WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 3881 การกลับมาของนายเหนือหัวแห่งพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียน!
- Home
- WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์
- ตอนที่ 3881 การกลับมาของนายเหนือหัวแห่งพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียน!
ระนาบเทวโลกระนาบจี้เมี่ยเทียน
พระราชวังจักรพรรดิสวรรค์
“กลับมาแล้ว”
ชายหนุ่มในชุด คลุมสีน้ำเงินคิ้วคมเข้มปานดาบ สองตากระจ่งใสดั่งดวงดารา ลอยร่างกลางหาว ใบหน้าสงบเฉยเมยมองจ้องไปยังฉากพระราชวังลอยฟ้าไกล ๆ ด้วยสายตาหวนคำนึง มองไปพักหนึ่งร่างยังสะท้านไปเล็กน้อย
“ข้ากลับมาแล้ว”
หลังกวาดตามองไปยังฉากเรื่องราวคุ้นตาพักหนึ่ง ชายหนุ่มในชุดสีน้ำเงินก็กล่าวคาผสานพลังจนสุรเสียงดังก้องไปทั่วพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียน
ทันใดนั้นเอง ทุกทั่วหัวระแหงของพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียน ก็ปรากฏกลิ่นอายพลังอันร้ายกาจเหินทะยานขึ้นฟ้ามาเร็วรี่ จากนั้นทุกคนก็มุ่งหน้าไปยังศูนย์กลางพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์ อันเป็นสถานที่ตั้งโถงบัลลังก์จักรพรรดิสวรรค์ด้วยความปิติยินดี
“ใต้เท้าจักรพรรดิสวรรค์กลับมาแล้ว!!”
“ใต้เท้าจักรพรรดิสวรรค์ กำลังเรียกหาพวกเรา พี่น้องไปกันเร็ว!!”
“ใต้เท้าจักรพรรดิสวรรค์ ข้าน้อยรอการกลับมาของท่านมานานแล้ว!!”
“เฮอะ! หุ่นเชิดสวะของวิหารเฟิงฮ่าว ได้เวลาที่เจ้าจักต้องไสหัวไปให้พ้นหน้าบิดาแล้ว!!”
…
เสียงหัวเราะร่าไปด้วยความยินดีดังขึ้นทุกแห่งหน ไม่นานนักทุกคนในพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์รวมถึงคนนอกที่มาติดต่อทาธุระก็ได้รับทราบเรื่องราว ทำให้พลอยตื่นเต้นคึกคักกันไปหมด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่าเซียนกระบี่ในแดนดินทั้งหลาย แต่ละคนย่ากระบี่ท่องทะยานเร่งรุดมายังด้านนอกกกพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียนด้วยความเร็วสูง
“ใต้เท้าจักรพรรดิสวรรค๎�ี ? ที่อาวุโสทั้งหลายกล่าวถึงก็คือใต้เท้าจักรพรรดิสวรรค์ฟงในกาลก่อนใช้หรือไม่ ?”
“ยังจะมีใครนอกจากใต้เท้าจักรพรรดิสวรรค์ฟงอีกุเลา!”
“ในตอนั้นนใต้เท้าจักรพรรดิสวรรค์ฟงได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยด้วยเหตุผลบางอย่างกระทั่งเหล่ายอดฝีมือระดับแนวหน้าของพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียนเราก็จากไปไม่บอกกล่าว ราวกับอพยพไปไหนสักแห่ง…ภายหลังวิหารเฟิงฮ่าวก็ได้ส่งจักรพรรดิอมตะสมญานามให้มาดำรงตำแหน่งจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียนที่ว่างลง”
“ในตอนนี้พระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียนเรา มิได้ต่างใดจากสวนหลังบ้านของวิหารเฟิงฮ่าวเลย…ยังกล่าวกันว่าจักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เมี่ยเทียนที่พึ่งมาดำรงตำแหน่งคนั้นน ยามพบเจอจ้าววิหารเฟิงฮ่าวสาขาจี้เมี่ยเทียน ยังก้มหวร่าวสุนัขรับใช้ นับว่าสร้างความอัปยศให้พระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียนของพวกเรานัก!”
