแข็งแกร่งของต้วนหลิงเทียน ไหนเลยจะตรวจไม่พบกองกำลังที่เข้าใกล้ เช่นนั้นย่อมมีเวลามากพอให้หลบหนีแน่นอน
ทว่าบัดนี้ มันกลับได้รับทราบเรื่องที่ซีเหมินหลงเซี่ยงยังอยู่ในนิกายมหาเอกะ!
ซีเหมินหลงเซี่ยงผู้นั้น ในสายตาของมันก็คือสัตว์ประหลาดน้อยตัวหนึ่ง!
เมื่อหลายพันปีก่อน ตอนที่ซีเหมินหลงเซี่ยงพึ่งมีชื่อเสียง มันก็กังวลว่าอัจฉริยะอย่างซีเหมินหลงเซี่ยงที่พึ่งปรากฏตัวขึ้นมาในนิกายมหาเอกะ อาจเป็นภัยต่อนิกายมังกรสวรรค์ในภายภาคหน้า มันก็เลยส่งคนไปลอบสังหารอีกฝ่ายเพื่อเป็นการตัดไฟตั้งแต่ต้นลม
อย่างไรก็ตาม นิกายมหาเอกะก็เห็นความสำคัญของซีเหมินหลงเซี่ยง จึงปกป้องอีกฝ่ายเอาไว้อย่างดีปานไข่ในหิน ทำให้มือสังหารที่มันส่งไปไม่เพียงแต่จะล้มเหลว ยังแทบเอาตัวไม่รอด
“ซีเหมินหลงเซี่ยงผู้นี้ เมื่อพันกว่าปีก่อนตอนมันอยู่ในขอบเขตราชาเทพขั้นกลาง มันก็ได้รับการยอมรับว่าเป็นอันดับ 1 ใต้จอมราชันเทพของนิกายมหาเอกะแล้ว…วันนี้หลังผ่านไปพันปี มันที่มีอายุได้ 6,000 กว่าปี ข้าเกรง่าต้องทะลวงถึงราชาเทพขั้นสูงแล้วเป็นแน่!”
“ยิ่งไปกว่านั้น มันน่าจะเคยได้ยินเรื่องต้วนหลิงเทียนรวมถึงเรื่องที่ต้วนหลิงเทียนร้ายกาจแค่ไหนมาแล้ว…ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว มันกลับปรากฏตัวออกมาอีกครั้งในรอบพันกว่าปี แถมยังบอกว่าจะเข้าไปฆ่าต้วนหลิงเทียน เห็นชัดว่ามันมั่นใจในพลังของตัวเองมาก”
หลงฉิงชงสูดลมหายใจเข้าลึกๆอีกรอบ จากนั้นก็เร่งออกคำสั่งอีกชุด คำสั่งดังกล่าวยังถูกถ่ายทอดไปยังราชาเทพขั้นสูงที่โดดเด่นทุกคนในนิกายมังกรสวรรค์
“ไม่ว่าจะทำอย่างไร ก็ต้องตามหาตัวต้วนหลิงเทียนให้พบ และพาต้วนหลิงเทียนกลับออกมาจากสนามรบราชาเทพให้จงได้!”
“ไม่อาจปล่อยให้ต้วนหลิงเทียนถูกซีเหมินหลงเซี่ยงฆ่าได้เด็ดขาด!”
ในสายตาของหลงฉิงชงนั้น ถึงแม้วันหน้าต้วนหลิงเทียนจะไม่ได้อยู่ในนิกายมังกรสวรรค์แล้ว แต่เนื่องจากความสัมพันธ์อันดีของต้วนหลิงเทียนที่มีต่อบางคนในนิกายมังกรสวรรค์ วันหน้าหากประสบความสำเร็จเลิศล้ำ ย่อมไม่มีวันลืมนิกายมังกรสวรรค์แน่
สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ
ผู้ที่มันจะแต่งตั้งให้เป็นว่าที่ประมุขนิกายมังกรสวรรค์รุ่นต่อไป ก็คืออาวุโสมังกรขาว ‘เชวียไห่ชวน’ ซึ่งสนิทสนมกับต้วนหลิงเทียน และที่มันให้ภาษีเชวียไห่ชวนดีกว่าต้วนหลิงเทียนเรื่องมอบตำแหน่งว่าที่ประมุขให้นั้น เพราะมันรู้ว่าอีกไม่นานต้วนหลิงเทียนก็ต้องจากไป
แต่ด้วยความสัมพันธ์อันดีระหว่างต้วนหลิงเทียนกับเชวียไห่ชวน วันหน้าเมื่อเชวียไห่ชวนกลายเป็นประมุขนิกายมังกรสวรรค์ล่ะก็ มันเชื่อว่าถึงแม้ต้วนหลิงเทียนจะออกจากนิกายมังกรสวรรค์ไปแล้ว แต่ก็ถูกกำหนดให้ผูกพันกับนิกายมังกรสวรรค์อย่างแยกไม่ออก
หลังได้รับคำสั่งตรงจากประมุขนิกายมังกรสวรรค์ หลายคนของนิกายมังกรสวรรค์ที่ไม่รีบไม่ร้อนเข้าสู่สนามรบราชาเทพ ก็เร่งรุดเข้าสู่สนามรบราชาเทพทันที
ในบรรดาผู้ที่เร่งรุดเข้าไป ส่วนใหญ่ก็เป็นศิษย์มังกรฟ้า
“ซีเหมือนหลงเซี่ยงนั่น มันยังอยู่ในนิกายมหาเอกะอีกรึ?”
