Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน - ตอนที่ 1842
เหล่าถ้ำในทะเลลึกนั้นได้ถูกกลุ่มเซียนชุดเขียวเข้าทำลายและเข่นฆ่าผู้คนข้างในอย่างโหดเหี้ยม ใครที่พยายามหนีจะถูกไล่ล่าจนกว่าเป้าหมายจะสิ้นชีพ!
เนื่องจากทั้งทะเลโอสถได้ถูกผนึกจึงมีเซียนชุดเขียวอยู่มากมายและการหนีรอดไปนับว่าเป็นเรื่องยาก!
การเข่นฆ่าดังสนั่นไปพร้อมกับเสียงคำรามในทะเลโอสถ กลิ่นคาวเลือดค่อยๆ กระจายออกมาดึงความสนใจของอสูรดุร้ายในทะเล
นี่คือการสังหารหมู่ของเซียนที่มีระดับบ่มเพาะไม่เท่ากัน เหล่าเซียนชุดเขียวมีระดับบ่มเพาะสูงกว่าและทำตามคำสั่งอย่างเข้มงวดให้ล้างบางเหล่าเซียนแคว้นกระทิงสวรรค์ที่อยู่ในทะเลโอสถทั้งหมด!
อีกด้านหนึ่งใกล้แคว้นมารเขียว มีธงสามผืนจมเข้าไปในทะเล เหล่าเซียนใต้ผืนธงมีอยู่หลายพันคนและทั้งหมดต่างก็มองไปเบื้องหน้าด้วยสายตาเย็นเยียบ
ใจกลางเหล่าเซียนมีคนสามคนที่ไม่ได้สวมชุดสีเขียวแต่กลับเป็นสีขาว ทั้งสามเป็นสองบุรุษและหนึ่งสตรี พวกเขาดูอ่อนเยาว์และมีอายุราวสามสิบปี
ทางด้านหญิงสาวดูงดงามมาก นางก้มศีรษะลงมามองดูเข็มทิศในมือ
ท่ามกลางทั้งสามคนมีชายหนุ่มใบหน้าละเอียดดุจหินหยกสีขาว เขาขบคิดและเอ่ยขึ้น “พี่ใหญ่เฉียน น้องหญิงจ้าว การสังหารในทะเลโอสถได้ผ่านมาเจ็ดวันแล้ว หากเราไม่เร่งรีบข้ากลัวว่าจะทำตามคำสั่งของบรรพชนไม่เสร็จ”
ชายหนุ่มอีกคนหน้าตาดูธรรมดาแต่เผยสายตาดุร้ายออกมา หลังจากได้ยินที่ชายหนุ่มอีกคนพูดจึงตอบกลับไป “อย่างมากการเข่นฆ่านี้ก็อยู่ได้อีกสี่วัน เซียนแคว้นกระทิงสวรรค์ในทะเลโอสถจะตายทั้งหมด!”