“มิผิด…พวกตัวบัดซบของวิหารเฟิงฮ่าวทั้งหลายนั่น ตอนใต้เท้าจักรพรรดิสวรรค์ของพวกเราอยู่ พวกมันมีหน้าไหนกล้าอวดดีสักคน หรือไม่!?”
…
ทุกแห่งหนในพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียน เริ่มเติมไปด้วยความคึกคัก
และไม่นานนักข่าวเรื่องราวกลวงรู้ไปถึงหูจักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เมี่ยเทียนคนปัจจุบัน
จักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เมี่ยเทียนคนปัจจุบัน เป็นแค่จักรพรรดิอมตะสมญานามคนหนึ่งของวิหารเฟิงฮ่าวเท่านั้น พลังฝีมือไม่ได้ร้ายกาจอะไรเลย กับจักรพรรดิอมตะสมญานามที่แข็งแกร่งเข้าหน่อยมันก็ไม่ใช้คู่ต่อสู้แล้ว ไม่ต้องพูดถึงตัวตนระดับเทพอย่างฟงชิงหยาง อดีตจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียนคนก่อน
“เจ้ารีบไปรายงานให้ท่านจ้าววิหารรับทราบเร็ว ฟงชิงหยางผู้นั้นกลับมาเช่นนี้ มันไม่เลิกรำง่าย ๆ แน่!”
“ข้าเองก็ต้องรีบหนีด้วย…ข้าจาได้ว่าตอนฟงชิงหยางกลับมาหลังหลงอยู่ในนรกอสุรา 1 ใน 7 สถานที่ต้องห้ามอันตรายของระนาบเทวโลก มันก็ได้ฆ่าจักรพรรดิสวรรค์ที่มายึดครองพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์ดั่งนกกางเขนขิงรังในกระบี่เดียว!”
“หากข้าไม่รีบหนี…รอให้ฟงชิงหยางเห็นข้ามห่วงข้าได้ตายอนาถแน่!”
“พระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียนไม่ปลอดภัยสำหรับข้าแล้ว กลับไประนาบที่ตั้งวิหารเฟิงฮ่าวสาขาหลักีดที่สุด ที่นั่นี้เป็นสถานที่ปลอดภัยแห่งเดียวสำหรับข้า”
จักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียนคนปัจจุบันกล่าวพึมพาไม่หยุด ขณะเดียวกันมันก็เร่งรีบเดินทางไปยังสถานที่ตั้งค่ายกลเคลื่อนย้ายอย่างร้อนใจ จนเมือยืนอยู่ยบนค่ายกลเคลื่อนย้ายแล้ว มันค่อยระบายลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก
ค่ายกลเคลื่อนย้ายดังกล่าว จะส่งตัวมันไปยังวิหารเฟิงฮ่าวสาขาจี้เมี่ยเทียน
และเมื่อมันถูกส่งตัวมาถึงวิหารเฟิงฮ่าวสาขาจี้เมี่ยเทียน มันก็ไม่พูดพร่าทาเพลง เร่งก้าวอาด ๆ ไปยังห้องโถงหลัก และขอให้จ้าววิหาร
เฟิงฮ่าวสาขาจี้เมี่ยเทียน ส่งตัวมันไปยังวิหารเฟิงฮ่าวสาขาหลัก เพื่อไปรายงานตัวกับจ้าววิหารเฟิงฮ่าวสาขาหลักทันที่
“ฟงชิงหยางกลับมาแล้ว…เกรงว่าท่านจ้าววิหาร คงต้องออกโรงอีกครั้ง”
จ้าววิหารเฟิงฮ่าวสาขาจี้เมี่ยเทียนได้รับแจ้งมาแต่แรก จึงไม่ได้ตื่นตกใจกับการกลับมาของฟงชิงหยางอีก มันรีบพาจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียนคปัจจุบันไปยังค่ายกลเคลื่อนย้าย เพื่อส่งตัวไปยังวิหารเฟิงฮ่าวสาขาหลักทันที่
“ฟงชิงหยางกลับมาแล้วรึ?”