“พวกเรามาร่วมมือกันตามหาต้วนหลิงเทียนในสนามรบราชาเทพเถอะ…หาไม่แล้วข้าเกรงว่ากว่าพวกเราจะพบเจอต้วนหลิงเทียน เจ้านั่นอาจโชคร้ายไปเจอซีเหมินหลงเซี่ยงเข้าก่อน”
“จริง หลังผ่านไปพันกว่าปีแบบนี้ พลังฝีมือของซีเหมินหลงเซี่ยงต้องกล้าแข็งกว่าเดิมมากแน่”
…
เหล่าตัวตนขอบเขตราชาเทพของนิกายมังกรสวรรค์ ไม่มีใครเข้าสู่สนามรบราชาเทพเพียงลำพัง ทั้งหมดล้วนตั้งกลุ่มกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่
ด้านต้วนหลิงเทียนที่อยู่ในสนามรบราชาเทพแล้ว ไม่ได้ทราบเรื่องราวใดๆเลย
ในปัจจุบันต้วนหลิงเทียนกำลังเตร็ดเตร่อยู่ในสนามรบราชาเทพ
ในสนามรบราชาเทพก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษนัก เพียงแค่มันกว้างใหญ่นัก ต้วนหลิงเทียนที่เดินทางมุ่งหน้าไปเรื่อยก็ผ่านพื้นที่ป่ารกชัด ป่าภูเขา แนวเทือกเขา ที่ราบลุ่มทุ่งหญ้า ทะเลทราย ทะเลสาบอันกว้างใหญ่ไพศาล…แม้กระทั่งซากปรักหักพังของเมืองโบราณก็มี
แน่นอนว่าซากปรักหักพังดังกล่าวเป็นของปลอมที่สร้างขึ้น
ทว่าพื้นที่ต่างๆนั้นเป็นของจริง
‘ไม่รู้ว่าสนามรบราชาเทพนี่มันกว้างแค่ไหนกันแน่…ข้าร่อนเร่มาหลายวันแล้ว แต่นอกจากกลุ่มราชาเทพของนิกายมังกรสวรรค์ที่เจอใกล้ๆหน้าทางเข้า ข้ายังไม่เคยเห็นใครสักคนเลย’
ต้วนหลิงเทียนที่เหินร่างอยู่เหนือแนวเทือกเขาสูงชัน รำพันในใจด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย กวาดตามองไปทางไหนก็พบแต่ความเปลี่ยวเหงา ไม่มีแม้แต่สิ่งมีชีวิตใดๆ
สุดท้ายที่เขาเข้ามาในสนามรบราชาเทพแห่งนี้ ก็เพื่อฆ่าคนของนิกายมหาเอกะ
แต่จนบัดนี้เขายังไม่เจอคนของนิกายมหาเอกะแม้แต่คนเดียว
‘แต่ก็ไม่แปลก…สุดท้ายคนของนิกายมหาเอกะไม่พ้นต้องเคลื่อนไหวเป็นกลุ่มใหญ่ ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะพบคนของนิกายมหาเอกะที่ตระเวนไปในสนามรบเพียงลำพัง’
‘ให้ตายเถอะ หากว่าข้าไม่ลั่นวาจาเช่นนั้นออกไป ป่านนี้ข้าคงเจอศิษย์นิกายมหาเอกะที่แยกย้ายกระจายตัวกันไปทั่วสนามรบราชาเทพบ้างแล้ว’
…