WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 3869 อาวุโสตี้หมิง

โดยปกติแล้ว เมื่อต้องจัดการเรื่องราวของอาวุโสฝ่ายใน ในฐานะอาวุโสมังกรดา รองจ้าวหอคุมกฏสามารถตัดสินใจได้เอง ไม่ต้องรายงานเบื้องบน
เพียงแค่ผ้ที่ถูกกวงเทียนเจิ้งลอบสังหารคราวนี้กลับเป็นต้วนหลิงเทียน และทุกคนก็รู้กันดีว่าต้วนหลิงเทียนคือราชาเทพอันดับ 1 แห่งนิกายมังกรสวรรค์ ตัวตนที่กระทั่งประมุขนิกายมังกรสวรรค์ยังให้ความสำคัญ
ดังนั้นรองจ้าวหอคุมกฏจึงเลือกที่จะรายงานเรื่องราวให้ประมุขนิกายมังกรสวรรค์รับทราบ ก่อนตัดสินใจทำอะไร
“อะไร!? อาวุโสฝ่ายในกวงเทียนเจิ้ง ลอบสังหารต้วนหลิงเทียน!?”
หลังได้รับทราบเรื่องราว ใบหน้าของหลังฉิงชงก็จมลงทันที่

ปัจจุบัน คนในนิกายมังกรสวรรค์ส่วนใหญ่ยังไม่ทราบกันว่าหลงฉิงชงนั้นมีอบรางวัลให้ต้วนหลิงเทียนี้เป็นพิเศษ หลังจากต้วนหลิงเทียนทาผลงานอันยอดเยี่ยมในสนามรบราชาเทพ
กล่าวได้ว่าหลังทาผลงานเลิศล้าในสนามรบราชาเทพ ต้วนหลิงเทียนก็ได้รับเกียรติอันสูงสุดจากินกายมังกรสวรรค์
ทว่าบัดนี้ กลับมีคนในนิกายมังกรสวรรค์ ลอบสังหารต้วนหลิงเทียน ?
“ท่านประมุข เรื่องนี้ตามกฏของหอคุมกฏเราแล้ว เพียงประหารกวงเทียนเจิ้งก็จบ…”
รองจ้าวหอคุมกฏกล่าวถึงจุดนี้ก็เงียบไปไม่กล่าวต่อหมายรอฟังความเหน็จากหลงฉิงชง
“หึ!”

หลงฉิงชงพ่นลมสบถเสียงเย็น “หลังประหารกวงเทียนเจิ้งแล้ว ให้ประหารศิษย์ในสำนักกวงเทียนเจิ้งทั้งหมดยกเว้น ศิษย์คนรองของมัน จงซ่าน เสีย!”
“นอกจากนั้น ญาติสนิทมิตรสหายของกวงเทียนเจิ้งที่อยู่ในนิกายมังกรสวรรค์เรา เจ้าก็ประหารพวกมันให้หมด!”
พอหลงฉิงชงกล่าวคาออกมาก็ไม่ต่างอะไรจากออกคำสั่งฆ่าล้างโคตรกวงเทียนเจิ้งเลย
เว้นก็แต่ จงซ่าน ศิษย์คนรองของกวงเทียนเจิ้งไว้หนึ่งคน
รองจ้าวหอคุมกฏไม่ต้องถามก็รู้ว่าไฉนถึงเว้นมันไว้คนเดียวเนื่องเพราะจงซ่านผู้นั้นมีพ่อตาอันประเสริฐ ซึ่งเป็นถึงรองประมุขนิกายมังกรสวรรค์ เซวียหมิงจื่อ
“ท่านประมุข แล้วเหตุผลเล่า ?”