“ทะเลโอสถเป็นประตูให้แคว้นมารเขียวเข้าสู่แคว้นกระทิงสวรรค์ ที่นี่มีเซียนทรงพลังหลายคน ดังนั้นการจะจัดการด้วยความรวดเร็วถือว่าเป็นเรื่องยาก แต่คงเป็นไปตามที่พี่ใหญ่เฉียนพูดเอาไว้ อีกสี่วันก็น่าจะเพียงพอ” นางยิ้มพลางทัดผมไปด้านหลังหู
“พี่ใหญ่ ดูเข็มทิศสิ” ขณะที่นางเอ่ยขึ้น เข็มทิศในมือขวาส่องประกาย แผนที่ทั่วทั้งทะเลโอสถปรากฏขึ้นมา
มีจุดสีเขียวหลายพันจุดตลอดทั่วทั้งแผนที่ และจุดพวกนั้นกำลังเคลื่อนที่อย่างช้าๆ
นอกจากจุดสีเขียวแล้วยังมีจุดสีขาวจำนวนมาก จุดสีขาวเสมือนเปลวเทียนที่สามารถดับได้ทุกเวลา เพียงแค่พูดคุยกันชั่วครู่ จุดสีขาวก็หายไปหลายร้อยจุดและถูกจุดสีเขียวกลืนกิน
แสงสีขาวมีขนาดที่แตกต่างกัน ทั้งยังมีสามจุดที่ส่องสว่างกว่าจุดอื่นๆ
“เซียนที่แข็งแกร่งที่สุดในทะเลโอสถอยู่ในขั้นวิบากดับสูญระดับกลาง เหล่าบรรพชนได้ส่งผู้ส่งสาส์นมารเขียวออกไปต่อกรแล้ว ดังนั้นเราไม่ต้องกังวล!” นางเอ่ยขึ้น
นอกจากแสงที่สว่างที่สุดสามจุด ยังมีแสงที่สว่างน้อยกว่าแต่ก็ยังมากกว่าคนอื่นอีกสิบจุด พวกเขาถูกจุดสีเขียวล้อมรอบและกำลังเกิดการต่อสู้อย่างดุเดือด
“นอกจากเซียนไร้สำนักสามคนนั่น ยังมีอีกเก้าคนที่มีระดับด้อยกว่าราวๆ ด่านวิบากแก่นแท้ที่เจ็ดถึงแปด พวกมันคือเป้าหมายของเราสามคน! ตราบใดที่เราสังหารพวกมันได้ เซียนที่เหลือในทะเลโอสถไม่ถือว่าเป็นปัญหาอีก กระนั้นด้วยของสิ่งนี้ แค่สี่วันก็น่าจะพอให้สังหารได้ทั้งหมด!”
นางยิ้มและยกแขนซ้ายขึ้นมาสะบัด หยดของเหลวสีดำปรากฏขึ้นในฝ่ามือ มันเป็นผลึกใสสีดำและเปล่งแสงประหลาด กลิ่นอายแก่นแท้วารีจำนวนมหาศาลโผล่ออกมาจากหยดนี้
“ด้วยสมบัติจากสำนักมารพิษ หยดน้ำหมื่นหลอม ท่านคิดว่าเหล่าเซียนในทะเลโอสถจะมีที่ยืนได้หรือไม่ พี่ใหญ่?” นางมองไปยังสองหนุ่ม
ชายหนุ่มใบหน้าละเอียดดุจหินหยกพลันยิ้มและเอ่ยขึ้น “เราไม่ควรประมาท ในเมื่อสามสำนักของเรารวมกำลังกันแล้ว เราไม่อาจปล่อยให้แคว้นกระทิงสวรรค์สังเกตความผิดปกติได้ สามบรรพชนได้เริ่มใช้วิชาขัดขวางการทำนายแล้ว เราต้องไล่สังหารเซียนแคว้นกระทิงสวรรค์ในทะเลโอสถและหลอมพวกมันกลับเป็นเม็ดยาสวรรค์ จากนั้นใช้เม็ดยาเพื่อเปิดม่านพลังรอบแคว้นกระทิงสวรรค์!”