ไม่นานนัก หวู่หงชิง จ้าววิหารเฟิงฮ่าวสาขาหลัก็กได้รับทราบเรื่องราว ใบหน้าของมันเผยความเคร่งขรึมจริงจัง “ในเมือมันกล้ากลับมาย่อมหมายความว่ามันมั่นใจที่จะปะทะกับหมี่ซวน…”
“เช่นั้นนอย่างน้อย ๆ มันไม่พ้นต้องทะลวงถึงราชาเทพขั้นกลางแล้วเป็นแน่”
“เกรงว่าในตอนนี้ข้าจักมิใช่คู่ต่อสู้ของมันอีกต่อไป…”
สองตาหวู่หงชิงเผยประกายหวาดหวั่น ในใจรู้สึกเสมือนมีภูเขาใหญ่กดทับ อึดอัดจนหายใจไม่ออก
ย้อนกลับไปในตอนั้นน หมี่ซวน เป็นตัวตนที่ทรงพลังมาก พอฟงชิงหยางเห็นว่าไม่อาจต่อกรด้วยได้ จึงเลือกจะย้อนกลับเข้าไปในนรกอสุราเพื่อซ่อนตัว ทำให้หมี่ซวนจนปัญญาจะตามล่า
ยามนั้น มันก็คิดไว้แล้วว่าสักวันฟงชิงหยางต้องหวนกลับมาทวงแค้นแน่
การส่งคนไปยังพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียนเพื่อดำรงตำแหน่งจักรพรรดิสวรรค์ที่ว่างลง ไม่ใช้ว่ามันคิดจะยึดครอง
พระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียนแต่อย่างใด ทั้งหมดทาเพื่อให้คนของมันไปเฝ้าสังเกตุการณ์ที่นั่น
ด้วยวิธีนี้ พอฟงชิงหยางกลับมา มันก็จะรู้ได้ทันที่
ดุจเดียวกับตอนนี้
“พวกเจ้าย้อนกลับไปเข้าพบฟงชิงหยางเสีย”
หวู่หงชิงมองไปยังคนที่ส่งไปดำรงตำแหน่งจักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เมี่ยเทียนกับจ้าววิหารเฟิงฮ่าวสาขาจี้เมี่ยเทียน พลางกล่าวเสียงหนัก “ในเมือฟงชิงหยางกลับมาแล้ว ก็คืนบัลลังก์จักรพรรดิสวรรค์ให้มันไปเสีย”
“นอกจากนั้นพวกเจ้าก็ไปพูดกับมันดี ๆ ว่าวิหารเฟิงฮ่าวเราไม่คิดตั้งตัวเป็นศัตรูของมันอีก”
พอได้ยินคำพูดดังกล่าวของหวู่หงชิง สีหน้าของคน 2 คนที่เร่งรุดมาเข้าพบก็เปลื่ยนไปทันที่เมื่อได้ยินว่าหวู่หงชิงให้พวกมันย้อนกลับไปเข้าพบฟงชิงหยาง แต่พอได้ยยินประโยคหลังสีหน้าก็พอได้ผ่อนคล้ายลง
หากพวกมันย้อนกลับไปแต่ไม่ได้เลือกหนทางประนีประนอม เช่นั้นน 9 ใน 10 พวกมันทั้งคู่ไม่พ้นถูกฟงชิงหยางฆ่าตายแน่นอน
พอได้ยินคำสั่งให้ประนีประนอมของจ้าววิหารเฟิงฮ่าวสาขาหลัก พวกมันจึงหายใจได้ทั่วท้ห้อง อีกรั้ง
ในสายตาของพวกมัน ในเมือวิหารเฟิงฮ่าวเลือกจะสานไมตรี ฟงชิงหยางย่อมไม่กล้าไม่ไว้หน้าแน่นอน
เพราะในความคิดของพวกมัน วิหารเฟิงฮ่าวก็คือ‘แผ่นฟ้า’ ที่ปกคลุมระนาบเทวโลกทั้งมวล ต่อให้ฟงชิงหยางจะบรรลุถึงขอบเขตเทพแล้ว ก็ไม่อาจเปลื่ยนแปลงความจริงเรื่องนี้ได้
…
พระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียน สูงขึ้นไปบนฟ้า ชายหนุ่มในชุด คลุมสีน้ำเงินได้นั่งขัดสมาธิลงกลางหาว
สองตามนหลับลงไม่ทราบกำลังฝึกฝนบ่มเพาะหรือเพียงแค่พักสายตากันแน่ ทั่วร่างนิ่งสงบไร้กลิ่นอายพลังใด ๆ ต่อให้จ้าววิหารเฟิงฮ่าวสาขาหลักมาเอง ก็เกรงว่าไม่อาจหยั่งถึงพลังฝีมือของมันได้
ฟุ่บ!