หลังได้ยินคำพูดของหลังฉิงชง รองจ้าวหอคุมกฏก็สูดลมหายใจเข้าด้วยความหนาวเห็นบฟอดหนึ่ง ค่อยส่งข้อความไปถามต่อ
“เรื่องนี้เจ้ายังต้องให้ข้าสอนอีกรึ!?”
หลงฉิงชงย้อนถามเสียงหนัก
“ข้าเข้าใจแล้ว”
ได้ยินข้อความด้วยน้ำเสียงดุร้าย รองจ้าวหอคุมกฏก็ร่าร้องในใจว่าแย่แล้ว จากนั้นก็เร่งตอบข้อความกลับไปอย่างรู้งาน
หลังจากนั้นไม่ทันไร รองจ้าวหอคุมกฏก็ปรากฏตัวขึ้นในโถงคุมกฏเพื่อทำหน้าที่พิพากษาด้วยตัวเองมีันเดินไปหยุดเบื้องหน้ากวงเทียนเจิ้ง ก่อนจะมองกวงเทียนเจิ้งด้วยสายตาเฉยเมย

จากนั้นก็กล่าวคาออกมาเสียงดังฟังชัด
“กวงเทียนเจิ้ง หาญกล้าลงมือลอบสังหาร ศิษย์ฝ่ายในต้วนหลิงเทียนกลางนิกาย ทาราวกับไม่เห็นกฏนิกายอยู่ในสายตา…มีโทษประหารชีวิต!”
พอมันปริปากกล่าวคาออกมา แม้กวงเทียนเจิ้งจะเตรียมใจไว้แล้ว แต่ใบหน้าของมันก็เต็มไปด้วยความสิ้นหวังทันที่
จากนั้นรองจ้าวหอคุมกฏ ก็กล่าวคาออกมาสืบต่อ “ศิษย์ในสำนักของกวงเทียนเจิ้ง ยกเว้นศิษย์คนที่ 2 จงซ่าน ทั้งหมดล้วนมีส่วนรู้เห็นในการวางแผนฆ่าต้วนหลิงเทียน เช่นั้นนให้ประหารชีวิตพวกมันทั้งหมด!”
“ผู้คุมกฏหน่วยหนึ่งรับคำสั่ง! ไปจับกุมตัวพวกมันมา!!”
ทันทีที่รองจ้าวหอคุมกฏออกคำสั่ง ก็ปรากกฏเสียงขานรับดังก้องไปทั่วห้องโถงของหอคุมกฏ “หน่วยหนึ่ง รับคำสั่ง!”

หลังจากนั้นกลิ่นอายพลังมหาศาลมากมายก็แผ่ซ่านไปทั่ว ก่อนจะพุ่งออกจากห้องโถงหอคุมกฏด้วยความเร็วสูง
สีหน้ากวงเทียนเจิ้งเปลื่ยนไปใหญ่หลวง “รองจ้าวหอฉิน ศิษย์ของข้าล้วนไม่เกี่ยวข้อง! การลงมือของข้าไม่มีผู้ใดรู้เห็น เป็นข้…”
อย่างไรก็ตาม ไม่ทันที่กวงเทียนเจิ้งจะได้พูดจบคา รองจ้าวหอคุมกฏก็กล่าวขัดคาออกมาด้วยน้ำเสียงไร้ปราณี “ภายในนิกาย ผู้ใดก็ตามที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกวงเทียนเจิ้งทางสายเลือด รวมถึงครอบครัวทั้งญาติสนิทมิตรสหาย ล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการวางแผนลอบสังหารต้วนหลิงเทียนทั้งสิ้น จประหารชีวิตพวกมันให้หมด!”
ได้ยินค่าพิพากษาดังกล่าว สีหน้ากวงเทียนเจิ้งก็ซีดไปไร้สีเลือด “รองจ้…”
อย่างไรก็ตาม คำพูดของกวงเทียนเจิ้งถูกขัดอีกครั้ง “หน่วยสอง รับผิดชอบเรื่องนี้!”

“หน่วยสอง รับคำสั่ง!”
กลิ่นอายพลังปะทุขึ้นในห้องโถงอีกครั้ง ก่อนจะพุ่งหายไปด้วยความเร็วสูง
“ไม่!!!”
กวงเทียนเจิ้งแผดเสียงคารามดังลั่น สองตามนแดงฉาน ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่ย่นย่อม เร่งคุกเข่าลงเบื้องหน้ารองจ้าวหอคุมกฏ ร่าร้องออกมาคอแทบแตก “ท่านรองจ้าวหอคุมกฏ เรื่องฆ่าต้วนหลิงเทียนี้เป็นข้ากระทำแต่เพียงผู้เดียว คนอื่นไม่มีใครรู้เห็น!!”
อย่างไรก็ตาม รองจ้าวหอคุมกฏให้คำตอบกวงเทียนเจิ้ง ด้วยหนึ่งฝ่ามือ!
ปงงงง!!