ไม่มีใครในสามคนนั้นเห็นว่าบนแผนที่เข็มทิศในมือนาง มีแสงสีขาวธรรมดาอยู่ไม่ไกลจากแคว้นกระทิงสวรรค์
จุดสีขาวนี้คือจุดที่หวังหลินอยู่! จุดสีเขียวมักจะผ่านไปแต่ไม่มีใครสังเกตเห็นเขาเลย
หวังหลินกำลังนั่งอยู่ในส่วนลึกของท้องทะเลด้วยความสงบนิ่งแต่ร่างกายผสานเข้ากับทะเล เขาควบแน่นสายน้ำที่เข้าสู่ร่างกายอย่างช้าๆ เพื่อสร้างแก่นแท้วารีเข้าหล่อเลี้ยง
ทว่าการควบแน่นแก่นแท้วารีจากน้ำทะเลนับว่าเป็นเรื่องยากยิ่ง บางทีหากเขาควบแน่นทั้งทะเลให้กลายเป็นหยดน้ำ เขาอาจจะสามารถสร้างแก่นแท้วารีขึ้นมาได้ แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหวังหลินก็ต้องลองดู
สัมผัสวิญญาณหวังหลินผสานกับทะเล ดังนั้นจึงสังเกตการสังหารที่เกิดขึ้นในทะเลโอสถได้ ทั่วทั้งทะเลโอสถตกอยู่ในต่อสู้ฆ่าฟัน
พริบตาเดียวหนึ่งวันผ่านไป ช่วงระหว่างวันนี้มีเซียนชุดเขียวหลายสิบกลุ่มทะยานอยู่เหนือหวังหลินแต่ไม่มีใครสังเกตเห็นหวังหลินด้านล่างได้เลย
หลังจากผ่านวันนี้ไป ทะเลโอสถได้หดตัวลงร้อยฟุตราวกับน้ำได้หายไปในอากาศว่างเปล่า สิ่งนี้ค่อยๆ ทำให้เหล่าเซียนเกิดความสนใจ แต่เนื่องจากการเข่นฆ่าที่เกิดขึ้นจึงไม่มีใครให้ความสนใจมากนัก
คนทั้งสามใต้ผืนธงของฝั่งแคว้นมารเขียวก็เช่นเดียวกัน
สตรีงดงามมองเข็มทิศในมือและเอ่ยขึ้น “ตะวันออกเฉียงเหนือ ห่างออกไป 390,000 ลี้ ทหารมารเขียวหนึ่งขบวน ไป!” เซียนหลายสิบคนพลันเคลื่อนย้ายเข้าสู่แม่น้ำและหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
พวกเขาไม่สามารถใช้บิดมิติได้แต่แคว้นมารเขียวเตรียมการมาอย่างดี ไม่เพียงแต่ผนึกเขตอาคมในทะเลเมฆาแต่ยังทำให้เหล่าเซียนแคว้นมารเขียวสามารถผสานเข้ากับทะเลเพื่อเคลื่อนร่างได้
“ตะวันออกเฉียงใต้ ห่างออกไปเกือบสองล้านลี้ ทหารมารเขียวห้าขบวน ไป!” หลังจากนางเอ่ยขึ้น เหล่าเซียนนับร้อยก้าวทะยานและหายวับ
คำสั่งส่งต่อจากนางโดยอ้างอิงจากข้อมูลบนแผนที่เข็มทิศในมือ พวกเขาจึงกวาดล้างจุดสีขาวที่กำลังต่อต้านไปได้หลายจุด
“พี่ใหญ่เฉียน พี่ใหญ่จ้าว ตอนนี้ขึ้นอยู่กับพวกท่านแล้ว ในเก้าคนมีตายไปสี่และเหลืออยู่ห้า สองในนั้นกระจายตัวออกไปและไม่มีอะไรให้กังวล แต่มีสามคนกำลังรวมกลุ่มกัน…”