ไม่ทราบตั้งแต่เมื่อไหร่ พลันปรากฏร่างหนึ่งขึ้นใกล้ ๆ ชายหนุ่ม
เป็นชายวัยกลางคนรูปร่างสูงใหญ่แลดูกายา และหลังจากชายวัยกลางคนผู้นี้ปรากฏตัว มันก็เร่งประสานมือโค้งหัวคารวะไปยังชายหนุ่มที่นั่งขัดสมาธิหลับตากลางหาวด้วยความเคารพ “เมิ่งหลัว ขอคารวะใต้เท้าจักรพรรดิสวรรค์”
สองตาชายวัยกลางคนฉายชัดถึงความตื่นเต้นระคนปิติยินดี
“เมิ่งหลัว เจ้ามาแล้ว…”
ทันใดนั้น ชายหนุ่มที่หลับตาอยู่ก็ลืมตาขึ้นมามองชายวัยกลางคนเบื้องหน้าด้วยรอยยิ้ม และหลังจากแผ่สำนึกเทะวออกไป้สองตาก็ทอประกายเรื่องขนวูบหนึ่ง “ดูเหมือนหลายปีที่ข้าไม่อยู่ เจ้าก็มิได้เกียจคร้านเลย…”
เมิ่งหลัวคลี่ยิ้มโง่งม แลดูเหมือนเด็กน้อยตื่นเต้น “ความก้าวหน้าเล็กน้อยเพียงเท่านี้ ไหนเลยจักเทียบใต้เท้าจักรพรรดิสวรรค์ได้”
“อย่างไรก็ตาม หากใต้เท้าจักรพรรดิสวรรค์สั่งให้เมิ่งหลัวผู้นี้จัดการจักรพรรดิสวรรค์จอมปลอมที่ประพฤติตัวัด่งนกกางเขนขิงหลัง เมิ่งหลัวมั่นใจว่าพอมีกำลังอยู่บ้าง”
กล่าวจบคา สองตาเมิ่งหลัวก็ฉายชัดถึงเจตนาฆ่าฟันอันเยียบเย็น
“กับหุ่นเชิดที่วิหารเฟิงฮ่าวส่งมายังมีใดให้กังวลอีก”
ชายหนุ่มผู้ซึ่งเป็นอดีตจักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เมี่ยเทียนคลี่ยิ้มบาง ๆ พลางกล่าวคาด้วยน้ำเสียงไร้แยแส
พริบตาต่อมา ไม่รอให้เมิ่งหลัวทันได้พูดอะไรสืบต่อชายหนุ่มก็หันไปมองขอบฟ้าไกลตาทิศทางหนึ่ง
ปรากฏร่างเพลิง กำลังเหินทะยานข้ามฟ้ามาด้วยความเร็วสูง
ร่างเพลิงดังกล่าว มองไปคล้ายวิหกลวงตาตัวเขื่องหนึ่ง ปีกใหญ่โตของมันสยายกว้างปานจะปิดฟ้าบังตะวัน แสงพลังสาดส่องข้ามฟ้าปานสายรู้ง
ซู่มม!!