ฝ่ามือที่ตบฟาดออกไป้ปรากฏรอบประทับฝ่ามือมึหมา ถล่งลงจากเบื้องบนด้วยสภาวะปานขุนเขา บดขยี้ร่างกวงเทียนเจิ้งจนแหลก ตกตายคาที่!
เสียงแผดร้องชวนให้ผู้คนเวทนาทีดังก้องในโถงพลัน เงียบลงในฉับพลัน
ภายในห้องโถงของหอคุมกฏ ไม่เพียงแต่เหล่าผู้อาวุโสที่ทำหน้าที่เท่านั้น กระทั่งอาวุโสมังกรขาว 3 คนที่ควบคุมตัวกวงเทียนเจิ้งกับต้วนหลิงเทียนมาที่นี่ ก็ได้แต่ยืนตะลึงงันกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น
ไม่มีใครคิดใครฝัน ว่าต้วนหลิงเทียนที่ถูกกวงเทียนเจิ้งลอบสังหารนั้น วันนี้ไม่เพียงแต่กวงเทียนเจิ้งจะถูกประหารเพียงคนเดียว แต่ลูกศิษย์รวมถึงครอบครัวไม่เว้นญาติสนิทมิตรสหายของกวงเทียนเจิ้งล้วนต้องโทษประหารชีวิตแทบหมดสิ้น!
เว้นก็แต่ จงซ่าน ศิษย์คนรองของกวงเทียนเจิ้งคนเดียว

“นิกายเรา…เพื่อต้วนหลิงเทียนแล้ว ถึงขั้น…”
ตอนนี้สายตาที่ทุกคนใช้มองต้วนหลิงเทียนได้เปลื่ยนไปทันที่จากเดิมที่เคยเฉยเมย กลายเป็นหวาดกลัว
เรื่องที่บอกว่า ครอบครัวเหล่าศิษย์ ทั้งญาติสนิทมิตรสหายของกวงเทียนเจิ้งมีส่วนร่วมในการวางแผนลอบสังหารต้วนหลิงเทียนวันนี้ พวกมันไม่มีใครเชื่อสักคน
เพราะนั่นไม่สมเหตุสมผลเลย
แต่บัดนี้ รองจ้าวหอคุมกฏได้ลั่นวาจาออกมาแล้ว แม้เรื่องจะไม่ได้เป็นเช่นั้นน แต่มันก็ถือว่าเป็นเช่นั้นน!
และผู้ที่อยู่เบื้องหลังการออกคำสั่งประหารอามหิตครั้งนี้ ต่อให้ไม่ใช้จ่าวหอคุมกฏ ก็ต้องเป็นประมุขนิกายมังกรสวรรค์ของพวกมันแน่นอน “ถึงแม้ต้วนหลิงเทียนจะเป็นเพียงศิษย์ฝ่ายใน แต่สถานะใน

นิกายช่างสูงยิ่งนัก ข้าเกรงว่าแม้แต่ศิษย์มังกรฟ้าก็ไม่มีใคร ได้รับการปฏิบัติเช่นนี้…”
ขณะเดียวกัน ด้านต้วนหลิงเทียนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โดยตรง ก็อดเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัยไม่ได้
เดิมที่เขาคิดว่าหอคุมกฏน่าจะลงโทษประหารชีวิตกวงเทียนเจิ้งแค่คนเดียว
แต่คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าเหล่าศิษย์และครอบครัวรวมถึงญาติสนิทมิตรสหายของกวงเทียนเจิ้ง กลับถูกสั่งประหารกันถ้วนหน้า
เว้นก็แต่ จงซ่าน คนเดียว
สำหรับเหตุผลที่ไฉนจงซ่านรอดพ้นโทษประหารชีวิตไปได้ ต้วนหลิงเทียนก็เดาได้ไม่ยาก ทั้งหมดเป็นเพราะอีกฐานะหนึ่งของมันแน่นอน…ลูกเขยของร้องประมุขเซวีย