“สามคนนี้อาจเป็นสหายกันและร่วมมือกันเป็นอย่างดี ข้าอยากขอให้พี่ใหญ่ทั้งสองเข้าไปสังหารทั้งสามคนนั่น!” บนเข็มทิศในมือมีจุดสีขาวสามจุดที่ใหญ่กว่าจุดอื่นๆ กำลังเคลื่อนไหวเข้าหาแคว้นกระทิงสวรรค์ จุดสีเขียวที่เข้าไปใกล้จะมอดดับไปทีละดวง แสดงถึงการเสียชีวิตของเซียนแคว้นมารเขียว
ชายหนุ่มใบหน้าละเอียดดุจหินหยกพลันยิ้มและยกแขนขวาขึ้นมาปรากฏพัดในมือ เขาตบไปบนมือซ้ายพลางมองชายหนุ่มแซ่เฉียนตรงหน้า
“พี่ใหญ่เฉียน น้องชายอยากตามไปดูวิชาเต๋าสุดยอดมารแห่งสำนักเต๋ามาร”
เซียนแซ่เฉียเผยท่าทีอันตราย เขาก้าวเข้าสู่ค่ายกลและหายไปอย่างไร้ร่องรอย ชายหนุ่มอีกคนส่ายศีรษะและติดตามไป
หลังจากทั้งสองจากไป สตรีผู้มีเหล่าเซียนนับพันรายล้อมกลับขมวดคิ้วและมองเข็มทิศในมือ นางกำลังงุนงงกับเรื่องบางอย่าง
‘ประหลาดนัก ทำไมน้ำในทะเลโอสถถึงได้ลดลงมากขนาดนี้ในวันเดียว…’ นางกวาดสายตาไปทั้งจุดสีขาวทั้งหมดรวมถึงจุดที่เป็นตัวแทนของหวังหลิน
ทว่าจุดสีขาวที่เป็นตัวแทนของหวังหลินกลับธรรมดาเกินไปและไม่ได้ทำให้นางสนใจ นางขบคิดก่อนจะเก็บเรื่องนี้ไว้ในใจ พยายามส่งทหารออกไปร่วมมือกวาดล้างเซียนไร้สำนักที่เหลือของแคว้นกระทิงสวรรค์
การฆ่าสังหารมีไม่จบไม่สิ้นและหวังหลินก็ไม่สนใจเรื่องทั้งหมดนี้ เขาใช้สมาธิดูดซับน้ำทะเลอย่างต่อเนื่องดุจหลุมดำที่ควบแน่นให้กลายเป็นแก่นแท้วารี
อย่างไรก็ตามการควบแน่นแก่นแท้วารีนับว่ายากเกินไป แม้น้ำทะเลจะหายไปร้อยฟุตก็ไม่มากพอ
‘เช่นนั้นก็ดูดซับเพิ่มอีก!’ หวังหลินลืมตาและเฝ้าดูเซียนชุดเขียวกลุ่มหนึ่งทะยานผ่านไป เขาขมวดคิ้ว
ต่อมาหวังหลินถอนสายตาและหลับตาดูดซับน้ำมากขึ้นไปอีก ผ่านไปหนึ่งวันระดับน้ำทะเลลดลงไปจนกระทั่งมากเกินกว่าแปดร้อยฟุต! บนพื้นดินตอนนี้บางส่วนได้เห็นแนวปะการังไปแล้ว
แม้แต่เซียนจำนวนมากที่กำลังเข่นฆ่าก็ไม่อาจเมินเฉยเรื่องนี้ได้แล้ว แต่พวกเขาก็คิดไม่ออกว่าเกิดอะไรขึ้น!
“น้ำทะเลหายไปไหนหมด?”
“หรือว่ามีคนกำลังใช้วิชาทรงพลัง?” เซียนชุดเขียวในทะเลโอสถไม่สามารถสงบจิตใจได้อีก
ตอนนี้ตรงก้นทะเลซึ่งห่างจากหวังหลินอยู่ไกลๆ มีคนสามคนกำลังวิ่งหนี สองในสามบาดเจ็บสาหัสแต่คนสุดท้ายไม่ยอมทิ้งเพื่อหนีไปคนเดียว
“พยัคฆ์ขาว หนีไป…วิหคศักดิ์สิทธิ์และข้าบาดเจ็บสาหัส การมากับเราก็เหมือนลากเจ้าลงนรกไปด้วย”
“ข้าไม่คิดว่าจะมาเจอความตายที่นี่หลังจากเราออกมาจากสำนักเจ็ดเต๋าและบ่มเพาะอย่างสงบมาตลอด…โถ่ พยัคฆ์ขาว หนีไปสิ!”