ครูต่อมา ร่างเพลิงดังกล่าวก็บรรลุถึงเบื้องหน้าชายหนุ่ม เพลิงพลังหวนกลับมาบรรจบ เผยให้เห็น้เป็นร่างชราในชุด คลุมแดงเพลิงผู้หนึ่ง
และทันทีที่ชายชราคนนี้มาถึง มันก็เร่งประสานมือโค้งคารวะชายหนุ่มทันที่“ข้าน้อย ขอคารวะใต้เท้าจ้าววัง”
จ้าววังนั้น เป็นคาที่ชายชรามักใช้เรียกฟงชิงหยาง
เพราะในอดีต ฟงชิงหยางก็คือจักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เมี่ยเทียนี้เป็นดั่งเจ้าเหนือหัวแห่งพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียน
“ผู้เฒ่าหั่ว ไม่พบกันเสียนาน….”
ฟงชิงหยางคลี่ยิ้มพลางพยักหน้าให้ชายชรา จากนั้นสองตาก็ทอประกายเรื่องขนวูบหนึ่งถามว่า “เสี่ยวเทียนเล่า อยู่ที่ใดแล้ว…ข้าส่งข้อความไปหลายครั้ง แต่เสี่ยวเทียนกลับเงียบไม่ตอบกลับมา”
พอผู้เฒ่าหั่วได้ยินคำถามดังกล่าว ก็ได้แต่ยิ้มแหย ๆ กล่าวคาด้วยน้ำเสียงอับจนหนทาง “ขออภัยด้วยใต้เท้าจ้าววัง เรื่องนี้ข้าเองก็ไม่ทราบ ตั้งแต่ที่นายน้อยพาครอบครัวทั้งเหล่าสหายออกจากพระราชววังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียน ดูเหมือนนายน้อยจะพาทุกคนไปหลบซ่อนในระนาบโลกียะ…ส่วนเรื่องไประนาบโลกียะใด นายน้อยมิได้กล่าวบอกไว้”
“อย่างไรก็ตาม ฟังจากที่นายน้อยกล่าว นายน้อยไม่ควรกลับไปยังระนาบเซียนบ้านเกิด”
ผู้เฒ่าหั่วกล่าว
ฟงชิงหยางได้ยินดังนั้น ก็พยักหน้ารับ “เป็นการดีที่เสี่ยวเทียนระวังตัว”
เนื่องจากลูกแก้ววิญญาณของต้วนหลิงเทียนยังอยู่ดี ฟงชิงหยางจึงไม่ได้กังวลมากนัก
ยิ่งไปกว่านั้น มันเชื่อว่าขอเพียงข่าวการหวนกลับมาพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียนของมันแพร่กระจายออกไป้ศิษย์ของมัน ต้วนหลิงเทียน ต้องเร่งรุดมาหาทันทีที่ได้ยินข่าวแน่นอน
“ก่อนเสี่ยวเทียนจะกลับมา ข้ายังมเรื่องต้องทำอีกมาก…บางคน บางขุมกำลัง หากพวกมันยังไม่เปลื่ยน เกรงว่าจักเป็นภัยซ่อนเร้นครั้งใหญ่!”
สองตาฟงชิงหยางฉายชัดถึงประกายเย็นชา
พริบตานั้นเอง ไม่ว่าจะเมิ่งหลัวหรือผู้เฒ่าหั่ว ก็รู้สึกเสมือนร่างกายไม่เป็นตัวของตัวเอังสนไปราวหวาดกลัวอะไรบางอย่างจิตวิญญาณยังสะท้าน ร้องเตือนถึงอันตรายใหญ่หลวง ปานมีตัวตนอันน่ากลัวอยู่ใกล้ ๆ
“ใต้เท้าจักรพรรดิสวรรค์ …”
หลังฟงชิงหยางสงบสติอารมณ์ เมิ่งหลัวที่แทบหายใจไม่ออกเมื่อคู่รักเอ่ยปากกล่าวถามด้วยความตื่นเต้นว่า “ตอนนี้ระดับพลังฝึกปรือของท่านคือ ?”