‘ไฉนรองจ้าวหอคุมกฏถึงตัดสินใจออกคำสั่งแบบนั้นกัน..’
‘ดูเหมือนข้าเองก็ไม่เคยรู้จักกันกับรองจ้าวหอคุมกฏคนนี้ หรือผู้อื่นมีความสัมพันธ์อันดีกับพี่ไห่ชวนไม่ก็พี่เหยียนเหนียน ? เช่นั้นนก็เลยดูแลข้าเป็นพิเศษ…แต่นั่นมันก็ไม่น่าจะเป็นไปได้กระมัง ?’
ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนกำลังคาดเดาไปเรื่อย รองจ้าวหอคุมกฏ ชายชราผู้มีใบหน้าเรียวในชุดคลุมสีเทา ก็มองมาที่เขาด้วยสายตาอ่อนโยนแลดูใจดี “ต้วนหลิงเทียน เจ้าพอใจกับการจัดการของนิกาย หรือไม่”
ต้วนหลิงเทียนที่กลับมารู้สึกตัวก็เร่งพยักหน้าตอบรับเร็วไว “พอใจ”
“ขอบคุณรองจ้าวหอคุมกฏ ที่เป็นธุระจัดการให้ข้า”
ต้วนหลิงเทียนเร่งขอบคุณซ้ำ ๆ

ต้วนหลิงเทียนเองก็รู้ดีถึงความสำคัญของการตัดรากถอนโคน เพียงแต่เขารู้ดีว่าไม่อาจตัดรากถอนโคนได้ในเร็ววัน ใครจะไปร้อยู่ ๆ หอคุมกฏกลับช่วยเขาจัดการเสียอย่างนั้น…
“ทั้งหมดเป็นคำสั่งของท่านประมุข”
รองจ้าวหอคุมกฏไม่คิดรับความชอบที่ไม่ได้กระทำ เร่งส่งเสียงผ่านพลังบอกกล่าวเรื่องราวทั้งหมดให้ต้วนหลิงเทียนฟังทันที่“ต้วนหลิงเทียนิทานประมุขนิกายให้ความสำคัญกับเจ้ามาก…พอรู้ว่าเจ้าถูกลอบสังหาร ท่านประมุขที่มีโมโหแทบจะมาประหารกวงเทียนเจิ้งด้วยตัวเองแล้ว”
“ประมุข ?”
ต้วนหลิงเทียนตะลึงไปครู่หนึ่งก็นึกขึ้นได้
เมื่อครูเขาไม่ทันคิด…

ตอนนี้พอมาลองคิดดูรองจ้าวหอคุมกฏเบื้องหน้าแม้จะเป็นผู้อาวุโสมังกรดา แต่เรื่องให้ออกคำสั่งประหารผู้คนมากมายออกมาง่าย ๆ มันแทบเป็นไปไม่ได้เลย…นอกจากนั้น อีกฝ่ายอาจไม่มีความีกล้ามากพอจะออกคำสั่งเช่นั้นนด้วย!
เพราะในปัจจุบัน กวงเทียนเจิ้งไม่ได้เป็นแค่อาวุโสฝ่ายในที่อยู่ในสายนิกายหมื่นปีศาจ และมีอาวุโสมังกรขาว 2 คนอยู่เบื้องหลังเท่านั้น
เบื้องหลังกวงเทียนเจิ้ง ยังมีเซวียหมิงจื่อรองประมุขนิกายมังกรสวรรค์อยู่อีกคน
“ท่านรองจ้าวหอคุมกฏ”
ต้วนหลิงเทียนนิ่งไปครูหนึ่ง ก็ส่งเสียงผ่านพลังไปถึงรองจ้าวหอคุมกฏที่ยืนอยู่เบื้องหน้า “ข้าอยากเข้าพบท่านประมุขนิกายเพื่อขอบคุณ…ไม่ทราบว่าท่านประมุขสะดวก หรือไม่ ?”
“ข้าจะช่วยถามท่านประมุขให้เจ้า”

รองจ้าวหอคุมกฏพอได้ยินคำขอของต้วนหลิงเทียนก็ไม่รอช้า มันเร่งติดต่อไปถามประมุขนิกายทันที่
ไม่นานนักมันก็ได้รับคำตอบ หันมามองกล่าวผ่านพลังกับต้วนหลิงเทียนว่า “ต้วนหลิงเทียนข้าถามท่านประมุขให้เจ้าแล้ว…ท่านประมุขบอกว่า เจ้าเข้าสู่ระนาบศึกจักรพรรดิ และไปฆ่าอาวุโสปฐพีของนิกายมหาเอกะในสนามรบจอมราชันเทพได้เมื่อไหร่ ท่านประมุขค่อยพบเจ้า”
“และถึงตอนั้นนิทานประมุขจะให้ของขวัญชิ้นใหญ่แก่เจ้าด้วย”
ได้ยินคำพูดดังกล่าว ต้วนหลิงเทียนก็ยืนตะลึงอยู่พักหนึ่ง จากนั้นก็คลี่ยิ้มขื่นขมพลางกล่าวเสียงอ่อน “ท่านประมุข…กลับประเมินข้าสูงถึงขนาดนั้นเชียว…”
ก่อนหน้านี้ หลังจากเข้าไปในระนาบศึกจักรพรรดิแล้ว ก่อนที่เขาจะเข้าสู่สนามรบราชาเทพ เขาก็ได้รับทราบเรื่องราวของนิกาย

มหาเอกะไม่น้อย รวมถึงการแบ่งระดับของผู้อาวุโสในนิกายมหาเอกะด้วย
ในนิกายมหาเอกะนั้น ผู้อาวุโสยังแบ่งออกเป็นฝ่ายในกับฝ่ายนอกเช่นกัน จุดนี้ไม่มีอะไรต่างจากินกายมังกรสวรรค์
และผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายมหาเอกะ ก็มีสถานะเทียบได้กับผู้อาวุโสมังกรทองของนิกายมังกรสวรรค์
ส่วตำแหน่งระหว่างผู้อาวุโสฝ่ายในกับผู้อาวุโสสูงสุดนั้น ก็ถูกแบ่งออกเป็น 2 ตำแหน่งเหมือนกับนิกายมังกรสวรรค์ และมีชื่อตำแหน่งว่า อาวุโสปฐพี กับอาวุโสนภา
อาวุโสนภาของนิกายมหาเอกะ ก็เทียบได้กับอาวุโสมังกรดาของนิกายมังกรสวรรค์
ส่วนอาวุโสปฐพีของนิกายมหาเอกะนั้น ก็เทียบได้กับอาวุโสมังกรขาวของนิกายมังกรสวรรค์

กล่าวอีกอย่างได้ว่า คำพูดที่ประมุขฝากรองจ้าวหอคุมกฏมาบอกเขาเมื่อครู…หมายความว่าให้เขา ต้วนหลิงเทียน เข้าไปฆ่าอาวุโสปฐพี ที่มีพลังฝีมือทัดเทียมกับอาวุโสมังกรขาวในสนามรบจอมราชันเทพ!
“ท่านรองจ้าวหอคุมกฏ หากข้าจาไม่ผิดตั้งแต่ที่ศึกจักรพรรดิเริ่มต้นขึ้นจนถึงวันนี้ มันสมควรผ่านมา 6-7 ปีได้แล้ว…ไม่ทราบมีอาวุโสปฐพีของนิกายมหาเอกะตกตายกี่คน หรือ ?”
ต้วนหลิงเทียนเอ่ยถามรองจ้าวหอคุมกฏ
“มีแค่คนเดียว”
ฝ่ายหลังก็ได้แต่กล่าวออกมาอย่างทอดถอนใจ “ยังพึ่งตายเมื่อ 4 เดือนก่อน และมันถูกอาวุโสเชวียไห่ชวนฆ่า”
“ตอนนี้ข่าวยังมิได้แพร่ออกไป้”