ผู้เฒ่าหั่วเองก็มองฟงชิงหยางด้วยสายตาเร่าร้อน
ได้ยินคำถามของเมิ่งหลัว ฟงชิงหยางก็เปิดปากกล่าวคาด้วยน้ำเสียงเฉยเมย “ฆ่าจ้าววิหารเฟิงฮ่าวสาขาหลักง่ายดายไม่ต่างฆ่าสุนัข!”
พอเมิ่งหลัวกับผู้เฒ่าหั่วได้ยินประโยคนี้ แต่ละคนก็อดสูดลมหายใจเข้าด้วยความหนาวเห็นบไม่ได้
วิหารเฟิงฮ่าวนั้นมีทั้งสาขาหลักและสาขาย่อย ทว่าจ้าววิหารเฟิงฮ่าวสาขาย่อยนั้นไม่อาจนับเป็นตัวอะไรได้
กลับกันตัวตนที่ทรงที่สุดก็คือจ้าววิหารเฟิงฮ่าวสาขาหลัก! หลายคนกล่าวขานกันว่า มันคือตัวตนที่ทรงพลังที่สุดในเก้าเก้า 81 ระนาบเทวโลก ให้จักรพรรดิสวรรค์ทั้งมวลกลุ่มรุมก็ไม่ใช้คู่มือ!!
“ใต้เท้าจักรพรรดิสวรรค์ คนอื่น ๆ กำลังจะมาถึงกันแล้ว”
หลังจากนั้นครูหนึ่ง เมิ่งหลัวก็เปิดปากกล่าวคาทาลายความเงียบ
ขณะเดียวกันสายตาที่เมิ่งหลัวใช้มองฟงชิงหยาง ก็ทวีความนับถือเลื่อมไส กระทั่งสร้าแรงบันดาลนดาลใจอันแรงกล้าให้มัน
“เอาล่ะ”
ฟงชิงหยางพยักหน้าเบา ๆ “ในเมือทุกคนกำลังมา เช่นั้นนข้าจะรออยู่ที่นี่ จักได้กลับบ้านพร้อมกัน”
กลับบ้าน…
ได้ยินคำพูดของฟงชิงหยาง สองตาเมิ่งหลัวกับผู้เฒ่าหั่วก็เป็นประกายจ้า
หลังจากผ่านไปไม่นานนัก ร่างหลายร่างก็เหินตัดฟ้ามาฉับไว ก่อนจะทยอยกันปรากฏตัวเบื้องหน้าฟงชิงหยาง แต่ละคนประสานมือโค้งคารวะด้วยความเคารพนอบน้อม “คารวะใต้เท้าจักรพรรดิสวรรค์ !”
“ใต้เท้าจักรพรรดิสวรรค์ !”
…
เมื่อเหล่ายอดฝีมือของพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียนมาถึง เมิ่งหลัวกับผู้เฒ่าหั่วก็เป็นผู้นำพาทุกคน ดิ่งร่างลงไปยังพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์เบื้องล่าง
และภายในพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์ จักรพรรดิอมตะหน้าใหม่บางคนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว หมายออกไปตะโกนถามว่าพวกเมิ่งหลัวคิดจะทำอะไร อินจจาเสียงพูดไม่ทันล่วงล้าลาคอก็โดนหมัดของเมิ่งหลัวซัดเข้าหน้าจนคนปลิวหายไปปานดาวตกลัดฟ้า…
“น้อมรับใต้เท้าจักรพรรดิสวรรค์กลับวัง!”
“น้อมรับใต้เท้าจักรพรรดิสวรรค์ !”
“น้อมรับใต้เท้าจักรพรรดิสวรรค์ !”
…
ภายในพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียน ภายใต้การนำของเมิ่งหลัวและคนอื่น ๆ เสียงประกาศการกลับมาของฟงชิงหยางก็ดั่งสนั่นลั่นก้อง แต่ละคนยังเร่งเร้าพลังอย่างฮึกเหิม จนไอพลังพุ่งทะยานสู่ฟ้า สภาวะยิ่งใหญ่สง่างามประหนึ่งรู้งมงคล!