“ด้านนัิกายมังกรสวรรค์ของพวกเรา ได้เสียอาวุโสมังกรขาวไปแล้ว 2 คน…”
ได้ยินคำพูดของร้องจ้าวหอคุมกฏ สองตาต้วนหลิงเทียนก็ลุกวาวขึ้นมาทันทีหลังได้ยินว่า อาวุโสปฐพีเพียงหนึ่งคนที่ตายตกของนิกายมหาเอกะถูกพี่ไห่ชวนฆ่า อย่างไรก็ตามครูต่อมาเขาก็ได้แต่ถอนหายใจอย่างอดไม่ได้
ดูเหมือนว่าชนชั้นอาวุโสปฐพีของนิกายมหาเอกะ ไม่ใช้ว่าจะฆ่ากันได้ง่าย ๆ
ในสนามรบจอมราชันเทพนั้น เป็นธรรมดาว่าตัวตนระดับจอมราชันเทพขั้นสูงไม่อาจเข้าไปได้
ในกรณีดังกล่าว หมายความว่าอาวุโสปฐพีของนิกายมหาเอกะกับอาวุโสมังกรขาวของนิกายมังกรสวรรค์ ก็คือตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดในสนามรบจอมราชันเทพ!

ตัวตนระดับนี้ ตกตายกันง่าย ๆ ที่ไหน!
และเท่าที่เขารู้มา เหตุผลที่นิกายมังกรสวรรค์สูญเสียอาวุโสมังกรขาวไป 2 คนก่อนหน้านี้ ทั้งหมดเพราะอาวุโสมังกรขาวทั้ง 2 เลินเล่อจนถูกอาวุโสปฐพีหลายคนของนิกายมหาเอกะล้อมฆ่า
“ต้วนหลิงเทียน ในเมือท่านประมุขคาดหวังกับเจ้าเช่นนี้ บอกให้รู้ว่าท่านประมุขประเมินเจ้าไว้สูงมาก”
ถึงแม้รองจ้าวหอคุมกฏจะรู้สึกว่าคำพูดคาดหวังของประมุขนิกายที่มีต่อต้วนหลิงเทียนั้นนมันฟังดูเกินจริงไปบ้าง แต่มันก็รู้ดีว่าตอนนี้มันไม่อาจพูดอะไรเป็นการทำลายความเชื่อมั่นในตัวต้วนหลิงเทียนของประมุขได้
ด้านต้วนหลิงเทียน ถึงกับพูดอะไรไม่ออกอยู่ครูหนึ่ง

ประมุขนิกายมังกรสวรรค์ คิดจริง ๆ หรือว่าเรื่องราวในสนามรบจอมราชันเทพมันจะง่ายดายเหมือนสนามรบราชาเทพ ?
เขา ต้วนหลิงเทียน ที่สามารถอาละวาดได้ในสนามรบราชาเทพก่อนหน้านี้ เพราะเขามีความได้เปรียบเหนือกว่าราชาเทพคนอื่น ๆ มาก ไม่ว่าจะในแง่ความเข้าใจในกฏรวมถึงกลวิธีอื่น ๆ
อย่างไรก็ตาม ในสนามรบจอมราชันเทพ ถึงแม้จอมราชันเทพขั้นต่ำจะไม่นับเพราะไม่อยู่ในสายตาเขา อย่างไรก็ตามในบรรดาจอมราชันเทพขั้นกลาง มีกี่คนที่เป็นเฒ่าชราอายุหลายหมื่นปี ? พวกมันมีเวลาทำความเข้าใจกฏเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ เช่นั้นนความเข้าใจในกฏของพวกมันจะอ่อนด้อยกว่าเขาหรือไม่ ?
พอร่วมกับความต่างระหว่างขั้นพลัง เช่นั้นนต่อให้เป็นจอมราชันเทพขั้นกลาง ก็ไม่ใช้อะไรที่เขาจะฆ่าได้ง่าย ๆ…
เว้นเสียแต่เขาจะเผยไพ่ตาย เช่นั้นนอาจสู้เสมอ หรือแม้แต่เอาชนะและเข่นฆ่าศัตรูได้…

แต่นั่นมันก็เสี่ยงไม่น้อย เพราะไพ่ตายบางอย่างของเขา หากเปิดเผยออกมาแล้ว…ไม่พ้นชักนำหายนะครั้งใหญ่มาสู่ตัวเขาแน่ เว้นเสียแต่จะมั่นใจว่าสามารถลงมือได้โดยไม่ทิ้งร่องรอยใด ๆ